คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : [ตอนที่13] :: ความเสียใจครั้งร้ายแรง การตัดสินใจที่เด็ดขาดของนามิ
ตอนที่13
ความเสียใจครั้งร้ายแรง การตัดสินใจที่เด็ดขาดของนามิ
“ฉันจะแย่งเธอมาเอง เธอชื่ออะไรเนี่ย ต้นหนเรือคนต่อไปของฉัน ^^” ราชันย์
ฟิ้วววว!
หมัดแรกของลูฟี่พุ่งตรงไปที่หน้าของราชันย์อย่างรวดเร็ว ราชันย์เอียงคอหลบหมัดของลูฟี่แบบง่ายๆ สบายๆ
“โห จะใช้กำลังเลยหรอเนี่ย~” ราชันย์
“นายอย่ามาพูดแบบนั้นเชียวนะ นามิน่ะ! เป็นต้นหนเรือของพวกเรา!” ลูฟี่
“ใช่... คุณนามิน่ะเป็นต้นหนเรือของเรา ถ้านายอยากแย่งไป ก็คงต้องเจอกันซักตั้ง” ซันจิเดินเข้ามาบังฉันเอาไว้
ราชันย์มองลูฟี่กับซันจิที่ร้อนเป็นไฟด้วยสีหน้านิ่งเฉย ก่อนที่จู่ๆ ชายคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของราชันย์ก็หัวเราะออกมา แล้วก็ตามด้วยทุดคนที่หัวเราะออกมาเหมือนกัน ราชันย์จึงเริ่มหัวเราะบ้าง
“หัวเราะอะไรของพวกนาย!” ซันจิโวยวายทันที
“ฮ่าๆๆๆๆ... พวกนี้คิดว่าเราจะทำจริงๆ แหละ” คนปฐมพยาบาลพ่อของรีเทลพูดแล้วหัวเราะ
“เห?” ลูฟี่/ซันจิ
“ฉันพูดเล่นน่า พูดเล่น~ แย่งบ้าอะไร ไม่ทำหรอกน่า ฮ่าๆๆ” ราชันย์
“เราจะเชื่อได้ยังไง!” ซันจิ
“ฉันไม่อยากได้ลูกเรือที่ไม่ต้องการอยู่กับฉันหรอกนะ เรื่องแย่งน่ะ ไม่เคยทำหรอก ถึงจะเก่งแค่ไหนก็เถอะ” ราชันย์พูดพร้อมอมยิ้ม
“=___=” ลูฟี่/ซันจิ
“ทำไมทำหน้าเหมือนไม่เชื่ออย่างนั้นล่ะ =O=...” ราชันย์
“ก็เพราะว่าเราไม่เชื่อน่ะสิ -O-” ลูฟี่กับซันจิประสานเสียง ราชันย์เหวอไปในทันที เขาทำท่าเหมือนจะเป็นลมก่อนที่ลูกเรือคนหนึ่งของเขาจะรับตัวเขาไว้ทัน
“กัปตัน ทำใจดีๆ ไว้~” ชายคนนั้น
“ทำไม... พวกนั้นถึงไม่เชื่อเรา ทั้งๆ ที่เราออกจะใสซื่อขนาดนี้~” ราชันย์
“กัปตันน T__T!” ลูกเรือทุกคนของราชันย์ประสานเสียงเรียก
“ปัญญาอ่อน” โซโลพูดเสียงเรียบ
“ไม่เต็มบาทจริงๆ ด้วย -__-” ซันจิ
“กลับบ้านเถอะ ไร้สาระ เสียเวลา -O-” แฟรงกี้
พวกเราหันหลังเตรียมเดินกลับ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงของราชันย์ดึงตัวเอาไว้
“เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิพวกนายน่ะ ไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดจริงๆ หรอ T_T” ราชันย์
“=___=” พวกเราหันหน้าไปมองราชันย์ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย แล้วเราก็หันหน้ากลับเดินต่อไป
“ไร้สาระที่สุด” แฟรงกี้โบกมือไปมา
“เฮ้ เดี๋ยวเซ้ ฉันลับพาตัวลุงนั่นมานะ ลุงจะไปไหนน่ะ -O-” ราชันย์ร้องเรียกหาพ่อของรีเทล
“อ๋อ เออ จริงด้วยสิเนอะ” พ่อของรีเทลพูดพร้อมเดินกลับไปหาพวกราชันย์อีกครั้ง
ง่ายๆ งี้เลยเรอะ =[]=!!
“พ่อคะ พ่อเล่นอะไรของพ่อ!” รีเทลพูดพร้อมดึงแขนของพ่อเอาไว้
“ก็พ่อถูกจับตัวอยู่นี่” พ่อของรีเทล
“แต่พ่อไม่เห็นจำเป็นต้องเดินกลับไปหาพวกมันเลยนี่ กลับบ้านเรากันเถอะพ่อ!” รีเทล
“แต่...” พ่อของรีเทล
“อา... ใช่! เจ้าหมวกฟาง วันนี้ฉันจะจัดปาร์ตี้แหละ นายจะมาร่วมด้วยมั้ย” ราชันย์ที่จู่ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องซะเฉยๆ หันไปถามลูฟี่ ลูฟี่ชะงักไปเล็กน้อย
“นายจะบ้าหรือไง!!” ซันจิหันไปโวยวายแทน
“ทะ... ทำไมล่ะ?” ราชันย์
“เราน่ะเป็นศัตรูกันนะ จะมาชวนไปงานเลี้ยงซะเฉยๆ แบบนี้ได้ไง นายจะบ้าเหรอ!!” ซันจิ
จ๊อกกก~
“...”
ทุกคนหันหน้าไปมองตามต้นเสียง และมันก็คือ... เสียงท้องของลูฟี่ =___=
“แต่ฉันก็หิวน้า...” ลูฟี่พูดพรางลูบท้อง
“แล้วยังไงล่ะ!” ซันจิหันไปโวยใส่ลูฟี่บ้าง
“แต่ฉันหิวแล้วววว” ลูฟี่
“ถ้าพวกนายไม่ไว้ใจเราก็ไม่เป็นไรนะ แค่ชวนตามมารยาท =O=” ราชันย์
“ทำไมพวกนายต้องชวนพวกเราด้วย” ซันจิ
“ก็แค่อยากจะขอโทษที่เล่นมุขไปเมื่อกี้ ไม่คิดว่านายจะเชื่อกันจริงๆ นี่หน่า... อีกอย่าง ฉันมีต้นหนเรืออยู่แล้วนะ” ราชันย์
“ไปกินกับพวกเค้าเห๊อะ~ พวกเค้าก็แค่เล่นๆ เอง =O=” ลูฟี่เริ่มเรียกร้อง
“อะไรของนายเนี่ยลูฟี่! ถึงพวกนั่นจะหน้าตาใสซื่อ แต่นายห้ามไปหลงเชื่อมันนะ!” ช๊อปเปอร์พูดพรางชี้ไปที่หน้าของราชันย์... ไม่ค่อยจะเปิดเผยเท่าไหร่เลยเนอะ ช๊อปเปอร์...
“ก็ไม่แปลกที่พวกนายจะไม่เชื่อใจเรา... แต่ไม่เป็นไร~ ถ้าอยากมาร่วมงานก็มาได้เสมอนะ พวกเรายินดีต้อนระ...” ราชันย์
“คงไม่มีวันนั้นหรอก -___-” ซันจิ
แล้วพวกเราก็เดินกลับกันไปเฉยๆ โดยมีพ่อของรีเทลติดไปด้วยอีกคนหนึ่ง คนพวกนี้แปลกๆ นะ ดูไม่เอาอ่าวอะไรกันซักอย่าง เหมือนอยู่ไปวันๆ เลย... จะว่าไปมันก็ไม่ต่างอะไรจากพวกเราเท่าไหร่นี่หน่า -___-;;
“พ่อคะ... แขนที่เป็นแผล...” รีเทล
“อา... ไม่เป็นไรหรอก” พ่อของรีเทล
ตอนนี้พวกเราอยู่กันที่บ้านของพ่อของรีเทล หรือลุงซามะ ที่พึ่งจะแนะนำตัวกันไปไม่นานมานี้ แขนของลุงซามะที่เป็นแผลเลือดไหลนั้น... เกิดจากลูกเรือของราชันย์ที่มาลับพาตัวลุงซามะไป เพราะลุงซามะไม่ยอมไปด้วย พวกนั้นเลยใช้กำลัง
“ทำแผลก่อนดีกว่านะครับ” ช๊อปเปอร์เดินเข้าไปหาลุงซามะ ลุงซามะพยักหน้ารับ แล้วดึงผ้าพันแผลที่ลูกเรือของราชันย์ ช๊อปเปอร์เริ่มปฐมพยาบาลทันที
“ทำไมบ้านของคุณพ่อถึงมีแต่ฝุ่นแบบนี้ล่ะคะ พ่อนี่ไม่รักษาดูแลบ้านตัวเองเลยนะ” รีเทลออกเสียงบ่น ก่อนจะไปหยิบไม้กวาดที่ทำจากโคลเวอร์ขนาดใหญ่เอามามัดติดๆๆๆ กันไว้
“พ่อป่าวซะหน่อยนะ ก็พวกที่มาลับพาตัวพ่อน่ะ เขาใช้พลังของผลปีศาจนี่หน่า...” ลุงซามะพูดยิ้มๆ
“ผลปีศาจอีกแล้ว” รีเทล
“อะไรกัน? ใครเป็นคนใช้ผลปีศาจงั้นหรอคะ” ฉันถามขึ้น ลุงซามะหันหน้ามามองฉันแล้วส่งยิ้มให้
“ก็ เขาเป็นมือขวาของรองกัปตันน่ะนะ เหมือนเขาจะกินผลปีศาจที่สามารถสร้างฝุ่นได้น่ะสิ” ลุงซามะ
“อ๋อ...” ฉัน
สร้างฝุ่นอย่างนั้นหรอ... สกปรกดีแฮะ =___=;;
“หิวข้าววววววว!!” เสียงของลูฟี่ดังโวยวายมาจากนอกบ้าน ฉันเดินออกไปนอกบ้านเพื่อมองตามต้นเสียง ลูฟี่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนใบโคลเวอร์ยักษ์ที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ ซันจิเดินตามฉันมาเพราะเสียงของลูฟี่ สายตาของซันจิมองหาลูฟี่แล้วตะโกนตอบว่า
“เออ เดี๋ยวทำอาหารให้กินนะ” ซันจิ
“เอาเนื้อนะ!!~” ลูฟี่
“คงต้องไปเอาอาหารที่เรือน่ะ ไปช่วยแบกหน่อยสิ” ซันจิ
“อา ได้ๆๆ” ลูฟี่เด้งตัวลุกขึ้นแล้วกระโดดลงดอกโคลเวอร์ยักษ์ไป ซันจิเองก็เช่นกัน
“เดี๋ยวฉันไปช่วยด้วย” แฟรงกี้
“ผมด้วยสิคร้าบ~” บรู๊คคุง
แล้วทั้งคู่ก็กระโดดลงไปจากโคลเวอร์ยักษ์ ฉันมองไปรอบๆ เกาะที่สวยงาม ก่อนจะออกมาเดินเล่น ดูรอบๆ เกาะหน่อยดีกว่า มันน่าจะสวยอยู่นะ
เมื่อฉันเดินไปได้ไม่ไกล ข้างๆ เท้า ก็มีดอกโคลเวอร์สี่แฉกอยู่ ฉันหยุดชะงัก แล้วเด็ดมันออกมา
เนี่ยน่ะหรอ... ดอกไม้ที่เขาบอกว่ามันคือสิ่งนำโชค...
“นามิ”
โรบินเดินมาพร้อมเรียกชื่อฉัน ฉันหันหน้าไปมองโรบินแล้วยิ้มให้ ก่อนจะยื่นโคลเวอร์สี่แฉกไปตรงหน้าของเธอ
“โคลเวอร์สี่แฉก” โรบิน
“อื้ม เขาแทนความโชคดีใช่มั้ย” ฉัน
โรบินฉีกยิ้มแล้วพยักหน้า ฉันยิ้มกลับให้เธอก่อนจะเอาโคลเวอร์สี่แฉกเหน็บไว้ที่หู โรบินสะกิดที่ไหล่ของฉันอีกครั้ง ฉันหันหน้าไปมองเธออย่างสงสัย
“ไปดื่มชากันมั้ย?” โรบิน
“ชาหรอ... อื้ม ก็ได้...” ฉัน
ไม่ต้องไปเดินเล่นแล้วล่ะ ไปนั่งดื่มชาดีกว่า ฉันเดินตามโรบินเข้าไปในบ้าน โต๊ะที่ตอนแรกเต็มไปด้วยฝุ่นถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว สงสัยรีเทลทำความสะอาดมั้ง...
“นี่ชาค่ะ” รีเทลเดินมาพร้อมน้ำชา เธอวางมันลงที่โต๊ะเบาๆ แล้วรินให้พวกเรา
เธอคงไม่ได้ใส่ยาพิษให้ฉันกินหรอกนะ -___-+
ตึกๆๆๆๆๆ!
เสียงฝีเท้าดังขึ้น ฉันที่กำลังจะจิมน้ำชา ต้องชะงัก ก่อนจะเดินออกไปที่นอกบ้านพร้อมทุกคน
“อะไรน่ะ” โรบิน
ฉันหรี่ตามองฝุ่นของดินที่ตลบอบอวนไปทั่ว เอ๊ะ นั่นมัน =___=
“ซันจิคุง...?” รีเทล
“คุณนามิ โรบินจัง รีเทลจัง!!!~”
“อื้ม... ซันจิ” ฉัน/โรบิน
ซันจิวิ่งมาอย่างเร็ว ก่อนจะกระโดดเกาะที่ก้านของโคลเวอร์ แล้วไต่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว... เหวอ =[]=!!
“มีอะไรงั้นหรอซันจิคุง ดูรีบร้อนเชียว...” ฉัน
“สะ... เสบียง... เสบียงของเรา...” ซันจิคุงพูดไปด้วยหอบไปด้วย
“เสบียงของเรามันทำไมหรอ?” ฉัน
“มันหายไปครับ หายไปหมดเลย!!” ซันจิ
“หา =[]=!” ฉัน
“จริงๆ ครับ หายไปหมดเลย ได้ยังไงเนี่ย!” ซันจิ
“แล้วลูฟี่ล่ะ” ฉัน
“ลูฟี่กับพวกแฟรงกี้... พวกนั้นอารมณ์เสียมากที่เสบียงหายไป พวกนั้นเลยวิ่งออกตามหาพวกที่ขโมยไปอยู่น่ะครับ” ซันจิ
“หา! หมอนั่นเอาอีกแล้ว =[]=!” ฉัน
“ผมว่าอาจจะเป็สัตว์ขโมยไปกิน...” ซันจิ
“ไม่จริงหรอก ที่เกาะนี้ไม่มีสัตว์เลย...” ลุงซามะเดินออกมา
“หา! งั้นก็ต้อง...” ซันจิ
“มีคนขโมยไปจริงๆ นั่นแหละ” ลุงซามะ
“บนเกาะนี้ก็มีแค่พวกเรากับ...” โรบิน
“... ไอ้เจ้าราชันย์นั่น!!!” ซันจิทำหน้าคุมคิดนิดนึง ก่อนจะตะโกนเรียกชื่อราชันย์ออกมาอย่างดัง นั่นสินะ... อาจจะเป็นพวกราชันย์
“หมอนั่นแน่ๆ” ช๊อปเปอร์เดินออกมานอกบ้านบ้าง
“แต่เรายังยืนยันไม่ได้ ถ้าจะไปใส่ความสุ่มสี่สุ่มห้ามันจะไม่ดีนะ” ฉัน
“นั่นสิครับ... เราคงต้องไปหาเจ้าพวกราชันย์นั่นซะแล้ว” ซันจิ
“อื้ม...” ฉัน
“งั้นไปกันเถอะครับ!” ซันจิพูดพร้อมหันหน้าเดินไป
“อุซป โซโล ไปด้วยกันหน่อยสิ” ฉันตะโกนเรียกสองคนนั้นที่อยู่ในบ้าน ไม่นานสองคนนั้นก็เดินออกมา แล้วพวกเราก็เดินตามซันจิคุงไป
“พวกแก!!” ซันจิโวยวายทันทีที่เห็นหน้าราชันย์
ราชันย์กำลังนั่งกินแอปเปิ้ลอยู่ โดยรอบๆ มีลูกเรือของเขากำลังวุ่นกับการทำอาหาร ราชันย์หันหน้ามามองซันจิอย่างตกใจน้อยๆ
“อ้าว... พวกนายเปลี่ยนใจจะมาร่วมงานเลี้ยงกับเราแล้วอย่างงั้นหรอ?” ราชันย์
“ใครว่าเราจะมางานเลี้ยงแกกัน! แกน่ะ ขโมยเสบียงของเรือเราไปใช่มั้ย =[]=!!” ซันจิ
“หา...?” ราชันย์
“อย่ามาทำหน้าโง่นะแก =[]=^^^!!” ซันจิ
“เฮ้ ใจเย็นๆ ซันจิคุง” ฉัน
“อา... ครับ ถ้าเป็นคุณนามิบอก” ซันจิหันหน้ามาทำตาหวานใส่ฉันทันที
“ฉันไม่ได้เอาเสบียงของพวกนายไปนะ =O=” ราชันย์
“จะแน่ใจได้ยังไง!” ซันจิ
“ก็มันเป็นเสบียงของเรือฉันนี่ >[]<!!” ราชันย์
“อย่ามาโม้เชียวแก ไม่งั้นเสบียงของเรือเราจะหมดได้ยังไง =___=+” ซันจิ
“ไม่รู้ ก็ฉันไม่ได้เอาไปจริงๆ นี่!” ราชันย์
“เขาอาจจะไม่ได้เอาไปจริงๆ ก็ได้น้า ซันจิ...” ช๊อปเปอร์พูดพร้อมดึงชายเสือของซันจิเบาๆ
“ใช่ๆ ฉันไม่ได้เอาไป” ราชันย์
“แกน่ะ หุบปากไปเลย =___=!!” ซันจิ
“ถ้าเขาบอกว่าไม่ได้เอาไป เราจะไปใส่ความเขาไม่ได้นะ” ฉัน
“พูดได้ดีมากนามิ >__<!” ราชันย์
“...นายรู้ได้ยังไงว่าคุณนามิชื่อคุณนามิ =___=!!” ซันจิหันไปโวยวายต่อทันที
ประโยคที่ซันจิพูดมันยังไงๆ อยู่นะ =__=;;
“ก็นายตะโกนซะดังเชียว เมื่อกี้น่ะ” ราชันย์พูดพร้อมชี้นิ้วมาทางซันจิ ซันจิคุงเหวอไปเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ามามองฉันอีกครั้ง
“ทำยังไงดีครับ ไม่มีเสบียงเหลือเลย แล้วเกาะนี้ก็ไม่มีสัตว์อะไรอยู่เลยด้วย...” ซันจิ
“นั่นสิ พวกพืชก็มีแต่โคลเวอร์” โรบิน
“มากินกับพวกเรากะ...” ราชันย์ฉีกยิ้มกว้าง
“ไม่มีทาง =[]=!!!” ซันจิหันไปแว๊ดใส่ราชันย์แล้วหันหน้ากลับมามองฉันอีก
“แต่เราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากกินกับพวกเขาล่ะนะ” ฉัน
“แต่...” ซันจิ
“มันก็จริงนะ เขาอุส่าต์ชวนเรา” โซโล
“ฉันไม่ได้ต้องการความเห็นของนาย =___=+” ซันจิ
“แล้วนายจะเอายังไงไม่ทราบ -___-” โซโล
“เรากินกับเขาก็ได้นี่หน่า...” ฉัน
“กินกับพวกนั้น... เนี่ยนะครับ...?” ซันจิพูดพร้อมหันหน้าไปมองทางราชันย์
“อื้ม” ฉันพูดพร้อมอมยิ้ม
ฟิ้ววววว~
เสียงของอะไรบ้างอย่างดังขึ้นจากข้างบน พวกเราเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะเห็นเป็น... เป็น... =___=
“หลบปายยยยยยยยยย!!”
ลูฟี่ที่หอบแฟรงกี้และบรู๊คเอาไว้กำลังจะตกลงมาใส่หัวเรา... อ๊ากกกกก =[]=!!!
ฟิ้วววว~
โครมมม!!
พวกเรากระโดดหลบออกจากรัศมีกระแทกหัวอย่างเฉียดฉิว ลูฟี่หล่นลงกระแทกเข้ากับพื้นดินเต็มๆ
“โอย เจ็บคร้าบ...” บรู๊คคุง
“ลงได้สวยนะ ^O^!!” ลูฟี่
ผัวะ!!
“สวยตรงไหนกันฟะ =[]=!!” แฟรงกี้พูดพร้อมตบหัวลูฟี่
“เป็นไง เจอเสบียงมั้ย” ซันจิ
“อืม... ไม่เลย” แฟรงกี้
“ไม่มีเลยซักติ๊ดครับ” บรู๊คคุง
จ๊อกกก~
“หิวววว T___T!!” ลูฟี่
“กินที่นี่ได้นะ ^^~” ราชันย์พูดพร้อมโชว์เนื้อขึ้นเหนือหัว ลูฟี่มองตาเป็นประกาย
“ให้กินจริงอะ *O*~” ลูฟี่
“จริงสิ นี่มันงานเลี้ยงนะ กินได้เลย ^^” ราชันย์
“งั้นไม่เกรงใจล่ะคร้าบ!!~” ลูฟี่พูดพร้อมกระโดดเข้าไปงับทั้งเนื้อทั้งมือของราชันย์
“อ๊ากกก!!” ราชันย์ร้องอย่างตกใจ ก่อนจะสะบัดลูฟี่กระเด็น
“เจ็บๆๆๆ T[]T!!” ราชันย์
“โทษที ไม่ได้ตั้งใจนะ” ลูฟี่พูดพร้อมดึงกระดูกของเนื้อออกมาจากปาก
“พวกคุณตรงนั้นน่ะ... ไม่ทานหรอครับ?” ราชันย์หันหน้ามามองพวกเรา ซันจิทำสายตาอำมหิต แต่โซโลเดินนำหน้าไปแล้ว และทุกๆ คนก็เดินตามโซโลไป เหลือเพียงแต่ซันจิยืนทำหน้าบูดอยู่ที่เดิม
“มีเหล้ามั้ย” โซโล
“มีครับคุณโซโล ดื่มได้เลยๆๆ >__<!!” ลูกเรือคนหนึ่งของราชันย์เดินออกมา พร้อมยื่นขวดเหล้าให้กับโซโล โซโลรับมันมาแล้วกระดกลงคอทันที
“เนื้อๆๆ เนื้ออร่อย >O<!!” ลูฟี่
“เชิญทานนี้ได้เลยครับ คุณผู้หญิง ^^” ชายคนหนึ่งเดินมาตรงฉันกับโรบิน แล้วยื่นกุ้งเทมปุระหลายตัวที่อยู่ในจานให้กับฉัน
“ขอบคุณจ๊ะ ^^” ฉันฉีกยิ้มให้พ่อหนุ่มคนนั้นแล้วรับกุ้งมานั่งกินกับโรบิน
“อร่อยใช้ได้เลยนะเนี่ย” โรบิน
“นั่นสิ” ฉัน
“ซันจิคุง มาทานสิ!” ฉันตะโกนเรียกซันจิคุงที่ยืนกอดอกทำหน้าบูดอยู่
“ไม่ครับ ผมไม่กินอาหารของพวกนั้นหรอก!” ซันจิพูดพร้อมสะบัดหน้าหนี
จ๊อกกก~
“เอ่อ... =O=” ฉัน
“=///////=!!” ซันจิหน้าแดงแปร๊ดทันที เมื่อเสียงท้องของซันจิร้อง
“ฮ่าๆ มาทานเถอะครับ ^^” ราชันย์
“ไม่! ฉันไม่มีทางกินอาหารของพวกนาย!~” ซันจิ
ฉันมองซันจิแล้วขมวดคิ้ว มือหนึ่งยื่นไปหยิบกุ้งเทมปุระขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปหาซันจิคุง
“อย่าหยิ่งให้มันนมากสิ หิวไม่ใช่หรอ” ฉันเบ้ปากแล้วยื่นกุ้งเทมปุระไปที่ปากของซันจิ ซันจิเหวอไปในทันที
“คะ... คุณนามิ...” ซันจิ
“กินสิ ฉันอุส่าต์เอามาให้นะ กินไปซะ แล้วไปนั่งกินตรงโน่นด้วย =___=!” ฉันพูดพร้อมยัดกุ้งเทมปุระเข้าปากของซันที่เหวออยู่ แล้วหันหลังกลับไปนั่งที่เดิม
เมื่อมองกลับไปทางซันจิที่ยังยืนเหวอหน้าแดงอยู่ที่เดิม ก็ยิ่งทำให้อารมณ์เสีย ฉันเขม่นตามองซันจิ ซันจิเหวอไปอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ ฉัน
“ยอมมาทานด้วยกันแล้วหรอครับ ^^” ราชันย์หันมาทางซันจิ
“ฉันมานั่งเพราะคุณนามิชวนมาหรอก!” ซันจิโวยวายก่อนะค่อยๆ กลืนกุ้งเทมปุระที่ฉันยัดใส่ปากนั้นลงคอ
“อร่อยหรือป่าวครับ” ราชันย์
“งั้นๆ แหละ” ซันจิพูดพร้อมไม่มองหน้าราชันย์ แล้วหยิบกุ้งเทมปุระอีกตัวเข้าปาก
งั้นๆ หรอ? กินเอาๆ เลยนะ =__=
“เหมือนเราจะขาดเสียงดนตรีนะเนี่ย” ราชันย์
“เสียงดนตรีหรอ ผมๆๆ ผมขอเล่นดนตรีให้ทุกคนฟังเองครับ~” บรู๊คคุงพูดพร้อมยกมืออาสา
“อา เอาสิครับๆ ^^” ราชันย์พยักหน้าให้กับบรู๊คคุง
บรู๊คลุกขึ้น แล้วหยิบไวโอลินขึ้นมาก่อนจะเริ่มเล่นเพลงต่างๆ นาๆ พวกเราสนุกกันมากกับงานเลี้ยงนี้ ซันจิก็แว้ดๆ ใส่ราชันย์อยู่นั่นแหละ ส่วนทางลูฟี่ก็เอาตะเกือบเสียบจมูก ดามไว้กับปากแล้วเล่นตลกทำให้ทุกคนหัวเราะกันยกใหญ่ มันเป็นงานเลี้ยงที่สนุกมากเลยล่ะ ฮ่าๆ ^^
เมื่อเวลาผ่านไปมากเข้าๆ ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว อาหารเริ่มหมด แต่ความสนุกยังดูจะไม่หมดไป แต่ยังไงงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกลา พวกเราลุกขึ้นพร้อมเดินกลับบ้านของลุงซามะ
“ขอบคุณสำหรับปาร์ตี้และอาหารนะ สนุกสุดๆ เลย >O<!!” ลูฟี่หันไปขอบคุณราชันย์
“ครับ ไม่เป็นไรหรอก ^^” ราชันย์
“ซันจิพูดอะไรซักอย่างกับราชันย์สิ” ฉันพูดพร้อมจิ้มๆ ที่ไหล่ของซันจิ ซันจิทำหน้าหงุดหงิดแล้วหันหน้าไปมองทางราชันย์
“ขอบคุณสำหรับอาหาร -[]-!” ซันจิพูดเสียงห้วน
“ครับ... แต่คุณยังไม่หายโกรธผมอีกหรอเนี่ย =__=” ราชันย์
“ฉันไม่มีวันหายโกรธ นายมีสิทธิ์อะไรทำมาเป็นบอกว่าจะแย่งคุณนามิไปห๊ะ!!” ซันจิโวยวาย
“ก็บอกว่าพูดเล่นไงคร้าบ >[]<!” ราชันย์
“พูดเล่นก็ไม่ยอมหรอก -___-” ซันจิ
“ผมก็บอกแล้วไง... ว่าผมไม่รับคนที่ไม่อยากอยู่กับผมหรอก ไม่เคยคิดจะแย่งพวกพ้องของคนอื่นมาด้วย ต้องเป็นพวกที่อยากอยู่กับผมเท่านั้นแหละ ผมถึงจะรับ >[]<!!” ราชันย์โวยวายบ้าง
“เรื่องของนาย -O-” ซันจิพูดพร้อมหันหลังเดินหนีไป ฉันหันไปมองมองหน้าราชันย์ก่อนจะยิ้มน้อยๆ
“ขอบคุณสำหรับอาหารนะ” ฉัน
“ครับ ^^” ราชันย์
แล้วพวกเราก็เดินกลับบ้านของลุงซามะกัน
ดูจากขนาดของบ้านแล้ว เหมือนเราจะนอนในบ้านไม่ได้แฮะ บ้านมันเล็กเกิน =___=!!
“แน่ใจหรอว่าจะนอนข้างนอกน่ะ” ลุงซามะถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรน่าลุง >O<” ลูฟี่
“ใช่ เราจะได้ดูดาวด้วย ที่เกาะนี้มองดาวแล้วสวยมากๆ เลย” ช๊อปเปอร์
“อ๋อ... งั้นถ้าต้องการอะไร เรียกได้จากในบ้านนะ ^^” ลุงซามะ
“ครับผม ^^” ช๊อปเปอร์
พวกเราเดินกันไปที่ดอกโคลเวอร์ยักษ์อีกดอกที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของลุงซามะเท่าไหร่ ก่อนจะค่อยๆ นั่งลง
“นอนล้อมเป็นวงกลมแล้วกัน เอาหัวเข้าหากันนะ” ฉัน
“อื้ม~” ลูฟี่พูดพร้อมล้มตัวลงนอน พวกเราทุกคนล้มตัวลงนอนหงายล้อมเป็นวงกลมเอาหัวเข้าหากัน แล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว
“สวยจังเลย *O*” ช๊อปเปอร์
“ใช่ สวยมากๆ เลยแฮะ” ซันจิ
“ไม่เหมือนที่อยู่ในเมืองเลยเนอะ ต่างกันลิบลับ~” ลูฟี่
“นั่นสิ เพราะไม่มีแสงสว่าง เลยเห็นดาวได้ชัดล่ะมั้ง” ฉัน
“นี่...” ลูฟี่ที่นอนข้างๆ ฉันพูดขึ้นก่อนจะหันหน้าไปมองทุกคน ทุกคนหันมามองลูฟี่อย่างตั้งใจฟัง
“พวกเรา... จะเป็นพวกพ้องกันตลอดไป พวกเราจะไม่มีทางแยกจากกันนะ” ลูฟี่พูดพร้อมฉีกยิ้ม
พวกเราทุกคนอมยิ้มกับคำพูดของลูฟี่ ก่อนที่ช๊อปเปอร์จะตะโกนขึ้นมา
“ฉันจะเป็นหมอที่เก่งที่สุดในโลกให้ได้เลย!~” ช๊อปเปอร์ตะโกนเหมือนอยากจะให้ทั้งฟ้ารู้ เมื่อลูฟี่ได้ยินอย่างนั้น ลูฟี่ก็ฉีกยิ้มใหญ่ ก่อนจะยื่นมือขึ้นเหนือหัว
“ฉันจะเป็นราชาโจรสลัด!~” ลูฟี่
“ฉันจะเป็นกุ๊กที่เก่งที่สุดในโลก~” ซันจิพูดพร้อมชูมือขึ้นบ้าง
“ฉันจะเป็นหมอที่เก่งที่สุดในโลก!” ช๊อปเปอร์ชูมือขึ้นบ้าง
“ฉันจะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก” โซโล
“ฉันจะเป็นต้นหนเรือที่เก่งที่สุดในโลก” ฉัน
“ฉันจะเป็นช่างต่อเรือที่เก่งที่สุดในโลก!!~” แฟรงกี้
“ฉะ... ฉันจะเป็นนักซุ่มยิง ที่ยิงแม่นที่สุดในโลก!!~” อุซป
“ฉันจะเป็นนักวิจัยที่รอบรู้ทุกอย่างในโลก ^^” โรบิน
“ผมจะเป็นนักดนตรี ที่จะทำให้ทุกคนเห็นผมแล้วต้องยิ้มให้... ผมจะเป็นนักดนตรีที่เก่งที่สุดในโลก~” บรู๊คคุง
ตอนนี้พวกเราทุกคนชูมือขึ้นเหนือหัวกันหมดทุกคน
“และพวกเรา...” ลูฟี่
“จะอยู่ด้วยกันแบบนี้ ตลอดไป!!~” ลูฟี่ฉีกยิ้ม
“สัญญา!!” พวกเราทุกคนฉีกยิ้มก่อนจะเอื้อมนิ้วก้อยไปเกี่ยวกัน นี่คือคำสัญญาของพวกเรา...
เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป!
วันต่อมา
หลังจากคืนที่มีปาร์ตี้ พวกเราก็นอนหลับกันสนิท เมื่อวันนี้ตื่นเช้ามาก็ลุกขึ้นเก็บผ้าห่ม และเดินไปอาบน้ำกันที่บ้านของลุงซามะ เมื่อเราทำธุระทุกอย่างจบ ก็เตรียมตัวจะออกไปทำภารกิจส่วนตัว
“เมื่อไหร่ฝนจะตกน้า~” ฉันบ่นพึมพำ
“นั่นสินะ ถ้าฝนตกล่ะก็... หม้อทองคำจะต้องออกมาแน่ๆ” ลุงซามะพูดพร้อมยิ้มให้ฉัน
ฉันส่งยิ้มกลับไปให้ลุงซามะ แล้วลุกขึ้นเตรียมเดินออกไปนอกบ้าน เมื่อเดินออกมานอกบ้านได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงเหมือนใครสักคนเรียกชื่อเข้า
“นามิ~~”
ลูฟี่นั่นเองที่เป็นคนเรียกฉัน ฉันหันหน้าไปมองทางลูฟี่ก่อนจะยิ้มให้
“อะไรหรอลูฟี่” ฉัน
“มานี่ๆ มีอะไรจะให้ดู!” ลูฟี่ฉีกยิ้มกว้าง แล้วดึงฉันเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะยืดมือไปไกล แล้วเด้งตัวไปยังจุดหมาย
“กรี๊ดดดดดดดดด” ฉันที่ยังเตรียมใจไม่ได้ร้องสุดเสียง อ๊ากกกกกก!
“ร้องดังทำไม =O=” ลูฟี่
“นาย อ๊ากกกกก ฉันยังทำใจไม่ได้เลย!!~” ฉัน
“ไม่เป็นไรน่า ถึงแล้วๆ!~” ลูฟี่
หา? ถึงแล้ว ฉันหันหน้าไปมองทางจุดหมายที่เรากำลังจะตกลงไป นั่นมัน...
ฟิ้ววววว~
โครมมม!!~
หน้าของฉันแนบไปกับพื้นอย่างสวยงาม ลูฟี่กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่นาน ก่อนจะทรงตัวนั่งได้
“ลงสวย ฮ่าๆ~” ลูฟี่
สวยตรงไหนกันยะ...
ผัวะ!!
“อ๊ากก เจ็บๆๆ!” ลูฟี่ร้องโวยวายพร้อมจำที่หัวของตัวเอง
“ลงไม่สวยเลยย่ะ =[]=!!” ฉัน
“โอ๊ย... เอาน่า นี่ไง ที่อยากให้เห็น~” ลูฟี่พูดพร้อมฉีกยิ้มก่อนที่จะล้มตัวลงนอน
ที่นี่ก็คือ... เอ๊ะ อะไรเนี่ย
ฉันหรี่ตามองไปที่ดอกไม้สีขาวๆ ที่อยู่ที่เท้าของเราเต็มไปหมด เมื่อฉันมองดูมันดีๆ...
“โคลเวอร์นี่ =O=!” ฉัน
“ใช่~ สีขาวด้วย แปลกดีใช่มั้ยล่ะ ฉันนึกว่ามันจะมีแค่สีเขียวซะอีก~” ลูฟี่
“ฉันก็คิดอย่างนั้น! ข้าว มีดอกสีขาวด้วยหรอเนี่ย สวยจัง” ฉันมองโคลเวอร์จำนวนมากตาเป็นประกาย
“โคลเวอร์สามแฉกทั้งนั้นเลยหนิ... หาแบบสี่แฉกกันเถอะ” ฉันพูดพร้อมหันไปยิ้มให้กับลูฟี่ ลูฟี่ที่นอนอยู่ท้ามกลางโคลเวอร์สีขาวหันหน้ามามองฉัน ก่อนฉีกยิ้มแล้วพยักหน้า
“หาให้ได้เยอะๆ เลยนะ เราจะได้มีโชคกันเยอะๆ” ฉัน
“อ่า!” ลูฟี่
ฉันควานหาโคลเวอร์สี่แฉกอยู่นาน จนเจอแล้วหนึ่งดอก >O<!!
“เจอแล้วลูฟี่! ได้หนึ่งดอกแล้วนะฉันน่ะ แล้วนายล่ะ” ฉันหันไปมองทางลูฟี่ที่หันหลังให้ฉันอยู่ เขาหันหน้ามามองฉันก่อนจะยิ้ม
“ยังไม่ได้ซักดอก” ลูฟี่ฉีกยิ้ม
“=___= รีบๆ หาเซ้” ฉัน
“อ่า!” ลูฟี่
หมอนี่รับคำไปแล้ว แล้วเคยหามั้ยเนี่ย -___-
ฟุบ...
ฉันหันไปมองตามต้นเสียงทันที... เหมือนมีใครอยู่นะ ฉันเพ่งมองไปที่อีกด้านหนุ่งที่มีแต่ดอกโคลเวอร์สีเขียวสูงเลยหัวอยู่เต็มไปหมด... คิดไปเองมั้ง -__-
“นามิ~ ดูนี่สิ!” ลูฟี่ตะโกนเรียกฉัน ฉันหันไปมองตามที่ลูฟี่บอก
“สวยมั้ยๆๆ” ลูฟี่ฉีกยิ้ม
มันคือ... มงกุฎที่ทำจากดอกโคลเวอร์สีขาว มันเป็นมงกุฎที่สวยมากเลย *O*!!
“ทำจากโคลเวอร์สี่แฉกหมดเลยหรอ!” ฉันยิ้มร่าก่อนจะวิ่งไปมองใกล้ๆ
“ไม่ใช่นี่หน่า สามแฉกทั้งนั้นเลย เราเอาแค่ดอกสี่แฉกนะลูฟี่ -___-” ฉันพูดพร้อมหันหลังก้มหาโคลเวอร์สี่แฉกต่อ
พรึบ!
จู่ๆ ที่หัวของฉันก็เหมือนมีอะไรตกใส่ เมื่อลองจับๆ ดูแล้ว... มันคือมงกุฎที่ลูฟี่ทำเมื่อตะกี้นี่หน่า ทำไมถึงมาอยู่ที่หัวฉันได้เนี่ย ฉันหันหน้าไปมองทางลูฟี่
“= )__( =” ลูฟี่ทำแก้มป่องเอามือกอดอกเหมือนงอนๆ แล้วเขาก็สะบัดหน้าหนีแล้วก้มหน้าก้มตาหาโคลเวอร์ต่อ... หมอนี่... =___=
โกรธฉันหรอ?
ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ กับลูฟี่ก่อนจะส่งเสียงเรียกเขา แต่เขาก็ขยับหนีแล้วก้มหน้าก้มตาหาโคลเวอร์ต่อไป งอนจริงๆ ด้วย =O=
“ลูฟี่~” ฉันเดินไปข้างๆ ลูฟี่อีกครั้ง และเขาก็ขยับหนีฉันอีก ฉันจึงเดินไปนั่งยองๆ ข้างๆ เขา และเขาก็หนีไปอีกทาง... ชักหมั่นไส้แล้วนะ =___=!!
“ลูฟี่!” ฉันพูดพร้อมเอามือผลักลูฟี่ที่นั่งยองๆ ไม่หันหน้ามามองฉัน ดูเหมือนมันจะทำให้เขาเสียการทรงตัว ล้มลงไปนอนเลยล่ะ... ฉันไม่ได้แรงเยอะอย่างนั้นนะยะ =__=!!
“อะไรของเธอเนี่ย!” ลูฟี่หันมาโวยวายใส่ฉันทันที
“นายสิอะไร งอนอะไรฉันฮะ ฮะ!” ฉันเบ้ปาก
“อะไรของเธอ ไม่ได้งอนอะไรเลย -__-” ลูฟี่
“อย่ามาโกหกน่า” ฉันพูดพร้อมดึงมงกุฎดอกโคลเวอร์ออกจากหัวแล้วโยนใส่หัวของลูฟี่
“ทำอะไรของเธอน่ะ อย่าโยนเส้ มันทำยากนะ!” ลูฟี่
“ทีตอนแรกนายยังโยนเลย -__-” ฉัน
“ก็มันเป็นของฉันนี่ -O-” ลูฟี่
“ฉันก็คืนให้นายเหมือนกันนั่นแหละ =___=” ฉัน
ลูฟี่สะบัดหน้าหนีฉันอย่างงอนๆ ฉันเห็นอย่างนั้นจึงถอนหายใจ ก่อนจะยิ้มออกมา
“นี่ นายน่ะ ทำมงกุฎให้ฉันหรอ~” ฉันเดินไปข้างๆ ลูฟี่
“ใช่” เขาตอบสั้นๆ
“แหม งั้นก็เอามาสิ ขอโทษน่า~” ฉันฉีกยิ้มให้ลูฟี่ ก่อนจะดุงมงกุฎนั้นออกจากหัวของลูฟี่และเอาใส่หัวของตัวเอง
“ก็เธอคืนให้ฉันแล้วนี่ ไม่ต้องเอาแล้วเธอน่ะ -__-” แล้วลูฟี่ก็ดึงมงกุฎกลับไป
“ไม่เอาน่า อุส่าต์ง้อแล้วนะ หายงอนซะทีเด่ะ =__=” ฉัน
“ก็บอกว่าไม่ได้งอนไง -O-” ลูฟี่
“งั้นเอามงกุฎมาสิ ถ้าไม่งอนน่ะ” ฉัน
“ชิ” ลูฟี่ทำเสียงจิ๊จ๊ะแล้วสะบัดหน้าหนีฉัน เขาเอื้อมมือขึ้นไปดึงมงกุฎที่อยู่บนหัวของเขาออกมาแล้ว ยัดใส่หัวของฉัน เน้นได้เลยว่า ยัด =__=+
“ถ้านายทำรุนแรงแบบนี้ เดี๋ยวมงกุฎก็เสียหมดหรอก =__=!!” ฉัน
“ไม่เป็นไรน่า!” ลูฟี่เดินหนีไปดึงดอกโคลเวอร์ออกมาสองดอก ก่อนจะยื่นมันมาตรงหน้าฉัน ดอกหนึ่งเป็นดอกที่มีสามกลีบ ส่วนอีกดอกเป็นดอกที่มีสี่กลีบ
“เลือกสิ อันใดอันหนึ่งเท่านั้นนะ” ลูฟี่เบ้ปาก
“แค่อันเดียวหรอ?” ฉัน
“ใช่ ห้ามมากกว่านั้น!” ลูฟี่
ฉันขมวดคิ้วมองเขาอย่างงงๆ ก่อนจะปิ๊ง! คิดได้ แล้วส่งยิ้มให้เขาน้อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบดอกโคลเวอร์ออกมาหนึ่งดอก
“แน่ใจหรอว่าตจะเอาดอกนั้น -O-” ลูฟี่พูดขัดก่อนที่ฉันจะเอื้อมมือไปหยิบ
“ใช่ เอาดอกนี้แหละ” ฉัน
และฉันก็เอื้อมมือไปหยิบดอกโคลเวอร์... ที่มีเพียงสามแฉกออกมาจากมือของลูฟี่
ลูฟี่ทำหน้านิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ แต่ก็รีบเปลี่ยนเป็นสีหน้านิ่งเหมือนเดิม... จะเก๊กไปทำไมหนอ =__=!
“งั้นดอกนี้โยนทิ้งนะ” ลูฟี่ฉีกยิ้มพร้อมขูโคลเวอร์สี่แฉกขึ้นเหนือหัว
“แล้วแต่นายสิ” ฉัน
“=____=” ลูฟี่ทำหน้าบูด ฉันรู้ย่ะว่านายจะทำอะไร หุๆๆ
“งั้นโยน” ลูฟี่
ฟิ้วววว~
แล้วลูฟี่ก็โยนโคลเวอร์สี่แฉกนั้นออกไปไกล... กรีดร้องงงง!! นี่มันเกินที่ฉันคาดนะเนี่ย =[]=!!
จริงๆ ถ้าฉันเลือกดอกนี้แล้ว หมอนั่นจะต้องดีใจแล้วเอาดอกสี่แฉกให้ฉันด้วยสิ แล้วไหงโยนทิ้งไปจริงๆ ล่ะ กรี๊ดด!! นี่มันไม่ใช่ที่ฉันคาดเอาไว้เลยนะ!!
“ทำไมทำหน้างั้นอะ -__-” ลูฟี่
“=O=... อะ... อ๋อ ป่าว! =___=” ฉันเปลี่ยนสีหน้าทันที
“กลับกันเถอะ” ลูฟี่
“เฮ้ เดี๋ยวสิ ได้โคลเวอร์สี่กลีบแค่ดอกเดียวเองนะ!” ฉัน
“ดอกเดียวก็พอแล้วน่า~” ลูฟี่พูดพร้อมรวบตัวของฉันด้วยแขนของเขาอีกครั้ง ก่อนจะเด้งตัวกลับไปที่เดิม
...
กรี๊ดดดดดดดดดดด
สุดท้ายก็ลงด้วยความเจ็บเหมือนเดิม อ๊ากก!! ฉันเดินไปทรุดตัวนั่งอยู่ที่โคลเวอร์ยักษ์เพราะต้องการพักเหนื่อย หมอนั่นจะเอาฉันให้ตายให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย =[]=!!
เอ๊ะ จริงสิ เกาะนี้...
อยากวาดแผนที่ของเกาะนี้จังแฮะ ไปเอากระดาษมาวาดดีกว่า~
ฉันที่มองลงไปข้างล่างที่แสนจะสูงอย่างคิดไปคิดมา... โดด?... โดดเท่ากับขาหัก...
ฟิ้วววว~
ฉันรูดตัวลงไปกับก้านของดอกโคลเวอร์ยักษ์ แล้วก็ลงได้อย่างสวยงาม ไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย ฮิๆ...
ฉันเดินฮัมเพลงอย่างสบายใจไปที่เรือ เมื่อเดินไปถึงก็พบเข้ากับทุกคน... เอ๋? มาอยู่อะไรกันที่นี่?
“คุณนามิหรอคร้าบ~” ซันจิ
“ใช่... ไหงมาอยู่กันที่นี่ล่ะ?” ฉัน
“ก็กะว่าจะจะรวมตัวกันก่อนแล้วจะไปสำรวจเกาะน่ะครับ รีเทลจังจะนำทางให้~” ซันจิ
“อ๋อ... อื้ม” ฉันยิ้มให้กับซันจิคุง ก่อนจะค่อยๆ เดินไปที่ห้องเพื่อที่จะไปหยิบกระดาษวาดแผนที่ออกมา
แอ๊ด...
เมื่อฉันเปิดประตูเข้าไปก็ต้องอึ้งกับสภาพของห้อง กระดาษวาดแผนที่และแผนที่ต่างๆ ที่ฉันเคยเขียดไปแล้วระเนระนาดอยู่เต็มพื้นไปหมด ฉันนิ่งอึ้งอยู่นานก่อนจะค่อยๆ มองไปรอบห้อง เมื่อสายตาไปหยุดที่คนๆ หนึ่ง
“เธอ...” ฉัน
รีเทลค่อยๆ หันหน้ามาทางฉัน ตาของเธอมีน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ในมือของเธอมีกระดาษแผนที่ของฉันอยู่ เธอกำมันแน่นจนมันยับยู้ยี้ไปหมด
“ทำไมเธอทำแบบนี้” ฉัน
“เธอ... เธอก็รู้ว่าฉันชอบลูฟี่ แล้วยังจะไปยุ่งกับเขาอีกงั้นหรอ!!!” รีเทลเดินตรงเข้ามาหาฉัน ก่อนจะเขย่าแขนของฉันแรงๆ เธอร้องไห้ไม่หยุด ฉันอึ้งกับสภาพของเธอมาก
“เธอหมายความว่ายังไง” ฉัน
“ฉันเห็นหมดแล้ว! เห็นที่เธอกับลูฟี่ไปเก็บดอกโคลเวอร์ด้วยกัน เห็นว่าเธอน่ะทำอะไรกับเขาบ้าง เห็นว่าเธอน่ะตื้อเขาที่สุด ร็ทั้งรู้ว่าฉันชอบเขาเธอก็ยังทำ เธอยังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือป่าว!!!” รีเทลพูดพร้อมโยนกระดาษแผนที่ที่ยับยู้ยี้นั้นใส่หน้าของฉัน
“เธอไม่มีสิทธิ์มาแก้ตัวนะ! เพราะหลักฐาณน่ะ มันอยู่ที่หัวของเธอนี่ไง!!” รีเทลพูดพร้อมดึงมงกุฎดอกโคลเวอร์ของฉันออกจากหัวก่อนจะโยนมันลงกับพื้นแล้วเหยียบมันแบบไม่ใยดี
“รีเทล เธอทำอะไรของเธอน่ะ!!” ฉันพูดพร้อมผลักเธอออก ก่อนจะรีบหยิบมงกุฎดอกโคลเวอร์ที่หลุดออกเป็นชิ้นๆ ขึ้นมา
“เธอมันเลว!!” รีเทลพูดพร้อมง้างมือขึ้น แล้วตบหน้าฉันอย่างแรง!!
เพียะ!!
หน้าของฉันหันตามแรงตบ มือหนึ่งรีบดึงขึ้นมาลูบที่หน้าที่โดนตบ เจ็บชะมัด...
“แล้วนี่น่ะ ตุ๊กตาตัวนี้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่ามันเป็นของใคร!!” รีเทลพูดพร้อมดึงตุ๊กตาลามะใส่หมวกฟางปากคาบส้มที่ลูฟี่ให้ฉันขึ้นมา
“รีเทลเธอจะทำอะไรน่ะ!” ฉัน
“ก็จะทำแบบนี้ไง!!” รีเทล
แควกกกก!!!
รีเทลใช้แรงทั้งหมดดึงคอของตุ๊กตาลามะตัวนั้นออกมา แล้วโยนลงกับพื้น ก่อนจะเหยียบมันอีกครั้ง ฉันที่ตอนนี้ทนไม่ไหวอีกต่อไป พุ่งตัวเข้าใส่เธอทันที
“ว้าย!!” รีเทล
“เธอกล้าดียังไงทำกับของสำคัญของฉันแบบนี้!!” ฉันกดรีเทลลงกับเตียง ง้างมือขึ้นแล้วกำมือแน่น ฉัน... อยากจะชกเธอ... อยากจะชกให้แรงที่สุด
ฟิ้ววว!!
ฉันพุ่งหมัดเข้าตรงไปที่หน้าของรีเทลทันที
หมับ!!!
“!!”
ฉันต้องชะงัก เมื่อจู่ๆ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาแล้วหยุดมือของฉันเอาไว้ เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบเป็น
“ลูฟี่คุง...” รีเทลพูดพร้อมน้ำตาไหลริน ลูฟี่กระชากฉันออกมาจากตัวของรีเทล แล้วค่อยๆ ดึงตัวรีเทลขึ้นอย่างระวัง
“เป็นอะไรหรือป่าวรีเทล...” ลูฟี่
“ลูฟี่... ลูฟี่คุง...” รีเทลพูดพร้อมซบเข้าที่อกของลูฟี่ ลูฟี่โอบเธอแล้วปลอบโยนอย่างอ่อนโยน
“เกิดอะไรขึ้น!” ทุกคนเดินขึ้นมาหาเรา ทุกคนเห็นภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ ก็คือฉันยืนนิ่งอึ้ง ส่วนลูฟี่ก็โอบกอดตัวของรีเทลอยู่
“ทำไมเธอทำแบบนี้นามิ...” ลูฟี่พูดเสียงเรียบ
“เธอทำแบบนี้กับรีเทลได้ยังไง ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะทำแบบนี้!!!” ลูฟี่หันหน้ามาตะคอกใส่ฉันต่อหน้าทุกคน ฉันนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก
“ที่เธอจะทำเมื่อกี้น่ะ คือเธอจะทำร้ายรีเทลใช้มั้ย!!” ลูฟี่
“ลูฟี่ ฉันอธิบายได้...” ฉัน
“ไม่ต้องอธิบายแล้ว มันเห็นกันอยู่เต็มๆ ตา!!!” ลูฟี่พูดพร้อมผลักฉันไปชนกับกำแพงห้อง ฉันนิ่งอึ้งอยู่นาน
อะไรกัน? ฉันเป็นคนผิดงั้นหรอ? ฉันผิดอะไรที่ก็แค่ต้องการเอาคืนรีเทลที่ทำแบบนั้นกับของสำคัญของฉัน แค่นี้ฉันผิดหรอ! ลูฟี่ไม่เคยผลักฉันแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ เขากลับ...
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยนะนามิ เธอบ้าไปแล้วหรอ!!!” ลูฟี่ตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง ฉันอึ้ง น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ฉัน... ฉันทั้งโกรธ ทั้งเกลียด ทั้ง... เสียใจ
“นายมันโง่ที่สุดลูฟี่!!!” ฉันตะโกนใส่หน้าลูฟี่ แล้ววิ่งออกจากสถานที่นั้นทันที ฉันกระโดดลงจากเรือ วิ่งไปทั้งๆ ที่ไม่รู้จะไปไหน
ฉันวิ่งมาแล้วหยุดนั่งอยู่ตรงโคลเวอร์ยักษ์ต้นหนึ่ง ฉันนั่งลงฟุบหน้าลงกับขาแล้วร้องไห้ออกมาไม่หยุด ลูฟี่... นายมันไม่ยุติธรรม นายมันโง่ที่สุด!!
“เอ่อ...”
“!!” ฉันเงยหน้าขึ้นมองที่ต้นเสียงอย่างตกใจ
“เป็น... อะไรหรอครับ?” ราชันย์ถามฉัน ฉันได้แค่ปาดน้ำตาออก แล้วฝืนยิ้มออกมา
“ก็ มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ” ฉัน
“เธอร้องไห้คงไม่นิดหน่อยแล้วล่ะมั้ง?” ราชันย์พูดพร้อมเดินมานั่งลงข้างๆ ฉัน
“ก็... ที่จริงก็ไม่นิดเท่าไหร่...” ฉัน
“เล่าได้มั้ย?” ราชันย์
“...” ฉันได้แต่นิ่งเงียบ ไม่อยากจะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง ฉันค่อยๆ หันหน้าหนีราชันย์อย่างช้าๆ
“ไม่อยากเล่า งั้นผมก็ไม่ตื้อก็ได้” ราชันย์
“ขอบคุณนะ” ฉันพูดออกมาสั้นๆ ก่อนจะฟุบหน้าลงไปร้องไห้ต่อ
ฉันร้องไห้ ฟูมฟายอยู่นาน จนรู้สึกเหมือนมีมือมาสัมผัสที่หลังของฉันเบาๆ
“มะ... ไม่เป็นไรนะ อย่าร้องไห้สิ” ราชันย์เอามือลูบหลังฉันเบาๆ
ถึงเขาจะพูดแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่สามารถหยุดได้ คนอยากลูฟี่น่ะ... หมอนั่นน่ะ...
“ทำไมแก้มเธอแดงแบบนั้นล่ะ O_O!” ราชันย์ถามด้วยสีหน้าตกตะลึง ฉันมองหน้าเขาอย่างงงๆ ก่อนจะค่อยๆ เอามือลูบที่แก้มที่ถูกรีเทลตบมา
“ก็... ที่มีเรื่องนั้นแหละ” ฉัน
“เธอโดนทำร้ายมาหนิ ได้ยังไงกัน ใครทำเธอ!” ราชันย์
“บอกไปก็ทำอะไรไม่ได้หรอก หมอนั่นไม่ฟังหรอก” ฉัน
“หมอนั่น?” ราชันย์ถามอย่างงงๆ
“...ป่าว ไม่มีอะไร” ฉัน
“...เธอหมายถึงเจ้าหมวกฟางงั้นหรอ” ราชันย์ถามเสียงเรียบ ฉันสะดุ้งเล็กน้อย
“ใช่จริงๆ ด้วยสินะ” ราชันย์
“...” ฉัน
“อย่าร้องไห้นะ มันไม่ดีรู้มั้ย ร่างกายของเธอจะเสียน้ำมากนะ มันอันตราย~” ราชันย์
“...หึ มันไม่ขนาดนั้นหรอกน่า” ฉันยิ้มออกมาน้อยๆ แล้วหันหน้าไปมองทางราชันย์
“จริงๆ นะ แม่ของฉันบอกมาอย่างนั้น~” ราชันย์
“นายเชื่อแม่เกินไปแล้วล่ะ” ฉัน
“ก็ต้องเชื่อฟังสิ ก็ฉันเป็นเด็กดีของแม่นี่หน่า ^^” ราชันย์
“นี่... ราชันย์” ฉัน
“หืม?” ราชันย์
“ขอ... ซบไหล่ได้มั้ย” ฉันถามขึ้น ราชันย์อึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะหน้าแดงออกมาแล้วก้มหน้าก้มตา ก่อนจะพยักหน้า
ฉันซบลงที่ไหล่ของเขาแล้วร้องไห้... ร้องซะจน... เหมือนจะไม่มีน้ำตาให้ร้องไปอีกตลอดชีวิตอย่างนั้นแหละ...
“นี่เธอร้องเป็นชั่วโมงๆ แล้วนะ =O=!” ราชันย์ส่งเสียงบ่นทันที
“อะ... หรอ โทษที” ฉันพูดพร้อมดึงหน้าออกมาจากไหล่ของเขา ตอนนี้เสื้อของเขาเต็มไปด้วยน้ำตาของฉันเลยนะ
“ดูเสื้อฉันสิ~” ราชันย์
“คงไม่โกรธใช่มั้ย” ฉัน
“หืม? ไม่โกรธหรอก แค่เสื้อเอง” ราชันย์พูดพร้อมยิ้มให้ฉัน
“ราชันย์...” ฉัน
“ครับ?” ราชันย์
“นายเคยพูดใช่มั้ย... ว่าอยากได้ฉันไปเป็นต้นหนเรือน่ะ...” ฉัน
“หะ... หา? อ่า ก็ใช่ แต่ฉันพูดเล่นนะๆๆ อย่าโกรธกันนะ แค่เล่นจริงๆ T__T!” ราชันย์
“แล้วถ้าฉันตกลงล่ะ...” ฉัน
“หา! ว่าไงนะ?” ราชันย์ร้องเสียงหลง
“แล้วถ้าฉัน... ตกลงอยากจะเป็นต้นหนเรือให้กับนายล่ะ... นายจะว่ายังไง...” ฉัน
ความคิดเห็น