คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : [ตอนที่12] :: หลุดออกมาได้อย่างปาฏิหารย์ มุ่งสู่เกาะคุโดบาระเต็มกำลัง!
ตอนที่12
หลุดออกมาได้อย่างปาฏิหารย์ มุ่งสู่เกาะคุโดบาระเต็มกำลัง!
เราโดนกินนนนนนนนนน
มันเป็นประโยคเดียวกรีดร้องในหัวใจของฉัน เราโดนจ้าวทะเลกลืน เราตายแน่~ เราต้องโดนน้ำย่อยมัน ย่อยจนกลายเป็นศพแน่ๆ เราตายแน่ๆ!!~
ฉันกับอุซปนั่งกอดกันกลมดิ๊กตัวสั่นไม่หยุดทั้งคู่ ตายแน่ๆ ตาย!!
“ว๊า เราโดนกินแหละ” ลูฟี่พูดแบบไม่ทุกข์ร้อน
“ก็ใช่น่ะสิ!!” ฉันกับอุซปประสานเสียง ฮืออ~
“คงต้องตัดมันเป็นชิ้นๆ แล้วค่อยออกไปสินะ” โซโลพูดเสียงเรียบ สีหน้านิ่งเฉย
“ไม่ได้นะยะ!!” ฉันร้องสุดเสียง ทุกคนหันหน้ามามองอย่างตกใจ
“ถ้านายหั่นเจ้านี่เป็นชิ้นๆ แล้วถ้าเกิดตอนนี้มันอยู่ใต้น้ำทะเลล่ะ เราไม่จมกันหมดหรือไง =[]=!” ฉัน
“จริงสินะ” โรบิน
“แล้วจะให้ทำไงล่ะ รอจนกว่ามันจะย่อยเราหรือไง -___-” โซโล
“ไม่รู้สิ คงต้องรอจนกว่ามันจะขึ้นไปบนผิวน้ำนั้นแหละ” ฉัน
“แล้วเมื่อไหร่มันจะขึ้นไปล่ะ” แฟรงกี้
“ไม่รู้หรอก... ฉันไม่ใช่มันนะ -___-” ฉัน
“เพราะเรือเอียงเมื่อกี้ อาหารกลางวันเละหมดเลย ห้องอาหารก็ด้วย!” ซันจิที่เดินไปดูห้องครัวร้องเสียงหลง
“อา... ยังหิวอยู่เลย เอาเนื้อมันมากินก่อนนิดนึงได้ม้า =O=” ลูฟี่พูดพร้อมหันหน้าไปมองกระเพาะอาหารของจ้าวทะเลตัวนี้
“อย่าเชียวนะ ลูฟี่ -___-” ฉันกับอุซปประสานเสียงอีกครั้ง
“แล้วถ้ามันไม่ยอมขึ้นไปบนผิวน้ำเลย เราก็อยู่ในนี้ตลอดเลยน่ะสิครับ?” บรู๊คคุงพูดจบ พวหเราทุกคนหันหน้าไปมองทางบรู๊คอย่างพร้อมเพียง
“อะ... อะไรหรอครับ? ผมพูดอะไรผิด =O=;;” บรู๊คคุง
“มันคงไม่ขนาดนั้นหรอก...” โรบิน
“งั้นเราก็ลองรอจนกว่าจะเห็นแสงสว่างจากปากมันออกมาก็ได้ ตอนนั้นแหละ เราก็ออกไปกันได้แล้ว” ช๊อปเปอร์
“นั่นสินะ...” ฉัน
“จะให้ง่ายขึ้น เราก็ดึงเนื้อมันออกมารูนึง แล้วเราก็ดูก็ได้นี่ -O-” โซโล
“หยุดเลยนะยะ =[]=!!” ฉัน
“เฮ้อ ก็ได้ๆ รอก็รอ” โซโล
“เราโดนกลืนแล้ว... ฉันจะได้เห็นหน้าพ่อของฉันอีกหรือป่าวเนี่ย ฮือ...” รีเทลเริ่มสะอึกสะอื้น
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับรีเทลจัง ยังไงเราก็ออกกันไปได้อยู่แล้ว ถ้ารีเทลจังยังร้องไห้อีก ซบไหล่ผมได้นะคร้าบ~ ♥” ซันจิ
“ฮึก... ค่ะ ขอให้ออกไปได้จริงๆ ด้วยเถอะ ฉันอยากเจอพ่อมากๆ เลย” รีเทล
“ออกไปได้อยู่แล้วน่า” ลูฟี่
“ลูฟี่คุง...” รีเทลหันหน้าไปมองทางลูฟี่ที่หันมามองเธอ ลูฟี่ฉีกยิ้มกว้างให้กำลังใจรีเทล แต่มันยิ่งทำให้รีเทลเขินจนหน้าแดงเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ (เทียบเป็นมะเขือเทศไม่ได้ ไม่ยอม~)
“แต่ฉันหิวจัง...” ลูฟี่พูดพร้อมลูบท้องตัวเอง ดีนะฉันกินข้าวเสร็จแล้ว ไม่งั้นก็คงหิวแน่ๆ -__-
“ค่ะ ฉันก็เหมือนกัน” รีเทล
จริงสินะ รีเทลพึ่งเดินเข้าไปในห้องอาหารได้ไม่นาน จ้าวทะเลก็บุกแล้ว เธอคงยังกินอะไรได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็นะ ยังไงก็ต้องรอแหละ
“เดี๋ยวฉันไปดูในตู้เย็นให้ก็แล้วกัน หวังว่ามันคงไม่เละเหมือนสภาพห้องอาหารนะ -__-” ซันจิพูดพร้อมเดินหายไป ฉันกับรีเทลมองตามซันจิคุงไป แล้วจู่ๆ ตาเราก็มาประสานกัน...
( =___=)---> <---(=___= )
ชิ้ง!
จู่ๆ เหมือนมีสายฟ้าเล็กๆ เกิดขึ้นระหว่างที่เรามองหน้ากัน หึๆๆ นี่สินะ ที่เขาเรียกว่า สายตาอำมหิต =___=++
เชอะ!
แล้วเราก็สะบัดหน้าหนีกันไป ฉันก็ไม่ได้อยากสบตาเธอนักหรอกกก!!~
“ดีเลยที่อาหารไม่เป็นอะไรมาก กินผลไม้กันไปก่อนแล้วกันนะ” ซันจิเดินมาพร้อมตะกร้าแอปเปิ้ลในมือ ซันจิเดินไปแล้วยื่นตะกร้าแอปเปิ้ลไปตรงหน้าของรีเทล รีเทลส่งยิ้มให้ซันจิแล้วหยิบแอปเปิ้ลออกมาหนึ่งลูก ซันจิเดินต่อไปแล้ววางตะกร้าแอปเปิ้ลไว้ตรงหน้าของลูฟี่
“อยากกินเนื้อ =O=” ลูฟี่
“กินนี่ไปก่อน่าลูฟี่” ซันจิ
“ก็ได้ -O-” แล้วลูฟี่ก็หยิบแอปเปิ้ลเข้าปากไป
พวกเรานั่งรอแสงสว่างจากปากของจ้าวทะเลตัวนี้อยู่นาน แต่ก็เหมือนจะไม่มีหวัง... มันไม่มีแสงเลย!!
“ฟันมันทิ้งเลยเถอะ -__-” โซโลที่หมดความอดทนพูดขึ้น
“ไม่ได้นะเจ้าบ้า! ถ้าอยู่ใต้ท้องทะเลขึ้นมาจะทำยังไง T__T!!” อุซป
“ไม่รู้สิ มันนานแล้วนะ เราจะโดนย่อยแล้วเนี่ย!!” โซโล
“นั่นสิ จะโดนย่อยอยู่แล้ว” ซันจิพูดเห็นด้วยกับโซโลเป็นครั้งแรก
เฮ้อ จะทำยังไงดี ถ้าในโซโลฟันไปแล้วมันอยู่ใต้ทะเลขึ้นมาก็คงแย่จริงๆ นั้นแหละ คนที่กินผลปีศาจที่เรือของเราก็ไม่ใช่น้อยๆ ด้วยสิ...
วิ้ง~
“อ๊ะ แสงล่ะ” รีเทลพูดขึ้นพร้อมชี้ไปข้างหน้า จริงๆ ด้วย!! มีแสงแล้ว พวกเราอยู่บนผิวน้ำแล้ว!!
“เยี่ยมเลย อยากออกไปจากที่นี่จะตายอยู่แล้ว” โซโลพูดพร้อมชักดาบออกมา แสงสว่างเกิดขึ้นแวบเดียวก่อนที่มันจะมืดลงไปอีกครั้ง อะไรเนี่ย!
ครืนนน!
เสียงแปลกๆ ดังขึ้น จ้าวทะเลตัวนี้เหมือนจะดิ้นไปทั่ว ทำให้เราเซไปเซมาด้วยเช่นเดียวกัน
ครืน...
และก่อนที่มันจะหยุดนิ่ง ไม่เกิดอะไรขึ้น... อะไรเนี่ย ตอนแรกก็เซไปเซมา ไปๆ มาๆ นิ่งอีกแล้ว ชักไม่น่าไว้ใจแล้วนะ จ้าวทะเลตัวนี้ =[]=!!
ฟิ้ววว...
เอ๊ะ... มันมีลมเข้ามานี่หน่า... แปลว่าอยู่บนผิวน้ำแล้วจริงๆ นั้นแหละ
“แฟรงกี้ เตรียมพุ่งตัวซันนี่ไปข้างหน้าเต็มกำลังเลย โซโล ลูฟี่ จะทำอะไรก็ได้กับฟันมัน เราต้องออกไปแล้ว” ฉัน
“อื้ม!” โซโล ลูฟี่ แฟรงกี้
แฟรงกี้วิ่งไปประจำที่ ลูฟี่กับโซโลก็เช่นเดียวกัน เอาล่ะน้า...
“หาที่จับไว้แน่นๆ นะ” ฉัน
“เอาล่ะนะ!!” แฟรงกี้ตะโกนขึ้น
“อื้ม!!” พวกเราตอบกลับอย่างพร้อมเพียง
“ !!”
ปุ้ง!!
ฟิ้วววว!!
เรือซันนี่พุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว โซโลและลูฟี่ที่ยืนอยู่หน้าเรือตั้งท่าเตรียมโจมตี
“เซนจูโรคุ พนโต โฮว พรสามสิบหกประการ!!”
“โกมุ โกมุ โน พิตโตรุ!!”
ผัวะ!!!!
ฟันของจ้าวทะเลแตกเป็นเสี่ยงๆ พวกเราหลุดออกมาจากปากของจ้าวทะเลตัวนั้นอย่างง่ายดาย! เรารอดแล้ววว >O<!!
ตู้บบ!
เรือของพวกเราตกลงสู่ท้องทะเลอีกครั้ง น้ำทะเลสาดกระเด็นไปทั่ว และตามด้วยเสียงดีใจของพวกเราทุกคน
“เย้ๆๆๆ เราหลุดออกมาได้แล้วว >O<!!” อุซป
“เย้ๆๆๆ!” ช๊อปเปอร์
“หลุดออกมาได้ซักทีนะ” โรบิน
“นั้นสิ อยู่ในนั้นเหม็นเป็นบ้า >O<!!” อุซป
พวกเราที่เฮฮากันอยู่ หันหน้าไปมองทางจ้าวทะเลตัวที่เราพึ่งหนีออกมาได้ แล้วก็ต้องอึ้งไปตามๆ กัน
“อะไรเนี่ย...” ช๊อปเปอร์พูดอย่างอึ้งๆ
“ทำไมมัน... สภาพเละแบบนั้น...” อุซป
ใช่ นั้นสภาพเละมากๆ จ้าวทะเลตัวที่เราพึ่งจะหนีออกมาได้ ร่างกายของมันไม่มีเลือดหรืออะไรหรอกนะ แต่มันดูยับเยินยังไงก็ไม่รู้ ฉันหันหน้าไปมองทางโซโลกับลูฟี่ทันที
“พวกนายทำอย่างนั้นหรอ!” ฉัน
“เราจัดการแค่ตรงฟันมันนะ ส่วนอื่นฉันป่าว” โซโล
“นั่นสิ O.O” ลูฟี่
“แต่สภาพมัน...”
สภาพมันเหมือนถูกอะไรเล่นงานอย่างหนักเลย เหมือนจริงๆ...
“หรือจะมีใครมาจัดการมันก่อนหน้าเรา” โซโลพูดพร้อมหันซ้าย หันขวา
“ก็ไม่เห็นมีเรือลำอื่นนี่หน่า” ซันจิ
“นั่นสิ... มันว่ายไปโดนก้อนหินมั้ง ^O^” ลูฟี่ออกความเห็นบ้าง
เฮ้อ ถ้าแค่ชนหินแล้วสภาพมันเละได้ขนาดนี้น่ะนะ =___=
“เอ๊ะ นั่นมัน...” รีเทลพูดออกมาอย่างอึ้งๆ สายตาของเธอจับจ้องบางอย่างอยู่ ฉันหันหน้าไปมองตามสายตาของเธอ แล้วก็พบ...
“เกาะ...” บรู๊คคุง
“ถึงแล้วล่ะ...” โรบินพูดพร้อมส่งยิ้ม
“นี่น่ะหรอ... เกาะคุโดบาระ!” รีเทลพูดพร้อมฉีกยิ้ม
ใช่ นี่คือเกาะคุโดบาระ... เกาะที่สวยงามและเต็มไปด้วยสีเขียวของดอกโคลเวอร์...
“ฉัน... จะได้พบพ่อแล้ว...” รีเทลพูดอย่างดีใจแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
“งั้นเรา... มุ่งหน้าไปที่เกาะคุโดบาระกันเลย!” ลูฟี่
“โห เกาะนี้กว้างใหญ่จังแฮะ~” ช๊อปเปอร์ที่โดดลงจากเรือไปเป็นคนแรกพูดขึ้น ตอนนี้พวกเราถึงเกาะคุโดบาระกันแล้ว เป็นเกาะที่สวยจริงๆ เลย~
“นั่นสิ อ่า นี่ไงโคลเวอร์!” อุซปวิ่งไปเด็ดดอกโคลเวอร์ที่งอกขึ้นมาไม่ไกล
คุโดบาระก็สื่อถึงดอกโคลเวอร์แล้วล่ะ เกาะนี้เต็มไปด้วยดอกโคลเวอร์ทั้งนั้น... มันถึงจะเหมาะกับการเป็นเกาะที่ปลายสายรุ้งมาจบลงหน่อยสิ >O<
“ถ้าเจอโคลเวอร์สี่กลีบ เขาบอกว่าเราจะโชคดี... จริงหรือป่าว” ช๊อปเปอร์วิ่งไปดูดอกโคลเวอร์บ้าง
“ใช่เลยล่ะ” แฟรงกี้
“แต่แถวนี้มีแต่โคลเวอร์สามกลีบแฮะ” อุซปพูดพร้อมมองหาดอกโคลเวอร์สี่กลีบ
“หายากหน่อยนะ เพราะเค้าว่ากันว่า ในโลเวอร์หนึ่งพันดอก จะเจอโคลเวอร์สี่กลีบแค่ดอกเดียวเท่านั้น” โรบินพูดพร้อมกระโดดลงจากเรือ
“หายากขนาดนั้นเลยหรอ” อุซป
“ใช่... แต่นี่ไง เจอแล้ว” โรบินดึงโคลเวอร์สี่กลีบออกมา อุซปกับช๊อปเปอร์ถึงกับตาเป็นประกาย
“ว้าวว เจอแล้วๆๆ *O*” อุซป
“เธอเก่งจังเลยโรบิน *O*” ช๊อปเปอร์
“^^” โรบินส่งยิ้ม
“พ่อของฉันล่ะ เราต้องรีบตามหาพ่อของฉันนะ” รีเทล
“คร้าบ ตามหาแน่นอน ถ้าเป็นรีเทลจัง ผมยอมทำให้หมดเลย >___<” ซันจิ
“เนี่ยน่ะหรอโคลเวอร์ OoO” ลูฟี่พุ่งตัวเข้ามาดงโคลเวอร์ทันที
“ลูฟี่คุง ตามหาพ่อของฉันกันเถอะ T__T” รีเทล
“อ๊ะ... อ่าห้ะๆ” ลูฟี่ยืนขึ้น
แล้วพวกเราก็เริ่มเดินเข้าไปในเกาะคุโดบาระทันที เดินไปแต่ละก้าว ทุกก้าวจะมีดอกโคลเวอร์รุ่มล้อมเต็มไปหมด ว้าว สวยจริงๆ เลย
“แล้วเธอรู้หรือป่าวว่าพ่อของเธออยู่ส่วนไหนของเกาะ” โรบินหันหน้าไปถามรีเทล เธอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่รู้หรอก...” รีเทล
“ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่งั้นเค้าจะเรียกว่าตามหาได้ยังไงล่ะเนอะ ฮ่าๆ” ลูฟี่หัวเราะชอบใจ นายพูดแบบนั้น เหมือนนายกำลังปกป้องรีเทลอยู่นะ ลูฟี่ =___=^
“แล้วเมื่อไหร่ปลายสายรุ้งจะมาจบลงที่นี่ล่ะ” โซโลถามขึ้นบ้าง
จริงสิ! ต้องรอให้ฝนตกโน่นสินะ ถึงจะได้หม้อทองคำน่ะ... หม้อทองคำของฉันนน!~
“คงต้องรอให้ฝนตกน่ะค่ะ” รีเทล
“เฮ้อ ต้องรออีกแล้วหรอเนี่ย” โซโล
“อดทนหน่อยเถอะโซโล เดี๋ยวก็ตกเองแหละ” ฉัน
“เอ๊ะ... นั่นมันอะไรน่ะ” ลูฟี่พูดขึ้น พวกเราหันหน้าไปมองอย่างสนใจ
“รอยเท้า?” ซันจิ
“รอยเท้า... ของพ่อฉันหรือป่าวนะ!” รีเทลพูดอย่างดีใจ
“เกาะนี้มีแค่พ่อของฉัน จะต้องเป็นรอยเท้าของพ่อฉันแน่ๆ เลย >__<!” รีเทลวิ่งไปดูที่รอยเท้านั้น
นั่นสินะ ถ้ามีแค่พ่อของรีเทลแค่คนเดียว ก็เป็รอยเท้าของพ่อเธอนั้นแหละ
“พ่อเธอมีเรือด้วยหรอ” โรบินถามขึ้น รีเทลหันหน้ามามองโรบินอย่างงงๆ
“เรือ? ก็คงมีนั้นแหละ แต่พ่อไม่ออกไปไหนหรอก” รีเทล
“ทำไมเธอถึงถามอย่างนั้นล่ะโรบิน” แฟรงกี้
“ก็ รอยเท้านีมันเปียกน้ำ... ดูเหมือนจะเป็นน้ำทะเลนั้นแหละ มีอยู่สองกรณี คือพ่อของเธอไปหาปลา หรือไม่ก็เป็นคนอื่นเดินเข้ามาในเกาะ” โรบินพูดพร้อมหันหน้าไปมองรีเทลอีกครั้ง
“คนอื่น... งั้นหรอ” รีเทล
“น่าจะเป็นไปได้นะ” แฟรงกี้
มันก็จริงอย่างที่โรบินพูดจริงๆ นั้นแหละ รอยเท้านี่เปียกน้ำ ถ้าไม่ใช่พ่อของรีเทลออกไปหาปลา ก็ต้องเป็นคนอื่นที่เข้ามาบนเกาะแน่ๆ
“ดูเหมือนจะเดินไปทางนั้นนะ” โรบินมองตามรอยเท้าเป็นรอยยาวไป
“งั้นลองเดินไปดูกันเถอะครับ” บรู๊คคุง
พวกเราทุกคนพยักหน้า แล้วก็เดินตามรอยเท้านั้นไป รอยเท้านั้นค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ เพราะมันเริ่มแห้ง เมื่อเดินๆ มา ก็เหมือนจะลึกขึ้นๆ เรื่อย ดอกโคลเวอร์ขนาดสูงกว่าหัวออกดอกตามทางเต็มไปหมด... ทำไมโคลเวอร์พวกนี้ใหญ่จังเลยเนี่ย =[]=!!
“รอยเท้าหมดลงแล้วล่ะ” โรบิน
“แล้วเราจะตามหาพ่อของฉันเจอหรือป่าวเนี่ย...” รีเทลพูดเสียงอ่อน
“เดี๋ยวก็เจอครับ อย่าคิดมากเลย” ซันจิเดินมาฉีกยิ้มให้กับรีเทล เธอยิ้มกลับให้กับซันจิแล้วมุ่งหน้าเดินต่อไป โดยไม่ตามรอยเท้านั้นอีกแล้ว
“นี่พวกเราเข้ามาลึกแล้วนะเนี่ย” โซโล
“นี่ต้นอะไรเนี่ย ทำไมมันใหญ่จัง สีเขียวทั้งต้นเลยย~” ลูฟี่พูดพร้อมกระโดดกอดดอกโคลเวอร์ยักษ์
“มันเป็นดอกโคลเวอร์น่ะ” ฉัน
“ว้าว ใหญ่ชะมัดเลยนะ >O<!!” ลูฟี่
“ดอกโคลเวอร์น่ะ มีที่มาด้วยนะ กลีบดอกแรกแทนความหวัง กลีบที่สองแทนความเชื่อมั่น กลีบที่สามแทนความรัก... และกลีบที่สี่แทนความโชคดี” ซันจิพูดพร้อมลูบดอกโคลเวอร์ยักษ์ที่อยู่ไม่ไกล
“โห้วว มันลึกซึ้งได้ขนาดนั้นเลยหรอ OoO” ช๊อปเปอร์
“ใช่ เค้าว่ากันว่าผู้ชายที่ร้อยดอกโคลเวอรืสามกลีบเป็นมงกุฎแล้วให้กับหญิงสาวน่ะ มันแทนการให้ความรักน่ะ เพราะกลับที่สามมันแทนความรักไง” ซันจิ
“ว้าววว” อุซป/ช๊อปเปอร์
“อ๊ะ! นั่นมัน... บ้านใช่หรือป่าวครับ?” บรู๊คคุงพูดขึ้นพร้อมชี้ไปที่ดอกโคลเวอร์ต้นใหญ่
“ไหนล่ะ” ฉัน
“ข้างบนดอกโคลเวอร์น่ะครับ” บรู๊คคุง
ฉันหรี่ตามองขึ้นไปบนกลีบของดอกโคลเวอร์ต้นใหญ่ที่บรู๊คคุงพูด...
จริงแฮะ... นั่นมันบ้านจริงๆ ด้วย O_o
“ใช่จริงๆ ด้วย” ฉัน
“ใช่มั้ยล่ะคร้าบๆ” บรู๊คคุง
“ตาดีจริงๆ เลยนะบรู๊คเนี่ย” ฉันหันไปฉีกยิ้มให้กับบรู๊ค
“ขอบคุณครับ ฮี่ๆ” บรู๊คคุง
“บ้านหรอ นั้นน่ะหรอ... อ่า เห็นแล้ว บ้านจริงๆ ด้วย!” รีเทลพูดอย่างดีใจ
“อาจจะเป็นบ้านของพ่อฉันก็ได้” รีเทล
“ลองขึ้นไปดูกันเถอะ” ลูฟี่พูดพร้อมวิ่งนำหน้าไป พวกเราวิ่งตามไปติดๆ ก่อนที่จะต้องหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าดอกโคลเวอร์ยักษ์
“สูงเกินแฮะ ปีนขึ้นไปไม่ได้” ซันจิ
“งั้น... ลูฟี่ นายขึ้นไปก่อน แล้วก็ดึงพวกเราขึ้นไปนะ” ฉัน
“...อ่า ได้สิ” ลูฟี่พูดพร้อมยืดมือขึ้นไปจับที่กลีบของดอกโคลเวอร์ยักษ์นั่น แล้วเด้งตัวขึ้นไปยืนบนนั้นทันที
“อ่า ขึ้นมาเลยย!!” ลูฟี่ตะโกนลงมาจากข้างบน แล้วยืดมือลงมา รีเทลเดินเข้าไปจับที่มือของลูฟี่ แล้วลูฟี่ก็ดึงตัวขึ้นไป แล้วเขาก็ยืดมือลงมาอีก จนพวกเราขึ้นไปข้างบนจนครบ
“บ้านทำจากดอกโคลเวอร์หรอเนี่ย ช่างสวยงามจริงๆ” แฟรงกี้พูดพร้อมหันไปมองทางบ้านที่ทำจากดอกโคลเวอร์จริงๆ
“เราลองไปดูในบ้านนั้นกันเถอะ~” ลูฟี่พูดพร้อมพุ่งตัวไปที่หน้าบ้านนั้น แล้วเคาะประตู
ก๊อกๆ
“มีใครอยู่หรือป่าววว~” ลูฟี่
“...”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ
“เฮ้ มีใครอยู่รึป่าว!~” ลูฟี่
“...” ก็ยังคงเงียบไม่ตอบสนองอีกเช่นเคย...
แอ๊ด...
ลูฟี่เปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ก่อนที่หมอนั่นจะเดินเข้าไปในบ้าน พวกเราเดินตามเค้าไปติดๆ บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่มาก เหมาะสำหรับอยู่คนเดียวมากกว่าหลายคน
“อ๊ะ นี่มัน... ลายมือของพ่อนี่” รีเทลที่ดึงหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู
“ลายมือของพ่อเธอหรอ... แปลว่านี่บ้านของพ่อเธอจริงๆ ด้วยสินะ” ลูฟี่
“งั้นพ่อไปไหนล่ะ... พ่อคะ พ่อ!” รีเทลตะโกนเรียกหาพ่อของเธอ แล้วเปิดไปที่ห้องต่างๆ เพื่อตามหาพ่อ
“พ่อไม่เห็นอยู่เลย...” รีเทล
“ออกไปทำการวิจัยรึป่าว” โรบิน
“นั่นสินะ...” รีเทล
“งั้นก็แปลว่า พ่อของเธออยู่ที่นี่จริงๆ แหละนะ แปลว่าพ่อของเธอยังไม่ตาย~” ลูฟี่ฉีกยิ้มให้รีเทล รีเทลยิ้มกลับให้ลูฟี่แล้วเริ่มน้ำตาคลอ
“จะสรุปแบบนั้นเลยก็ไม่ได้หรอกนะ” โรบินพูดพูดมองไปรอบๆ ห้อง
“ทำไมล่ะ?” โซโล
“เพราะลองดูจากสภาพของบ้านนี่สิ ฝุ่น... ฝุ่นเต็มไปหมด เหมือนไม่มีคนอยู่มานานแล้ว” โรบิน
“มันก็จริงนะ...” ซันจิพูดพร้อมลูบที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยฝุ่น
“หรือก็คือ ไม่สามารถบอกได้ว่าพ่อของเธอยู่หรือตายไปแล้ว เพราะมันมีแต่ฝุ่น” โรบินพูดพร้อมหันหน้าไปมองรีเทล เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะเปิดสมุดที่กองๆ กันอยู่บนโต๊ะพ่อของเธอ
“นี่มัน... เขียนล่าสุดเมื่อวานนี้หนิ...” รีเทล
“หืม? เขียนเมื่อวานงั้นหรอ” แฟรงกี้
“ใช่ พ่อของฉันจะเขียนวันที่จดบันทึกไว้ตลอดแหละค่ะ และนี่ไง พ่อพึ่งเขียนงานวิจัยไปเมื่อวานนี้เอง” รีเทล
“จริงสินะ ในเมื่อพึ่งเขียนไปได้เมื่อวานแท้ๆ ทำไมเมื่อบ้านนี้ไม่มีใครอยู่เลยล่ะ” ช๊อปเปอร์
“หนังสือเล่มนี้ก็ฝุ่นเต็มไปหมด เหมือนมันไม่ได้เขียนมานานแล้วด้วย ทั้งๆ ที่มันเขียนไปก็เมื่อวานนี้เอง...” รีเทล
“นี่อะไรเนี่ย” ฉันพูดขึ้นอย่างสงสัย สายตามองไปที่บางอย่างที่จกอยู่ที่พื้น ฉันหยิบมันขึ้นมาดูช้าๆ ก่อนจะเห็นเป็น ชายคนหนึ่งเขาสวมแว่นกรอบสีน้ำตาลและถ่ายรูปคู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผมสีน้ำตาล ดูเหมือนเธอจะยังเด็กๆ อยู่ด้วย... เอ๊ะ นี่มัน...
เลือด!
“นี่รูปเธอกับพ่อใช่มั้ยรีเทล” ฉันพูดพร้อมยื่นรูปนั้นให้ดู
“...ชะ... ใช่ แล้วนี่มันอะไรเนี่ย... เลือด!!” รีเทลร้องเสียงหลง ก่อนที่เธอจะเผลอปล่อยมือจากภาพนั้นไป ซันจิหยิบรูปนั้นมาดู ก่อนจะเอามือลูบที่เลือดที่ติดอยู่กับรูปช้าๆ
“เลือดมันยังไม่แข็งตัวเลย คงพึ่งเกิดขึ้นไม่นาน” ซันจิ
“เลือด! เลือดของใครกัน! คงไม่ใช่...” รีเทลพูดเสียงสั่น
นั่นสิ... มันเป็นเลือดของใคร... จะบอกว่าเป็นเลือดของพ่อของรีเทลงั้นหรอ?
“ตรงนี้ก็มีเลือดนะ” โซโลพูดขึ้น พร้อมมองไปที่ปลายจับของประตู ใช่! มันเป็นรอยเลือดจริงๆ ด้วย!
“ทำไมถึงมีเลือดอยู่ที่นี่เนี่ย...” ช๊อปเปอร์
“มันเป็นเลือดที่พึ่งเกิดขึ้นสดๆ เลยล่ะ” โซโลพูดพร้อมเอามือปาดที่เลือดที่อยู่ตรงปลายประตู
“มันอาจจะเป็น... เลือดของพ่อเธอก็ได้นะ” โซโลพูดพร้อมหันหน้าไปมองทางรีเทล รีเทลช็อคไปในทันที เธอทรุดตัวลงไปนั่ง ซันจิรีบวิ่งมาหาเธอทันที
“รีเทลจัง ไม่เป็นไรนะครับ!” ซันจิ
“ละ... เลือดของพ่องั้นหรอ...” รีเทล
“อาจจะไม่ใช่เลือดของพ่อรีเทลจังก็ได้นะครับ อาจเป็นเลือดของคนอะ...” ซันจิ
“เลือดของคนอื่นงั้นหรอ! เกาะนี้ไม่มีใครคนอื่นนอกจากพ่อของฉันนะ” รีเทลพูดเสียงสั่น แล้วเริ่มร้องไห้
“ถ้าเราลองเดินหาดู อาจจะหาเจอนะ” โซโลพูดพร้อมเดินออกไปจากบ้าน
มันอะไรกันเนี่ย... ห้องนี่ที่ไม่เหมือนมีการต่อสู้ และบ้านที่ดูจะไม่มีใครอยู่มานาน แต่กลับมีบันทึกที่พึ่งเขียนเมื่อวานนี้ แถมยังมีเลือดที่พึ่งเกิดขึ้นมาได้ไม่นาน แต่รอยเท้าที่เหยียบเข้ามาในบ้านยังไม่มีด้วยซ้ำ...
“ลองเดินตามหาดูแล้วกัน” ซันจิพูดพร้อมค่อยๆ พยุงตัวรีเทลขึ้นมา
พวกเราเดินออกจากบ้านของพ่อของรีเทล เมื่อมองซ้ายมองขวา ทางด้านขวามือของเรา เหมือนกลีบดอกของโคลเวอร์ดอกนี้จะเกยอยู่กันพื้นดินด้วย... มีทางขึ้นง่ายๆ แบบนี้ด้วยหรอเนี่ย
“ลองเดินไปทางนั้นดูสิ” ฉัน
“อื้ม”
พวกเราทุกคนเดินกันต่อไป เมื่อเดินตามทางตรงไปได้ไม่นาน ก็เจอหยดเลือดหยดหนึ่งหยดอยู่ที่พื้น
“เลือด...” โรบิน
“แปลว่าเรามาถูกทางแล้วสินะ” โซโล
“อืม...” ซันจิ
พวกเราเดินเป็นทางตรงต่อไป พวกเราเห็นเลือดหยดมาเป็นทางจนทำให้ฉันเริ่มขนลุก อะไรเนี่ย ทำไมมีเลือดหยดเป็นทางแบบนี้ น่ากลัวที่สุดเลย...
“หยุดก่อน” โซโลพูดขึ้น พวกเราทุกคนชะงัก แล้วหันหน้าไปมองทางโซโลกันอย่างงงๆ
“ดูนั้นสิ... ไฟใช่มั้ย” โซโล
ไฟงั้นหรอ... ฉันมองตามสายตาของโซโล ใช่! มันเป็นไฟจริงๆ!
“แปลว่ามีคนอยู่ตรงนั้นสินะ” แฟรงกี้
“เงียบๆ ก็แล้วกัน” โซโล
แล้วพวกเราก็ค่อยๆ ลัดเลาะตามทางดอกโคลเวอร์ยักษ์ เมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆ ที่ก่อไฟแล้ว ก็พบเป็น ผู้ชายกลุ่มหนึ่งนั่งกันอยู่ประมาณยี่สิบคน แต่ละคนกำลังกินเหล้าและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน และมีชายคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนในรูปที่ติดเลือดที่เราพบก่อนหน้านี้นั่งอยู่ ตัวของเขามีเลือดไหลออกมาจากต้นแขน
“รีบทำแผลมันก่อนเลือดมันจะหมดตัวเถอะ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น
“อืม” ชายอีกคนลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วดึงแขนของพ่อของรีเทลออกมา แล้วเริ่มปฐมพยาบาล
“นายคงรู้ใช่มั้ย... ว่าปลายสายรุ้งอยู่ตรงไหนน่ะ หึ...” ชายคนที่ปฐมพยาบาลพ่อของรีเทลอยู่พูดขึ้น พ่อของรีเทลทำสีหน้าเจ็บปวด แล้วก็ไม่พูดอะไร
“พ่อ...” รีเทลพูดออกมาเบาๆ
“ชู่ว... เงียบๆ สิรีเทล” ฉัน
“นั่นใครน่ะ!!”
“=[]=!!!”
พวกเราทุกคนตกใจ เพราะอยู่ๆ นายหนึ่งในนั้นก็ตะโกนขึ้น แล้วหันมามองทางพวกเรา ถูกจับได้แล้ววววว!!
“เลิกซ่อนได้แล้วน่า พวกแกน่ะ จะทำอะไรกับตาแก่นั่น” โซโลเดินออกจากที่ซ่อน แล้วชี้ไปทางพ่อของรีเทล
“อะไรกัน แกเป็นใคร...” คนปฐมพยาบาลพูดขึ้นอย่างตกใจ
“พ่อคะ!!” รีเทลวิ่งออกมาจากที่ซ่อน เธอตะโกนเรียกพ่อของเธอแล้วร้องไห้ พ่อของรีเทลหันหน้าไปมองทางรีเทลอย่างตกตะลึง
“ระ... รีเทล... ทำไมลูกถึง... O_O” พ่อของรีเทล
“พ่อคะ! หนูมาหาพ่อแล้วนะคะ!!” รีเทลร้องไห้หนักขึ้น
“อะไรกัน แกสองคนเป็นพ่อลูกกันหรอเนี่ย...” ชายคนที่ร็ว่าเราซ่อนตัวอยู่พูดขึ้นแล้วฉีกยิ้ม
“แหม... พวกแกเป็นใครน่ะ คิดจะมาเอาหม้อทองคำอีกกลุ่มงั้นหรอ” ชายที่ปฐมพยาบาลพ่อของรีเทลพูดขึ้น
“ใช่!” ลูฟี่กระโดดออกมาจากที่ซ่อนพูดขึ้น พวกนั้นเหวอกันไปตามๆ กัน
“แก... หรือว่า!!... เจ้าหมวกฟางงั้นหรอ!!” พวกนั้นร้องเสียงหลง
“พวกนายรู้จักฉันด้วยหรอเนี่ย O_o” ลูฟี่พูดอย่างตกใจ
ใครจะไม่รู้จักนายบ้างห๊ะ ลูฟี่ -___-!!
“งั้นนี่ก็!!... กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางอย่างนั้นหรอ!!” ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้น
“นะ... นั่น!!... โรโรโนอา โซโลนี่!!” ชายอีกคนตะโกนขึ้นอย่างตกใจบ้าง
“ไม่อยากจะเชื่อกว่าพวกแกจะรู้จักฉันด้วย แล้วพวกแกล่ะ... คือใคร” โซโลพูดพร้อมฉีกยิ้ม
“เอะอะโวยวายอะไรกันน่ะ...” ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากป่า เขามีผมสีทองเป็นประกาย ท่าทางน่าเกรงขาม
“กะ... กัปตัน พวกนี้! กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางน่ะครับ!” คนที่ปฐมพยาบาลพูดขึ้น
“อ้อ... พวกนาย... จะมาเอาหม้อทองคำเหมือนกันอย่างนั้นหรอ?” เขาพูดขึ้น... จริงๆ ฉันไม่อยากจะพูดประโยคนี้หรอกนะ... แต่มันต้องพูดจริงๆ...
หมอนี่หล่อชะมัด O_O!!
“ใช่ พวกเราจะมาเอาหม้อทองคำ!~” ลูฟี่
“คงไม่ได้หรอกนะ เพราะเราก็ต้องการหม้อทองคำเหมือนกัน” เขาพูดขึ้น
“อ้าว... ไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉันจะเป็นคนเอาหม้อทองคำไปเอง” ลูฟี่ฉีกยิ้มกว้าง
“นาย... ชื่ออะไรนะ... ลูฟี่ใช่มั้ย” เขาถามขึ้น ลูฟี่หุบยิ้มแล้วพยักหน้า
“ใช่ ฉันชื่อลูฟี่” ลูฟี่
“อืม... ฉันชื่อราชันย์ ยินดีที่ได้รู้จัก” เขาพูดแนะนำตัวเอง ลูฟี่นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะฉีกยิ้ม
“อื้ม ยินดีที่ได้รู้จัก ^^” ลูฟี่
“เมื่อกี้ฉันได้ยินอะไรแววๆ นะ นั่นลูกสาวนายหรอ” ราชันย์หันหน้าไปมองทางพ่อของรีเทล พ่อของรีเทลหันหน้าไปมองเขากลับ แล้วพยักหน้ารับช้าๆ
“ไปหาลูกสาวซะสิ ไม่ได้เจอกันนานไม่ใช่หรอ” ราชันย์
พ่อของรีเทลลุกขึ้น แล้วเดินเข้ามาหารีเทล ก่อนจะสวมกอดรีเทลอย่างคิดถึง... อะไรเนี่ย =[]=!!?
ให้เดินมาหากันง่ายๆ เลยหรอ! ดูจากแววแล้วเหมือนพวกนี้จะลักพาตัวพ่อของรีเทลมาไม่ใช่หรอ แต่ทำไมถึงยอมให้เดินไปหารีเทลง่ายขนาดนั้น แล้วก็ไม่ทำร้ายด้วย... บ้าไปแล้ววว =[]=!!
“พ่อคิดถึงลูกมากเลย!” พ่อของรีเทล
“หนูก็คิดถึงพ่อ!” รีเทลกอดพ่อของเธอแน่นแล้วเริ่มร้องไห้
“ไม่เจอกันตั้งนาน สวยขึ้นเยอะเลยนะรีเทล” พ่อของรีเทลพูดแล้วยิ้ม
“พ่อคะ... หนูมาหาพ่อตามสัญญาแล้วนะคะ...” รีเทล
“อื้ม...” พ่อของรีเทล
“เฮ้ๆ อะไรกันเนี่ย ทำไมมันง่ายแบบนี้ล่ะ” อุซปถามขึ้นอย่างงงๆ ใช่ ฉันก็งง =[]=!!
“ง่ายยังไงหรอ?” พ่อของรีเทลหันมาถามอุซป
“ก็เหมือนคุณ... ถูกจับตัว แต่ไหง... ถึง เอ่อ... มาหาง่ายๆ อะไรเนี่ย งงชะมัด =O=!!” อุซป
“ก็ถูกลักพาตัวมาจริงๆ นั่นแหละ” พ่อของรีเทลพูดเสียงเรียบ
“อ้าว แล้วทำไม =[]=!!...” อุซป
“ทำไมล่ะ ฉันก็แค่ปล่อยให้ไปเจอลูกสาวที่ไม่เจอกันมานานก็เท่านั้นเอง... มันไม่ถือว่าถูกลักพาตัวแล้วหรอ” ราชันย์ถามขึ้น... อะไรเนี่ยยย =[]=!!?
“ก็ถ้าถูกลักพาตัวก็ต้องทำตามที่คนจับสั่งสิ ต้องห้ามขยับตัว! ห้ามหนี ไม่งั้นตาย! อะไรแบบนี้น่ะ แต่นายไม่เหมือนอย่างนั้น =[]=...” อุซป
“ก็... ไม่ได้ปล่อยตัวไปซักหน่อย” ราชันย์
จะเถียงยังไงดีเนี่ย... หมอนั่นก็พูดถูกนะ... ไม่ได้ปล่อยไป แต่ลักพาตัวได้เหมือนพาเดินทัวร์มากกว่ายังไงยังงั้น =[]=!
“แล้วคนพวกนี้คือใครกันรีเทล” พ่อของรีเทลหันหน้าไปถามรีเทล เธอยิ้มออกมาแล้วผละออกจากพ่อ
“พวกนี้คือคนที่พาหนูมาหาพ่อค่ะ” รีเทล
“หืม? เพื่อนของรีเทลอย่างนั้นหรอ” พ่อของรีเทล
“ใช่ค่ะ ^^” รีเทล
“แล้วทำไม บ้านของนายถึงสภาพเต็มไปด้วยฝุ่นอย่างนั้น ทั้งๆ ที่...” ซันจิถามขึ้นบ้าง
“ก็ตอนแรกหมอนั่นขัดขืนการลักพาตัว... ฉันก็ใช้กำลังไปนิดหน่อย” ราชันย์พูดเสียงเรียบ
“ใช้กำลัง! ใช่จริงๆ ด้วย! นี่สิคนลับพาตัว นายคิดจะทำอะไรพ่อของรีเทลน่ะฮะ!” อุซปตะโกนถามขึ้น
“อะไรกัน ไม่ได้จะทำอะไรซักหน่อย ก็แค่อยากให้หมอนั่นบอกที่ที่ปลายสายรุ้งจะตก แล้วเราก็จะเอาหม้อทองคำไป ก็แค่นั้น” ราชันย์พูดพร้อมทำหน้าตาใสซื่อ... หมอนี่... คิดง่ายไปมั้ยเนี่ย =[]=!!!
“ก็บอกว่าไม่ได้ไง หม้อทองคำน่ะเป็นของพวกฉัน” ลูฟี่
“...ใครหาเจอก่อนก็ได้ไปสิ” ราชันย์
“อื้ม งั้นก็ได้” ลูฟี่ตอบสั้นๆ
พวกนี้มันพูดกันง่ายๆ แบบนี้เลยเนี่ยนะ =[]=!!!
ฟิ้วววว~
ลมพัดมาน้อยๆ แต่มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ฉันเงยหน้ามองที่ท้องฟ้า เมฆแบบนี้มัน!
“ทุกคน หาที่เกาะเร็ว ลมแรงกำลังจะมา!!” ฉันตะโกนขึ้น ลม... ลมแรงมากๆ กำลังจะเข้ามา
ทุกคนรีบหาที่ยึดตามที่ฉันบอก มีเพียงแต่พวกราชันย์ รีเทลและพ่อของรีเทลเท่านั้น ที่ยืนงงมองหน้าพวกเรา
“พวกนายทะอะระ...!!!”
พรืดดดดดดด!!!
ลมแรงมหาศาลพัดเข้ามาหาเราอย่างรวดเร็ว ขนาดฉันที่เกาะต้นไม้อยู่ยังแทบจะปลิวไปด้วย อะไรเนี่ย!! ทำไมลมมันแรงแบบนี้!!
“เหวออออออ”
พวกของราชันย์ร้องอย่างตกใจ แต่ละคนปลิวกันไปคนละทาง รีเทลกับพ่อของรีเทลที่ตอนแรกเกือบจะปลิวไปด้วยเหมือนกัน ถูกลูฟี่คว้าตัวเอาไว้ทัน ทำให้ไม่ปลิวไปด้วย
ลมมันแรงมากเลย ทำไมกันนะ!
พรืด...
ลมแรงๆ นั่นเริ่มเบาลง พวกเราแต่ละคนค่อยๆ ปล่อยมือจากที่ยึดเกาะ ลูฟี่ระเบิดหัวเราะออกมาทันที
“ฮ่าๆๆ ลมแรงจังๆ” ลูฟี่
“ทำไมจู่ๆ ลมก็พัดมานะ” โรบิน
“ไม่รู้เหมือนกันแฮะ” โซโล
“คุณนามิพูดอะไรก็เป็นความจริงหมดเลย คุณนามิเก่งที่สุดด~ ♥” ซันจิ
“ฮ่ะๆ...” ฉันยิ้มเนือยๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองทางพวกของราชันย์ พวกนั้นปลิวกันไปไหนแล้วเนี่ย...
“ลมแรงชะมัด อะไรเนี่ย” ราชันย์ที่หาที่ยึดไว้ทันพูดขึ้น
“ไม่รู้เหมือนกัน” พ่อของรีเทล
“แล้วทำไม... เธอถึงรู้ว่าลมจะมา...” ราชันย์หันมามองฉันอย่างงงๆ
“ไม่รู้สิ ความรู้สึกมันมองอย่างนั้น” ฉัน
“เธอนี่... น่าสนใจแฮะ รู้สภาพอากาศได้ด้วย O_o” ราชันย์
“ยัยนี่เป็นต้นหนเรือที่เก่งที่สุดของฉัน ฮ่าๆ” ลูฟี่หัวเราะชอบใจ
“ต้นหนเรืองั้นหรอ...” ราชันย์ทวนคำพูดพร้อมหันมามองฉัน
“เธอมาเป็นต้นหนเรือของฉันมั้ย ^^” ราชันย์ฉีกยิ้มแล้วถามฉัน
“นายจะบ้าหรอ!!!” ลูฟี่ตะโกนออกมาอย่างดัง ทำเอาทุกคนเหวอไปเลย และนั่นก็รวมถึงฉันด้วย =O=...
“อะไรของนาย =O=” ราชันย์
“ยัยนี่น่ะเป็นต้นหนเรือของฉันนะ นายจะมาขอไปแบบนี้ไม่ได้” ลูฟี่โวยวาย
“ก็นี่ขอแบบไม่ใช่กำลังนะเนี่ย =O=” ราชันย์
“ไม่ล่ะ... ฉันเป็นต้นหนให้เรือของลูฟี่อยู่แล้ว -__-” ฉันพูดเสียงเรียบ
“ว๊า งั้นก็แย่เลยสิ” ราชันย์ทำหน้าตาเสียดาย
“งั้นถ้าขอดีๆ แล้วไม่ให้...” ราชันย์
“งั้นฉันจะแย่งมาเอง” ราชันย์ฉีกยิ้ม
ลูฟี่นิ่งอึ้งไป เขากำมือแน่นด้วยอารมณ์โกรธ
“ฉันจะแย่งเธอมาเอง เธอชื่ออะไรเนี่ย ต้นหนเรือคนต่อไปของฉัน ^^” ราชันย์
ขอบคุณธีมสวยๆ จาก
`pink ❤queen
ถ้ามีพิมพ์ผิดก็ขอโทษนะคะ... พอดีรีบอัพ จะพยายามเข้ามาอ่าน(ของตัวเอง)
แล้วแก้เท่าที่เห็นนะคะ ♥
Free Cursors
ความคิดเห็น