คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เคยสงสัยหรือไม่ว่าความรู้สึก หิวจนตาย เป็นอย่างไร
เคยสงสัยหรือไม่ว่าความรู้สึก “หิวจนตาย” เป็นอย่างไร
“เรื่องจริงเตือนใจ สำหรับบรรดามุสลิมผู้ถือศีลอด”
“ชาวบ้านอัฟกันอดยากจนต้องกินหญ้า”
ชายอัฟกานิสถานต้องประทังชีวิตด้วยการกินขนมปังที่ทำจากหญ้าบดละเอียด
“ชาวอัฟกันจำนวนหมื่นคนต้องประสบกับความอดยากและประทังชีวิตด้วยการกินหญ้า” เจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือกล่าว
“ข้าวต้มผสมหญ้า”
“บอน นาแวช” (Bonavash) หมู่บ้านหนึ่งในเขตอับดุลลอฮฺ เจน ของอัฟกานิสถาน อาหารที่พอจะหาได้ในหมู่บ้านคือ ขนมปังที่ทำจากหญ้าบดและข้าวบาเลย์หรือข้าวต้มผสมหญ้า
เกือบทุกคนในหมู่บ้านดังกล่าวต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการท้องร่วงหรือไออย่างหนัก ตามที่นักข่าวที่เข้าไปเยี่ยมหมู่บ้านนี้ได้รายงาน
สตรีคนหนึ่งออกพร้อมกับลูกของเธอที่มีอาการท้องป่องเนื่องจากความอดอยากในหมู่บ้านบอนนาแวซซึ่งอยู่ทางเหนือของอัฟกานิสถาน
ความต้องการอาหารอย่างเร่งด่วนถูกส่งมาอย่างล่าช้า
“เรากำลังรอความตาย หากอาหารยังมาไม่ถึง หากสถานการณ์ไม่เปลี่ยนไป เราก็คงจะต้องกินสิ่งนี้ (หญ้า) จนกระทั่งเราตายไป” ฆอลัม ลอซา ชายวัย 42 ปีกล่าว เขามีอาการไออย่างหนัก และอาการปวดท้องพร้อมทั้งมีเลือดออกในลำไส้ (Bleeding bowels)
“ชาวชาดกินใบหญ้า และอาหารสัตว์ประทังชีวิต”
หมายเหตุ “ประเทศชาด” เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในแอฟริกากลาง มีอาณาเขตทางเหนือจดประเทศลิเบีย ทางตะวันออกจดประเทศซูดาน ทางใต้จดสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ทางตะวันตกเฉียงใต้จดประเทศแคเมอรูนและประเทศไนจีเรีย และทางตะวันตกจดประเทศไนเจอร์ เนื่องจากมีระยะไกลจากทะเลและมีภูมิอากาศเป็นแบบทะเลทรายเป็นส่วนใหญ่ ประเทศจึงได้ชื่อว่าเป็น “หัวใจตายของแอฟริกา” (อ้างอิง http://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศชาด)
เนคาเรมบายา คัมนโด (Nekarambaya Kamndo) ใช้มือของเขาวัดปริมาณน้ำฝน และอธิบายถึงปริมาณน้ำฝนที่ควรจะตกลงมาในแต่ละปีโดยปกติ
“มันควรจะมีปริมาณ 10 มิลลิเมตร ในนั้น” กล่าวโดยหัวหน้าวิศวกรของเมืองอัม ดัม ในเขตทรายผุพังทางตะวันออกของประเทศชาด “แต่ปีที่แล้วมีปริมาณน้ำฝนเพียงแค่ 369 มิลลิเมตร จากฝนที่ตกลงมาใน 17 วัน”
ในปี 2000 มีปริมาณน้ำฝน 596 มิลลิเมตร จากฝนที่ตกลงมา 40 วัน “ผลที่ได้รับคือความเสียหายอย่างรุนแรง คนจำนวน 2 ล้านคนต้องทนอยู่อย่างหิวโหยในช่วงเดือนมิถุนายน” OXFAM รายงานจากคำกล่าวของผู้เชียวชาญ ประเทศชาดต้องประสบกับภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดใน 50 ปี
โดย ปกติแล้วพื้นในแต่ละ 1 เฮกตาร์ (พื้นที่ 10000 ตารางเมตร) ในเมืองอัม ดัม จะให้จำนวนผลผลิตข้าวเดือยประมาณ 600 กิโลกรัม และข้าวฟ่างประมาณ 500 กิโลกรัมในช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวในเดือนกันยายน “แต่ปีนี้ ไม่มีผลผลิตออกมาเลย ไม่มีเลยแม้แต่นิด” คัมนโด กล่าว “ทุกๆ อย่างได้รับความเสียหาย” คนต่างเริ่มกินใบไม้และสิ่งที่อยู่รอบๆ หมู่บ้าน รวมไปถึงอาหารสัตว์เพื่อประทังชีวิต
ชาวกาซานประทังชีวิตด้วยการกินหญ้าและยาแก้ปวด
หนังสือ พิมพ์ “The Sunday Time” ของลอนดอน รายงานว่า หลังจากมีการสงบศึกชั่วคราวระหว่างอิสลาเอลและฮามาส สถานการณ์ในเมืองกาซากลับแย่ลง พวกเขารายงานว่า บางครอบครัวยากจนมากและพวกเขาต้องประทังชีวิตด้วยการกินหญ้า
“เราได้กินอาหารเพียง 1 มื้อ วันนี้” อบู อัมรออฺ วัย 43 ปี กล่าว พร้อมทั้งนำใบไม้ของพืชที่ปลูกตามท้องถนนของกาซาขึ้นมาให้ดู และกล่าวว่า “ทุกวัน ฉันตื่นขึ้นมา และมองหาเศษไม้ หรือพลาสติกเพื่อนำมาเผาเป็นเชื้อเพลิง และฉันก็ออกขอทาน แต่เวลาที่ฉันไม่ได้กลับมาอะไรเลย พวกเราก็กินหญ้าพวกนี้กัน”
อบู อัมรออฺและและสามีที่ตกงานของเธอมีลูกสาว 7 คนและลูกชายอีก 1 คน บ้านช่องลมเล็กๆ ของพวกเขาไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเหลืออยู่ เพราะพวกเขาเพิ่งจะนำตู้ใบสุดท้ายมาเผาเพื่อผิงไฟคลายหนาว
“ฉัน จำไม่ได้ว่าผลไม้เป็นยังไง” รอบับวัย 12 ปี กล่าว เธอจะออกจากบ้านไปกับแม่ในตอนเช้าตรู่เพื่อคุ้ยหาอาหารตามกองขยะ เธอแต่งกายด้วยเสื้อวอร์มและกางเกงยีนที่มีรูขาด และเดินเท้าเปล่า
สำนักข่าว AP รายงานว่า จำนวนชาวกาซาที่ต้องอาศัยยาแก้ปวดเพื่อหนีปัญหาของพวกเขากำลังเพิ่มขึ้น อย่างน่าเศร้าใจ
“หลังจากการปฏิวัติ ผมรู้สึกกลัวกับสิ่งที่เราต้องเผชิญ” เขากล่าว “มันไม่เหลือความหวัง และคุณก็ต้องหาอะไรเพื่อดับความกลัวของคุณ ผมลองมันครั้งหนึ่ง และมันก็ได้ผล และตอนนี้ผมก็ยังกินมันอยู่”
“ชาวไฮติประทังชีวิตด้วยการกินดิน”
มันเป็นช่วงเวลาอาหารกลางวัน ในย่านแออัดที่แย่ที่สุดแห่งหนึ่งในเฮติ และชาร์ลีน ดูมัส กำลังกินดินโคลน
ด้วย เพราะค่าอาหารที่สูงขึ้น ชาวไฮติที่ยากจนอย่างมากจึงไม่สามารถที่จะซื้อแม้แต่อาหารสักหนึ่งจานได้ บางคนก็ต้องหาวิธีใดวิธีหนึ่งเพื่อเติมเต็มท้องที่ว่างเปล่าของพวกเขา
ชาร์ลีน วัย 16 ปี พร้อมกับลูกชายวัย 1 เดือน ก็ต้องเผชิญความอดอยากดั้งเดิมที่ชาวเฮติต่างต้องประสบ
คุกกี้ที่ทำจากดินแห้งสีเหลืองจากที่ราบสูงส่วนกลางของประเทศ
“โคลน” ถือเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับสตรีมีครรภ์และเด็กๆ ที่นั่น เพราะมีสารลดกรดและเป็นแหล่งแคลเซียม แต่ในสถานที่เช่น Cité Soleil ย่านแออัดแถวชายฝั่งที่ชาร์ลีนอาศัยอยู่ในบ้านที่มีเพียงสองห้อง และต้องแบ่งกันอยู่ พร้อมกับลูกของเธอ พี่น้องของเธอ 5 คน และ ผู้ปกครองตกงาน 2 คู่ คุกกี้ที่ทำจากดิน เกลือ และผักกลายเป็นอาหารประจำวันของพวกเขา
“ตั้งแต่แม่ฉันไม่ได้ทำอาหาร ฉันก็ต้องกินดินพวกนี้สามมื้อต่อวัน” ชาร์ลีนกล่าว ขณะที่ลูกของเธอชื่อ “วู้ดสัน” กำลัง นอนอยู่ระหว่างตักของเธอ ร่างกายของเขาดูผอมกว่าเด็กแรกเกิดโดยทั่วไป (ที่มีน้ำหนัก 3 ปอนด์ 3 ออนซ์ หรือ 2.7 กิโลกรัม 85 กรัม)
ลอง ถามตัวเราเองดูสิ เมื่อไหร่ที่เป็นครั้งสุดท้ายที่เรากล่าวขอบคุณผู้ทรงสร้าง ผู้ประทานสิ่งต่างๆ ผู้ทรงช่วยเหลือเรา ประทานแก่ซึ่งอาหารรสชาติดีๆ และสิ่งต่างๆ ที่เพียบพร้อม (สมุนไพรเครื่องเทศและส่วนประกอบอาหารมากมายเพื่อเพิ่มรสชาติ) เพื่อที่เราจะเติมเต็มมันลงใส่ท้องของเราทุกคืนโดยปราศจากความละอายใจ ??
Source http://www.facebook.com/notes/strangers/have-you-ever-wondered-what-its-like-to-be-starving-to-death/414758986246
ถอดความ : بنت الإسلام
ความคิดเห็น