ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องเล่าเตือนใจ

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11 นิทานเรื่อง...3 สหาย

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 58



    Shira kuma


     

     

    นิทานเรื่อง.....3 สหาย

     

                    เรือใบลำใหญ่ กำลังแล่นอยู่กลางมหาสมุทรแปรซิฟิก คลื่นพายุลมแรงกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที...ภายในเรือลำนี้ มี 3 สหาย ผู้ ซึ่งกำลังตกอยู่ในอันตราย ประกอบไปด้วย นายอิสลาม นายความสุข และนายรุ่งเรือง ทั้งสามคนนี้เป็นสหายที่รักกันมาก แต่การเดินทางครั้งนี้ จำเป็นจะต้องมีใครสักคนเสียสละชีวิตลงจากเรือไป เพื่อให้เรือลอยลำสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย...

                     เมฆก้อนใหญ่รวมตัวปกคลุมท้องฟ้าจนมืดสนิท คลื่นทะเลยักษ์กำลังถาโถมเข้ามา เกือบถึงเรือลำนี้ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เป็นช่วงเวลาสำคัญที่มีใครบางคนอยู่ และใครบางคนต้องกระโดดลงจากเรือไป...

                    นายอิสลามพูดขึ้นว่า เมื่อถึงสถานการณ์คับขันจริงๆ เราจะเป็นคนแรกที่กระโดดจากเรือไป เพื่อพวกนายทั้งสองจะได้มีชีวิตอยู่บนเรืออย่างปลอดภัย

                    นายความสุขได้ยินเช่นนั้นจึงรีบพูดขึ้นว่า นายคิดดีแล้วหรอ ถ้าเรือลำนี้ขาดเสาหลักอย่างนายไป มันจะแล่นต่อไปได้นานแค่ไหน เราอยู่ไม่ได้โดยไม่มีนายนะ ความสุขก็คงไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง คงเป็นแค่ความสุขจอมปลอมอย่างแน่นอน

                    นายรุ่งเรืองได้ยินเช่นนั้นจึงรีบพูดขึ้นว่า เราว่านายอิสลามคิดถูกต้องแล้วล่ะ  เรือลำนี้ต้องเดินทางอีกไกล ต้องเจริญก้าวหน้าอีกเยอะ นายเป็นพวกหัวโบราณ อยู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก

                นายความสุขไม่พอใจที่นายรุ่งเรืองกล่าวดูหมิ่นนายอิสลามเช่นนั้น จึงพูดขึ้นว่า..“นายนั่นแหละคือคนที่มีค่ากับเรือลำนี้น้อยที่สุด ไม่จำเป็นต้องมีนาย เราก็อยู่กันอย่างสงบและพอเพียงได้

                ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งไปกว่านี้ นายอิสลามจึงพูดขึ้นว่า  เราเข้าใจดีว่านายทั้งสองต่างก็มีคุณค่ากับเรือลำนี้แตกต่างกันไป นายความสุขก็เติมเต็มรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ส่วนนายรุ่งเรืองก็สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับเรือลำนี้ได้กินดีอยู่ดี มาโดยตลอด ส่วนตัวเราเองนั้น คงเป็นแค่เสาหลักเก่าๆที่ไม่ค่อยมีใครเห็นคุณค่า หลายคนรู้จัก แต่ไม่เคยเข้าใจ หลายคนเลื่อมใส แต่ไม่เคยศรัทธา.... 

                ไม่ทันที่นายอิสลามจะพูดจบ คลื่นยักษ์ก็โถมกระหน่ำเข้าใส่เรือใบในชั่วพริบตา ลำเรือค่อยๆเอียงเกือบจมลงสู่ใต้ท้องน้ำ นายรุ่งเรืองเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงตัดสินใจผลักนายอิสลาม ตกลงน้ำทะเลไป

                    ด้วยน้ำหนักที่น้อยลงทำให้เรือใบค่อยๆเอียงลำเรือกลับสู่สภาพปกติอีกครั้ง และสามารถแล่นต่อไปได้...แต่ก็ยังโคลงเคลง หยุดจอดเป็นระยะๆ เพราะความไม่ลงรอยกันของนายความสุข กับนายรุ่งเรือง นายความสุขก็มัวแต่เฮฮา ไร้สาระ เพราะขาดหลักยึดเหนี่ยวอย่างนายอิสลาม ความสุขที่เกิดขึ้นจึงเป็นเพียงภาพลวงตา ที่หามีคุณค่าไม่! ส่วนนายรุ่งเรืองก็เริ่มขาดความซื่อสัตย์และความมีคุณธรรม โกงกินทุกวิถีทาง กอบโกยผลประโยชน์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เรือลำนี้กำลังแล่นออกจากจุดหมายไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าชะตากรรมข้างหน้าจะเป็นเช่นไร 

                    ผ่านไปไม่นานความปั่นป่วนก็เกิดขึ้นบนเรืออย่างไม่หยุดหย่อน จนในที่สุดเรือลำนี้ก็ไม่สามารถแล่นต่อไปได้ และอับปางลงในที่สุด

                    ห่างจากกลางทะเลไปมีเกาะเล็กๆอยู่เกาะหนึ่ง ผู้คนที่นี่มีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปมาก จากเคยเคารพบูชาผีสางเทวดา ก็เริ่มใช้สติปัญญาเรียนรู้ถึงการมีอยู่ของพระเจ้า  เชื่อว่าอัลลอฮฺคือพระเจ้าแห่งสากลโลก เลิกพิธีกรรมบูชาเจว็ด มาปฏิบัติการละหมาดเพื่อขอบคุณต่อพระองค์ที่ได้ให้แนวทางที่เที่ยงแท้กับพวกเขา ...ตั้งแต่นายอิสลาม ถูกพัดเข้ามาติดที่เกาะแห่งนี้.. หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มเปลี่ยนไป สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับคนบนเกาะเป็นอย่างมาก            เมื่อ ความเป็นอิสลามไปอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด ความศิวิไลต์ ย่อมเกิดขึ้น ผู้คนอยู่กันอย่างมีความสุข เป็นความสุขเพื่อพระเจ้าที่จีรังยั่งยืนจนไม่อาจประเมินค่าได้ และอีกไม่นานความรุ่งเรืองก็จะตามมา โดยไร้ซึ่งความหายนะอย่างที่เคยประสบกับเรือใบในคราวที่ไร้ซึ่ง นายอิสลาม....



    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า......

    หากไม่มีอิสลาม เราคงอยู่ไม่ได้

    เหมือนกับเรือใบที่สักวันหนึ่งต้องอับปางลง

    จงมีชีวิตอยู่เพื่ออิสลาม!  อยู่เพราะอิสลาม! และอยู่อย่างอิสลาม !

    อินชาอัลลอฮฺ เราจะพบความสุข และความรุ่งเรืองที่แท้จริง.......

     


    Power of Islam

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×