ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อัลกอ(ริทึม) หรือจะทึม ภาคอนาคต

    ลำดับตอนที่ #2 : ไก่ก็งอนเป็นนะ

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 51


    ขออภัยที่หายไปนานนะคะ ^^  ช่วงนี้หัวไม่ค่อยมีจินตนาการเท่าไร่ค่ะ 
    มาอ่านต่อดีกว่าค่ะ
    ================ O_O ===============



        "
    เฮ้อ  อะไรมันจะเซ็งปานนี้เนี่ย"  มือซ้ายแกว่งตะกร้าจ่ายตลาดไปมา  มือขวาเกาหัวด้วยความหงุดหงิด  เรียกจุดสนใจจากคนที่กำลังจูงสุนัขเดินเล่นมายังตัวเองได้ไม่ยาก 

              "อะไร  ไก่แจ้เบื่อโลกปานนั้นเชียวหรือ"  เจ้าของสุนัขขนสีแดงจัดจ้านแซวเล่นมาจากด้านหลัง

              "โธ่  เจ๊ไม่ต้องมายุ่งเลย  วันนี้อารมณ์เสียสุด ๆ ไม่มีอารมณ์เล่นด้วย"  หน้าขาว ๆ ใส่แว่นกลมบ๊อกหันมาทำตาเขียวใส่ 

    แม้นจะทำตัวเหมือนเด็กแต่ก็เป็นเป้าหมายสำหรับสาว ๆ แถวนั้นที่จ้องกันตาเป็นมัน  ความหล่อใช่ย่อยที่ไหนล่ะ  หน้าขาวเรียวเข้ากับคิ้วหนาบนดวงตาสีน้ำตาลเข้มใส  ปากสีสวยเป็นเอกลักษณ์ 

              "ฮ่ะ ฮ่ะ  ไก่ตัวน้อยเอ้ย  ไม่กี่ปีก่อนยังติดฉันแจ  แถมร้องตามอีกว่า "พี่มะลิ   ไปด้วยเราตัวติดกันนะ"  ตอนนี้เราตัวไม่ติดกันแล้วเหรอจ้า"  มือสวยข้างซ้ายเอื่อมมาจับหัวเจ้าเด็กตัวน้อยเมื่อหลายปีที่แล้วโยกไปมา

              มือข้างนี้ที่สวมแหวนแวววาวสีชมพูอันเป็นแผลใจของไก่แจ้เป็นตัวย้ำให้อารมณ์เสียมากขึ้น  

    แต่คนที่อยู่ข้าง ๆ เป็นพี่สาวแสนสวยที่เคยรักยิ่งกว่าใคร  คนอารมณ์เสียจะกล้าทำอะไรเล่าได้แต่มองด้วยสายตาประชดแกมเศร้าเท่านั้น

                    หือ  งอนอะไรเนี่ย  ความที่เคยคุ้นกันมานานจึงไม่ยากเลยที่จะสังเกตอาการออก

                    เปล่านี่ แค่เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ น่ะ งานก็ไม่คืบหน้าเท่าไหร่ เพิ่งจะเรียนจบมาแท้ ๆ ทำไมความจำสั้นก็ไม่รู้คิดอะไรไม่ออกเลย  ทฤษฎีทั้งหลายก็ลืม ๆ ไปแล้ว  จะทำไรทีต้องเปิดหนังสือที  น่าเบื่อมาก ๆ  จากการเถียงกันแก้เซ็งนิดหน่อยอันเป็นตัวชูรสให้หายอารมณ์เสียได้ไม่ยาก

                    อืม  น่านะ  มันก็เป็นเรื่องธรรมดานี่  พี่เรียนจบมากว่าจะปรับตัวเข้ากับงานได้ก็แทบตายเหมือนกัน 

    อาชีพนักพัฒนาเทคโนโลยีฟื้นฟูธรรมชาตินั้น  ต้องใช้เวลาเรียนรู้นานพอดูที่จะเข้าในใจสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวยให้มนุษย์ที่เห็นแก่ตัวอย่างเหลือร้าย  ทำลายธรรมชาติทุกอย่าง  เป็นการยากที่จะทำให้สภาพแวดล้อมกลับไปสมบูรณ์อย่างที่คนสมัยก่อนได้บันทึกไว้ในสมุดเล่มเหลืองอันเป็นมรดกชิ้นสำคัญ 

    แต่มันไม่เหมือนกันนะ  ของพี่น่ะมันฟื้นฟูธรรมชาติ  ต้นไม้  ลำธาร  สภาพแวดล้อมต่าง ๆ นานา  แต่ของผมมันต้องหมั่นฝึกจิตเพื่อเอาไปรักษามนุษย์นะครับ  หน้ามุ่ยบ่นไปพร้อมหยิบรายการในตะกร้าที่ต้องซื้อมาอ่านอีกรอบ

                    ก็ขยันมาก ๆ สิ  มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนที่สุดนะ..

    โธ่  มันไม่ได้ขยันได้ง่าย ๆ นะ  ไก่แจ้เถียงแบบไม่ยอมใคร 

    การเข้าถึงจิดใจแต่ล่ะคนก็ยาก  แถมไม่มีใครเหมือนกันอีกต่างหาก  ในหนังสือทั้งหลายน่ะ  ใช้ไม่ได้หรอกต้องหมั่นเข้าไปนั่งคุยนั่งถามผู้มาให้รักษามาก ๆ ไง  พูดมาไม่มีใครเถียงสร้างความแปลกใจให้คนพูดต้องหันไปมอง

    ดวงตาสีน้ำตาลหันมาจ้องแบบไม่อายใครทำให้คนพูดต้องคิดทวนก่อนพูดต่อ 

    ไก่แจ้จะได้พัฒนาด้านมนุษยสัมพันธ์ให้มากขื้นด้วยไงจ๊ะ  คำส่งเสริมทั้งหลายเหมือนพี่สอนน้องยั้งให้ความหงุดหงิดที่เกือบจะหายไปกลับมาอีกรอบ

                    ผมรู้น่า  ก็เพราะงี้แหละ  ผมถึงเกลียดการเข้าไปมีปฎิสัมพันธ์กับมนุษย์ที่เข้าใจยากทั้งหลาย  ผมไม่น่าคิดผิดเลยรู้ยังงี้เลือกเรียนที่มันเกี่ยวกับการรักษาสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์เสียก็ดีหรอก  คำบ่นสุดท้ายก่อนเดินเลี้ยวเข้าร้านขายขนมขึ้นชื่อของเมืองนี้ไปไว้กินเวลาหิวตอนทำงานดึกดื่น

                    ปล่อยให้สาวสวยจูงสุนัขมาเดินเล่นต้องยืนเก้ ๆ กัง ๆ  คิดอยู่นานว่าจะรอหรือจะเดินจากไปซื้อของร้านอื่นเลย

                    ให้มันได้อย่างนี้สินะ  ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเราดูแลน้องผิดวิธีหรือไง  ถึงได้คิดไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองอย่างนี้เนี่ย  แต่เอาเถอะซักวันหนึ่งเมื่อเผชิญกับโลกกว้างมากหน่อยก็คงจะเข้าใจเองว่ามนุษย์น่ะ  ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นตรงไหน  ไม่ว่าอะไรในโลกก็มีทั้งดีและชั่วทั้งนั้นแหละนะ  น้อยเอ๋ย  เสียงกระซิบเบาอยู่หน้าร้านก่อนจะเดินตรงไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่แรก

                    หลังจากเดินวนไปวนมาหยิบนู่นหยิบนี่จนพอใจแล้ว 

    ก่อนที่จะถึงจุดจ่ายเงินไก่แจ้ต้องหยุดยืนอ่านป้ายโฆษณาขายขนมแปลกจากแบบอื่นหลายรอบ 

    เป็นไปได้ไงเนี่ย  อันไม่น่าเชื่อว่าอัฉริยะอย่างแมวม่วงที่เป็นชื่อเลื่องลือกันในหมู่เด็กเรียนรุ่นเดียวกันกล่าวขวัญกันมานาน  จะทำขนมยี่ห้อชื่อตัวเองขายซะนี่ 

    กล่องขนมใสมองเห็นลูกกลม ๆ สีสรรต่างกันออกไปอยู่มากมายในกล่อง  บนกล่องแปะตรายี่ห้อเป็นแมวน้อยสีม่วงน่ารัก 

    รุ่นของไก่แจ้เป็นเด็กพิเศษทุกคนที่ได้รับการคัดเลือกมาจากทั่วประเทศมีสมาชิกแค่ไม่ถึงยี่สิบคน  เพื่อนกันย่อมจำได้อยู่แล้ว  คนนี้จบก่อนคนอื่นเป็นปีแถมยังเป็นระดับคะแนนสูงสุดในวิชาเอกคอมพิวเตอร์ที่เลือกได้อิสระ

    ไหงมาทำขนมขายแทนเป็นอาจารย์สอบพิเศษไปแล้วหรือ

                    จะรับกล่องขนมไทยตราแมวม่วงไหมคะ  เสียงถามดึงให้ไก่แจ้ตื่นจากการคิดทวนใบหน้าเพื่อน ๆ ทั้งหลาย

                    ครับ  เอากล่องหนึ่งครับ

                    อันนี้เป็นขนมแบบใหม่ค่ะ  ข้างในเป็นขนมไทยชนิดต่าง ๆ นำมาทำเป็นก้อนกลมแล้วเคลือบด้วยเปลือกชนิดพิเศษกินได้ค่ะ  ช่วยให้ไม่เสียในเวลาสองปีโดยไม่ต้องใช้สารกันเสียค่ะ  พนักงานโฆษณาสินค้าไปตามที่ท่อง

                    หือ  สองปีโดยไม่ใส่สารกันเสียเหรอ  ทำได้ไงเนี่ย  สีหน้าพิศวงแสดงออกอย่างแจ่มชัด

                    เป็นฝืมืออาจารย์บรรจงค่ะ  ท่านคิดให้หลานสาวเก็บขนมไว้ทานได้นาน ๆ  คนสวมชุดสีน้ำเงินเข้มป้ายที่หน้าอกบอกให้รู้ว่าเป็นผู้จัดการร้าน

                    แล้วทำไมเป็นตราแมวม่วงล่ะครับ  หลังจากหยิบกล่องขนมมาดูใกล้ ๆ จึงได้เอ่ยถาม

                    คุณแมวม่วงเป็นคนทำกล่องบรรจุน่ะค่ะ  เป็นการร่วมมือกันเพื่อลองนำขนมแบบใหม่มาขายให้คนไทยเรารักที่จะทานขนมไทยมาขึ้น  การผสมโฆษณาลงไปในบทสนทนาด้วยนี่ช่างเป็นเอกลักษณ์ของคนขายของจริง ๆ

                    อืม  แล้วที่เป็นสี ๆ ต่างกันนี่  คืออะไรครับ  ไก่แจ้ตั้งคำถามอย่างคนอยากรู้

                    สีของขนมภายในค่ะ  อย่างสีทองเป็นเส้นๆ นั่นคือ ฝอยทอง  สีเขียวเป็นชั้นสลับกับสีขาว  คือ  ขนมชั้น

                    ครับ  ขอบคุณที่แนะนำนะครับ 

                    เสียงโฆษณาที่ฟังจนเบื่อแบบนี้ใครจะอยากคุยด้วยกัน  เดี๋ยวไปถามอาจารย์ก็ได้ 

    รอยยิ้มเผยขึ้นเมื่อหาเหตุไปพบคนที่ตนคิดถึงที่มหาวิทยาลัย  และชวนให้ทบทวนการทะเลาะกันอย่างไร้สาระเมื่อไม่กี่วันมานี้ 

    ตัวเค้าเองสิควรจะไปเอ่ยขอโทษเรื่องในวันนั้น  ความเป็นสุภาพบุรุษมีมากพอที่จะไม่ถือเรื่องไร้สาระมาให้มองหน้ากันไม่ติด

     

     

     ########## *=* ######################

    ไม่รู้ว่าแต่งมานี่เป็นยังไงบ้าง  ถ้าอ่านแล้วกรุณาแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×