ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic HP]"I love you...Who you love?" [ SS x HP , DM x RW]

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 2 ป่าต้องห้าม

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 59


    เช้าวันรุ่งขึ้นนักเรียนปี 7 ทุกคนต่างก็มาพร้อมกันที่ห้องโถงใหญ่ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการทดสอบที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีนี้ ทุกคนต่างตื่นเต้นกับการทดสอบครั้งนี้ มีเพียงสามเพื่อนซี้แห่ง กริฟฟินดอร์เท่านั้นที่ไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นด้วยเลย สาเหตุก็คงหนีไม่พ้นบรรดา "คู่" ของพวกเขาแน่


    "ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ นักเรียนปี 7 มีตั้งหลายคน บรรดาอาจารย์ก็มีไม่น้อย ทำไมพวกเราถึงซวยอย่างนี้นะ" เจ้าหนุ่มผมแดงเริ่มเอ่ยวจีเป็นคนแรก 

    "
    อย่าพูดสิรอน ฉันยิ่งเครียด ๆ อยู่ โอ๊ย...ฉันว่าฉันต้องโดนสเนปหักคะแนนกระจายแน่" แฮร์รี่ซึ่งหน้าบูดอยู่แล้ว กลับบูดหนักขึ้นไปอีกเมื่อคิดถึงสเนป 

    "
    ไม่หรอกแฮร์รี่ เธอแค่ไม่ทำอะไรผิด เขาก็หักคะแนนเธอไม่ได้หรอก" เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งยืนเงียบอยู่นาน (ขอ) พูดบ้าง 

    "
    ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอกนะ เธอจำไม่ได้หรอเมื่อวานฉันโดนหักคะแนนข้อหาอะไร 'ทำประเจิดประเจ้อ' คิดได้ไงน่ะ" แฮร์รี่ยังโอดครวญไม่เลิก 
    แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้โอดครวญอะไรต่อ เสียงของ ศ.มักกอนนากัล ก็ดังขึ้น 

    "
    เอาล่ะ นักเรียนปี 7 พร้อมคู่ของเธอให้ไปรวมกันที่นอกปราสาท จับคู่กันไปซะเลยนะ ถึงตรงนั้นจะได้ไม่ยุ่งยาก" 
    สิ้นเสียงของ ศ.มักกอนนากัล บรรดานักเรียนก็ต่างแยกย้ายกันไปหาคู่ของตนเอง มีเพียง 3 เพื่อนซี้เท่านั้นที่ไม่ขยับไปไหน

    "โถ่! ฉันไม่อยากให้การทดสอบนี้เกิดขึ้นเลย ให้ตายสิ มัลฟอยหรอ พวกนายบอกฉันซิว่าฉันฝันไป" รอนยังคงโอดครวญต่อ 

    "
    นี่วีสลีย์ นายจะให้ฉันคอยอีกนานมั๊ย คนอื่นเขาไปกันหมดแล้วนะ" เสียงยานคางของมัลฟอยดังขึ้นข้างหลังรอน เล่นเอารอนสะดุ้งโหยงทีเดียว 

    "
    มัลฟอย นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" 

    "
    ก็ทันได้ยินนายบ่นเรื่องต้องคู่กับฉันแล้วกัน นายไม่ได้ฝันไปหรอก เข้าใจแล้วใช่ไหม ไปได้แล้ว" ว่าแล้วมัลฟอยก็กระชากแขนรอนเดินออกไปทันที 

    "
    พวกเราก็ไปกันเถอะ แฮร์รี่" ว่าแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็เดินไปหาแพนซี่ทันที 

    ทางด้านแฮร์รี่ก็รีบเดินไปหาสเนปโดยเร็ว เนื่องจากรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากตัวสเนป ประมาณว่าถ้าช้ากว่านี้เจอดีแน่ หนุ่มน้อยจึงได้แค่เพียงถอนใจและเดินตามสเนปออกไป 

    เมื่อได้เวลาอันสมควร ศ.ดัมเบิลดอร์จึงขึ้นมากล่าวอะไรอีกเล็กน้อย

    "เอาล่ะ ขอให้ทุกคนตั้งใจกับการทดสอบนี้ให้ดีนะ แต่ฉันมีเรื่องที่ต้องเตือนพวกเธอทุกคน ในป่าต้องห้ามอันตรายมาก พวกเธอทุกคนต้องรอบคอบและไม่ประมาท ไม่เช่นนั้นอาจมีอันตรายถึงชีวิต หากใครได้รับอันตรายจนคิดว่าไม่สามารถผ่านไปได้แล้วล่ะก็ ยิงสัญญาณสีแดงขึ้นฟ้าทันที อาจารย์ที่เหลืออยู่จะเข้าไปช่วยพวกเธอ และที่สำคัญ...เธอต้องกลับออกมาพร้อมคู่ของเธอ หากใครกลับออกมาคนเดียว ผู้นั้นจะถูกตัดสิทธิจากการสอบ ส.พ.บ.ส. ทันที และผมขอร้องอาจารย์ทุกท่านที่ได้จับคู่กับนักเรียน ห้ามหักคะแนนนักเรียนในระหว่างการทดสอบเด็ดขาด เพื่อจะได้ไม่เกิดช่องว่างระหว่างฐานะ จะได้ร่วมกันทดสอบอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกคนโชคดี" 

    เมื่อดัมเบิลดอร์พูดจบ ศ.มักกอนนากัลก็จัดการปล่อยตัวทุกคู่เข้าไปในป่าทันที 

    "
    โชคดีนะ รอน เฮอร์ไมโอนี่" 

    "
    อืม โชคดีแฮร์รี่" 

    หลังจากนั้นต่างคนต่างก็แยกย้ายไปตามทางที่ตนเองต้องไป 

    (
    เรามาว่าคู่รอนนี่กันก่อน) 

    รอนและมัลฟอยเดินเข้ามาโดยไม่มีใครที่คิดจะเริ่มสนทนาก่อนเลย สิ่งที่พวกเขาทั้งสองทำมีเพียงอย่างเดียว คือต่างฝ่ายต่างส่งสายตารังเกียจไปยังอีกฝ่ายโดยไม่เกรงใจกัน แต่แล้วมัลฟอยก็เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาขึ้นมาก่อน

     

    “นายเดินเร็วขนาดนั้น รู้เหรอว่าของที่เราต้องหาอยู่ที่ไหน”

     

    “ไม่รู้”

     

    “ไม่รู้แล้วทำท่าเหมือนรู้เลยนะ อวดเก่งชะมัด”

     

    “แล้วนายรู้หรือไง มัลฟอย นายเองก็ไม่รู้เหมือนกันนั่นแหละ อย่ามาทำเป็นว่าคนอื่นหน่อยเลย” รอนพูดในขณะที่ยังก้าวเท้าต่อไปด้วยความรวดเร็ว (จะรีบไปไหนเนี่ย...อะไรหายเหรอจ๊ะรอนนี่) จนเริ่มทิ้งระยะห่างจากมัลฟอยขึ้นทุกที

    "แต่ฉันรู้ว่ามันอยู่ไหน" มัลฟอยตะโกนตามหลังรอนไปเพื่อต้องการให้รอนหยุดฟังเขาพูดก่อน แต่ไม่เป็นผลเพราะรอนไม่แม้แต่จะหันมามองด้วยซ้ำ จึงทำให้คุณหนูอย่างมัลฟอยต้องยอมวิ่งตามเลยทีเดียว 

    "
    เดี๋ยวสิ วีสลีย์ รอก่อน นายจะไปไหนน่ะ มันอันตรายนะ นี่นายได้ยินฉันรึป่าว โถ่เอ๊ย!" มัลฟอยยิ่งต้องเพิ่มความเร็วมากขึ้นเพราะห่วงรอนมาก และด้วยความที่มัลฟอยขายาวกว่ารอนมาก จึงสามารถตามทันในที่สุด มัลฟอยจึงคว้าข้อมือรอนไว้เพื่อไม่ให้รอนเดินหนีไปอีก 

    "
    วีสลีย์ นายทำบ้าอะไรน่ะ นี่มันป่าต้องห้ามนะ ไม่ใช่ที่ที่นายจะมาเดินคนเดียวเลย มันอันตรายแค่  ไหนรู้ไหม" เมื่ออ้าปากพูดได้มัลฟอยก็ใส่รอนเป็นชุด 

    "
    ฉันไม่กลัวหรอก (โกหก) ถึงพวกกริฟฟินดอร์จะคิดอะไรตื้น ๆ แต่พวกเราก็กล้าหาญ ไม่เหมือนเด็กบ้านสลิธิรินหรอก พวกชอบเอาตัวรอด ที่นายวิ่งตามมา เพราะกลัวว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัยใช่ไหมล่ะ" รอนก็เป็นชุดเช่นกัน 

    "
    ไม่ใช่นะ วีสลีย์ ฉันน่ะ..." 

    "
    นายไม่ต้องแก้ตัวอะไรเลยมัลฟอย นายก็เหมือนพ่อนายแหละ พ่อนายไม่อยากเดือดร้อนถึงยอมเป็นพวกกับ 'คนที่นายก็รู้ว่าใครน่ะ" รอนเริ่มใส่อารมณ์มากขึ้น

    "นายไม่มีสิทธิว่าพ่อฉันนะ วีสลีย์" มัลฟอยก็เริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง เขาห่วงรอนมาก เขาไม่เคยกลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไร แต่กลัวว่ารอนจะเป็นอันตราย แต่รอนไม่เพียงแต่ไม่ฟัง รอนยังก้าวร้าวถึงพ่อเขาอีก จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ได้สนับสนุนพ่อเขานักหรอก แต่ทำไงได้ล่ะ เวลาอยู่ที่บ้านเขาไม่เคยแสดงความคิดเห็นอะไรได้เลย เพราะพ่อของเขามีอำนาจที่สุด รอนน่ะไม่รู้หรอกว่าเขาอิจฉารอนแค่ไหน ถึงแม้บ้านรอนจะไม่รวย แต่ก็อบอุ่น ไม่เหมือนที่บ้านเขา เขาอยากให้รอนเข้าใจเขาบ้างว่าเขามีความทุกข์แค่ไหน มันทำให้ตลอดเวลาสายตาของเขาจึงมองเพียงแค่รอนเท่านั้น แต่หมอนี่กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย 

    "
    ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พ่อนายน่ะมันเลว นายก็เหมือนกัน ฉันน่ะเกลียดนาย โอ๊ย....!!!" รอนร้องเพราะรู้สึกว่าแรงบีบที่ข้อมือจะเพิ่มมากขึ้น "เจ็บ ปล่อยนะ มัลฟอย" 
    แต่มัลฟอยไม่ยอมปล่อยกลับยิ่งบีบข้อมือรอนแรงมากขึ้น รอนเจ็บจนน้ำตาซึมทีเดียว 

    "
    ฉันเตือนนายแล้วนะ วีสลีย์ นายหัดฟังคนอื่นเขาซะบ้าง ฉันว่าฉันต้องสั่งสอนนายซะหน่อยแล้วว่าการจะร่วมเดินทางกับฉันน่ะ เค้าต้องทำกันยังไง" ว่าแล้วมัลฟอยก็กระชากรอนเข้ามาเต็มแรง และประกบริมฝีปากทันที 

    "
    อืม..." รอนซึ่งโดนจู่โจมกระทันหันทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องห้ามอยู่ในลำคอ 

    มัลฟอยจูบรอนอยู่นานแสนนาน มัลฟอยควานหาความหอมหวานในปากร้อน ทั้งรอนและมัลฟอยต่างก็เคลิบเคลิ้มกับความหวานที่ทั้งสองสัมผัสได้ จนกระทั่งมัลฟอนถอนริมฝีปากของเขาออก จริง ๆ แล้วเขาไม่อยากหรอก แต่เขาคิดว่ามันมากพอแล้ว ไม่งั้นรอนคงเกลียดเขามากกว่านี้แน่ ๆ ซึ่งเขาไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น 

    "
    ไงล่ะ วีสลีย์ นายอย่าได้คิดที่จะพูดแบบนี้อีก ไม่งั้นนายจะโดนยิ่งกว่านี้แน่" มัลฟอยพูดพลางแสยะยิ้ม

    "พลั่ก!!" เสียงกำปั้นของรอนกระแทกเข้าที่หน้าของมัลฟอยอย่างจัง เล่นเอามัลฟอย ถึงกับเซเลยทีเดียว 

    "
    นายทำบ้าอะไรของนาย มัลฟอย" รอนถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ เนื่องจากความโกรธผสมความตกใจ น้ำตาของรอนไหลอกมาโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัว 

    เมื่อเห็นเช่นนั้น มัลฟอยตกใจมาก เขาไม่ต้องการให้รอนเสียใจ จนเผลอหลุดปากขอโทษไป 

    "
    ฉัน....ฉัน.....ฉันขอโทษ คือฉันไม่ได้ตั้งใจ" 

    เมื่อรอนได้ยินคำนั้น ถึงกับอึ้งไปทันที 

    '
    ขอโทษ มัลฟอยขอโทษเราเหรอ คนอย่างมัลฟอยน่ะเหรอ' เมื่อคิดได้อย่างนั้นรอนจึงอ่อนลงไปได้เยอะทีเดียว 

    ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา จนกระทั่งเมื่อรอนหมุนตัวกลับเพื่อจะเดินไป จึงมีเสียงจากอีกฝ่าย 

    "
    วีสลีย์ ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าฉันทำไม่ดี ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ขออย่างเดียว นายอย่าเกลียดฉันเลยนะ" ว่าแล้วมัลฟอยก็ก้าวนำหน้ารอนไปเลย ทิ้งให้รอนยืนอยู่ท่ามกลางความรู้สึกไม่เข้าใจตัวเองและไม่เข้าใจคำพูดของมัลฟอย

    ทางด้านแฮร์รี่ ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในป่า สเนปก็เริ่มหาเรื่องแฮร์รี่เลย เขาคอยถามนู่นถามนี่ตลอดตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในปา นี่ถ้าดัมเบิลดอร์ไม่ห้ามให้อาจารย์หักคะแนน บ้านกริฟฟินดอร์คงเหลือ 0 คะแนนไปแล้ว แต่อย่างน้อยสเนปก็รู้อะไรเยอะเกี่ยวกับของที่ต้องไปหา พวกเขาต้องไปที่ภูผารัตติกาล ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของป่าต้องห้าม นั่นแหละสเนปก็เป็นคนนำทางไป แฮร์รี่เลยไม่ต้องลำบากเท่าไหร่ 

    "
    นี่ พอตเตอร์ เธอรู้ไหมว่าดอกไม้จันทราใช้ทำอะไรได้" สเนปเริ่มถามแฮร์รี่อีกแล้ว 

    "
    ผมไม่ทราบครับ" เป็นครั้งที่ 10 ที่แฮร์รี่ตอบไม่ได้ 

    "
    แย่มาก เธอนี่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ ฉันโชคร้ายจริง ๆ ที่ต้องจับคู่กับเธอ ตัวถ่วงฉันชัด ๆ" สเนปเริ่ม    กระแนะกระแหน (ตามสไตล์) 

    "
    ผมว่าความรู้สึกเราสองคนก็ไม่ต่างกันหรอกครับ" ขันของแฮร์รี่เริ่มปริ 

    "
    ฮึ! อวดดี เธอควรจะสำนึกนะ ถ้าเธอจับคู่กับคนอื่นคงไม่สบายขนาดนี้หรอก ความดังช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอกนะในป่านี้น่ะ" สเนปยังคงพูดยั่วแฮร์รี่ต่อไป 

    "
    ให้ผมจับคู่กับโทรล์ซะยังดีกว่าเลยครับ ผมเกรงใจ ไม่อยากให้อาจารย์ลำบากใจหรอกครับ" ขันแฮร์รี่แตกไปหลายนิ้วแล้ว

    สเนปหยุดกึกทันที เขาไม่คิดเลยว่าแฮร์รี่จะกล้าพูดขนาดนี้ เด็กคนนี้ไม่มีความยำเกรงเขาเลย 

    "
    เธออย่ามาพูดแบบนี้นะ นิสัยเหมือนพ่อของเธอไม่มีผิด อวดเก่ง คิดว่าไม่มีใครในโลกนี้แล้วที่จะเก่งกว่าตัวเอง ถ้าเธอไม่ได้จับคู่กับฉันคงตายไปตั้งแต่ที่เริ่มก้าวเข้ามาในป่าแล้ว" สเนปพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ แต่แฝงด้วยอารมณ์โกรธ 

    ส่วนตัวแฮร์รี่โทสะก็ไม่ได้น้อยไปกว่าสเนปเลย สเนปว่าพ่อเขาอีกแล้ว เขายอมรับว่าพ่อเขาร้าย     กาจกับสเนปมาก เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกยกย่องการกระทำของพ่อเขา แต่เขาก็ทนไม่ได้อยู่ดีที่จะให้ สเนปมาว่าพ่อเขาอย่างนี้

    "ถ้าผมจะตายเพราะเข้าป่าต้องห้าม ผมคงตายไปหลายครั้งแล้วล่ะครับ คงไม่มายืนให้คุณว่าผมได้อย่างนี้หรอก แล้วคุณก็เลิกลามปามพ่อผมได้แล้ว คุณจะว่าผมก็ว่าไป ถ้าคุณลามปามพ่อผม ผมก็จะไม่เกรงใจคุณอีกแล้ว" เสียงแฮร์รี่เริ่มดังขึ้น 

    "
    อย่าว่าแต่ว่าเลย พ่อเธอน่ะ ถูกฉันฆ่ามันก็ยังไม่สาสมกับสิ่งที่เขาทำกับฉันไว้หรอก เธออย่าได้คิดว่าพ่อของเธอเป็นคนดีล่ะ เพราะเขาน่ะเลวร้ายที่สุด" สเนปโกรธจนตัวสั่น 

    เกิดความเงียบขึ้นเมื่อสิ้นเสียงของสเนป แฮร์รี่จ้องตาสเนปเขม็ง และก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว 

    "
    ผมเกลียดคุณ" ว่าแล้วแฮร์รี่ก็เดินจากไปทันที 

    '
    เกลียดหรอ ฉันรู้อยู่แล้วล่ะ รู้ว่าเธอน่ะเกลียดฉัน เหมือนที่หมอนั่นเกลียดฉันไง

    สเนปมองตามแฮร์รี่ที่เดินไปอย่างรวดเร็ว เค้าถอนหายใจอย่างหนักหน่วงและตัดสินใจรีบเดินตามแฮร์รี่ไป 

    TBC

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×