แสงตะวันยังมีให้เห็น :)))) - แสงตะวันยังมีให้เห็น :)))) นิยาย แสงตะวันยังมีให้เห็น :)))) : Dek-D.com - Writer

    แสงตะวันยังมีให้เห็น :))))

    ปลายนา หญิงสาวผู้โชคร้าย เธอจะต้อพบเจอกับช่วงชีวิตที่โหดร้ายเพียงไร!!!!!! เทอกำลังฝากชีวิตของเธอไว้กับชายผู้ที่เธอรักจนหมดหัวใจ เขาจะช่วยเธอได้หรือไม่ !!!

    ผู้เข้าชมรวม

    179

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    179

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ส.ค. 55 / 01:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      การเดินทางของเธอในเช้าวันใหม่ที่เต็มไปด้วยหมอกควันคละคลุ้งทั่วท้องแผ่นฟ้า ช่างเป็นการต้อนรับเธอที่เธอแสนจะมีความสุข

                      การเดินทางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังจากแสงอาทิตย์แสงแดดสีทองอ่อนๆที่ส่องแสงกระจายไปทั่ว กลิ่นดินอ่อนๆหอมอบอวนให้ชวนค้นหา การเดินทางของเธอที่เธอต้องเดินก้าวไปข้างหน้าเพื่อพบกันกับวันที่ดีกว่า เพื่อพบกับแสงอาทิตย์ที่เขาจะตื่นขึ้นมาแต่งตัวต้อนรับฉันทุกเช้าไม่เคยหายไปไหน


      ปลายนาหญิงสาวที่พบว่าตัวเองนั้นเป็นโรคร้ายแรงชนิดหนึ่ง เธอได้ตื่นขึ้นมารับแสงอาทิตย์อ่อนๆที่เธอบอกกับตัวองไว้เสมอว่าเธอคือความหวังของแสงตะวันในยามทิวา เขากำลังรอให้เธอเดินทางไปข้างหน้าเพื่อพบกับความเป็นจริงของชีวิตที่เธอไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ พบกับอนาคตในวันข้างหน้าที่เขาจะตื่นมารอเธอเสมอ แม้ว่าวันนี้เธอจะเป็นอย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะต้องต่อสู้กับโรคร้ายแรงสักเพียงไหน

                      สายลมที่กำลังเริงร่ากับเช้าวันใหม่กำลังเล่นเต้นระบำกันอย่างสนุกสนานพักพาผมยาวสลวยสีน้ำตาลแก่ๆที่ดูเงางามจนถึงกลางหลังของเธอให้ลอยขึ้นลงราวกับสนุกสนานไปกับการเต้นระบำเช่นกัน ผมสีน้ำตาลที่ยาวถึงกลางหลังของเธอช่างขับให้ใบหน้าของเธอดูเรียวยาว พร้อมด้วยดวงตาสีดำจัดที่ใครได้สัมผัสหรือมองเข้าไปในดวงตาของเธอเป็นต้องหลงใหลในเสน่ห์ของเธอเป็นแน่

                      ปลายนาเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมด้วย การศึกษา ฐานะ หน้าตา บุคคลิกภาพของเธอคล้ายอย่างนกยูง ดูสง่ามี ราศรี แต่เธอก็ไม่เคยยึดติดกับของเหล่านั้น เธอจบการศึกษาในระดับปริญญาโท ก่อนที่เธอจะรู้ว่าตัวเองกำลังเหลือเวลาอันน้อยนิดที่จะใช้ฝ่าเท้าทั้งสองข้างของเธอเหยียบย่างลงไปบนผืนแผ่นดินนี้


      หมอเสียใจด้วยนะครับ คุณเป็นโรคทาลัสซีเมีย น้ำเสียงของหมอและท่าทางของหมอดูท่าทางแล้วเครียดเอาการ

                      ทาลัสซีเมียหญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อคุณหมอประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้บอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่สลดและเศร้าสร้อย คุณหมอที่เธอกำลังจะเอาชีวิตหนึ่งชีวิตฝากไว้ในกำมือของเขานั้น คือ คนรักของเธอเอง

                      น้ำตาของทั้งสองคนเริ่มคลอเบ้าเอ่อออกมาริมขอบตาแล้วค่อยๆไหลพรากลงราวกับท้องฟ้าร้องไห้ น้ำตาของเธอมันแทนความรู้สึกทั้งหมดของเธอที่มีอยู่ในตอนนั้น เธอไม่อาจจะบรรยายหรือพูดอะไรออกมาได้หรือแม้แต่เพียงกระดกปลายลิ้น เธอกำลังรู้สึกแย่มากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

      ต่อจากนี้ไปคุณจะทำอย่างไร ปลายนาคุณหมอได้เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลและรู้สึก

      ระเอือมระอาปลายนาเต็มทน คำพูดของคุณหมอผู้เป็นที่รักยิ่งพูดแทรกขึ้นมาในขณะที่เธอกำลังทบทวนชีวิตและคิดถึงความเป็นไปในวันข้างหน้า คำพูดของหมอทำให้เธอร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะเธอรู้แล้วว่าต่อจากนี้ไปผู้เป็นที่รักสุดดวงใจจะไม่มอบความอบอุ่นและอยู่เคียงข้างเธอและสุดท้ายเธอคงจะเหลือเพียงความทรงจำสีจางๆกับแสงแดด สายลม ที่จะอยู่เคียงข้างเธอ

                      คุณคงไม่อยากใช้ชีวิตร่วมกับผู้หญิงขี้โรคอย่างฉันปลายนาได้พูดตัดพ้อ

      คุณเป็นโรคทาลัสซีเมีย คุณจะไม่มีทางหายแล้วจะให้ผมเอาชีวิตทั้งชีวิตไปแลกกับคนอย่างคุณหรือ ปลายนาคุณหมอได้พูดขึ้น


      ปลายนาไม่ได้พูดตอบโต้อะไรทั้งสิ้นเพียงแต่เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามหน้าตาอันหล่อเหลาของคุณหมอ เธอเหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นน้ำหอมจางๆที่ลอยอยู่ภายในห้องนั้น ที่เธอคิดว่ามันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะเป็นความทรงจำที่ดีระหว่างเธอกับเขา

                      คราบน้ำตา ความโศกเศร้า ที่เธอกำลังพบเจอนั้นคงไม่มีชีวิตไหนคงไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่า มหันตภัยชีวิตของเธอที่เธอต้องเจอต้องเผชิญอยู่ในตอนนี้

                      เธอมานั่งผ่อนคลายความเครียดที่สะสมดั่งคนที่อมทุกข์มาเป็นเวลานานบริเวณสวนใน โรงพยาบาล เธอนั่งมองแสงตะวันสีส้มแดงและดวงอาทิตย์ที่ค่อยๆลับขอบฟ้าไปเหมือนกับเพื่อนคู่คิดของเธอคนที่เคยบอกเธอว่าเขาจะเป็นกำลังใจให้กับเธอก็กำลังจะจากเธอไปเช่นกัน น้ำตาของเธอไหลลงอีกครั้งเธอไม่สามารถควบคุมร่างกายของเธอได้ ก่อนที่น้ำใสๆที่จะเป็นน้ำตาหยดสุดท้ายที่ไหลลงไปบนแผ่นพื้น เธอก็เกิดอาการหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษสีขาวแผ่นบางๆที่ยังไม่ผ่านการแต่งแต้มแล้วเธอก็ล้มสลบไป

                      ท่ามกลางสายลมที่ปลิวไสวและพัดผ่านไปพัดผ่านมาราวกับกำลังช่วยชีวิตหรือกำลังร้องเรียกให้คนมาช่วยหญิงสาวผู้นี้ผู้อาจจะร้องเรียกให้ใครบางคนมาช่วยเธอเพียงแต่ไม่มีลมปากของเธอออกมาก็เท่านั้นเอง

                      ร่างอันบอบบางของเธอถูกวางลงบนเตียงเหล็ก ที่มีผ้าคลุมเตียงสีขาว มีสายนั่นสายนี่เต็มไปหมด เธอขยับตัวลำบากมากร่างกายของเธออ่อนเพลียและไร้เรี่ยวแรง

                      คุณหมอทินกร เธอเรียกเขาว่าคุณหมอคนที่เธอเคยรักเขาจนหมดหัวใจ ในขณะที่เขากำลังเดินเข้ามานั้นก็เป็นช่วงเวลาที่เธอกำลังคิดอะไรไปมากมาย

                      อย่างน้อยนาฬิกาหัวใจของฉันกับเขาก็เคยเดินมาตรงกันและนาฬิกาชีวิตของฉันก็คงต้องเดินต่อไป แม้ในเวลานี้แสงตะวันจะลาลับไปแล้วแต่ฉันก็ยังมั่นใจว่าพรุ่งนี้แสงตะวันเขาก้จะตื่นมารอฉันตรวที่เดิม

      คุณหมอเดินเข้าไปหาเธอแล้วซับน้ำตาให้กับเธอ แม้ว่าผมจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุดของคุณ แต่ผมก้จะรักษาคุณเท่าที่ผมจะทำได้เธอก็ได้คิดกับตัวเองอีกว่า

                      ใครจะรู้สึกอย่างไรกับเรานั้นมันก็เป็นเรื่องของเขา หน้าที่สำคัญของคนเราคือดูแลตัวเอง เขามีหน้าที่ดูแลใจเขาส่วนใจเราๆก็ต้องดูแลเอง ฉันจะจ้องต่อสู้กับโรคร้ายนี้ให้ได้ ใจของฉันจะไม่ย่อท้อ แม้ว่าฉันจะไม่มีเขา แม้ว่าฉันจะมีวันพรุ่งนี้หรือไม่ ฉันจะใช้เวล่ทุกวินาทีของฉันให้คุ้มค่าที่สุด



      เมื่อเจอเขาทุกครั้งฉันก็ยังคงใจสั่น เพราะส่วนลึกของหัวใจนั้นมีเขาอยู่ตลอดเวลา ฉันคงไม่หลอกตัวเองอีกต่อไป และคนที่จะเป็นกำลังให้กับฉันคือแสงตะวันที่ส่องแสงในยามเช้าเพราะเขาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของแน เขาไม่เคยผิดคำสัญญากับฉัน เขาบอกว่าเขาจะมาเจอฉันทุกเช้า เขาก็มาเจอฉันทุกเช้า เขาคือคนที่ให้กำลังใจกับฉันในยามที่ฉันหมดแรง

                      ในการเดินทางของคนเรานั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องมีวันที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะช้าจะเร็วก็ต้องสิ้นสุดและการเดินทางของเธอก็คงต้องก้าวเดินต่อไปข้างหน้าเพราะเธอมีนาฬิกาชีวิตของเธอแม้มันจะเดินไปในทางที่เธอไม่พอใจ เดินวนไปวนมาหรือเดินเส้นทางไหนแต่เธอก็ต้องเดินต่อไปเพราะเธอยังมีแสงตะวันที่เขากำลังรอคอยให้เธอตื่นไปพบเขาในเช้าวันต่อไป

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×