คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Bad Guy lv.4:Evil people in the draft
หลังจากที่ฉันร้องไห้จนน้ำตาจวนจะหมดตัวแล้ว ฉันก็รีบกลับไปห้องแต่งตัวกลัวจะไม่ทันการ แต่ก็โดนเจ๊สวดยับ ว่าร้องไห้ทำไม อย่างนู้นอย่างนี้ จะให้ตอบว่าอะไรดีตอบว่าฉันเจอคนที่ทิ้งฉันเห็นแล้วมันเจ็บปวดเลยร้องไห้ดีไหม
“เอ้า เสร็จแล้วๆ อย่าไปร้องไห้อีกล่ะ ขี้เกียจแต่งให้ใหม่”
“ค่ะ”
ฉันตอบเสียงแผ่ว หลายๆอย่างเข้ามาในหัวจนฉันอยากจะหนีออกจากที่นี่เลยล่ะ แต่อีกใจก็คิดว่าจะไม่ทำตัวอ่อนแอต่อหน้าเขาอีก แต่มันก็ยากทุกอย่างที่เป็นเขามันเข้ามาในหัวฉันวุ่นไปหมด ตลอดสามปีที่ผ่านมาบอกตามตรงฉันไม่เคยลืมเขา
“วิสกี้แกร้องไห้ทำไม?”
ฉันหันไปตามเสียงก็พบว่าเป็นวิคกี้เพื่อนของฉันเองแหละ เธอถามตัวสีหน้าเป็นห่วง ฉันกับวิคกี้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ฉันเข้าวงการ เธอเป็นคนที่ช่วยฉันทุกเรื่องเธอเป็นคนน่ารักและใจดีมากเลยล่ะ
“ก็บอกเจ๊ไปแล้วนี่ เธอก็ได้ยิน”
“ฉันไม่เชื่อ ถ้าไม่เป็นเรื่องร้ายแรงเธอจะไม่ร้องไห้ ถึงฉันจะรู้จักเธอแค่สามปีแต่ฉันก็รู้ว่าเธอเป็นคนยังไง อย่าโกหกฉันซะให้ยาก”
วิคกี้พูดตำหนิเหมือนแม่ดุลูก แต่ก็จริงของเขาถ้าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรฉันจะไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น แต่ฉันก็ต้องเลี่ยงตอบ ฉันไม่อยากให้ใครรับรู้เรื่องนี้....
“ไม่มีอะไรหรอก”
ฉันตอบวิคกี้แต่หลบตาสายตาของเธอ วิคกี้ได้ยินคำพูดของฉันถึงกับหน้าสลดเพราะเธอรู้ว่าฉันโกหก
“ถ้าเธอไม่อยากบอกก็ไม่เป็นอะไรหรอก”
“เอ่อ...มะ”
ฉันยังพูดไม่จบประโยคเธอก็เดินจากไปซะแล้ว ฉันขอโทษนะวิคกี้ ขอโทษจริงๆ แต่เรื่องนี้ของให้มีแค่ฉันและเขาเถอะ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเขาเห็นหน้าฉันแล้วเขาจะทำยังไง!!
“ไฟพร้อม อุปกรณ์พร้อม ฉากพร้อม นางแบบพร้อม อ้าว แล้วนายแบบล่ะ”
น้าโอ่งเป็นช่างถ่ายภาพพูดขึ้น
“เดี๋ยวก็มาค่ะ น่าจะแต่งหน้าอยู่”
น้าพายพูดตอบน้าโอ่ง เธอเป็นคนจัดการเรื่องนางแบบนายแบบ
“เอ้า นั่นไงมาแล้วๆ”
เสียงของน้าพายทำให้ฉันต้องหันไปข้างหลังด้วยใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะเพราะความตื่นเต้น เมื่อหันกลับไปก็พบกลับเขาใบหน้าที่เรียบเฉยของเขายังคงเอกลักษณ์ ใบหน้าที่ขาวใสของเขาไม่จำเป็นต้องแต่งมากเลย เสื้อผ้าของเขาก็ออกแนวเซอร์ๆตามสไตล์ของการถ่ายแบบครั้งนี้ เขายังหล่อเหมือนเดิม และก็ยังทำให้ใจฉันเต้นแรงอีกเหมือนเคยด้วย
อันดับแรกเขาหันหน้ามามองฉันก่อนแต่สายตาที่มองมานั้นว่างเปล่า แต่ก็มีแววสงสัยอยู่เล็กน้อย ฉันกับเขาสบตากันนิ่งเพื่อหาความหมาย จนเสียงของน้าโอ่งดังขึ้นทำให้พวกเราต้องหันไปทางเขา
“รู้จักกันเหรอ ถึงมองหน้ากันนานขนาดนั้น รู้จักกันไว้ก็ดีนะจะได้ทำงานง่ายขึ้น”
ประโยคที่ดังออกจากปากเขาต่อมาเมื่อได้ยินน้าโอ่งพูดทำให้หัวใจฉันกระตุกวูบ
“ไม่รู้จักหรอกครับ แค่คุ้นๆ”
ฉันหันไปหาเขาทันทีเมื่อพูดจบและมองตาเขาเพื่อหาความหมายว่าทำไม แต่สายตาเขาก็ยังเย็นชาและว่างเปล่าอย่างเคย
เขาจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้วใช่มั้ย....ตอบฉันสิฟรานเดลิกซ์
“เริ่มงานกันเลยดีกว่าครับ จะได้เสร็จๆ”
เขาพูดกับน้าโอ่งด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ทำให้น้าโอ่งต้องพยักหน้ารับ
“งั้นทั้งสองคนเข้าฉาก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็เดินนำฉันไปก่อน ฉันที่กำลังอึ้งจนหัวตอนนี้จะระเบิดพร้อมกับน้ำตาบ้าๆที่จะไหลออกมาอยู่รอมร่อแต่ก็ตัดสินใจเดินตามเขาไปในที่สุด
“ชิดๆกันกว่านี้หน่อย”
เสียงน้าโอ่งสั่งให้ฉันกับเขาเขยิบใกล้กันมากขึ้น แต่ฉันไม่ยอมเขยิบเข้าไปทำให้เขาต้องเป็นคนเข้ามาหาฉันเอง และเข้ามากระซิบข้างหูฉันว่า
“อย่ามาเล่นตัว ฉันอยากกลับบ้านเร็วๆ”
“เฮอะๆ นายอยากกลับแต่ฉันยังไม่อยากกลับนี่”
ฉันจึงตอบกลับไปบ้าง แต่ในใจโคตรหวั่นไหวเลยอ่ะ ทำไงดี
“เหอะงั้นหลังเสร็จงานนี้เธอก็นอนบริษัทไปสิถ้าไม่อยากกลับ”
“ไอบ้า!!”
ฉันกระซิบเขาเสียงแข็งให้รู้ว่าเริ่มโกรธแล้ว แต่เขาก็ทำหน้าระรื่นเหมือนไม่รู้ แต่จริงๆไม่สนใจมากกว่า
“ช่วยเข้าใกล้กันเหมือนจะจูบด้วยครับ”
ฮะ เมื่อกี๊น้าโอ่งว่าอะไรนะ ให้ทำเหมือนจะจูบเนี่ยนะ มาฆ่าฉันเลยเถอะ ในขณะที่ฉันกำลังลังเลและกังวล ไอ้หมอนั่นก็เข้ามาใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆ เราจ้องตากันอยู่เนิ่นนาน และยิ่งจ้องตาเขาอดีตก็เริ่มไหลเข้ามาในหัวทำให้น้ำตาฉันจะไหลอีกแล้ว ฉันจึงหลบตาเขาไปทางอื่น แต่เขากลับจับหน้าฉันให้หันไปทางเขาอีกครั้ง
“ชิดกันอีกครับ”
ยังไม่พออีกเหรอน้า อย่าฆ่าหนูทั้งเป็นขอร้องค่ะ ส่วนเขาอีกคนหยุดสักครู่เหมือนคิดอะไรอยู่แล้วก็พุ่งเข้ามาประกบปากฉัน เมื่อริมฝีปากร้อนๆของเขามาประกบฉันก็รู้สึกห้องนี้ร้อนขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้งๆห้องเปิดแอร์ตั้งสามตัว เขาเริ่มบดขยี้ริมฝีปากฉันอย่างดุเดือดอีกครั้ง
“อื้อ!”
“พอครับ เสร็จแล้ว เยี่ยมมาก”
เมื่อเสียงน้าโอ่งดังขึ้น ฟรานก็ค่อยๆถอนปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ฉันเกือบจะเคลิ้มตามแล้ว แต่ก็ต้องสะกดอารมณ์ไว้
เขาลุกขึ้นและเดินไปห้องแต่งตัวโดยไม่แม้จะหันมามองฉัน นี่ที่เขาจูบไปเมื่อกี๊เพราะอยากให้งานเสร็จเร็วๆสินะ เขาเห็นฉันเป็นตัวอะไรกันแน่ ความอยากรู้ทำให้ฉันวิ่งตามเขาไปที่ห้องแต่งตัว
“เดี๋ยว!”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนเรียกของเขาทำให้เขาหันกลับมา แล้วยักคิ้วสูงเหมือนจะถามว่าอะไร
“นายจูบฉันทำไม!!”
ฟรานขมุบขมิบปากเหมือนพูดว่าอ๋อ แล้วก็กลับทำหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
“อยากให้งานจบเร็วๆแล้วที่ตามมานี่อยากได้มากกว่านั้นหรือไง”
เขาพูดว่าอะไรนะ เขาบอกว่าฉันต้องการมากกว่านั้นหรอ เขายังพูดจาได้เจ็บแสบเหมือนเดิม ฉันทนไม่ไหวแล้วจึงเดินเข้าไปตรงหน้าเขาแล้ว
เพียะ
เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้าอย่างแรงทำให้หน้าของคนตรงหน้าหันไปอีกทาง และไม่นานเขาก็หันมามองฉันตาขุ่น
“เธอกล้าตบฉัน?”
“ทำไมจะไม่กล้า”
ปากหนอปาก ตอบไปอย่างนั้นเดี๋ยวก็ตายหรอกยัยวิสกี้เอ๋ย พูดไม่ทันขาดคำฟรานก็ขยับเข้ามาใช้มือบีบคางฉันแรงจนคางฉันจะแหลกคามือเขาอยู่แล้ว
“อย่าคิดว่าได้ตบฉันแล้ว จะรอดไปได้นะ”
เขาพูดเสียงเย็น ใช่ ฟรานจะพูดเสียงแบบนี้เฉพาะเวลาโกรธ
“ฉันไม่กลัวนายหรอก”
ปากฉันวันนี้เป็นอะไรนะ ตอบไปแบบนั้นทำไม ไม่กลัวตายหรอยัยบ้า (บ่นกับตัวเอง)
“ไม่กลัวใช่ไหม งั้นมานี่ดูซิว่ายังปากดีต่อไปได้ไหม”
เขาลากฉันเข้าไปในห้องแต่งตัวนายแบบ เมื่อเข้ามาถึงเขาก็รวบสองมือของฉันไว้ในมือข้างเดียวและกดเข้ากับกำแพง และพุ่งเข้ามาจูบฉันอย่างเร่าร้อนริมฝีปากร้อนบดขยี้อย่างดุเดือด เขาจะทำอะไรน่ะ ที่เหลืออีกข้างของเขาล้วงเข้าไปใต้เสื้อของฉันแล้ว ฉันพยายามดิ้นแต่ก็ไม่เป็นผล เขายังจูบยังจูบอย่างเร่าร้อนอย่างไม่ยอมถอย มือก็ยังคลำเนื้อใต้ผ้าอย่างดุดันเช่นกัน การกระทำของเขาทำให้น้ำตาของฉันไหลอาบแก้ม เหมือนเขาจะรู้ว่าฉันร้องไห้แล้ว เขาชะงักครู่หนึ่ง แต่ก็แค่หยุดแสยะยิ้มชั่วร้าย และก็เริ่มกระทำต่อ น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่ขาดสาย
กลัว...ฉันกลัว ใครก็ได้ช่วยฉันที...เอาปิศาจตัวนี้ออกไป!!!!
ความคิดเห็น