คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
เราชื่อว่ามัทนะคะ ฟิคเรื่องนี้คือฟิคที่แต่งเรื่องแรกค่ะเป็นเรื่องของ วาลเลเรีย ในเรื่องlittle red riding hoodพันธนาการคมมีด ที่แต่งโดยพี่masato yu เนื่องจากเราอินกับเรื่องของพี่เค้า(?) เพราะพี่เค้าแต่งได้โดนใจเราดี แต่............หมาป่าดันตายซะนี่ เราก็เลยอยากสร้างฟิคเพื่อเป็นหน่วยกู้ชีพแก่น้อง แฟงก์ผู้น่าสงสารค่ะ 555555555555++ ถ้าฟิคนี้มีข้อผิดพลาดยังไงก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ><
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“เป็นอย่างไรบ้าง”
เสียงต่ำของชายวัยกลางคนเอ่ยถามเมื่อเห็นชายหนุ่ม5คนเดินลุยน้ำออกมาจากถ้ำที่ถูกปิดทางออกด้วยหินใหญ่ ตัวของชายหนุ่มทั้ง5คนเปียกปอนเพราะเดินผ่านม่านน้ำตกที่กั้นระหว่างปากถ้ำและโลกภายนอกที่มีสภาพเป็นสระน้ำตื้นๆแค่หน้าแข้ง รอบๆนั้นก็เป็นป่า
“จัดการเรียบร้อยแล้วครับ” ชายหนุ่มที่เดินมาถึงฝั่งคนแรกตอบรับ ทำให้ชายวัยกลางคนยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ “ดีมาก!!เดี๋ยวข้าจะตกรางวัลให้พวกเจ้าอย่างงามเลยทีเดียว”ชายวัยกลางคนพูดขึ้น
จากนั้นคนทั้ง6คนจึงพากันเดินออกจากบริเวณนั้นโดยไม่คิดจะหันกลับมามองด้านหลังให้แน่ใจ
ลึกเข้าไปภายในถ้ำมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งนั่งนิ่งกอดเข่าตนเองอย่างสิ้นหวัง เธอมีผมสีทองยาวสลวยมัดประมาณครึ่งศีรษะ ส่วนถัดจากหญิงสาวไม่ไกลนักมีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ไม่น่าจะมีจริงได้ สิ่งมีชีวิตนั้นมีลำตัวเป็นเกล็ดสีคราม และมีปีกคล้ายๆกับค้างคาว แต่ใหญ่กว่ามากนัก....ใช่แล้ว สิ่งมีชีวิตนั้นคือมังกร
“วาลเลเรีย...เราจะทำยังไงกันดี?”
มังกรตัวน้อยเอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆด้วยเสียงสั่นๆเพราะความหวาดกลัว ความมืดของถ้ำไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา เท่าไรนักเพราะว่ามังกรย่อมมองเห็นในความมืดได้ดีกว่ามนุษย์อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าคนใจร้ายพวกนั้นจะทำอะไรกับครอบครัวของเขาไปแล้วบ้าง มังกรตัวน้อยคิดก่อนจะปล่อยน้ำตาร่วงรินออกมาอย่างสุดฝืน
“ฮึก....ฮืออ...”
วาลเลเรียเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของอีกฝ่าย ในยามนี้เธอก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อไปแล้ว ของสำคัญของเธอก็ยังไม่ได้คืน ซ้ำร้ายยังถูกจับมากักขังที่ถ้ำมืดๆอีกไม่รู้ว่าคนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกจะมีชะตากรรมอย่างไรบ้าง เธอไม่สมควรจะพาทุกคนมาพบกับความเดือดร้อนอย่างนี้เลย
ความรู้สึกเมื่อครั้งยังเด็กก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง ตอนที่เธอถูกจับมาขังในห้องที่ทั้งมืดและแคบในครั้งนั้นยังรู้สึกอุ่นใจเพราะว่ามีท่านแม่อยู่ด้วย แต่ในครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ท่านแม่ไม่ได้อยู่กับเธอที่นี่ แต่เธอก็แอบดีใจอยู่เล็กๆที่ไม่ได้พาท่านแม่ออกเดินทางมาด้วยเช่นนั้นแล้วแม่ของเธอก็ต้องมาลำบากอยู่ที่นี่
แต่ถ้าเรามัวแต่มานั่งอยู่แบบนี้ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น วาลเลเรียคิดพลางใช้แขนเสื้อปาดน้ำตาที่เอ่อออกมาเล็กน้อย ก่อนที่หางตาจะเหลือบไปเห็นซอกเล็กๆพอที่จะให้คนหนึ่งคนเบียดตัวเข้าไปได้ ความอยากรู้อยากเห็นจึงทำให้เธอคิดอะไรบางอย่างออก
“นี่ท่านแคปปี้” วาลเลเรียพูด “ข้าคิดว่าที่นี่อาจจะมีทางออกอีกทางนะ”
ลูกมังกรเจ้าของชื่อ ทำหน้ามุ่ยเหมือนไม่พอใจ“ข้าชื่อแคปต่างหาก”
หญิงสาวผมสีทองไม่พูดอะไร เธอเดินตรงไปที่ซอกหินนั่นช้าๆก่อนที่จะยื่นแขนเข้าไปเพื่อสำรวจว่าข้างในเป็นทางตันหรือเปล่า แต่ว่าแขนของเธอสัมผัสได้ถึงอากาศที่ว่างเปล่าของอีกด้านหนึ่ง ไม่ว่าเธอจะโบกมือซ้ำๆก็สัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าจริงๆ วาลเลเรียเริ่มมีความหวังขึ้นมา...แต่ภายในซอกนั้นมันมืดมากจนเห็นเป็นสีดำสนิท ไม่ปลอดภัยแน่ๆถ้าเกิดเข้าไปโดยไม่เห็นอะไร ซักพักวาลเลเรียก็ยิ้มออกมาที่มุมปากเพราะคิดอะไรออก
“ท่านแคป!!...จริงๆด้วยช่องนี้สามารถออกไปได้”วาลเลเรียพูด “แต่มันมืดมากเลยท่านช่วยมองหน่อยได้ไหม?”
แคปกระพือปีกน้อยๆของตนเพื่อบินไปเกาะที่ไหล่ของวาลเลเรีย มังกรน้อยเอาหัวลอดเข้าไปเพื่อสำรวจ ดวงตาของมันมีแสงสว่างจ้าสีเหลืองเมื่ออยู่ในความมืด แคปกวาดสายตาไปมอง แต่ก็ต้องไปสะดุดกับสิ่งๆหนึ่งที่ทำให้มังกรน้อยหวาดผวา
“อะไรอยู่ในนั้นคะท่านแคป!!!?” วาลเลเรียถามด้วยความตกใจเมื่อเห็นเพื่อนของตนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
แคปรีบเอาหัวออกจากช่องนั้นอย่างรวดเร็ว หอบหายใจถี่ ใบหน้าเห-มื่อนตื่นกลัวกับอะไรบางอย่างในความมืดของซอกนั้น มังกรน้อยพยายามเปล่งเสียงพูดออกมาแต่มันก็ช่างยากลำบากเหลือเกิน
“คน...ที่ทำ...แบบนี้มัน...ไม่สมควร...เรียกว่า...มนุษย์เลยด้วยซ้ำ!!!”
ความคิดเห็น