Fic [เดียร์xลูกหว้า] รักพิศวง - นิยาย Fic [เดียร์xลูกหว้า] รักพิศวง : Dek-D.com - Writer
×

Fic [เดียร์xลูกหว้า] รักพิศวง

โดย Mookii_m2

เป็นเรื่องของแวมไพร์สาว และมนุษย์สาว เดียร์ลูกหว้า,เสี่ยซ้อ,หงษ์มิ้ม

ผู้เข้าชมรวม

1,401

ผู้เข้าชมเดือนนี้

1

ผู้เข้าชมรวม


1.4K

ความคิดเห็น


2

คนติดตาม


3
จำนวนตอน : 0 ตอน
อัปเดตล่าสุด :  12 มี.ค. 58 / 00:00 น.

อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ

 

ตึก  ตึกก....

 

            "ฮัลโหล...แม่คะ คือว่าตอนนี้อากาศข้างนอกเย็นมากเลยค่ะ"

เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังคุยกับแม่ของตนเอง

           "ค่ะแม่...หนูกำลังรีบกลับเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ ค่ะ...กำลังจะเดินเข้าซอยแล้วค่ะ จ้า...แม่"

เสียงของหญิงสาวคนนั้นสั่นสะเทิ้มเพราะอากาศรอบกายเริ่มจับตัวเย็นลง จนรู้สึกได้ถึงเกล็ดหิมะที่กำลังร่วงลงมาอย่างไม่ขาดสายขณะที่เธอกำลังคุยโทรศัพท์กับแม่เพื่อปลอบใจตัวเองไปด้วยนั้น สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นใครบางคนยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนหิมะที่โปรยปรายลงมา

ร่างของคนๆนั้นดูเหมือนจะกำลังมองมาที่ตัวเธอมองด้วยสายตาแข็งกร้าวและน่ากลัว...ความรู้สึกของเธอมันบอกว่าแบบนั้น........

ยิ่งดูเหมือนว่าเธอจะพยายามมองเท่าไหร่หิมะและลมจะเริ่มแรงมากขึ้นเท่านั้น ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วก่อนจะเดินเข้าซอยนี้จากอากาศที่ดูจะอบอุ่นไปด้วยแสงของพระจันท์และกลิ่นไอจากท้องถนนทำให้บรรยากาศโดยรอบดูอบอุ่นน่านอน แต่จู่ๆบรรยากาศรอบข้างก็แปรเปลี่ยนเป็นละอองหิมะ และค่อยๆกลายสภาพเป้นน้ำแข็งในที่สุด... ไม่ได้นึกอะไรในทางลบนักหรอก ก็แค่บรรยากาศแปรปรวน ...แต่ตั้งแต่เดินมาคนเดียวเนี่ย รู้สึกเหมือนมีใครบางคนเดินอยู่รอบกายเลยแฮะ

            "แปปนะคะแม่  คือว่าเมื่อกี้หนู...."ตู้ดดด....ตู๊ดดดด

            "แม่!! ...แม่ค่ะ!! โธ่~~สัญญาณขาดหายเหรอเนี่ย?"

เมื่อโทรศัพท์ที่จู่ๆก็ขาดหายไป ทำให้เธอคนนั้นดูจะหงุดหงิดและเป็นห่วงคนทางบ้านจึงต้องรีบกลับโดยเร็วที่สุด แต่เมื่อกี้ดูเหมือนเธอจะพึ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ว่าเธอกำลังจดจ้องเงาประหลาดที่ยืนอยู่กลางถนนที่ดูเหมือนว่าจะกำลังมองเธอ แต่พอเธอ

เหงยน่าขึ้นมามองเท่านั้นแหละ  เงาที่ว่านั้นก็หายวับไป....ปราศจากสิ่งอื่นใดนอกจากหิมะจับตัวเป็นก้อนเท่านั้น

            " ? ระ...รีบกลับบ้านดีกว่า"

 

ตึก....ตึก

            ตึกกกกก  ครืดดดดด....

            "?"เธอคนนั้นหันไปมองข้างหลังทันที หลังจากที่ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังลากเท้าเดินอยู่ข้างหลัง

            "มะ  เมื่อกี้เสียงอะไรจากข้างหลังฉันน่ะ?"

ตึก....ตึก

            ตึกกกกก  ครืดดดดด....

ตึก....ตึก

            ตึก    ตึกกกกก  ครืดดดดด....

 

            "!?"นี่รอบที่สามแล้วตั้งแต่เมื่อกี้ นี่มันเสียงอะไรน่ะ...ทำไมจู่ๆร่างกายถึงตอบสนองกับมาแบบนี้ล่ะ  บ้า!ชะมัดเลยขยับซี่ขาเนี่ย (T^T)

จู่ๆร่างกายมันก็มีประติกิริยาอาการ (ชาวาบ+เย็นสันหลัง+หนาวต้นคอ) ขึ้นมาซะงั้น เวลาที่หันหลังรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ข้างหลัง เวลาที่เดินก็รู้สึกเหมือนว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมองมาที่ฉันอย่างโหดเหี้ยม เวลาที่ฉันเริ่มรู้สึกวิตกกังวล กลัวก็จะรู้สึกชาวูบวาบไปหมดเหมือนเลือดถูกสูบออกจากตัวไปจนหมด และดูเหมือนว่าเวลาที่ฉันหายใจแต่ละทีนี่มันลำบากเหมือนปอดถูกกระชากออกจากตัวจนไม่มีที่หายใจสะงั้นแหละ....แฮก แฮก...

            "อึก! "ทำไมจู่ๆก็เวียนหัวเนี่ย  เจ็บคอจี๊ดๆจังเลย

เธอคนนั้นเดินไปเรื่อยๆเพื่อหาที่กำบังและพักพิงสักนิดเพื่ออาการมันจะดีขึ้นมาบาง ถึงจะเสี่ยงสักหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าจะมานั่งแข็งตายบวกกับเป้นโรคประสาทสะก่อน (-.-+)

            "อีกแล้ว...เป็นแบบนี้อีกแล้ว แสบคอจังเลยรู้สึกว่าจะหิวน้ำและก็จะหายใจไม่ออก...."

 

ตึกกก  ครืนนนนนน...

          

            "?!!!"

จู่ๆร่างกายก้ชะงักทันทีขาทั้งสองข้างไม่สามารถขยับได้เมื่อลูกตาทั้งสองข้างของตัวเองนั้นดันเหลือบไปเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างตรงหน้า สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าซากศพ!!!

            "กะ   กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!" เธอคนนั้นกรี๊ดทันทีก่อนจะพยายามวิ่งหนีสุดชีวิต แต่เวลาที่วิ่งหนีทีไรก็จะกลับมาที่เดิมเสมอ และเธอคนนั้นก็ไม่ยอมลดระความพยายาม

เธอก็คงดันดนวิ่งหนีต่อไป....จนสุดท้ายเธอก็มาเจอแสงปลายทางข้างหน้า แสงกลมๆสีดำที่กำลังแผ่ขยายรังสีของตัวเองและลอยมา ลอยเข้ามา~~ลอยเข้ามา

            "ผะ......ผี"

            แสงนั้นลอยผ่านทะลุตัวของเธอไปอย่างไม่สะทกสะท้านก่อนจะหยุดนิ่งที่ซากศพที่ตัวเธอเองพึ่งเห็นอยู่มากับตา (ไกลน่ะ) แสงนั้นแยกตัวออกจากกันก่อนจะรอบล้อมซากศพนั้นเป็นวงกลม

ดูคล้ายจะทำพิธี ร่ายคาถาอะไรสักอย่างเพราะแสงกลมๆนั้นเหนือหัวมีแปดเหลี่ยมสีเพลิงดำ อยู่กลางศพนั่น และก็ภาษารูน...ที่เข้าว่ากันว่าเป็นภาษาของพวกเล่นแร่แปลธาตุ

หรือพวกไม่ใช่มนุษย์ และอื่นๆที่มีพลังเข้าใช่กัน   แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อฉันเห็นวงตราแปดเหลี่ยมและฟังคาถานั้นจู่ๆก็เริ่มรู้สึกถึงมีอะไรดึงดูดเธอให้เข้าไปดูลักธิแปลกๆนั้นเรื่อยๆ....เรื่อยๆ

       

  แต่สิ่งที่ทำให้เธอช็อคกับภาพตรงน่าไม่ใช่เพราะถูกมนต์ดำ หรืออะไรที่เหนือธรรมชาติเล่นงานหรอก แต่ที่ช็อคเพราะ ร่างที่นอนแน่นิ่งหมดลมหายใจตรงหน้านั้นคือตัวเธอเองที่กำลังยืนดูตัวเอง?อยู่ตอนนี้!!!

 

        **------ร่างนั้นนอนตัวแข็งซีด ตาทะลึงจนแทบจะทะลักออกมาข้างนอกที่คอดูเหมือนมีอะไรมากัดจนเป็นรอยคมเขี้ยวสองจุด รอบคอเป็นรอยฟอกช้ำคล้ายถูกอะไรรัดจนเขียว (คอแถบขาด)

        ทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอนั้นถูกอะไรกัดจนฉีกเนือ้หลุดรุ่ยกระจุยกระจายเต็มบริเวณพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะ  รอบๆตัวเธอและแสงสีดำก็มีเลือดและเนื้อ+เครื่องใน กระจายเป็นย่อมๆพอน่าดูเชียว

       แต่ที่น่าตกใจคือ....ปอดและตับหายไป....แต่ชิ้นส่วนอื่นๆอยุ่ครบแค่กระจายอยู่รอบๆได้อย่างน่ารักเชียว------**

พอเธอเห็นแบบนั้นแล้วถึงกับเข่าอ่อนก่อนจะทรุดลงกับพื้นทันที

            "....แซรดดด...ดดด..."มีเสียงคลื่นสัญญาณออกมาจากที่ไหนสักแห่ง ฉันกวาดสายตาดูรอบๆก่อนจะพบว่าคลื่นสัญญาณที่ออกมานั้นมาจากโทรศัพท์ที่อยุ่ในมืออีกข้างหนึ่ง

ที่กำลังกำโทรศัพท์ไว้อย่างแน่น เธอค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมาและเดินโซเซไปที่ร่างนั้นอย่างโรยรา แสงสีดำดูถ้าจะไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย ก่อนที่เธอจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

 

ตุ้บบบบบ!!!....

           "กะ...กี๊ดด..ด"เธอกรี๊ดและสะดุ้งเล้กน้อยเพราะมือข้างที่กำโทรศัพท์อยุ่นั้นหลุดขาดออกจากลำตัวของศพ เพราะว่าเธอดึงแขนออกมาเพื่อจะได้หยิบโทรศัพท์ได้ง่ายๆ

 แต่เมื่อเธอเห็นแบบนี้แล้วความต้องการที่จะจับแค่โทรศัพท์คงไม่ได้แล้วเพราะตอนนี้ มือนั้นก็ดันติดขึ้นมาโชว์หราอยู่ตรงน่าเธอ พร้อมกับเอ็น เนื้อที่ห้อยต่องแต่งเท่านั้น

           ".....คงไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วล่ะ"

           ".......แล้วใครจะกล้าเอาไอ้นี่แนบหูฟระเนี่ย T^T...."เธอมองโทรศัพท์ที่มีมือน้อยๆจับอยู่....แต่ไม่นานเธอก็ยอมจำใจและเอามาแนบหูฟังในที่สุด

           "....มั้ย...มีใคร...อยู่มั้ย"เสียงนั้นเอ่ยขึ้น ไม่กี่นาทีต่อมาน้ำตาของเจ้าของโทรศัพท์เริ่มไหลย้อนลงมาเพราะเสียงที่เธอกำลังได้ยินอยุ่นั้นคือเสียงของแม่เธอนนั้นเอง

            .....เมื่อได้ยินแบบนี้เธอเลยพยายามสื่อสารแต่เสียงที่ส่งไปยังปลายทางก็เป็นได้แค่ คลื่นสัญญาณขาดๆหายๆเท่านั้น

          "ฮัลโหลล...ลูกหว้า ลูกทำไมจู่ๆเงียบไปนานจังล่ะ?เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?"เสียงเป็นห่วงของแม่ที่แทรกผ่านโทรศัพท์ที่ถูกถืออยู่ในมือที่ถูกฉีกจนขาดออกจากลำตัว

เอ่ยขึ้นมาอย่างเป็นห่วงลูกสาวที่กำลังจะกลับบ้านพร้อมโบนัสเงินเดือนครั้งแรกให้แม่ของตัวเอง....

         "แม่คะ....."เสียงของเธอเอ่ยขึ้นพร้อมน้ำตาที่เอ่อนองเต็มใบหน้าสวยๆของตัวเอง

         "หว้า  แถวนั้นโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเหรอ? ทำไมแม่ไม่ได้ยินเสียงหนูพูดเลยล่ะ....เป็นอะไรหรือเปล่า แม่เป็นห่วงหนูมากเลยนะแล้วที่ลูกบอกว่ามีของขวัญพิเศษจะให้แม่เนื่องในวันเกิดมันคืออะไรเหรอ

แล้วแม่จะได้ดูเมื่อไร? หว้าแม่กับน้องๆรอหนูอยู่นะ....ถ้าลูกได้ยินที่แม่พูดล่ะก็รีบไกลับมาหาแม่ด้วยนะ....กลับมาให้ทันวันเกิดแม่ด้วยนะลูกและครอบครัวจะได้เป่าเทียนกันพร้อมหน้า...แม่รักลูกนะ"

เสียงปลายทางหายไปแล้ว เหลือแต่เสียงวางสายเท่านั้นที่ส่งกับมา.....

 

ตู๊ดดดดดด.....ตึ๊ดดดด ตึ๊ดดด....

        "แม่คะ....หนูขอโทษ หนูคง.....ฮึกก...หนูคงกับไปหาแม่และกับไปฉลองวันเกิดให้แม่ไม่ได้อีกแล้วนะคะ ฮึกก.."

        "หนูคงจะกับไปให้ของขวัญชิ้นนี้ให้แม่ไม่ได้อีกแล้ว หนูขอโทษ ที่ตอนเวลาหนูอาจจะทำตัวไม่ดีจนทำให้แม่เสียใจหนูขอโทษ....."

ร่างนั้นพูดพร้อมเสียงสะอื้นก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง แสงสีดำที่ดูถ้าว่าจะมองฉันอยู่นานแล้วตั้งแต่ทำพิธี หลังจากที่เอ่ยเสียงแปล่งๆเสร็จสิ้นก็ค่อยๆลอยเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ

ก่อนจะเอ่ยเสียงแปล่งๆอีกรอบและทันใดนั้น แสงสีดำทั้งหมดก็ถูกดูดมามาหลอมรวมกับแสงที่เข้ามาหาฉันก่อนจะค่อยๆกลายเป็นมนุยษ์คนหนึ่งที่ส่วมผ้าคลุมทั้งตัวสีดำขาดวิ่น และมีรอยเลือดเก่า ใหม่ติดอยู่

ทำให้ดูมีอำนาจขึ้นมาทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่มอง พอตัวเองพยายามเงยหน้ามองเข้าไปในใต้ผ้าคลุมที่คลุมศีรษะอยุ่นั้นก็ไม่พบอะไรนอกจากสีดำและความรู้สึกเศร้าหมอง

สิ้นหวัง อดีตที่โหดร้ายและการฆ่าตัวตาย ความรู้สึกต่างๆที่ผุดขึ้นมาทุกครั้งที่ฉันมองเข้าไปในผ้าคลุมนั้น

 

      "มาส่งวิญญาณของฉันสินะ"พูดพร้อมท่าทางที่เศร้าสร้อย

      "........."แสงนั้นไม่ได้พูดอะไร แต่กำลังยืนมองหน้าฉันที่กำลังนั่งอยู่บนพื้น โดยอีกมือหนึ่งถือมือที่ขาดวิ่นในมือมีโทรศัพท์

      "พูดอะไรหน่อยสิ จ้องแบบนั้นผ่านผ้าคลุมที่มีแต่สีดำ มันทำให้ฉันรู้สึกหดหู่และนึกแค้นไอ้คนที่มันทำกับฉันแบบนี้นะ...."ฉันพูดก่อนเหงยหน้ามองผ้าคลุมนั้น แค่แวบเดียวก็ทำให้รู้สึกแบบนั้นขึ้นมา

      ".....เสียใจสินะ"เสียงเย็นๆพูดพร้อมหมอกที่ออกมาจากใต้ผ้าคลุมนั่นและก็จางหายไปเมื่อคำพูดจบลง (คล้ายๆไอที่ออกมาจากปากตอนหนาวๆอ่ะแต่อันนี้เยอะกว่า)

      "??"

     ".....เธอคงเสียใจมากเลยสินะ"

     "?"

     "วันนี้ศุกร์ของสิ้นเดือนมีรายได้จากหัวหน้างานมอบให้เธอ....มันคือโบนัสเงินเดือนวันแรกที่ไปทำงานและวันนี้คือวันเกิดมารดาของเธอ เธอเลยกะว่าจะมอบโบนัสที่เธอได้มาให้แม่เป็นของขวัญวันเกิด

ตั้งแต่เดินทางกลับมาบ้านเธอเจอแต่เรื่องดีๆมาตลอด...ตั้งแต่เกิดเธอทำแต่รเองๆดี น้อยมากที่เธอจะทำตัวแย่ๆ ในเมื่อเธอกำลังจะกลับบ้านพร้อมกับจะทำสิ่งดีๆให้กับคนในครอบครัวของเธอเป็นการตอบแทน...

 แต่หน้าเสียดายนะ ที่ของขวัญเล็กๆของเธอกับต้องมาจมกองเลือดบนหิมะที่อีกแค่ไม่กี่หนทางก็ถึงบ้านแล้ว...อย่างไม่หวนกับคืนมา อีกเลยยยย..."หมอกไอจางลงทันทีที่คำพูดสุดท้ายหายไป

     "ฮึกกก..."น้ำตาที่หยุดไหลกับกำลังไหลลงมาทุกครั้งที่ได้ยินคำพูดแทงใจดำแบบนั้น

     "ร่างของเธอตอนนี้...คงจะไม่สามารถกลับบ้านได้อีกแล้วสินะ"

     "หยุดพูดสักที....หยุดทรมานจิตใจฉันสักที อยากจะรีบส่งวิญญาณก็รีบทำเถอะ จะทำอะไรกับวิญญาณของฉันก็รีบทำเถอะ ไม่ต้องมาพูดย้อนอดีตก่อนตายให้ฟังหรอก  ฉันไม่อยากจะฟัง..."

     "...ฉันไม่มีหน้าที่ส่งวิญญาณอย่างที่เธอพูดนะ"

     "แล้วเธอจะมาตรงนี้ทำไม แล้วจะทำเป็นร่ายคาถาบ้าบออะไรกับร่างของฉัน? "

     "ฉันแค่....กับมาขอโทษเท่านั้น"

     "ขอโทษอะไร? แล้วขอโทษฉันทำไม? เธอไปทำอะไรเธอถึงต้องมาขอโทษ"ฉันยันตัวลุกขึ้นมาก่อนจะถามคนตรงหน้าที่หันหลังไปมองศพฉันอยู่

..........................ความเงียบ  เงียบแบบนี้อีกแล้วไม่ชอบเลย...............................

 

     "ฉัน.....ฉันเป็นคนฆ่าเธอเองแหละ  ที่กับมาเพราะจะมาทำลายหลักฐานการมีตัวตนของศพน่ะ....เพื่อไม่ให้วิญาณได้รับรุ้ว่าตัวเองนั้นได้ตายไปแล้วเพราะถ้ามารู้กระทันหันแบบเธอ

มันจะเศร้าแบบนี้แหละ และที่ฉันฆ่าเธอ ฆ่าเธอ....ก็เพราะฉันหิวไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนะแต่ที่แน่ๆฉันน่ะเลือกเหยื่อที่ตายนะ ไม่ได้จู่ๆก็มาฆ่าแกงกันแบบนี้  "

     "ไม่เข้าใจ...."ฉัน

     "ฉันน่ะไม่ได้กินคนมาตั้งนานแล้ว แต่มีพลังดึงดูดบางอย่างที่ตัวของเธอมันเลยทำให้ฉัน...."

     "......"

     "ฉันจะกินเฉพาะคนที่มีพลังแฝงอยู่หรือผู้ทีมีพลังมหาศาลเท่านั้นเพื่อไปล่อเลี้ยงพลังของตัวเองที่หิวกระหาย ....แต่ตอนที่ฉันกำลัง...กัดกินร่างของเธอ และจากไปมันทำให้ฉันรู้สึกซู่ซ่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ก็เลยสงสัยว่าทำไมเลยจะกลับมาดูน่ะ แต่ฉันก็พบความจริงว่า...เธอเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีความสามารถแล้วที่ฉันรู้สึกซู่ซ่าเพราะการที่ได้กับมากินเนื้อคนในรอบ200ปีมานี่..."

     "............ไป"

     "แต่ว่านะ ฉันจะส่งวิญญาณให้เธอฟรีๆก็ได้ถึงแม้จะไม่ใช่หน้าที่ฉันก็ตามที่ เอาล่ะไปยืนในวงเวทย์ที่ฉันเขียนนะ รอแปป..."คนๆนั้นพูดก่อนจะหยิบหินแถวๆนั้นมาเขียนที่พื้นจนเป็นรูปแปดเหลี่ยม

     "ไม่ต้องสงสัยหรอกวิญญาณมนุษย์คนแรกเลบนะเนี่ยที่พึ่งเคยเห็น อ่า...ก็แบบนี้แหละเค้าเรียกว่าอักษรรูนน่ะ "

     "ไป...ให้พ้น"ฉัน

     "หา?....."

     "ไปให้พ้นตัวฉันแล้วก็ศพของฉันเดี๋ยวนี้!!!!!!!"ฉันผลักคนๆนั้นออกห่างแล้วก็ถอยหลังหนีจนห่างพอสมควร

     "?!!!..."

     "แกไม่ต้องมาทำดีกับฉันหรอก!!  แกมันก็แค่ปิศาจชั่วๆที่กินมนุษย์..... ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคนอย่างแกถึงมีชีวิตอยุ่ยืนนานถึง200ปี อะไรนั่น  มันน่าจะโดนเสกให้ตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วด้วย

แล้วยังจะมีหน้ามาพูดอีกเหรอ!!....ยังจะมีหน้ากลับมาขอโทษอีกเหรอตามจริงแกก็แค่ส่งวิญญาณฉันตั้งแต่แรกก็จบ!! ฉันก็จะได้ตายอย่างสงบสุข ไม่ต้องมามั่วคิดเรื่องอาฆาตแค้นใครตอนตาย

แต่แล้วจู่ๆก็มีไอ้บ้าท่าทางโรคจิตทำตัวแปลกๆมาบอกว่าตัวเองคือคนฆ่า? ....แล้วใครจะไปทำใจได้ อีกอย่างทั้งๆที่รู้ว่าฉันจะกลับบ้านเพื่อกลับไปฉลองวันเกิดแม่และนำเงินอีกส่วนที่แบ่งจากโบนัสไปรักษาน้องๆที่เจ็บป่วย

.......แต่สุดท้ายก็มาฆ่ากันเชยๆอย่างนี้ใครมันจะไปยิ้มรับแล้วบอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ส.บ.ม.ห.ห." ล่ะห๊ะ!! ตอบหน่อยเซ่~~~!!! "

 

       "ที่พูดมาก็มีส่วนที่ถูก"

       "มีส่วนที่ถูก? เอาอะไรมาพูดมันน่าจะถูกกกกมากๆเลยมากกว่า"

       "แล้วเธอจะให้ฉันทำอะไร? ฉันก็เป็นวิญญาณเหมือนกันนะ....ไม่ใช่ เอาเป็นว่าเธอรู้เพียงแค่ว่ามนุษย์มองไม่เห็นฉันหรอก เธอจะให้ฉันปลอมเป็นเธอแล้วทำหน้าที่แทนเธอวันนี้วันสุดท้ายสินะ"

       "...ไม่รู้ ก็คนมันตายไปแล้วนิ แต่ถ้านายทำได้จริงๆฉันก็อยากขอแค่ฉันสามารถนำเงินส่วนนี้และกลับไปทันฉลองวันเกิดก็พอ"

       "แค่นั้นใช่มั้ย  เหมือนแลกกับการที่ไม่ต้องมาทะเลาะกับวิญญาณสมองบวมน้ำอย่างเธอ"

       "แกนั่นแหละ!!ผีแสงนีออนสีดำ!!"

       "ฉันไม่ตลกที่จะอยู่รับมุขนานๆๆกับเธอหรอกนะ เดี๋ยวก็ต้องกลับแล้ว เอาเป็นว่าระหว่างที่ฉันไม่อยู่ถ้ามีใครมาถามอะไรเกี่ยวกับอะไรที่เกี่ยวกับฉันหรือมาหาเธออย่าบอกและอย่าตามไปเด็ดขาด

เพราะเธอจะไม่ได้เจอเรื่องโหดร้ายแค่นี้แน่...."

       "ทำไมฉันต้องเชื่อเธอด้วย ทั้งที่คนอย่างเธอน่ากลัวที่สุดสำหรับฉัน"

       "เพราะฉันเป็นห่ว.....เพราะว่าฉันอยากจะทำอะไรดีๆเพื่อเป็นการไถ่โทษน่ะสิ เอ้าล่ะ...แต่ว่านะมีการที่คนอย่างฉันจะทำแบบนี้ให้ใครมันจะต้องมีสัญญาแลกเปลี่ยนระหว่างเราสองคน"

       "ฮึ....ก็แค่ความหมายของเธอคืออยากครอบครองไอ้สิ่งที่เธออยากได้ในตัวฉัน หรืออยากจะทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับตัวของฉันที่นอนแอ้งแม้งอยู่ตรงนั้นไม่ใช่เหรอทำไมฉันจะต้องมาทำสัญญาบ้าบออะไรนั่นด้วย

แล้วทำไมฉันจะต้องเชื่อฆาตกรอย่างเธอด้วยล่ะ"

      "วิญญาณอย่างเธอน่ะ..."

      "?"

     "อย่าไปสนใจ รอตรงนี้ล่ะกัน"สิ้นเสียงร่างนั้นก็หายวับไปอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง(ก็เล่นหายวับไปต่อหน้าต่อตาก็มีช็อคบ้างไรบ้างอ่ะนะ)

แล้วฉันจะทำอะไรต่อไปดีเนี่ยเป็นอะไรที่เข้ากับฉันในตอนนี้ ฮือๆ...เศร้าใจจริงๆ คนสวยๆอย่างฉันกับต้องมาเจอเรื่องน่ากลัวๆแถมศพของตัวเองมันก็ดูไม่มีเค้าโครงความงามเลยสักติ๊ดด...

หูยยยย....เคยอ่านนิยายแฟนซีมาตั้งหลายเรื่องนางเอกแบบเนี่ยตายแล้วก็มีพระเอกมาช่วยเอาไว้แล้วหลังจากนั้น....(หว้าเธอกำลังจิ้นอยู่ในสมองค่ะ)

 

พรู๊ดดดดด!!!! *ปล* เลือดกำเดาพุ่ง

"อ่า...-///- คิดอะไรของเราอยู่เนี่ย แต่ก็นะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆน่าจะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยฉันจากอันตรายแล้วก็พบรักกก!!หลังจากนั้นก้มีฉาก.... กรี๊ดดดด!!"

 

พรู๊ดดดดด!!!! *ปล* เลือดกำเดาพุ่ง

"(TAT;)....โอ้ยยย...."เอามือปาดเลือดที่จมูก

"พระเจ้าคะ   ถ้าท่านยังเห็นหนูเป็นเด็กดีอยู่ล่ะก็ช่วยส่งพระเอกแบบในนิยายมาที่เถอะขอให้เป็นผู้ชายๆหล่อ โปรดส่งมาช่วยหนูเถอะ T^T.....หนู(จิ้น) หนู (จิ้นขั้นที่สอง) เอ่อหนู....(จิ้นขั้นสุดยอด)"

 

พรู๊ดดดดด!!!!  แอ๊กกกกก!!!....*ปล* เลือดกำเดาพุ่งงงงงง....

"T^T.....โปรดส่งมาทีเถอะ แต่ว่าตอนนี้หนูขอถุงเลือดสักสองแกลอนนะคะ"

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

คำนิยม Top

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

คำนิยมล่าสุด

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

ความคิดเห็น