องค์กรลับใต้ภูเขา - นิยาย องค์กรลับใต้ภูเขา : Dek-D.com - Writer
×

    องค์กรลับใต้ภูเขา

    เรื่องราวเกี่ยวกับองค์กรลับ ที่นำมนุษย์มาทำการทดลอง

    ผู้เข้าชมรวม

    167

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    167

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 ต.ค. 53 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                   องค์กรลับใต้ภูเขา
                                                      เข้าสู่องค์กร
    หัวหน้าครับ สารเคมีตัวทีฉีดเข้าไปเหมือนจะใช้ไม่ได้ผลกับร่างกายของมนุษย์ทดลองครับ เสียงรายงานของแพทย์ในองค์กรรายงานผลการทดลอง เอามันไปเผาทิ้งซะหัวหน้าผู้มีชื่อโค้ดเนมในองค์กรว่า นิโคลัส สั่งการ เป็นอย่างนี้ทุกทีสินะ นายแพทย์หนุ่มคิดในใจ ทุกครั้งที่มีการทดลองผิดพลาดผลที่ตามมาก็คือชีวิตของมนุษย์ทดลองที่ต้องเสียไป ซึ่งดูเหมือนคนในองค์กรจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับความตายของมนุษย์ทดลองเหล่านี้เลย   ด้วยวิทยาการที่ทันสมัยที่มีเฉพาะในองค์กรนี้เท่านั้น ทำให้ ฝ่ายผลิตมนุษย์ทดลอง สามารถผลิตมนุษย์ทดลองได้มากถึงเดือนละหลายร้อยตัว ด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อโดยสารเคมีชนิดพิเศษที่คิดค้นโดยหน่วยแพทย์วิจัยสร้างสายพันธ์ ซึ่งองค์กรนี้มีชื่อว่า นิโคลัส ตามชื่อของผู้จัดตั้งหรือหัวหน้าใหญ่ของมันนั่นเอง นิรรัตน์ แพทย์หนุ่มดีกรีปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ต้องมากลายเป็นเครื่องมือในการทดลองอันไร้จริยธรรมของพวกมันด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้วยผลงานวิทยานิพนธ์ของเขาที่ได้คะแนนอันดับหนึ่งไปด้วยการตัดต่อสารพันธุกรรมให้กระต่ายมีสมองที่ฉลาดเหมือนมนุษย์และสามารถสื่อสารความรู้สึกนึกคิดได้โดยผ่านเครื่องแปลสัญญาณที่ติดไว้บริเวณปลอกคอ ทำให้พวกมันต้องการนิรรัตน์มาทำงานด้วย โดยพวกหน่วยค้นหาบุคลากรขององค์กรได้ลักพาตัวนิรรัตน์มาหลังจากที่เขาพึ่งได้รับรางวัลจากวิทยานิพนธ์ของเขาเพียงสามชั่วโมง นิรรัตน์จำเป็นที่จะต้องทำงานกับพวกมัน เพราะสายคาดหัวที่พวกมันสวมไว้ที่หัวของนิรรัตน์ คืออุปกรณ์ที่จะฆ่านิรรัตน์ได้ในทันทีที่เขาออกห่างจากเขตขององค์กรเพียงรัศมีหนึ่งกิโลเมตร  โดยเครื่องส่งสัญญาณตัวแม่ที่ควบคุมโดยฟีฟ่า  ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และหัวหน้าหน่วยงานควบคุมการรักษาความปลอดภัยทางดาวเทียมและระบบคอมพิวเตอร์ การทำงานของมันคือ บีบรัดตัวเองเข้าเรื่อยๆจนจับชีพจรของผู้สวมใส่ไม่ได้ นั่นก็คือ มันจะบีบตัวเข้าหากันจนกว่าเขาจะตายนั่นเอง นิรรัตน์ เคยเห็นเพื่อนร่วมงานของเขาคนหนึ่ง ถูกบีบจนสมองแตกกระจายต่อหน้าเขามาแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ค่อยน่าชมสักเทาไหร่ ทำให้เขาต้องระงับความคิดที่จะหนีเอาไว้ก่อน ในองค์กรนี้มีหน่วยงานย่อยทั้งหมด 6หน่วยงานได้แก่ หน่วยงานควบคุมการรักษาความปลอดภัยทางดาวเทียมและระบบคอมพิวเตอร์ หน่วยค้นหาบุคลากร หน่วยแพทย์วิจัยสร้างสายพันธุ์ หน่วยสร้างนักรบและสรรหาอาวุธ หน่วยรักษาความปลอดภัยโดยรอบ และหน่วยจู่โจมพิเศษองค์กร นิโคลัสเป็นองค์กรลับที่มีจุดมุ่งหมายในการจัดตั้งเพียงอย่างเดียวคือการยึดครองประเทศโดยใช้สัตว์กลายพันธุ์ที่ได้จากการทดลองและการฉีดสารเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของส่วนต่างๆในร่างกายให้กับมนุษย์ทดลอง ซึ่งปัจจุบัน ทางองค์กร ก็ได้มีมนุษย์ทดลองที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพในการรบอยู่เป็นจำนวนมาก คนภายนอกจะรู้จักองค์กรนิโคลัสในชื่อของ หน่วยก่อการร้ายเอ็นเค ซึ่งเป็นหน่วยที่รับจ้างก่อการร้ายในทุกประเทศ ผู้ที่สามารถจ้างหน่วยงานนี้ทำงานด้วยได้ต้องเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ก็ผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น เพราะค่าจ้างของหน่วยก่อการร้ายเอ็นเค จะขึ้นต้นด้วยตัวเลขแปดหลักขึ้นไป หัวหน้าของปฏิบัติการจะมีทั้งหมด สี่คน ได้แก่ อายควิท เอียควิท   ฟาสควิท และ ไฟร์ควิท สี่คนนี้คือมนุษย์ทดลองที่ประสบผลสำเร็จในการทดลอง และมีประสิทธิภาพในการรบสูง ดังนั้น ในปฏิบัติการแต่ละครั้งของหน่วยงานนี้ จึงไม่มีความผิดพลาดใดๆเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย 
                                                    
                                                      ภารกิจแรก
    หลังจากที่นิโคลัสเรียกให้นิรรัตน์ไปพบ เพื่อบอกถึงภารกิจที่จะมอบหมายให้เขาทำ ก็ได้สร้างความกังวลให้ขามากขึ้น แต่เขาก็ต้องทำให้สำเร็จ เพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยในชีวิตของเขาเอง เขาเคยเห็นผู้ที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งของนิโคลัสถูกโยนลงไปเผาพร้อมกับร่างมนุษย์ทดลองอีกหลายสิบคน และแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่อยากจะเป็นหนึ่งในนั้น หน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายคือการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของตัวประหลาดที่เกิดจากการตัดต่อพันธุกรรมระหว่างมนุษย์และเสือ ซึ่งผลที่ได้ก็คือมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ที่ไวเหมือนเสือและมีพละกำลังมหาศาลและที่สำคัญคือมันไม่มีจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ ฆ่าด้วยสัญชาตญาณของสัตว์ป่าเพียงเท่านั้น ดังนั้น จึงหมดหวังไปได้เลยว่าจะมีความเมตตาหลงเหลืออยู่ในวงตาของมันหากมันได้รับคำสั่งให้ขย้ำคุณแล้วล่ะก็    เมื่อนิรรัตน์ก้าวเข้าไปในห้องเพาะเลี้ยง สิ่งแรกที่เห็นคือแคปซูลจำนวนห้าแคปซูลที่เขาจะต้องดูแลจนกว่าร่างในแคปซูลเหล่านั้นจะโตเต็มวัย ตามที่นิรรัตน์คาดคะเนไว้ บวกกับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีขององค์กรแล้วคงใช้เวลาเพียงแค่สองถึงสามสัปดาห์เท่านั้น ภายในแคปซูลบรรจุร่างเล็กมีลักษณะคล้ายมนุษย์ แต่มีเขี้ยวยาวและเล็บแหลมคมคล้ายอุ้งเท้าของเสือ ซึ่งในขณะนั้นมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าลูกฟุตบอลเท่าไหร่นัก   แต่ก็มีรัศมีของความน่ากลัวแผ่ออกมาเสียแล้ว นิรรัตน์หยิบหลอดทดลองที่ภายในบรรจุของเหลวสีฟ้าครามคล้ายน้ำทะเลออกมา   มันคือสารเคมีที่ทำให้กระต่ายของเขามีสติสัมปชัญญะและความรู้สึกนึกคิดคล้ายมนุษย์ เขายอมไม่ได้ที่จะให้ครึ่งคนครึ่งเสือเหล่านี้กลายเป็นเพียงสัตว์ป่าที่ทำตามความต้องการของเจ้านายแต่เพียงผู้เดียวโดยไม่สนใจถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เพราะนั่นหมายถึง ชีวิตคนบริสุทธิ์มากมายที่ต้องมาตายเพราะครึ่งคนครึ่งเสือเหล่านี้ เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ถึงจะไม่แน่ใจในผลที่ได้เท่าไรนัก แต่เขาก็พร้อมที่จะเสี่ยง   นิรรัตน์เปิดแคปซูลออก แล้วเทสารสีน้ำทะเลเข้าไปในแคปซูลทั้งห้า จากนั้นก็ปิดฝาแคปซูลแล้วเปิดระบบลำเลียงอาหารและอากาศตามปกติ ที่เหลือก็แค่รอดูผลว่าสารสีฟ้าของเขา มีประสิทธิภาพมากพอสำหรับพวก
    มันหรือไม่ หลังจากนี้ก็คงต้องพึ่งดวงแล้วล่ะ นิรรัตน์คิดในใจ    ทันไดนั้น เสียงสัญญาณสื่อสารก็ดังขึ้นในกระเป๋าของนิรรัตน์ เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นสายของรูล เพื่อนสนิทของเขา ว่าไง รูล นิรรัตน์กล่าวทักเพื่อนเพียงคนเดียวของเขาในองค์กรแห่งนี้ รูล เป็นนายตำรวจที่ถูกหน่วยค้นหาบุคลากรจับตัวมาทำการทดลอง ซึ่งพวกมันก็ได้ฉีดสารเพิ่มประสิทธิภาพทางกายภาพให้กับเขามากมายหลายอย่าง จนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในสิบบุคลากรคนสำคัญระดับองค์กร และเป็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยโดยรอบ   มาหาผมหน่อย ที่ห้องลับ 503เสียงของรูลกกล่าวสั้นๆ มาตามสาย นั่นทำให้นิรรัตน์ยิ้มออก เพราะรูลมักจะมาพร้อมกับข่าวดีเสมอ เขารีบเดินออกจากห้องแล้วแตะไปที่รูปดอกกุหลาบบนภาพวาดฝาผนังทางซ้ายมือ ทันไดนั้นทางเดินก็เปิดออกพร้อมกับลิฟต์ตัวใหญ่ที่เลื่อนลงมา นิรรัตน์ ก้าวเข้าไปในลิฟต์
    แล้วกดหมายเลขชั้น503 เมื่อลิฟต์เปิดออก เขาก็พบชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของนัยน์ตาสีเทาที่มีอำนาจ กำลังรอต้อนรับเขาด้วยแผนที่ภาพภูเขาขนาดใหญ่ นั่นอะไร นิรรัตน์ถาม นี่แหละคือฐานทัพที่เราจะใช้ตั้งองค์กรของเราเพื่อต่อต้าน องค์กร นิโคลัส รูลตอบพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ โดยที่นิรรัตน์มองไม่เห็นเลยว่า องค์กรที่เขาอยากจะสร้าง จะสามารถซ่อนตัวอยู่บนภูเขาลูกนี้ได้อย่างไร เพราะมันดูเสี่ยงเกินไป ที่จะสร้างองค์กรขนาดใหญ่ในที่โล่งแจ้งอย่างเช่น ภูเขา โดยไม่โดนตรวจสอบจากทางฝ่ายนิโคลัส ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้ถึงความสงสัยของเขา รูลจึงนำรูปภาพอีกรูปหนึ่งให้เขาดู มันคือภาพผ่าครึ่งของภูเขาลูกนั้น โดยภายในภูเขาไม่ใช่ดินหรือหินอย่างที่เขาคิดแต่มันคือตัวอาคารขนาดใหญ่ประมาณห้าสิบกว่าชั้น ซึ่งเต็มไปด้วยห้องทดลองและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่ได้ดูด้อยไปกว่าของที่มีอยู่ในองค์กรของนิโคลัสเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันก็สร้างความตื่นเต้นให้กับนิรรัตน์เป็นอย่างมาก ถ้าอย่างนั้น เราก็พร้อมที่จะออกไปจากองค์กรนรกนี่แล้วล่ะสิเขากล่าว การออกไปจากองค์กรเถื่อนที่ไร้ซึ่งจริยธรรมและสร้างแต่ความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นคือความใฝ่ฝันของนิรรัตน์และรูล พวกเขาวางแผนการที่จะสร้างองค์กรขึ้นมาใหม่ เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำขององค์กรนิโคลัสและคอยต่อต้านการทำงานขององค์กรนรกนี่ และในตอนนี้ การก่อสร้างก็ดำเนินมาจนสำเร็จ ภายใต้การควบคุมของรูล โดยที่ทางฝ่ายนิโคลัสไม่ได้รู้สึกระแคะระคายเลยแม้แต่นิดเดียว ช้าก่อนเพื่อน เราในตอนนี้ มีเพียงสถานที่และอุปกรณ์ แต่เรายังไม่มีกำลังคนมากพอที่จะปฏิบัติภารกิจต่อต้านพวกมันได้ นิรรัตน์ เรายังต้องการกองกำลังที่แข็งแกร่งและมีหัวใจ มาทำงานร่วมกับเรา และผมรู้ ว่าคุณทำได้ คำกล่าวของรูลเพียงแค่นั้นทำให้นิรรัตน์เข้าใจได้ในทันที ว่ารูลต้องการอะไร นิรรัตน์ยิ้มอย่างมั่นใจก่อนจะตอบกลับไปแน่นอน ผมทำได้ แล้วผมจะติดต่อกลับหาคุณทันทีที่ผมทำสำเร็จ นิรรัตน์ให้คำมั่น แล้วผมจะรอครับพูดจบ รูลก็จัดการเผารูปทั้งสองทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้แล้วมีคนมาพบ ก็เท่ากับสิ่งที่พวกเขาพยายามสร้างมาเกือบสิบปีจะต้องพังลงไปอย่างแน่นอน รูลยิ้มอย่างให้ความหวังให้กับนิรรัตน์กลับไปทำงานของคุณต่อเถอะครับ ผมฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่คุณแล้วนะ นิรรัตน์รูลก้าวออกไปพร้อมกับประตูลิฟต์ที่เลื่อนเปิดออก นิรรัตน์กดรหัสส่งให้ลิฟต์เคลื่อนตัวไปยังห้องทดลองส่วนตัวของเขาทันที ในองค์กรนี้ ที่ๆจะสามารถทำสิ่งที่เขาต้องการให้สำเร็จได้ ก็มีแต่ห้องทดลองส่วนตัวของเขาเท่านั้น เพราะนิโคลัส มีจุดอ่อนอยู่เพียงอย่างเดียวก็คือความประมาท ประมาทที่มอบห้องทดลองส่วนตัวให้กับแพทย์ทุกคน และไม่มีการตรวจสอบในภายหลังว่าโครงการวิจัยต่างๆมีผลเป็นอย่างไร เขาจะต้องสร้างบุคลากรให้กับองค์กรของเขา นิรรัตน์ตั้งความหวัง ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องทดลอง ภายในเต็มไปด้วยสารเคมีที่คิดค้นโดยองค์กรนิโคลัสอยู่หลายชนิด แคปซูลเพาะเลี้ยงสองแคปซูล และเครื่องโคลนนิ่งอีกสามเครื่อง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว นิรรัตน์คิด จากนั้นเขาก็เปิดเครื่องโคลนนิ่ง ป้อนรหัสพันธุกรรมและดีเอ็นสำหรับมนุษย์ แล้วเปิดปุ่มเดินเครื่องทันที นิรรัตน์เฝ้าดูการทำงานของเครื่องโคลนนิ่งด้วยใจจดจ่อ เขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นมนุษย์คนแรกที่เขาเป็นคนสร้างขึ้น โตเร็วๆนะ ใอ้ลูกชาย แกจะต้องหล่อเหมือนพ่อแน่ๆเขาพูดกับเครื่องโคลนนิ่ง โดยเขาจะให้มนุษย์โคลนนิ่งคนน้เป็นลูกชายของเขา เขารู้สึกผูกพันกับสิ่งที่เขาสร้างขึ้น มันจะไม่เป็นเพียงมนุษย์โคลนนิ่ง แต่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา เขานั่งมองก้อนเนื้อเล็กๆที่ลอยอยู่ในสารเคมีสีเหลืองเข้ม ก่อนจะตั้งชื่อให้กับลูกชายคนแรกของเขา ไบรท์ มนุษย์โคลนนิ่งคนนี้มีชื่อว่า ไบรท์ เพราะลูกชายคนนี้เปรียบเสมือนแสงสว่างที่สดใสสำหรับชีวิตอันมืดมนของนิรรัตน์ หลังจากนั้น ก็ต้องเพิ่มความพิเศษให้กับเจ้าไบรท์สินะ นิรรัตน์คิดพลางหันไปมองสารเคมีขององค์กร สารเสริมสัญชาติญาณสัตว์ป่า สารลดประสิทธิภาพสมอง นิรรัตน์อ่านพลางรีบนำสารเหล่านั้นเก็บใส่ลังแล้วปิดฝาทันที ขืนเขานำสารเหล่านี้ใส่ให้ลูกชายของเขา คงจะได้ลูกชายที่น่ารักพิลึก สารเพิ่มความแข็งแกร่งต่อผิวหนัง สารเพิ่มความแข็งแกร่งต่อร่างกาย สองอันนี้น่าจะใช้ได้ นิรรัตน์คิด พลางเทน้ำยาสองชนิดนี้ผสมกันแล้วเทใส่สายลำเลียงอาหารสำหรับลูกชายเขาทันที นิรรัตน์เปิดเร่งความเร็วในการเจริญเติบโตเต็มที่ ก่อนจะหันไปค้นหาสารเคมีที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อไป แต่สายตาของเขาก็ไปสะดุดกับคำเตือนที่ติดอยู่บนฉลากข้างสารที่เขาพึ่งเทใส่ให้กับเจ้าลูกชายของเขา ห้ามนำไปผสมกับสารเคมีชนิดอื่น อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ซวยล่ะสิ นิรรัตน์คิด ก็เมื่อสักครู่เขาพึ่งจะผสมมันแล้วส่งให้กับเจ้าไบรท์ไปแล้วด้วย เขาหันไปมองเครื่องโคลนนิ่งของลูกชายเขา แล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อพบว่าระดับชีพจรยังคงปกติ คงไม่เป็นไรนะเขาพูดกับเครื่องควบคุมมวลสารภายในหลอดแก้ว ก่อนจะปรับระดับของอุณหภูมิและสารอาหารก่อนเดินจากไป
                                                   เพื่อนใหม่ของนิรรัตน์
    ระบบเพาะเลี้ยงเสร็จสมบูรณ์   ระบบเพาะเลี้ยงเสร็จสมบูรณ์ เสียงรายงานจากแคปซูลดังขึ้น นิรรัตน์ เดินไปปิดระบบก่อนจะหันไปมองพวกครึ่งคนครึ่งเสือที่ลืมตาขึ้นมาแล้ว พวกมันจ้องมองนิรรัตน์ด้วยแววตาหิวกระหายของสัตว์ป่า น้ำยาสร้างความรู้สึกคงใช้ไม่ได้ผลกับพวกมัน นิรรัตน์คิด พลางเดินออกไปเพื่อแจ้งให้นิโคลัสรับรู้ถึงความสำเร็จในการสร้างมนุษย์ดัดแปลงทั้ง 5 แต่เขาก็ต้องหยุดอยู่ที่เครื่องแคปซูลหมายเลขสุดท้าย ครึ่งคนครึ่งเสือในนั้น มีอากัปกริยาที่แตกต่างจากคนอื่นๆ มันกำลังใช้เล็บที่แหลมคมของมันไขน็อตลูกกรงที่ขังมันออก สัตว์ป่า ไม่คิดทำอย่างนั้นแน่ นิรรัตน์คิดพลางมองไปยังคนอื่นๆที่กำลังใช้ลำตัวกระแทกลูกกรงให้เปิดออก เจ้าตัวนี้ฉลาดกว่าตัวอื่นๆ เขาก้าวไปหยุดอยู่ตรงหน้าพลางคิดว่า น้ำยาของเขา คงจะใช้ได้ผลกับเจ้าตัวนี้ ทันไดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงจากครึ่งคนครึ่งเสือตรงหน้า พ่อ คุณเป็นพ่อของผมเหรอครับ มันพูดได้ด้วย นิรรัตน์ตื่นเต้นกับความสำเร็จของตัวเองพลางก็นึกตลก นี่เจ้าเสือตัวนี้มันคิดว่าเราเป็นพ่อของมันรึนี่ ลองมีลูกเป็นเสืออีกสักตัวก็คงไม่เสียหาย นิรรัตน์คิดพลางสั่งเจ้าเสือตัวนั้น เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ห้ามพูดภาษามนุษย์เด็ดขาด รู้มั้ย เจ้าเสือนิรรัตน์สั่งพลางตั้งชื่อให้เจ้าเสือเสร็จสรรพ ทำไมล่ะครับเจ้าเสือถามพลางเอียงคอมองผู้ที่ตนเรียกว่า พ่อ ด้วยความสงสัย แววตาแบ๊วๆนั่นไม่เหมาะกับครึ่งคนครึ่งเสือที่ตัวใหญ่กว่าเขาเป็นเท่าตัวนั่นเลย รวมทั้งฟันที่แหลมคมกับอุ้งมือที่คล้ายเสือนั่นแล้ว ยิ่งไม่เหมาะเข้าไปใหญ่ นิรรัตน์คิดพลางอธิบายให้เจ้าเสือฟังก็เพราะพวกนั้น จะเอาแกไปเผาทิ้งทันทีที่รู้ว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นน่ะสินิรรัตน์บอกพลางเดินออกไปเรียกนิโคลัสให้มาดูเจ้าพวกนี้ เมื่อมาถึง นิโคลัสกวาดสายตามองครึ่งคนครึ่งเสือทั้งห้า ก่อนจะสั่งให้มนุษย์ดัดแปลงนำกรงขนาดใหญ่มาแล้วนำครึ่งคนครึ่งเสือทั้งห้าใส่ลงไป พวกมันโยนมนุษย์โคลนนิ่งลงไปในกรงห้าคน ทันไดนั้น ครึ่งคนครึ่งเสือทั้งสี่ก็ตรงเข้าขย้ำเหยื่อในทันที เหลือเพียงเจ้าเสือ ที่ยังคงนั่งร้องให้ด้วยความหวาดกลัวอยู่มุมหนึ่งของกรง นิโคลัสมองไปที่เจ้าเสือก่อนจะสั่ง เอามันไปเผานิรรัตน์ได้ยินดังนั้นจึงรีบค้านออกไปว่า ท่านครับ ผมคิดว่ามันยังใช้ทำการทดลองหาข้อผิดพลาดได้ นิโคลัสได้ยินดังนั้นจึงยอมให้เจ้าเสือได้อยู่กับนิรรัตน์ต่อไปเพื่อหาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น พลางเดินออกไปพร้อมกันมนุษย์ดัดแปลงและสัตว์ทดลองทั้งหมด   เมื่ออยู่กันตามลำพัง เจ้าเสือก็เงยหน้าขึ้นและพูดกับนิรรัตน์ทันทีผมไม่ชอบที่นี่นิรรัตน์ยิ้มเศร้าก่อนจะบอกกับเจ้าเสือ ฉันก็ไม่ชอบที่นี่ แน่นอน ไม่มีคนดีๆที่ไหนเขาชอบกันหรอก ไว้ถ้าฉันหาทางออกไปจากที่นี่ได้ ฉันจะพาแกออกไปด้วยกัน ตกลงมั้ย เจ้าเสือยิ้มอย่างดีใจพลางกระโดดเข้ากอดเขาจากด้านหน้า ส่งผลให้เขาหงายหลังลงทัทีด้วยแรงมหาศาลของมันตกลงครับพ่อเจ้าเสือบอกแล้วเดินไปนอนบนโต๊ะทำงานแต่ก็ยังมองมาที่นิรรัตน์ด้วยความสงสัย แล้วพ่อไปนั่งทำไมบนพื้นนั่นล่ะครับเจ้าเสือถามนิรรัตน์ที่ยังคงมึนจากแรงกระแทกของเจ้าเสืออยู่
    นิรรัตน์มองเจ้าเสือที่นอนหลับสบายอยู่บนโต๊ะพลางคิดในใจว่า รึจะเอามันไปเผาดีวะไอ้เสืองี่เง่า นี่เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างนิรรัตน์และเจ้าเสือ ถึงเจ้าครึ่งคนครึ่งเสือตัวนี้จะไม่ดุร้ายเหมือนกับพี่น้องของมัน แต่ใครจะไปรู้ล่ะ เพราะในบางที มันอาจจะกลายเป็นกำลังสำคัญสำหรับองค์กรใหม่ที่เขาจะตั้งขึ้นก็ได้
                                                  ฐานลับแห่งองค์กร
    รูล ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยขององค์กรนิโคลัส ยืนมองสถานที่ๆอยู่ตรงหน้าด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจ ที่นี่ คือภูเขา ภายนอกอาจจะมองว่าเป็นเพียงภูเขาธรรมดา แต่ความจริงแล้ว ที่นี่คือ ฐานขององค์กรที่เขาทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อสร้างมันขึ้นมาโดยมีเพียงแค่ รูลและนิรรัตน์เท่านั้นที่รู้ว่ามันมีอยู่
    รูลเดินไปบริเวณเชิงเขาก่อนจะตรงไปที่ต้นไม้สองต้นที่ขึ้นคู่กันอยู่ ต้นไม้คู่นี้คือกุญแจชั้นแรกที่จะเข้าไปยังองค์กรของเขา ชายหนุ่มเดินไปอยู่ระหว่างกึ่งกลางของต้นไม้ทั้งสอง ก่อนจะมองตรงไปในระดับสายตา เมื่อระบบสแกนม่านตาเริ่มทำงานเสียงสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ก็ดังขึ้นในหูฟังบลูทูธที่เขาสวมอยู่ รูล รหัส 01ผ่านได้
    เมื่อเสียงเงียบลงพื้นดินที่เขายืนอยู่ก็ค่อยๆยุบตัวลงไปข้างล่างก่อนจะดันตัวกลับมากลายเป็นพื้นดินธรรมดาๆเช่นเดิมโดยไม่มีอะไรผิดสังเกต ภายในภูเขาเป็นอาคารขนาดใหญ่ มีทั้งหมดห้าสิบชั้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ทางการแพทย์มากมาย แต่ทั้งห้าสิบชั้น กลับมีสิ่งมีชีวิตอยู่เพียงหนึ่งเดียวก็คือเขา เนื่องด้วยองค์กรที่เขาจะตั้งมีคนรู้เพียงแค่สองคนเท่านั้น จึงยังไม่มีบุคลากรเพียงพอที่จะทำงาน สถานที่แห่งนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นแค่ตึกร้างตึกหนึ่งเท่านั้น แต่เขาเองก็มั่นใจว่านิรรัตน์ จะสามารถหาบุคลากรมาทำงานให้กับองค์กรนี้ได้อย่างแน่นอน เขาเดินไปเปิดดูกล้องวงจรปิด ไม่มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับภายในภูเขาลูกนี้เลยแม้แต่น้อย เขาแว่วได้ยินเสียงเรียกจากเครื่องมือสื่อสาร นิโคลัสตามตัวอีกแล้วเหรอนี่ เขาคิดในใจ ก่อนจะหยิบขึ้นมาดูพบว่า มันเป็นเบอร์ของนิรรัตน์ เขารีบกดตอบรับทันที แล้วเสียงของนิรรัตน์ก็ดังมาตามสาย ผมมีของขวัญจะให้คุณนะ รูล
    รูล รู้ทันทีว่าอะไรคือของขวัญของนิรรัตน์ เขาไม่สามารถคุยเรื่ององค์กรใหม่ในการสื่อสารผ่านดาวเทียมได้ เพราะเขาไม่รู้ว่าจะถูกดักฟังตอนไหน คนขององค์กรนิโคลัส มักจะได้ยินในสิ่งที่เขาพูดคุยกัน มันจึงเป็นการเสี่ยงที่จะพูดคุยเรื่องนี้กันทางเครื่องมือสื่อสารถ้างั้นผมจะไปรอที่ห้องเดิมนะครับรูลบอกกับนิรรัตน์ แต่นิรรัตน์กลับเปลี่ยนสถานที่ ผมว่า มาที่ห้องทดลองของผมดีกว่าครับรูลรับรู้ได้ทันทีว่าสิ่งดีๆกำลังจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ครับ แล้วผมจะรีบไป หลังจากสัญญาณตัดไป รูลก็รีบออกจากภูเขา แล้วรีบกลับไปยังองค์กรนิโคลัสทันที เมื่อไปถึงห้องทดลองของนิรรัตน์ รูลก็ได้เจอกับนิรรัตน์และตัวประหลาดอีกตัวหนึ่ง มันไม่เหมือนคน แต่ก็ไม่เหมือนสัตว์เท่าไหร่นัก เพราะมันรูปร่างเป็นคน แต่ตัวใหญ่เกือบสองเท่าของคนปกติแล้วยังมีเขี้ยวแหลมยาวคล้ายเสือ นอกจากนี้ก็ยังมีอุ้งมือและอุ้งเท้าคล้ายเสืออีกด้วยหวัดดีครับนิรรัตน์ เอ่อ เจ้าตัวนั้นมันคงไม่กินผมใช่ไหมรูลเอ่ยทักนิรรัตน์โดยที่ยังไม่ได้ก้าวเข้าไปในห้องทดลอง นิรรัตน์เห็นดังนั้นก็รู้สึกขำกับท่าทางของชายหนุ่ม เจ้าเสือมันไม่น่ากลัวสักนิด เขาคิดพลางบอกกับรูลเข้ามาเถอะครับ เจ้านี่มันเชื่องกว่าแมวเสียอีก ไม่ต้องกลัวหรอกรูลพยายามเชื่อว่าเสือสามารถอยู่กับคนได้ ไม่ว่าคิดยังไงคำตอบที่ได้ก็คือ ไม่มีทาง แต่ในที่สุดเขาก็ก้าวเข้าไปในนั้นอย่างหวาดๆ พลางรีบไปหลบหลังนิรรัตน์ทันที เจ้านี่มันมาจากไหนครับรูลถามอย่างสงสัย นิรรัตน์จึงเล่าเรื่องการทดลองครึ่งคนครึ่งเสือและน้ำยาสีฟ้าครามของเขาให้กับรูลฟัง รูลจึงคลายความหวาดกลัวได้เล็กน้อยเจ้ารี่มันพูดได้ด้วยเหรอเขาเอ่ยถามนิรรัตน์ แต่ฝ่ายที่ตอบกลับกลายเป็นเจ้าเสือ ผมชื่อเสือครับพ่อเล่าเรื่ององค์กรให้ผมฟังแล้ว ผมจะไปอยู่องค์กรใหม่ คุณจะเป็นคนพาผมไป ใช่ไหมครับรูลชะงักกับคำว่าพ่อที่เจ้าเสือใช้เรียกนิรรัตน์เจ้าตัวนี้เป็นลูกคุณ นี่คุณไปทำเสือท้องมาเหรอ นิรรัตน์ ซึ่งคำพูดของรูลก็ได้สร้างความขบขันให้แก่นิรรัตน์เป็นอย่างมาก เจ้าเสือมันเป็นมนุษย์ทดลองในโครงการของนิโคลัสครับ แต่มันเรียกผมว่าพ่อตั้งแต่ลืมตาขึ้นในแคปซูลเพาะเลี้ยงแล้วแหละ รูลพยักหน้าอย่างเข้าใจพลางเดินไปหาเจ้าเสือ ยินดีต้อนรับเข้าสู่องค์กรของเราครับ คุณสมาชิกคนแรกเจ้าเสือยิ้มดีใจ ถึงแม้มันมองดูเหมือนการแสยะเขี้ยวมากกว่าก็ตาม ครับผมเจ้าเสือพูดอย่างแข็งขันพลางเดินไปหานิรรัตน์แล้วรีบตามผมไปเร็วๆ นะครับพ่อนิรรัตน์แม้จะไม่แน่ใจว่าตนจะมีโอกาสได้ออกจากที่นี่หรือเปล่า เพราะสายรัดหัวอิเล็กทรอนิกส์ยังคงควบคุมเขาอยู่ แต่เขาก็ตอบกลับไปว่าแน่นอน ใอ้ลูกชาย แล้วพ่อจะรีบตามไปจากนั้น เจ้าเสือก็เดินตามหลังรูลออกไปจากองค์กร เพื่อไปยังองค์กรใหม่ใต้ภูเขา และด้วยเหตุที่รูล เป็นถึงหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยในองค์กรนิโคลัส การนำเจ้าเสือออกไป จึงง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเสียอีก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น