ตอนที่ 10 : - 10 - || New "Home" || 100%
You didn't leave your number for me
Left me without a warning, baby
“ผมจะมาอยู่กับคุณได้ไงครับ” ผมถามเขาด้วยความตกใจนิดหน่อยที่อยู่ๆ บูรพาก็ชวนผมไปอยู่ด้วย คือที่บ้านผมต้องไม่ยอมแน่ๆ พวกเขาน่าจะกลัวไม่มีคนใช้งาน ผมไม่ได้มองโลกแง่ร้ายไปหรอก แต่ทุกครั้งที่ผมทำงาน แล้วกลับบ้านช้า จะชอบโดนด่าตลอดแหละ “บ้านผมก็มีนะ ถ้าผมไปอยู่กับคุณ มันต้องเป็นเรื่องแน่ๆ อีกอย่าง เราก็ไม่ได้รู้จักกันขนาด...ที่จะไปอยู่ด้วยกัน มันไม่ง่ายขนาดนั้นนะครับ”
“คิดมากจัง”
“อ้าว ก็ต้องคิดมากสิ ใครมันจะไม่คิดอะไรเลยเหมือนคุณล่ะ” ผมหลุดปากว่าเขาไป ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าผมไม่ควรไปว่าเขาแบบนั้น เขาเป็นผู้ใหญ่มากกว่าผม ถ้าไม่มีความคิด ความอ่านมากพอคงไม่ยืนที่จุดนี้หรอก “คือผมหมายถึงเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับคุณนะ”
“คิดมาดีแล้วนะที่จะ ขอ ให้มาอยู่ด้วย” เขาบอก ก่อนจะเอาผ้าที่ห่อน้ำแข็งยื่นให้กับคนขับรถ เพราะน้ำมันเริ่มหยดออกมาแล้ว เขาถอดสูทออก เอามันมาคลุมไหล่ผมและดึงให้ผมขยับเข้าไปหาเขามากขึ้น ยิ่งทำแบบนี้ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ผมไม่อยากใช้คำว่าคุ้นจมูก กลิ่นหอมเข้มๆ แต่ไม่ฉุนของเขา ถ้าได้กลิ่นนี้มันก็ทำให้นึกถึงหน้าบูรพาขึ้นมาทันทีเลย และกลิ่นนั่นกำลังโอบรอบตัวผมอยู่ “เพราะรู้ว่าอันวาอยู่ยังไง เจออะไรมาบ้าง ถึงอยากดูแล”
“กำลังคาดหวังอะไรอยู่หรือเปล่าครับ?”
“หมายถึงเรื่องบนเตียง?” ถามไม่พอนะ ต้องยื่นหน้าเข้ามาหาผมด้วย นั่นยิ่งทำให้ผมประหม่ามากขึ้นกว่าเดิมอีก
“...”
“เรื่องแบบนั้นจะทำกับใครก็ได้ไหม”
“แต่มันเร็วไปนี่ครับ”
“หาเหตุผลหนีตลอดเลยคนนี้เนี่ย”
เกลียดชะมัด ทั้งน้ำเสียง กับแววตาเอ็นดูคู่ตรงหน้าผมน่ะ ไอ้สายตาน้ำเสียงแบบนี้ นอกจากพ่อกับแม่ผมที่เคยมีให้ ก็ไม่มีใครมานั่งเอ็นดูผม อย่างที่เขากำลังเป็นอยู่เนี่ย คนยิ่งเคว้งคว้างกับชีวิตอยู่นะ ถ้าเกิดผมไปหลงกลเขาขึ้นมา แล้วโดนเขาทิ้ง ผมจะทำยังไงล่ะ ตอนนี้ ผมกำลังเซฟใจตัวเองอยู่นะ
“...”
“บังคับเลยได้ไหม”
“ทำไมถึงอยากให้ผมไปอยู่ด้วยขนาดนั้น”
“...” บูรพามองผมนิ่งๆ แต่ท่าทางเขาเหมือนกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะตอบผมยังไง ผมเลยนั่งมองเขา รอให้เขาตอบผมว่าทำไมถึงอยากให้ผมไปอยู่ด้วยขนาดนั้น นี่ผมกำลังคาดหวังอะไรก็ไม่รู้ จากเขา คนที่เพิ่งมีอะไรกันมาแค่เพราะความเมา ผมเริ่มเห็นว่าบูรพาเป็นแสงสว่างให้กับชีวิตตัวเองแล้ว มันก็ช่วยไม่ได้แฮะ บอกความรู้สึกไม่ถูกเหมือนกัน ผมคงเจอเรื่องเลวร้ายมาเยอะเกินไป แล้ววันหนึ่ง ความฉาบฉวยของคืนที่ผมแค่เมา เสียใจ ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปเลย เจอคนที่ใส่ใจ ปกป้องผมแบบที่ไม่มีมานานมากแล้ว
ใจง่าย... ใช้คำนี้มันคงจะไม่แย่เท่าไหร่กับสถานการณ์แบบนี้
“ทำไมมองผมแบบนั้นล่ะครับ”
“ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องพยายามหาเหตุผลกับทุกเรื่อง”
“คนเราทำอะไรก็ต้องมีเหตุผลรองรับสิครับ”
“ก็ไม่จำเป็นจะต้องมีกับทุกเรื่องไหม เช่นเรื่องของความรู้สึก”
“...อ่า” นั่นสินะ
ขนาดผมยังยอมทนคาร์ฟมานานเลย ถ้าจะบอกว่าเพราะรักมากๆ ช่วงแรกๆ มันคงใช่แหละ แต่พอโดนทำร้ายความรู้สึกมาเรื่อยๆ ไอ้คำว่ารัก มันก็ถูกบั่นทอนจนจางลงไปเรื่อยๆ อยู่ด้วยกันทุกวันนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่าอยู่กับเขาต่อไปเพื่ออะไร เหมือนไปไหนไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะอยู่ต่อไปทำไมเหมือนกัน ไร้เหตุผลสุดๆ ล่ะ
“ว่าไง?”
“ที่บ้านพี่ผมต้องไม่ยอม...”
“ก็ลองไม่ยอมดู”
“เอ่อ...”
“มรดกของเธอก็ถูกบ้านนั้นฮุบไปแบบเนียนๆ ด้วยใช่ไหมล่ะ?”
ผมเชื่อแล้วแหละว่าเขารู้เรื่องผมทุกเรื่องจริงๆ ก็เป็นอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ มรดกนั่นน่ะ เหมือนผมแทบจะไม่ได้แตะเลย ผมไม่ได้เห็นแก่ได้อะไรหรอก เพราะมันเป็นสิ่งที่ได้มาหลังจากผมสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต แต่สุดท้ายมันก็เป็นของผม เป็นสิ่งที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้ผม พวกเขาอาสาว่าจะดูแล แต่เท่าที่ผมเห็นคือมันมีแค่ค่าเทอม ค่ากินค่าใช้ เคยคุยกันแล้ว เขาบอกว่า ก็ค่าไฟน้ำ ข้าวที่ผมกินกับพวกเขาคือเงินพวกนั้น พวกเขาให้เงินผมใช้บ้าง บางทีก็ไม่ให้เลย นั่นแหละ ถึงทำให้ผมต้องออกไปหางานพาร์ทไทม์ทำข้างนอก “ทั้งหมดนั่นน่ะ จะจัดการให้”
“จะ...จัดการยังไงเหรอครับ”
“ฉันมีวิธีแล้วกัน”
“แต่...”
“หรืออยากโดนเอาเปรียบแบบนี้ไปตลอด?”
มันก็ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย แต่ผมกลัวมีปัญหาใหญ่จะตามมาน่ะสิ
“ไม่ใช่ครับ”
“ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก มีฉันทั้งคน”
ผมเชื่อนะว่าเขาจะปกป้องผมได้ จากการที่เขาจัดการคาร์ฟได้อยู่หมัดนั่นแล้ว ผมก็เชื่อเต็มๆ เลยแหละ เพียงแค่ไม่รู้ว่าอนาคต ปีกของบูรพาจะยังปกป้องผมเหมือนตอนนี้ไหม แต่ก็นะ คิดแทนอนาคตที่จะเกิดไปก็เท่านั้น ตอนนี้ผมมีลู่ทางที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมก็ควรเลือกทางนี้ ดีกว่าไปลำบาก โดนด่าเหมือนแต่ก่อน
“แต่คุณรู้ใช่ไหม ว่าถ้าผมเลือกจะไปกับคุณ มันก็เพราะว่าผมอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น”
“อือฮึ”
“ไม่ใช่เพราะผมรู้สึกอะไรแบบนั้นด้วย”
บอกเขาตรงๆ ไปตอนนี้ดีกว่า ถ้าผมต้องไปพึ่งพาเขาจริงๆ ผมก็อยากให้เขารู้ถึงความรู้สึกของผม มันจะได้ดูไม่เอาเปรียบกัน
พอผมพูดแบบนั้นเขากลับยิ้ม ยิ้มกว้างมาก... มากจนผมงงว่าไอ้การที่ผมบอกเขาตรงๆ ไปเนี่ย มันน่ายิ้มตรงไหน
ไม่พอนะ ทำท่าทางมันเขี้ยวผมหนักมากๆ อีก
“ทะ...ทำไมมองผมแบบนั้นละ อ่า อื้อ!”
นี่! จะมายิ้มหวานแฉ่ง แล้วมาจุ๊บปากคนอื่นมั่วซั่วแบบนี้ได้ไงเนี่ย!!!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

😊😊
จริงๆๆ
มีแต่คำว่า อ๋อยยยยยนนลูกกกก
มีความเอ็นดูน้อง
'///^///' เฮียน่ารักมากเลยอะ เขินแทน
รออ้านอยู่น่าค่า เจิมค่า
รอคร่าาาาาา