ตอนที่ 8 : #รักเป็นอนันต์ #นายอนัน EP. 06 [ 100% ]
Mini Market
ผมมาเดินมาร์เก็ตอีกครั้งในรอบสองอาทิตย์ ตอนแรกพี่หมอเอิร์ทจะมาด้วย แต่เขาต้องทำงานพอดี ผมก็เลยบอกว่าจะมาเอง ที่เขาจะมาด้วยเพราะต้องซื้อของเข้าบ้านตามลิส ปกติแม่บ้านซื้อเข้ามาให้มั้ง ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ รู้แค่อยากได้อะไรเพิ่มก็เสนอหน้าออกมาซื้อเอง บวกกับผมอยู่บ้านเขาเบื่อๆ ด้วยแหละ เดินเที่ยวทุกวันก็น่าเบื่อ เลยมาเที่ยวมาร์เก็ตเดินใช้เงินอย่างคนรวยมันซะเลย
เฮียๆ ใจดีโอนเงินเข้าบัญชีผมอื้อซ่า ซื้อของแบรนด์เนมสิบชิ้นยังไม่หมดเงินเลยมั้ง เหลือเฟือมาก พี่หมอเอิร์ทบอกว่าวันนี้จะโชว์ฝีมือการทำ...สเต๊ก โถ่ กูก็นึกว่าจะทำอาหารไทย นี่ก็คิดถึงอาหารไทยนะ มากินที่นี่รถชาติมันไม่ค่อยเหมือน หรือมโนไปเองก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่เป็นร้านคนไทยเปิด แต่ช่างแม่งเถอะ แดกๆ เข้าไป ผมทำอาหารไม่ค่อยจะเป็นด้วย รอให้พี่หมอเอิร์ททำให้กินนั่นแหละง่ายดี
พวกเนื้อพวกผักผมซื้อหมดละ ตามลิสต์ที่พี่หมอเอิร์ทเขียนมาเลย มีพวกซอส เครื่องปรุง เครื่องเทศ แล้วก็น้ำ ผมไล่หยิบมาจนถึงไอ้เครื่องเทศชนิดหนึ่งที่กวนส้นตีนตั้งไว้ซะสูงเลย มึงคิดว่าคนเมืองเป็นไททันเหรอสัด
หงุดหงิดเว้ยยยย อากาศก็หนาว ยังต้องมาหงุดหงิดกับการหยิบซอสไม่ถึงอีก ห่าราก
ผมเขย่งปลายเท้าพยายามเอื้อมไปหยิบมัน แต่ในจังหวะนั้นก็มีเงาทาบมาจากด้านหลังผมและเอื้อมหยิบขวดที่ปลายนิ้วผมแตะถึงแล้วมาให้ ผมหันไปหากะจะขอบคุณ
“Thank…” ...เขา
หมอนายไม่ได้พูดอะไร หลังจากที่เขาหยิบให้ผมแล้ว ร่างสูงโปร่งก็เข็นรถเข็นของเขาออกไป ทิ้งให้ผมยืนมองแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างออกไปอีกครั้ง ผมพยายามควบคุมสติตัวเองและเข็นรถเข็นไปที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน ผมไม่เห็นหมอนายแต่ผมรีบคิดเงินแล้วถือถุงนั้นเดินออกไปด้านนอก
...ไม่รู้ตัวเองเป็นบ้าอะไร แต่ผมมีความคิดโง่ๆ อยู่อย่างหนึ่งคือผมจะตามเขาไป
ผมไม่รู้ว่าทำไมหมอนายถึงยังอยู่ที่นี่
ยืนถือถุงที่หนักอึ้งอยู่นาน อากาศหนาวขึ้นเรื่อยๆ แถมวันนี้ผมไม่ได้เตรียมตัวดีๆ มาอีก เสื้อกันหนาวมันแทบจะไม่ช่วยอะไรเลย ทว่าผมก็ยังยืนแบบนั้น จนอีกคนออกมา เขาไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างมากนัก ร่างสูงโปร่งถือถุงกระดาษในมือเดินออกไปยังถนน แปลว่าเขาไม่ได้เอารถมาด้วย ผมก็เลยค่อยๆ เดินตามไป เขาเดินไปตามเส้นทางที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่มันเป็นตรอกอะ เดินมาเรื่อยๆ ผมคลาดสายตาหมอนายแค่แป๊ปเดียวเอง ร่างสูงก็หายไปแล้ว
ผมมองไปรอบๆ ตัวก็ไม่พบใครเลย...
เขาหายไปไหนไวจังวะ
หมับ!
“อื้ออออ!!!” ตัวผมชาวาบเมื่ออยู่ๆ ก็มีใครบางคนเอามือมาปิดปากผมแล้วกระชากเข้าซอกตึก ของที่อยู่ในมือผมเกือบร่วงแหน่ะ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาห่วงของ ผมดิ้นสุดแรง พยายามที่จะให้ตัวเองหลุดจากพันธนาการของคนด้านหลัง เขาใช้มือล็อคตัวผมแน่นมากขึ้น “อ่อยยย เอทอีโอ!!!” (ปล่อยย Let Me go)
“ตามพี่มาเหรอ”
...หมอนายเหรอ ทำไมมีกลิ่นเหล้าด้วยวะ
“...” หมอนายปล่อยมือจากปากผม แล้วดันผมจนหลังผมชิดกับผนังอิฐที่เย็นเฉียบ
“ว่าไง”
“ไม่ได้ตาม”
“แน่ใจ?”
“แน่”
“อืม” หมอนายพยักหน้าแล้วก็ถอยออกไป สายตาผมสะดุดเข้ากับมือของเขาที่มีรอยแผลอยู่ มันเป็นทั้งข้อนิ้วเลยเหมือนไปต่อยกับใครมา แล้วมันก็ทำให้ผมอดที่จะถามอีกคนไปไม่ได้
“มือไปโดนอะไรมา”
“ไม่ใช่เรื่องของอนัน”
“...” เย็นชาดีเนอะ
แต่ก็ถูกของเขาแล้วนี่ มันควรจะเป็นแบบนี้ แต่หัวใจผมกลับเจ็บเหมือนมีเข็มมาทิ่มแทงยังไงยังงั้นเลย
“...”
“ทำไมไม่กลับไทยไปวะ” ผมพูดใส่คนที่หันหลังให้ตัวเอง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องมายืนทำหรือพูดอะไรโง่ๆ แบบนี้ด้วย แต่ผมยอมรับเลยว่าผม...คิดถึงเขา ยอมแล้ว...จะตายแล้ว
“พ่อพี่ไม่สบาย ไม่ต้องห่วงหรอกครับ พี่ไม่ได้อยู่เพื่อก่อกวนอนันหรอก”
“...เหรอ”
“อืม ก็พี่...ไม่ได้รักอนันแล้ว พี่จะอยู่กวนอนันไปทำไม พี่อยู่ต่อก็เพราะเรื่องที่บ้านพี่ เรื่องส่วนตัวของพี่ อนันกลับไปเถอะครับ อากาศเริ่มเย็นมากแล้ว”
หมอนายไม่รอฟังผมพูดอะไรอีก เขาพูดเท่านั้นแล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้ผมมองตามแผ่นหลังกว้างอีกครั้ง ครั้งที่สามแล้วมั้งที่ทำได้แค่มองเขาหันหลังให้ตัวเอง และคำว่าไม่ได้รักของหมอนายมันทำให้ผมเจ็บมากกว่าเดิม ทว่าผมทำได้แค่มอง ไม่ได้ไปรั้ง เพราะไม่มีสิทธิ์ ในวันนั้นผมเป็นคนไล่เขาไปเอง
ผมยืนโง่ๆ อยู่กับที่มานานสามชั่วโมงเต็มหลังจากที่หมอนายไป อากาศมันหนาวตามพยากรณ์อากาศประกาศในทีวีเมื่อเช้าเลย ผมฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่พี่หมอเอิร์ทก็ย้ำว่าวันนี้มันจะหนาวมาก สำหรับคนที่อยู่เมืองไทยมาตลอดอย่างผมแล้ว อากาศแบบนี้มันโคตรจะหนาว ทว่าผมไม่มีเรี่ยวแรงจะก้าวไปไหนเลย คำพูดทุกคำของหมอนายในวันนี้มันเล่นวนลูปซ้ำอยู่แบบนั้น
...ซ้ำจนช้ำ
และสิ่งหนึ่งที่ไม่หายไปเลยคือน้ำตา มันไหลออกมาไม่ยอมหยุด แม้ผมจะเช็ดมันไปกี่ครั้งก็ตาม การที่หมอนายพูดออกมาแบบนั้นมันยิ่งทำให้ผมพัง เหมือนกับผมสูญเสียอะไรบางอย่างในชีวิตไป มันเคว้งคว้างจนแทบหาจุดยืนตัวเองไม่เจอ ผมยอบกายลงไปและวางของลง กดมือไปบริเวณที่ตั้งของหัวไป กดไปหวังว่าจะให้มันเจ็บได้น้อยลง แต่ไม่เลย...ยิ่งเต้นแรงเท่าไหร่ ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อก่อนไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป แต่ตอนนี้...เรียกหาเท่าไหร่ก็ไม่กลับมา
ถึงผมจะไม่เรียกเขา ไม่รั้งเขา แต่ใจผมมันต้องการให้เขากลับมาหาผม ผมมันก็แค่คนย้อนแย้งคนหนึ่งที่ดีแต่เอาแต่ใจตัวเอง ยอมรับ
“กลับมาไม่ได้เหรอ อึก...กลับมาไม่ได้เหรอวะ”
ผมพึมพำออกมา เหมือนบอกกับตัวเอง แต่ใจจริงคำๆ นี้อยากจะบอกกับเขา ทว่ามันคงสายเกินไปแล้ว เพราะเขาคงไม่กลับมา
ไม่มีเรื่องของเราเหมือนที่หมอนายชอบพูดแกล้งให้ผมโมโหเหมือนเมื่อก่อน มีแต่เรื่องส่วนตัวของเขาที่ผมไม่ควรเสือก
หึ... ใจร้ายเหมือนกันนะ พี่นาย
100%
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

//ขอบคุณที่อัพนิยายดีๆนะฮับ <3