ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HARRY POTTER : Hagrid\'s Histories

    ลำดับตอนที่ #5 : เด็กชายผู้รอดชีวิต

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 218
      0
      19 ก.ย. 46

    .      “นี่…นี่มันอะไรกัน” แฮกริดคราง



          เขายืนอยู่ตรงหน้าบ้านพอตเตอร์ ที่ตอนนี้ถ้าใครไม่รู้จักบ้านหลังนี้ก็คงไม่รู้ว่ามันเคยเป็นบ้านมาก่อนจนถึงเมื่อวาน แฮกริดเดินเข้าไปหาทารกน้อย



          แฮร์รี่ พอตเตอร์



          เขาเดินเหยียบเศษไม้ ที่เคยเป็นโต๊ะกินข้าว เศษแก้ว ที่เคยเป็นโคมไฟ และอื่น ๆ ด้วยสีหน้าตะลึงงันเข้าไปในส่วนที่ยังพอเหลือซากอยู่



          “เธอ…” แฮกริดพูด เมื่อเขาพบทารกน้อยนอนร้องไห้อยู่บนพื้น



          “เธอ…คงเป็น…แฮร์รี่ พอตเตอร์” เขาพูด ในขณะที่อุ้มทารกน้อยขึ้นมา



          แฮร์รี่ร้องไห้ไม่หยุดในขณะที่แฮกริดพาเขาออกจากซากบ้านมา เขาสะดุดสายตากับอะไรบางอย่าง แต่เขาเบือนหน้าหนีออกมาทันที



          “มามะ เธอต้องไปหาศาสตราจารย์ เขาจะช่วยเธอ เดี๋ยวสิ…นี่มัน…”



          แฮกริดพูดอย่างตกใจ ขณะที่มองที่หน้าผากของทารกน้อย



          หน้าผากของทารกน้อยไม่ได้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ที่ถูกที่ควรแล้วมันควรจะขาวเรียบสวยงาม แต่นี่หน้าผากของเขากลับมารอยแผล – อาจจะเป็นแผลเป็นเสียด้วย



          รอยแผลรูปสายฟ้าฟาด!



          “เธอเอ๋ย!” แฮกริดพูด “น่าสงสารจริง ๆ”



          แฮกริดนำห่อผ้าที่เขาเตรียมมาห่อแฮร์รี่ไว้ ดูเหมือนว่าแฮร์รี่จะชอบห่อผ้านี้มาก เขานอนหลับสนิททีเดียว



          อาจเป็นโชคดีที่แฮร์รี่หลับสนิทไปก่อน เพราะถ้าเขาหลับไม่สนิท เขาก็จะต้องตื่นอีกครั้งด้วยเสียงครางต่ำ ๆ ดังแหวกความเงียบสงัดที่ปกคลุมเขากับแฮกริดเอาไว้ เสียงนั้นค่อย ๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อแฮกริดเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า รถจักรยานยนต์คันใหญ่คันหนึ่งหล่นลงมาจากอากาศและจอดอยู่ตรงหน้าเขา



          “คุณแฮกริด!” เสียงจากบนรถจักรยานยนต์คันใหญ่คันนั้นดังขึ้นมา



          “ซิเรียส! เธอมาทำอะไรที่นี่” แฮกริดถาม “เดี๋ยว เดี๋ยว เธอ…”



          “ผมมาดูว่าเจมส์กับลิลี่เป็นอะไรไปจริง ๆ หรือเปล่าครับ” ซิเรียสพูด



          แฮกริดส่ายหน้า “พวกเขาตายแล้วจริง ๆ ล่ะ” แล้วชี้มือไปทางหนึ่ง ทางที่เขาสะดุดตากับอะไรบางอย่างเมื่อกี้ ซึ่งก็คือ ศพของลิลี่และเจมส์



          ดูราวกับซิเรียสจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ เขาปล่อยโฮออกมาทันที “ไม่…!!! เจมส์!” และวิ่งเข้าไปหาเขา ซิเรียสจับร่างของเจมส์เอาไว้ และเริ่มร้องไห้ หน้าซีด และตัวสั่น



          แฮกริดเดินเข้าไปหาซิเรียส และวางมือของเขาลงบนไหล่ของซิเรียส – อย่างเบาที่สุด



          “ซิเรียส” เขาพูด “ฉันเข้าใจดีว่าเธอเสียใจมากแค่ไหน แต่…แต่ลิลี่กับเจมส์ตายไปแล้ว การร้องไห้ไม่ช่วยให้เขาทั้งสองฟื้นขึ้นมาได้ สิ่งที่เราต้องทำคือดูแลสิ่งที่พวกเขาปกป้องไว้ให้ดีที่สุด”



          แฮกริดยื่นแฮร์รี่ให้ซิเรียสดู “นี่ไง นี่คือสิ่งที่เจมส์กับลิลี่ปกป้องไว้จนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต เราต้องดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด”



          ในดวงตาของซิเรียสนั้นไม่มีน้ำตาคลออยู่ หากแต่น้ำตานั้นพรั่งพรูออกมาอย่างเสียเชิงชายหมดสิ้น ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ “ส่งแฮร์รี่ให้ผมเถอะ แฮกริด” เขาพูด “ผมเป็นพ่อทูนหัวของแก ผมจะเลี้ยงแกเอง -”



          “เกรงว่าจะไม่ได้นะซิเรียส” แฮกริดพูดด้วยใบหน้าเศร้า “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์กำชับแน่นหนามากว่าให้ฉันพาเขาไปอยู่กับป้าและลุงของเขา-ใช่แล้ว เป็นมักเกิ้ล คือ-ฉันก็ไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์สั่งมา ฉัน-“



          “ไม่ได้นะครับ ผมเป็นพ่อทูนหัวของแก ผม-“



          “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์สั่งมา!” แฮกริดตะโกนก้องจนทำให้ซิเรียสผงะ “ถ้าเธออยากรับแฮร์รี่ไปเลี้ยงจริงเธอก็ต้องไปหาท่าน แล้วขอท่านเอง”



          “คือ…ผมเกรงว่าจะรบกวนท่านน่ะสิ…แต่…” ซิเรียสครางเบา ๆ



          “แฮกริดครับ” ซิเรียสพูด ดูเหมือนเขาจะตัดใจจากแฮร์รี่ได้ “ให้ผมช่วยอะไรบ้างเถอะ คุณเอามอเตอร์ไซค์ของผมไป มันบินได้เร็วมาก คุณกับแฮร์รี่จะไปถึงที่นั่นในเวลาครู่เดียวเท่านั้น”



          “แต่-“ แฮกริดพูด “แต่มอเตอร์ไซค์นี่-แต่เธอ-นี่มัน-เธอ-“



          “ผมคงไม่ต้องการใช้มันอีกต่อไปแล้ว” ซิเรียสพูด แล้วเขาก็ ‘หายตัว’ ไป



          แฮกริดไม่มีเวลาคิดมากนัก เขาต้องพาแฮร์รี่ไปหาศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ให้เร็วที่สุด



          “ขอบใจนะ ซิเรียส” แฮกริดพูดขณะที่ขึ้นไปนั่งบนรถจักรยานยนต์ “อยู่ดี ๆ นะ เจ้าหนู”



          แล้วรถจักรยานยนต์คันนั้นก็บึ่งออกไป หายลับไปในท้องฟ้า และเล็กลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ



    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =



          ในที่สุดแฮกริดก็มาถึงบ้านเดอร์สลีย์



          “แฮกริด” เขาได้ยินเสียงดัมเบิลดอร์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็อยู่ที่นั่นด้วย “ในที่สุดก็มาถึง ว่าแต่ไปเอารถมอเตอร์ไซค์มาจากไหน”



          แฮกริดตอบทันที “ยืมเขามาครับ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์” แล้วเขาก็ก้าวลงจากรถ “เจ้าหนุ่มซิเรียส แบล็ก ให้ผมยืม ผมพาแกมาแล้วครับ”



          “ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม” ดัมเบิลดอร์ถาม



          “ไม่มีครับ…” แฮกริดตอบ “บ้านถูกทำลายเกือบหมดแล้วตอนที่ผมเอาแกออกมาก่อนที่พวกมักเกิ้ลจะเข้าไปมุงดู” เขาหยิบแฮร์รี่ออกมา “แกหลับปุ๋ยตอนเราบินข้ามบริสตัลมาครับ”



          ดัมเบิลดอร์และมักกอนนากัลมองดูแฮร์รี่ ดูเหมือนมักกอนนากัลจะสนใจรอยแผลของเขามากเป็นพิเศษ



          “นี่เป็นที่…” เธอพูดเบา ๆ



          “ใช่” ดัมเบิลดอร์ตอบ “เขาจะมีแผลเป็นไปตลอดชีวิต”



          มักกอนนากัลถามทันที “คุณช่วยแก้ไขไม่ได้หรือ ดัมเบิลดอร์”



          “ถึงผมจะทำได้ ผมก็ไม่ทำ แผลเป็นบางทีก็มีประโยชน์นะ ผมก็มีอันหนึ่งที่เหนือหัวเข่าซ้าย เป็นรูปแผนที่รถไฟใต้ดินลอนดอนชัดเจน” เขาพูด แล้วมองมาทางแฮกริด “เอาล่ะแฮกริด ส่งเขามาให้ผม แล้วเราจะได้จัดการให้เสร็จเรื่องกันเสียที”



          แฮกริดส่งแฮร์รี่ให้ดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์อุ้มแฮร์รี่ไว้ในวงแขน แล้วจึงหันไปทางบ้านเดอร์สลีย์



          “ขอผม-“ แฮกริดทนไม่ได้ “ขอผมบอกลาแกหน่อยได้ไหมครับ”



          แฮกริดจูบแฮร์รี่เบา ๆ และเขาก็ร้องไห้ ดังโหยหวนมากเหมือนที่ฮอกวอตส์ - เมื่อคืนนั้น



          “เบา ๆ เดี๋ยวแกก็ปลุกพวกมักเกิ้ลขึ้นมาหรอก” มักกอนนากัลดุ



          “ขะ – ขอโทษครับ” แฮกริดเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิด “แต่ผมทะ-ทะ-ทนไมได้… ลิลี่กะเจมส์ตาย… เจ้าหนูแฮร์รี่ที่น่าสงสารต้องไปอยู่กับพวกมักเกิ้ล…”



          “ใช่… ใช่ มันน่าเศร้าใจ แต่ควบคุมตัวเองหน่อยแฮกริด เดี๋ยวก็เสียเรื่องหมดหรอก” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลกระซิบ



          ดัมเบิลดอร์ก้าวข้ามกำแพงสวนเตี้ย ๆ เดินตรงไปที่ประตูหน้าบ้าน เขาค่อย ๆ วางแฮร์รี่ลงบนบันไดหน้าประตู แล้วหยิบจดหมายจากเสื้อคลุมสอดไว้ใต้ผ้าห่มของแฮร์รี่ ก่อนจะเดินกลับมาหาคนทั้งสอง เป็นเวลาหนึ่งนาทีเต็มที่คนทั้งสามยืนมองดูห่อผ้าน้อย ๆ ไหล่ของแฮกริดสั่นเทิ้ม



          “เอาล่ะ” ดัมเบิลดอร์กล่าว “เป็นอันเสร็จเรื่อง เราไม่มีธุระอะไรที่นี่อีกแล้ว เราควรไปร่วมงานเฉลิมฉลองกันดีกว่า”



          แฮกริดพูดเสียงต่ำ “ถ้าอย่างนั้นผมจะเอามอเตอร์ไซค์ไปคืนเจ้าหนุ่มซิเรียส ราตรีสวัสดิ์ครับศาสตราจารย์มักกอนนากัล – ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์”



          แฮกริดเช็ดน้ำตา และติดเครื่องยนต์ เขาขี่รถจักรยานยนต์ลอยหายไปในท้องฟ้า กลับสู่ความมืดอีกครั้ง





    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =



    สวัสดีครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×