ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HARRY POTTER : Hagrid\'s Histories

    ลำดับตอนที่ #4 : จุดจบของจอมมาร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 131
      0
      29 ก.ย. 46

    .      20 ปีต่อมา



          “อะไรนะครับท่าน” แฮกริดพูดอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง



          “ฉันบอกว่าเกิดเรื่องใหญ่ที่ตรอกไดแอกอน และฉันต้องการให้เธอช่วย ฉันจะอธิบายทีหลัง ไปที่นั่นเร็วเข้า เธอจะรู้เรื่องเฉพาะหน้าเอง” ดัมเบิลดอร์พูด แล้วส่งผงฟลูให้แฮกริด



    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

          แฮกริดไปยังตรอกไดแอกอนทันที แน่นอนว่าที่แรกที่เขาไปคือ ร้านสัตว์วิเศษ



          แฮกริดยังไม่ทันจะไปถึงที่ร้านนั่น ป้ายร้านก็กระเด็นมาต้อนรับเขาแล้ว รวมทั้งบริวารเป็นอิฐอีกหลายก้อนเกือบโดนหัวเขา แสงสีเขียววูบวาบอยู่ในร้าน ผสมด้วยแสงสีฟ้า และสีเหลือง ซึ่งปนเปกันเต็มไปหมด แฮกริดรีบรุดเข้าไปในร่างนั้น และพบร่างร่างหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศท่ามกลางแสงสีเขียว



          “กลูเวส!?” เขาตะโกนก้อง ขณะที่มองไปยังร่างนั้น ร่างนั้นซีดแทบจะไม่มีสีเลือด และมีเลือดออกตรงมุมปาก ถึงจะแก่กว่าเมื่อสี่สิบปีก่อนอยู่มากแต่เขาก็จำกลูเวสได้ดี



          แต่เสียงที่แฮกริดตะโกนไปนั้นไม่ได้รับการตอบรับ กลูเวสยังคงลอยนิ่ง และยังคงเสกแสงสีต่าง ๆ ใส่ใครต่อใครไปเรื่อย



          แฮกริดยังไม่ทันจะรับกับเรื่องนี้ได้ เขาก็ต้องรับกับเรื่องใหม่ข้างหลังเขา ‘มัน’ ยืนอยู่ข้างหลังเขานี่เอง



          “ดีมาก มองตาโน ทำงานได้สวยงามดี อ้าว สวัสดี รูเบอัส” ร่างนั้นพูดขึ้นเมื่อมันเหลือบมาเห็นแฮกริด



          “แกเป็นใคร” แฮกริดพูด พลางกำหมัดแน่น พร้อมจะชกหน้าเจ้านี่ให้กระเด็นไปได้ในทันทีที่มันเปิดช่องโหว่



          “ข้าคือใครอย่างนั้นหรือ ‘เจ้าก็รู้ว่าใคร’ ไม่ใช่หรือ” ร่างนั้นพูดเรียบ ๆ ถึงแม้แฮกริดจะไม่เห็นใบหน้าภายใต้ชุดคลุมของมันแต่แฮกริดเห็นได้เลา ๆ ว่ามันยิ้มแสยะ



          “ฉันไม่รู้หรอกว่าแกเป็นใคร” แฮกริดยังคงตะโกนก้อง “แต่ฉันคิดว่าแกควรปล่อยกลูเวสลงมาซะ และหยุดเรื่องบ้านี่เสียด้วย”



          “หืม…? เจ้าไม่รู้หรอกหรือ เจ้ารู้ ‘เจ้าก็รู้ว่าใคร’”



          ฉันก็รู้ว่าใคร…หมายถึงใครนะ แฮกริดกำลังใช้ความคิด



          และในทันทีที่เขาคิดออก เขาก็ทรุดฮวบลงทันที



          “ว…” เขาคราง “…โวล…” เขาพยายามเรียกชื่อนั่น แต่เขากลัวเกินจะพูดออกมา



          “โอ้” มันพูด “ในที่สุดเจ้าก็นึกออก ถูกต้อง ข้าคือลอร์ดโวลเดอมอร์



          “สงบจิตสงบใจไว้ ข้าต้องการเพียงจัดการตรอกแถว ๆ นี้ให้ราบเป็นหน้ากลองเท่านั้นเอง  ข้าไม่ชอบหน้าที่นี่มานานแล้ว เหตุผลส่วนตัวน่ะ อีกทั้งร้านของมองตาโนอยู่ในตำแหน่งตรงกลางเป๊ะของพื้นที่แถบนี้ ไม่ต้องหรอก เจ้าคงอยากรู้ว่าทำไมเขาจึงเป็นแบบนี้ใช่ไหม



          “ไม่ใช่ว่าเขาเป็นผู้เสพความตายแล้วหรอกนะ เขายังคงเป็นคนธรรมดา ธรรมดา เพียงแต่ข้าปลูกจิตควบคุมไว้แล้ว นานมาก เกือบสี่สิบปีก่อนได้กระมัง”



          เกือบสี่สิบปีก่อน แฮกริดเพิ่งจะเจอและแยกจากกลูเวสช่วงนั้นเอง



          “ข้าสามารถควบคุมเขาได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ข้ายังไม่ทำ เพราะอะไรหรือ จริงอยู่ ข้ามีคนแบบเขาอยู่ทั่วโลก เพียงข้าออกคำสั่งทั้งโลกก็จะราบทันที แต่ทำไมอย่างนั้นหรือ ข้าต้องการเก็บเรื่องดี ๆ ไว้เซอร์ไพรส์ตอนท้าย ๆ เมื่องานใกล้จะเลิกน่ะสิ”



          แฮกริดเหลืออดที่โวลเดอมอร์พูดเหมือนกลูเวสเป็นสิ่งของอย่างนี้ เขารวบรวมความกล้าต่อยหน้าโวลเดอมอร์อย่างแรง แต่



          หมัดของเขาทะลุผ่านหน้าของโวลเดอมอร์ไป



          “เปล่าประโยชน์ เปล่าประโยชน์ ข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ตอนนี้ข้ากำลังไปยังกอดริกโฮลโล่ ไปปิดฉากงานเลี้ยง แล้วฉันจะอยู่อย่างเป็นสุขไปตลอดกาล



          “ลาก่อน รูเบอัส ขอให้สนุกนะ โน่นแน่ะ มองตาโนมาต้อนรับแล้ว”



          ร่างเงาของโวลเดอมอร์จางหายไป



          แฮกริดไม่ทันจะออกอาการแค้นโวลเดอมอร์ คาถาหนึ่งก็กระแทกกลางหลังของเขา



          “อั้ก!” เขาร้องออกมา แล้วทรุดลงไปข้างหน้าอีกครั้งหลังจากเพิ่งจะยืนขึ้นได้ เขาทันหันหลังกลับไปมองแวบหนึ่งว่าใครทำร้ายเขาก่อนจะโดนคาถาเดิมกระแทกหน้าผากอีก



          กลูเวส



          “กลูเวส! อ็อก!” แฮกริดร้อง แล้วหงายหลังลงไปอีก



          กลูเวสเดินเข้ามาใกล้ แต่แล้วเขาก็เดินเข้าร้านไป ทิ้งแฮกริดไว้ แฮกริดไม่ทันได้ทำอะไรเขาก็ออกมาพร้อมกับสัตว์ร้ายเป็นโขยง



          “…จั…ด…ก…า…ร…มั…น…” กลูเวสพูดเสียงแหบต่ำ



          ถึงแม้แฮกริดจะเป็นคนดูแลสัตว์ และเคยดูแลร้านสัตว์วิเศษมาก่อน ทั้งยังชอบสัตว์แปลกประหลาด แต่สัตว์ร้ายเป็นฝูงที่จ้องทำร้ายเขาอย่างนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบอยู่ดี



          เท้า มือ ปาก หาง เขา และสารพัดส่วนของสัตว์กระแทกใส่หน้าและตัวของแฮกริดจนร่างยักษ์ของเขาเซกรูด นกเบอร์นอตต์ปากดำจิกเคราของเขาไปหลายเส้น และแขนของเขาก็เป็นแผลจากเล็บของควากา



          แฮกริดเสกคาถาสีเหลืองกระแทกสัตว์พวกนี้ออกไปและสะกดให้มันนอนหลับ



          “…ลุ…ก…ขึ้…น…ม…า…” กลูเวสพูดพลางชี้มือไปทางสัตว์พวกนั้น



          สัตว์พวกนั้นลุกขึ้นมาอีก และกลับสู่สภาพสมบูรณ์เต็มที่ พร้อมจะขวิดแฮกริดได้ทุกเมื่อ



          “…จั…ด…ก…า…ร…มั…น…” กลูเวสพูดอีกครั้ง ครั้งนี้เขาชี้มือมาที่แฮกริด



          สัตว์เหล่านี้ยังคงกระทำการอย่างเดิมซ้ำอีกครั้ง คือรุมแฮกริด แฮกริดก็ยังคงกระแทกคาถาใส่สัตว์พวกนี้อีก และเสกให้หลับอีกครั้ง



          กลูเวสก็ยังคงให้พวกมันลุกขึ้นมาจัดการแฮกริดอีก



          ครั้งนี้แฮกริดไม่ยอมพลาด เขาหยิบแผ่นไม้แผ่นหนึ่งมาจากที่กองอยู่บนพื้น แล้วขว้างใส่ฝูงสัตว์พวกนั้น และตะโกนก้อง ขณะที่แบมือมายังแผ่นไม้



          “กุญแจนำทาง! ไปโรงเลี้ยงสัตว์ที่ฮอกวอตส์!”



          สัตว์ทุกตัวถูกกระแทกโดยแผ่นไม้ และหายวับไป ตัวที่ไม่โดนพาไปฮอกวอตส์ที่รอดจากรอบแรกไปได้ก็ยังอุตส่าห์เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อน ๆ ของมัน บ้างก็เขี่ยแผ่นไม้ และเดินทางไปฮอกวอตส์ในพริบตา



          “ฝากดูแลด้วยนะครับท่าน” แฮกริดพูด



          กลูเวสใช้ดวงตาที่ซีดสนิทมองมายังแฮกริดอย่างโกรธแค้น



          “…แ…ก…ต…า…ย…”



          ไม่พูดมากไปกว่านั้น กลูเวสพุ่งเข้าใส่แฮกริด ในมือถือไม้กายสิทธิ์อยู่ ไม่ว่าด้วยอะไรก็ตาม อาจจะเป็นความตกใจของแฮกริดที่เพื่อนเก่าพุ่งกระแทกอย่างนี้ หรืออาจเป็นเพราะกลูเวสได้พลังเพิ่มขึ้นจากโวลเดอมอร์ แฮกริดที่ถูกกระแทกจึงหงายหลังล้มลง



          กลูเวสยืนคร่อมแฮกริดไว้โดยเอาเท้าข้างหนึ่งเหยียบอกของแฮกริด



          “…อ…ะ…ว…า…ด…า…” เขาพูด ช้า ๆ ในขณะที่ยังชี้ไม้มายังแฮกริด



          แฮกริดรู้ทันทีว่าเขาพยายามจะทำอะไร เขาจึงไม่รอช้า



          “…เ…ค…”



          แฮกริดยันตัวขึ้นเล็กน้อยและเงื้อแขนออก เขาร้องไห้ในสิ่งที่เขากำลังจะทำ



          “…ด…า…”



          ไม่มีเสียง ‘ฟรา’ ออกมาจากปากของกลูเวส เพราะหมัดของแฮกริดกระแทกคางของเขาเข้าเต็มหน่วง แฮกริดรู้ดีว่านั่นไม่พอที่จะทำให้ถึงตาย แต่ภาพที่กลูเวสกระเด็นไปไกลเกือบสิบเมตรนั้นกำให้เขาปวดใจ ไม่ใช่ไม่น้อย แต่มากเลยทีเดียว



          แฮกริดเดินข้าไปใกล้ ๆ กลูเวส ที่นอนสลบเหมือดอยู่ เขานั่งลงใกล้ ๆ กลูเวส และร้องไห้หนักขึ้น หยดน้ำตาของเขาตกลงบนแขนของกลูเวส เขาไม่เคยร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อน



          การกระดิกตัวของกลูเวสทำให้แฮกริดดีใจ แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะเขาต้องผงะเมื่อมือของกลูเวสจับขอเขาไว้ด้วยแรงมหาศาล ขนาดแฮกริดยังหนีไม่พ้น



          “…แ…ก…ไ…ม่…มี…ท…า…ง…ร…อ…ด…”



          “กลูเวส…นาย…” แฮกริดพูดไม่ออก



          “…อ…ะ…ว…า…ด…า…เ…ค…ด…า…ฟ…” กลูเวสพูด หรือที่ถูกคือร่ายคาถา เขาเกือบจะทำสำเร็จแล้ว เพียงแต่เหตุการณ์บางอย่างในที่ห่างไกลทำให้เขาหยุดลงแค่นั้น



    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

          ย้อนกลับไปประมาณห้านาทีก่อน ที่กอดริกโฮลโล่



          “ลิลี่! พาแฮร์รี่หนีไป!” ชายคนหนึ่งตะโกนก้อง ในขณะที่เขาพบร่างร่างหนึ่งอยู่ที่ประตู



          เด็กทารกเริ่มร้องไห้ หญิงสาวคว้าตัวเขาไว้ แล้วจึงวิ่งลงบันไดไปยังประตู แต่ทว่าในทันใดก็มีร่างร่างหนึ่งขวางเธอเอาไว้



          ร่างในชุดคลุมนั้นแสยะยิ้ม แล้วกล่าวคำสาปออกมา หญิงสาวกระเด็นไปกระแทกผนัง



          เด็กทารกร้องดังขึ้น ดังขึ้น



          “แก! ปล่อยแฮร์รี่ไปนะ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน และวิ่งเข้าใส่ร่างนั้น



          ร่างนั้นร่ายแสงสีเขียวใส่ชายหนุ่ม เขาล้มลง และเสียชีวิตทันที



          “ไม่!” หญิงสาวกรีดร้อง “อย่าเอาแฮร์รี่ไป! เอาฉันไปแทนเถอะ!”



          “ถอยไป! นังโง่!” ร่างนั้นตะโกนก้อง ในขณะที่มันยื่นมือออกมาเป็นเชิงเรียกร้องวัตถุ “เอาเด็กมาให้ข้า! ข้าต้องการเด็กเท่านั้น! ถอยออกไปเดี๋ยวนี้!”



          “ไม่!” หญิงสาวร้องไห้ “แกเอาแฮร์รี่ไปไม่ได้”



          หญิงสาวโผเข้าหาเด็กทารก เธอกอดเด็กไว้ราวกับจะปกป้องให้ถึงที่สุด ร่างในชุดคลุมนั้นเดินเข้ามาใกล้ และเสกแสงสีเขียวใส่หญิงสาว เธอเสียชีวิตทันที



          “คราวนี้” มันพูด พลางยิ้มแสยะ “ถึงตาแกบ้างแล้ว”



          ร่างนั้นชี้ไม้กายสิทธิ์ไปยังแฮร์รี่ และเสกคำสาปใส่เขา เพื่อจะฆ่าให้ตาย



          ทันใด! เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้น ไม่ใช่เสียงของเด็กทารก แต่เป็นเสียงแหบต่ำ ร่างในชุดคลุมนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างประเมินมิได้ แล้วหายวับไปในพริบตา



    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

          กลูเวสชะงักกึก ดวงตาและร่างกายของเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง



          แฮกริดร่วงลงพื้น



          “…ไม่….ไม่…” กลูเวสคราง



          แฮกริดลุกขึ้นยืน และวางมือลงบนบ่าของกลูเวส “นายไม่ผิดหรอก ที่ผิดคือ ‘มันนั่น’ ต่างหาก ‘มันนั่น’ เป็นคนทำ “



          “…ไม่…ไม่…” กลูเวสยังคงคราง “…ไม่…ฉัน…ฉันเป็นคนทำ ฉันทำร้ายนาย…ฉันเกือบจะฆ่านายอยู่แล้ว”



          “นายไม่ได้ทำ!” แฮกริดตะโกนก้อง “เห็น ๆ อยู่ว่า ’มันนั่น’ ใช้งานนาย นายไม่ได้จงใจทำ”



          “ฉัน…ฉัน…” กลูเวสคราง



          แฮกริดส่ายหน้า แล้วยิ้มเล็ก ๆ ตอนบอกกลูเวสว่า “ไปฮอกวอตส์กันเถอะ



    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

          “อะไรนะครับ” แฮกริดและกลูเวสพูด



          “ฉันบอกว่า ลอร์ดโวลเดอมอร์หายไปแล้ว”



          ดัมเบิลดอร์พูดเรียบ ๆ แสงไฟจากเตาผิงวูบวาบในห้องพักอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์กระทบใบหน้าของเขา ในขณะที่แฮกริดและกลูเวสออกอาการกลัวอย่างเห็นได้ชัดทันที



          “ท…ท่านครับ…อย่าพูดชื่อนั่น” แฮกริดพูดตัวสั่น



          “เอ้า ก็ได้ ‘เขา’ หายไปแล้ว ไม่มีใครได้ข่าวของ ‘เขา’ เลย หลังจากที่ ‘เขา’ ฆ่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ ไม่สำเร็จ ‘เขา’ ก็หายตัวไป”



          “แฮร์รี่ พอตเตอร์?” แฮกริดสงสัย



          “ลูกชายของเจมส์กับลิลี่ไง เธอจำได้ไหม” ดัมเบิลดอร์ตอบ



          “ครับ” แฮกริดพยักหน้า เขานึกออกแล้ว



          “ตอนนี้เขา…แฮร์รี่น่ะ…ควรจะยังอยู่ที่บ้านพอตเตอร์ เขาน่าจะไม่ได้กินอะไรมาหนึ่งคืนแล้ว เธอต้องไปพาเขามา” ดัมเบิลดอร์บอก



          “เอาเลยแฮกริด ไปพาแฮร์รี่มา ฉันจะรอเธอที่บ้านเดอร์สลีย์ ครอบครัวทางแม่ของแฮร์รี่นะ อยู่ในโลกมักเกิ้ล ซอยพรีเว็ต วิงจิงน่ะ เธอหาวิธีไหนก็ได้ให้ไปถึงที่นั่นเร็วที่สุด ฉันกับศาสตราจารย์มักกอนนากัลจะรอเธอที่นั่น”



          แฮกริดรีบออกไปจากห้องพักของดัมเบิลดอร์ และไปช่วยแฮร์รี่ให้เร็วที่สุด!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×