ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ร่องรอยของความทรงจำ
    ล็อกฮาร์ตรู้สึกเหมือนตนเองหลุดเข้าไปในอุโมงค์ รู้สึกเบาหวิวในท้อง และเมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง เขาก็กลับมาอยู่ตรงทางห้าแพร่งนั่นอีกแล้ว พื้นตรงที่เขายืนอยู่ยังคงแบ่งป่าและเมืองออกเป็นสองซีกเหมือนเดิม เขาไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกเหมือนกับว่าพื้นที่ป่าขยายกว้างขึ้นกว่าเดิม
    เขามองไปยังอุโมงค์ทั้งห้า ยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิด เขาพยายามนึกให้ออกว่าอุโมงค์ที่เขาก้าวเข้าไปเจอโรมิวรัสกับรีมัสคราวก่อนเป็นอุโมงค์ไหน แต่ก็นึกไม่ออก
    !?
    อะไรสักอย่างผ่านไปทางข้างหลังเขา ล็อกฮาร์ตมองไม่เห็นสิ่งนั้นแต่รู้สึกได้ชัดเจน ชัดเจนจนเขาต้องหันกลับมามอง แต่สิ่งที่รอเขาอยู่คือทิวทัศน์ของเมืองที่ชนกับป่าเป็นเส้นตรงแนวเดียวกับที่เขามองเห็นบนพื้น ไม่มีใครหรืออะไรอยู่ตรงนั้น
    บางทีเขาอาจจะคิดไปเองก็ได้ เรื่องแบบนี้ก็อาจจะมีอยู่ถมไป เขาหันกลับมายังอุโมงค์ดังเดิม และปะทะจังเข้ากับเสื้อสูทสีขาว
    “สวัสดี” เสียงที่ล็อกฮาร์ตคิดว่าคงจะเป็นเจ้าของสูทตัวนั้นพูดขึ้น
    ล็อกฮาร์ตเงยหน้าขึ้นไปเล็กน้อย และจึงมองเห็น ร่างนั้นสูงใหญ่มาก สูงกว่าเขาเกือบฟุต กำลังมองตรงมาที่เขาด้วยรอยยิ้มที่เขาไม่ค่อยแน่ใจว่ายิ้มรับหรือยิ้มเยาะกันแน่
    เขาถอยออกไปหนึ่งก้าว และกล่าวตอบออกไป “สวัสดีครับ”
    “ผมรู้จักคุณดี” ร่างนั้นพูด เมื่อถอยออกมาตั้งหลักในระยะนี้ เขาจึงมองเห็นได้ว่าร่างนั้นเป็นชายตัวสูง ไม่มีผม ไม่มีคิ้ว ไม่มีหนวด ผิวค่อนข้างคล้ำเมื่อเทียบกับตัวเขา และอาจจะเป็นเพราะแว่นกรอบดำที่เขาใส่ก็ได้ที่ทำให้เขาดูเป็นมิตรกว่าที่ควรจะเป็น “แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะรู้จักผมหรอก ใช่ไหม? คุณล็อกฮาร์ต”
    “ครับ” ล็อกฮาร์ตตอบตะกุกตะกัก “ผมไม่รู้จักคุณ”
    “เรียกผมว่ากอร์ดาก็แล้วกัน” ร่างนั้นขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่จะเอาหมวกที่เขาถือไว้ที่มือซ้ายตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้วขึ้นสวม “ผมมาที่นี่เพื่อแนะทางให้คุณ”
    “แนะทางหรือครับ?”
    “แนะทาง ใช่” กอร์ดาตอบ “ผมกำลังจะแนะทางให้คุณหลาย ๆ อย่าง อย่างเช่น ทางที่จะปลดปล่อยคุณโรมิวรัสให้พ้นจากอาการหมาป่าเรื้อรัง”
    “คุณรู้ทาง?” ล็อกฮาร์ตโพล่งขึ้น
    “เดี๋ยวก่อนสิ ผมรู้แน่” กอร์ดายกสองมือขึ้นเหมือนจะปรามล็อกฮาร์ต “แต่ผมอยากให้คุณตอบคำถามผมสองสามข้อ ผมเฝ้ามองคุณมาหลายพักแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยกันเลย มีก็แค่โอกาสนี้แหละ เพราะฉะนั้นผมจะถามล่ะนะ”
    “เชิญครับ”
    “ทำไมคุณจึงออกเดินทางมากับวิคตอเรีย เบอร์มงต์” กอร์ดาชี้นิ้วใส่หน้าล็อกฮาร์ต
    ล็อกฮาร์ตรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ในลำคอของเขา จะว่าไปแล้ว ก็นั่นสิ เขาออกตามเบอร์มงต์มาทำไม ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลยนี่ เพื่อมาช่วยเธอตามหาพี่สาวที่หายไปเหรอ? เพื่อตอบแทนที่เบอร์มงต์พาเขามาส่งบ้าน? หรือเพื่อสนองความต้องการที่จะออกเดินทางอีกครั้ง(หรือเปล่า)ของเขา? บางทีเขาก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้
    “ผมไม่ทราบครับ” ล็อกฮาร์ตตัดสินใจตอบ “ผมรู้แต่ว่าผมต้องการออกเดินทาง”
    “ผมจะรับไว้เป็นคำตอบนะ” กอร์ดาปรบมือหนึ่งครั้ง “ขออีกคำถามหนึ่ง ทำไมคุณถึงต้องการที่จะช่วยคุณโรมิวรัสให้พ้นจากอาการหมาป่าเรื้อรัง?”
    อีกครั้งแล้วที่ล็อกฮาร์ตไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของกอร์ดาอย่างไร
    “ไม่ทราบครับ ผมรู้แต่ว่าผมอยากช่วยเขา เหมือนกับว่าผมรู้จักเขาดี และทนไม่ได้ที่จะเห็นเขาเป็นอะไรไป” ล็อกฮาร์ตตอบ
    กอร์ดาปรบมืออีกหนึ่งครั้ง “ขอบคุณมาก! เอาล่ะ ตามผมมา ผมจะพาคุณไปพบกับทางที่จะช่วยให้คุณโรมิวรัสพ้นจากอาการหมาป่าเรื้อรัง”
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
    “ทางนี้เลย” กอร์ดาพูดขึ้นหลังจากเขาเดินตรงไปที่อุโมงค์หนึ่งทางขวา ล็อกฮาร์ตเริ่มจะคุ้น ๆ ขึ้นมาว่าใช้อุโมงค์นี้หรือเปล่าที่พาเขาไปพบกับโรมิวรัส? แต่จะใช่หรือไม่ใช่ ตอนนี้เขาต้องการแค่ตามกอร์ดาไปหาทางช่วยโรมิวรัสให้ได้ ช่วยทำไมล่ะ? ช่างเถอะ ตอนนี้รู้แค่ตามกอร์ดาไปก็พอแล้ว
    “ใช่ รู้แค่นั้นก็พอแล้ว” กอร์ดาพูดออกมาจากอุโมงค์หลังจากที่เขาเดินเข้าไปแล้ว “แต่ว่าถ้าคุณไม่รีบตามผมมา เดี๋ยวคุณจะตามผมไม่ทันนะ ผมเป็นคนเดินเร็วเสียด้วยสิ”
    ล็อกฮาร์ตวิ่งตามกอร์ดาเข้าไปในอุโมงค์ ท่าทางเหมือนมันจะแปลกไปจากคราวก่อน ถ้าล็อกฮาร์ตจำไม่ผิด คราวก่อนที่เขาเดินทางผ่านอุโมงค์นั่นเขารู้สึกเหมือนเดินทางผ่านกุญแจนำทาง แต่คราวนี้ อุโมงค์นั้นกลับกลายเป็นแค่อุโมงค์ท่อน้ำครำเฉอะแฉะธรรมดา ล็อกฮาร์ตรู้ได้ก็ตอนที่เขาย่ำเท้าลงไปในโคลนแฉะเต็มแรงจนน้ำโคลนกระเด็นขึ้นมาเกือบโดนหน้านั่นเอง
    “ระวังนิดนึง” ล็อกฮาร์ตได้ยินเสียงกอร์ดาดังมาจากข้างหนา เมื่อเขามองไปยังต้นเสียงก็พอจะเห็นเงาราง ๆ ของกอร์ดา แต่ก็มืดเต็มทน “ในนี้มันมืดมาก ผมว่าคุณคงเกือบจะมองอะไรไม่เห็นแล้วล่ะ อยากได้แสงไฟสักหน่อยมั้ย?”
    “ถ้าได้ก็ดีครับ” ล็อกฮาร์ตตอบ
    “ถ้าอย่างนั้นก็หยิบไม้กายสิทธิ์ของคุณขึ้นมา” เสียงของกอร์ดาดูเหมือนจะดังขึ้น “คุณพกมาหรือเปล่า?”
    “พกครับ” ล็อกฮาร์ตตอบพลางคลำเอวหาไม้กายสิทธิ์ “ผมพกติดตัวตลอดเวลา”
    “ดีมาก ทีนี้คุณก็ใช้ไม้นั่นสร้างแสงสว่างขึ้นมา” คราวนี้ล็อกฮาร์ตรู้สึกว่าไม่ใช่ว่าเสียงของกอร์ดาดังขึ้นหรอก เสียงของเขาเข้ามาใกล้ขึ้นต่างหาก
    “แต่ผมทำไม่ได้” ล็อกฮาร์ตใจเสีย
    “คุณทำได้สิ” กอร์ดาปรากฏตัวตรงหน้าล็อกฮาร์ตพอดี “คุณเป็นพ่อมดที่ทรงอำนาจที่สุดของโลก”
    “แต่ผมลืมสิ่งนั้นไปหมดแล้ว”
    “เปล่า คุณไม่ได้ลืม” คราวนี้เสียงของกอร์ดาย้ายมาอยู่ด้านหลังเขา ล็อกฮาร์ตหันกลับไปมอง แต่ก็ไม่เห็นอะไร อึดใจต่อมาเสียงของกอร์ดาดังขึ้นอีกทางหนึ่ง “ไม่เคยมีใครลืมอะไรหรอก คุณล็อกฮาร์ต แม้เขาจะจำไม่ได้ และที่สำคัญ พลังอำนาจของคุณมีมากเกินกว่าที่จะถูกทำให้สูญเสียความทรงจำจนหมดสิ้นด้วยคาถา มันเพียงแต่ถูกเก็บเอาไว้ เก็บเอาไว้ในส่วนลึกส่วนหนึ่งของร่างกายของคุณ ขอเพียงคุณรู้ว่าจะต้องนำมันออกมาอย่างไร คุณก็จะค่อย ๆ นำมันออกมาได้ ทีละเล็กละน้อย”
    “แต่ผมไม่รู้นี่ว่าผมต้องทำอย่างไร”
    “ใช้ความรู้สึกสิ คุณล็อกฮาร์ต” เสียงของกอร์ดาอยู่ใกล้หูเขามากจนราวกับเขากำลังกระซิบคำพูดใส่หูของล็อกฮาร์ต “ตอนนี้คุณต้องการแสงสว่าง และผมมั่นใจว่าคุณรู้ อย่างน้อยก็ต้องเคยรู้วิธีที่ทำให้ความมืดนี้หมดไป เพราะฉะนั้น ผมขอให้คุณทำเดี๋ยวนี้!”
    “ก...ก็ได้” ล็อกฮาร์ตพูดด้วยเสียงที่เบาเหมือนคราง “ผมจะลองดู”
    ล็อกฮาร์ตหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาตรงหน้า พยายามโบกไปมา เขาพยายามนึกถึงหนังสือรวมคาถาสารพัดประโยชน์ที่เขานั่งอ่านนอนอ่านทั้งวันทั้งคืนเมื่อตอนที่อยู่ที่บ้านของเขา
    “ของเหล่านั้นไม่มีประโยชน์หรอก คุณล็อกฮาร์ต คุณต้องใช้สิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว เปิดประตูให้ออกสิล็อกฮาร์ต ไม่เช่นนั้นคุณก็จะไม่มีโอกาสได้รับความทรงจำคืนมาตลอดไป หรืออีกนัยหนึ่ง คุณจะช่วยใครไม่ได้เลย ทั้งโรมิวรัส ทั้งเบอร์มงต์”
    “แต่ผมพยายามแล้ว”
    “อย่าพยายาม” ล็อกฮาร์ตเห็นกอร์ดายืนอยู่ตรงหน้า “แต่จงรู้สึก รู้สึกถึงสิ่งที่อยู่ในตัวคุณ ดึงมันออกมา”
    ใครจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ง่าย ๆ กันเล่า? ล็อกฮาร์ตถามตัวเองในใจ นี่เขาก็พยายามมากแล้ว แน่นอน เขารู้ดีว่าเขาก็คงจะเคยผ่านการใช้คาถาอะไรสักอย่างที่ทำให้เกิดแสงสว่างได้ แต่ตอนนี้เขาไม่รู้เลย เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนสิ ไม้กายสิทธิ์ไม่ได้โบกอย่างนี้สักหน่อย ต้องเป็นแบบนี้ต่างหาก นี่เขาโบกผิดมาตลอดเลยเหรอ โง่จัง
    ?
    เขารู้ได้ไงว่าเขาโบกไม้กายสิทธิ์ผิดวิธี?
    “เริ่มจับเคล็ดได้แล้วนี่ คุณล็อกฮาร์ต” เขาได้ยินเสียงกอร์ดา “ทำต่อไป แล้วคุณก็จะมองเห็นหนทางเอง”
    ล็อกฮาร์ตยอมรับว่าเขาไม่เข้าใจสิ่งที่กอร์ดาพยายามบอกเขามาตั้งแต่เมื่อครู่นี้เลยแม้สักนิด แต่ตอนนี้ ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าที่เหมือนกับว่ามือเขากำลังเคลื่อนไหวไปเอง และปากของเขาก็กำลังพูดคำที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกมา
    “ลูมอส”
    ฉับพลันทันใดก็เกิดแสงเปล่งประกายจ้าที่ปลายไม้กายสิทธิ์ รวดเร็วจนล็อกฮาร์ตหลับตาแทบไม่ทัน จนเมื่อเวลาผ่านไปสักครู่หนึ่ง ล็อกฮาร์ตจึงลืมตาขึ้นมาได้ และมองเห็น
    อุโมงค์นั้นสว่างไสวราวกับกลางวัน
    “ทำได้ดี คุณล็อกฮาร์ต” กอร์ดาปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านหลังของล็อกฮาร์ต เขาหันหลังกลับไปและเห็นกอร์ดายืนอยู่ “เป็นลูมอสที่สว่างสดใสที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น”
    “นี่...” ล็อกฮาร์ตพูด “ผมเป็นคนทำหรือ?”
    “ใช่ ฝีมือคุณเอง” กอร์ดาปรบมืออีกครั้งก่อน แล้วจึงพูดต่อ “ล้วน ๆ เลยทีเดียว เอาล่ะ ไปต่อกันเถอะ นั่นไง มองเห็นทางออกแล้ว มา ตามผมมา”
    ล็อกฮาร์ตเดินตามกอร์ดาจนในที่สุดเขาก็ออกมานอกอุโมงค์จนได้ เขามองซ้ายมองขวา ที่ที่เขายืนอยู่นี้ดูเหมือนกับป่าอะไรสักอย่าง ป่าที่ดูสวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น หรืออย่างน้อยก็เท่าที่จำได้
    “ผมขอโทษด้วยนะที่เมื่อครู่นี้ผมขู่คุณรุนแรงไปหน่อย” ล็อกฮาร์ตได้ยินเสียงกอร์ดา เมื่อเขาหันไปมองทางต้นเสียงก็เห็นกอร์ดายืนอยู่ตรงนั้น “แต่ผมคิดว่าแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยคุณก็ระลึกมนตร์ได้อย่างหนึ่งแล้วนี่ จริงไหม?”
    “ครับ” ล็อกฮาร์ตตอบ “ที่จริงผมน่าจะต้องขอบคุณคุณเสียด้วยซ้ำ”
    “อย่าเลยน่า นั่นเป็นความต้องการของผมอยู่แล้ว” กอร์ดายิ้ม “เดินทางกันต่อเถอะ”
    ล็อกฮาร์ตออกวิ่งตามกอร์ดา แต่เมื่อวิ่งไปได้สองสามก้าว เขาก็เกิดอยากหันกลับไปดูอุโมงค์ที่เพิ่งจะออกมาเมื่อครู่นี้ เผื่อว่าคราวที่จะได้มาที่นี่จริง ๆ เขาจะได้รู้ทาง
    ไม่มีอุโมงค์!?
    เป็นไปได้ยังไงกัน ก็เขาเพิ่งออกมาเมื่อกี้นี้
    “อุโมงค์นั่นไม่มีตั้งแต่แรกแล้วล่ะคุณล็อกฮาร์ต” เสียงกอร์ดาลอยมาแต่ไกล “ผมสร้างมันขึ้นเพื่อฝึกคุณเท่านั้นเอง เมื่อถึงเวลาผมจะบอกทางจริงให้คุณรู้อีกครั้ง แต่ตอนนี้ตามผมมาก่อนเถอะ”
    ล็อกฮาร์ตหันกลับมาข้างหน้าอีกครั้ง แล้วจึงออกวิ่งต่อโดยพยายามลืม ๆ อุโมงค์นั่นไปซะ ปากก็พูดว่า “รอด้วยครับ!”
    ป่านั้นค่อนข้างรกทึบมากทีเดียว และกอร์ดาก็วิ่งเร็วมาก แม้ล็อกฮาร์ตจะวิ่งข้ามลำน้ำลึกสองฟุตมาก็แล้ว เบียดตัวไปตามสุมทุมพุ่มไม้ก็แล้ว สะดุดขอนไม้ล้มก็แล้ว ก็ยังมองไม่เห็นหลังของกอร์ดา ถ้าไม่ใช่ว่ากอร์ดาตะโกนมาเป็นพัก ๆ แล้ว เขาก็คงตามไม่ทันแน่
    หลังจากที่วิ่งมาจนเหนื่อยล้าแทบจะทรุด ในที่สุดล็อกฮาร์ตก็มองเห็นกอร์ดาหยุดยืนอยู่ริมหน้าผาแห่งหนึ่ง หน้าผานั้นคงจะดูเป็นหน้าผาธรรมดา ๆ ถ้าไม่ใช่ว่ามีรอยแกะสลักเป็นอะไรบางอย่างที่คล้ายดาบอยู่บนนั้น
    “เหนื่อยหน่อยนะ คุณล็อกฮาร์ต” กอร์ดาพูด “ผมลืมไปว่าคุณยังไม่ได้เรียนรู้อะไรอีกหลาย ๆ อย่าง แต่ตอนนี้ผมคิดว่าให้คุณพักการเรียนรู้ไว้ก่อนแล้วมาสนใจดาบแห่งลูเป้นี่ดีกว่า”
    “ดาบแห่งอะไรนะครับ?”
    “ดาบแห่งลูเป้” กอร์ดาตอบ “ไม่เคยได้ยินตำนานของมันหรือ? ดาบแห่งลูเป้ที่ปลดผนึกคำสาปที่ทำให้พาร์ซูลต้องเป็นหมาป่ามานานถึงสามร้อยปีได้ในข้ามคืนไง”
    “ผมไม่ยักเคยได้ยินตำนานนี้” ล็อกฮาร์ตตอบ
    “ผมก็ไม่แปลกใจเท่าไรนะ” กอร์ดายิ้ม “ถึงคุณจะเคยได้ยิน คุณก็จำไม่ได้อยู่ดี เอาเถอะ ตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร ขอให้โชคเข้าข้างนะคุณล็อกฮาร์ต นี่ก็ใกล้เช้าแล้ว เอาล่ะ ตื่นเถอะ!!!”
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
    เขามองไปยังอุโมงค์ทั้งห้า ยังคงเหมือนเดิมไม่มีผิด เขาพยายามนึกให้ออกว่าอุโมงค์ที่เขาก้าวเข้าไปเจอโรมิวรัสกับรีมัสคราวก่อนเป็นอุโมงค์ไหน แต่ก็นึกไม่ออก
    !?
    อะไรสักอย่างผ่านไปทางข้างหลังเขา ล็อกฮาร์ตมองไม่เห็นสิ่งนั้นแต่รู้สึกได้ชัดเจน ชัดเจนจนเขาต้องหันกลับมามอง แต่สิ่งที่รอเขาอยู่คือทิวทัศน์ของเมืองที่ชนกับป่าเป็นเส้นตรงแนวเดียวกับที่เขามองเห็นบนพื้น ไม่มีใครหรืออะไรอยู่ตรงนั้น
    บางทีเขาอาจจะคิดไปเองก็ได้ เรื่องแบบนี้ก็อาจจะมีอยู่ถมไป เขาหันกลับมายังอุโมงค์ดังเดิม และปะทะจังเข้ากับเสื้อสูทสีขาว
    “สวัสดี” เสียงที่ล็อกฮาร์ตคิดว่าคงจะเป็นเจ้าของสูทตัวนั้นพูดขึ้น
    ล็อกฮาร์ตเงยหน้าขึ้นไปเล็กน้อย และจึงมองเห็น ร่างนั้นสูงใหญ่มาก สูงกว่าเขาเกือบฟุต กำลังมองตรงมาที่เขาด้วยรอยยิ้มที่เขาไม่ค่อยแน่ใจว่ายิ้มรับหรือยิ้มเยาะกันแน่
    เขาถอยออกไปหนึ่งก้าว และกล่าวตอบออกไป “สวัสดีครับ”
    “ผมรู้จักคุณดี” ร่างนั้นพูด เมื่อถอยออกมาตั้งหลักในระยะนี้ เขาจึงมองเห็นได้ว่าร่างนั้นเป็นชายตัวสูง ไม่มีผม ไม่มีคิ้ว ไม่มีหนวด ผิวค่อนข้างคล้ำเมื่อเทียบกับตัวเขา และอาจจะเป็นเพราะแว่นกรอบดำที่เขาใส่ก็ได้ที่ทำให้เขาดูเป็นมิตรกว่าที่ควรจะเป็น “แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะรู้จักผมหรอก ใช่ไหม? คุณล็อกฮาร์ต”
    “ครับ” ล็อกฮาร์ตตอบตะกุกตะกัก “ผมไม่รู้จักคุณ”
    “เรียกผมว่ากอร์ดาก็แล้วกัน” ร่างนั้นขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่จะเอาหมวกที่เขาถือไว้ที่มือซ้ายตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้วขึ้นสวม “ผมมาที่นี่เพื่อแนะทางให้คุณ”
    “แนะทางหรือครับ?”
    “แนะทาง ใช่” กอร์ดาตอบ “ผมกำลังจะแนะทางให้คุณหลาย ๆ อย่าง อย่างเช่น ทางที่จะปลดปล่อยคุณโรมิวรัสให้พ้นจากอาการหมาป่าเรื้อรัง”
    “คุณรู้ทาง?” ล็อกฮาร์ตโพล่งขึ้น
    “เดี๋ยวก่อนสิ ผมรู้แน่” กอร์ดายกสองมือขึ้นเหมือนจะปรามล็อกฮาร์ต “แต่ผมอยากให้คุณตอบคำถามผมสองสามข้อ ผมเฝ้ามองคุณมาหลายพักแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยกันเลย มีก็แค่โอกาสนี้แหละ เพราะฉะนั้นผมจะถามล่ะนะ”
    “เชิญครับ”
    “ทำไมคุณจึงออกเดินทางมากับวิคตอเรีย เบอร์มงต์” กอร์ดาชี้นิ้วใส่หน้าล็อกฮาร์ต
    ล็อกฮาร์ตรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ในลำคอของเขา จะว่าไปแล้ว ก็นั่นสิ เขาออกตามเบอร์มงต์มาทำไม ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลยนี่ เพื่อมาช่วยเธอตามหาพี่สาวที่หายไปเหรอ? เพื่อตอบแทนที่เบอร์มงต์พาเขามาส่งบ้าน? หรือเพื่อสนองความต้องการที่จะออกเดินทางอีกครั้ง(หรือเปล่า)ของเขา? บางทีเขาก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้
    “ผมไม่ทราบครับ” ล็อกฮาร์ตตัดสินใจตอบ “ผมรู้แต่ว่าผมต้องการออกเดินทาง”
    “ผมจะรับไว้เป็นคำตอบนะ” กอร์ดาปรบมือหนึ่งครั้ง “ขออีกคำถามหนึ่ง ทำไมคุณถึงต้องการที่จะช่วยคุณโรมิวรัสให้พ้นจากอาการหมาป่าเรื้อรัง?”
    อีกครั้งแล้วที่ล็อกฮาร์ตไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของกอร์ดาอย่างไร
    “ไม่ทราบครับ ผมรู้แต่ว่าผมอยากช่วยเขา เหมือนกับว่าผมรู้จักเขาดี และทนไม่ได้ที่จะเห็นเขาเป็นอะไรไป” ล็อกฮาร์ตตอบ
    กอร์ดาปรบมืออีกหนึ่งครั้ง “ขอบคุณมาก! เอาล่ะ ตามผมมา ผมจะพาคุณไปพบกับทางที่จะช่วยให้คุณโรมิวรัสพ้นจากอาการหมาป่าเรื้อรัง”
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
    “ทางนี้เลย” กอร์ดาพูดขึ้นหลังจากเขาเดินตรงไปที่อุโมงค์หนึ่งทางขวา ล็อกฮาร์ตเริ่มจะคุ้น ๆ ขึ้นมาว่าใช้อุโมงค์นี้หรือเปล่าที่พาเขาไปพบกับโรมิวรัส? แต่จะใช่หรือไม่ใช่ ตอนนี้เขาต้องการแค่ตามกอร์ดาไปหาทางช่วยโรมิวรัสให้ได้ ช่วยทำไมล่ะ? ช่างเถอะ ตอนนี้รู้แค่ตามกอร์ดาไปก็พอแล้ว
    “ใช่ รู้แค่นั้นก็พอแล้ว” กอร์ดาพูดออกมาจากอุโมงค์หลังจากที่เขาเดินเข้าไปแล้ว “แต่ว่าถ้าคุณไม่รีบตามผมมา เดี๋ยวคุณจะตามผมไม่ทันนะ ผมเป็นคนเดินเร็วเสียด้วยสิ”
    ล็อกฮาร์ตวิ่งตามกอร์ดาเข้าไปในอุโมงค์ ท่าทางเหมือนมันจะแปลกไปจากคราวก่อน ถ้าล็อกฮาร์ตจำไม่ผิด คราวก่อนที่เขาเดินทางผ่านอุโมงค์นั่นเขารู้สึกเหมือนเดินทางผ่านกุญแจนำทาง แต่คราวนี้ อุโมงค์นั้นกลับกลายเป็นแค่อุโมงค์ท่อน้ำครำเฉอะแฉะธรรมดา ล็อกฮาร์ตรู้ได้ก็ตอนที่เขาย่ำเท้าลงไปในโคลนแฉะเต็มแรงจนน้ำโคลนกระเด็นขึ้นมาเกือบโดนหน้านั่นเอง
    “ระวังนิดนึง” ล็อกฮาร์ตได้ยินเสียงกอร์ดาดังมาจากข้างหนา เมื่อเขามองไปยังต้นเสียงก็พอจะเห็นเงาราง ๆ ของกอร์ดา แต่ก็มืดเต็มทน “ในนี้มันมืดมาก ผมว่าคุณคงเกือบจะมองอะไรไม่เห็นแล้วล่ะ อยากได้แสงไฟสักหน่อยมั้ย?”
    “ถ้าได้ก็ดีครับ” ล็อกฮาร์ตตอบ
    “ถ้าอย่างนั้นก็หยิบไม้กายสิทธิ์ของคุณขึ้นมา” เสียงของกอร์ดาดูเหมือนจะดังขึ้น “คุณพกมาหรือเปล่า?”
    “พกครับ” ล็อกฮาร์ตตอบพลางคลำเอวหาไม้กายสิทธิ์ “ผมพกติดตัวตลอดเวลา”
    “ดีมาก ทีนี้คุณก็ใช้ไม้นั่นสร้างแสงสว่างขึ้นมา” คราวนี้ล็อกฮาร์ตรู้สึกว่าไม่ใช่ว่าเสียงของกอร์ดาดังขึ้นหรอก เสียงของเขาเข้ามาใกล้ขึ้นต่างหาก
    “แต่ผมทำไม่ได้” ล็อกฮาร์ตใจเสีย
    “คุณทำได้สิ” กอร์ดาปรากฏตัวตรงหน้าล็อกฮาร์ตพอดี “คุณเป็นพ่อมดที่ทรงอำนาจที่สุดของโลก”
    “แต่ผมลืมสิ่งนั้นไปหมดแล้ว”
    “เปล่า คุณไม่ได้ลืม” คราวนี้เสียงของกอร์ดาย้ายมาอยู่ด้านหลังเขา ล็อกฮาร์ตหันกลับไปมอง แต่ก็ไม่เห็นอะไร อึดใจต่อมาเสียงของกอร์ดาดังขึ้นอีกทางหนึ่ง “ไม่เคยมีใครลืมอะไรหรอก คุณล็อกฮาร์ต แม้เขาจะจำไม่ได้ และที่สำคัญ พลังอำนาจของคุณมีมากเกินกว่าที่จะถูกทำให้สูญเสียความทรงจำจนหมดสิ้นด้วยคาถา มันเพียงแต่ถูกเก็บเอาไว้ เก็บเอาไว้ในส่วนลึกส่วนหนึ่งของร่างกายของคุณ ขอเพียงคุณรู้ว่าจะต้องนำมันออกมาอย่างไร คุณก็จะค่อย ๆ นำมันออกมาได้ ทีละเล็กละน้อย”
    “แต่ผมไม่รู้นี่ว่าผมต้องทำอย่างไร”
    “ใช้ความรู้สึกสิ คุณล็อกฮาร์ต” เสียงของกอร์ดาอยู่ใกล้หูเขามากจนราวกับเขากำลังกระซิบคำพูดใส่หูของล็อกฮาร์ต “ตอนนี้คุณต้องการแสงสว่าง และผมมั่นใจว่าคุณรู้ อย่างน้อยก็ต้องเคยรู้วิธีที่ทำให้ความมืดนี้หมดไป เพราะฉะนั้น ผมขอให้คุณทำเดี๋ยวนี้!”
    “ก...ก็ได้” ล็อกฮาร์ตพูดด้วยเสียงที่เบาเหมือนคราง “ผมจะลองดู”
    ล็อกฮาร์ตหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาตรงหน้า พยายามโบกไปมา เขาพยายามนึกถึงหนังสือรวมคาถาสารพัดประโยชน์ที่เขานั่งอ่านนอนอ่านทั้งวันทั้งคืนเมื่อตอนที่อยู่ที่บ้านของเขา
    “ของเหล่านั้นไม่มีประโยชน์หรอก คุณล็อกฮาร์ต คุณต้องใช้สิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว เปิดประตูให้ออกสิล็อกฮาร์ต ไม่เช่นนั้นคุณก็จะไม่มีโอกาสได้รับความทรงจำคืนมาตลอดไป หรืออีกนัยหนึ่ง คุณจะช่วยใครไม่ได้เลย ทั้งโรมิวรัส ทั้งเบอร์มงต์”
    “แต่ผมพยายามแล้ว”
    “อย่าพยายาม” ล็อกฮาร์ตเห็นกอร์ดายืนอยู่ตรงหน้า “แต่จงรู้สึก รู้สึกถึงสิ่งที่อยู่ในตัวคุณ ดึงมันออกมา”
    ใครจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ง่าย ๆ กันเล่า? ล็อกฮาร์ตถามตัวเองในใจ นี่เขาก็พยายามมากแล้ว แน่นอน เขารู้ดีว่าเขาก็คงจะเคยผ่านการใช้คาถาอะไรสักอย่างที่ทำให้เกิดแสงสว่างได้ แต่ตอนนี้เขาไม่รู้เลย เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนสิ ไม้กายสิทธิ์ไม่ได้โบกอย่างนี้สักหน่อย ต้องเป็นแบบนี้ต่างหาก นี่เขาโบกผิดมาตลอดเลยเหรอ โง่จัง
    ?
    เขารู้ได้ไงว่าเขาโบกไม้กายสิทธิ์ผิดวิธี?
    “เริ่มจับเคล็ดได้แล้วนี่ คุณล็อกฮาร์ต” เขาได้ยินเสียงกอร์ดา “ทำต่อไป แล้วคุณก็จะมองเห็นหนทางเอง”
    ล็อกฮาร์ตยอมรับว่าเขาไม่เข้าใจสิ่งที่กอร์ดาพยายามบอกเขามาตั้งแต่เมื่อครู่นี้เลยแม้สักนิด แต่ตอนนี้ ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าที่เหมือนกับว่ามือเขากำลังเคลื่อนไหวไปเอง และปากของเขาก็กำลังพูดคำที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกมา
    “ลูมอส”
    ฉับพลันทันใดก็เกิดแสงเปล่งประกายจ้าที่ปลายไม้กายสิทธิ์ รวดเร็วจนล็อกฮาร์ตหลับตาแทบไม่ทัน จนเมื่อเวลาผ่านไปสักครู่หนึ่ง ล็อกฮาร์ตจึงลืมตาขึ้นมาได้ และมองเห็น
    อุโมงค์นั้นสว่างไสวราวกับกลางวัน
    “ทำได้ดี คุณล็อกฮาร์ต” กอร์ดาปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านหลังของล็อกฮาร์ต เขาหันหลังกลับไปและเห็นกอร์ดายืนอยู่ “เป็นลูมอสที่สว่างสดใสที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น”
    “นี่...” ล็อกฮาร์ตพูด “ผมเป็นคนทำหรือ?”
    “ใช่ ฝีมือคุณเอง” กอร์ดาปรบมืออีกครั้งก่อน แล้วจึงพูดต่อ “ล้วน ๆ เลยทีเดียว เอาล่ะ ไปต่อกันเถอะ นั่นไง มองเห็นทางออกแล้ว มา ตามผมมา”
    ล็อกฮาร์ตเดินตามกอร์ดาจนในที่สุดเขาก็ออกมานอกอุโมงค์จนได้ เขามองซ้ายมองขวา ที่ที่เขายืนอยู่นี้ดูเหมือนกับป่าอะไรสักอย่าง ป่าที่ดูสวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น หรืออย่างน้อยก็เท่าที่จำได้
    “ผมขอโทษด้วยนะที่เมื่อครู่นี้ผมขู่คุณรุนแรงไปหน่อย” ล็อกฮาร์ตได้ยินเสียงกอร์ดา เมื่อเขาหันไปมองทางต้นเสียงก็เห็นกอร์ดายืนอยู่ตรงนั้น “แต่ผมคิดว่าแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยคุณก็ระลึกมนตร์ได้อย่างหนึ่งแล้วนี่ จริงไหม?”
    “ครับ” ล็อกฮาร์ตตอบ “ที่จริงผมน่าจะต้องขอบคุณคุณเสียด้วยซ้ำ”
    “อย่าเลยน่า นั่นเป็นความต้องการของผมอยู่แล้ว” กอร์ดายิ้ม “เดินทางกันต่อเถอะ”
    ล็อกฮาร์ตออกวิ่งตามกอร์ดา แต่เมื่อวิ่งไปได้สองสามก้าว เขาก็เกิดอยากหันกลับไปดูอุโมงค์ที่เพิ่งจะออกมาเมื่อครู่นี้ เผื่อว่าคราวที่จะได้มาที่นี่จริง ๆ เขาจะได้รู้ทาง
    ไม่มีอุโมงค์!?
    เป็นไปได้ยังไงกัน ก็เขาเพิ่งออกมาเมื่อกี้นี้
    “อุโมงค์นั่นไม่มีตั้งแต่แรกแล้วล่ะคุณล็อกฮาร์ต” เสียงกอร์ดาลอยมาแต่ไกล “ผมสร้างมันขึ้นเพื่อฝึกคุณเท่านั้นเอง เมื่อถึงเวลาผมจะบอกทางจริงให้คุณรู้อีกครั้ง แต่ตอนนี้ตามผมมาก่อนเถอะ”
    ล็อกฮาร์ตหันกลับมาข้างหน้าอีกครั้ง แล้วจึงออกวิ่งต่อโดยพยายามลืม ๆ อุโมงค์นั่นไปซะ ปากก็พูดว่า “รอด้วยครับ!”
    ป่านั้นค่อนข้างรกทึบมากทีเดียว และกอร์ดาก็วิ่งเร็วมาก แม้ล็อกฮาร์ตจะวิ่งข้ามลำน้ำลึกสองฟุตมาก็แล้ว เบียดตัวไปตามสุมทุมพุ่มไม้ก็แล้ว สะดุดขอนไม้ล้มก็แล้ว ก็ยังมองไม่เห็นหลังของกอร์ดา ถ้าไม่ใช่ว่ากอร์ดาตะโกนมาเป็นพัก ๆ แล้ว เขาก็คงตามไม่ทันแน่
    หลังจากที่วิ่งมาจนเหนื่อยล้าแทบจะทรุด ในที่สุดล็อกฮาร์ตก็มองเห็นกอร์ดาหยุดยืนอยู่ริมหน้าผาแห่งหนึ่ง หน้าผานั้นคงจะดูเป็นหน้าผาธรรมดา ๆ ถ้าไม่ใช่ว่ามีรอยแกะสลักเป็นอะไรบางอย่างที่คล้ายดาบอยู่บนนั้น
    “เหนื่อยหน่อยนะ คุณล็อกฮาร์ต” กอร์ดาพูด “ผมลืมไปว่าคุณยังไม่ได้เรียนรู้อะไรอีกหลาย ๆ อย่าง แต่ตอนนี้ผมคิดว่าให้คุณพักการเรียนรู้ไว้ก่อนแล้วมาสนใจดาบแห่งลูเป้นี่ดีกว่า”
    “ดาบแห่งอะไรนะครับ?”
    “ดาบแห่งลูเป้” กอร์ดาตอบ “ไม่เคยได้ยินตำนานของมันหรือ? ดาบแห่งลูเป้ที่ปลดผนึกคำสาปที่ทำให้พาร์ซูลต้องเป็นหมาป่ามานานถึงสามร้อยปีได้ในข้ามคืนไง”
    “ผมไม่ยักเคยได้ยินตำนานนี้” ล็อกฮาร์ตตอบ
    “ผมก็ไม่แปลกใจเท่าไรนะ” กอร์ดายิ้ม “ถึงคุณจะเคยได้ยิน คุณก็จำไม่ได้อยู่ดี เอาเถอะ ตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร ขอให้โชคเข้าข้างนะคุณล็อกฮาร์ต นี่ก็ใกล้เช้าแล้ว เอาล่ะ ตื่นเถอะ!!!”
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น