ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เด็กชายผู้รอดชีวิต
.      “นี่
นี่มันอะไรกัน” แฮกริดคราง
      เขายืนอยู่ตรงหน้าบ้านพอตเตอร์ ที่ตอนนี้ถ้าใครไม่รู้จักบ้านหลังนี้ก็คงไม่รู้ว่ามันเคยเป็นบ้านมาก่อนจนถึงเมื่อวาน แฮกริดเดินเข้าไปหาทารกน้อย
      แฮร์รี่ พอตเตอร์
      เขาเดินเหยียบเศษไม้ ที่เคยเป็นโต๊ะกินข้าว เศษแก้ว ที่เคยเป็นโคมไฟ และอื่น ๆ ด้วยสีหน้าตะลึงงันเข้าไปในส่วนที่ยังพอเหลือซากอยู่
      “เธอ ” แฮกริดพูด เมื่อเขาพบทารกน้อยนอนร้องไห้อยู่บนพื้น
      “เธอ คงเป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์” เขาพูด ในขณะที่อุ้มทารกน้อยขึ้นมา
      แฮร์รี่ร้องไห้ไม่หยุดในขณะที่แฮกริดพาเขาออกจากซากบ้านมา เขาสะดุดสายตากับอะไรบางอย่าง แต่เขาเบือนหน้าหนีออกมาทันที
      “มามะ เธอต้องไปหาศาสตราจารย์ เขาจะช่วยเธอ เดี๋ยวสิ นี่มัน ”
      แฮกริดพูดอย่างตกใจ ขณะที่มองที่หน้าผากของทารกน้อย
      หน้าผากของทารกน้อยไม่ได้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ที่ถูกที่ควรแล้วมันควรจะขาวเรียบสวยงาม แต่นี่หน้าผากของเขากลับมารอยแผล อาจจะเป็นแผลเป็นเสียด้วย
      รอยแผลรูปสายฟ้าฟาด!
      “เธอเอ๋ย!” แฮกริดพูด “น่าสงสารจริง ๆ”
      แฮกริดนำห่อผ้าที่เขาเตรียมมาห่อแฮร์รี่ไว้ ดูเหมือนว่าแฮร์รี่จะชอบห่อผ้านี้มาก เขานอนหลับสนิททีเดียว
      อาจเป็นโชคดีที่แฮร์รี่หลับสนิทไปก่อน เพราะถ้าเขาหลับไม่สนิท เขาก็จะต้องตื่นอีกครั้งด้วยเสียงครางต่ำ ๆ ดังแหวกความเงียบสงัดที่ปกคลุมเขากับแฮกริดเอาไว้ เสียงนั้นค่อย ๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อแฮกริดเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า รถจักรยานยนต์คันใหญ่คันหนึ่งหล่นลงมาจากอากาศและจอดอยู่ตรงหน้าเขา
      “คุณแฮกริด!” เสียงจากบนรถจักรยานยนต์คันใหญ่คันนั้นดังขึ้นมา
      “ซิเรียส! เธอมาทำอะไรที่นี่” แฮกริดถาม “เดี๋ยว เดี๋ยว เธอ ”
      “ผมมาดูว่าเจมส์กับลิลี่เป็นอะไรไปจริง ๆ หรือเปล่าครับ” ซิเรียสพูด
      แฮกริดส่ายหน้า “พวกเขาตายแล้วจริง ๆ ล่ะ” แล้วชี้มือไปทางหนึ่ง ทางที่เขาสะดุดตากับอะไรบางอย่างเมื่อกี้ ซึ่งก็คือ ศพของลิลี่และเจมส์
      ดูราวกับซิเรียสจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ เขาปล่อยโฮออกมาทันที “ไม่ !!! เจมส์!” และวิ่งเข้าไปหาเขา ซิเรียสจับร่างของเจมส์เอาไว้ และเริ่มร้องไห้ หน้าซีด และตัวสั่น
      แฮกริดเดินเข้าไปหาซิเรียส และวางมือของเขาลงบนไหล่ของซิเรียส อย่างเบาที่สุด
      “ซิเรียส” เขาพูด “ฉันเข้าใจดีว่าเธอเสียใจมากแค่ไหน แต่ แต่ลิลี่กับเจมส์ตายไปแล้ว การร้องไห้ไม่ช่วยให้เขาทั้งสองฟื้นขึ้นมาได้ สิ่งที่เราต้องทำคือดูแลสิ่งที่พวกเขาปกป้องไว้ให้ดีที่สุด”
      แฮกริดยื่นแฮร์รี่ให้ซิเรียสดู “นี่ไง นี่คือสิ่งที่เจมส์กับลิลี่ปกป้องไว้จนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต เราต้องดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด”
      ในดวงตาของซิเรียสนั้นไม่มีน้ำตาคลออยู่ หากแต่น้ำตานั้นพรั่งพรูออกมาอย่างเสียเชิงชายหมดสิ้น ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ “ส่งแฮร์รี่ให้ผมเถอะ แฮกริด” เขาพูด “ผมเป็นพ่อทูนหัวของแก ผมจะเลี้ยงแกเอง -”
      “เกรงว่าจะไม่ได้นะซิเรียส” แฮกริดพูดด้วยใบหน้าเศร้า “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์กำชับแน่นหนามากว่าให้ฉันพาเขาไปอยู่กับป้าและลุงของเขา-ใช่แล้ว เป็นมักเกิ้ล คือ-ฉันก็ไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์สั่งมา ฉัน-“
      “ไม่ได้นะครับ ผมเป็นพ่อทูนหัวของแก ผม-“
      “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์สั่งมา!” แฮกริดตะโกนก้องจนทำให้ซิเรียสผงะ “ถ้าเธออยากรับแฮร์รี่ไปเลี้ยงจริงเธอก็ต้องไปหาท่าน แล้วขอท่านเอง”
      “คือ ผมเกรงว่าจะรบกวนท่านน่ะสิ แต่ ” ซิเรียสครางเบา ๆ
      “แฮกริดครับ” ซิเรียสพูด ดูเหมือนเขาจะตัดใจจากแฮร์รี่ได้ “ให้ผมช่วยอะไรบ้างเถอะ คุณเอามอเตอร์ไซค์ของผมไป มันบินได้เร็วมาก คุณกับแฮร์รี่จะไปถึงที่นั่นในเวลาครู่เดียวเท่านั้น”
      “แต่-“ แฮกริดพูด “แต่มอเตอร์ไซค์นี่-แต่เธอ-นี่มัน-เธอ-“
      “ผมคงไม่ต้องการใช้มันอีกต่อไปแล้ว” ซิเรียสพูด แล้วเขาก็ ‘หายตัว’ ไป
      แฮกริดไม่มีเวลาคิดมากนัก เขาต้องพาแฮร์รี่ไปหาศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ให้เร็วที่สุด
      “ขอบใจนะ ซิเรียส” แฮกริดพูดขณะที่ขึ้นไปนั่งบนรถจักรยานยนต์ “อยู่ดี ๆ นะ เจ้าหนู”
      แล้วรถจักรยานยนต์คันนั้นก็บึ่งออกไป หายลับไปในท้องฟ้า และเล็กลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
      ในที่สุดแฮกริดก็มาถึงบ้านเดอร์สลีย์
      “แฮกริด” เขาได้ยินเสียงดัมเบิลดอร์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็อยู่ที่นั่นด้วย “ในที่สุดก็มาถึง ว่าแต่ไปเอารถมอเตอร์ไซค์มาจากไหน”
      แฮกริดตอบทันที “ยืมเขามาครับ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์” แล้วเขาก็ก้าวลงจากรถ “เจ้าหนุ่มซิเรียส แบล็ก ให้ผมยืม ผมพาแกมาแล้วครับ”
      “ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม” ดัมเบิลดอร์ถาม
      “ไม่มีครับ ” แฮกริดตอบ “บ้านถูกทำลายเกือบหมดแล้วตอนที่ผมเอาแกออกมาก่อนที่พวกมักเกิ้ลจะเข้าไปมุงดู” เขาหยิบแฮร์รี่ออกมา “แกหลับปุ๋ยตอนเราบินข้ามบริสตัลมาครับ”
      ดัมเบิลดอร์และมักกอนนากัลมองดูแฮร์รี่ ดูเหมือนมักกอนนากัลจะสนใจรอยแผลของเขามากเป็นพิเศษ
      “นี่เป็นที่ ” เธอพูดเบา ๆ
      “ใช่” ดัมเบิลดอร์ตอบ “เขาจะมีแผลเป็นไปตลอดชีวิต”
      มักกอนนากัลถามทันที “คุณช่วยแก้ไขไม่ได้หรือ ดัมเบิลดอร์”
      “ถึงผมจะทำได้ ผมก็ไม่ทำ แผลเป็นบางทีก็มีประโยชน์นะ ผมก็มีอันหนึ่งที่เหนือหัวเข่าซ้าย เป็นรูปแผนที่รถไฟใต้ดินลอนดอนชัดเจน” เขาพูด แล้วมองมาทางแฮกริด “เอาล่ะแฮกริด ส่งเขามาให้ผม แล้วเราจะได้จัดการให้เสร็จเรื่องกันเสียที”
      แฮกริดส่งแฮร์รี่ให้ดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์อุ้มแฮร์รี่ไว้ในวงแขน แล้วจึงหันไปทางบ้านเดอร์สลีย์
      “ขอผม-“ แฮกริดทนไม่ได้ “ขอผมบอกลาแกหน่อยได้ไหมครับ”
      แฮกริดจูบแฮร์รี่เบา ๆ และเขาก็ร้องไห้ ดังโหยหวนมากเหมือนที่ฮอกวอตส์ - เมื่อคืนนั้น
      “เบา ๆ เดี๋ยวแกก็ปลุกพวกมักเกิ้ลขึ้นมาหรอก” มักกอนนากัลดุ
      “ขะ ขอโทษครับ” แฮกริดเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิด “แต่ผมทะ-ทะ-ทนไมได้ ลิลี่กะเจมส์ตาย เจ้าหนูแฮร์รี่ที่น่าสงสารต้องไปอยู่กับพวกมักเกิ้ล ”
      “ใช่ ใช่ มันน่าเศร้าใจ แต่ควบคุมตัวเองหน่อยแฮกริด เดี๋ยวก็เสียเรื่องหมดหรอก” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลกระซิบ
      ดัมเบิลดอร์ก้าวข้ามกำแพงสวนเตี้ย ๆ เดินตรงไปที่ประตูหน้าบ้าน เขาค่อย ๆ วางแฮร์รี่ลงบนบันไดหน้าประตู แล้วหยิบจดหมายจากเสื้อคลุมสอดไว้ใต้ผ้าห่มของแฮร์รี่ ก่อนจะเดินกลับมาหาคนทั้งสอง เป็นเวลาหนึ่งนาทีเต็มที่คนทั้งสามยืนมองดูห่อผ้าน้อย ๆ ไหล่ของแฮกริดสั่นเทิ้ม
      “เอาล่ะ” ดัมเบิลดอร์กล่าว “เป็นอันเสร็จเรื่อง เราไม่มีธุระอะไรที่นี่อีกแล้ว เราควรไปร่วมงานเฉลิมฉลองกันดีกว่า”
      แฮกริดพูดเสียงต่ำ “ถ้าอย่างนั้นผมจะเอามอเตอร์ไซค์ไปคืนเจ้าหนุ่มซิเรียส ราตรีสวัสดิ์ครับศาสตราจารย์มักกอนนากัล ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์”
      แฮกริดเช็ดน้ำตา และติดเครื่องยนต์ เขาขี่รถจักรยานยนต์ลอยหายไปในท้องฟ้า กลับสู่ความมืดอีกครั้ง
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
สวัสดีครับ
      เขายืนอยู่ตรงหน้าบ้านพอตเตอร์ ที่ตอนนี้ถ้าใครไม่รู้จักบ้านหลังนี้ก็คงไม่รู้ว่ามันเคยเป็นบ้านมาก่อนจนถึงเมื่อวาน แฮกริดเดินเข้าไปหาทารกน้อย
      แฮร์รี่ พอตเตอร์
      เขาเดินเหยียบเศษไม้ ที่เคยเป็นโต๊ะกินข้าว เศษแก้ว ที่เคยเป็นโคมไฟ และอื่น ๆ ด้วยสีหน้าตะลึงงันเข้าไปในส่วนที่ยังพอเหลือซากอยู่
      “เธอ ” แฮกริดพูด เมื่อเขาพบทารกน้อยนอนร้องไห้อยู่บนพื้น
      “เธอ คงเป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์” เขาพูด ในขณะที่อุ้มทารกน้อยขึ้นมา
      แฮร์รี่ร้องไห้ไม่หยุดในขณะที่แฮกริดพาเขาออกจากซากบ้านมา เขาสะดุดสายตากับอะไรบางอย่าง แต่เขาเบือนหน้าหนีออกมาทันที
      “มามะ เธอต้องไปหาศาสตราจารย์ เขาจะช่วยเธอ เดี๋ยวสิ นี่มัน ”
      แฮกริดพูดอย่างตกใจ ขณะที่มองที่หน้าผากของทารกน้อย
      หน้าผากของทารกน้อยไม่ได้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ที่ถูกที่ควรแล้วมันควรจะขาวเรียบสวยงาม แต่นี่หน้าผากของเขากลับมารอยแผล อาจจะเป็นแผลเป็นเสียด้วย
      รอยแผลรูปสายฟ้าฟาด!
      “เธอเอ๋ย!” แฮกริดพูด “น่าสงสารจริง ๆ”
      แฮกริดนำห่อผ้าที่เขาเตรียมมาห่อแฮร์รี่ไว้ ดูเหมือนว่าแฮร์รี่จะชอบห่อผ้านี้มาก เขานอนหลับสนิททีเดียว
      อาจเป็นโชคดีที่แฮร์รี่หลับสนิทไปก่อน เพราะถ้าเขาหลับไม่สนิท เขาก็จะต้องตื่นอีกครั้งด้วยเสียงครางต่ำ ๆ ดังแหวกความเงียบสงัดที่ปกคลุมเขากับแฮกริดเอาไว้ เสียงนั้นค่อย ๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อแฮกริดเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า รถจักรยานยนต์คันใหญ่คันหนึ่งหล่นลงมาจากอากาศและจอดอยู่ตรงหน้าเขา
      “คุณแฮกริด!” เสียงจากบนรถจักรยานยนต์คันใหญ่คันนั้นดังขึ้นมา
      “ซิเรียส! เธอมาทำอะไรที่นี่” แฮกริดถาม “เดี๋ยว เดี๋ยว เธอ ”
      “ผมมาดูว่าเจมส์กับลิลี่เป็นอะไรไปจริง ๆ หรือเปล่าครับ” ซิเรียสพูด
      แฮกริดส่ายหน้า “พวกเขาตายแล้วจริง ๆ ล่ะ” แล้วชี้มือไปทางหนึ่ง ทางที่เขาสะดุดตากับอะไรบางอย่างเมื่อกี้ ซึ่งก็คือ ศพของลิลี่และเจมส์
      ดูราวกับซิเรียสจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ เขาปล่อยโฮออกมาทันที “ไม่ !!! เจมส์!” และวิ่งเข้าไปหาเขา ซิเรียสจับร่างของเจมส์เอาไว้ และเริ่มร้องไห้ หน้าซีด และตัวสั่น
      แฮกริดเดินเข้าไปหาซิเรียส และวางมือของเขาลงบนไหล่ของซิเรียส อย่างเบาที่สุด
      “ซิเรียส” เขาพูด “ฉันเข้าใจดีว่าเธอเสียใจมากแค่ไหน แต่ แต่ลิลี่กับเจมส์ตายไปแล้ว การร้องไห้ไม่ช่วยให้เขาทั้งสองฟื้นขึ้นมาได้ สิ่งที่เราต้องทำคือดูแลสิ่งที่พวกเขาปกป้องไว้ให้ดีที่สุด”
      แฮกริดยื่นแฮร์รี่ให้ซิเรียสดู “นี่ไง นี่คือสิ่งที่เจมส์กับลิลี่ปกป้องไว้จนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต เราต้องดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด”
      ในดวงตาของซิเรียสนั้นไม่มีน้ำตาคลออยู่ หากแต่น้ำตานั้นพรั่งพรูออกมาอย่างเสียเชิงชายหมดสิ้น ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ “ส่งแฮร์รี่ให้ผมเถอะ แฮกริด” เขาพูด “ผมเป็นพ่อทูนหัวของแก ผมจะเลี้ยงแกเอง -”
      “เกรงว่าจะไม่ได้นะซิเรียส” แฮกริดพูดด้วยใบหน้าเศร้า “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์กำชับแน่นหนามากว่าให้ฉันพาเขาไปอยู่กับป้าและลุงของเขา-ใช่แล้ว เป็นมักเกิ้ล คือ-ฉันก็ไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์สั่งมา ฉัน-“
      “ไม่ได้นะครับ ผมเป็นพ่อทูนหัวของแก ผม-“
      “ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์สั่งมา!” แฮกริดตะโกนก้องจนทำให้ซิเรียสผงะ “ถ้าเธออยากรับแฮร์รี่ไปเลี้ยงจริงเธอก็ต้องไปหาท่าน แล้วขอท่านเอง”
      “คือ ผมเกรงว่าจะรบกวนท่านน่ะสิ แต่ ” ซิเรียสครางเบา ๆ
      “แฮกริดครับ” ซิเรียสพูด ดูเหมือนเขาจะตัดใจจากแฮร์รี่ได้ “ให้ผมช่วยอะไรบ้างเถอะ คุณเอามอเตอร์ไซค์ของผมไป มันบินได้เร็วมาก คุณกับแฮร์รี่จะไปถึงที่นั่นในเวลาครู่เดียวเท่านั้น”
      “แต่-“ แฮกริดพูด “แต่มอเตอร์ไซค์นี่-แต่เธอ-นี่มัน-เธอ-“
      “ผมคงไม่ต้องการใช้มันอีกต่อไปแล้ว” ซิเรียสพูด แล้วเขาก็ ‘หายตัว’ ไป
      แฮกริดไม่มีเวลาคิดมากนัก เขาต้องพาแฮร์รี่ไปหาศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ให้เร็วที่สุด
      “ขอบใจนะ ซิเรียส” แฮกริดพูดขณะที่ขึ้นไปนั่งบนรถจักรยานยนต์ “อยู่ดี ๆ นะ เจ้าหนู”
      แล้วรถจักรยานยนต์คันนั้นก็บึ่งออกไป หายลับไปในท้องฟ้า และเล็กลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
      ในที่สุดแฮกริดก็มาถึงบ้านเดอร์สลีย์
      “แฮกริด” เขาได้ยินเสียงดัมเบิลดอร์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลก็อยู่ที่นั่นด้วย “ในที่สุดก็มาถึง ว่าแต่ไปเอารถมอเตอร์ไซค์มาจากไหน”
      แฮกริดตอบทันที “ยืมเขามาครับ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์” แล้วเขาก็ก้าวลงจากรถ “เจ้าหนุ่มซิเรียส แบล็ก ให้ผมยืม ผมพาแกมาแล้วครับ”
      “ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม” ดัมเบิลดอร์ถาม
      “ไม่มีครับ ” แฮกริดตอบ “บ้านถูกทำลายเกือบหมดแล้วตอนที่ผมเอาแกออกมาก่อนที่พวกมักเกิ้ลจะเข้าไปมุงดู” เขาหยิบแฮร์รี่ออกมา “แกหลับปุ๋ยตอนเราบินข้ามบริสตัลมาครับ”
      ดัมเบิลดอร์และมักกอนนากัลมองดูแฮร์รี่ ดูเหมือนมักกอนนากัลจะสนใจรอยแผลของเขามากเป็นพิเศษ
      “นี่เป็นที่ ” เธอพูดเบา ๆ
      “ใช่” ดัมเบิลดอร์ตอบ “เขาจะมีแผลเป็นไปตลอดชีวิต”
      มักกอนนากัลถามทันที “คุณช่วยแก้ไขไม่ได้หรือ ดัมเบิลดอร์”
      “ถึงผมจะทำได้ ผมก็ไม่ทำ แผลเป็นบางทีก็มีประโยชน์นะ ผมก็มีอันหนึ่งที่เหนือหัวเข่าซ้าย เป็นรูปแผนที่รถไฟใต้ดินลอนดอนชัดเจน” เขาพูด แล้วมองมาทางแฮกริด “เอาล่ะแฮกริด ส่งเขามาให้ผม แล้วเราจะได้จัดการให้เสร็จเรื่องกันเสียที”
      แฮกริดส่งแฮร์รี่ให้ดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์อุ้มแฮร์รี่ไว้ในวงแขน แล้วจึงหันไปทางบ้านเดอร์สลีย์
      “ขอผม-“ แฮกริดทนไม่ได้ “ขอผมบอกลาแกหน่อยได้ไหมครับ”
      แฮกริดจูบแฮร์รี่เบา ๆ และเขาก็ร้องไห้ ดังโหยหวนมากเหมือนที่ฮอกวอตส์ - เมื่อคืนนั้น
      “เบา ๆ เดี๋ยวแกก็ปลุกพวกมักเกิ้ลขึ้นมาหรอก” มักกอนนากัลดุ
      “ขะ ขอโทษครับ” แฮกริดเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิด “แต่ผมทะ-ทะ-ทนไมได้ ลิลี่กะเจมส์ตาย เจ้าหนูแฮร์รี่ที่น่าสงสารต้องไปอยู่กับพวกมักเกิ้ล ”
      “ใช่ ใช่ มันน่าเศร้าใจ แต่ควบคุมตัวเองหน่อยแฮกริด เดี๋ยวก็เสียเรื่องหมดหรอก” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลกระซิบ
      ดัมเบิลดอร์ก้าวข้ามกำแพงสวนเตี้ย ๆ เดินตรงไปที่ประตูหน้าบ้าน เขาค่อย ๆ วางแฮร์รี่ลงบนบันไดหน้าประตู แล้วหยิบจดหมายจากเสื้อคลุมสอดไว้ใต้ผ้าห่มของแฮร์รี่ ก่อนจะเดินกลับมาหาคนทั้งสอง เป็นเวลาหนึ่งนาทีเต็มที่คนทั้งสามยืนมองดูห่อผ้าน้อย ๆ ไหล่ของแฮกริดสั่นเทิ้ม
      “เอาล่ะ” ดัมเบิลดอร์กล่าว “เป็นอันเสร็จเรื่อง เราไม่มีธุระอะไรที่นี่อีกแล้ว เราควรไปร่วมงานเฉลิมฉลองกันดีกว่า”
      แฮกริดพูดเสียงต่ำ “ถ้าอย่างนั้นผมจะเอามอเตอร์ไซค์ไปคืนเจ้าหนุ่มซิเรียส ราตรีสวัสดิ์ครับศาสตราจารย์มักกอนนากัล ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์”
      แฮกริดเช็ดน้ำตา และติดเครื่องยนต์ เขาขี่รถจักรยานยนต์ลอยหายไปในท้องฟ้า กลับสู่ความมืดอีกครั้ง
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
สวัสดีครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น