ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ไปเที่ยวฝรั่งเศสกันเถอะ
    ล็อกฮาร์ตถูกดูดผ่านกุญแจนำทางเข้าไป เขาไม่เคยเจออะไรอย่างนี้มาก่อน อย่างน้อยก็เท่าที่เขาจำได้ก็แล้วกัน - มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยายออกมา มันเหมือนกับว่ามือของคุณโดนดูดเข้าไปก่อน แล้วพวกลำไส้ก็ตามมือไป ส่วนร่างกายส่วนอื่น ๆ ก็ตามลำไส้ไปอีกที ล็อกฮาร์ตรู้สึกพะอืดพะอมสิ้นดีในตอนที่เขาเพิ่งหลุดออกมาจากก้อนหินสีดำคล้ำก้อนนี้
    “ไม่เป็นไรนะคะ” เบอร์มงต์ถามเขา “เดี๋ยวคุณก็คงจะชินไปเอง”
    ล็อกฮาร์ตเอามือที่อุดปากของเขาไว้ออกก่อนที่จะพูดง่าย ๆ ว่า “ครับ”
    เขายันตัวขึ้นยืนแล้วมองไปรอบ ๆ ที่ตรงนี้ที่เขายืนอยู่คือชานชาลาที่สามเศษหนึ่งส่วนสี่ ถึงจะเป็นที่ที่เขาไม่เคยมามาก่อนหลังจากที่จำความได้ (เมื่อราว ๆ เดือนก่อน) แต่ก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด เหมือนกับว่าเขาคุ้นเคยกับสถานีรถไฟมากกว่าบ้านของตัวเองเสียอีก
    “ทางนี้เลยค่ะ ฉันจองที่นั่งไว้แล้ว” เบอร์มงต์ชี้มือไปทางรถไฟ พลางลากล็อกฮาร์ตไปทางรถไฟลายพร้อยที่ดูเหมือนว่าคนที่ทาสีมันต้องไม่เคยมายืนมองมันแน่เลย มันดูน่าเกลียดพิลึก นี่เขาต้องนั่งรถขบวนนี้ลอดอุโมงค์ไปโผล่ฝรั่งเศสหรือนี่
    “เอ่อ ” ล็อกฮาร์ตพยายามพูดอะไรสักอย่างขณะที่เขากำลังวิ่งตามเบอร์มงต์ซึ่งกำลังลากเขาอยู่ “เราใช้กุญแจนำทางไปฝรั่งเศสไม่ได้เหรอ”
    “ไม่ได้ค่ะ” เบอร์มงต์ตอบหนักแน่น “ที่ฝรั่งเศสไม่มีกุญแจนำทาง”
    “ทำไมล่ะ”
    “คนฝรั่งเศสไม่ชอบกุญแจนำทาง” เบอร์มงต์ตอบในขณะที่ผลักล็อกฮาร์ตขึ้นไปบนรถไฟ “พวกเขาว่ามันเป็นวิธีการเดินทางที่ไร้รสนิยม พวกเขาเกลียดมัน”
    “แปลกคนนะ” ล็อกฮาร์ตพูดหลังจากที่ในที่สุดเขาก็หาที่นั่งได้ “แต่ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะมันไร้รสนิยมหรอกนะ ก็ผมไม่รู้รสนิยมอะไรเลยนี่ แต่ผมจะอ้วกซะให้ได้ตอนที่หลุดออกมาจากกุญแจนำทางน่ะ”
    “เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ” เบอร์มงต์บอก “แรก ๆ ใคร ๆ ก็เป็นอย่างนั้นแหละค่ะ ต้องใช้เวลาทำความเคยชินนานเหมือนกัน”
    “นั่นสินะ ” ล็อกฮาร์ตพูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง “ ต้องใช้เวลา ”
    รถด่วนฝรั่งเศสสีสันสดใสบาดใจบาดตาส่งเสียงหวูดดังคำรามมาจากหน้าขบวนรถ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บอกล็อกฮาร์ตว่าเขากำลังจะออกไปพบกับโลกกว้าง ชานชาลาที่สามเศษหนึ่งส่วนสี่และสถานีรถไฟคิงส์ครอสเริ่มเคลื่อนห่างเขาออกไป นั่นก็รวมถึงบ้านของเขา คนรับใช้ของเขา และทุกสิ่งทุกอย่างที่มีไม่กี่อย่างของเขากำลังห่างออกไป เขาหันหน้ามามองยังทิศทางที่กำลังมุ่งไป มันมีแต่ต้นไม้ใหญ่น้อยเต็มไปหมด เหมือนกับว่ามันสลัดเอาคราบของเมืองทิ้งไว้เบื้องหลัง เบื้องหน้าของเขาในตอนนี้ไม่มีบ้านคนแม้แต่หลังเดียวทั้ง ๆ ที่รถไฟเพิ่งออกจากสถานีได้ไม่ถึงสิบนาที
    ล็อกฮาร์ตยิ้ม ความรู้สึกแบบนี้เป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งเท่าที่เขานึกออก นี่ก็อีกแล้ว เขารู้สึกคุ้นเคยกับกระแสลมที่ตีหน้าเขาอย่างอ่อนโยนนี้มาก มากกว่าสถานีรถไฟเสียอีก ชีวิตของเขาต้องได้เดินทางบ่อย ๆ แน่ เขาชอบแฮะ
    “น่าอิจฉาคุณจัง”
    ล็อกฮาร์ตมองไปทางต้นเสียง ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเบอร์มงต์ “ทำไมเหรอ” เขาถาม
    “คุณดูเหมือนกับเด็ก ๆ ที่ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นครั้งแรก” เธอตอบ “นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หาเลยนะคะล็อกฮาร์ต ความแปลกใหม่”
    “ที่จริงผมคงเคยเห็นวิวนี้มาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว” ล็อกฮาร์ตหันศีรษะกลับเข้ามาในรถ “และผมก็คงเคยนั่งรถไฟแบบนี้มาไม่รู้กี่ครั้งแล้วเหมือนกัน แต่มันเป็นเพราะว่าผมจำอะไรไม่ได้เลย มันจึงเหมือนกับว่าผมไม่เคยเห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มาก่อน เหมือนกับว่าผมไม่เคยพบเรื่องราวแบบนี้มาก่อน ก็ถูกของคุณนะ ผมคงเหมือนกับเด็ก ๆ ที่ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นครั้งแรก”
    เบอร์มงต์ยิ้ม “คุณนี่ไม่เหมือนที่ฉันคิดไว้เลย”
    “ทำไมเหรอ” ล็อกฮาร์ตถาม
    “ตอนแรก ฉันนึกว่าคุณจะเป็นคนหยิ่ง” เธอตอบ “ทะนงตน หลงตัวเอง หรืออะไรทำนองนั้น แต่คุณไม่ใช่แบบนั้นเลย”
    “เมื่อก่อนผมอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้” ล็อกฮาร์ตพูด
    เงียบไปชั่วขณะ เป็นเวลาหลายนาทีที่รอบตัวพวกเขาสองคนมีแต่เสียงฉึกฉักของรถไฟ
    “ดูคุณใจเย็นจัง” ล็อกฮาร์ตสงสัย “พี่สาวของคุณอยู่ไหนก็ไม่รู้ไม่ใช่เหรอ”
    “ใช่ค่ะ” เบอร์มงต์ตอบ “แต่ฉันสบายใจขึ้นเยอะแล้ว เพราะพี่บอกฉันว่าเขาจะไม่มีอันตรายแน่นอน ถึงจะยากลำบากสักหน่อย พี่ฉันเป็นคนทรหด”
    “คุณรู้ได้ยังไง”
    “นี่ไงคะ” เบอร์มงต์หยิบเศษกระดาษสีเหลืองที่ดูเหมือนว่าจะฉีกออกมาจากอะไรสักอย่างหนึ่ง ในนั้นเขียนไว้ว่า
    วิคตอเรียน้องรัก
    พี่สบายดี ถึงจะไ ป ไก ล บ้านสักหน่ อ ยแต่เธอก็ไม่ต้องเป็นห่วงพี่ ด อกนะ ภัย อันตรายรอบตัวพี่ไม่มีเลย พี่ แ ข็งแรงดี พี่คงจะอยู่ ต่ อที่นี่อีกระยะหนึ่ง ใ คร ๆ ก็ได้มาต้องอยากอยู่ที่นี่กันทั้งนั้นแหละ สัก ห้ าเดือนพี่ก็คงจะกลับบ้าน มา หาเธอแล้ว ช่ างพี่เธอนะ ดูแลส ว นให้ดีด้ว ย ล่ะ
    “ผมไม่เห็นอะไรเลย” ล็อกฮาร์ตทำท่างง “คุณเคยบอกผมแล้วว่าจดหมายนี้เขียนด้วยลายมือสั่น ๆ เหมือนถูกบังคับให้เขียน”
    “ใช่ มันเป็นจดหมายที่ถูกบังคับให้เขียน” เบอร์มงต์ตอบ “แต่คุณดูนี่สิ จดหมายพวกนี้บางจุดก็เขียนแปลก ๆ ใช่มั้ยล่ะ ลองดูตรง ‘ไปไกลบ้าน’ นี่สิ มันไม่ปะติดปะต่อกันเลยเห็นไหม”
    “ใช่ผมเห็น แต่มันก็น่าจะเป็นแค่การเขียนแล้วมือสั่นไม่ใช่เหรอ”
    “ไม่ ไม่ใช่มือสั่นหรอก มันเป็นสารที่พี่ฉันต้องการบอกต่างหาก มันเป็นสารซ่อนสารอีกที คุณดูให้ดี จดหมายพวกนี้มีช่องไฟแปลก ๆ เห็นไหม นั่นเป็นรหัสง่าย ๆ มองทีเดียวก็น่าจะรู้ การแยกคำ ล็อกฮาร์ต มันเป็นการแยกคำ ตัวอักษรหนึ่งหรือสองตัวจะถูกเขียนแยกออกมาจากคำ แล้วที่เราต้องทำก็แค่เอาตัวอักษรพวกนั้นมาวางไว้ด้วยกัน
    “ทีนี้คำที่เราเห็นก็คือ ป,ล,อ,ด,พี่,แ,ต่,ใ,ห้,ช่,ว,ย เรารวมมันก็ได้ว่า ‘ปลอดพี่แต่ให้ช่วย’ ซึ่งได้ความ แต่ไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก ทีนี้เราก็ต้องดูคำสองตัวอักษรที่ถูกเขียนแยกไว้ ซึ่งก็มี ไก,ภัย,คร,สัก,มา แล้วก็ ล่ะ ถ้าเราจะเรียงมันทั้งหมดตามลำดับ มันก็จะกลายเป็น ‘ปไกลอดภัยพี่แต่ใครสักห้มาช่วยล่ะ’ ซึ่งไม่ได้ความเลย แต่ถ้าเราลองดูดี ๆ แล้วลองหาคำที่น่าจะตัดออก คำแรกที่ควรตัดออกเลยคือ ‘ไก’ เพราะอะไร เพราะว่าคำที่ถูกแยกไว้ถัดจากคำว่า ‘ไก’ นี้คือ ‘ล’ ซึ่งถ้าพี่ฉันจะเอาสองคำนี้จริงก็ควรเขียนแยกออกมาว่า ‘ไกล’ ไปเลย นั่นแสดงว่าไม่ ‘ไก’ ก็ ‘ล’ นี่แหละที่ต้องตัดออก แต่ว่าถ้าจะเอาคำว่า ‘ไก’ คำที่อยู่รอบข้างก็ควรจะเป็น ‘ถึงจะไป ไก ลบ้าน’ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น ตรงนี้เราคิดอีกสักนิดเดียวเท่านั้นก็จะระบุได้ว่า ‘ไก’ ไม่ใช่คำที่ต้องการส่ง และคำว่า ‘พี่’ ตรงนี้ก็ไม่ใช่อีกด้วยเหตุผลเดียวกัน หรืออีกอย่าง พี่ก็น่าจะรู้ว่าฉันต้องรู้ว่าพี่เป็นคนเขียน ไม่จำเป็นต้องระบุอีก คำว่า ‘สัก’ นี่ก็ด้วย เหตุผลเดียวกัน และคำว่า ‘ล่ะ’ ก็ด้วยเหตุผลเดียวกันอีก ทีนี้พอเราตัดคำว่า ไก,พี่,สัก แล้วก็ล่ะ พวกนี้ออกไปก็จะเหลือคำว่า ‘ปลอดภัยแต่ให้มาช่วย’ ซึ่งสมบูรณ์แล้ว”
    ล็อกฮาร์ตที่นั่งฟังพลางมองดูเบอร์มงต์ชี้ตรงโน้นชี้ตรงนี้บนกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ใบนั้นได้พักหนึ่งแล้วก็เข้าใจได้ไม่ยากในทันทีเลย
    “คุณน่าไปเป็นนักสืบนะ” เขาบอก
    “ขอบคุณ ทีนี้ พี่บอกฉันว่า ‘ปลอดภัย’ แสดงว่าพี่ไม่อยู่ในอันตรายร้ายแรง แต่ ‘ให้ช่วย’ แสดงว่า พี่ก็อยากออกไปเหมือนกัน ตรงนี้เราทำตามที่เราทำได้ก็พอ คือออกตามข่าวไปเรื่อย ๆ แล้วก็ช่วยพี่ของฉัน”
    “คุณนี่เก่งจริง ๆ” ล็อกฮาร์ตบอก “ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นผู้นำทัวร์นี้ไปแล้วนะเนี่ย”
    “ไม่หรอกค่ะ” เบอร์มงต์ตอบ
    เป็นเวลาอีกนานที่ไม่มีเสียงพูดหลุดออกมาจากปากของทั้งสอง ล็อกฮาร์ตนั่งมองวิวนอกหน้าต่าง ส่วนเบอร์มงต์ก็อ่านหนังสือ ‘สุดชีวิตกับเลธิโฟลด์’ ของล็อกฮาร์ตไปเรื่อย ๆ
    ดูเหมือนล็อกฮาร์ตจะไม่รู้ตัวเลยว่าเบอร์มงต์คอยแอบมองดูเขาเป็นระยะ ๆ ระหว่างที่เขากำลังใจลอยกับวิวรอบข้าง แต่พอเขารู้สึกตัวและมองมาทางเธอ เธอก็ก้มลงอ่านหนังสือต่อ เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง
    “ล็อกฮาร์ตคะ ” เบอร์มงต์ถามออกมาในการก้มลงอ่านหนังสือหลังจากถูกจับได้เป็นครั้งที่ยี่สิบสี่ “ขอฉันเรียกคุณว่า กิลเดอรอย ได้หรือเปล่าคะ”
    “เรียกชื่อผมเลยเหรอ” ล็อกฮาร์ตถาม “ก็เอาสิ ผมไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่แล้ว ถ้างั้น ผมก็ขอเรียกคุณว่าวิคตอเรียด้วยแล้วกัน”
    “ค่ะ กิลเดอรอย”
    “ไม่เป็นไรครับ วิคตอเรีย”
    ความเงียบดำเนินไปอีกครั้ง และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะรถด่วนฝรั่งเศสจะเข้าเทียบชานชาลาที่สถานีวิซซารองในอีกสิบสองนาทีนี้แล้ว
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
ปล. รู้สึกกันไหมครับว่าเรื่องในตอนนี้บางช่วงบางตอนมันขัดๆ สามัญสำนึกพิกล - -\'\' ต้องขออภัยด้วยนะครับ คือว่า ... ผมหาทางออกให้เรื่องดำเนินไปไม่ได้น่ะ ถ้าใครมีวิธีที่ดีกว่านี้แนะนำกันเข้ามาก็ดีนะครับ >/l\\<
    “ไม่เป็นไรนะคะ” เบอร์มงต์ถามเขา “เดี๋ยวคุณก็คงจะชินไปเอง”
    ล็อกฮาร์ตเอามือที่อุดปากของเขาไว้ออกก่อนที่จะพูดง่าย ๆ ว่า “ครับ”
    เขายันตัวขึ้นยืนแล้วมองไปรอบ ๆ ที่ตรงนี้ที่เขายืนอยู่คือชานชาลาที่สามเศษหนึ่งส่วนสี่ ถึงจะเป็นที่ที่เขาไม่เคยมามาก่อนหลังจากที่จำความได้ (เมื่อราว ๆ เดือนก่อน) แต่ก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด เหมือนกับว่าเขาคุ้นเคยกับสถานีรถไฟมากกว่าบ้านของตัวเองเสียอีก
    “ทางนี้เลยค่ะ ฉันจองที่นั่งไว้แล้ว” เบอร์มงต์ชี้มือไปทางรถไฟ พลางลากล็อกฮาร์ตไปทางรถไฟลายพร้อยที่ดูเหมือนว่าคนที่ทาสีมันต้องไม่เคยมายืนมองมันแน่เลย มันดูน่าเกลียดพิลึก นี่เขาต้องนั่งรถขบวนนี้ลอดอุโมงค์ไปโผล่ฝรั่งเศสหรือนี่
    “เอ่อ ” ล็อกฮาร์ตพยายามพูดอะไรสักอย่างขณะที่เขากำลังวิ่งตามเบอร์มงต์ซึ่งกำลังลากเขาอยู่ “เราใช้กุญแจนำทางไปฝรั่งเศสไม่ได้เหรอ”
    “ไม่ได้ค่ะ” เบอร์มงต์ตอบหนักแน่น “ที่ฝรั่งเศสไม่มีกุญแจนำทาง”
    “ทำไมล่ะ”
    “คนฝรั่งเศสไม่ชอบกุญแจนำทาง” เบอร์มงต์ตอบในขณะที่ผลักล็อกฮาร์ตขึ้นไปบนรถไฟ “พวกเขาว่ามันเป็นวิธีการเดินทางที่ไร้รสนิยม พวกเขาเกลียดมัน”
    “แปลกคนนะ” ล็อกฮาร์ตพูดหลังจากที่ในที่สุดเขาก็หาที่นั่งได้ “แต่ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะมันไร้รสนิยมหรอกนะ ก็ผมไม่รู้รสนิยมอะไรเลยนี่ แต่ผมจะอ้วกซะให้ได้ตอนที่หลุดออกมาจากกุญแจนำทางน่ะ”
    “เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ” เบอร์มงต์บอก “แรก ๆ ใคร ๆ ก็เป็นอย่างนั้นแหละค่ะ ต้องใช้เวลาทำความเคยชินนานเหมือนกัน”
    “นั่นสินะ ” ล็อกฮาร์ตพูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง “ ต้องใช้เวลา ”
    รถด่วนฝรั่งเศสสีสันสดใสบาดใจบาดตาส่งเสียงหวูดดังคำรามมาจากหน้าขบวนรถ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บอกล็อกฮาร์ตว่าเขากำลังจะออกไปพบกับโลกกว้าง ชานชาลาที่สามเศษหนึ่งส่วนสี่และสถานีรถไฟคิงส์ครอสเริ่มเคลื่อนห่างเขาออกไป นั่นก็รวมถึงบ้านของเขา คนรับใช้ของเขา และทุกสิ่งทุกอย่างที่มีไม่กี่อย่างของเขากำลังห่างออกไป เขาหันหน้ามามองยังทิศทางที่กำลังมุ่งไป มันมีแต่ต้นไม้ใหญ่น้อยเต็มไปหมด เหมือนกับว่ามันสลัดเอาคราบของเมืองทิ้งไว้เบื้องหลัง เบื้องหน้าของเขาในตอนนี้ไม่มีบ้านคนแม้แต่หลังเดียวทั้ง ๆ ที่รถไฟเพิ่งออกจากสถานีได้ไม่ถึงสิบนาที
    ล็อกฮาร์ตยิ้ม ความรู้สึกแบบนี้เป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งเท่าที่เขานึกออก นี่ก็อีกแล้ว เขารู้สึกคุ้นเคยกับกระแสลมที่ตีหน้าเขาอย่างอ่อนโยนนี้มาก มากกว่าสถานีรถไฟเสียอีก ชีวิตของเขาต้องได้เดินทางบ่อย ๆ แน่ เขาชอบแฮะ
    “น่าอิจฉาคุณจัง”
    ล็อกฮาร์ตมองไปทางต้นเสียง ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเบอร์มงต์ “ทำไมเหรอ” เขาถาม
    “คุณดูเหมือนกับเด็ก ๆ ที่ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นครั้งแรก” เธอตอบ “นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หาเลยนะคะล็อกฮาร์ต ความแปลกใหม่”
    “ที่จริงผมคงเคยเห็นวิวนี้มาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว” ล็อกฮาร์ตหันศีรษะกลับเข้ามาในรถ “และผมก็คงเคยนั่งรถไฟแบบนี้มาไม่รู้กี่ครั้งแล้วเหมือนกัน แต่มันเป็นเพราะว่าผมจำอะไรไม่ได้เลย มันจึงเหมือนกับว่าผมไม่เคยเห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มาก่อน เหมือนกับว่าผมไม่เคยพบเรื่องราวแบบนี้มาก่อน ก็ถูกของคุณนะ ผมคงเหมือนกับเด็ก ๆ ที่ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นครั้งแรก”
    เบอร์มงต์ยิ้ม “คุณนี่ไม่เหมือนที่ฉันคิดไว้เลย”
    “ทำไมเหรอ” ล็อกฮาร์ตถาม
    “ตอนแรก ฉันนึกว่าคุณจะเป็นคนหยิ่ง” เธอตอบ “ทะนงตน หลงตัวเอง หรืออะไรทำนองนั้น แต่คุณไม่ใช่แบบนั้นเลย”
    “เมื่อก่อนผมอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้” ล็อกฮาร์ตพูด
    เงียบไปชั่วขณะ เป็นเวลาหลายนาทีที่รอบตัวพวกเขาสองคนมีแต่เสียงฉึกฉักของรถไฟ
    “ดูคุณใจเย็นจัง” ล็อกฮาร์ตสงสัย “พี่สาวของคุณอยู่ไหนก็ไม่รู้ไม่ใช่เหรอ”
    “ใช่ค่ะ” เบอร์มงต์ตอบ “แต่ฉันสบายใจขึ้นเยอะแล้ว เพราะพี่บอกฉันว่าเขาจะไม่มีอันตรายแน่นอน ถึงจะยากลำบากสักหน่อย พี่ฉันเป็นคนทรหด”
    “คุณรู้ได้ยังไง”
    “นี่ไงคะ” เบอร์มงต์หยิบเศษกระดาษสีเหลืองที่ดูเหมือนว่าจะฉีกออกมาจากอะไรสักอย่างหนึ่ง ในนั้นเขียนไว้ว่า
    วิคตอเรียน้องรัก
    พี่สบายดี ถึงจะไ ป ไก ล บ้านสักหน่ อ ยแต่เธอก็ไม่ต้องเป็นห่วงพี่ ด อกนะ ภัย อันตรายรอบตัวพี่ไม่มีเลย พี่ แ ข็งแรงดี พี่คงจะอยู่ ต่ อที่นี่อีกระยะหนึ่ง ใ คร ๆ ก็ได้มาต้องอยากอยู่ที่นี่กันทั้งนั้นแหละ สัก ห้ าเดือนพี่ก็คงจะกลับบ้าน มา หาเธอแล้ว ช่ างพี่เธอนะ ดูแลส ว นให้ดีด้ว ย ล่ะ
    “ผมไม่เห็นอะไรเลย” ล็อกฮาร์ตทำท่างง “คุณเคยบอกผมแล้วว่าจดหมายนี้เขียนด้วยลายมือสั่น ๆ เหมือนถูกบังคับให้เขียน”
    “ใช่ มันเป็นจดหมายที่ถูกบังคับให้เขียน” เบอร์มงต์ตอบ “แต่คุณดูนี่สิ จดหมายพวกนี้บางจุดก็เขียนแปลก ๆ ใช่มั้ยล่ะ ลองดูตรง ‘ไปไกลบ้าน’ นี่สิ มันไม่ปะติดปะต่อกันเลยเห็นไหม”
    “ใช่ผมเห็น แต่มันก็น่าจะเป็นแค่การเขียนแล้วมือสั่นไม่ใช่เหรอ”
    “ไม่ ไม่ใช่มือสั่นหรอก มันเป็นสารที่พี่ฉันต้องการบอกต่างหาก มันเป็นสารซ่อนสารอีกที คุณดูให้ดี จดหมายพวกนี้มีช่องไฟแปลก ๆ เห็นไหม นั่นเป็นรหัสง่าย ๆ มองทีเดียวก็น่าจะรู้ การแยกคำ ล็อกฮาร์ต มันเป็นการแยกคำ ตัวอักษรหนึ่งหรือสองตัวจะถูกเขียนแยกออกมาจากคำ แล้วที่เราต้องทำก็แค่เอาตัวอักษรพวกนั้นมาวางไว้ด้วยกัน
    “ทีนี้คำที่เราเห็นก็คือ ป,ล,อ,ด,พี่,แ,ต่,ใ,ห้,ช่,ว,ย เรารวมมันก็ได้ว่า ‘ปลอดพี่แต่ให้ช่วย’ ซึ่งได้ความ แต่ไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก ทีนี้เราก็ต้องดูคำสองตัวอักษรที่ถูกเขียนแยกไว้ ซึ่งก็มี ไก,ภัย,คร,สัก,มา แล้วก็ ล่ะ ถ้าเราจะเรียงมันทั้งหมดตามลำดับ มันก็จะกลายเป็น ‘ปไกลอดภัยพี่แต่ใครสักห้มาช่วยล่ะ’ ซึ่งไม่ได้ความเลย แต่ถ้าเราลองดูดี ๆ แล้วลองหาคำที่น่าจะตัดออก คำแรกที่ควรตัดออกเลยคือ ‘ไก’ เพราะอะไร เพราะว่าคำที่ถูกแยกไว้ถัดจากคำว่า ‘ไก’ นี้คือ ‘ล’ ซึ่งถ้าพี่ฉันจะเอาสองคำนี้จริงก็ควรเขียนแยกออกมาว่า ‘ไกล’ ไปเลย นั่นแสดงว่าไม่ ‘ไก’ ก็ ‘ล’ นี่แหละที่ต้องตัดออก แต่ว่าถ้าจะเอาคำว่า ‘ไก’ คำที่อยู่รอบข้างก็ควรจะเป็น ‘ถึงจะไป ไก ลบ้าน’ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น ตรงนี้เราคิดอีกสักนิดเดียวเท่านั้นก็จะระบุได้ว่า ‘ไก’ ไม่ใช่คำที่ต้องการส่ง และคำว่า ‘พี่’ ตรงนี้ก็ไม่ใช่อีกด้วยเหตุผลเดียวกัน หรืออีกอย่าง พี่ก็น่าจะรู้ว่าฉันต้องรู้ว่าพี่เป็นคนเขียน ไม่จำเป็นต้องระบุอีก คำว่า ‘สัก’ นี่ก็ด้วย เหตุผลเดียวกัน และคำว่า ‘ล่ะ’ ก็ด้วยเหตุผลเดียวกันอีก ทีนี้พอเราตัดคำว่า ไก,พี่,สัก แล้วก็ล่ะ พวกนี้ออกไปก็จะเหลือคำว่า ‘ปลอดภัยแต่ให้มาช่วย’ ซึ่งสมบูรณ์แล้ว”
    ล็อกฮาร์ตที่นั่งฟังพลางมองดูเบอร์มงต์ชี้ตรงโน้นชี้ตรงนี้บนกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ใบนั้นได้พักหนึ่งแล้วก็เข้าใจได้ไม่ยากในทันทีเลย
    “คุณน่าไปเป็นนักสืบนะ” เขาบอก
    “ขอบคุณ ทีนี้ พี่บอกฉันว่า ‘ปลอดภัย’ แสดงว่าพี่ไม่อยู่ในอันตรายร้ายแรง แต่ ‘ให้ช่วย’ แสดงว่า พี่ก็อยากออกไปเหมือนกัน ตรงนี้เราทำตามที่เราทำได้ก็พอ คือออกตามข่าวไปเรื่อย ๆ แล้วก็ช่วยพี่ของฉัน”
    “คุณนี่เก่งจริง ๆ” ล็อกฮาร์ตบอก “ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นผู้นำทัวร์นี้ไปแล้วนะเนี่ย”
    “ไม่หรอกค่ะ” เบอร์มงต์ตอบ
    เป็นเวลาอีกนานที่ไม่มีเสียงพูดหลุดออกมาจากปากของทั้งสอง ล็อกฮาร์ตนั่งมองวิวนอกหน้าต่าง ส่วนเบอร์มงต์ก็อ่านหนังสือ ‘สุดชีวิตกับเลธิโฟลด์’ ของล็อกฮาร์ตไปเรื่อย ๆ
    ดูเหมือนล็อกฮาร์ตจะไม่รู้ตัวเลยว่าเบอร์มงต์คอยแอบมองดูเขาเป็นระยะ ๆ ระหว่างที่เขากำลังใจลอยกับวิวรอบข้าง แต่พอเขารู้สึกตัวและมองมาทางเธอ เธอก็ก้มลงอ่านหนังสือต่อ เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง
    “ล็อกฮาร์ตคะ ” เบอร์มงต์ถามออกมาในการก้มลงอ่านหนังสือหลังจากถูกจับได้เป็นครั้งที่ยี่สิบสี่ “ขอฉันเรียกคุณว่า กิลเดอรอย ได้หรือเปล่าคะ”
    “เรียกชื่อผมเลยเหรอ” ล็อกฮาร์ตถาม “ก็เอาสิ ผมไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่แล้ว ถ้างั้น ผมก็ขอเรียกคุณว่าวิคตอเรียด้วยแล้วกัน”
    “ค่ะ กิลเดอรอย”
    “ไม่เป็นไรครับ วิคตอเรีย”
    ความเงียบดำเนินไปอีกครั้ง และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะรถด่วนฝรั่งเศสจะเข้าเทียบชานชาลาที่สถานีวิซซารองในอีกสิบสองนาทีนี้แล้ว
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
ปล. รู้สึกกันไหมครับว่าเรื่องในตอนนี้บางช่วงบางตอนมันขัดๆ สามัญสำนึกพิกล - -\'\' ต้องขออภัยด้วยนะครับ คือว่า ... ผมหาทางออกให้เรื่องดำเนินไปไม่ได้น่ะ ถ้าใครมีวิธีที่ดีกว่านี้แนะนำกันเข้ามาก็ดีนะครับ >/l\\<
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น