ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุภาพบุรุษเสี่ยงรัก [นิยายชุดสุภาพบุรุษลวงรัก]

    ลำดับตอนที่ #7 : Venture Love 🌺 03 Words I Never Said ...100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 18.75K
      115
      19 ธ.ค. 64

    Image from momo

    3

    Words I Never Said

    (...100%)

     

    สองปีผ่านไป

             เวลาผ่านไป เดวิโกก็บินไปมาระหว่างเมืองไทยกับแคนาดาเป็นว่าเล่น และเมื่อมาถึงเมืองไทยทีไรดารกาก็เอ่ยถึงแต่กุลฉัตรคนเดียว เมื่อทนการรบเร้าของลูกสาวไม่ไหวก็ตัดสินใจให้คนไปสืบหาว่าหญิงสาวอยู่ที่ไหนและเชิญมางานเลี้ยงของบริษัทที่จัดขึ้น ซึ่งเธอก็ยังทำงานในเครือโดโนแวนดังนั้นจึงหาตัวได้ไม่ยาก

             ดารกาดีใจมากที่เจอพี่สาวและตามติดกุลฉัตรแจตลอดเวลาที่ร่วมงานเลี้ยง

           กุลฉัตรก็ยังคิดไม่ถึงว่าแม่หนูน้อยจะยังจำและคิดถึงตัวเองได้ ทั้งที่เวลาผ่านมาเป็นปีแล้วแท้ ๆ เธอช่วยดูแลคุณหนูตัวน้อยที่ทั้งสูงขึ้นและตัวหนักขึ้นมาก ระหว่างที่เดวิโกคุยงานกับแขกที่มาร่วมงาน

             กระทั่งแม่หญิงสาวเรืองเริ่มอ้าปากหาวดังนั้นกุลฉัตรจึงพาตัวไปนอน ซึ่งห้องพักก็อยู่บนโรงแรมที่จัดงานเลี้ยงอยู่นั่นเอง เธอจัดการห่มผ้าให้สาวน้อยและเดินออกมาเจอกับเดวิโกที่เดิมโซเซตามการประคองของการ์ดพอดี

             “เป็นอะไรไปคะเนี่ย” กุลฉัตรเข้าไปช่วยประคองเมื่อเห็นว่าเดวิโกแทบไม่ได้สติ กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยฟุ้งจนแสบจมูก

             “เจ้านายเมาครับ ไม่ทราบว่าเมาได้ยังไง เลยพามานอน” เฟร็ดพูด รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเพราะความจริงแล้วเดวิโกไม่ใช่คนที่จะเมาง่าย ๆ เรียกได้ว่าคอทองแดงเลยก็ว่าได้

             “อย่าให้นอนกับดาวเรืองนะคะ ทั้งตัวมีแต่กลิ่นเหล้าแบบนี้ไม่ดีแน่ค่ะ”

             “นั่นสิครับ เอ่อ คุณฉัตรช่วยดูคุณเดฟหน่อยนะครับ ช่วยหาน้ำให้ดื่มแล้วก็หาผ้ามาเช็ดหน้าให้คุณเดฟที ผมจะไปดูแขกด้านล่างครับ” เฟร็ดเอ่ยขอเพราะคุ้นเคยกับหญิงสาวอย่างดี

             “ได้ค่ะ คุณรีบลงไปเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะดูคุณเดฟให้” กุลฉัตรยิ้ม เดินตามการ์ดที่ช่วยประคองเดวิโกไปยังห้องพักใกล้ ๆ กับห้องของดารกา

             เพราะที่นี่เป็นกิจการของโดโนแวนเลยสามารถใช้ห้องไหนก็ได้ อีกทั้งชั้นบนสุดยังถูกกันเป็นที่พักของคนในครอบครัวเลยสะดวกสบายไม่ต้องไปขอกุญแจจากทางโรงแรม ร่างบางก็เดินตามไปแล้วก็หาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาเพื่อบรรเทาอาการเมาของเดวิโก

             ระหว่างนั้นการ์ดก็แยกย้ายไปดูแลความเรียบร้อยข้างนอก ส่วนหนึ่งไปเฝ้าห้องพักของดารกาเพราะคุณหนูตัวน้อยอยู่คนเดียว

             “งั้นคืนนี้นอนกับดาวเรืองดีกว่า คุณเดฟเมาซะขนาดนี้” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเมื่อเดวิโกครางอืออาราวกับไม่ยอมให้แตะต้องตัว

             เพราะปกติแล้ว เดวิโกจะนอนกับลูกสาวเสมอ แต่เหม็นกลิ่นเหล้าแบบนี้คงไม่ดีต่อเด็กน้อยแน่ เธอจึงตัดสินใจว่าจะไปนอนเป็นเพื่อนแม่หญิงดาวเรืองแทน

             เธอไม่สนใจคนเมาเพราะรู้จักสินัยเขาดี ช่วยเช็ดหน้าจนชายหนุ่มรู้สึกตัว

             “เธอ” เสียงหนักครางป้อแป้ ซึ่งกุลฉัตรก็ส่ายหน้าอย่างระอา อายุมากขนาดนี้ยังเมาปลิ้นได้ เหลือเชื่อจริง ๆ

             “คุณนอนพักนะคะ ฉันจะไปดูดาวเรืองก่อนค่ะ” กุลฉัตรบอกกับเดวิโกเมื่อเห็นว่าเขารู้สึกตัวแล้ว

             ชายหนุ่มขยับตัวส่ายหน้าไปมาน้อย ๆ ลมหายใจเริ่มถี่ขึ้น ก่อนจะปรือตาขึ้นมอง

             ท่าทางแบบนั้นกุลฉัตรก็เข้าใจว่าเขาคงรู้สึกตัว อาจจะอยากดื่มน้ำหรือเข้าห้องน้ำ

             ทว่าไม่ใช่อย่างที่คิด เดวิโกกำลังร้อนไปทั้งตัว และเกิดความต้องการอย่างรุนแรง

             จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นใคร เขากุมข้อมือเล็กไว้แน่นและกระชากเข้าหาจนกุลฉัตรตกใจตัวโยน

             “ร้อน ฉันต้องการเธอ กระซิบเสียงแหบพร่า รู้ได้ทันทีว่าตัวเองถูกวางยาปลุกอารมณ์เข้าแล้ว

             “เดี๋ยว คุณเดฟ!” กุลฉัตรตกใจจนตัวโยน เพราะจู่ ๆ เขาก็พูดอะไรไม่รู้ หน้าหวานร้อนไปหมด ใจเต้นรัวด้วยความกลัวและตกใจ

             “นี่ฉัตรนะคะ กุลฉัตร คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ”

             คิดว่าเขาอาจจะนัดผู้หญิงมาค้างคืนด้วย จึงเดาว่าเดวิโกเมาและคงสับสน

             “คุณเดฟ นี่ฉัตรนะคะ” หัวใจของกุลฉัตรสั่นไหว พยายามร้องบอกแต่ดูเหมือนว่าเดวิโกจะไม่ฟังอะไรเลย

             “คุณเดฟ!” ร่างบางเซเข้าหาคนเมาเมื่อสู้แรงเขาไม่ไหว หัวใจแทบหยุดเต้นได้กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ปะปนกับกลิ่นน้ำหอมราคาแพงระยับ ราวกับว่าทั้งห้องบรรยากาศเปลี่ยนไปในพริบตาเดียว

             มันร้อน เซ็กซี่ และอันตรายมาก

             “นี่ฉัตรนะคะ!” กุลฉัตรพยายามตะโกนบอก ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่มีสติเลย

             ทั้งที่ดูสร่างจากอาการเมามากแล้ว แต่นัยน์ตายังเลื่อนลอยดูเหมือนไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลย แถมเรี่ยวแรงก็ยังมีเยอะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนอีกด้วย

             “ฉัตรเองนะคะ กุลฉัตรยังไงละคะ”

             “กุลฉัตร” เดวิโกสะบัดหน้าไล่ความมึนงงออกไป มีภาพวูบเข้ามาในความทรงจำเกี่ยวกับผู้หญิงตัวเล็กหน้าหวานคนหนึ่ง

             “ใช่ ฉันเองค่ะ คุณเข้าใจผิดแล้วนะคะ กรุณาปล่อยฉันเถอะค่ะ” กุลฉัตรบอกเสียงพร่าเพราะความหวั่นใจ บิดข้อมือออกจากเกาะกุมของเขา แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกินเพราะคนเมาดูยังมึนงงและไม่เข้าใจสถานการณ์อยู่ดี

             “ฉัตร” เสียงหนักครางและสบตากับคนตัวเล็กในที่สุด

             เจ้าของชื่อเป่าปากออกมาอย่างโล่งอก เพราะคิดว่าเขาคงจำตัวเองได้แล้ว แต่วินาทีต่อมาก็ใจหายถูกรั้งให้นอนหงายใต้ร่างของเขาแทน

             “คุณเดฟ!

     

     

             กุลฉัตรพยายามดิ้นรนสุดกำลังแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของเขาไหว ยิ่งโดยเฉพาะตอนที่เดวิโกกำลังเมาและแทบประคองสติไม่ไหวเช่นนี้

             “ฉัตร” เสียงหนักของเดวิโกสั่นพร่า วอนขอบางอย่างจากเธอกระทั่งตัวเองก็ยังไม่รู้ตัว

             “คุณเดฟ อย่าทำแบบนี้นะคะ ฉันเองยังไงละคะ ฉัตรนะคะ” กุลฉัตรพยายามพูดให้เขาได้สติ แต่ดูเหมือนว่าเดวิโกจะไม่ฟังอะไรเลย เริ่มคุกคามมากขึ้นด้วยการกระชากร่างบางเข้ามาหาตัว ซุกหน้าลงกับซอกคอขาวผ่องจนสาวเจ้าหวีดร้องด้วยความตกใจ

             “คุณเดฟ! อย่านะคะ คุณเดฟ นี่ฉัตรนะคะ” หญิงสาวร้องไห้ด้วยความตกใจ จำได้ว่าเมื่อสองปีก่อนก็ถูกล่วงเกินแบบนี้ด้วยการหลอกลวงของปยุต อดีตเพื่อนชายที่พาเธอไปขายให้กับเจ้ามือแทงบอล

             ตอนนั้นได้เดวิโกเข้ามาช่วยไว้ทัน แต่ไม่คาดฝันว่าวันนี้จะได้เจอกับเรื่องนั้นอีกครั้ง และกลายเป็นว่าพระเอกที่ขี่ม้าขาวมาช่วยกลายเป็นคนที่กำลังรังแกตัวเองในตอนนี้

             “คุณเดฟ” หน้าหวานเบี่ยงหนี ร้อนฉ่าไปทั้งตัวเมื่อเรียวปากร้อนชื้นเม้มจูบที่ซอกคออย่างรุนแรง เธอทั้งเจ็บทั้งรู้สึกแปลก ๆ โดยไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร

             “คุณเดฟ กรุณาฉันเถอะค่ะ” กุลฉัตรร้องไห้อย่างน่าสงสาร ยกมือปัดป้องตั้งใจจะหนีแต่ก็สู้แรงเขาไม่ไหว

             เธอพยายามร้องเรียกให้การ์ดเข้ามาช่วย เพราะรู้ดีว่าทุกคนต้องช่วยแน่นอน แต่โชคร้ายนักที่ห้องเก็บเสียงจึงไม่มีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือเลยแม้แต่คนเดียว

             “ฉัตร” เสียงของเดวิโกแหบพร่า เวลานี้เขาต้องการปลดปล่อยอารมณ์ดิบเถื่อนที่ก่อตัวขึ้นอย่างน่ากลัวในกายออกไปให้หมด ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน คิดว่าคงเป็นเพราะไม่ได้เที่ยวที่ไหนเป็นเวลานานถึงได้เกิดปฏิกิริยารุนแรงแบบนี้ รู้ว่าฤทธิ์ยากระตุ้นอารมณ์อย่างเดียวไม่ได้ทำให้ร้อนมากขนาดนี้ แต่เพราะเนื้อตัวนุ่มนิ่มของคนใต้ร่างเป็นแน่ ที่คอยกระตุ้นเลือดในกายให้ร้อนฉ่าจนทนไม่ไหวเอาแบบนี้

             “คุณเดฟ ตั้งสติหน่อยสิคะ ฉันเองนะคะ” หน้าหวานพยายามเบี่ยงหนีให้หลบปลายจมูกและเรียวปากร้อน ๆ ของเดวิโกตลอดเวลา ชาไปทั้งร่างเมื่อมือหนาลูบไล้เนื้อตัวของเธออย่างกระหาย ตกใจจนพูดไม่ออก และเป็นเหตุให้ถูกฉวยจูบไปอย่างอุกอาจ

             “อื้อ อึก!” กุลฉัตรครางอึกอักในคอ พยายามยันอกกว้างด้วยเรี่ยวแรงน้อยนิดของตัวเอง และถูกดึงทึ้งชุดสวยออกจากร่างในวินาทีต่อมา

             มือน้อยพยายามรั้งเสื้อผ้าเอาไว้แต่ก็ต้านแรงเขาไม่ไหว พริบตาเดียวก็ถูกลอกคราบอย่างง่ายดาย ทั้งกลัวทั้งตกใจทำได้แค่ร้องไห้ไม่สามารถหนีไปไหนได้ เพราะร่างสูงนั่งคร่อมเอวเล็กเอาไว้ กักไม่ให้ลุกไปไหนและถอดเสื้อออกจากตัวด้วยความร้อนใจ

             กุลฉัตรพยายามตะกายตัวออกมาจากใต้ร่างสูงใหญ่ของเดวิโก สัมผัสได้ถึงความแข็งขืนร้อนผ่าวของชายหนุ่ม อายจนแทบจะเป็นลม ควานมือไปทั่วแต่ยึดได้แค่ผ้าปูที่นอนและหมอนใบใหญ่เท่านั้น ซึ่งไม่ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย

             “ฉัตร” ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตนด้วยความกระหาย

             สำนึกด้านดีบอกว่ากุลฉัตรไม่สมควรจะถูกกระทำแบบนี้ แต่ด้านมืดที่ถูกครอบงำด้วยยากระตุ้นไม่สามารถปล่อยร่างเล็กให้หลุดมือไปได้

             “ฉัตร” มือหนากร้านลูบไล้ผิวกายนุ่มลื่นมือของคนตัวเล็ก ออกแรงเค้นคลึงโดยที่ไม่สามารถห้ามปรามอารมณ์ได้ เป็นผลให้กุลฉัตรร้องไห้ทั้งกลัวทั้งหวามหวิวในอก

             “คุณเดฟ อย่านะคะ ขอร้องเถอะค่ะ” กุลฉัตรพยายามปัดป้อง แต่ถูกรวบมือทั้งสองข้างให้ตรึงไว้ที่เหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียวของเดวิโก

             หน้าคมคร้ามซุกลงมาจนหญิงสาวหลับตาแน่นพาให้น้ำตาหยุดไหลไปด้วย

             “ดิ้นให้แรงกว่านี้ ต้องแรงกว่านี้ถึงจะหนีพ้น” เดวิโกบอกเสียงพร่า เวลานี้ต้องการเธอมากกว่าออกซิเจนที่มีไว้ใช้หายใจซะอีก ร่างกายปริร้าวเหมือนจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ รู้อย่างเดียวว่าต้องการครอบครองเธอให้ได้ก่อนที่ตัวเองจะขาดใจตาย

             “ไม่ ปล่อยฉันเถอะนะคะ ขอร้อง” เสียงหวานแหบพร่าไม่ต่างกัน และถูกจูบปิดปากในเวลาต่อมา

             สมองของกุลฉัตรเหมือนตายดับเมื่อถูกหยอกเย้าด้วยลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาในโพรงปาก เขาจูบเหมือนจะสูบวิญญาณของเธอให้ออกจากร่าง ตระโบมลูบไล้ปลุกเร้าอารมณ์บางอย่างที่ถูกกดทับเอาไว้ลึกสุดลุกในใจออกมาได้ราวกับมีเวทมนตร์ คนตัวเล็กสั่นระริกเหมือนลูกนกตกน้ำ เธอหมดแรงเมื่อถูกจูบและเค้นเอาสติสัมปชัญญะไปจนหมดสิ้น

             เดวิโกหยัดกายขึ้น ถอดเสื้อผ้าที่ยังเหลือบนตัวออกอย่างรีบเร่ง ดวงตาหวานซึ้งที่ฉ่ำไปด้วยความปรารถนามองตาม ก่อนจะเบือนหน้าหนีทันทีที่ได้เห็นเรือนกายกำยำสุดเซ็กซี่ของชายหนุ่มเข้า หัวของเธอขาวโพลนนึกคิดอะไรไม่ออก ร่างกายก็ร้อนฉ่าเกร็งทั่วร่างจนเจ็บตึงทุกพื้นที่ตารางผิว

           รู้สึกหนาวสั่นแค่ชั่วครู่เมื่อเขาผละออก แต่เมื่อชายหนุ่มโน้มกายเข้าหา ความเย็นชืดเหล่านั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความร้อนเจียนจะขาดใจตาย

             ปลายนิ้วของเดวิโกลูบไล้ไปทั่ว สติส่วนดีบอกว่ากุลฉัตรยังใหม่กับเรื่องนี้อยู่ ไม่แน่ใจว่าเธอผ่านใครมาบ้างแต่พอรู้ว่าตอนนี้เธอไร้เดียงสามากเหลือเกิน และคงกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้มากเช่นเดียวกัน

             “อย่าเกร็ง มีความสุขกับมัน แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” เสียงทุ้มต่ำของเดวิโกกระซิบบอก นำพาความหวามไหวสาดซัดเข้าหาร่างบางจนชายิบ

             กุลฉัตรร้องไห้ด้วยความสับสน ทว่าหยัดกายให้เขาได้สัมผัสตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ได้ ร่างกายของเธอมันยินดีที่เขาลูบไล้ประทับความเป็นเจ้าของอย่างหน้าไม่อาย

             “คุณเดฟ” เสียงหวานที่แหบพร่าของกุลฉัตร เหมือนสะบั้นเชือกฟางเส้นบางเฉียบที่ยื้อความรู้สึกทั้งหมดของเดวิโกเอาไว้

             หน้าคมคร้ามซุกซบลงกับซอกคอขาวผ่อง ประกาศความเป็นเจ้าของด้วยการทิ้งรอยจูบแดงจ้ำสีกุหลาบเอาไว้หลายจุด และปลุกเร้าไล่บี้เค้นเอาอารมณ์ของหญิงสาวให้กระจัดกระจาย เขาเสียใจที่ต้องทำแบบนี้ แต่ก็สงสารตัวเองหากว่าต้องทนทรมานต่อไป

             เมื่อคิดว่าคนตัวเล็กพรักพร้อมแล้วก็จูบหล่อนอีกครั้งอย่างยาวนาน ทั้งวอนขอและขออภัยจากใจจริง

             “ฉัตร ขอนะ

             หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาขออะไร แล้วก็หลุดออกจากความหวิวหวาน เมื่อความแข็งขืนแทรกผ่านส่วนอ่อนนุ่มอ่อนหวานที่สุดในความเป็นหญิงของเธอ

             หน้าหวานบิดเบ้เพราะความเจ็บปวด น้ำตาไหลรินกัดปากกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ เดวิโกเองก็สะดุ้งทั้งตัวรู้ว่าคนตัวเล็กยังไม่เคยผ่านใครมาทั้งนั้น จูบปลอบประโลมจนกระทั่งร่างบางหายจากความเจ็บเกร็ง นาทีนี้กุลฉัตรเลยได้รู้ว่าความสัมพันธ์ชายหญิงที่แท้จริงเป็นอย่างไร

             ร่างบางหอบหายใจอย่างทรมานใต้ร่างสูงใหญ่ที่ใช้ท่อนแขนแข็งแรงคร่อมหน้าของเธอเอาไว้ มือเล็กไม่รู้จะจับจะยึดอะไรเพื่อตั้งรับการโจมตีที่แสนเร่าร้อนของชายหนุ่ม สุดท้ายก็กอดแขนของเขาไว้แน่น เบี่ยงหน้าหนีสายตาร้อนแรงของเขาจนหน้าซุกลงกับฝ่ามือใหญ่นั่นแทน

             เดวิโกขยับกายเป็นจังหวะเนิบ ๆ มองหน้าหวานที่ร้องไห้ไม่หยุดทั้งพึงพอใจทั้งสงสารจับใจ ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครร้องไห้ให้เห็นตอนที่อยู่บนเตียง พวกหล่อนมักจะหลุดไปอยู่อีกโลกที่เหมือนเป็นสัตว์ป่า ได้เห็นคนตัวเล็กที่แทบจะแตกละเอียดใต้ร่างก็หายใจแทบไม่ทัน ความตื่นเต้นและสงสารอยากปกป้องแล่นมาจับหัวใจ ค่อย ๆ เคลื่อนกายเข้าหาอย่างนุ่มนวลเพื่อไม่ให้เธอเจ็บมากกว่าเดิม

             ฝ่ามือข้างหนึ่งลูบไล้หน้าหวานด้วยความลุ่มหลง แค่ฝ่ามือเดียวก็ปิดหน้าเล็กไว้มิด เธอตะแคงหน้าหนีทำให้มือของเขารองหน้าหวานบนผ้าปูที่นอน น้ำตาอุ่นจัดหลายสิบหยดไหลเรื่อยจากดวงตาคู่สวยหล่นกระทบปลายนิ้ว เดวิโกครางลึกในคอก่อนจะเร่งจังหวะรักให้เร่าร้อนมากกว่าเดิม

             “เดฟ

             ได้ยินชื่อตัวเองผ่านริมฝีปากบางเรื่อนั่นทำให้หัวใจของเดวิโกพองคับอก ยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะโน้มหน้าไปหา ประคองหน้าหวานให้เงยหน้าสบตาด้วย

           “พร้อมนะ ฉันจะเอาจริงแล้ว

     

     

             ดารกาตื่นขึ้นมาอย่างแปลกใจในเช้าวันใหม่ เพราะปกติแล้วคุณป๊าจะเป็นคนปลุกแต่เช้า พาไปอาบน้ำแปรงฟัน แต่วันนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องเลยสักคนเลยอดแปลกใจไม่ได้ ร่างเล็กเดินออกมาจากห้องนอนอย่างงัวเงียแล้วก็ถามกับลุงเฟร็ดที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ห้องพักรับรองด้านนอก

             “ลุงเฟร็ดขา ปาป๊าไปไหนแล้วค้า” แม่หนูน้อยเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ปกติเข้านอนกับบิดาตื่นพร้อมกันทุกเช้า พอไม่เจอก็แปลกใจ

             “ป๊าเดฟของคุณหนูยังไม่ตื่นครับ

             “ไปหาป๊ากันนะคะ” ดารกาเอ่ยชวน ทำหน้าอ้อนจนเฟร็ดไม่กล้าขัด จำต้องพาคุณหนูไปห้องนอนที่เดวิโกนอนพักอยู่ แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูเข้าไป คนที่อยู่ด้านในก็ผลักประตูออกมาซะก่อน

             และเป็นกุลฉัตรที่หน้าซีดเผือดเสื้อผ้าหน้าผมยับยุ่ง นัยน์ตาสั่นไหวเหมือนตกใจกับเรื่องอะไรบางอย่าง ก่อนจะวิ่งหนีจากไปอย่างรวดเร็ว

             เฟร็ดตกใจจนอ้าปากค้าง ในขณะที่ดารกาทำหน้าแปลกใจที่ได้เห็นพี่สาวเดินออกมาจากห้องของคุณป๊า อยากจะเรียกเอาไว้แต่ก็ไม่ทัน เมื่อแผ่นหลังของกุลฉัตรหายไปอย่างรวดเร็ว

             บอดี้การ์ดหนุ่มเอียงหน้ามองเข้าไปในห้องพักเจ้านาย เมื่อไม่พบอะไรผิดปกติจึงอุ้มคุณหนูเดินเข้าไปเงียบ ๆ ได้ยินเสียงหยดน้ำหล่นกระทบพื้นเลยเข้าใจว่าเดวิโกกำลังอาบน้ำอยู่

             พลันนั้นดารกาก็ส่งเสียงแหลมเล็กออกมา เมื่อเห็นผ้าปูที่นอนของคุณป๊าเปื้อนไปด้วยเลือด

             “ลุงเฟร็ดขา! ป๊าเป็นอะไรไปคะ เลือดเต็มเตียงเลยค่ะ

             เฟร็ดใจหายวูบ คิดอะไรไม่ออกเลยว่าควรจะทำอย่างไรต่อ และเป็นจังหวะเดียวกับที่เดวิโกออกมาจากห้องน้ำพอดี

             “ป๊าขา ป๊าไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมเลือดป๊าออกเต็มเตียงเลย” ดารกาพูดเสียงเครือ ทำให้เดวิโกหัวเราะแห้ง ๆ ยื่นมือไปรับตัวลูกสาวมาอุ้มด้วยตัวเอง และจ้องหน้าคนสนิทด้วยความหนักใจ

             “ป๊าเลือดกำเดาไหลน่ะค่ะ แล้วพี่ฉัตรไปไหนแล้ว” เดวิโกมองหาร่างบางไม่เจอ กังวลใจจนแสดงทุกอย่างทางสีหน้า

             “พี่ฉัตรไปแล้วค่ะ เมื่อคืนพี่ฉัตรนอนที่นี่เหรอคะ” คำถามที่ดูไร้เดียงสาของดารกาทำให้เดวิโกพูดไม่ออก

             เขาหนักใจซะจนปวดหัวรุนแรง กลัวว่าเรื่องจะเป็นเหมือนเรื่องของคริสเตียโนผู้เป็นพี่ชาย ที่มีลูกเมียโดยที่ทางบ้านไม่ทันได้ตั้งตัวมาก่อน

             “เฟร็ด ตามหาฉัตรซิ เธออยู่ไหน

             ขณะเดียวกันนั้นเอง กุลฉัตรก็กำลังเดินวนเวียนอยู่หน้าร้านขายยา ย้ำเตือนกับตัวเองว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ถูกต้องแล้ว ก่อนจะเดินเข้าไปและเอ่ยบอกกับเภสัชกรด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า

           “ขอยาคุมฉุกเฉินค่ะ

     

     

           กุลฉัตรนั่งมองยาในมือ มองแล้วมองอีกด้วยความชั่งใจว่าควรจะทำอย่างไรกับมันต่อไปดี หัวใจหนักอึ้งเหมือนมีหินก้อนใหญ่มาถ่วงเอาไว้ พยายามแล้วที่จะทำใจให้สบาย แต่หัวใจก็ยังไม่วายเต้นรัวแรงกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนไม่มีสมาธิจะทำอะไร

             วันนี้เป็นวันอาทิตย์ไม่ต้องไปทำงาน จึงโล่งใจได้ที่ไม่ต้องเจอใคร กลัวไปหมดทุกอย่างว่าจะมีคนอื่นรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น

             เรื่องที่เธอและเดวิโกมีอะไรกัน

             “บ้าจริง” หญิงสาวยกมือลูบหน้าตัวเอง ไม่เข้าใจว่าลังเลอะไรอยู่ ทั้งที่รู้ดีว่าหากปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานมากกว่านี้ คนที่จะเดือดร้อนก็คือตัวเอง

           เธอมองแผงยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินจากนั้นก็ตัดสินใจกลืนมันลงคอตามด้วยน้ำอีกอึกใหญ่ นั่งเหม่อซึมอยู่อึดใจหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ มองเห็นรอยจูบแดงจ้ำรวมถึงรอยนิ้วมือที่เดวิโกทิ้งเอาไว้ตามร่างกายจึงเม้มปากแน่น ราวกับว่าพวกมันมีชีวิต เพียงแค่มองมันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

             กุลฉัตรไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเองไร้เดียงสามากเกินไปหรือเปล่าถึงได้หวั่นไหวกับเดวิโกง่ายดาย รอยร้อนจากจุดแดงเหล่านั้นกระจายไปทั่วร่างราวกับเชื้อร้ายที่จำกัดออกจากร่างกายไม่ได้ ตัดใจไม่มองมันแล้วก็อาบน้ำอย่างอ่อนเพลีย คงเป็นเพราะเมื่อคืนชายหนุ่มรุนแรงมากเหลือเกิน

             แล้วจะคิดให้มันได้อะไรขึ้นมายัยฉัตร หญิงสาวบอกตัวเองในใจ หลับตาลงแล้วก็ถอนหายใจด้วยความอ่อนล้า ล้มตัวลงนอนบนเตียง แม้จะเหนื่อยจนแทบจะประคองสติเอาไว้ไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงข่มตาหลับไม่ได้เลย

             เมื่อปิดเปลือกตาลงก็เห็นใบหน้าของเดวิโกลอยซ้อนทับอยู่อย่างนั้นจนต้องพลิกตัวไปมาหลายตลบ

             “ให้ตายเถอะ” ครางเสียงแหบแห้งก่อนจะหลับตาลงเพราะไม่อยากจะคิดอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว

             เธอหลับไปนานด้วยความอ่อนเพลีย และได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากข้างนอก จึงพาตัวเองที่เลอะเลือนมึนงงเปิดประตูโดยลืมถามว่าใครมาเคาะประตู จนชะงักอยู่ตรงหน้าห้องเมื่อเห็นคนคนนั้นชัดเจน

             ดวงตากลมโตเบิกกว้างแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง เมื่อเห็นว่าเดวิโกอุ้มนางฟ้าตัวน้อยคนหนึ่งมาด้วย ความงดงามเหมือนภาพวาดของจิตกรเอกทำให้อึ้งงันแบบนั้นอยู่เป็นนาน

             “ฉัตร” เสียงทุ้มของชายหนุ่มฉุดให้คนตัวเล็กรู้สึกตัว หลังจากที่อ้าปากค้างเพราะความงดงามของเขาอยู่นาน

             กุลฉัตรได้สติ อาการขัดเขินตกประหม่าเลยเข้ามาเล่นงานในวินาทีต่อหน้า หน้าหวานซับสีเลือดเมื่อเห็นนัยน์ตาสีมรกตจ้องมองมาแน่วนิ่ง พาให้จุดแดงบนตัวร้อนวูบขึ้นมาจนน่ากลัว

             “ขอเข้าไปได้ไหม” เขาถาม และกุลฉัตรเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร

             เธอเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่าหากเขาตามมาแล้วจะทำอย่างไร คิดไว้คงไล่ไปพ้นหน้า แต่เอาเข้าจริงก็ทำแบบนั้นไม่ได้

             เพราะเดวิโกไม่มีสติ เขาเมา

             แต่เธอนั่นแหละที่ประมาทเลินเล่อไปช่วยดูแล ทั้งที่ไม่ใช่เด็ก ๆ ที่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วและคงย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก

             “เชิญค่ะ” หญิงสาวตอบ เสียงแหบพร่าและเจ็บร้าวไปทั้งลำคอ

             ดวงตาคมกริบของเดวิโกหรี่ลงเมื่อได้ยินเสียงของกุลฉัตร รู้ในทันทีว่าเธอเป็นไข้ หันไปรับของจากเฟร็ดที่เดินตามหลังมาและสั่งความสั้น ๆ

             “นายกลับไปเถอะ แล้วฉันจะโทรเรียกอีกที”

             “ครับ” เฟร็ดรับคำจากนั้นก็เดินออกไปเงียบ ๆ ปล่อยให้เจ้านายหิ้วข้าวของอุ้มตัวลูกสาวเดินเข้าห้องพักของกุลฉัตรไป

             “ไม่สบายเหรอฉัตร” เดวิโกถามเสียงแผ่ว รู้สึกตกใจเหมือนกันที่เห็นหน้าเธอซีดเผือดอีกแล้วหลังจากที่แดงเรื่อแวบหนึ่ง ริมฝีปากบางก็แห้งกรังคงมีไข้สูง เมื่อคืนคงรุนแรงมากไปหน่อยคนตัวเล็กเลยดูสะบักสะบอมขนาดนี้

             “พี่ฉัตรไม่สบายเหรอคะ” เป็นหนูน้อยดารกาที่เอ่ยถาม จากนั้นก็ยกมือน้อย ๆ วางทาบหน้าผากของพี่สาวกุลฉัตรคนสวย อีกข้างก็ทาบหน้าผากของตัวเอง

             “ปาป๊าขา พี่ฉัตรตัวร้อนค่า” เสียงเล็กหันไปบอกบิดาอย่างมั่นใจ ซึ่งเดวิโกก็พยักหน้าให้ลูกสาว ก่อนจะหันไปบอกกับคนตัวเล็กที่ยังตกใจขยับตัวไปไหนไม่ได้

             “นอนพักซะฉัตร”

             “แต่” กุลฉัตรท้วง ยังไม่รู้เลยว่าเขามาทำไม แค่ได้เห็นหน้าเขาความอึดอัดสั่นไหวก็พร้อมใจกันทำงานอย่างน่ากลัว

             “ไปนอนซะ ดาวเรืองน่ะวัดไข้ให้ใครไม่เคยผิดเลยนะ ไปนอนพักซะ

             “แต่” เถียงได้แค่คำเดียวกุลฉัตรก็ไม่กล้าจะพูดอะไรอีก

             เธอเดินเข้าไปในห้องพักเล็ก ๆ ของตัวเองที่เช่าอะพาร์ตเมนต์ซึ่งเป็นสวัสดิการของกิจการโดโนแวนที่ทำงานอยู่ในราคาที่ถูกมาก และตั้งใจว่าหากทำงานเก็บเงินได้มากกว่านี้ก็จะขยับขยายซื้อบ้านเป็นของตัวเอง

             อะพาร์ตเมนต์ขนาดไม่กว้างมาก มีมุมห้องครัว ห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ แยกออกไปเป็นห้องน้ำและห้องนอนซึ่งมีฉากกั้นเอาไว้ บรรยากาศในห้องดูเรียบง่ายเป็นระเบียบ ดูแล้วยังไงก็อยู่คนเดียวทำให้เดวิโกลอบระบายลมหายใจ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าข้อกำหนดของทางอะพาร์ตเมนต์ให้อยู่แค่คนเดียวเท่านั้น แต่ก็ยังหวั่น ๆ ว่าเธอจะมีคนรักแล้วหรือเปล่า

             แต่ก็ไม่แน่นะเดฟ ใครจะไปรู้ ฉัตรอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้ เดวิโกหนักใจเหลือเกิน เพราะเรื่องเมื่อคืนแท้ ๆ ที่ทำให้กุลฉัตรต้องอยู่ในสภาพแบบนี้

             เธอดูสับสนหวาดกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้เขาเลย ท่าทางอ่อนเพลียเปลี้ยไปหมดทั้งตัวแบบนี้ก็จำได้ว่าตัวเองซัดเข้าไปไม่ยั้งเหมือนกัน

             ก็ไม่ได้อยู่กับผู้หญิงมานานแล้วนี่ เดวิโกถอนหายใจ

             นับตั้งแต่ได้กลายมาเป็นพ่อของดาวเรือง ชีวิตที่เคยโลดโผนห้าวไปสามโลกบุกน้ำลุยไฟก็มีอันต้องยกเลิกไปโดยปริยาย ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ คนหนึ่งก้าวเข้ามาในชีวิตและทำให้รู้จักคำว่ารับผิดชอบและคำว่า พ่อชัดเจน ดังนั้นจึงลดละเลิกการเที่ยวทุกอย่างและกลายเป็นซามูไร เอ๊ย นักธุรกิจพ่อลูกอ่อนไปในบัดดล

             แต่ถึงอย่างนั้นความต้องการก็ยังมีมากเปี่ยมล้น เขายังต้องการผู้หญิงอยู่ดี เมื่อคืนก็มึน ๆ จำได้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาขอทำความรู้จักแล้วก็ขอชนแก้วด้วย แล้วเรื่องมันก็ยาวมาจนถึงตอนนี้

             โชคดีที่บอดี้การ์ดช่วยเขาก่อนที่จะถูกหลอกลวงขืนใจจากผู้หญิงที่ต้องการจะติดยี่ห้อโดโนแวนเท่านั้น เห็นแบบนี้เขาก็เลือกคนเหมือนกันนะ!

             แต่กลับกลายเป็นความโชคร้ายของกุลฉัตรที่ต้องมารับเคราะห์แทนเสียนี่

             เดวิโกเดินตามร่างบางที่นั่งบนเตียงและเอนตัวลงนอน เธอคงเพลียและง่วงมากเลยทำตามคำสั่งอย่างง่ายดาย เขาวางร่างเล็กของลูกสาวนั่งบนขอบเตียง จากนั้นก็ดึงผ้าห่มคลุมร่างเล็กของกุลฉัตรเอาไว้

             “ปาป๊าขา พี่ฉัตรเป็นหวัดเหรอคะ” ดารกาเอ่ยถามบิดา แล้วก็จ้องหน้าหวานของพี่สาวที่รักผูกพันมาหลายปีแล้ว

             “ค่ะ หนูอย่าเพิ่งใกล้พี่ฉัตรนะลูก เดี๋ยวติดหวัดตามไปด้วย” เดวิโกบอกลูกสาว แต่สายไป เพราะแม่ดอกดาวเรืองทิ้งตัวนอนเคียงข้างพี่ฉัตรเรียบร้อยแล้ว

             “ดาวเรืองง่วงค่ะ” แม่หนูตัวน้อยแสนเจ้าเล่ห์ รีบหลับตาแกล้งทำเป็นหลับไปในทันที

             “เฮ้อ ร้ายเหมือนคลาร์กเข้าไปทุกวัน ๆ”

             คนเป็นพ่อบ่นพึมพำ โดยที่ไม่คิดสักนิดว่าแม่ดอกดาวเรืองน่ะ เหมือนตัวเองมากกว่าใครทั้งนั้น

     

     

             เมื่อสองสาวหลับไปแล้วเดวิโกก็จัดการตั้งหม้อบนเตา ตั้งใจจะทำข้าวต้มอ่อน ๆ ให้คนป่วยทาน ระหว่างนี้ก็เก็บเสื้อผ้าของกุลฉัตรที่หล่นระพื้นลงในตะกร้าผ้า จำได้ว่ามันเป็นชุดที่คนตัวเล็กสวมเมื่อคืนและมีรอยฉีกขาดจนตะเข็บหลวมหลายจุด พาให้คิ้วเข้มขมวดชิดกันแน่น

             นี่เรารุนแรงกับฉัตรขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย ชายหนุ่มลอบระบายลมหายใจอย่างแผ่วเบา และหันไปเจอกับแผงยาสีเงินสองเม็ดบนโต๊ะอาหาร รู้ทันทีว่านั่นคือยาอะไร

             เพราะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญใช้ชีวิตกับการท่องราตรีมาตลอดหลายปี ทำให้ต้องป้องกันตัวเองอยู่เสมอ จึงรู้จักยาชนิดนี้ดี

             เขาหันไปมองฉากกั้นที่กั้นเตียงนอนของเธอเอาไว้ ไม่เห็นร่างบางแต่ก็กังวลไม่สบายใจ เพราะยาชนิดนี้มันรุนแรงและอาจทำให้สุขภาพของเธอทรุดลงได้

             “เฮ้อ” เดวิโกยกมือเสยผมที่ปรกหน้าตัวเองขึ้น ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า สงสารทั้งคนตัวเล็กและตัวเองจับใจ

             พยายามครุ่นคิดหาทางออกแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ตั้งใจว่าหากกุลฉัตรตื่นขึ้นแล้วจะขอคุยกับเธอให้ชัดเจนมากกว่านี้ คิดว่าคงหาทางออกดี ๆ สำหรับตนเองกับเธอได้

           ดังนั้นเมื่อกุลฉัตรตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองนอนกอดสาวน้อยดารกาบนเตียง และมีเดวิโกนั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ ๆ กันนั้น หัวใจพลันเต้นรัวแรง พยายามไม่คิดฟุ้งซ่านแต่ก็เอาแต่คิดว่าเขาตามมาเพื่อขอโทษ

             และถ้าไม่ได้หวังมากเกินไป เขาอาจจะรับผิดชอบกับการกระทำทุกอย่าง

             อีกทั้งตอนนี้เธอนอนกอดลูกสาวของเขาอยู่ด้วย มองดูผิวเผินแล้วเหมือนแม่ลูกกันจริง ๆ เพราะความไร้เดียงสาทำให้หลงเข้าใจไปฝ่ายเดียว จนกระทั่งได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเดวิโกดังนั้น จากที่ตั้งใจจะลุกขึ้นจึงนอนนิ่งเหมือนเดิม และมองดูสาวน้อยในอ้อมแขนที่หลับตาพริ้มเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย

             “ครับ” เดวิโกพูด

             “มีอะไรครีตา ไงนะ ไคลด์มาถึงแล้วเหรอ มาเร็วกว่าที่คิดเอาไว้นะ

             กุลฉัตรนอนนิ่งอยู่บนเตียง ได้ยินชื่อคำว่า ครีตา ซึ่งจำได้ว่าเป็นชื่อที่ดารกาเคยบอกเอาไว้ ว่านั่นคือมารดาของแม่ดอกดาวเรืองนั่นเอง

             “อ้อได้ เดี๋ยวผมไปรับลูกให้เอง ไคลด์มากับการ์ดใช่ไหม” พูดจบร่างสูงของเดวิโกก็ลุกขึ้นยืนและตรงเข้ามายังเตียงนอนที่กุลฉัตรนอนอยู่

             หญิงสาวหลับตาแน่นทำเป็นแกล้งหลับซุกหน้าลงกับหมอนเพื่อไม่ให้เขารู้ว่าความจริงแล้วไม่ได้หลับ และได้ยินทุกอย่างที่เขาพูด

             “โอเค ผมจะไปรับเอง ไม่ต้องห่วง”

             กุลฉัตรได้ยินเดวิโกพูดเต็มปากเต็มคำว่า ลูกหัวใจก็เบาโหวงหวิว ชื่อไคลด์ที่ได้ยินคงเป็นลูกชายของเขากับผู้หญิงที่ชื่อครีตาแน่นอน

             เพราะไม่รู้จะวางหน้ายังไง สุดท้ายกุลฉัตรก็เอาแต่หลับตาแน่นแสร้งทำเป็นหลับสนิทเหมือนเดิม รู้สึกได้ว่าเดวิโกชะโงกหน้ามามองพร้อมกับยกมือทาบหน้าผากของเธอแผ่วเบา

             ไม่ช้าเขาก็เดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ และได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ตามมาแว่ว ๆ กุลฉัตรไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอน้ำตาไหลตั้งแต่เมื่อไหร่ หัวใจก็ถูกบีบอัดอย่างรุนแรง กลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ด้วยกลัวว่าจะทำให้ดารกาสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วย เธอร้องไห้เหมือนไม่เคยร้อง ทั้งผิดหวังหวาดกลัวปะปนอัดแน่นเต็มอกข้างซ้าย

             ทำไมหนอ ทำไมเธอถึงได้โชคร้ายขนาดนี้ จะมีสักครั้งไหมในชีวิตที่จะไม่ต้องเจ็บปวดเสียน้ำตาเช่นนี้ ถามตัวเองและไม่มีใครให้คำตอบได้เลย

             “เฟร็ด นายอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้ใช่ไหม มารับฉันหน่อย ฉันจะไปสนามบิน ไคลด์มาแล้วน่ะ จะไปรับ”

             “ครับนาย” คนสนิทรับคำ

             ไม่ช้าร่างสูงของเดวิโกก็เดินออกจากห้องพักของกุลฉัตรอย่างเงียบเชียบ โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าหญิงสาวได้ยินทุกอย่างและเข้าใจผิดไปไกลแล้ว

             คนตัวเล็กนอนร้องไห้บนเตียงแบบนั้นเป็นนาน ไม่รู้เลยว่าชะตากรรมต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง

     

     

             เพราะไม่อยากเอาแต่นอนร้องไห้กุลฉัตรจึงลุกขึ้นจากเตียง อาการปวดหัวและเวียนหัวหายไปเกือบหมดแล้ว แต่ยังเนื้อตัวร้อนรุมอยู่ ข่มอาการครั่นเนื้อครั่นตัวของตนเองเอาไว้ เดินไปล้างหน้าล้างตาไม่อยากให้เดวิโกรู้ว่าเธอร้องไห้ ถึงมันจะปิดไม่มิดก็เถอะ เพราะหน้าของเธอแดงก่ำ ดวงตาก็บวมช้ำขนาดนี้ อีกเดี๋ยวชายหนุ่มคงมาถึงเพราะตัวดาวเรืองก็ยังอยู่ที่นี่

             ไม่นานนักเสียงดังกุกกักหน้าประตูก็ดังขึ้น ส่งผลให้ร่างบางขยับตัวออกจากห้องน้ำ รู้ดีว่าใครเป็นคนเข้ามาถ้าไม่ใช่เดวิโก เพราะเขาเป็นประธานใหญ่ของโดโนแวนสาขาที่เมืองไทย การจะเข้าออกที่นี่ได้จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือเรื่องแปลกอะไร

             เธอเดินไปเผชิญหน้ากับเดวิโกและรู้สึกอึดอัดใจจนแสดงออกทางสีหน้าชัดเจน

             เดวิโกอุ้มตัวเด็กชายคนหนึ่งมาด้วย น่าจะเป็นไคลด์ที่ได้ยินก่อนหน้านี้ เขาวางร่างเล็กของพ่อหนูน้อยบนเตียงของเธอที่มีดาวเรืองหลับสนิทอย่างถือวิสาสะ จากนั้นก็ขยับตัวเดินเข้ามาใกล้อีกนิด

             กุลฉัตรพลันกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว กระวนกระวายจนทั้งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ ราวกับเวลาตัดสินโทษทัณฑ์มาถึงแล้ว ทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย

             ไม่สิเธอผิดเต็มประตูที่ไม่ระวังตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าเดวิโกเมามายแทบไม่ได้สติ แต่ก็ยังพาตัวเองเข้าไปใกล้เขา

             “ฉัตร” เดวิโกเริ่มต้นพูดอย่างเชื่องช้าทว่าหนักแน่น นัยน์ตาของเขาก็เป็นประกายแบบที่ทำให้หัวใจของสาวน้อยเต้นแรงรัวได้ทุกครั้ง

             หญิงสาวบีบมือตัวเองไว้แน่น อยากขอให้เขารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่จะทำอย่างไรเล่า เขามีลูกแล้วสองคนรวมถึงภรรยาด้วย

             แล้วคนที่มาทีหลังอย่างเธอจะมีสิทธิ์อะไรกัน หนำซ้ำยังไม่เคยคบหาดูใจกันเลยด้วย แค่คนรู้จักและช่วยดูแลแม่ดอกดารกาเท่านั้น

             เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นเพราะเธอประมาทเอง รู้ทั้งรู้ว่าเดวิโกเมาอยู่ แต่ก็ยังพาตัวเองเข้าไปใกล้จนกลายเป็นเรื่องขึ้น

             ยิ่งคิดกุลฉัตรก็ยิ่งเวียนหัว รู้สึกเหมือนอยากจะอาเจียนขึ้นมาดื้อ ๆ

             “ฉันขอโทษ” ชายหนุ่มพูด ซึ่งกุลฉัตรก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นคำนี้

             “ฉันไม่รู้ว่าจะขอโทษยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ฉันเสียใจและไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลยจริง ๆ”

             น้ำเสียงของเดวิโกบอกชัดว่าเขาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ หญิงสาวก้มหน้านิ่งไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเช่นกัน ก่อนจะเนื้อตัวเย็นเยียบเมื่อเห็นว่าร่างสูงขยับตัวเล็กน้อย ฉุดให้สายตาของเธอมองตามไป

             เธอไม่กล้ามองหน้าเขาเต็มตา ได้แค่มองถึงปลายคางสากด้วยไรหนวดเท่านั้น เห็นว่าเดวิโกล้วงเอาสมุดเขียนเช็คออกมาจากอกเสื้อและปากกาอีกด้ามหนึ่ง

             “เธอต้องการเท่าไหร่ บอกฉันมาได้เลยนะ

     

     มู่อัปได้เท่านี้นะคะ ขอฝาก E-Book ไว้ด้วย

    สามารถซื้อ E-Book ได้ที่ Meb

    กดที่รูปปกใหม่เพื่อซื้อได้เลย

    ขอบคุณจากใจมาก ๆ ค่ะ


    หรือ >>Click!!<<

    Image from momoImage from momo


     

     

     

    Song :: 모리(Morrie) - So Sweet


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×