ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOG ON TARGET!! ที่รักครับ รักกันมั้ย?

    ลำดับตอนที่ #4 : Log On Target 🎀 02 You Make Me Wanna Scream ...50%

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 65


     

     

    2

    You Make Me Wanna Scream

    (...50%)

     

     

     

           “ไปให้พ้นนะแมท!” ฉันกรีดร้องแล้วดิ้นอย่างบ้าคลั่ง

             แต่วัวกระทิงเปลี่ยวอย่างแมทก็แข็งแรงมากเหลือเกิน หมอนี่เป็นนักมวยปล้ำเก่ามาก่อนหรือไงน่ะ ฉันเอาเท้ายันอกเขาเอาไว้แล้วนะ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังโน้มหน้าลงมาจนชิดหน้าของฉันได้อยู่ดี ฉันเริ่มหวีดร้องแล้วก็ดิ้นเหมือนถูกผีเข้าทันที

             “แมท แมท ไม่เอาขอโทษ” ฉันบอกเขาเสียงตะกุกตะกัก แล้วก็ยกมือขึ้นมายันหน้าเขาไปด้วย

             “เธอเตะหว่างขาฉันจนหน้าเขียวเลยนะโบว์!” แมทคำรามออกมาเหมือนโกรธจัด

             “ลองดูบ้างมั้ย ฮึ!” เขาถามแล้วก็สอดวงแขนแข็งแรงของเขามารัดร่างฉันเอาไว้แน่น ๆ จนฉันร้องอึกอักหายใจแทบไม่ออก ตาบ้านี่มันบ้าจริง ๆ นะ

             “ฉันไม่ใช่ผู้ชาย ไม่รู้ว่ามันเจ็บยังไงนี่ ขอโทษ” ฉันหลับหูหลับตาขอโทษ แล้วก็เบี่ยงหน้าหลบปลายจมูกซุกซนของแมทไปด้วย โอย หัวใจของฉันจะทะลุหน้าอกออกมาได้อยู่แล้ว

             “พูดง่ายดีนี่” เขาว่ามา แล้วจับไหล่ฉันเขย่าซะตับไตไส้พุงในตัวของฉันมันสลับที่กันไปหมดแล้ว

             “ตาบ้า ฉันเจ็บนะ จะทำไงให้นายหายโกรธล่ะ” ฉันโวยวายอย่างหัวเสีย เท้าก็ยังเจ็บอยู่ด้วย

             น่าสมเพชจริง ๆ เลยโบว์

             “ขอฉันเตะหว่างขาเธอคืนสิ จะได้หายกัน”

             โอ้ มาย ก็อด!

           ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าได้ยินออกมาจากปากของมนุษย์คนหนึ่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพศชายที่แข็งแกร่งผู้ปกป้องอิสตรีมาแต่ครั้งโบราณกาล

             “ถ้านายกล้า เอาเลยแมท เตะแรง ๆ ด้วยนะ!

             โอ๊ย พูดแล้วก็เสียวแวบตรงหว่างขา ทำไมพูดไปพูดมามันฟังดูทะลึ่งลามกอย่างนี้เนี่ย ฮึก อีตาแมทมันจะเตะฉันจริง ๆ น่ะเหรอ

             “ทำไมหน้าแดง คิดเรื่องอะไรอยู่” อีตาแมทคงจะหมั่นไส้เลยดึงแก้มฉันจนยืดเป็นแป้งซาลาเปาไปแล้ว ไม่รู้หรือไงว่ามันเจ็บมากน่ะ

             “อัน เอ็บ อ๊ะ!” เสียงฉันก็ทุเรศตามไปด้วย ฮือ ไอ้หมา เอ๊ย มหาวายร้ายจากนรกขุมที่สิบเก้า

             “เสียงเธอโคตรเซ็กซี่ อ่า ไม่ใช่สิ เซ็กส์เสื่อมอย่างแรง ฮ่า ๆ โบว์ อยู่กับเธอแล้วไม่เบื่อเลยอะ” เสียงหัวเราะของแมทฟังดูเหมือนโรคจิตมาก ทำให้ฉันหัวใจแทบจะวายตายให้ได้

             ฉันดิ้นอึกอักไปมาเมื่อถูกผู้ชายตัวสูงใหญ่กอดรัดเอาไว้แน่น เปรียบไปแล้วฉันก็เป็นเหมือนกวางน้อยที่ถูกหมีตะปบเล่นอย่างไรอย่างนั้น

             “ตาบ้า มันเจ็บนะ” ฉันบอกแล้วลูบแก้มตัวเองไปด้วย เมื่อเขาปล่อยมือออกจากแก้มฉันแล้ว

             “ฉันยังไม่แก่เลยนะ ยังหนุ่มฟิตเปรี๊ยะ เตะปี๊บลอยข้ามสนามฟุตบอลได้สามสนามฟุตบอลเลยละ”

             “แหวะ!” พูดอะไรเนี่ย มุกตั้งแต่สมัยไหนแล้ว ไม่ขำเลยสักนิด

             “ท้องแล้วเหรอ ตายแล้วที่รัก สองคืนเองนะที่เราอยู่ด้วยกัน อะไรจะเร็วอย่างนี้” อีตาแมทก็ยังบ้าไม่เลิก

             “กรี๊ด! แมทฉันจะฆ่านาย” ฉันร้องโหยหวนเหมือนถูกแส้ฟาดเข้ากลางหลัง

             รีบขยับตัวเปลี่ยนจากที่นอนอยู่ใต้ร่างของเขาพลิกกลับมาทับเขาเอาไว้ มือก็ยันคอเขาไว้จนเหมือนว่าบีบคอเขาอยู่ แต่บีบไปได้ไม่กี่ทีฉันก็ต้องเป็นฝ่ายหยุดมือเอง เพราะแมทดันทำตาวิบวับใส่ แถมนอนกางแขนขาเหมือนยอมให้กระทำชำเราได้อย่างสบายซะอีกแน่ะ

             ทำยังไงดี ถ้าไม่ได้ตบหน้าแมทสักทีฉันต้องนอนตายตาไม่หลับแน่ชาตินี้

             “ไม่ตีเหรอ” เขายิ้มแล้วก็ทำตาปรือเซ็กซี่มาให้

             “มาโซคิสม์ชอบให้คนอื่นทำร้ายหรือไงน่ะ” ฉันยกมือฟาดหน้าอกเขาแรง ๆ ด้วยความหมั่นไส้

             “ใช่ ฉันน่ะ เป็นได้ทั้งรุกทั้งรับเลยละ” แล้วแมทก็ลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียง ทำให้ฉันที่นั่งทับตัวเขาด้านบนต้องนั่งตักเขาไปโดยปริยาย

             และพอแมทชันเข่าขึ้น ฉันก็จมหายเข้าไปในตักของเขาไปไหนไม่รอดแล้ว

           “แมท!” ฉันหลับตาปี๋เอนตัวหนีเมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้ จนเราชิดกันไปทุกสัดส่วน

             แถมมือข้างหนึ่งของเขายังแตะกับขอบกางเกงนอนที่ฉันสวมอยู่อีกด้วย ฉันตาเหลือกโพลงแล้วก็หยิกมือเขาทันที แมทยกมือขึ้นมาสะบัด ๆ แล้วก็แกล้งทำเสียงอ่อนเสียงค่อย

             “เจ็บนะ แตะแค่นี้ก็ไม่ได้” พูดแล้วแมทก็ยกมือขึ้นกดท้ายทอยฉันเอาไว้ ทำท่าจะจูบฉันจริง ๆ ถ้าไม่ได้ยินเสียงเพื่อนของเขาที่เรียกอยู่หน้าห้องเสียก่อน

     

     

             “ไอ้แมท แต่งตัวเสร็จรึยัง!

             “Shit!” แมทสบถคำหยาบคายออกมา แล้วก็ลดเข่าที่ชันขึ้นให้นั่งขัดสมาธิตามเดิม ไม่ได้สนใจเลยว่าคนที่ต้องได้ยินด้วยอย่างฉันจะทำหน้ายังไง

             “ไอ้แมท!

             “เออ กำลังจะออกไป เร่งไรนักหนาวะ” เขาหันไปตะโกนทางประตูห้องแล้วก็หันมามองฉันอีกครั้ง

             ฉันเองยังนั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูกเหมือนเดิม เมื่อกี้ฉันไม่ได้ทำท่าขัดขืนอะไรเลยสักนิด ซ้ำยังดูเหมือนจะเต็มใจให้แมทจูบอีกต่างหาก อึก! เมื่อกี้ฉันลืมตัวไปได้ไงน่ะ

             “ฉันจะออกไปข้างนอกนะ” แมทพูดแล้วก็รวบเอวฉันให้ลอยขึ้นจากตักเขา ก่อนจะวางลงที่เตียงเหมือนยกตุ๊กตาที่ไร้น้ำหนัก

           เขาแข็งแรงขนาดนี้เชียว? ฉันได้แต่อ้าปากค้างมองอย่างแปลกใจ

             “ไปไหน” หลุดปากถามออกไปแล้วฉันก็นึกอยากกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก จะถามหมอนี่ให้ได้อะไรขึ้นมา

             “ไปดื่ม” เขาพูดยิ้ม ๆ แถมยังเลิกคิ้วให้ฉันอีกต่างหาก เห็นแล้วมันน่าหงุดหงิดชะมัด

             “เมื่อกี้ก็ดื่มไปไม่ใช่หรือไง ยังจะออกไปอีก ฮึ!” ฉันยกมือขึ้นกอดอกแล้วก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด

             “ก็ไม่มีเด็กมานั่งดริ๊งก์ด้วยอะ ไม่หนุก ไม่เร้าใจ” แมทพูดแล้วก็ดึงเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งมาสวมทับหุ่นสุดเท่เปลือยท่อนบนของเขาเอาไว้

             น่าเสียดายเอ๊ะ แกคิดบ้าอะไรอยู่น่ะ โบว์!

             “ขอให้ติดโรคกลับมาเถอะ จะหัวเราะให้” ฉันพูดพลางยกมือขึ้นมาร่ายมนตร์สาปแช่งเขาไปด้วย

             แมทหัวเราะดูท่าทางอารมณ์ดี แต่กลัดกระดุมไม่หมดแต่เดินมาหาเอนตัวเข้าใกล้และคร่อมแขนไว้ที่ตักของฉัน เพื่อไม่ให้ฉันได้ขยับไปได้อีก

             “อยากให้ไปมั้ย” เขาถาม ใช้ปลายจมูกของเขามาชนกับปลายจมูกของฉันเบา ๆ

             บ้าจริงหัวใจเต้นแรงขึ้นจนน่ากลัวเลย

             “อยากไปก็ไปสิ ไม่ได้มัดแขนมัดขาไว้สักหน่อย” ฉันบอกแล้วเชิดหน้าไปทางอื่น พยายามอย่างมากที่จะไม่แสดงอาการ แต่ตาบ้าแมทมันยิ้มอยู่แล้ว คงรู้สินะ ว่าฉันกำลังหวั่นไหวน่ะ

             เจ็บใจจัง แต่ก็ปฏิเสธมันไม่ได้ด้วย

             “งั้นติดกระดุมให้ฉันสิ แล้วฉันจะออกไป ทั้งคืน” พูดจบปลายจมูกโด่งของแมทก็แกล้งกดจมูกลงที่แก้มของฉัน จนฉันต้องถลึงตาและฟาดมือใส่แขนของเขาทันที

             “แต่ถ้าเธอถอดเสื้อออกให้ฉัน ฉันจะอยู่กับเธอ ทั้งคืน”

             “ไปตายซะแมท!” หน้าฉันคงแดงแปร๊ดอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะตอนนี้มันร้อนผ่าวเหมือนจะไหม้อยู่แล้ว

             “อยากให้ตายจริงอะ” เขาถามพลางหรี่ตาคมกริบมองมาชวนขนลุก ฉันรู้ตัวว่าพูดแรงไปเลยก้มหน้าลงและบอกขอโทษเขาเสียงอุบอิบ

             “เปล่า ไม่ได้ตั้งใจพูด ขอโทษ”

             “แล้วตกลงเสื้อตัวนี้จะติดกระดุมให้ หรือว่าจะถอดให้ฉันล่ะ ฉันให้เธอเลือก” เขาถามคำถามเดิม แล้วยังเอาจมูกมาชนแก้มฉันเล่นอีก ตาบ้านี่ฉวยโอกาส!

           “ถ้าฉันถอดเสื้อให้นาย” ฉันพูดยังไม่ทันจบ เขาก็รีบสวนกลับมาทันที

             “ฉันก็ถอดให้เธอด้วย!

             นั่นแหละฉันถึงได้รีบกลัดกระดุมให้เขาทุกเม็ด รวมทั้งที่ต้นคอนั่นด้วย ให้ขาดอากาศหายใจตายไปเลย ไอ้คนทะลึ่ง

             แต่พอกลัดเสร็จแมทก็ดึงมือของฉันออกจากเสื้อของเขาแรง ๆ และมองมาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

             “ขอบใจ อ้อ อีกอย่าง ไม่ต้องคิดจะกลับคอนโดเธอนะ เพราะฉันจะเอารถเธอไป” เขาพูดแล้วก็เดินไปหยิบพวงกุญแจรถรูปตุ๊กตาสุดคิ้วท์ของฉันติดมือไปด้วย

             “ฝันดี!” แมทตะคอก แล้วเขาก็ปิดประตูกระแทกใส่หน้าฉันเต็มแรง

             ให้ตายเถอะ! ฉันสมควรเป็นคนทำท่าแบบนั้นมากกว่านะแมท

     

     

             ฉันนอนไม่หลับ ทั้งที่สามารถนั่งแท็กซี่กลับคอนโดเองได้ เพราะกระเป๋าสตางค์ ของสำคัญต่าง ๆ ของฉันยังอยู่ตรงนี้ ตาบ้าแมทเอาแค่รถของฉันไปเท่านั้นเอง แต่ฉันก็ยังเลือกที่จะนั่งเล่นเปิดทีวี เปิดเครื่องเสียง เปิดไมโครเวฟ เปิดตู้เย็นทิ้งเอาไว้ กาต้มน้ำไฟฟ้า เปิดไฟทุกดวงที่มี และยังเปิดหน้าต่างทุกบาน เปิดแอร์ให้อุณหภูมิต่ำให้มากที่สุด อะไรอีกนะ

           อ้อ ฉันยังซักผ้าให้เขาด้วยนะ เครื่องซักผ้ามันกำลังปั่นโครม ๆ ในห้องน้ำแน่ะ ฉันเปิดไฟหมดทุกดวงด้วย คอมพิวเตอร์ราคาเท่ามอเตอร์ไซค์สองคันนั่นด้วย เปิดทุกอย่างที่มันเสียบปลั๊กได้อะ แล้วฉันก็นั่งฟังเพลงจากลำโพงสุดแพงของแมทไปด้วย

             แต่หลังจากนอนฟังไปได้สิบเพลงฉันก็ต้องเดินกระแทกเท้าไปที่ห้องน้ำ แล้วก็จัดการเอาผ้าที่ซักเสร็จแล้วใส่ตะกร้ามาตากที่ระเบียงห้องให้ ความจริงฉันกะว่าจะเอาเสื้อผ้าที่ซักเสร็จหมาด ๆ ของแมทมาทำเป็นที่เพาะเห็ดราอะนะ แต่เสื้อแต่ละตัวของแมทมันแพงอะ ฉันสงสารเลยเอาไปตากให้ ฉันเองก็มีน้ำใจเหมือนกัน เห็นไหม ๆ

             หลังจากที่ตากไปชุดหนึ่งแล้วฉันก็ซักผ้าเขาให้อีกเซตหนึ่ง ตาบ้านี่ ครึ่งปีซักผ้าครั้งนึงหรือไงกันทำไมมันเยอะแบบนี้ก็ไม่รู้ จากนั้นฉันก็เสียบปลั๊กเครื่องปิ้งขนมปัง ก็หนูพอใจจะเสียบค่ะ แล้วก็กลับมานอนที่โซฟาเหมือนเดิม ถ้าห้องนี้ไม่เก็บเสียงอีกเดี๋ยวข้างห้องต้องมาเคาะและเอารองเท้าตบหน้าฉันแน่

             ก็ตอนนี้ฉันเปิดเพลงเสียงดังมากเลยน่ะสิ แถมเสียงทีวีก็ดังมากด้วย ฮ่า ๆ ฉันประชดอะไรของฉันกันแน่เนี่ย แง ๆ ไม่เข้าใจตัวเองเลย หลังจากที่ตากผ้าที่ซักไว้จนหมดแล้วฉันก็กลับมานอนที่โซฟาตามเดิม พลางคิดไปถึงเจ้าของห้องหมอนั่นจะเม้งแตกแค่ไหนนะ ถ้ากลับมาเห็นว่าฉันทำอะไรไว้บ้างตอนที่เขาไปนั่งดริ๊งก์น่ะ

             เชอะ คงจะเที่ยวเอาจมูกไปชนหน้าผู้หญิงสวย ๆ ละสิ

             คิดแล้วโมโห ฉันเลยลุกขึ้นมาเอาไกรกรรแทงหมอนอิงหนังสีดำลูกหนึ่งเพื่อระบายอารมณ์เล่น ฉันคิดว่าฉันต้องเป็นโรคจิตที่สุดในสามโลกแน่ ๆ อึก ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้ฉันเลยลั้ลลากับนุ่นสีขาวที่ปลิวไปทั่วห้องอย่างมีความสุขแบบบ้า ๆ ของตัวเอง

             และเมื่อกำลังเอากรรไกรจ้วงแทงหมอนอิงอีกใบหนึ่งอย่างเมามัน เสียงดังกุกกักก็ดังขึ้นมาจากหน้าประตูซะก่อน

             ฉันโยนกรรไกรไปอีกทางแล้วก็แกล้งทำเป็นนอนหลับทันที (บ้าบอที่สุด)

           “เฮ้ย!!” เสียงทุ้มห้าว ๆ ของผู้ชายหลายคนดังขึ้นอย่างพร้อมเพียงเมื่อเจอกับหิมะเทียมในห้องของแมท

             ก็ตอนนี้นุ่นมันปลิวว่อนทั้งห้องเลย ฉันเปิดพัดลมด้วยแรงลมเบอร์ที่แรงที่สุดแถมยังมีนุ่นของหมอนตั้งสองใบอีกต่างหาก มันเลยกลายเป็นหิมะเทียมไปเลย โฮ่ ๆ ซานตาคลอสกำลังจะมาแจกของขวัญแล้วจ้า

           แง้!! ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย

             “โจรขึ้นห้องแกเหรอแมท แล้วเมียแกอะ”

             ปากร้าย! ฉันไม่ใช่เมียของแมทนะ ไอ้เพื่อนแมทนิสัยแย่! ฉันตะโกนด่าคนที่พูดประโยคเมื่อกี้อยู่ในใจ คอยดูฉันจะไปล้างแค้นที่แมทแทนหมอนั่น

             “โบว์! โบว์ เอ่อ” เสียงของแมทเรียกชื่อฉัน เหมือนแจ็คกำลังร้องเรียกหาโรสตอนที่เรือไททานิคคว่ำ

             แต่ไม่ทันไรเขาก็เดินมาเอานิ้วจิ้ม ๆ แก้มฉันที่แกล้งหลับอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ เขาหัวเราะในคอแล้วก็ไล่ปิดเครื่องเสียง ทีวี คอมพิวเตอร์ไปทีละอย่าง จนเสียงมันค่อย ๆ เงียบลงไปในที่สุด

             “เมียฉันง่วงจนหลับไปแล้วน่ะ”

             “แล้วไหงห้องแกมันเละแบบนี้น่ะ!” เพื่อนของแมทพูดอย่างตกใจ

             “อ้อ เมียฉันกลัวผีน่ะ เลยต้องเอาเสียงเอาแสงสว่างเป็นเพื่อนแบบนี้แหละ” แมทพูดแล้วก็กลั้นหัวเราะเอาไว้

             ทำไมเขาไม่โกรธและเตะฉันออกจากห้องอย่างที่คำนวณเอาไว้ล่ะ ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ ฉันได้แต่กรีดร้องอย่างผิดหวังอยู่ในใจ

             แต่เอาจริง ฉันก็กลัวตัวเองเหมือนกันนะที่เป็นบ้าได้ขนาดนี้น่ะ ไม่เข้าใจตัวเองเลย

             “แล้วทำไมหมอนแกไส้มันทะลักสองลูกอะ!

             “อ่อ เธอคงอยากทำหิมะเทียมให้ฉันแปลกใจน่ะ” แล้วแมทก็หัวเราะออกมาในที่สุด

             ไอ้ ฉันด่าเขาไม่ออกจริง ๆ ฮึก

     

     

             “กาต้มน้ำ ขนมปังปิ้ง ตู้เย็นเปิดอ้าซ่า” เพื่อนของแมทไล่หายนะที่ฉันทำเอาไว้แต่ล่ะอย่างให้แมทฟัง

             แทนที่แมทจะโกรธเขายังหัวเราะออกมาอีกต่างหาก มีอะไรน่าตลกอย่างนั้นเหรอฮะ แมทบ้า!

             “เธอต้มน้ำให้เรา เผื่อว่าเรากลับมาแล้วหิวไง จะได้ต้มบะหมี่ได้เลย” แมทพูด และตามด้วยเสียงหัวเราะชอบใจจากเพื่อน ๆ ของเขา

             ขอบใจมากเลยแมท ฉันซาบซึ้งใจจริง ๆ

             “พวกนายต้มบะหมี่ไปก่อนเลยแล้วกัน ฉันจะเอาเมียฉันไปนอนก่อนขวัญหายหมดละ ทิ้งให้อยู่คนเดียวหลายชั่วโมงแล้ว” แมทพูดแล้วก็ช้อนตัวฉันขึ้นมาจากโซฟา และอุ้มเดินไปในห้องนอน พอได้ยินเสียงประตูปิดปุ๊บฉันก็ลืมตาปั๊บทันที

             “ไง กุมารทอง เกเรอะไรนักหนา” เขาโยนฉันลงบนเตียงแล้วก็เอามือเท้าเอวมองฉันยิ้ม ๆ ไม่ได้โกรธอย่างที่ฉันคิดเอาไว้เลย

             “ไม่มีอะไร” ฉันบอกแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงหัวตัวเอง นอนคว่ำซุกหน้าลงกับหมอนใบใหญ่และเม้มปากอย่างขัดใจ

             เขาลากเพื่อนมาด้วยทำไมน่ะ อย่างนี้เพื่อนเขาจะเห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงงี่เง่าปัญญาอ่อนแน่ ๆ แถมยังโรคจิตอ่อน ๆ ด้วยการเอากรรไกรจ้วงหมอนเล่นอีกต่างหาก หมดกันภาพพจน์ของฉัน

             “เฮ้อ เธอเกเรกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะเนี่ย” แมทพูดพึมพำแต่ฉันไม่สนใจ

             เมื่อไหร่จะไปซะที ฉันหายใจไม่ออกแล้วนะ ฉันขมวดคิ้วเมื่อไม่ได้ยินเสียงแมทเดินออกไปหาเพื่อนเขาข้างนอกเลย และก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อตาบ้าแมทฟาดมือหนัก ๆ ลงที่สะโพกของฉัน

             “แมท!” ฉันดึงผ้าห่มออก แล้วก็ตวาดใส่เขาเสียงดัง

             แต่แมทกลับแค่โยนเสื้อเชิ้ตที่เขาถอดเสร็จแล้วใส่หน้าฉัน แล้วก็เดินไปทางห้องน้ำเท่านั้น

             “เอากุญแจรถฉันมาเลย ฉันจะกลับห้องฉันแล้ว” ฉันบอกก่อนจะปาเสื้อของเขาไปมุมหนึ่งของห้อง แล้วแบมือไปตรงหน้าเขา

             แมทเอียงคอยิ้มแล้วก็ส่งกุญแจรถมาให้แต่โดยดี แต่ฉันสิ รู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันที นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ ก็พอจะรู้ว่าเราเป็นแฟนกันปลอม ๆ แต่เขาจะไม่เป็นห่วงฉันสักนิดเลยเหรอ ถ้าฉันจะต้องขับรถกลับไปคนเดียวน่ะ ไอ้มหาวายร้าย แมท!!


    นิยายเรื่องนี้หมดสัญญากับทางสำนักพิมพ์แล้ว

    มู่เลยนำมาทำ E-Book เองค่ะ

    สามารถซื้อ E-Book ได้ที่ Meb เลยนะคะ

    กดที่รูปปกใหม่เพื่อซื้อได้เลยค่ะ

    ขอบคุณจากใจมาก ๆ เลยนะคะ


    หรือ >>Click!!<<


     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×