คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Log On Target 🎀 02 You Make Me Wanna Scream ...50%
2
You Make Me Wanna Scream
(...50%)
“ไปให้พ้นนะแมท!” ฉันกรีดร้องแล้วดิ้นอย่างบ้าคลั่ง
แต่วัวกระทิงเปลี่ยวอย่างแมทก็แข็งแรงมากเหลือเกิน หมอนี่เป็นนักมวยปล้ำเก่ามาก่อนหรือไงน่ะ ฉันเอาเท้ายันอกเขาเอาไว้แล้วนะ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังโน้มหน้าลงมาจนชิดหน้าของฉันได้อยู่ดี ฉันเริ่มหวีดร้องแล้วก็ดิ้นเหมือนถูกผีเข้าทันที
“แมท… แมท ไม่เอาขอโทษ” ฉันบอกเขาเสียงตะกุกตะกัก แล้วก็ยกมือขึ้นมายันหน้าเขาไปด้วย
“เธอเตะหว่างขาฉันจนหน้าเขียวเลยนะโบว์!” แมทคำรามออกมาเหมือนโกรธจัด
“ลองดูบ้างมั้ย ฮึ!” เขาถามแล้วก็สอดวงแขนแข็งแรงของเขามารัดร่างฉันเอาไว้แน่น ๆ จนฉันร้องอึกอักหายใจแทบไม่ออก ตาบ้านี่มันบ้าจริง ๆ นะ
“ฉันไม่ใช่ผู้ชาย ไม่รู้ว่ามันเจ็บยังไงนี่ ขอโทษ” ฉันหลับหูหลับตาขอโทษ แล้วก็เบี่ยงหน้าหลบปลายจมูกซุกซนของแมทไปด้วย โอย หัวใจของฉันจะทะลุหน้าอกออกมาได้อยู่แล้ว
“พูดง่ายดีนี่” เขาว่ามา แล้วจับไหล่ฉันเขย่าซะตับไตไส้พุงในตัวของฉันมันสลับที่กันไปหมดแล้ว
“ตาบ้า ฉันเจ็บนะ จะทำไงให้นายหายโกรธล่ะ” ฉันโวยวายอย่างหัวเสีย เท้าก็ยังเจ็บอยู่ด้วย
น่าสมเพชจริง ๆ เลยโบว์
“ขอฉันเตะหว่างขาเธอคืนสิ จะได้หายกัน”
โอ้ มาย ก็อด!
ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าได้ยินออกมาจากปากของมนุษย์คนหนึ่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพศชายที่แข็งแกร่งผู้ปกป้องอิสตรีมาแต่ครั้งโบราณกาล
“ถ้านายกล้า เอาเลยแมท เตะแรง ๆ ด้วยนะ!”
โอ๊ย พูดแล้วก็เสียวแวบตรงหว่างขา ทำไมพูดไปพูดมามันฟังดูทะลึ่งลามกอย่างนี้เนี่ย ฮึก อีตาแมทมันจะเตะฉันจริง ๆ น่ะเหรอ
“ทำไมหน้าแดง คิดเรื่องอะไรอยู่” อีตาแมทคงจะหมั่นไส้เลยดึงแก้มฉันจนยืดเป็นแป้งซาลาเปาไปแล้ว ไม่รู้หรือไงว่ามันเจ็บมากน่ะ
“อัน เอ็บ อ๊ะ!” เสียงฉันก็ทุเรศตามไปด้วย ฮือ ไอ้หมา เอ๊ย มหาวายร้ายจากนรกขุมที่สิบเก้า
“เสียงเธอโคตรเซ็กซี่ อ่า ไม่ใช่สิ เซ็กส์เสื่อมอย่างแรง ฮ่า ๆ โบว์ อยู่กับเธอแล้วไม่เบื่อเลยอะ” เสียงหัวเราะของแมทฟังดูเหมือนโรคจิตมาก ทำให้ฉันหัวใจแทบจะวายตายให้ได้
ฉันดิ้นอึกอักไปมาเมื่อถูกผู้ชายตัวสูงใหญ่กอดรัดเอาไว้แน่น เปรียบไปแล้วฉันก็เป็นเหมือนกวางน้อยที่ถูกหมีตะปบเล่นอย่างไรอย่างนั้น
“ตาบ้า มันเจ็บนะ” ฉันบอกแล้วลูบแก้มตัวเองไปด้วย เมื่อเขาปล่อยมือออกจากแก้มฉันแล้ว
“ฉันยังไม่แก่เลยนะ ยังหนุ่มฟิตเปรี๊ยะ เตะปี๊บลอยข้ามสนามฟุตบอลได้สามสนามฟุตบอลเลยละ”
“แหวะ!” พูดอะไรเนี่ย มุกตั้งแต่สมัยไหนแล้ว ไม่ขำเลยสักนิด
“ท้องแล้วเหรอ ตายแล้วที่รัก สองคืนเองนะที่เราอยู่ด้วยกัน อะไรจะเร็วอย่างนี้” อีตาแมทก็ยังบ้าไม่เลิก
“กรี๊ด! แมทฉันจะฆ่านาย” ฉันร้องโหยหวนเหมือนถูกแส้ฟาดเข้ากลางหลัง
รีบขยับตัวเปลี่ยนจากที่นอนอยู่ใต้ร่างของเขาพลิกกลับมาทับเขาเอาไว้ มือก็ยันคอเขาไว้จนเหมือนว่าบีบคอเขาอยู่ แต่บีบไปได้ไม่กี่ทีฉันก็ต้องเป็นฝ่ายหยุดมือเอง เพราะแมทดันทำตาวิบวับใส่ แถมนอนกางแขนขาเหมือนยอมให้กระทำชำเราได้อย่างสบายซะอีกแน่ะ
ทำยังไงดี ถ้าไม่ได้ตบหน้าแมทสักทีฉันต้องนอนตายตาไม่หลับแน่ชาตินี้
“ไม่ตีเหรอ” เขายิ้มแล้วก็ทำตาปรือเซ็กซี่มาให้
“มาโซคิสม์ชอบให้คนอื่นทำร้ายหรือไงน่ะ” ฉันยกมือฟาดหน้าอกเขาแรง ๆ ด้วยความหมั่นไส้
“ใช่ ฉันน่ะ เป็นได้ทั้งรุกทั้งรับเลยละ” แล้วแมทก็ลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียง ทำให้ฉันที่นั่งทับตัวเขาด้านบนต้องนั่งตักเขาไปโดยปริยาย
และพอแมทชันเข่าขึ้น ฉันก็จมหายเข้าไปในตักของเขาไปไหนไม่รอดแล้ว
“แมท!” ฉันหลับตาปี๋เอนตัวหนีเมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้ จนเราชิดกันไปทุกสัดส่วน
แถมมือข้างหนึ่งของเขายังแตะกับขอบกางเกงนอนที่ฉันสวมอยู่อีกด้วย ฉันตาเหลือกโพลงแล้วก็หยิกมือเขาทันที แมทยกมือขึ้นมาสะบัด ๆ แล้วก็แกล้งทำเสียงอ่อนเสียงค่อย
“เจ็บนะ แตะแค่นี้ก็ไม่ได้” พูดแล้วแมทก็ยกมือขึ้นกดท้ายทอยฉันเอาไว้ ทำท่าจะจูบฉันจริง ๆ ถ้าไม่ได้ยินเสียงเพื่อนของเขาที่เรียกอยู่หน้าห้องเสียก่อน
“ไอ้แมท แต่งตัวเสร็จรึยัง!”
“Shit!” แมทสบถคำหยาบคายออกมา แล้วก็ลดเข่าที่ชันขึ้นให้นั่งขัดสมาธิตามเดิม ไม่ได้สนใจเลยว่าคนที่ต้องได้ยินด้วยอย่างฉันจะทำหน้ายังไง
“ไอ้แมท!”
“เออ กำลังจะออกไป เร่งไรนักหนาวะ” เขาหันไปตะโกนทางประตูห้องแล้วก็หันมามองฉันอีกครั้ง
ฉันเองยังนั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูกเหมือนเดิม เมื่อกี้ฉันไม่ได้ทำท่าขัดขืนอะไรเลยสักนิด ซ้ำยังดูเหมือนจะเต็มใจให้แมทจูบอีกต่างหาก อึก! เมื่อกี้ฉันลืมตัวไปได้ไงน่ะ
“ฉันจะออกไปข้างนอกนะ” แมทพูดแล้วก็รวบเอวฉันให้ลอยขึ้นจากตักเขา ก่อนจะวางลงที่เตียงเหมือนยกตุ๊กตาที่ไร้น้ำหนัก
เขาแข็งแรงขนาดนี้เชียว? ฉันได้แต่อ้าปากค้างมองอย่างแปลกใจ
“ไปไหน” หลุดปากถามออกไปแล้วฉันก็นึกอยากกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก จะถามหมอนี่ให้ได้อะไรขึ้นมา
“ไปดื่ม” เขาพูดยิ้ม ๆ แถมยังเลิกคิ้วให้ฉันอีกต่างหาก เห็นแล้วมันน่าหงุดหงิดชะมัด
“เมื่อกี้ก็ดื่มไปไม่ใช่หรือไง ยังจะออกไปอีก ฮึ!” ฉันยกมือขึ้นกอดอกแล้วก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด
“ก็ไม่มีเด็กมานั่งดริ๊งก์ด้วยอะ ไม่หนุก ไม่เร้าใจ” แมทพูดแล้วก็ดึงเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งมาสวมทับหุ่นสุดเท่เปลือยท่อนบนของเขาเอาไว้
น่าเสียดาย… เอ๊ะ แกคิดบ้าอะไรอยู่น่ะ โบว์!
“ขอให้ติดโรคกลับมาเถอะ จะหัวเราะให้” ฉันพูดพลางยกมือขึ้นมาร่ายมนตร์สาปแช่งเขาไปด้วย
แมทหัวเราะดูท่าทางอารมณ์ดี แต่กลัดกระดุมไม่หมดแต่เดินมาหาเอนตัวเข้าใกล้และคร่อมแขนไว้ที่ตักของฉัน เพื่อไม่ให้ฉันได้ขยับไปได้อีก
“อยากให้ไปมั้ย” เขาถาม ใช้ปลายจมูกของเขามาชนกับปลายจมูกของฉันเบา ๆ
บ้าจริง… หัวใจเต้นแรงขึ้นจนน่ากลัวเลย
“อยากไปก็ไปสิ ไม่ได้มัดแขนมัดขาไว้สักหน่อย” ฉันบอกแล้วเชิดหน้าไปทางอื่น พยายามอย่างมากที่จะไม่แสดงอาการ แต่ตาบ้าแมทมันยิ้มอยู่แล้ว คงรู้สินะ ว่าฉันกำลังหวั่นไหวน่ะ
เจ็บใจจัง แต่ก็ปฏิเสธมันไม่ได้ด้วย
“งั้นติดกระดุมให้ฉันสิ แล้วฉันจะออกไป… ทั้งคืน” พูดจบปลายจมูกโด่งของแมทก็แกล้งกดจมูกลงที่แก้มของฉัน จนฉันต้องถลึงตาและฟาดมือใส่แขนของเขาทันที
“แต่ถ้าเธอถอดเสื้อออกให้ฉัน ฉันจะอยู่กับเธอ… ทั้งคืน”
“ไปตายซะแมท!” หน้าฉันคงแดงแปร๊ดอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะตอนนี้มันร้อนผ่าวเหมือนจะไหม้อยู่แล้ว
“อยากให้ตายจริงอะ” เขาถามพลางหรี่ตาคมกริบมองมาชวนขนลุก ฉันรู้ตัวว่าพูดแรงไปเลยก้มหน้าลงและบอกขอโทษเขาเสียงอุบอิบ
“เปล่า ไม่ได้ตั้งใจพูด ขอโทษ”
“แล้วตกลงเสื้อตัวนี้จะติดกระดุมให้ หรือว่าจะถอดให้ฉันล่ะ ฉันให้เธอเลือก” เขาถามคำถามเดิม แล้วยังเอาจมูกมาชนแก้มฉันเล่นอีก ตาบ้านี่ฉวยโอกาส!
“ถ้าฉันถอดเสื้อให้นาย…” ฉันพูดยังไม่ทันจบ เขาก็รีบสวนกลับมาทันที
“ฉันก็ถอดให้เธอด้วย!”
นั่นแหละฉันถึงได้รีบกลัดกระดุมให้เขาทุกเม็ด รวมทั้งที่ต้นคอนั่นด้วย ให้ขาดอากาศหายใจตายไปเลย ไอ้คนทะลึ่ง
แต่พอกลัดเสร็จแมทก็ดึงมือของฉันออกจากเสื้อของเขาแรง ๆ และมองมาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
“ขอบใจ อ้อ อีกอย่าง… ไม่ต้องคิดจะกลับคอนโดเธอนะ เพราะฉันจะเอารถเธอไป” เขาพูดแล้วก็เดินไปหยิบพวงกุญแจรถรูปตุ๊กตาสุดคิ้วท์ของฉันติดมือไปด้วย
“ฝันดี!” แมทตะคอก แล้วเขาก็ปิดประตูกระแทกใส่หน้าฉันเต็มแรง
ให้ตายเถอะ! ฉันสมควรเป็นคนทำท่าแบบนั้นมากกว่านะแมท
ฉันนอนไม่หลับ ทั้งที่สามารถนั่งแท็กซี่กลับคอนโดเองได้ เพราะกระเป๋าสตางค์ ของสำคัญต่าง ๆ ของฉันยังอยู่ตรงนี้ ตาบ้าแมทเอาแค่รถของฉันไปเท่านั้นเอง แต่ฉันก็ยังเลือกที่จะนั่งเล่นเปิดทีวี เปิดเครื่องเสียง เปิดไมโครเวฟ เปิดตู้เย็นทิ้งเอาไว้ กาต้มน้ำไฟฟ้า เปิดไฟทุกดวงที่มี และยังเปิดหน้าต่างทุกบาน เปิดแอร์ให้อุณหภูมิต่ำให้มากที่สุด อะไรอีกนะ…
อ้อ… ฉันยังซักผ้าให้เขาด้วยนะ เครื่องซักผ้ามันกำลังปั่นโครม ๆ ในห้องน้ำแน่ะ ฉันเปิดไฟหมดทุกดวงด้วย คอมพิวเตอร์ราคาเท่ามอเตอร์ไซค์สองคันนั่นด้วย เปิดทุกอย่างที่มันเสียบปลั๊กได้อะ แล้วฉันก็นั่งฟังเพลงจากลำโพงสุดแพงของแมทไปด้วย
แต่หลังจากนอนฟังไปได้สิบเพลงฉันก็ต้องเดินกระแทกเท้าไปที่ห้องน้ำ แล้วก็จัดการเอาผ้าที่ซักเสร็จแล้วใส่ตะกร้ามาตากที่ระเบียงห้องให้ ความจริงฉันกะว่าจะเอาเสื้อผ้าที่ซักเสร็จหมาด ๆ ของแมทมาทำเป็นที่เพาะเห็ดราอะนะ แต่เสื้อแต่ละตัวของแมทมันแพงอะ ฉันสงสารเลยเอาไปตากให้ ฉันเองก็มีน้ำใจเหมือนกัน เห็นไหม ๆ
หลังจากที่ตากไปชุดหนึ่งแล้วฉันก็ซักผ้าเขาให้อีกเซตหนึ่ง ตาบ้านี่ ครึ่งปีซักผ้าครั้งนึงหรือไงกันทำไมมันเยอะแบบนี้ก็ไม่รู้ จากนั้นฉันก็เสียบปลั๊กเครื่องปิ้งขนมปัง ก็หนูพอใจจะเสียบค่ะ แล้วก็กลับมานอนที่โซฟาเหมือนเดิม ถ้าห้องนี้ไม่เก็บเสียงอีกเดี๋ยวข้างห้องต้องมาเคาะและเอารองเท้าตบหน้าฉันแน่
ก็ตอนนี้ฉันเปิดเพลงเสียงดังมากเลยน่ะสิ แถมเสียงทีวีก็ดังมากด้วย ฮ่า ๆ ฉันประชดอะไรของฉันกันแน่เนี่ย แง ๆ ไม่เข้าใจตัวเองเลย หลังจากที่ตากผ้าที่ซักไว้จนหมดแล้วฉันก็กลับมานอนที่โซฟาตามเดิม พลางคิดไปถึงเจ้าของห้องหมอนั่นจะเม้งแตกแค่ไหนนะ ถ้ากลับมาเห็นว่าฉันทำอะไรไว้บ้างตอนที่เขาไปนั่งดริ๊งก์น่ะ
เชอะ… คงจะเที่ยวเอาจมูกไปชนหน้าผู้หญิงสวย ๆ ละสิ
คิดแล้วโมโห ฉันเลยลุกขึ้นมาเอาไกรกรรแทงหมอนอิงหนังสีดำลูกหนึ่งเพื่อระบายอารมณ์เล่น ฉันคิดว่าฉันต้องเป็นโรคจิตที่สุดในสามโลกแน่ ๆ อึก ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้ฉันเลยลั้ลลากับนุ่นสีขาวที่ปลิวไปทั่วห้องอย่างมีความสุขแบบบ้า ๆ ของตัวเอง
และเมื่อกำลังเอากรรไกรจ้วงแทงหมอนอิงอีกใบหนึ่งอย่างเมามัน เสียงดังกุกกักก็ดังขึ้นมาจากหน้าประตูซะก่อน
ฉันโยนกรรไกรไปอีกทางแล้วก็แกล้งทำเป็นนอนหลับทันที (บ้าบอที่สุด)
“เฮ้ย!!” เสียงทุ้มห้าว ๆ ของผู้ชายหลายคนดังขึ้นอย่างพร้อมเพียงเมื่อเจอกับหิมะเทียมในห้องของแมท
ก็ตอนนี้นุ่นมันปลิวว่อนทั้งห้องเลย ฉันเปิดพัดลมด้วยแรงลมเบอร์ที่แรงที่สุดแถมยังมีนุ่นของหมอนตั้งสองใบอีกต่างหาก มันเลยกลายเป็นหิมะเทียมไปเลย โฮ่ ๆ ซานตาคลอสกำลังจะมาแจกของขวัญแล้วจ้า…
แง้!! ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย
“โจรขึ้นห้องแกเหรอแมท แล้วเมียแกอะ”
ปากร้าย! ฉันไม่ใช่เมียของแมทนะ ไอ้เพื่อนแมทนิสัยแย่! ฉันตะโกนด่าคนที่พูดประโยคเมื่อกี้อยู่ในใจ คอยดูฉันจะไปล้างแค้นที่แมทแทนหมอนั่น
“โบว์! โบว์ เอ่อ…” เสียงของแมทเรียกชื่อฉัน เหมือนแจ็คกำลังร้องเรียกหาโรสตอนที่เรือไททานิคคว่ำ
แต่ไม่ทันไรเขาก็เดินมาเอานิ้วจิ้ม ๆ แก้มฉันที่แกล้งหลับอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ เขาหัวเราะในคอแล้วก็ไล่ปิดเครื่องเสียง ทีวี คอมพิวเตอร์ไปทีละอย่าง จนเสียงมันค่อย ๆ เงียบลงไปในที่สุด
“เมียฉันง่วงจนหลับไปแล้วน่ะ”
“แล้วไหงห้องแกมันเละแบบนี้น่ะ!” เพื่อนของแมทพูดอย่างตกใจ
“อ้อ เมียฉันกลัวผีน่ะ เลยต้องเอาเสียงเอาแสงสว่างเป็นเพื่อนแบบนี้แหละ” แมทพูดแล้วก็กลั้นหัวเราะเอาไว้
ทำไมเขาไม่โกรธและเตะฉันออกจากห้องอย่างที่คำนวณเอาไว้ล่ะ ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ ฉันได้แต่กรีดร้องอย่างผิดหวังอยู่ในใจ
แต่เอาจริง ฉันก็กลัวตัวเองเหมือนกันนะที่เป็นบ้าได้ขนาดนี้น่ะ ไม่เข้าใจตัวเองเลย
“แล้วทำไมหมอนแกไส้มันทะลักสองลูกอะ!”
“อ่อ เธอคงอยากทำหิมะเทียมให้ฉันแปลกใจน่ะ” แล้วแมทก็หัวเราะออกมาในที่สุด
ไอ้… ฉันด่าเขาไม่ออกจริง ๆ ฮึก
“กาต้มน้ำ ขนมปังปิ้ง ตู้เย็นเปิดอ้าซ่า…” เพื่อนของแมทไล่หายนะที่ฉันทำเอาไว้แต่ล่ะอย่างให้แมทฟัง
แทนที่แมทจะโกรธเขายังหัวเราะออกมาอีกต่างหาก มีอะไรน่าตลกอย่างนั้นเหรอฮะ แมทบ้า!
“เธอต้มน้ำให้เรา เผื่อว่าเรากลับมาแล้วหิวไง จะได้ต้มบะหมี่ได้เลย” แมทพูด และตามด้วยเสียงหัวเราะชอบใจจากเพื่อน ๆ ของเขา
ขอบใจมากเลยแมท… ฉันซาบซึ้งใจจริง ๆ
“พวกนายต้มบะหมี่ไปก่อนเลยแล้วกัน ฉันจะเอาเมียฉันไปนอนก่อนขวัญหายหมดละ ทิ้งให้อยู่คนเดียวหลายชั่วโมงแล้ว” แมทพูดแล้วก็ช้อนตัวฉันขึ้นมาจากโซฟา และอุ้มเดินไปในห้องนอน พอได้ยินเสียงประตูปิดปุ๊บฉันก็ลืมตาปั๊บทันที
“ไง… กุมารทอง เกเรอะไรนักหนา” เขาโยนฉันลงบนเตียงแล้วก็เอามือเท้าเอวมองฉันยิ้ม ๆ ไม่ได้โกรธอย่างที่ฉันคิดเอาไว้เลย
“ไม่มีอะไร” ฉันบอกแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงหัวตัวเอง นอนคว่ำซุกหน้าลงกับหมอนใบใหญ่และเม้มปากอย่างขัดใจ
เขาลากเพื่อนมาด้วยทำไมน่ะ อย่างนี้เพื่อนเขาจะเห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงงี่เง่าปัญญาอ่อนแน่ ๆ แถมยังโรคจิตอ่อน ๆ ด้วยการเอากรรไกรจ้วงหมอนเล่นอีกต่างหาก หมดกันภาพพจน์ของฉัน
“เฮ้อ… เธอเกเรกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะเนี่ย” แมทพูดพึมพำแต่ฉันไม่สนใจ
เมื่อไหร่จะไปซะที ฉันหายใจไม่ออกแล้วนะ ฉันขมวดคิ้วเมื่อไม่ได้ยินเสียงแมทเดินออกไปหาเพื่อนเขาข้างนอกเลย และก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อตาบ้าแมทฟาดมือหนัก ๆ ลงที่สะโพกของฉัน
“แมท!” ฉันดึงผ้าห่มออก แล้วก็ตวาดใส่เขาเสียงดัง
แต่แมทกลับแค่โยนเสื้อเชิ้ตที่เขาถอดเสร็จแล้วใส่หน้าฉัน แล้วก็เดินไปทางห้องน้ำเท่านั้น
“เอากุญแจรถฉันมาเลย ฉันจะกลับห้องฉันแล้ว” ฉันบอกก่อนจะปาเสื้อของเขาไปมุมหนึ่งของห้อง แล้วแบมือไปตรงหน้าเขา
แมทเอียงคอยิ้มแล้วก็ส่งกุญแจรถมาให้แต่โดยดี แต่ฉันสิ รู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันที นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ ก็พอจะรู้ว่าเราเป็นแฟนกันปลอม ๆ แต่เขาจะไม่เป็นห่วงฉันสักนิดเลยเหรอ ถ้าฉันจะต้องขับรถกลับไปคนเดียวน่ะ ไอ้มหาวายร้าย แมท!!
นิยายเรื่องนี้หมดสัญญากับทางสำนักพิมพ์แล้ว
มู่เลยนำมาทำ E-Book เองค่ะ
สามารถซื้อ E-Book ได้ที่ Meb เลยนะคะ
กดที่รูปปกใหม่เพื่อซื้อได้เลยค่ะ
ขอบคุณจากใจมาก ๆ เลยนะคะ
หรือ >>Click!!<<
ความคิดเห็น