คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Roman Santa 🎁 eps. 01 What You Really Need Just Say...100%
1
What You Really Need Just Say
(...100%)
ฉันกลับมาใช้ชีวิตปกติแบบที่ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่
ในหัวมีแต่เรื่องของคนคนนั้นไม่หยุด ร่างกายยังร้อนผ่าวเมื่อแตะโดนผิวกาย โรมันไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ทั้งนั้นบนตัวของฉัน และนั่นก็ดีมากที่ไม่เกิดรอยอัปยศพวกนั้นอีก แต่หัวใจของฉันนี่สิ มันคิดถึงแต่เรื่องของเขาไม่หยุด สายตาคู่นั้นยังคอยตามมาหลอกหลอนจนฝันร้ายไม่เว้นแต่ละคืน
ฉันรู้สึกใจไม่สงบเลยแม้แต่วันเดียวที่ออกมาจากที่นั่น ทั้งที่ก็ผ่านมาแล้วสามวัน แต่ฉันยังคิดถึงเขาอยู่ ในหัวก็มีแต่ภาพของเขามันฉายซ้ำไปซ้ำมาจนแทบจะบ้าตาย
แต่ที่เกลียดที่สุดก็คือตัวเองนี่แหละ
ถึงแม้จะดูเหมือนว่าถูกข่มเหง แต่ก็ยังจำได้อย่างรางเลือนว่าตัวเองก็คล้อยตาม
เอาละ ฉันไม่อยากคิดเรื่องนั้นอีกแล้ว คงไม่ได้เจอคนเลวคนนั้นอีกแล้วล่ะ
โบว์เล่าให้ฟังว่าโรมันแพ้ทั้งที่เป็นตัวเต็งหนึ่งในการแข่งวันนั้น ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนว่าโรมันจะมีท่าทางแปลกไปจากเคย ทั้งยังบอกว่าได้คุยกับเชสเตอร์ด้วย เขาน่ารักมาก และอะไรอีกก็ไม่รู้ ฉันเหนื่อยจนไม่อยากจะฟังอะไรอีกแล้ว
แต่ที่ฉันคาใจมากที่สุด โบว์บอกว่าโรมันน่ะ นอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าและไม่ถึงอาทิตย์ด้วย
แน่ละ ฉันยังแค่ครั้งเดียวเลย คิดถึงตรงนี้ฉันก็ทึ้งหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
เลิก! พอ! อย่าคิดถึงเขาอีก เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นมาทำให้ฉันเช็ดน้ำตาที่เอ่อคลอขึ้นมาตอนไหนไม่รู้ ก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู
“ค่ะ รอแป๊บนะคะ” ฉันคิดว่าอาจจะเป็นป้าแม่บ้านที่มาทำความสะอาด หรือพนักงานส่งของ แต่ไม่คิดว่าจะเป็น…
“โรมัน…” ฉันกระซิบชื่อของผู้ชายคนหนึ่งออกมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อเจอร่างสูงใหญ่ของใครบางคนกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าห้องนี่เอง
ฉันเตรียมจะกระแทกประตูปิดใส่หน้าโรมันทันที แต่ก็ช้าไป เพราะเขายื่นมือแข็งแรงดันไว้ซะก่อน ฉันมองคนร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ หมอนี่เป็นบ้าอะไรของเขาอีก ตามมาหาเรื่องกันหรือไง
เขาก้มหน้าแล้วก็เงยหน้ามองฉัน กลิ่นบุหรี่ที่เจือด้วยกลิ่นเมนทอลจาง ๆ ลอยเข้าจมูก กลิ่นน้ำหอมพวกนี้ยังคอยหลอนหลอนฉันในหัวไม่ไปไหน ยิ่งทำให้นึกถึงแต่เรื่องวันนั้นจนแทบจะบ้าตาย
“เธอชื่อซานต้าใช่มั้ย?”
ให้ตาย… ดูคำพูดของเขาที่เอ่ยปากพูดขึ้นมาคำแรกสิ
‘เธอชื่อซานต้าใช่มั้ย?’
ฉันว่าผู้ชายคนนี้มีปัญหาทางจิตแล้วล่ะ ไหนทำเหมือนไม่รู้จักกันแต่แรกแล้ว แล้วนี่มันอะไรกัน มายุ่งกับฉันเพื่ออะไรอีก
“ไปซะเถอะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย”
เชื่อสิ ว่าเขาไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย เกิดมายังไม่เคยเห็นใครจะชั่วร้ายได้เหมือนเขาเลยจริง ๆ
“ออกไปด้วยกันหน่อยสิ”
ฉันสั่นหน้าไปมาเมื่อโรมันพูดอะไรสักอย่างที่ไม่ปลอดภัยต่อตัวฉันเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อเขาดันประตูเอาไว้ แถมเขาทิ้งบุหรี่ลงที่พื้นก่อนจะยกปลายเท้าขยี้มันซ้ำลงไป
และคำพูดต่อมาของเขาทำให้ฉันตาโตขึ้นมาอีกครั้ง
“หรือจะให้ฉันเข้าไปข้างใน”
คุยข้างในเหรอ ฝันไปเถอะ แต่ไม่ทันไรโรมันก็แทรกร่างสูงใหญ่ของเขาเข้ามาได้แล้ว ฉันกลัวจนตัวสั่นกับความเอาแต่ใจของเขา แต่ก็ไม่ทันแล้ว เขายังคว้าแขนฉันให้เดินตามเข้ามาด้านในแล้วก็ปิดประตูตามหลังด้วย
ฉันสะบัดแขนหนีแต่ไม่หลุด สายตาคมกริบของโรมันจ้องสะกดให้ฉันนิ่งกับที่ จนได้แต่ยืนสับเท้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ เขาต้องการอะไรอีกล่ะ สิ่งที่ได้ไปยังไม่พอหรือไง
“ชื่อซานต้าใช่มั้ย?” เขาถามพลางถอยหลังนั่งบนที่วางแขนโซฟา
สองมือของโรมันประสานกันแล้วเท้าคางกับต้นขาพลางจ้องมองฉัน เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกสั่นไปทั้งร่าง รู้เลยว่าเขาเคยมองด้วยสายตาแบบนี้มาก่อน
ก็ในตอนที่เรา…
เลิกคิดถึงมันสักที รู้สึกเหมือนว่าสายตาของเขากำลังเปลื้องผ้าฉันออกทีละชิ้น ๆ อย่างไรอย่างนั้น พาให้ร้อนไปหมด
“นายจะมาทำไมอีก” ฉันถามแล้วเม้มปากขมวดคิ้วแน่น
ผู้ชายคนนี้ ฉันไม่เข้าใจความคิดของเขาเลยสักนิด ต้องการอะไรกันแน่
“จะพูดยังไงดีนะ” เขาพูดพึมพำออกมาแล้วก็ยกมือขึ้นเสยผมตัวเอง ท่าทางเอาแต่ใจสุด ๆ
ถ้าจะสำนึกผิดเรื่องวันนั้นแล้วละก็ เขาควรจะขอโทษฉันสักคำ ไม่ใช่ให้ผ่านเลยมาหลายวันแล้วแบบนี้ คนอย่างเขาน่ะ… ให้ตาย ฉันคิดคำจะด่าไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว ทั้งโกรธทั้งกลัวจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้ว
“เอาเป็นว่าฉันนอนไม่หลับเพราะคิดถึงเธอ”
บ้าน่า… ฉันได้แต่มองเขาอย่างไม่คิดจะเชื่อสักนิดเดียว อย่างเขาเนี่ยนะจะมาคิดถึงผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่มีทางซะล่ะ
“เห็นเตียงก็มีภาพเธอลอยซ้อนขึ้นมา”
พอเขาพูดแบบนี้ฉันก็หน้าร้อนวาบ ฉันพยายามจะลืมมันไปแล้วนะ มาทำให้คิดขึ้นมาอีกทำไมกัน และตอกย้ำว่ามันฉันโง่แค่ไหนที่ถูกรังแกเอาแบบนั้น แต่กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ใช่… ฉันไม่กล้าแม้กระทั่งจะแจ้งความเพราะทั้งกลัวทั้งอาย
ทั้งหมดเป็นความผิดของเขาคนเดียวเท่านั้น
“ไปด้วยกันหน่อย” เขาพูดสั้น ๆ แล้วก็มองมาอย่างแน่วนิ่ง
ฉันสบตากับโรมันอย่างหวั่นใจ ถึงจะไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ก็มั่นใจว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัวเอาเรื่อง ไม่อย่างนั้นคงไม่บุกมาถึงที่นี่ แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ทั้งที่เขา…
เชื่อไหม… เชื่อเถอะ ว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ไปไหนจนกว่าเขาจะลากฉันออกไปด้วยได้
“กลับไปเถอะโรมัน ฉันไม่อยากเจอหน้านายอีก ที่แล้วมาก็ให้มันแล้วไป” ฉันบอกเสียงเข้ม อยากจะปรบมือให้กับความเข้มแข็งของตัวเองมากกว่านี้ ถ้าหากว่าเสียงมันไม่สั่นจนน่าหัวเราะแบบนั้น
โรมันเองก็ทำท่าหงุดหงิดก่อนจะถอนหายใจ
เห็นแบบนี้แล้วฉันก็รู้สึกดีใจขึ้นมา เพราะดูเหมือนว่าเขาลุกขึ้นแล้ว คงจะกลับไปนั่นแหละ แต่มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ เขากลับเดินตรงมาทางฉันหน้าตาเฉย
ปลายนิ้วของเขาที่ฉันรู้ดีว่ามันร้ายกาจแค่ไหนจับเข้าที่ต้นแขนของฉัน และทำให้ผิวกายตรงนั้นร้อนผ่าวราวกับถูกแตะด้วยถ่านไฟร้อน ๆ
“นายทำไมพูดไม่รู้เรื่องนะ ปล่อยฉันนะ” ฉันแทบจะร้องไห้ เมื่อถูกดันจนไปติดกับผนังด้านหนึ่งด้วยร่างสูงใหญ่ของคนเลว
ฉันมองโรมันอย่างตื่นตกใจเพราะท่าทางคุกคามนี้มันเหมือนกับตอนนั้นไม่มีผิด ลมหายใจของเขามีกลิ่นบุหรี่เมนทอลลอยมาจาง ๆ ทำให้รู้สึกปั่นป่วนไปหมด
“โรมัน นายอย่าบ้านะ นายเห็นฉันเป็นใครกัน” ฉันเริ่มตวาดแว้ดเพื่อข่มความกลัว แต่เขาไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าเลยสักนิด
ยังคงทำสีหน้าชาเฉยไร้ความรู้สึก แต่น่ากลัวเหลือเกิน ฉันได้แต่ดิ้นอึกอักอยู่กับอกเขาเมื่อร่างสูงใหญ่แนบมาจนชิด มือข้างหนึ่งของเขารวบทั้งสองมือของฉันเอาไว้ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนจะกดมันไว้เหนือหัว
ไม่นะ แบบนี้ไม่ดีจริง ๆ
“โรมัน!” ฉันเรียกชื่อเขาอีกครั้งด้วยความตกใจ
ทั้งที่เจ้าของชื่อก็เตือนแล้วว่าชื่อนี้เขาให้คนสนิทเท่านั้นเรียกได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะเสียใจที่เรียกแบบนี้ แล้วไงล่ะ ตอนนี้มัวแต่สนใจเรื่องนั้นได้เหรอ สิ่งที่ฉันต้องทำน่ะ คือ ทำยังไงก็ได้ให้เขาออกไปจากตัวของฉันสักทีต่างหาก
โรมันใช้สายตาหยาบคายของเขาลูบไล้ร่างกายของฉันที่ถูกตรึงติดผนังเหมือนเคย ทำให้ร้อนผ่าวไปหมด พาให้นึกถึงตรงไหนที่เขาสัมผัส ตรงไหนที่เขาพรมจูบอย่างแผ่วเบา
ฉันจะบ้าตายแล้วจริง ๆ ไม่รู้จะรับมืออย่างไรเลย
สายตาที่จับจ้องใบหน้างดงามนั้นเริ่มพร่าเลือน เมื่อโรมันแนบชิดหน้ามาจนใกล้ เพราะความเกลียด ความกลัวทำให้ฉันต้องเบี่ยงหน้าหนี คราวนี้ปลายจมูกของเขาเลยแตะลงต้นคอของฉันแทน ทำให้ร่างร้อนผ่าวและรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว
เส้นประสาททุกเส้นในร่างกายพร้อมใจกันทำงาน ความเจ็บปวดจากครั้งก่อนแล่นไปทุกส่วนของร่างกาย ฉันกลัวจนน้ำตาไหลลงมาไม่รู้ตัว
ปลายลิ้นที่ร้อนผ่าวของโรมันไล้น้ำตาจากปลายคางขึ้นไปถึงดวงตาของฉัน มันรู้สึกว่าชาวาบไปทั้งร่างกาย ใจของฉันต่อต้านแต่ร่างกายเริ่มตอบสนองทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว
โรมันปล่อยมือฉันให้เป็นอิสระแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังต่อต้านเขาไม่ได้ ยังถูกตรึงอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่ ลมหายใจที่ติดขัดของฉันสั่งตัวเองว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
“โร…โรม โรมัน…” ฉันเรียกชื่อเขาตะกุกตะกัก สั่นไปหมดทั้งตัวทั้งเสียง
ไม่รู้ว่าเขาร่ายมนตร์อะไรใส่ฉันกันแน่ แต่มันน่ากลัวเหลือเกิน
“หือ?” เขาครางรับแล้วก็พรมจูบเปลือกตาของฉันแผ่วเบา
มือข้างหนึ่งของเขาไล้ที่ต้นขาของฉันไปมาจนฉันต้องจับเอาไว้ ทำไงดี ราวกับว่าเขามีมือเป็นสิบมืออย่างนั้นแหละ เดี๋ยวแตะตรงนั้น เดี๋ยวจับตรงนี้จนฉันหัวหมุนไปหมดแล้ว
“อยากจะพูดอะไรเหรอ ตอบมาสิ” เขาพูดอยู่ชิดริมฝีปากของฉันนี่เอง
ฉันเบี่ยงหน้าหนีไปมาเพื่อไม่ให้เขาได้จูบฉัน ไม่สิ เขาบอกแล้วครั้งก่อนว่าเขาจะไม่จูบฉัน
เฮอะ! ผู้ชายคนนี้ช่างอวดดีจองหองซะจนน่าโมโห
แต่ที่น่าโมโหมากกว่านั้น คือฉันไม่สามารถต้านทานอะไรได้เลย
“ปล่อยฉันนะ” ฉันพูดเสียงสั่น แล้วยันอกกว้างของเขาไว้ด้วยมือสองข้างที่ไร้เรี่ยวแรง
ไม่ไหวแล้ว ฉันรู้สึกหัวหมุนแขนขาอ่อนแรงไปหมดเลย ทำไมกัน ทำไมมันเป็นแบบนี้
“ไปกับฉันสิ แล้วฉันจะปล่อยเธอ” เขาบอกแล้วก็ซอกซอนปลายนิ้วไปที่ท้ายทอยของฉัน
ฉันรู้สึกสั่นเยือกไปหมด ไรขนอ่อนทั่วร่างกายลุกชันเพราะสัมผัสนั้น นิ้วเรียวของโรมันเบี่ยงเส้นผมตรงท้ายทอยฉันขึ้น เปิดให้เห็นต้นคอของฉันที่ไม่ได้รวบผมขึ้นแบบนี้บ่อยนัก
โรมันดึงต้นคอของฉันให้ออกห่างจากผนังนิดหน่อย ก่อนที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาแตะลงไปที่ท้ายทอยของฉันอย่างแผ่วเบา ฉันเจ็บจี๊ดเพราะโรมันฝังเขี้ยวทั้งสองข้างลงมาด้วย ฉันเริ่มดิ้นน้ำตาเอ่อนึกโมโหตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย
“โรมัน ไปตายซะ ฉันเกลียดนาย ไปลงนรกซะ!” ฉันตะโกนด่าไป แต่เรี่ยวแรงไม่มีเหลือพอที่จะผลักไสเขาแล้ว
แล้วเขาก็เปลี่ยนจากฝังเขี้ยวเป็นพรมจูบและแทะเล็มแผ่วเบา รอยพวกนั้นมันต้องมีมากกว่าสามรอยแน่ ๆ ฉันรู้สึกแสบผิวไปหมดเพราะคมฟันจากเขี้ยวสองซี่ของเขานั่น
ใช่… โรมันเหมือนแวมไพร์เลย เขามีเขี้ยวสองซี่ที่ทำให้เจ็บได้ทุกเมื่อถ้าหากขยับแม้เพียงสักนิดแล้วละก็
ตอนนี้ปลายลิ้นร้อนชื้นของโรมันลากไปตามรอยฟันที่เขากัดเอาไว้ ฉันหลับตาลงกลั้นน้ำตาเอาไว้สุดชีวิต โรมันไล้ปลายลิ้นของเขาไปตามสันคางแล้วลากริมฝีปากไปเรื่อย ๆ ทั่วใบหน้าของฉัน
เข่าข้างหนึ่งของเขาแทรกเข้าเพื่อพยุงต้นขาฉันเอาไว้ ไม่อย่างนั้นฉันคงรูดตัวไปนอนกับพื้นแล้วแน่ สองมือที่เคยผลักไสเขาตองนี้กลายเป็นเกาะเกี่ยวอกเสื้อของเขาไว้ แต่เล็บของฉันคงจิกทะลุเสื้อเชิ้ตลงไปจนถึงผิวกาย ลมหายใจฉันถี่กระชั้นขึ้น เริ่มขาดเป็นห้วง ๆ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว ฉันเริ่มหัวหมุนหายใจหอบถี่อย่างทรมาน โรมันหัวเราะออกมาเบา ๆ เมื่อฉันกำลังจะแพ้เขาอีกแล้ว
ฉันใช้แรงที่มีเหลือสอดมือเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตของเขา ลูบไล้เหมือนอย่างที่เขาทำกับฉันก่อนจะเกาะไหล่เขาไว้ ก็เห็นรอยยิ้มน่าชิงชัง ฉันยิ้มบ้างก่อนจะออกใช้แรงทั้งหมดข่วนหลังของเขาเป็นทางยาวลงมาเต็มแรง
“Damn it!” เสียงโรมันตะคอกออกพลางนิ่วหน้าไปด้วย
สมน้ำหน้า…
คนอย่างเขาน่ะ อย่างเขาน่ะมัน…
“ซานต้า… เธอเล่นแรงเองนะ” เขาบอกแล้วก็ผละออกห่างเล็กน้อย
ฉันหมดเรี่ยวแรงรูดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างมึนงง เจ็บใจนักที่เรี่ยวแรงหดหายไปไหนหมดไม่รู้ ได้แต่นั่งหายใจหอบอยู่ใต้ร่างเขาแบบนี้ ฉันยกมือขึ้นมาลูบต้นคอตัวเองอย่างเจ็บแสบ นี่เป็นที่แรกที่โรมันทำสัญลักษณ์ไว้บนร่างกายฉัน มันเลวร้ายร้ายที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นกับฉันเลย
ไอ้บ้ากาม ไอ้ทุเรศ… ฉันด่าเขาในใจอย่างสุดทนแล้วก็หน้าซีดเผือด
เมื่อเสื้อเชิ้ตสีพื้นของผู้ชายก็หล่นมาคลุมตักฉันไว้ ไม่ทันได้รู้ตัวฉันก็เงยหน้าขึ้นแล้ว ก่อนจะเห็นโรมันกำลังแกะเข็มขัดอย่างไม่เร่งรีบด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา
เท่านั้น ฉันรีบดันตัวเองให้ลุกขึ้นมาทันที หัวใจแทบจะระเบิดคาอกข้างซ้ายให้ได้ แต่ก็ช้ากว่าแวมไพร์อย่างโรมัน เขาคว้ามือของฉันไว้แล้วก็ลากฉันไปที่เตียง
นั่นสินะ ถึงตอนนี้ฉันก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียอีกแล้วนี่
“ฉันจะทำให้หลังเธอมีรอยมากกว่าหลังฉันให้ดู ซานต้า ฉันขอสาบานเลย…”
ฉันกะพริบตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมาแว่ว ๆ รู้สึกปวดหัว เจ็บคอ เจ็บร้าวไปหมดทั้งร่างกาย ความเจ็บปวดนี่ดูเหมือนว่าจะเคยเจอมาก่อนแล้วแต่ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกอย่างไรกันแน่ ไม่นานฉันก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อสายตาไปปะทะกับแผ่นหลังของใครบางคน มันกว้างและเรียบตึงน่าลูบไล้ มีรอยข่วนนับไม่ถ้วนเป็นทางยาว และมีรอยเลือดรอยช้ำอย่างชัดเจน
ไม่บอกก็รู้ว่ามันเป็นแผ่นหลังของ… โรมัน
ฉันรีบพลิกตัวหนีทันทีแล้วก็นิ่วหน้าสาปแช่งเขาในใจ ฉันไม่ควรโง่ทำให้ตัวเองตกเป็นเหยื่ออีกแล้วไม่ใช่เหรอ ควรต้องไปแจ้งความแล้ว
แต่ฉันก็ไม่ทันได้ขยับตัวเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาเสียก่อน
“อ่า เรย์เหรอ อือ เดี๋ยวไป” เสียงโรมันน่ะ เหมือนว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“อือ… งั้นเจอกัน” เขาบอกแค่นี้แล้วเงียบไป ส่วนฉันก็ทำเป็นแกล้งหลับเผื่อว่าไอ้บ้าสารเลวโรมันจะได้ออกไปพ้น ๆ หน้าสักที
“ฉันรู้ว่าเธอตื่นแล้ว ซานต้า ไปกับฉัน” จบคำพูดนั้น น้ำหนักจำนวนหนึ่งก็หายไปจากเตียง รวมทั้งไออุ่นข้างตัวด้วย
ฉันหลับตาลงเม้มริมฝีปากตัวเองเพื่อไม่ให้ได้หลุดเสียงด่าสาปแช่งอะไรออกไป เสียงกุกกักที่ดังขึ้นมาทำให้รู้ว่าโรมันกำลังทำอะไรสักอย่าง แต่ฉันไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าเขาตอนนี้
“ซานต้า!” เขาเรียกชื่อฉันอีกครั้งแล้วก็กลับมาที่เตียงอีกหน
มือที่แข็งราวกับคีมเหล็กของโรมันจับหน้าฉันไว้ บีบแรง ๆ ที่แก้มให้ฉันลืมตาสบมองอย่างชิงชัง ฉันจ้องเขาไม่ยอมหลบ ให้มันรู้กันไปสิ
“ลุกขึ้นแล้วไปกับฉัน”
“เรื่องอะไรที่ฉันต้องไปกับนาย!” ฉันตะโกนใส่หน้าเขาอย่างเหลืออด ผู้ชายคนนี้เกินไปแล้วจริง ๆ
ที่ทำอยู่เนี่ย มันหมายความว่าไง…
“หรือว่าอยากให้เพื่อนเธอมีชะตากรรมเดียวกับเธอล่ะ”
คำพูดแสนชั่วร้ายที่หลุดออกมาจากปากโรมันทำให้ฉันจ้องหน้าเขานิ่ง สมองทำงานอย่างหนักหน่วงกว่าจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร
“เพื่อนเธอที่ชื่อโบว์น่ะ เธอเป็นคนให้ที่อยู่ที่นี่ของเธอให้ฉันเอง…” เขาบอกแล้วผละออกไป หยิบเสื้อเชิ้ตที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมท่าทางสบายใจ ไม่สนใจสีหน้าของฉันที่กำลังตกใจทั้งโกรธอยู่เลย
“หล่อนคิดว่าเธอน่ะ คบกับฉันอยู่แล้วงอนเรื่องอะไรไม่รู้ ฮึ! ผู้หญิงนี่บ้าดีนะ ฉันใช้ให้ไอ้เชสไปอ้อนเอาเบอร์กับที่อยู่เธอมาน่ะ ไม่คิดว่าจะได้มาง่าย ๆ แบบนี้”
“คนชั่ว! ขอให้นายตกนรกเร็ว ๆ” ฉันตะโกนออกไปอย่างสุดทน ก็เห็นโรมันพยักหน้ารับเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกเจ็บคันอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ลุกขึ้นมา เธอต้องไปอยู่กับฉัน”
“มันเรื่องอะไร ไปไหนก็ไปเลยนะ ฉันจะคิดว่าฉันทำทานให้นาย คนชั่ว ๆ อย่างนายน่ะต้องกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แล้วนายจะไม่ได้มารบกวนฉันอีก”
“โทษทีฉันไม่ใช่พุทธ ฉันคริสต์” คำพูดของเขาทำให้ฉันคลั่งแทบจะกรี๊ดออกมาเหมือนคนบ้า
“ลุกขึ้นมาซานต้า เร็วเข้าก่อนที่ฉันจะอารมณ์ไม่ดีอีก” โรมันบอกพลางยิ้มที่มุมปาก แล้วก็อ้าปากหาว
เมื่อเขาทำแบบนี้ก็ทำให้ฉันเห็นเขี้ยวสองซี่ชัดเจน เมื่อเห็นแบบนั้นก็เผลอยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองโดยไม่รู้ตัว
“ซานต้า… จะมามั้ย? หรือฉันต้องทำให้เธอหมดเรี่ยวหมดแรงจริง ๆ แล้วยัดใส่กระสอบลากกลับไปด้วยกันน่ะ”
สิ่งที่ได้ยินมันทำให้ฉันทั้งฉุนทั้งอายในเวลาเดียวกัน
คนอย่างเขามัน…
“ลุกมาซะซานต้า ฉันเตือนเธอดี ๆ แล้วนะ” โรมันกอดอกด้วยท่าทางหงุดหงิดแล้วมองฉันแน่วนิ่ง
ดวงตาดำสนิทของเขาทำให้ฉันไม่สามารถมองเห็นแววตาหรือร่องรอยอะไรได้เลย มันเวิ้งว้างว่างเปล่าเสียจนขนลุก แต่จะให้ฉันทำตามง่าย ๆ เหรอ ก็ไม่พ้นจะถูกรังแกเอาเหมือนเดิมอีก
“นายก็ให้พ้น ๆ หน้าฉันสิ!” ฉันพูดไปแล้วก็กัดริมฝีปากตัวเองแน่น เพราะโรมันเม้มปากบ้างแล้ว
เขาขืนใจฉันนะ จะให้ฉันยิ้มยินดีทำตามทุกอย่างที่เขาบอกหรือไง
แต่…
สายตาของโรมันในเวลานี้ก็น่ากลัวมาก แล้วถ้าหากว่าเขาคิดจะรังแกอีกล่ะ
คราวนี้ฉันอาจจะยับเยินกว่าเดิมก็ได้
แล้วไหนจะโบว์อีก ถ้าหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับโบว์ด้วยอีกคน ตลอดชีวิตนี้ฉันคงข่มตาหลับไม่ได้อีกแล้ว
คิดแบบนั้นแล้วฉันก็สูดหายใจ ยอมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย
“ออกไปก่อนสิ ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า”
ฉันไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าจะยอมตามโรมันออกมาง่าย ๆ อย่างนี้ และเพราะร่างกายยังเจ็บระบมอยู่เลยเดินได้ไม่เป็นปกติเลย ไม่เหมือนกับโรมันที่เดินลิ่วนำไปแล้ว
หมอนั่นเป็นบ้าแล้ว เขาเก็บกระเป๋าฉันไปด้วย เขาต้องการอะไร ฉันไม่เข้าใจเลย
โรมันพาฉันเดินมายังอู่ที่คึกคักที่มาครั้งก่อนนั่น ไม่มีใครสนใจเราเพราะตอนนี้มีการแข่งเจ็ทสกีคู่ฮอตกำลังแข่งกันอยู่ในบึง เขาเลยพาฉันมาที่ห้องพักห้องหนึ่งแต่ไม่ใช่ห้องของเขาหรอกนะ อย่าได้เข้าใจผิดไป
“อยู่ห้องนี้แหละ ฉันอยู่ห้องข้าง ๆ มีอะไรก็เคาะเรียกได้ตามสบาย” เขาวางกระเป๋าของฉันลงที่พื้นแล้วก็พูดเสียงเรียบ
“ทำไมต้องพาฉันมาอยู่กับนายด้วย มีอะไรอย่างนั้นเหรอ” ฉันถามเขาแล้วก็คิดหาคำตอบไปด้วย
หรือว่ายัยโบว์จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันแล้วก็ขู่ให้เขารับผิดชอบ หรือมีอย่างอื่นอีก
“อย่างที่บอก” เขาบอกแล้วก็เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับฉันอีกครั้ง
“ฉันคิดแต่เรื่องเธอไม่หยุดเลยขอพิสูจน์ว่าถ้าเธออยู่ใกล้ ๆ แบบนี้แล้วฉันจะคิดถึงเธออยู่มั้ย?” โรมันพูดพลางเสยผมขึ้น
“นายมันบ้า”
หมายความว่าไง ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิด
“ใช่… ฉันก็ว่างั้นแหละ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องอยู่ที่นี่จนกว่าฉันจะเบื่อเธอ”
คำพูดเห็นแก่ตัวของโรมันทำให้ฉันเม้มปากแน่น เขาไหวไหล่เมื่อเห็นฉันจ้องเขม็งแบบนี้ ท่าทางเขาจะทำอย่างนี้กับผู้หญิงมามากมายแล้ว เลยชินที่จะเห็นสายตาแบบนี้
“ไม่ต้องกลัวไปหรอก ฉันให้เงินเธอดีแน่นอน”
“ไอ้ชั่ว! ฉันไม่ใช่โสเภณีนะ” คำพูดของเขาที่ใช้กับฉันทำให้เดือดจี๊ดขึ้นมาทันที
โรมันทำท่าแคะหูตัวเอง ก่อนจะมองฉันด้วยนัยน์ตาดำสนิทที่อ่านไม่ออกนั่นอีกครั้ง
“ซานต้า… เธอเป็นของฉันนะ ตั้งแต่ที่ไอ้เอ็มเอาเธอมาพนัน เธอก็เป็นของฉันแล้ว เข้าใจมั้ย?”
คำพูดเห็นแก่ตัวนั่นทำให้หัวใจของฉันเหมือนถูกรัดด้วยเส้นเอ็นที่ตึงเปรี๊ยะ ไม่รู้ว่าหัวใจหรือเส้นเอ็นนั้น อย่างไหนจะขาดสะบั้นก่อนกัน
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเอ็ม”
เอ็มพูดอะไรกับโรมันกันแน่ โรมันถึงได้ยังเข้าใจอะไรไม่เข้าท่าอย่างนี้
“แล้วเธอมีพยานมั้ย ตอนที่เธอเดินมากับเอ็มคราวก่อนคนอื่น ๆ ก็รู้กันทั่วว่าเธอเป็นเด็กของไอ้เอ็ม หรือจะเถียง อีกอย่างฉันหมดกับไอ้เอ็มเกือบแสน ไม่ต้องห่วงฉันจะใช้จากเธอจนคุ้มแน่นอน” เขาพูดมาแบบนี้ และทำให้ฉันตอบโต้อะไรไม่ได้เลย
“อยู่ดี ๆ ทำตัวดี ๆ ฉันอาจจะเอ็นดูเธอนาน ๆ” พูดจบโรมันก็เดินเลยผ่านฉันไปทางประตู
ส่วนฉันก็ทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ ที่พื้นแล้วร้องไห้ทันที ทั้งกลัวทั้งไม่เข้าใจ ฉันน่าจะไล่เขาออกจากห้องให้ได้ ไม่ตามมาที่แบบนี้ ไม่อย่างนั้น…
ฉันนั่งร้องไห้อยู่นานก่อนที่จะมีมือหนึ่งมาตบไหล่เบา ๆ ตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ ฉันคิดในใจอย่างฉุน ๆ ก่อนจะปัดมือนั้นออกเต็มแรง คงจะเป็นซาตานร้ายอย่างโรมันนั่นแหละ ไม่มีใครอีกแล้ว
“เฮ้อ… น่าสงสารจัง ของเล่นใหม่ของโรมเหรอ”
ไม่ใช่… เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของโรมัน
ฉันเงยหน้าที่มีแต่คราบน้ำตาขึ้นมองเจ้าของมือและเสียงนี่ทันที ก็เห็นว่าเป็นผู้ชายหัวทองทั้งหัว เจาะหูหลายรูมีกลิ่นอายท่าทางเหมือนโรมันไม่ผิดเพี้ยน เขากำลังเอียงคอมองมาอย่างสนใจ
ผู้ชายคนนี้ใครกัน…
“สงสัยใช่มั้ยว่าฉันเป็นใคร” เขาถามแล้วก็ยกมือขึ้นเกาท้ายทอย ถึงจะดูคล้ายกับโรมัน แต่อะไรบางอย่างก็ทำให้เขาดูเหมือนจะสว่างกว่าผู้ชายคนนั้น
“ฉันเกียร์” เขาตอบสั้น ๆ แล้วก็จ้องมองฉันไปด้วย
‘เกียร์’ คือชื่อของเขาสินะ
“เพื่อนโรม” เขาพูดแล้วก็เอียงหน้าไปมา
“เธอล่ะ เป็นเด็กใหม่ของโรมเหรอ”
โรม… ที่ว่านี่คงจะหมายถึงโรมันสินะ
“คงงั้น” ฉันเช็ดน้ำตาแล้วก็ลุกขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะจ้องหน้าเขาบ้าง
พวกเขามีบุคลิกที่คล้ายกันมากทีเดียว เพียงแต่ว่าทั้งผมทั้งสีตาของโรมันจะเป็นสีดำ ส่วนผู้ชายคนนี้ ทั้งเส้นผม ทั้งดวงตาจะเป็นสีอ่อนเท่านั้น อย่างอื่นแทบไม่แตกต่างกันเลย ทั้งท่าทาง ทั้งน้ำเสียง สีหน้า พวกเขาเหมือนกันจริง ๆ
“หมอนั่นถูกตามใจจนเคยตัวแล้ว อย่าถือสาเลย” เขาพูดแล้วก็มองฉันนิ่ง ๆ บ้าง
อย่าถือสา… อย่างนั้นเหรอ แน่ละว่าเกียร์ไม่รู้ว่าโรมันทำเลวยังไงกับฉันไว้บ้าง เขาเลยไม่รู้ว่าฉันจะไม่ยกโทษให้ผู้ชายสารเลวคนนั้นเด็ดขาด ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทาง
“แล้วนายเป็นใครเหรอ” ฉันเช็ดคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่บนแก้มแล้วก็ถามด้วยเสียงที่นุ่มลง
ถ้าเผื่อว่ายุ่งกับเพื่อนของโรมัน เขาอาจจะโมโหแล้วปล่อยฉันไปก็ได้นะ
หรือไม่ ก็อาจจะขอให้เขาช่วยพาออกไปจากที่นี่ได้
“ฉันเกียร์ เพิ่งมาจากไมแอมี เพื่อนโรมัน”
“ฉันซานต้า” ฉันบอกแล้วพยักหน้าไปด้วย
“เธอคงทำเรื่องให้หมอนั่นโมโหสุด ๆ ไปเลยละสิ” เกียร์ถามแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“หือ?” ฉันเป็นฝ่ายถามเขากลับไปอย่างไม่เข้าใจ
“ก็คอเธอน่ะ มีรอยกัดด้วย หมอนั่นน่ะถ้าไม่โกรธจริงไม่กัดใครแบบนี้หรอก”
ฉันยกมือขึ้นลูบท้ายทอยของตัวเองทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น ทั้งอายทั้งกลัวแต่ก็พยายามทำตัวให้นิ่งเท่าที่จะทำได้ แล้วก็มองเกียร์อย่างใช้ความคิดไปด้วย
“เกียร์…” ฉันลองเรียกเขาดู ก็เห็นเขาพยักหน้ามาให้
“ต้องทำยังไงโรมันถึงจะปล่อยฉันไป”
“โรมน่ะเหรอ หมอนั่นขี้เบื่อไม่ชอบผู้หญิง และไม่ชอบสุด ๆ ถ้าเกิดว่าผู้หญิงคนนั้นมายุ่งกับฉัน” เกียร์พูดพลางยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
งั้นเหรอ เป็นอย่างนั้นหรอกเหรอ…
“แต่ซานต้า… ฉันไม่รักใครนอกจากโรม”
เกียร์พูดอะไรบางอย่างออกมา ขณะที่สบตากับฉันแน่วนิ่ง
เขารักโรมัน… ใช่ ฉันได้ยินไม่ผิดหรอก
“ฉันรักโรม คนเดียวเท่านั้น”
ฉันไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดี และรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่ไหวเลย
“เธอใช้ฉันเป็นเครื่องมือไม่ได้หรอก ซานต้า…”
นิยายเรื่องนี้หมดสัญญากับทางสำนักพิมพ์แล้ว
มู่เลยนำมาทำ E-Book เองค่ะ
สามารถซื้อ E-Book ได้ที่ Meb เลยนะคะ
กดที่รูปปกใหม่เพื่อซื้อได้เลยค่ะ
ขอบคุณจากใจมาก ๆ เลยนะคะ
หรือ >>Click!!<<
Song :: Tauren Wells - Hills and Valleys (Acoustic Video)
ความคิดเห็น