คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Café Mania (P.II) ☕️ 01...50%
Lucas’s Girl
ดื่มนี้เพื่อรักเรา
1 drink got me feeling a little hot and bothered
(pour a little more)
Two seconds from doing something awkward
2 drinks oh my body's calling out to you
(oh it's calling out for you)
3 drinks now I'm reaching for my cell phone
and even though what I'm doings wrong
And it's 3 in the morning got me feeling horny
Boy please come console me
1 ดริ๊งก์ ทำให้ฉันร้อนหน่อย ๆ และวุ่นวายใจ
(ก็เลยต้องดื่มต่ออีกเล็กน้อย)
2 ดริ๊งก์ ร่างกายของฉันมันร่ำร้องถึงคุณ
(มันร้องหาแต่คุณ)
3 ดริ๊งก์ ตอนนี้ฉันเอื้อมมือหาโทรศัพท์
ถึงแม้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันจะไม่ถูกต้อง
และนี่มันตีสามแล้ว แต่ฉันกลับมีอารมณ์รัก
ที่รัก มาหาและปลอบโยนฉันที
Song :: Ashley Tisdale – Drink Up In Me
Lucas’s Girl
~01~
(…50%)
“เฮ้! ฟังฉันหน่อยได้มั้ย?”
ฉันพูดแล้วก็สะอึกออกมาเบา ๆ
อา… แย่จัง รู้สึกว่าหัวหมุนไปหมดเลย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือจะเป็นจาโน่ที่ดื่มเข้าไปประมาณแปดแก้วกันแน่นะ
ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าไอ้เครื่องดื่มที่เรียกว่าจาโน่มันคืออะไร เป็นชื่อเฉพาะที่มีแค่ที่นี่ที่เดียวหรือเปล่า
แต่ที่รู้ มันทำให้ฉันมึนหัวเอาเรื่องเลย
“อือ ครับ ฟังอยู่ครับ”
เสียงเนือย ๆ ของผู้ชายร่างสูงที่กำลังเช็ดแก้วอยู่ตรงหน้าฟังดูแล้วเหมือนเขายอมฟังฉันพูดนะ แต่สีหน้าหยิ่งยโสนั่นน่ะ มันอะไรกัน
“ทำไมไม่ฟังฉันบ้างงงงง ทำไมทุกคนถึงได้แต่ทรยศหักหลังฉันล่ะ”
พูดจบฉันวางแก้วลงกับบาร์ดังปึก!
นึกแล้วฉันก็อยากจะร้องไห้ เพราะสิ่งที่ได้เจอมามันทำให้เจ็บเหลือเกิน
หลังจากที่ฉันดั้นด้นมาหาแฟนถึงกรุงเทพฯ แล้วผลที่ได้กลับไปเจอภาพบาดตาบาดใจเข้าซะอย่างนั้น
หลงคิดว่ารักแท้มันมีอยู่จริง เราถึงได้กันมานาน ฉันคบกับแฟนคนนี้ถึงสี่ปีเชียวนะ สี่ปีที่แสนยาวนานทำไมถึงพังลงได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
ฉันเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างจังหวัด ส่วนแฟนของฉัน เขาเป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนตอนที่เรียนมัธยม เราสองคนเรียนมัธยมด้วยกัน เริ่มคบกันตอนที่เราเข้าปีหนึ่งกันใหม่ ๆ ฉันเรียนต่างจังหวัด ส่วนเขาเรียนที่กรุงเทพฯ
เมื่อปิดเทอมเราก็จะไปเจอกันที่บ้านที่ต่างจังหวัด ซึ่งเราอยู่จังหวัดเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะได้เจอกันนานครั้ง ฉันก็ยังปักใจเชื่อว่าเขาจะมั่นคงไม่เปลี่ยนไป
โอ๊ย! พูดแล้วมันเศร้า ไม่คิดว่าคนที่ฉันหลงเชื่อใจเขาทุกอย่างจะหักหลังกันซะดื้อ ๆ แบบนี้
คิดดูสิ สี่ปีเชียวนะ ทั้งที่อยู่มหา’ลัย ฉันก็มีคนมาชอบตั้งหลายคน แต่ฉันก็ยังบ้า ยังโง่มีแค่เขาคนเดียว
นึกไม่ถึงว่าเขาจะนอกใจฉันตั้งแต่เขาอยู่ปีหนึ่งเลย
โธ่เอ๊ย! ผู้ชายนี่มันแย่กันไปหมดเลยทุกคนหรือไงนะ
“ผู้ชายแย่ ๆ แบบนั้นทิ้งไปเถอะครับ สวย ๆ อย่างคุณคงหาใหม่ได้ไม่ยาก” เสียงเขาพูดออกมาอย่างเอือมระอา แล้วทำท่าจะหนีฉันไปอีกมุมหนึ่งของบาร์
“เหมือนฉันเคยได้ยินคำนี้มาก่อนเลยละ ตลกจัง” ฉันพูดแล้วก็ยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าปรกตาขึ้น
“ใช่ครับคุณมีมี่ ผมบอกคุณรอบที่หกแล้ว และคุณก็เล่าเรื่องแฟนเฮงซวยของคุณให้ผมฟังประมาณเจ็ดแปดรอบแล้วเหมือนกัน!”
เอ๋? เขารู้ได้ไงนะว่าฉันชื่อ ‘มีมี่’
แล้วฉันเล่าเรื่องพวกนั้นให้เขาฟังไปแล้วอย่างนั้นเหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย
“ขออีกแก้วสิ” ฉันเลิกสงสัยในตัวเขาแล้วก็หันไปสั่งค็อกเทลอีกแก้วหนึ่ง
“คุณเมาแล้วละ พอเถอะ” เขาบอกก่อนจะผสมค็อกเทลให้ลูกค้าคนอื่นต่อ
“ฉันยังไม่เมานะ เอามาให้ฉันอีกแก้ว ฉันเป็นลูกค้านะ!” ฉันพูดแล้วก็ตบโต๊ะดังปึง
ได้ผล คนที่นั่งดื่มอยู่แถวนี้หันมามองฉันเป็นตาเดียว ทำไมล่ะ มีอะไรผิด ฉันอยากจะดื่มแล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับใคร เงินฉันก็มีนะ
“อยากจะบ้าตาย…”
คำพูดคำนี้ของเขาเนี่ย เขาว่าฉันอยู่หรือเปล่านะ
Lucas’s talking…
ผมชื่อ ‘ลูคัส’ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ‘ลุค’ น่ะ
พอไอ้พีทไม่อยู่ผมก็งานเข้า ให้ตาย เป็นบาร์เทนเดอร์นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
สังหรณ์ใจไม่ดีตั้งแต่ก้าวออกจากห้องแล้วเชียว พอมาถึงที่ร้าน มาสเตอร์เจ้าของร้านก็บอกให้ผมมาชงเหล้าซะงั้น
คนในร้านไม่พอ รู้สึกว่าไอ้พีทก็ไม่มา ไอ้ชิน[1]ก็ไม่มา แฟนของชินก็ไม่มา
พูดแล้วหงุดหงิด ไอ้ชินพอมีแฟนแล้วไม่ค่อยเข้าร้านเลย เห็นแล้วทั้งหงุดหงิดทั้งอิจฉาเป็นบ้า
และให้ตาย วันนี้ที่ร้านคนเยอะมาก เรื่องคนเยอะก็ไม่เท่าไหร่หรอกนะ แต่เรื่องลูกค้าขี้เมานี่สิ มันชวนปวดหัวเหมือนไมเกรนจะขึ้นเลย ไม่รู้ว่าไอ้พีททนได้ยังไงกัน
แล้วดูตอนนี้สิ มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเมาได้ที่เอาแต่พูดจาซ้ำไปซ้ำมาวกวนจนผมแทบประสาทจะกินอยู่แล้ว เสียดาย น่ารักซะเปล่า แต่นิสัย… โอย อย่าให้พูดเลยดีกว่า
“นาย นาย คุณ คุณค้า เอามาอีกแล้วสิ” เธอพูดเสียงหวานที่ฟังดูแล้วสั่นพร่านิดหน่อย ก่อนจะปรือตาที่เยิ้มฉ่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์จ้องมองผม
ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกำลังมอมเหล้าเด็กอะ
“ไม่ดีมั้ง เอาอย่างอื่นดีกว่านะ” ผมพยายามเลี่ยง แล้วก็ส่งสายตาให้มาสเตอร์มาลากผู้หญิงคนนี้กลับโต๊ะที่เธอมาตอนแรกสักที
“นะ ๆ ฉันขออีกแก้ว ทำไมผู้ชายถึงใจร้ายล่ะ!” แล้วเธอก็วกกลับไปเรื่องเดิมอีกครั้ง
ประสาทจะกิน…
ผมเลยแกล้งผสมค็อกเทลให้เธอไป แต่เอาน้ำมะนาวเพียว ๆ ให้เลย เดี๋ยวจะได้สร่างเมาสักที ผู้หญิงเวลาเมาแล้วไม่น่ามองเลยจริง ๆ นะ
หลังจากหลอกล่อเธอด้วยค็อกเทลปลอมที่ทำด้วยน้ำมะนาวเธอก็นั่งดื่มแล้วก็เงียบเสียงลงไป พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของพี่เชน[2] ที่เดินมาหาเหมือนจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“พาคุณผู้หญิงคนนี้กลับไปที่โต๊ะเดิมทีมาสเตอร์ เมาไม่รู้เรื่องแล้ว” ผมเดินไปกระซิบข้างหูพี่เชนแล้วก็ชำเลืองดูเธออีกนิดหน่อย
ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำบาปอย่างใหญ่หลวง ทั้งที่ก็ไม่ได้บังคับให้เธอดื่มเข้าไปสักนิด มันเรื่องบ้าบออะไรก็ไม่รู้สิ
“เธอมาคนเดียวนะ ไม่เห็นมากับเพื่อนเลย”
พอพี่เชนตอบมาแบบนี้ ผมก็รู้สึกว่ามีก้อนหินหนักสักตันหนึ่งตกใส่หัวอย่างรุนแรง
ตายละวา… แล้วเมาไม่รู้เรื่องแบบนี้จะทำยังไงล่ะทีนี้
“มาสเตอร์แล้วเอาไง เธอเมาเละเทะเลย” ผมบอกแล้วก้มองเธอที่ฟุบหลับไปบนบาร์อย่างไม่สบายใจ
ให้ตายเถอะ… มันรู้สึกแย่จริง ๆ นะ
“เดี๋ยวนะขอไปเสิร์ฟอาหารก่อน” แล้วมาสเตอร์ก็จากไปโดยไม่สนใจผมเลย
โชคดีมากที่วันนี้เป็นวันธรรมดา ลูกค้าในร้านเลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
ถ้าเป็นวันศุกร์ละก็ พวกเราจะไม่ได้พักกันเลย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ชวนให้หัวเสียอย่างมาก
สุดท้ายเรื่องราวของสาวขี้เมาจบลงยังไงอยากรู้ไหม…
ผมต้องหิ้วเธอกลับคอนโดยังไงล่ะ
โอ๊ย! เรื่องเวรอะไรวะเนี่ย
“นี่! อยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ เป็นมั้ย?” ผมหันไปตะคอกใส่คนที่เมาไม่รู้เรื่องอย่างหงุดหงิด มือไม้เปะปะแถวหลังผมอย่างอยู่ไม่สุข
ให้ตายเถอะ! หลังจากที่ร้านปิดพี่เชนก็ต้องกลับบ้านด่วนเพราะมีธุระอะไรสักอย่าง ไอ้เพื่อนที่ทำงานด้วยกันก็บอกว่ามีรายงานบ้าง มีนัดกับเพื่อนบ้าง ไม่มีใครสนใจผู้หญิงตัวเล็กที่เมาแอ๋คนนี้เลยสักคน
แล้วตอนนี้เกือบตีหนึ่ง ผมอยากจะรู้นักว่าเพื่อนของไอ้คาเมลกับไอ้วินซ์มันจะนัดกันไปที่ไหน
พูดแล้วโมโห กลายเป็นว่าผมต้องลากร่างเล็ก ๆ ของยัยขี้เมาคนนี้กลับมาซะอย่างนั้น
“ลาลาลา~ ไอ้บ้านรกแตก นายนอกใจฉัน!”
ผมอยากจะเอาหัวโขกกับผนังลิฟต์แรง ๆ สักทีจัง
ตอนนี้ผมกำลังลากผู้หญิงขี้เมาที่ชื่อมีมี่กลับห้องอย่างไม่เต็มใจ แถมเธอก็เมาจนพูดจาอะไรไม่รู้เรื่องเลยด้วย อย่างที่ว่านั่นแหละ
เธอคนนี้ ‘มีมี่’ กำลังพร่ำถึงแฟนเก่าของเธออยู่
แล้วไงล่ะ ผมประคองเธออยู่นี่ ตอนนี้คนที่ขึ้นลิฟต์มาด้วยก็มองผมเป็นผู้ชายใจหยาบช้าที่นอกใจแฟนไปแล้ว
ถ้าโยนเธอไว้ข้างทางจะมีใครด่าผมไหมนะ
“ทำไมนายทำอย่างนี้ ฉันอุตส่าห์เชื่อใจนาย มีแค่นายคนเดียว แต่นายกลับเอาผู้หญิงอื่นมานอนด้วยแบบนี้ ทำไมนายใจร้าย!” พูดแล้วเธอก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกับทุบอกผมแรง ๆ ไปด้วย
ผมเพิ่งเข้าใจคำที่ว่า ‘ชาวนากับงูเห่า’ ชัดเจนแจ่มแจ้งก็ตอนนี้แหละ
“นายมันใจร้าย นายทำอย่างนี้ได้ยังไง”
เฮ้อ… ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อถึงชั้นของตัวเองแล้ว และจัดการลากยัยผู้หญิงประสาทเสียคนหนึ่งออกมาจากลิฟต์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสียงซุบซิบนินทาดังตามมาจนผมอยากจะเตะผู้หญิงคนนี้กลับเข้าไปในลิฟต์ตามเดิมซะจริง
วันนี้วันซวยอะไรกันแน่เนี่ย
ผมโยนมีมี่ไปนอนที่เตียงก่อนที่ผมจะนั่งลงที่พื้น เอนหลังพิงเตียงอย่างเหนื่อยล้า เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ เกิดมาก็ยังไม่เคยจะทำแบบนี้เลยสักครั้ง นี่ผมชักจะไม่ปกติไปทุกทีแล้วใช่ไหม
“ดูสิ ฉันอยากจะตาย ฉันมาหานายนะ แต่ทำไมนายถึงนอกใจฉัน!”
เฮ้อ… ผมถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน
“ยีนส์ ทำไมนายทำอย่างนี้”
เสียงเพ้อของมีมี่ทำให้ผมรู้ว่าแฟนเฮงซวยของเธอชื่อยีนส์ น่าจะนะ…
แปลกนะ แล้วผมก็ลากเธอกลับมาห้องง่าย ๆ ซะอย่างนั้นแหละ รู้แค่ชื่อและบ้านของเธอที่เธอเล่าว่ามาจากต่างจังหวัดน่ะ นอกจากนั้นผมไม่รู้เรื่องอะไรของเธอเลย
“นาย เอาค็อกเทลมาให้อีกแก้วสิ อิ ๆ ฉันอยากจะเมา”
“เธอเมาแล้ว…” ผมบอกอย่างเอือมระอา นี่ยังไม่รู้ตัวสินะว่าตัวเองเมามากแค่ไหนกันน่ะ
“ยังไม่เมา นี่คุณบาร์เทนเดอร์ ทำไมผู้ชายถึงเลวทรามต่ำช้ากันเหรอ ทำไมกัน”
คำถามนี้ทำให้ผมรู้สึกอยากจะเหวี่ยงเธอออกไปนอกโลก แต่ก็พยายามห้ามตัวเองเอาไว้ สิ่งที่ทำอยู่เนี่ยมันไม่ใช่เรื่องปกติที่เป็นเลย
อีกอย่าง ผมทนมองหน้าของเธอไม่ได้ล่ะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
“คุณบาร์เทนเดอร์ แฟนฉัน… อึ๊ก! ไม่สิ ไอ้แฟนเก่าสารเลวเฮงซวยนั่นบอกฉันว่าผู้ชายสามารถนอนกับผู้หญิงได้ทุกคนนั่นแหละ โดยที่ไม่ได้รู้สึกรักอะไรเลย จริง ๆ น่ะเหรอ แล้วคุณบาร์เทนเดอร์ทำอย่างนั้นด้วยใช่มั้ย” เธอพูดอ้อแอ้แล้วก็ยังเหวี่ยงมือมาตบไหล่ตบหัวผมเล่นอีก
โอ๊ย! ผมคิดว่าตัวเองเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ ที่หิ้วยัยนี่กลับมา
“บางทีน่ะ…” ผมพูดแล้วก็จับมือเธอที่ฟาดหัวตัวเองเอาไว้นิ่ง ๆ
แต่แล้วก็รู้สึกว่ามือของผู้หญิงที่มันนุ่มนิ่มดีจริง ต่างจากของพวกผู้ชายอย่างชัดเจน จนเผลอจับไม่ปล่อย
“ความอยากมันก็อยู่เหนือเหตุผลใด ๆ น่ะนะ” ผมบอกแล้วก็ถอนหายใจ
อย่างตอนนี้ไง ผมรู้สึกอยากจะจูบมือของเธอขึ้นมาซะอย่างนั้น ต้องตั้งสติแทบไม่ทัน
“แต่ผู้หญิงที่ทำให้ความอยากของผู้ชายพลุ่งพล่านขึ้นมาได้ก็ไม่ใช่ว่าเป็นกับทุกคน มันจะต้องเป็นใครสักคนที่ดึงสัญชาตญาณดิบในตัวผู้ชายออกมาได้”
อย่างเช่นมีมี่ เธอก็กำลังทำอย่างนั้นกับผมเหมือนกัน
อืม… สถานการณ์ตอนนี้มันอันตรายสำหรับทั้งผมทั้งเธอเลยไม่ใช่เหรอ แล้วทีนี้จะเอายังไงดีเนี่ย…
“นอกจากนั้นก็อาจจะเมา ไม่ได้สติ ประมาณนั้นละมั้ง” ผมพูดแล้วก็ก้มลงมองมือตัวเองทันที
เพิ่งรู้ว่าตอนนี้ผมลูบไล้มือเล็กของคนขี้เมาไม่ยอมปล่อย ผมส่ายหน้ากับพฤติกรรมของตัวเองก่อนจะปล่อยมือเธอออก และมือเธอก็วางอยู่บนไหล่ผมอย่างนี้นี่แหละ
แล้วทำไมเธอเงียบไปนะ…
พอหันกลับไปมองคนเมาดูอีกที ผมนึกอยากจะเอาหมอนกดหน้าเธอให้ตายไปเลย
ยัยนี่หลับไปแล้ว ครับ ดีครับ…
ผมรู้สึกแปลกใจกับตัวเองเหลือเกิน ที่ทำเรื่องเหลือเชื่อลงไปโดยที่ก็ไม่เข้าใจตัวเอง ตอนนี้บนเตียงก็มีผู้หญิงแปลกหน้าขี้เมาและอกหักมานอนอยู่คนหนึ่ง
และเรื่องนี้คงไม่จบง่าย ๆ หรอกใช่ไหม
แล้วผมล่ะ คืนนี้ต้องไปนอนที่ไหนเนี่ย
มันทั้งเหนื่อยทั้งง่วงไหนจะต้องประสาทเสียกับผู้หญิงขี้เมาอีก เป็นวันที่แสนยาวนานเหลือเกิน
ผมลุกขึ้นกอดอกมองดูผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่หลับไปบนเตียงด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เอาเถอะ ยังไงคืนนี้ก็ไล่เธอกลับไปไม่ได้อยู่แล้วนี่นา
แล้วนั่นอะไรน่ะ
กระโปรงสั้นแค่เข่า เสื้อยืด แล้วก็สวมทับด้วยแจ็กเก็ตตัวเล็ก เธอจะนอนสบายไหมนั่น
โอ๊ย! แล้วทำไมต้องมาคิดวุ่นวายมากเรื่องกับผู้หญิงคนนี้ด้วย ไม่เข้าใจตัวเองเลย ไอ้บ้าลุค!
เฮ้อ… ผมได้แต่ถอนหายใจรอบที่ล้านของคืนนี้
End Lucas talk…
[1] ชิน และ บลู จากนิยายเรื่อง Café Mania (P.I) ที่รักครับผมเอาหัวใจมาเสิร์ฟ เขียนโดย Miracle
[2] เชน และ พู่ไหม จากนิยายเรื่อง Café Mania (P.I) ที่รักครับผมเอาหัวใจมาเสิร์ฟ เขียนโดย Miracle
นิยายเรื่องนี้หมดสัญญากับทางสำนักพิมพ์แล้ว
มู่เลยนำมาทำ E-Book เอง
สามารถซื้อ E-Book ได้ที่ Meb
กดที่รูปปกใหม่เพื่อซื้อได้เลย
ขอบคุณจากใจค่ะ
หรือ >>Click!!<<
ความคิดเห็น