ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สุภาพบุรุษร้อนรัก [นิยายชุดสุภาพบุรุษลวงรัก]

    ลำดับตอนที่ #3 : Anxious Love ♣️ 01 Circle Spins...100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 28.79K
      178
      29 ก.ย. 64

    http://25.media.tumblr.com/92456d21e249fc2c2f3583aa2308d3ea/tumblr_mtn2kk2rNw1qbetfwo5_500.jpg

    1

    Circle Spins

    (...100%)

     

             “สายตาเธอฟ้อง ร่างกายเธอฟ้อง” ริคคาโดกวาดสายตามองร่างบางด้วยสายตาชนิดหนึ่ง ที่สิมันตรารู้สึกไม่ปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย

             “ว่าเธอต้องการฉัน

             หญิงสาวเม้มปากแน่นก่อนที่เผลอตัวบริภาษด่าว่าเขาออกไปไม่รู้ตัว นัยน์ตาสีมรกตมองอ้อยอิ่งที่อกอิ่มเหมือนกำลังประเมินงานอยู่เงียบ ๆ ในใจ ส่งผลอย่างมหาศาลกับคนถูกมองที่เหมือนจะละลายเสียให้ได้ สิมันตราแทบจะลืมวิธีการหายใจ แทบจะลืมว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ทุกอย่างมันชะงักไปหมดเหมือนโลกหยุดหมุนเพียงแต่เห็นสายตาคู่นั้น

           ปลายนิ้วอุ่นระอุแตะลงที่อกอิ่มที่เบียดล้นบราเซียร์ล่อสายตานักล่า เขาขยับไล้ปลายนิ้วไปกับขอบบราเซียร์สีดำวาบหวิว พาให้ร่างบอบบางของสิมันตราสั่นสะท้านอยากต่อสู้อยากดิ้นรน แต่เมื่อเขามองก็เหมือนถูกตอกด้วยหมุดขนาดใหญ่ให้ชะงักงัน ไม่รู้วิธีการหลบหนี ไม่เห็นทางออกให้เลือกเดิน

             ริคคาโดพึงใจกับความนุ่มหยุ่นจากอกอิ่ม ผิวกายของเธอนั้นวิเศษเหลือเกิน ขาวเนียนเหมือนกระเบื้องเคลือบ ไม่ร้อนไม่เย็นกำลังอุ่นสบายพานอยากลากไล้ฝ่ามือหยาบกร้านไปทั้งตัว จากนั้นก็พร่าผลาญทุกอย่างที่อยากจะทำด้วยอารมณ์ร้อน ๆ ที่ไหลเรื่อยไปตามเส้นเลือด

             “เธอชอบ เธอต้องการฉัน” ริคคาโดว่าอย่างหยิ่งยโส

             สิ่งใดที่ต้องการไม่มี อะไรที่ปรารถนามักจะได้มาง่ายดายเสมอ นึกเสียดายอยู่เหมือนกัน หากว่าผ่านคืนนี้ไปแล้วเขาคงไม่เหลียวมองเธออีก เพราะไม่มีอะไรให้น่าจดจำเมื่อผ่านไปแล้ว

             “ความชอบมันมาประเดี๋ยวประด๋าว เพราะอย่างนั้นเราก็มาตักตวงกันด้วยความพอใจทั้งคู่ดีกว่า” ว่าพลางทอดสายตามองร่างเล็กที่หมดแรงนั่งบนพื้นมองหน้าเขาอย่างตกตะลึงตามไปด้วย

             “แล้วก็อย่าคิดว่าฉันมีรสนิยมวิปริตอะไรแบบนั้น ฉันแค่อยากเห็นสาวเอเชียอยู่ในชุดชั้นในแบบนี้เท่านั้น ฉันว่าจะรุกตลาดชุดชั้นในด้วย ก็อย่างว่าแหละ” มองดูสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเธอด้วยความสนใจ ไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน

             ที่ผ่านมาเจอแต่ผู้หญิงที่ยินยอมพร้อมใจยอมให้ทำอะไรด้วยก็ได้ง่าย ๆ ไปซะทุกเรื่อง แต่สิมันตราคนนี้มีบางอย่างที่แตกต่างออกไป

             แต่ริคคาโดก็ยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ว่านั้นมันคืออะไรกันแน่

             “นางแบบเอเชียหายาก ไม่มีใครที่สวมชุดแบบนี้แล้วสวยกระตุ้นอารมณ์ได้เท่าเธอเลย”

             เขาสนใจตั้งแต่เห็นเธออยู่ในชุดชั้นในสีแดงสดในห้องประชุมแล้ว พลันนั้นก็นึกอยากเห็นร่างบางแสนเย้ายวนในชุดชั้นในวาบหวิวสีดำสักครั้ง เพราะถึงจะตัวเล็กแต่สัดส่วนเรือนกายของสิมันตราก็อวบอิ่มเย้ายวนได้รูป หน้าอกไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป เรียวขาก็ยาวเรียวไร้ไขมัน บวกกับผิวกายขาว ๆ ที่มีเครื่องหน้าชัดเจนไม่ว่าจะเป็นดวงตา คิ้ว จมูก คาง ริมฝีปาก ยิ่งโดยเฉพาะแผงขนตางอนยาวกับเส้นผมสีดำสนิทนั้น ทำให้เธอแตกต่างจากนางแบบคนอื่นที่เป็นคนชาติตะวันตกอย่างสิ้นเชิง

           “เธอสวยนะอยากเป็นนางแบบประจำของกีฟแอนด์เทกไหม รายได้ไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะ หุ่นแบบนี้ หน้าหวาน ๆ แบบเธอ ทางเรายังไม่มี รับรองว่าฉันสามารถผลักดันให้เธอเป็นนางแบบประจำของแบรนด์ได้เลย” ริคคาโดวิจารณ์อย่างชื่นชม

             แต่คำชมของเขานั้นเหมือนฝ่ามือล่องหนตบหน้าจนชายิบสำหรับสิมันตรา

           เขามองเธอราวกับวัตถุชนิดหนึ่ง เหมือนหุ่นแสดงโชว์ที่ไร้หัวใจ ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ที่ไม่อยากได้แต่ถูกยัดเยียดใส่ในอุ้งมือ

             “ฉันไม่ต้องการ” สิมันตราว่าเสียงขื่น ก่อนจะถูกรั้งให้นั่งเกยบนตักแกร่งจนสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนตึงตัวของชายหนุ่มชัดเจน

             หน้าหวานของสิมันตราแดงก่ำด้วยความอดสู เธอเองก็ไม่ต่างจากตุ๊กตาที่มีไว้เพื่อระบายความใคร่ของผู้ชายสารเลวเห็นเงินเป็นพระเจ้า สาบานบอกตัวเองในใจว่าจะไม่ยอมทำตามคำพูดของเขาอย่างแน่นอน

             “แล้วเธอต้องการอะไร ฉันไม่เชื่อว่าเธอไม่ต้องการฉัน หรือเธอมีแฟนแล้ว” ริคคาโดหรี่ตาลง ไม่อยากฟังคำตอบหากว่าเธอมีคนรักแล้วจริง ๆ สิมันตราก็เห็นทางออกขึ้นมารำไร

             “ใช่! ฉันมีแฟนแล้ว” เธอรับสมอ้าง หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดว่าเขาคงยอมปล่อย

             ทว่าเมื่อเห็นมุมปากหยักได้รูปแสยะยิ้ม หัวใจของเธอก็เหมือนหล่นร่วงไปกองที่พื้น

             “แบบนี้ยิ่งชอบเลย ฉันอยากได้ยินเธอครางเรียก กรีดร้อง ตะโกนเป็นชื่อของฉันแทนที่จะเป็นชื่อแฟนของเธอ”

             “ไม่!” สิมันตราหวีดร้องเมื่อเรียวปากรุ่นร้อนฉกวูบเข้ามาหา แต่เบี่ยงหน้าหลบทัน ดังนั้นริมฝีปากที่เป็นเป้าหมายจึงพลาดไปยังแก้มใสแทน

             “อย่ามาทำเป็นประสาไปหน่อยเลยน่า” ริคคาโดว่าอย่างนึกรำคาญ เข้าใจว่าหญิงสาวผ่านอะไรมามากแล้วแต่ยังทำเป็นไม่เคยพานให้อารมณ์เสียได้อย่างง่ายดาย ตามประสาคนที่เคยได้อะไรมาโดยแทบที่ไม่ต้องออกแรงอะไรเลย

             “ฉันไม่ต้องการแบบนี้ ปล่อยฉันนะ!” สิมันตราร้องไห้ พยายามดิ้นรนแต่ถูกพันธนาการอย่างแน่นหนามากขึ้นทุกขณะ

     

     

             แน่นอนว่าริคคาโดไม่ฟังเสียง เขาจับเรียวขาเล็กให้คร่อมลงหน้าตัก ใช้สายตาร้อนแรงจ้องหน้าหวานด้วยความปรารถนาไม่คิดปกปิด นานแล้วที่ไม่มีใครทำให้ร้อนรักได้มากขนาดนี้ ทุกอย่างเป็นเหมือนเปลวไฟร้อนระอุแผดเผาทั้งกายใจจนแทบหายใจไม่ออก หากไม่ได้ครอบครองคงทำให้อึดอัดทรมานไปนานหลายวัน

             “อย่ามาทำแบบนี้ ไม่รู้เหรอ ว่ายิ่งดิ้นฉันยิ่งต้องการ” ริคคาโดคำรามเมื่อแม่เนื้ออ่อนดิ้นรนขลุกขลักในอ้อมแขน อกอวบกับผิวกายนุ่มละมุนของเธอบดเบียดเสียดสีจนร่างกายร้อนผะผ่าว อาจจะเป็นเพราะว่าไม่เคยเจอสาวเอเชียมาก่อนหรืออย่างไร ความต้องการจึงได้ปะทุอย่างรุนแรงน่ากลัวแบบนี้

             “ไม่ ไม่ ได้โปรดเถอะ กรุณาฉันเถอะ” สิมันตราเบี่ยงหน้าหนี ยิ่งดิ้นรนยิ่งถูกกอดรัดแน่นเข้า เจ็บร้าวทั้งกายเหมือนถูกป่นกระดูก เธอเอียงหน้าจนคอแทบหัก ทว่าหัวใจร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรุนแรง ทั้งผลักไส ตื่นตัว และเบ่งบานรับสัมผัสจากปลายนิ้วนั้นอย่างน่าละอาย

             “เธอต่างหากที่ควรกรุณาฉัน หากว่าฉันไม่ได้เธอฉันต้องแย่แน่ ๆ” ชายหนุ่มพูดอย่างเห็นแก่ตัว ซุกไซ้ใบหน้าคมคายลงกับผิวแก้มจนแดงเรื่อเพราะไรหนวดสากกระด้าง ไล้ระไปถึงซอกคองามระหง ทิ้งรอยแดงไว้สองสามจุดโดยที่เจ้าของร่างงามได้แต่สะท้านเพราะทำอะไรไม่ได้

             สิมันตราร้องไห้โฮเพราะความกลัว ถึงเขาจะรูปงามและเธอเองก็หลงรูปของเขามานานแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ ยิ่งดิ้นก็เหมือนถูกกับดักของนายพรานรัดแน่นมากขึ้นทุกขณะ มันกลืนกินร่างของเธอไปครึ่งร่าง หากว่าดิ้นรนมากกว่านี้ก็อาจถูกบดขยี้จนจมหายไปกับอกกว้างได้

             “อย่าทำฉันเลย ได้โปรด ฉันไม่ต้องการ ฮึก” หยดน้ำตาหลายหยดหล่นร่วงเม็ดแล้วเม็ดเล่าจนชุดชั้นในเริ่มเปียกชื้นและแนบลู่กับเนินอกอิ่ม

             นัยน์ตาสีมรกตทอดมองด้วยความพึงพอใจ กอบกุมความงดงามที่เห็นตรงหน้าทั้งอุ้งมือ คลึงเคล้าหนักหน่วงสลับนุ่มนวลจนสิมันตราสะท้านตัวโยน

             “อย่า ไม่ อย่า!

             ไม่ว่าจะวิงวอนด้วยคำอ่อนหวานหรือกรีดร้องตะเบ็งเสียงเข้ามาแต่ริคคาโดไม่ฟังอะไรเลย อุ้งมือของเขาไม่ต่างจากปลอกเหล็กที่เอาไว้อย่างแน่นหนา ยิ่งยกทุบตีมากเท่าไหร่อีกฝ่ายก็กดน้ำหนักมือแรงขึ้นเท่านั้น

             “ฉันเจ็บ ได้โปรด!” สิมันตราสะอื้นฮัก กลัวว่าริคคาโดจะเป็นพวกที่ชอบใช้ความรุนแรง ต้องทำให้ผู้หญิงเจ็บถึงจะมีความสุข เพราะท่าทางตอนนี้ก็ดูน่ากลัวนัก

             “ฉันไม่ใช่ทาสของคุณ อย่าทำแบบนี้ ฮือ!” เธอหวีดร้องอย่างสุดทน และสุดท้ายชายหนุ่มก็ดันตัวเธอออกห่างเล็กน้อย

             “อย่าทำฉันเลย

             “นั่นสิ” ริคคาโดพึมพำบางอย่างด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย

             สิมันตรากะพริบตา ใบหน้าหวานยังเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตาจนดูน่าสงสารเวทนา คิดในใจว่าคงรอดแล้ว

             “ฉันไม่นิยมทำให้ผู้หญิงเจ็บก่อนถึงจะสนุกหรอกนะ สิมันตรา” มุมปากหยักของคนพูดเหยียดยิ้ม หญิงสาวพลันใจหายวูบ ริคคาโดคงสืบเรื่องของเธอมามากพอสมควรไม่อย่างนั้นคงไม่รู้ชื่อและห้องพักอย่างนี้แน่

             “คุณจะปล่อยฉันไปแล้วใช่ไหมคะ” เสียงหวานถามสั่นพร่า ความหวังดูเลือนรางแต่ก็ยังพอมีหวังอยู่

             “ทาสเหรอ เมื่อกี้เธอพูดแบบนั้น” ริคคาโดถามพลางเอียงคอมองใบหน้าเล็กงดงามที่แดงระเรื่อชุ่มไปด้วยน้ำตา

             เขาเพียงแค่อยากเห็นว่าแม่สาวร่างบางหน้าหวานคนนี้หากอยู่ในชุดวาบหวิว จะน่ารักจะน่ามองมากขนาดไหน

           มันได้ผลอย่างมาก เพราะทำให้หัวใจแทบหยุดเต้นตอนที่เห็นนางฟ้าตัวน้อยในชุดดำปรากฏสู่สายตา ชุดชั้นในแบบนี้คงรุกตลาดเอเชียได้ง่าย หากว่ามีนางแบบที่มีเสน่ห์เหมือนสิมันตราคอยช่วยประชาสัมพันธ์

             ขณะที่สิมันตรายังไม่แน่ใจว่าเขาต้องการจะบอกอะไรกันแน่ หัวใจของเธอเต้นถี่ วอนขอทางสายตาจนคนมองก็อ่านความหวาดกลัวพวกนั้นได้ชัดเจน

             “ใช่ มาเป็นทาสของฉันดีกว่า” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะโน้มท้ายทอยของสิมันตราให้เข้ามาชิด จูบเธอด้วยความหื่นหิว สอดเรียวลิ้นร้อนชื้นเข้าไปทักทายเป็นอย่างแรก อีกมือหนึ่งก็ลูบไล้ร่างเล็กอย่างถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ โดยที่สิมันตรายังไม่ทันได้ตั้งตัว

             หญิงสาวดิ้นรนครางอึกอักอยู่ในคอด้วยความทรมาน เขาจูบแต่เหมือนว่าขืนใจเอาจูบจากเธอมากกว่า ลิ้นร้อนผลักเข้ามาด้านใน หยอกเอินพัวพันแล้วก็ชักออก จากนั้นก็คลอเคลียเข้ามาซ้ำ ๆ จนหยดน้ำหวานจากโพรงปากของสิมันตราหยดเยิ้ม และถูกริคคาโดกวาดกลืนเข้าไปอย่างหมดจด มือหนาเลื่อนลงมาจับเอวคอดเอาไว้ ขยับรั้งเข้าหาเหมือนจังหวะร่วมรักที่เนิบช้า

             สิมันตราร้อนไปทั้งตัวเหมือนจะระเบิดออกมาให้ได้ ทั้งอายทั้งกลัว สะบัดหน้าหนีออกจากจูบที่หยาบโลนโจนจ้วงได้ก็ถูกจูบซ้ำจนเรียวปากระบม เขาลวนลามเธออย่างหนักหน่วงตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอกัน เป็นเรื่องที่น่าอายเกินกว่าจะบรรยายออกมาได้ สุดท้ายเขาก็ใจดียอมให้ได้พักหายใจด้วยการผละจูบร้อนออก เป็นผลให้ใบหน้าหวานซบกับอกกว้าง ก้มหน้าลงและหอบหายใจถี่ด้วยความทรมาน

             แต่แล้วก็ถูกเชยคางมนขึ้นตามด้วยเสียงทุ้มเซ็กซี่ที่แหบพร่า แทบหลอมละลายร่างบางด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียว

             “ให้ตาย จู่ ๆ ฉันก็อาย อย่ามองตอนที่ฉันกำลังถอดกางเกงสิ

             ริคคาโดยิ้มขำ แต่แล้วก็ต้องอุทานเพราะสาวเจ้าหมดสติเป็นลมไปดื้อ ๆ ความร้อนก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยความตกใจ ก่อนที่จะหลุดหัวเราะแล้วอุ้มเธอไปนอนบนเตียง

             “ยังก่อนก็ได้สิมันตรา เพราะถ้าขืนใจได้มามันก็ไม่สนุก ฉันอยากเห็นวันที่เธอคลานเข้ามาและบอกว่าอยากเป็นของฉันด้วยตัวเอง

     

     

             สิมันตราไม่ตอบชไมพรในเช้าอีกวัน เมื่อถูกถามว่าหายไปไหนมาถึงได้กลับเข้าห้องพักในตอนเช้า

             “บอสใหญ่บอกให้ไปพบในห้องประชุมน่ะ” สาวใหญ่บอกกับลูกน้องสาว ซึ่งใบหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด สายตาเจ้ากรรมก็เหลือบไปเห็นรอยจูบสีกุหลาบบนต้นคอของหญิงสาวเข้าให้

             ตายแล้ว มันตราไปเจอใครมาเนี่ย! ชไมพรอุทานอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรเพราะคิดว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว

             แต่มันน่าแปลกใจก็ตรงนี้หล่อนไม่รู้ระแคะระคายว่าสาวน้อยมีคนรักที่นัดแนะมาเจอกันถึงที่นี่ แถวยังดูหวั่นวิตกอย่างไรชอบกล

             ด้านสิมันตราเองก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติ หลังจากที่เธอตื่นขึ้นบนเตียงกว้างคนเดียวก็รีบหนีมามันที ช่องท้องยังปั่นป่วนกับรอยสัมผัสที่ริคคาโดได้ทิ้งเอาไว้ รู้ว่าเขายังไม่ได้ทำอะไร แต่ก็กลัวเหลือเกินว่าจะไม่รอดเหมือนกับคืนที่ผ่านมา

             ไม่รู้ว่าหมดสติไปได้ยังไง คงเพราะตกใจตั้งตัวไม่ทันเลยหน้ามืดดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น

             “มันตรา โอเคไหม?

             “โอเคค่ะ” สิมันตราตอบชไมพรไปทั้งที่ไม่ได้รู้สึกตามนั้นเลยสักนิด

             “ดูเหมือนว่าทางบอสใหญ่จะสนใจแบบของเราน่ะ เลยให้เราเข้าไปพรีเซนต์อีกรอบ พี่ไปมาแล้วแต่แกยังไม่ได้เข้าไป ทางนั้นเขาเลยนัดมาให้แกเข้าไปดูอีกที”

             “คะ?” หญิงสาวทวนคำอย่างไม่สบายใจ แต่เมื่อได้รับคำยืนยันว่ามีบอร์ดบริหารอยู่ด้วยกันหลายคนจึงวางใจ คิดว่าคนอย่างริคคาโดคงไม่ขาดแคลนผู้หญิงถึงขนาดต้องมาฉุดขืนใจเอาจากผู้หญิงที่ไม่เต็มใจอย่างเธอแน่

             เมื่อคิดแบบนั้นก็ปลุกใจเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่มองเนื้อตัวของตัวเองมากเกินไปเพราะรู้ดีว่ามีแต่ร่องรอยตามตัว ตั้งใจจะคุยให้แล้วเสร็จจากนั้นก็จะได้บินไปฝรั่งเศสไม่ต้องพบเจอหน้าอสูรร้ายอีก

             หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องประชุมก็ตัวเย็นอีกหน จากที่คิดว่าจะมีบอร์ดบริหารนั่งคุยงานอยู่ กลายเป็นว่าเจอแค่ริคคาโดที่กำลังกอดคลอเคลียกับนางแบบสาวสวยหลายคนเสียอย่างนั้น

             “มองอะไร ไม่เคยเห็นฉันเหรอ” ริคคาโดถามกวน ๆ ซึ่งสิมันตราได้แต่อึ้งเพราะคาดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าคลอเคลียสาวสวยต่อหน้าเธออย่างนี้ ทั้งที่เมื่อคืนเขารังแกเธอสารพัดอย่าง

             “ก็เขาว่ากันว่าสุภาพสตรีเลิฟแบดบอย เห็นแบบนี้แล้วไม่อยากเอาชนะบ้างเหรอ ถ้าเก่งจริง ลองทำให้ฉันสนใจแค่เธอหน่อยสิ มันตรา ฉันอยากรู้ว่าเธอจะทำได้หรือเปล่า ที่ทำให้สายลมอย่างฉันหยุดที่เธอคนเดียวน่ะ

           แน่นอนว่าสิมันตราไม่เคยเข้าใจความต้องการหรือความรู้สึกของริคคาโดเลย มองเขาที่กำลังคลอเคลียกับสาวสวยด้วยสายตาขยะแขยง เขารูปงามก็จริง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคนมักมากในกาม ทำตัวได้น่ารังเกียจถึงเพียงนี้ มองเขาอีกแวบหนึ่งก่อนจะพูดเรื่องงานที่เป็นสิ่งผลักดันให้เข้ามาเจอซาตานร้ายอีกครั้ง

             “ฉันจะมาคุยงานน่ะค่ะ ถ้าตอนนี้คุณยังไม่มีอารมณ์คุยฉันขอตัวนะคะ”

             “หึงเหรอ?” ริคคาโดว่า ปัดมือผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังไล้กรอบหน้าตนเองออก เริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมาราง ๆ

             ด้านสิมันตราได้ยินก็ชะงักไป เธอหัวเราะน้อย ๆ พลางส่ายหน้า ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อยนิด ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยชื่นชมเขามาก่อนหน้านี้หายวับไปอย่างง่ายดาย

             “ฉันไม่หึงคุณหรอกค่ะ” เธอส่ายหน้า มองเขาแล้วก็แทบไม่เชื่อสายตา

             นี่หรือคือเทพบุตรที่เคยอยู่ในใจของเธอ ได้เห็นอีกด้านที่เขาปกปิดเอาไว้รู้สึกเหมือนทำตัวไม่ถูกขึ้นมาดื้อ ๆ

             “ฉันอยากจะมาพรีเซนต์งานกับคุณ ถ้าเสร็จแล้วฉันจะได้กลับไปไม่ขัดความสำราญของคุณ!” สิมันตราขึ้นเสียง เริ่มทนไม่ไหวกับการกระทำอันร้ายกาจของชายหนุ่ม

             “หรือไม่พอใจที่ค้างจากเมื่อคืน” ริคคาโดพูดยียวน ทำใบหน้าหวานร้อนวาบ เจ็บแสบเหมือนถูกน้ำกรดสาดก็ไม่ปาน

             “ดิฉันไม่คิดอะไรกับคุณทั้งนั้น แต่กรุณาช่วยดูงานของดิฉันด้วยค่ะ ฉันจะได้รีบกลับ หรือถ้ายังไม่สะดวกตอนนี้ฉันจะได้ออกไปก่อน แล้วค่อยมาเสนองานตอนที่คุณว่างจริง ๆ” น้ำเสียงของสิมันตราเริ่มวอนขอ ไม่อยากอยู่ใกล้เขาจนต้องใช้ลมหายใจของกันและกันแลกเปลี่ยนสูบฉีดเลือดไปถึงหัวใจ

           “งั้นก็เสนอเลย” เสียงหนักของริคคาโดว่า เห็นเธออารมณ์เสียแล้วพอใจอย่างบอกไม่ถูก

             สิมันตราหมุนตัวหันหลังให้เขา กลัวว่าสีหน้าท่าทางของตัวเองจะทำให้ชไมพรเดือดร้อนไปด้วย ไหนจะคนงานที่สาขาเมืองไทยนั่นด้วย ทุกคนเป็นเหมือนเพื่อนเหมือนครอบครัวเลยไม่อยากให้ใครต้องมาลำบากอีก มือเล็กยกลูบหน้าเพื่อเรียกกำลังใจก่อนจะถอดเสื้อคลุมออกจากร่างกาย รู้สึกได้ถึงสายตาของริคคาโดที่มองมาอย่างหยาบโลน กวาดมองตั้งแต่ท้ายทอยจรดข้อเท้า พาหัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นเสียดื้อ ๆ

             หญิงสาวพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ระเบิดความโกรธและน้ำตาออกมา รู้ว่าถูกแกล้งแต่ก็ช่วยอะไรตัวเองไม่ได้เลย สุดท้ายเมื่อเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไปก็หมุนตัวให้เขาชมชุดชั้นในที่สวมอยู่บนตัวอีกครั้ง เธอหลับตาลงอย่างขมขื่น ยามที่นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองหน้าอกอิ่มอย่างอ้อยอิ่ง ก็เหมือนมีเปลวไฟร้อนเร่าลามเลียจนแทบทนไม่ไหว ร่างบางสั่นเกร็งภาวนาให้เขาสำรวจร่างกายของเธอให้จบสิ้นเสียที ยิ่งนานก็ยิ่งเหมือนจะระเบิดรอมร่อ

             ด้านริคคาโดก็พึงพอใจไม่น้อย เห็นรอยจูบสีกุหลาบช้ำบนร่างกายของเธอประปรายแล้วก็ยิ้มหวาน ผิวกายของเธอทั้งนุ่มทั้งหอมละมุนเพราะได้พิสูจน์มาเองกับมือ เห็นร่างบางเกร็งจนตัวสั่น อกอิ่มไหวกระเพื่อมก็ยกยิ้มที่มุมปาก ร่างกายเกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรงจนสาวสวยนางแบบพากันหัวเราะคิกคัก

             คนตัวเล็กที่อยู่ในชุดชั้นในที่แทบไม่ปกปิดร่างกายหลับตาแน่น ไม่ยอมลืมตาขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะกระซิบกระซาบของเหล่านางแบบคนสวยพวกนั้น

             “อุ๊ยตาย! ตื่นเต้นใหญ่เชียวนะคะ เริ่มร้อนแล้วเหรอคะบอส

             “ดูสิสั่นใหญ่เลย ท่าทางจะอึดอัด บอสอยากให้พวกเราถอดเสื้อผ้าให้ไหมคะ”

             ถ้าเป็นปกติสิมันตราคงไม่เข้าใจความหมายที่พวกหล่อนพูดถึง แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันชี้ชัดไปในทางเดียวกันว่าริคคาโดกำลังหิวหื่นอยู่นั่นแหละ

             เฝ้ารออยู่นานอยากได้ยินว่าเมื่อไหร่อีกฝ่ายจะยอมพูดอะไรเสียทีแต่จนแล้วจนรอดริคคาโดก็ไม่ปริปาก เป็นผลทำให้สิมันตราต้องลืมตาขึ้นมอง เห็นชายหนุ่มมองมาอย่างอ้อยอิ่ง สองมือโอบสาวงามปล่อยให้พวกหล่อนจูบแผงอกและนิ้วเรียวซ้ำ ๆ อย่างนั้น ยิ่งเห็นยิ่งขยะแขยงจนขนลุก ซึ่งความรู้สึกทุกอย่างมันแสดงชัดเจนบนใบหน้าหวานอยู่แล้ว

             “ตกลงคุณจะว่ายังไงคะ” เธอถามไป ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมริคคาโดถึงไม่ยอมพูดอะไรสักคำ

             สิมันตราตัวสั่นทั้งโกรธทั้งอาย รีบคว้าเสื้อคลุมมาสวมพลางจ้องหน้าเขาด้วยความแค้นเคือง

             “ฉันมาทำงานไม่ได้มาขายตัว ตกลงคุณจะเอายังไงกับฉัน!

             คราวนี้หญิงสาวตะเบ็งเสียงเข้าใส่ด้วยความฉุน แต่ริคคาโดยังมองร่างกายของเธออ้อยอิ่ง ราวกับว่ามองเห็นทะลุผ่านเสื้อคลุมได้ไม่มีอะไรขวางกั้น

             เมื่อทนไม่ไหวสิมันตราก็หมุนตัวเดินหนีออกมาทันที เขาจะกินตับหรือปล่อยให้แม่สาวสวยนางแบบเหล่านั้นลามเลียอะไรก็ช่าง เธอโกรธจนรูจมูกบานพองเล็กน้อยผลักประตูออกอย่างรุนแรงจนชไมพรที่รออยู่ด้านนอกสะดุ้งเพราะตกใจ

             “มันตรา เป็นยังไงบ้าง” สาวใหญ่เอ่ยถาม ไม่บ่อยนักที่จะเห็นว่าสาวน้อยจะดูโกรธมากขนาดนี้

             อยากรู้ขึ้นมาครามครันว่าอะไรที่ทำให้สิมันตราโกรธหนักขนาดนี้ หันมองไปในห้องประชุมแต่ก็ไม่ทันเห็นเนื่องจากประตูปิดลงซะก่อน

             “เป็นอะไรไปมันตรา” ชไมพรถาม แต่สิมันตรายังไม่ตอบ เพราะเธอยังอารมณ์เสียรุนแรงจนไม่อยากจะเอ่ยปากพูดกับใครทั้งนั้น

             จนกระทั่งมาถึงห้องพักนั่นแหละ ชไมพรเลยได้เห็นสิมันตราสติแตกเป็นครั้งแรก สาวน้อยยกมือกุมหัวแล้วก็เดินวนเวียนไปมาในห้อง หายใจเข้าออกรุนแรงเหมือนกำลังระงับอารมณ์ หน้าหวานแดงก่ำ แววตาขุ่นมัวอย่างชัดเจนจนไม่กล้าเอ่ยถามอะไรอีก

             ไม่นานสิมันตราก็ยกมือเสยผมที่ลุ่ยปรกหน้า ทิ้งตัวลงนั่งที่ขอบเตียงพลางสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อเรียกสติอารมณ์กลับคืนมา

             “มันตรา เป็นอะไรรึเปล่า” พอเห็นว่าลูกน้องสาวคนสวยอารมณ์เย็นลงแล้ว ชไมพรก็พาตัวเองไปนั่งข้าง ๆ ถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นดึงสติความนึกคิดของสิมันตรากลับมา

             “ขอโทษค่ะพี่พร พอดีหนูอารมณ์เสียไปหน่อย”

             “เพราะบอสใหญ่เหรอ?” สาวใหญ่คาดเดา แล้วก็ทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นหญิงสาวพยักหน้ารับ

             สิมันตราไม่ใช่คนที่จะโกรธง่ายฟิวส์ขาดง่ายดายแบบนี้ นั่นย่อมแสดงว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน

             “เขา ลวนลามแกเหรอ” ถามไป ทันได้เห็นสิมันตรากัดปากไว้แน่นเลยได้รู้ว่าเรื่องที่สันนิษฐานเป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่กล้าจะถามถึงรอยบนเนื้อตัวของหญิงสาว เพราะเกรงว่าจะเป็นการละลาบละล้วงมากเกินไป

             “หนูไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วพี่พร ถ้าทางบอร์ดบริหารไม่พอใจ หนูก็ขอรับผิดชอบคนเดียวก็แล้วกัน” คิดแล้วสิมันตราก็หวั่นใจนัก กลัวว่าจะถูกกลั่นแกล้งและมีผลกระทบไปถึงคนอื่นด้วย

             ชไมพรเข้าใจความรู้สึกของลูกน้องคนสวยดีแต่ก็ไม่รู้จะออกความคิดเห็นอย่างไร ยังไม่ทันได้ทำอะไรโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจึงถือโอกาสรับสาย ปล่อยให้สิมันตราเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแทน

             “ค่ะ ชไมพรตัวแทนจากสาขาประจำประเทศไทยค่ะ

             หลังจากที่พูดได้สองสามประโยค สาวใหญ่ก็มองไปยังลูกน้องสาวคนสวยด้วยความหนักใจ ซึ่งสิมันตราเองก็รู้อยู่แล้วว่าจะมีผลตอบรับกลับมาไม่ค่อยสวยแน่ หลังจากที่เดินออกจากห้องประชุมอย่างปึงปังแบบนั้น

             “มีอะไรรึเปล่าคะพี่พร” สิมันตราถามหลังจากที่หัวหน้าวางสายโทรศัพท์และมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่

             “บอสใหญ่อยากคุยกับเราอีกทีน่ะ

             ได้ยินแบบนั้นสิมันตราถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมริคคาโดถึงได้กัดไม่ปล่อยอย่างนี้

     

     

             ริคคาโดจอมมารตัวร้ายกำลังรอคอยการมาถึงของสิมันตราอย่างอารมณ์ดี ได้เห็นหน้าหวานแดงก่ำบึ้งตึงด้วยความไม่พอใจก่อนหน้านี้ก็สนุกนัก บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนั้น แต่เธอเป็นคนแรกที่ทำให้เกิดความรู้สึกเช่นนี้ แถมยังเป็นหลายครั้งในเวลาไล่เลี่ยกันอีกด้วย

             นึกไม่ออกว่าถ้าได้เจอหน้าเธออีกครั้งสาวเจ้าจะมองมาด้วยสายตาแบบไหน และไม่ว่าจะเป็นยังไงมันก็เร้าอารมณ์ได้ทุกครั้งเสมอ

             เสียงประตูเปิดออกทำให้ใบหน้าคมคายมีรอยยิ้ม แต่ไม่นานมันก็จางหายเพราะว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่สิมันตราอย่างที่หวังเอาไว้ หากแต่เป็นชไมพรสาวใหญ่ที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเกรงใจ

             “ขอโทษด้วยค่ะบอส ฉันมาแทนสิมันตราน่ะค่ะ” ชไมพรบอก เห็นสีหน้าแววตาของริคคาโดแล้วก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่สบอารมณ์ที่คนมาไม่ใช่สาวน้อยคนนั้นอย่างที่ควรจะเป็น นึกเห็นใจสิมันตราขึ้นมาครามครันเพราะรู้ว่าเธอไม่อยากเข้าใกล้จอมมารร้ายนัก

             “แล้วหล่อนไปไหนทำไมไม่เข้ามาเอง” ถามอย่างไม่พอใจ คนอย่างริคคาโดอยากได้อะไรต้องได้ แล้วทำไมต้องมาพลาดท่าเสียทีกับเรื่องง่าย ๆ กับแค่ผู้หญิงคนเดียวด้วย

             “สิมันตราไม่ค่อยสบายค่ะเลยมาไม่ได้

             ริคคาโดรู้ดีว่าคำตอบนั้นเป็นคำโกหกแต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อเจ้าตัวไม่ได้อยู่ตรงนี้เลยทำอะไรมากไม่ได้ ที่ทำได้ก็คือพูดเรื่องงานคร่าว ๆ เพราะจะได้ไม่ถูกครหาต่อว่าเป็นสมภารกินไก่วัดซะเอง

             ชไมพรรู้สึกอึดใจใจและไม่สบายใจแทนสิมันตราขึ้นมาดื้อ ๆ เห็นจากท่าทางแล้วก็รู้ว่าริคคาโดไม่ใช่คนที่จะยอมอะไรง่าย ๆ คิดว่าหลังจากนี้คงมีเรื่องเกิดขึ้นหลายอย่าง แต่ก็ไม่รู้จะช่วยสาวน้อยได้อย่างไร

             “ผมถูกใจแบบชุดชั้นในจากทางสาขาประเทศไทย แล้วยังไงผมจะให้ฝ่ายประสานงานติดต่อกลับไปอีกทีนะครับ” ริคคาโดพูดเหมือนตัดบท ตอนนี้ไม่มีสิมันตราเลยหมดความสนใจไปซะทุกเรื่อง อยากรู้นักว่าสาวเจ้าอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรอยู่กันแน่

             “ค่ะ แล้วทางบอสมีอะไรจะสั่งความอีกไหมคะ”

             “ไม่มีแล้ว เดี๋ยวผมจะให้คนติดต่อกลับไปเองครับ” ชายหนุ่มตัดบทเพราะต้องการติดต่อคนสนิทโดยไว

             และเมื่อคล้อยหลังชไมพรแล้ว ริคคาโดก็เรียกเลขาคนสนิทเข้ามาในห้องทันที

             “มีอะไรจะสั่งครับนาย” โรเจอร์เอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของเจ้านายตามคำสั่งแล้ว

             “นายช่วยตรวจสอบหน่อยว่าผู้หญิงคนเมื่อวานพักที่ไหนยังไง รวมถึงกำหนดการต่อไปคร่าว ๆ ของหล่อนด้วย”

             โรเจอร์ยิ้มรับคำสั่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำงานตามคำสั่งได้ครบถ้วน แต่เมื่อคนที่สั่งเป็นถึงจอมมาร เมื่อทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ก็จำต้องล่าถอยออกไปติดต่อกับคนอื่น ๆ แทน

             ส่วนริคคาโดก็เป่าปากพ่นใส่ผมที่ปรกหน้าน้อย ๆ ด้วยความหงุดหงิด

             “คิดเหรอว่าจะรอด มันตรา!

             ด้านสิมันตรานั้นกำลังเก็บข้าวของเตรียมจะบินไปต่อที่ฝรั่งเศสตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ พอชไมพรบอกว่างานผ่านเรียบร้อยแล้วก็โล่งใจ เพราะคงหาทางเลี่ยงผู้ชายหยาบช้าสารเลวนั่นได้เสียที ไม่ต้องถูกหน่วงเหนี่ยวล่วงเกินเหมือนที่เจออีก

             “แต่พี่ไปกับเราไม่ได้แล้วนะ” ชไมพรว่าตอนที่หญิงสาวกำลังปิดประเป๋าเสร็จพอดี

             “คะ?” สิมันตราหันไปถามด้วยความไม่เข้าใจ เพราะวางแผนกันเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกันหลังจากงานที่ควิเบกเสร็จ

             “พอดีว่าที่บ้านมีเรื่องยุ่ง ๆ น่ะ คุณยายของพี่เข้าโรงพยาบาล พี่เลยต้องรีบกลับเมืองไทยพรุ่งนี้เลย” คนเป็นหัวหน้าตอบ และทำหน้าเกรงใจเมื่อสิมันตราทำหน้าไม่ค่อยสู้ดี

             “ถ้าอย่างนั้นทำยังไงดีล่ะ หนูคิดว่าพี่พรจะไปกับหนูซะอีก

             “เราไปคนเดียวได้ไหม ลาพักร้อนไม่ได้แล้วนี่นา ถ้ากลับคงอีกนานกว่าจะไปไปฝรั่งเศส”

             สิมันตราฟังคำพูดของหัวหน้าแล้วก็คิดตาม ก่อนจะตัดสินใจได้ในที่สุด

             “งั้นหนูบินเดี่ยวดีกว่าค่ะ จะได้ลองประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วย!

             “จ้ะ เดินทางดี ๆ มีอะไรก็โทรบอกพี่เลยก็แล้วกันนะ” สาวใหญ่มองคนตัวเล็กอย่างเอ็นดูเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง การที่เธอได้ออกไปเที่ยวข้างนอกคงช่วยทำให้ลืมประสบการณ์แย่ ๆ จากการที่มาทำงานไกลต่างแดนเป็นครั้งแรก

             “ระวังตัวด้วยนะ อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ มีอะไรก็โทรมาเลย ไม่ต้องเกรงใจ”

             “ค่ะ” สิมันตราเรียกความมั่นใจ ต่อจากนี้เธอจะฝังเรื่องแย่ ๆ เกี่ยวกับริคคาโดเอาไว้ที่ควิเบก บอกตัวเองในใจว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกแล้วอย่างแน่นอน

     

     

             เพราะยังคิดมากเรื่องของริคคาโดไม่หาย ดังนั้นสิมันตราเลยนอนไม่หลับ ร่างบางพลิกตัวบนเตียงอย่างกระสับกระส่าย สมองคิดแต่ภาพของชายหนุ่มที่มองมาด้วยสายตาหยามหยันและรุ่มร้อน ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ถึงจะลบเลือนเขาจากใจได้

             ชไมพรที่พักด้วยกันอีกเตียงหลับสนิทไปนานแล้วทำให้เธอหยุดฟุ้งซ่านกลัวว่าจะทำหัวหน้าพลอยตื่นขึ้นมาด้วย

             ด้วยเหตุนั้นทำให้หญิงสาวผล็อยหลับในตอนย่ำเช้าอย่างอ่อนเพลีย และหลับสนิทชนิดที่ว่าไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนเดินเข้ามาในห้อง แต่เมื่อเตียงนอนไหวยวบเพราะน้ำหนักจำนวนหนึ่งกดทับลงมาก็ปลุกให้ตื่นขึ้น

             “…!” สิมันตรายังไม่ทันได้อุทาน มือหนาหยาบใหญ่ก็ปิดครึ่งปากครึ่งจมูกของเธอไว้ได้ทันท่วงที พยายามดิ้นรนเอาตัวรอดแต่ก็สู้แรงผู้ชายตัวใหญ่ไม่ไหว ถูกหิ้วตัวออกจากห้องพักก่อนฟ้าจะสางช่วงที่ปลอดผู้คน

             แล้วก็ยังมีใครอีกสองสามคนที่หิ้วกระเป๋าเดินทางเก็บของสำคัญหลายอย่างของเธอออกมาจากห้องอีกด้วย สุดท้ายก็ทิ้งจดหมายฉบับหนึ่งไว้บนเตียงและอันตรธานหายไปกับความมืดอย่างเงียบเชียบว่องไว

             สิมันตราอยากจะเป็นลมกับเหตุการณ์อุกอาจที่เกิดขึ้น เธอถูกมัดมือปิดปากแน่นหนา ถูกพาตัวลงมาจากห้องพักตรงไปยังรถแวนคันใหญ่ที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว ดวงตากลมโตเบิกกว้างเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นเมื่อเห็นคนที่บงการอยู่เบื้องหลังชัดเจน

             จะเป็นใครที่ไหนอีกเล่า ถ้าไม่ใช่ริคคาโด โดโนแวน น่ะ!

           พอเห็นว่าเป็นจอมมารสิมันตราก็ออกแรงฮึดฮัดไม่อยากอยู่ใกล้เขา

             “ฮึก อึก!” อยากจะด่าแต่เสียงที่ลอดแผ่นเทปกาวที่ปิดปากอยู่ก็ทำให้เธอเปล่งเสียงได้เป็นเสียงอึกอักอืออาในคอเท่านั้น

             หัวใจดวงน้อยเหมือนหล่นวูบออกจากอกไปกองที่พื้นเมื่อมือหนาของริคคาโดลากรั้งให้ไปนั่งเกยก่ายบนตัก พร้อมกันนั้นระหว่างเบาะหน้ากับเบาะหลังก็ถูกกั้นไว้ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่แสนทันสมัย ทำให้ถูกตัดขาดจากกลุ่มบอดี้การ์ดของจอมมารตัวร้ายไปโดยปริยาย

             “คิดจะหนีเหรอมันตรา ไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ แต่แบบนี้ฉันชอบ พยศให้มาก ๆ เข้านะ ฉันละอยากจะหวดแส้ลงกับม้าแสนพยศอย่างเธอแทบแย่แล้ว”

             สิมันตราครางโหยหวนในคอ น้ำตาไหลพรากเมื่อริคคาโดยกแขนที่ถูกมัดติดกันแน่นขึ้นคล้องคอของเขา พร้อมกับรวบเอวเล็กนั่งคร่อมบนตักกว้างถนัดถนี่มากขึ้น

             “บนรถก็เร้าใจดีนะ ว่าไหม?

     



    นิยายเรื่องนี้หมดสัญญากับทางสำนักพิมพ์แล้ว

    มู่เลยนำมาทำ E-Book เองค่ะ

    สามารถซื้อ E-Book ได้ที่ Meb เลยนะคะ

    กดที่รูปปกใหม่เพื่อนซื้อได้เลยค่ะ

    ขอบคุณจากใจมาก ๆ เลยนะคะ


    หรือ >>Click!!<


    http://31.media.tumblr.com/6d151320275ef94b84bc4c9b0f99904e/tumblr_mtn2kk2rNw1qbetfwo4_1280.jpg

    Song :: Don't Judge Me - Chris Brown

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×