ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Roman Santa ทฤษฎีรักปล้นหัวใจนายหล่อร้าย

    ลำดับตอนที่ #4 : Roman Santa 🎁 eps. 02 Your Vague Gaze...50%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24.87K
      84
      30 ก.ค. 64

     


     

    2

    Your Vague Gaze

    (...50%)

     

     

     

             ฉันเห็นเกียร์ยิ้ม

             รอยยิ้มของเขาดูเป็นมิตรกว่าโรมันผู้ชายหน้าดุคนนั้นเยอะทีเดียว คิดแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโรมัน เขาคนนั้นเป็นไบเซ็กชวล[1]หรือเนี่ย

             มันหมายความว่ายังไงกัน ฉันพยายามทำความเข้าใจ แต่สุดท้ายก็ไม่เข้าใจอะไรเลยแม้แต่น้อย

             โรมัน หมอนั่น…

           “สวย ๆ อย่างเธอน่ะ โรมคงเก็บไว้สีกสองเดือนละมั้ง ประมาณนะ” เกียร์พูดแล้วก็ยกมือขึ้นเกาคางตัวเองอย่างใช้ความคิด

             พอกันทั้งเกียร์ทั้งโรมัน ผู้ชายสองคนนี้ใช้สายตาเดียวกันเลยเวลาที่จ้องมองใครสักคนน่ะ แล้วมันก็น่าโมโหมาก ๆ ด้วยเมื่อเห็นแบบนี้

             “อย่าทำหน้าซีดอย่างนั้นซานต้า ที่บอกว่าฉันรักโรมน่ะเป็นเรื่องจริง แต่หมอนั่นไม่ได้คิดกับฉันเหมือนที่ฉันคิด เออ คงจะอย่างนั้นละมั้งนะ” พูดจบเกียร์ก็หัวเราะเหมือนขำอะไรบางอย่าง

             งั้นก็แสดงว่าเกียร์ชอบโรมันข้างเดียวน่ะสิ เพราะโรมันไม่เล่นด้วย

             ให้ตาย! แล้วทำไมฉันต้องนึกดีใจเงียบ ๆ ด้วย ท่าจะเป็นบ้าไปแล้วเรา ฉันด่าตัวเองในใจก่อนจะยกมือขึ้นมาทึ้งหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง

             “แต่ว่านะ อย่าคิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่อย่างสงบสุขนะซานต้า”

             แล้วคำพูดต่อมานั่นก็ทำให้ฉันมองเกียร์อย่างสงสัย เขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่กันแน่ ฟังดูแล้วไม่ปลอดภัยเลย

             “ฉันจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยล่ะ ที่เธอบังอาจมาแย่งของรักของฉัน”

             ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำหน้ายังไงอยู่ แต่เห็นสีหน้าของเกียร์แล้วนึกกลัวขึ้นมาจริง ๆ ที่เขาพูดเมื่อกี้นั่นมันเป็น การประกาศสงครามหรือเปล่านะ

             คือก็อยากจะบอกเขาเหมือนกันนะ ว่าฉันไม่ได้อยากแย่งหรืออยากยุ่งกับผู้ชายคนนั้นเลย แต่คนเลวคนนั้นต่างหากที่บีบบังคับฉันทุกอย่างจนหนีไม่ได้

             “เตรียมรับมือ…” เขาพูดแล้วก็ยกนิ้วขึ้นมาปาดคอตัวเอง

             “เธอตายแน่!”

     

     

             ไม่ต้องถึงมือเกียร์หรอก แค่โรมันคนเดียวฉันก็ตายได้แล้ว เมื่อผู้ชายผมทองเดินจากไป ฉันก็ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อีกครั้ง นี่มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของฉันเนี่ย ฉันไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย

             เรื่องทั้งหมดจะโทษใครดี ยัยโบว์ที่พาฉันมาที่นี่

             เอ็ม เพื่อนส่งตรงจากนรก ที่พาฉันมาเจอยมทูตสองตนที่ชื่อโรมันกับเกียร์

             ไม่สิ ต้องโทษตัวเองต่างหากล่ะ ที่โง่เอง

             ฉันได้แต่นั่งร้องไห้คนเดียวเหมือนคนบ้าจนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตู เลยรีบลุกขึ้นจากพื้นแล้วก็เดินไปแง้มประตูออกนิดหน่อย เพราะกลัวว่าจะเป็นซาตานสองตนนั่นอีก แต่สิ่งที่เห็นคือผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มผมซอยสั้นคนหนึ่ง เธอกำลังส่งยิ้มผ่านบานประตูมาให้นี่เอง

             เธอคงจะเป็นหนึ่งในผู้หญิงของโรมันละสิ จะมาขู่ฆ่าฉันเหมือนที่เกียร์เพิ่งทำไปเมื่อกี้หรือเปล่า ฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยสักวินาทีเดียวเลยที่อยู่ที่นี่

             “หวัดดี ซานต้าใช่มั้ย ให้ฉันเข้าไปข้างในหน่อยสิ” เธอยิ้มกว้างมาให้อย่างเป็นมิตร

             เพราะเจอเกียร์มาก่อนหน้านี้แล้วเขาทำให้หลอน จึงลังเลไม่กล้าจะเปิดประตูออกไป แต่เธอก็ยังยิ้มสดใสมาให้จนในที่สุดฉันก็อดไม่ได้ที่จะเปิดประตูให้เธอเข้ามา

             เอาเถอะ มีศัตรูเพิ่มอีกสักคนจะเป็นไรไป ยังไงฉันคงต้องตายไม่เพราะโรมันก็เกียร์อยู่ดี ถ้าเกิดว่าจะเป็นผู้หญิงคนนี้ฆ่าก็ไม่ได้แตกต่างอะไรเท่าไหร่หรอก

             และเมื่อได้เห็นหน้าชัด ๆ ก็พบว่าเธอมีหน้าตาจิ้มลิ้มหมดจด มีรอยยิ้มที่แสนสดใส ราวกับมีดอกไม้เบ่งบานรอบตัวตลอดเวลา

             “ฉันโมนา ยินดีที่ได้รู้จักนะ” เธอยิ้มกว้างมาให้ จนฉันคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงต่อไปดี

             ‘โมนา’ คนนี้จะเกลียดฉัน อย่างที่เกียร์เกลียดฉันไหม

             “อือ… ฉันซานต้า” ฉันบอกไปแล้วก็รอดูเธอเปลี่ยนสีหน้าเหมือนที่เกียร์ทำก่อนหน้านี้

             แต่ไม่นะ… เธอยังยิ้มให้ฉันอยู่ดี ไม่เปลี่ยนไปเลยด้วย

             “แฟนโรมเหรอ”

             เฮ้อ… เลิกถามคำถามนี้เถอะ ควรจะถามว่า ‘เมื่อไหร่เธอจะถูกโรมเขี่ยทิ้งสักที’ จะง่ายกว่านะ

             “เปล่า ไม่ใช่” ฉันบอกแล้วก็ถอยหลังออกห่างจากเธออีกก้าวหนึ่ง

             “เถอะน่า อย่าเขินเลยน่า ไปข้างนอกกันมั้ย ฉันเห็นเธอมาที่นี่นานแล้วยังไม่ออกไปข้างนอกเลย ไปกันดีกว่าน่า” โมนาไม่พูดเปล่ายังตรงเข้ามาฉุดแขนฉันให้ออกจากห้องไปอีกด้วย

             นี่ฉันจะถูกพาไปตบตีที่ไหนหรือเปล่า บอกเลยนะว่าตอนนี้ฉันหมดสิ้นเรี่ยวแรงอะไรทุกอย่างแล้ว เพราะร่างกายที่ยังระบมไม่หาย ฉันเลยถูกโมนาฉุดออกมาจากห้องอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิด

             “ตรงนู้นเป็นบาร์เครื่องดื่มนะ มีทุกอย่างเลยล่ะ เบียร์ วิสกี้ ค็อกเทล อะไรที่อยากดื่มมีหมดเลย”

             ผู้หญิงที่ชื่อโมนาเดินลากแขนฉันออกมาจากห้องแล้วก็ชี้ไปยังบาร์ที่ตั้งอยู่โซนกลางของอู่ พร้อมกับอธิบายไปด้วยว่ามีอะไรบ้าง

             “ตรงนู้นก็บึง เรามีแข่งเจ็ทกันทุกวันเสาร์อาทิตย์เลยล่ะ ส่วนวันธรรมดาก็มีปาร์ตี้ด้วย”

             ที่นี่มันแหล่งอโคจรชัด ๆ ซ่อมสุมได้เลยนะ

             “แล้วบางทีเราก็ปิดถนนแข่งรถด้วยล่ะ”

             “เหรอ…” ฉันพูดไปเอื่อย ๆ ไม่ได้สนใจฟังด้วยซ้ำว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่

             ตอนนี้ในหัวของฉันมีแต่เรื่องของโรมันกับเกียร์ ที่ตามมาหลอกหลอนเหมือนฝันร้ายที่สลัดไม่ออก ฉันจะทำยังไงดีนะ เกือบแสนงั้นเหรอที่เอ็มได้จากโรมันไป มันไม่ใช่เงินน้อย ๆ เลยนะนั่น เอ็มเอาไปทำอะไรกันแน่ แล้วพวกเขาพนันเรื่องบ้าบออะไรกันอยู่

             แล้วสุดท้ายทำไมต้องลงที่ฉันคนเดียวด้วย…

           “ซานต้า! เธอเป็นอะไรเหรอ ฉันชวนเธอคุยตั้งนานแน่ะ”

             แล้วฉันก็ต้องสะดุ้งเมื่อโมนาเขย่าแขนพลางมองมาด้วยสายตาเป็นห่วง

             ฉันหันไปมองเธออย่างเหนื่อย ๆ เราเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ถ้าลองพูดกับเธอดูดี ๆ โมนาอาจจะช่วยได้ ให้พ้นจากผู้ชายที่ชื่อโรมันสักที

             “ฉัน… มีเรื่องขอคุยด้วยหน่อย” ฉันพูดอย่างจริงจัง ห้ามน้ำเสียงสั่นเครือเอาไว้ไม่ได้เลย

             โมนามองมาด้วยสายตาสงสัยแต่สุดท้ายเธอก็พยักหน้าให้

             “ได้สิ จะคุยเรื่องอะไรล่ะ”

     

     

             “จริงเหรอ? หมอนั่นทำกับเธอแบบนี้เหรอ” เสียงแหลมปรี๊ดของโมนาดังขึ้นมาทันทีที่ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

             และไม่ปิดบังอะไรแม้แต่น้อย…

             “ฉันว่าแล้วเชียว จู่ ๆ ที่คนหน้าตายไร้ความรู้สึกอย่างโรมจะมีแฟนปุบปับแบบนี้” โมนาลุกขึ้นจากเตียงในห้องของฉันก่อนจะเดินไปมาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

           “ผู้ชายบ้าพวกนี้เห็นผู้หญิงเป็นอะไรกันแน่นะ ฉันว่าโรมจะแตกต่างจากเรย์แล้วเชียวนะ” เธอพูดแล้วก็ยกนิ้วขึ้นมากัดเล็บเงียบ ๆ

             “เรย?” ฉันทวนชื่อที่เธอพูดออกมาแล้วก็นึกไปด้วย เหมือนจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างนะ

             “เรย์ เจ้าของอู่นี้น่ะ เอ่อ… แฟนฉันเอง” โมนาพูดแล้วก็ยิ้มอย่างเขิน ๆ

             อ้าว… เธอไม่ได้เป็นแฟนของโรมันหรอกเหรอเนี่ย ฉันมองเธอแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า ‘เรย์[2]’ คือใคร ผู้ชายอีกคนที่เห็นในภาพจากเว็บไซต์สินะ เขาเป็นแฟนโมนาเองหรือเนี่ย

             “ผู้ชายบ้าพวกนี้ห่ามกันไปหมดเลย แย่ละ ฉันว่าเรย์เลวแล้วนะ โรมเลวกว่าเรย์เยอะเลย”

           ฉันเผลอหัวเราะออกไปโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินแบบนั้น

             “อย่าหัวเราะนะซานต้า หมอนั่นน่ะนิสัยไม่ต่างจากโรมเลยสักนิด สมแล้วที่เป็นเพื่อนกัน” โมนาพูดอย่างงอน ๆ

             แต่ฉันก็ยังเห็นว่าดวงตาของเธอเป็นประกายเลยเมื่อพูดถึงเรย์ เธอคงจะรักผู้ชายคนนั้นมากเลยสินะ ถึงแม้ว่าจะทำตัวแย่โหดร้ายแค่ไหน แต่จะมีผู้หญิงอยู่ไม่น้อยเลยที่หลงรักพวกเขา

             เอ๊ะ! แล้วนี่ฉันพูดเรื่องอะไรอยู่นะ ทำเหมือนว่าตัวเองกำลังจะหลงรักโรมันอย่างนั้นแหละ ไม่หรอก ผู้ชายอย่างหมอนั่น ฉันไม่มีทางจะรักเขาได้เด็ดขาด ให้ตายยังไงฉันก็จะไม่รักเขา

             “ถ้าเธอหนี โรมต้องตามหักคอเธอแน่ ๆ”

             ฉันก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะแค่ปกติ เขาก็บีบแขนฉันแทบร้าวอยู่แล้ว

             “เอาไงดีนะ” โมนาเอามือแตะคางแล้วหันมามองฉันเหมือนกำลังใช้ความคิด สายตาแบบนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฮะ

             “เรามาหาทางเล่นงานโรมกันเถอะ” แล้วโมนาก็ยิ้มกว้างมาให้

             เล่นงานโรมันเหรอ ฉันว่าเขาได้มาเล่นงานฉันคืนแทนน่ะสิ โรมันน่ะ อันตรายไม่ใช่เล่นเลยนะ

             ถึงจะเพิ่งรู้จักเขาก็เถอะ แต่สัมผัสได้ถึงด้านมืดทุกอย่างแล้ว ฉันเลยแน่ใจว่าเขาอันตรายมากขนาดไหน

             “โรมไม่ชอบผู้หญิงเจ้าชู้มั้ง ดังนั้นเธอต้องเจ้าชู้” โมนาพูดแล้วยืดอกอย่างแข็งขัน

             แต่ว่านั่นน่ะ… ฉันคิดว่าไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่นะ

             “ไปทดสอบกันหน่อยดีกว่า” ว่าแล้วโมนาก็ลากแขนให้ฉันออกจากห้องไปทันที

             ฉันอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ร่างกายที่แทบจะแหลกเป็นเสี่ยง ๆ และยังตั้งสติกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ฉันเลยต้านทานใครไม่ได้เลย

             ไม่ว่าจะเป็นโรมัน หรือโมนาคนนี้

             ฉันถูกโมนาดึงให้เดินออกมาจากห้องพัก และตรงไปที่ท่าน้ำที่หลายคนกำลังแข่งเจ็ทสกีกันอยู่ มีหลายคนเลยที่มองมาทางเราสองคน ฉันไม่แน่ใจว่าพวกเขามองโมนาหรือฉันกันแน่

             โมนาทักทายผู้คนที่มากินเล่นที่นี่อย่างคุ้นเคย สมแล้วที่เป็นแฟนเจ้าของอู่นี้ ฉันมองแล้วก็นึกชมเธอในใจ ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างโมนาจะสามารถหยุดปีศาจร้ายอย่างเรย์ไว้ได้ เธอเล่าให้ฟังว่าเรย์เองก็สุดจะนิสัยชั่วร้ายจริง ๆ

             เฮ้อ… ฉันไม่รู้ว่าควรทำไงดี ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปทางไหนด้วย และพอมองจากตรงนี้ก็เห็นโรมันกำลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนของเขาที่ท่าน้ำด้วย

             ไม่นานนัยน์ตาดำสนิทคู่นั้นก็หันมามอง สายตาคู่นั้นทำให้ฉันร้อน ๆ หนาว ๆ ได้ทุกเมื่อยามที่โรมันจ้องมองมา ฉันแกล้งเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เมื่อสายตาคู่อื่นที่มาจากเพื่อนรอบตัวเขาจ้องมองมาที่ฉันบ้างแล้ว

             คงหัวเราะชอบใจกันสินะ ที่มีผู้หญิงโง่ ๆ ตกเป็นเหยื่อวายร้ายอีกคนน่ะ

     

     

             “เขามองเธอด้วย” โมนาพูดแล้วก็ใช้ไหล่สะกิดไหล่ฉันเบา ๆ

             “อือ… ไปทางอื่นดีกว่ามั้ย?” ฉันพูดอ้อมแอ้มตอบไป

             ไม่อยากจะบอก สายตาของโรมันเหมือนกำลังจะเข้ามาฉีกทึ้งฉันเป็นชิ้น ๆ เลย ไม่รู้ว่าเขาไปหงุดหงิดเรื่องอะไรมากันแน่

             “ฉันก็ว่างั้นแหละ ดูพักนี้โรมหงุดหงิดไงไม่รู้ เอาไว้หมอนั่นหน้าเป็นคนมากกว่าแวมไพร์ก่อนเนอะแล้วค่อยว่ากันอีกที” คำพูดติดตลกของโมนาทำให้ฉันยิ้มออกมาได้โดยไม่รู้ตัวเลย

             นี่โมนาก็คิดเหมือนฉันเลยล่ะ โรมันน่ะ เหมือนแวมไพร์ไม่มีผิดเลย เมื่อกี้เห็นจากหางตาแวบ ๆ เห็นเกียร์ยืนอยู่ข้างโรมันด้วย

             เกียร์คงชอบโรมันจริง ๆ สินะ

             แล้วฉันก็แทบจะวิ่งหนีเมื่อเห็นโรมันก้าวเท้ามาทางนี้ เอาไงดีล่ะ จะวิ่งกลับเข้าห้องก็ดูเหมือนจะเชิญชวนเขา จะหนีไปทางอื่นก็ไม่รู้จะไปที่ไหน ทำยังไงดี ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้สักสี่สิบองศาเมื่อเห็นหน้าเขาน่ะ

             และฉันเองก็ได้เห็นเรย์ด้วยสองตาตัวเองเป็นครั้งแรกด้วย

             สมแล้วที่เป็นเพื่อนกับแวมไพร์โรมัน หน้าตานี่ถอดแบบความราบเรียบไร้อารมณ์มาได้เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน แถมยังดูน่ากลัวมากด้วย

             “เจอเพื่อนใหม่แล้วเหรอ” โรมันถามเมื่อเขามาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว

             ฉันไม่รู้จะหนีไปที่ไหนน่ะ เลยยืนนิ่งมันตรงนี้แหละ เขาคงไม่บ้าขนาดจับฉันปล้ำตรงนี้หรอกมั้ง แต่เกียร์ก็ตามมาด้วยนะ

             เอาแล้วไง ฉันหายใจหายคอไม่สะดวกเลยเมื่อเห็นทั้งคู่ระยะประชิด โรมันเปียกไปทั้งตัวเพราะลงแข่งเจ็ทมา ส่วนเกียร์ก็ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงจ้องหน้าฉันเงียบ ๆ

             “อือ…” ฉันครางตอบในคอแล้วก็หลบสายตา ไม่อยากจะอยู่กับโรมันเลย ต้องทำยังไงนะ ถึงจะไปจากเขาได้สักทีน่ะ

             “ไงโมนา เธอหาเรื่องให้ฉันปวดหัวอีกแล้วเหรอ?”

             เรย์… เจ้าของอู่นี้พูดขึ้นมาแล้วก็ยื่นแขนเรียวยาวแข็งแรงของเขาโอบรอบตัวโมนาไปชิดติดตัว แล้วก็จ้องฉันด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

             “ฉันเปล่านะเรย์ แค่ชวนเธอคุย” โมนาปฏิเสธแล้วก็ยิ้มให้เรย์

             อา… ฉันว่าโมนารักผู้ชายคนนี้มากเลยล่ะ สายตาของเธอมันฟ้องมาแบบนั้น ทั้งที่บอกว่าเขาใจร้าย นิสัยชั่วร้ายมาก ๆ แต่ก็กลายเป็นว่ารักผู้ชายคนนั้นหมดใจ

             แต่สำหรับฉันไม่ล่ะ อย่างโรมันไม่เรียกว่าเลวหรอก ควรเรียกชั่วช้ามากกว่า

             “อ้าวเหรอ ทำไมหน้าซานต้าถึงได้ซีดแบบนั้นล่ะ เธอไปขู่อะไรไว้หรือเปล่า” เรย์ยังถามอีกแล้วก็ยิ้มที่มุมปากให้ฉันนิด ๆ ด้วย

             ผู้ชายพวกนี้เหมือนกันหมด ทั้งหน้าตา ทั้งคำพูด นิสัยใจคอ เหมือนกันไปหมดเลย

             “นายน่ะดีแต่ใส่ร้ายฉัน เออสิ ฉันไม่ดีเหมือนมีนนี่!”

             “เอาอีกละ มีนน่ะญาติฉันนะ!” แล้วทั้งคู่ก็เริ่มทะเลาะกัน

             ฉันมองอย่างงง ๆ เมื่อโมนาถูกเรย์ลากไปอีกทางหนึ่ง ก่อนที่จะหันมาเจอสายตาของโรมันอีกครั้ง จะจ้องหน้ากันไปถึงไหนกันนะ ไม่เข้าใจความคิดของผู้ชายคนนี้เลย

             “มาดูฉันแข่งเจ็ทเหรอ?” โรมันถามเรียบ ไม่ต่างจากสีหน้าสักนิดเดียว

             “อือ… โมนาชวนมาน่ะ” ฉันตอบไปเหมือนคนไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี

             “ออ เหรอ งั้นไปฉันแข่งเสร็จพอดี” ว่าแล้วเขาก็เดินเข้ามาจับแขนฉันไว้ แล้วลากไปทางบังกะโลที่ฉันเพิ่งเดินออกมา

             เอาแล้วไง เขาจะทำอะไรอีกเนี่ย ฉันมองไปรอบตัวเพื่อจะหาตัวช่วย ก็เห็นว่าเกียร์กำลังถูกผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยกลุ่มหนึ่งห้อมล้อมอยู่ ทำไมนะ ทำไมโรมันถึงไม่มีผู้หญิงเข้ามาแบบนั้นบ้าง ทั้งที่หน้าตาของเขาเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดเพศตรงข้ามเลยล่ะ

             หรือเพราะว่าสีหน้าน่ากลัวของโรมันก็เป็นได้ เลยทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับเขาน่ะ

     

     

             เชื่อไหมว่าสิ่งแรกที่โรมันทำคือการก้มลงจูบต้นคอฉัน ลมหายใจที่เย็นจัดของเขากำลังจะทำให้ฉันกลายเป็นน้ำแข็งอย่างหวาดกลัว

             ฉันหลับตาแน่นไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว หายใจเข้าปอดแต่ละทีก็ยากเย็น เพราะสายตาของโรมันยังจ้องหน้าฉันไม่เคลื่อนไปไหน เขาไปตายอดตายอยากเรื่องผู้หญิงมาจากไหนกัน หน้าตาท่าทางแบบนี้คงมีผู้หญิงเป็นร้อยวิ่งมาเสนอตัวให้

             แล้วกับคนที่ไม่เต็มใจอย่างฉัน เขามายุ่งด้วยทำไมกัน

             ปลายลิ้นร้อนผ่าวของโรมันแตะที่ริมฝีปากฉันเบา ๆ ทำให้ฉันเม้มปากแล้วสะบัดหน้าหนี หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาทางปาก อากาศรอบตัวก็เหมือนจะร้อนขึ้นหลายสิบองศา

             “เธอเจอเกียร์แล้วใช่มั้ย?” โรมันถามชิดหูฉัน จงใจใช้ลมหายใจเย็นเยือกนั่นทำให้ฉันปั่นป่วนไปหมด

             เมื่อฉันไม่ตอบ โรมันก็เม้มริมฝีปากกับติ่งหูของฉันเล่น หยดน้ำจากตัวของเขาพาให้สั่นสะท้านไปด้วย ฉันจึงยกแขนผลักเขาออกไปอย่างสุดทน หมอนี่มันหยาบคายที่สุดเลย เขาผงะออกไปเล็กน้อยก่อนจะหรี่ตาลงเหมือนกำลังข่มความรู้สึกเอาไว้

             “ว่าไงเธอเจอกับเกียร์แล้วละสิ” โรมันยกแขนแข็งแรงทั้งสองข้างกั้นฉันไว้กับผนัง ใช้หน้าผากดันหน้าผากฉันให้เงยหน้าขึ้นมองสบตาด้วย

             แววตาคู่นี้มันว่างเปล่าเหลือเกินจนแทบมองอะไรไม่เห็น นอกจากความมืดมิดเท่านั้น…

             “อือ” ฉันบอกแล้วพยายามเบี่ยงหน้าหลบ แต่มือข้างหนึ่งของเขาก็ยึดปลายคางฉันไว้แน่น จนกระดิกไปไหนไม่ได้

             “อย่ายุ่งกับเกียร์นะ จำเอาไว้” เขาบอกเสียงเข้มแล้วจ้องหน้าฉันเขม็ง

             ตอนนี้หัวใจของฉันเริ่มผ่อนจังหวะการเต้นที่หนักหน่วงลงมาแล้ว นึกสงสัยในความสัมพันธ์ของเขาสองคนอยู่เงียบ ๆ

             มันมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า

             “นาย…” ฉันกำลังจะปากถามแต่โรมันก็เลิกคิ้วขึ้นสูง

             เห็นท่าทางกวนประสาทและยั่วยุของโรมันแบบนี้แล้วอย่าเสี่ยงเลยดีกว่า เพราะดูไม่ปลอดภัยเอาซะเลย

             “มีอะไรก็ว่ามา” เขาต่อคำพูดให้ฉัน

             แต่ตอนนี้ฉันชักไม่แน่ใจซะแล้วว่าควรจะพูดไปดีหรือเปล่า สีหน้าแววตาแบบนี้…

             “นายกับเกียร์ เอ่อ…” ว่าแล้วฉันก็หุบปากฉับ เมื่อสายตาของโรมันวาววับขึ้นมาทันทีทันใด

             เพราะอย่างนี้ ฉันเลยไม่กล้าจะถามอะไรอีก

             “เธอคิดว่าฉันเป็นเกย์งั้นสิ” โรมันยิ้มที่มุมปากแล้วก็เลื่อนปลายนิ้วของเขามาแตะคอเสื้อฉันไว้

             ฉันตะครุบมือเขาไว้ทันที ทำไมถึงมือไวแบบนี้นะ เผลอแป๊บเดียวไม่รู้เลยว่าเขาทำอะไรฉันไปแล้วบ้างน่ะ

             “แล้วเธอคิดว่าฉันเป็นเกย์มั้ยล่ะ ซานต้า” เขาพูดแล้วก็เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้

             ฉันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโรมันน่ะมีอำนาจเหนือการควบคุมของฉันจริง ๆ ทั้งที่ปากบอกว่าเกลียดเขา โมโหเขา แต่ลึกลงไปกลับต้านทานไม่ได้เลย แค่เขาเข้ามาใกล้แบบนี้ก็ทำให้สั่นไปทั้งตัวได้แล้ว

             “อย่าคิดโง่ ๆ นะ อ้อ อีกอย่างเกียร์น่ะร้ายกาจ เธอตามหมอนั่นไม่ทันแน่ ระวังอย่าอยู่ใกล้หมอนั่นมากเกินไป” เสียงทุ้มหนักพูดกระซิบข้างหูฉันก่อนจะผละออกไป

             ฉันถึงได้ถอนหายใจออกมาได้ บอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียดายที่เขาขยับออกห่างแบบนี้กันแน่ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหัวใจมันเป็นอะไรไปแล้ว

             “ความจริงฉันคิดว่าจะโยนเธอขึ้นเตียงแต่ฉันเหนื่อย แล้วก็ต้องออกไปนั่งคุยกับเรย์ด้วย ดังนั้นปล่อยเธอไปก่อนก็ได้” โรมถอดเสื้อยืดให้พ้นจากตัวแล้วก็โยนลงตะกร้าอย่างแม่นยำ

             ส่วนฉันหน้าร้อนผ่าวต้องรีบเบือนหน้าไปทางอื่นทันที พูดบ้าอะไรอยู่น่ะ

             “เอาไว้รวบยอดคืนนี้ก็แล้วกัน”

             “คนบ้า…” ฉันได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง ไม่กล้าจะพูดมันออกมาให้เขาได้ยิน

             แล้วฉันก็มีอันต้องทำหน้าไม่ถูกอีกครั้ง เมื่อโรมันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลากตัวฉันออกมากินข้าวกับเพื่อน ๆ ของเขา โดยไม่สนใจเลยว่าฉันจะรู้สึกยังไง และจะวางตัวอย่างไรต่อหน้าคนอื่น

             “เดี๋ยวมานะ” โรมันเดินไปอีกทางส่วนฉันก็ยืนนิ่งเพราะไม่รู้จะไปคุยกับใคร

             บ้าจริง… ฉันทำอะไรอยู่น่ะ

             พอเห็นเกียร์เดินมาฉันก็เผลอถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะอย่างน้อยก็เคยคุยกันแล้ว แต่ท่าทางเขาเหมือนไม่อยากให้ฉันอยู่ใกล้โรมัน

             แต่ก็ถ้าเกิดขอร้องสักครั้ง เขาก็อาจจะช่วยยอมช่วย

             “เกียร์…” ฉันเรียกชื่อเขาอย่างระมัดระวัง

             แล้วพลันนั้นฉันก็รู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้น เหมือนว่าหัวใจทั้งดวงหายไป เมื่อจู่ ๆ เกียร์โน้มหน้ามาจูบ

             หลายวินาทีกว่าที่เกียร์จะผละออกไป สีหน้าเขาเย็นชาก่อนจะใช้ปลายลิ้นของเขาเลียริมฝีปากด้วยสีหน้าน่าชิงชัง

             “จูบของโรมฉันขอคืน สมน้ำหน้า!”

             เมื่อกี้ เกียร์ทำอะไรน่ะ…

     


     


    [1] รักร่วมสองเพศ หรือ ไบเซ็กชวล (Bisexual) เป็นรสนิยมทางเพศ ที่ชอบคนทั้ง 2 เพศ ทั้งชายและหญิง คนที่มีรสนิยมแบบไบเซ็กชวลอาจมีประสบการณ์ทางเพศ ภาวะอารมณ์ ความรัก กับทั้งเพศตัวเองและเพศตรงข้าม

    [2] เรย์ และ โมนา จากนิยายเรื่อง 243 Bed Bad Boy หนุ่มร้อนสาวร้ายละลายรักอลวน เขียนโดย Miracle


     

    นิยายเรื่องนี้หมดสัญญากับทางสำนักพิมพ์แล้ว

    มู่เลยนำมาทำ E-Book เองค่ะ

    สามารถซื้อ E-Book ได้ที่ Meb เลยนะคะ

    กดที่รูปปกใหม่เพื่อซื้อได้เลยค่ะ

    ขอบคุณจากใจมาก ๆ เลยนะคะ


     

     

    หรือ >>Click!!<<

     

     

    Song :: Symphony - Switch 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×