ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END]Cupid's trap ซ้อนกลกามเทพ #Markbam

    ลำดับตอนที่ #4 : ซ้อนกลกามเทพ ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 58


     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     

                

                เเบมเเบมยกมือขึ้นนวดต้นคอเเละบริเวณหัวไหล่ตัวเอง มาร์คมองอาการคนข้างๆเเล้วเเอบอมยิ้มอยู่คนเดียว รู้สึกเสียดายค่าตั๋วหนังชะมัด เหมือนชวนกันมาหลับในโรงยังไงไม่รู้

     

     

                "หนังเรื่องนี้ก็สนุกดีนะมาร์ค" มาร์คขำในลำคอเบาๆ เเล้วเลิกคิ้วใส่คนตัวเล็กข้างตัว เเบมเเบมทุ้งศอกใส่ท้องคนข้างๆเต็มเเรง

     

                "อุ๊ก!! อะไรว่ะ ทำร้ายร่างกายกันทำไมเนี่ย"

     

                "อยากทำหน้ากวนประสาททำไมอ่ะ" แบมแบมจ้องหน้าหล่องของอีกฝ่ายเขม่น มาร์คก็มองกลับอย่างไม่ยี่หระเช่นกัน

     

                "ก็ป่าวซะหน่อย เเค่ไม่อยากจะเชื่อที่เเบมบอกว่าหนังสนุก มาร์คเห็นเเบมเอียงคอเเทบหัก ตานี่ปิดตั้งเเต่ 10 นาทีเเรก"

     

                "อย่ามามัว มาร์คต่างหากที่ตาปิดตั้งเเต่ 10 นาทีเเรก เเบมเเค่พักสายตาต่างหาก" แบมแบมคงจะลืมไปว่าทุกๆการกระทำของตัวเองอยู่ในสายตามาร์คตลอด ไม่ว่าแบมจะทำอะไรมาร์คมักจะรู้แทบจะทุกอย่าง

     

                "อ๋อหรออออออ พักสายตาจนหนังฉายจบเลยเนอะ" มาร์คพูดจบก็หัวเราะออกมาเบาๆ ทำเอาแบมแบมหน้างอง้ำหนักกว่าเดิม

     

                "เงียบไปเลยมาร์ค ตัวเองก็หลับอย่ามาว่าเเต่คนอื่น วันหลังไม่ดูอะไรเเบบนี้อีกเเล้วนะ กลับไปดูหนังตลกๆ เฮฮาๆจะดีกว่า"

     

                "ดูหนังผีไม่ได้หรอ เเบร่"

     

                "อยากกลายเป็นผีมั้ยมาร์ค จะได้ไม่ต้องเสียเงินมาดู ได้เป็นเอง มีเพื่อนด้วย เอามั้ย" แบมแบมชูกำปั้นขึ้นสูง ขู่คนหน้าทะเล้นที่เดินเคียงข้าง

     

                "ดุจัง =0=" มาร์คจับข้อมือเล็กของแบมแบมที่ชูขึ้นให้ลดลงแล้วกุมข้อมือนั้นไม่ยอมปล่อย แบมแบมก็ไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้มาร์คจับตามความเคยชิน

     

     

                เเบมเเบมและมาร์คเดินลงบันไดเลื่อนมายังชั้นที่มีร้านเสื้อผ้าที่มาร์คชอบซื้อใส่ประจำ เเบมเเบมเดินนำมาร์คไปที่ร้านประจำของคนที่เดินตามหลัง

     

     

                "เออ มาร์ค เเบมซื้อเชิ้ตสีดำให้มาร์ค เเบมให้มาร์คยังว่ะ" มาร์คส่ายหน้าเเล้วมองไปที่เสื้อที่เเบมเเบมจับ

     

                "เดี๋ยวกลับห้องเเล้วทวงด้วยนะ" เเบมเเบมพูดกับคนที่ยืนซ้อนหลังตัวเองอยู่ เเต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาร์คมาก สนใจเเต่เสื้อในมือที่ตัวเองถืออยู่ หยิบมาสี่ห้าตัวเเล้ว ก็ยังไม่ถูกใจสักตัว

     

                "อืม เเล้วนี่จะซื้อเสื้อใหม่หรอ" มาร์คมองเสื้อที่เเบมเเบมหยิบออกมาดู เเต่ก็ยังเหมือนกับว่าตัวที่หยิบมายังไม่ถูกใจสักที

     

                "ป่าว ให้มาร์คซื้อนั้นเเหละ เปลี่ยนสไตล์การเเต่งตัวบ้างสิ เห็นใส่เเต่เเบบเดิมๆ เบื๊อเบื่อ" เเบมเเบมเเขวนเสื้อไว้ตามเดิม เพราะที่หยิบๆมามันไม่ถูกใจจริงๆ

     

                "เเล้วการที่มาร้านประจำของมาร์ค มันจะได้เสื้อผ้าสไตล์ใหม่มั้ยหล่ะ"

     

                "ก็ไม่ไง เเค่อยากเข้ามาดูเฉยๆ ไปกันเถอะ" เเบมเเบมเดินนำมาร์คออกมา โดยไม่ได้สนใจสายตาของพนักงานที่มองตาม

     

                "อะไรของเเบมว่ะ" มาร์ครีบก้าวเท้าตามคนตัวเล็กให้ทัน เเล้วพูดออกมาเบาๆ เเต่เเบมเเบมก็หูดีไง ได้ยินในสิ่งที่มาร์คพูด

     

                "พูดจาไม่เพราะ เดี๋ยวตบปากให้เลย" เเบมเเบมยกมือขึ้นมา ทำท่าเหมือนจะตบปากมาร์คจริงๆ

     

                "ทีตัวเองอ่ะ พูดเพราะตายเเหละ" มาร์คยกมือตัวเองขึ้นมาจับมือเล็กนั้นไว้เเล้วเปลี่ยนมากุมมือกันไว้เเทน

     

                "เเน่นอนครับ คุณมาร์ค ต้วน ผมเป็นคนพูดจาสุภาพ เเละมีหางเสียงตลอดเวลา ตอนนี้ช่วยกรุณาเดินให้ไวด้วยครับ หลังจากดูเสื้อผ้าให้คุณมาร์คเสร็จ ผมกะว่าจะหาข้าวกินอีก"

     

                "เฮ้อออออ" มาร์คถอนหายใจเมื่อได้ยินการพูดจาเเบบสุภาพสุดๆของเเบมเเบม

     

                "ถอนหายใจทำไม คาร์บอนไดออกไซค์ในปอดเยอะหรอ" เเบมเเบมเเกล้งถามกวนๆใส่มาร์ค ใบหน้าหวานยกยิ้มอย่างพอใจที่มาร์คไม่ได้ตอบโต้อะไร

     

                "อืม"

     

                ทั้งคู่เดินเข้าร้านเสื้อผ้าที่แทบจะไม่เคยเข้าไปเลย แบมแบมมองเสื้อผ้าที่ถูดจัดเอาไว้เป็นโซนและหลากหลายสไตล์อย่างถูกใจ ตากลมโตวาววับเมื่อเห็นเสื้อผ้าในแบบที่ตัวเองชอบใส่  มาร์คมองตามคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดู แบมแบมมักจะแสดงออกด้วยสีหน้าเวลาถูกใจอะไรเหมือนๆกับเด็กๆไม่มีผิด

     

                แล้วมาร์คก็เป็นคนรักเด็กไง

     

     

                “มาร์คมานี่หน่อยสิ” แบมแบมเรียกมาร์คที่ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนสักทีให้เดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะยื่นเสื้อสี่ห้าตัวให้มาร์คถือ

     

                “เอาไปลองให้แบมดูหน่อย” มาร์คมองคนตัวเล็กที่ยื่นเสื้อผ้ามาให้งงๆ มาร์คกำลังสงสัยว่าสรุปว่าใครกันแน่ที่เกิดก่อน ทำไมแบมสั่งเขาเหมือนกับตัวเองเป็นพี่ยังไงอย่างงั้น

     

     

                แต่มาร์คก็ทำได้แค่สงสัยนั้นแหละ เพราะแบมแบมพูดอะไร มีหรือที่มาร์คจะขัดใจ

     

     

                มาร์คหายเข้าไปในห้องลองเสื้อ ปล่อยให้แบมแบมเดินดูเสื้อผ้าด้วยความเพลิดเพลินอยู่คนเดียว โดยที่ไม่รู้เลยว่า การปล่อยแบมแบมไว้คนเดียวนั้น จะทำให้เขาต้องเจอคนเพิ่มอีก 1 คน

     

     

                มาร์คออกมาพร้อมกับชุดที่แบมแบมเป็นคนเลือกให้ ถึงมันจะดูแปลกๆไปบ้าง แต่มันก็ออกมาดูดีแหละ มาร์คเชื่อมั่นในตัวแบมแบม

     

     

                เสียงหัวเราะของแบมแบมที่ดังมาจากไหนสักที่ของร้าน ทำให้มาร์คต้องเดินตามหาเสียง จนเห็นแผ่นหลังเล็กๆที่ยืนหัวเราะกับใครสักคนอยู่

     

     

                ใครสักคนที่จะทำให้ความสัมพันธ์แปลกๆของมาร์คและแบมเปลี่ยนไป...

     

     

                “ไหนมาร์คหมุนตัวให้แบมดูหน่อยสิ” แบมแบมหันมาเจอมาร์คยืนอยู่ในชุดที่ตัวเองเลือก แล้วยกยิ้มในใจที่ตัวเองเลือกให้มาร์คแล้วออกมาดูดียิ่งกว่านายแบบ

     

     

                มาร์คมองข้ามไหล่เล็กนั้นไปจนเห็นอีกคนที่ยืนอยู่

     

                “ไง มาร์ค เซอร์ไพร์สป่ะที่เจอฉันที่นี่” แจ็คสันยิ้มกว้างให้กับเพื่อนสนิทที่ตอนนี้สีหน้าบอกบุญไม่รับแบบสุดๆ แต่คนอย่างแจ็คสันมีหรือจะแคร์ เพราะแจ็คสันไม่ได้ต้องการที่จะมาเจอมาร์ค แต่ต้องการมาเจอคนที่ยืนมองมาร์คต่างหาก และที่สำคัญไปกว่านั้น มาร์คมันก็ไม่ใช่คนที่ยิ้มพร่ำเพรื่ออะไรอยู่แล้ว แจ็คสันเลยไม่ได้ถือสาอะไร

     

                “มาร์คชอบชุดนี้มั้ย แบมว่ามันดูเหมาะกับมาร์คนะ ซื้อมั้ยๆ ถ้ามาร์คไม่ซื้อ แบมจะซื้อให้เอง” แบมแบมถามมาร์คถี่จนมาร์คต้องพยักหน้าตอบแทน ตอนนี้มาร์คไม่มีอารมณ์จะดีใจหรืออะไรทั้งนั้น เขาอยากจะพาแบมแบมกลับคอนโดชะมัด

     

                “แบม เดี๋ยวซื้อเสื้อผ้าเสร็จแล้วกลับคอนโดกัน ถ้าหิวเดี๋ยวมาร์คทำข้าวให้กินเอง” แบมแบมยิ้มให้มาร์คแล้วพยักหน้า มาร์ครู้สึกโล่งใจที่แบมแบมไม่งอแงและยอมกลับคอนโดง่ายๆ

     

                แต่ก็แค่แป๊บเดียวเท่านั้น เมื่อแบมแบมพูดประโยคหนึ่งออกมา

     

                “ให้พี่แจ็คสันทานด้วยนะ พี่แจ็คสันเขาอยู่คอนโดเดียวกับเรา แล้วที่สำคัญไปกว่านั้น เขาอยู่ชั้นเดียวกับเราเลยหล่ะมาร์ค ทานกันสามคนน่าสนุกดี” มาร์คหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทชาวฮ่องกงทันที คิ้วสวยขมวดเป็นปมเมื่อพึ่งรู้ว่าแจ็คสันมาอยู่ที่คอนโดเดียวกับตัวเอง ทั้งๆที่เขาน่าจะรู้ตั้งนานแล้ว

     

     

                มาร์คคิดว่า เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง และจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ อิม แจบอม เพื่อนสนิทอีกคนของมาร์ค

     

     

                “ไม่ต้องทำหน้าดีใจขนาดนั้นก็ได้มาร์ค นายรีบไปจ่ายเงินค่าชุดดีกว่า เราจะได้รีบกลับไปฉลองที่คอนโดของพวกเรากัน” แจ็คสันเดินมาหยุดอยู่ข้างๆแบมแบมแล้วยกยิ้มให้กับมาร์คเหมือนปกติ

     

                “มาร์ค ไหนๆก็จะฉลองที่พี่แจ็คสันมาอยู่ที่ไทยแบบถาวรแล้ว มาร์คอย่าลืมโทรตามพี่แจบอมน่ะ กลุ่มมาร์คจะได้อยู่กันครบ”

     

                “ได้สิ มาร์คต้องโทรชวนแจบอมมันมาอยู่แล้ว มีหลายเรื่องที่มาร์คอยากคุยกับมัน” มาร์คเดินกลับเข้าไปที่ห้องลองชุด เปลี่ยนมาใส่ชุดเดิมของตัวเอง

                   

     

     

     

    47%

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                แจ็คสันแยกไปที่รถของตัวเอง ปล่อยให้มาร์คและแบมแบมกลับรถคันเดียวกัน พอแจ็คสันแยกตัวออกไป ก็ทำให้แบมและมาร์คอยู่ด้วยกันแค่สองคน ใบหน้าหวานที่ตอนแรกยังคงมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะหลังจากที่ได้เจอและได้คุยกับเพื่อนสนิทที่แสนจะอารมณ์ดีของมาร์ค ตอนนี้รอยยิ้มพวกนั้นมันค่อยๆลดลงตามระยะทางที่แบมแบมและมาร์คเดินมาถึงรถ ร่างเล็กเหลือบมองคนข้างๆที่เดินหน้านิ่งตั้งแต่ออกจากร้านเสื้อเงียบๆ ไม่กล้าเอ่ยปากที่จะถามมาก เพราะกลัวว่าจะทำให้มาร์คหงุดหงิดเข้าไปอีก

     

     

                “มาร์ค...เดี๋ยวก่อน” แบมแบมกระตุกกชายเสื้อมาร์คเบาๆ หลังจากที่ทำใจอยู่นาน มาร์คหันมามองคนข้างตัวที่เหมือนกับมีเรื่องอยากจะถามแต่ก็ไม่กล้า

     

                “มีอะไรแบม” ถึงจะพยายามทำน้ำเสียงให้ปกติ แต่มันก็ยังไม่ปกติสำหรับคนที่ฟังเสียงมาร์คแทบทุกวันหรอก แบมแบมก็พอรู้ว่ามาร์คกำลังฝืนน้ำเสียงให้มันเป็นปกติ

     

                “เป็นอะไร” แบมแบมถามออกมาแล้ว ถามในสิ่งที่อยากจะรู้ เขาไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรผิดหรือทำให้มาร์คไม่พอใจรึเปล่า มาร์คถึงได้เป็นแบบนี้ หรือจริงๆเสื้อผ้าทีเขาเลือกให้มาร์ค มาร์คไม่ชอบ แต่ไม่อยากพูดให้เขารู้สึกไม่ดีเลยเลือกที่จะเงียบแทน

     

                “ป่าว” มาร์คไม่อยากจะบอกหรอกว่าที่ตัวเองเป็นแบบนี้เพราะอะไร เขาไม่อยากให้แบมแบมต้องคิดมาก และอีกอย่างเขาก็กลัว

     

     

                กลัววาสิ่งที่ตัวเองจะพูดออกไป มันจะทำให้เราทั้งคู่อึดอัด

     

                กลัวว่าสิ่งที่รู้สึกอยู่ข้างในมันจะผิด และ ล้ำเส้นที่ตอนนี้มันถูกขีดเอาไว้ ว่ามาร์ค ไม่ควรที่จะคิดอะไรแบบนั้น

     

     

                “มาร์คคิดว่าแบมดูไม่ออกรึไงว่าเป็นเพราะอะไร” มาร์คไม่รู้สึกตกใจกับคำพูดของแบมแบมนักหรอก เพราะมาร์ครู้ว่าแบมแบมไม่มีทางรู้ว่าที่เขาเป็นแบบนี้เพราะอะไร แบมแบมอาจจะคิดเป็นเรื่องก็ได้

     

                “แบมคิดว่ามาร์คเป็นอะไร??? เพราะอะไรหรอ?? มาร์คไม่ได้เป็นอะไร มาร์คปกติดี” รู้ว่ายิ่งพูดไป น้ำเสียงตัวเองมันยิ่งบ่งบอกว่าสิ่งที่พูดกับสิ่งที่รู้สึกมันสวนทางกัน มาร์คเลยเลือกที่จะหันหลังและเดินมาที่รถ

     

                “ปกติ?? ปกติหรอ?? เฮอะ!!” แบมแบมมองตามแผ่นหลังของอีกคน แล้วเสมองไปทางอื่น ก่อนที่ขาทั้งสองจะก้าวไปอีกทาง

     

                “จะไปไหน แบมแบม” มาร์คตะโกนถามอีกคนที่หันหลังจะเดินไปอีกทาง ถึงเสียงตะโกนของมาร์คมันจะดังชัดเจน แต่แบมแบมก็เลือกที่จะไม่หันไปมอง และยังจะเดินต่อไป

     

                “อย่าเดินหนีแบบนี้ได้มั้ยแบม” มาร์ควิ่งมาประชิดตัวคนตัวเล็กกว่าพร้อมกับดึงข้อมืออีกคนเอาไว้ แบมแบมหันมาสบตามาร์ค และเบนสายตาไปข้อมือที่ถูกอีกฝ่ายกุมเอาไว้จนเจ็บไปหมด

     

                “มาร์คขอโทษ...โอเค...มาร์คผิดเองที่หันหลังให้แบมก่อน ไปที่รถกันก่อนเถอะ แล้วค่อยกลับไปเคลียร์กันที่คอนโด” มาร์คคลายมือตัวเองที่จับข้อมือเล็กจนแดง เขาค่อยๆลูบลงบนรอยแดงเผื่อว่ามันจะทำให้แบมแบมหายเจ็บ แล้วเปลี่ยนไปจับมือแบมแบมและพาเดินกลับมาที่รถของตัวเอง

     

                “ขึ้นรถเถอะแบม แล้วกลับไปคุยกันที่ห้องเถอะนะ” แบมแบมเงียบละไม่ขยับตัวไปไหน มาร์คเลยผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ

     

                “โอเค งั้นคุยกันตรงนี้ให้จบแล้วค่อยกลับ“ มาร์คปล่อยมือแบมแบมแล้วหันหน้าไปมองอีกคนที่มองตัวเองอยู่เหมือนกัน และเป็นฝ่ายที่จะเริ่มพูดก่อน

     

                “มาร์คไม่ได้เป็นอะไร มาร์คแค่เห็นว่าแบมคุยกับแจ็คสันอยู่เลยไม่อยากจะพูดแทรก ก็แค่นั้น มันไม่มีอะไรจริงๆ” ถึงความจริงที่พูดออกมามันจะเป็นแค่บางส่วนก็เถอะ แต่มาร์คก็รู้สึกว่ามันก็ดีกว่าที่จะพูดออกมาทั้งหมด เพราะไม่อย่างนั้นเราคงจะต้องคุยกันยาวจนไม่ได้กลับห้องแน่ๆ

     

                “แค่นี้แน่หรอมาร์ค” แบมแบมยอมพูดกับมาร์คซะทีหลังจากที่เงียบมานาน

     

                “อืม แค่นี้แหละ มันไม่มีอะไร” มาร์คมองท่าทีของแบมแบมที่ดูจะอ่อนลงกว่าเมื่อกี้ก็เปิดประตูรถออก รอให้แบมแบมเข้าไปนั่งและปิดประตูลงให้สนิท

     

     

     

     

     

     

     

     

                ทั้งคู่เดินเข้าห้องของแบมแบมเงียบๆ ไม่มีการสนทนาอะไรเกิดขึ้นเลย แต่มันก็ดีกว่าที่ต่างคนต่างกลับห้องของตัวเอง เพราะมาร์คและแบมต่างรู้ดีว่า ถ้าเราแยกกันอยู่แล้วต่างคนต่างคิดกันไปเอง เรื่องมันจะยิ่งแย่

     

                “แบมอยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า” มาร์คเอ่ยถามขึ้นมา หลังจากที่เขาแยกถุงของตัวเองและของแบมแบมออกจากกัน

     

                “แล้วแต่มาร์คเลย” แบมแบมพูดออกมาเบาๆ ลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อเข้าไปอาบน้ำ แต่มาร์คกับดึงมือไว้

     

                “งั้นไปช่วยมาร์คทำดีกว่า มาร์คอยากได้ลูกมือ”ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ คงจะเป็นแบมแบมเสียมากกว่าที่เป็นฝ่ายพูด แต่พอแบมแบมเงียบ มาร์คเลยกลายเป็นคนที่จะคอยพูดและถามแทน

     

                “อืม” แบมแบมเดินตามหลังมาร์คมาเงียบๆ 

     

                “ยังไม่โอเคอีกหรอ มาร์คขอถามหน่อยว่าที่แบมแบมโกรธ มันเป็นเพราะว่าแบมคิดว่ามาร์คเงียบเพราะอะไร” มาร์คก็อยากรู้ว่าสิ่งที่แบมแบมคิด มันคือเรื่องอะไรกันแน่ มันคงไม่ใช่เรื่องเดียวกันกับที่เขาคิดหรอก

     

                “แบมคิดว่ามาร์คไม่ชอบเสื้อผ้าที่แบมซื้อให้ แต่มาร์คไม่กล้าพูดเพราะกลัวว่าแบมจะเสียความรู้สึก เลยเลือกที่จะเงียบแทน” มาร์คอมยิ้มกับคำตอบของแบมแบม ก่อนที่จะดึงเข้ามากอดและยกมือขึ้นมาลูบหัวแบมแบมเบาๆ

     

                “คิดมากน่า มาร์คไม่ได้ไม่ชอบชุดที่แบมแบมเลือกให้มาร์คซะหน่อย มาร์คชอบที่แบมเลือกเสื้อผ้า เลือกของให้มาร์คนะ มาร์ครู้ว่าแบมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้มาร์คอยู่แล้ว จริงมั้ยครับ” มาร์คก้มลงมองคนในอ้อมกอดที่ซุกหน้าอยู่กับอกตัวเอง

     

                “พูดมาก ไหนบอกจะทำกับข้าว ก็รีบทำสิ หิวจะตายอยู่แล้ว” แบมแบมดันมาร์คออก แล้วเดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนที่แขวนไว้แทนการอยู่ในอ้อมกอดของมาร์คนานๆ

     

     

     

    ก๊อกๆๆๆ

     

     

     

                เสียงเคาะประตูจากด้านนอก ทำให้มาร์คชักอยากจะหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ เพราะเขารู้ดีว่าคนที่อยู่ด้านนอกนั้นเป็นใคร แบมแบมเองก็รู้ เลยรีบเดินไปเปิดประตูให้คนด้านนอก เพราะไม่อยากให้เขารอนาน

     

                “พี่แจ็คสันนั่งตรงนี้ก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวแบมไปช่วยมาร์คทำกับข้าวในคร้วก่อน” แบมแบมผายมือไปที่โซฟา แล้วรีบเดินกลับเข้าไปในครัวจนแจ็คสันไม่ทันที่จะขอเสนอตัวเข้าไปช่วย

     

                “พี่แจ็คสันคร้าบบบบบ” เสียงหวานตะโกนออกมาจากในครัว ทำให้แจ็คสันยกยิ้มด้วยความดีใจที่แบมแบมเรียกชื่อตัวเอง

     

                “ว่าไงครับแบม” แจ็คสันลุกจากโซฟาทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก แต่ยังเดินไม่ถึงประตู มาร์คก็เดินออกมาจากครัว

     

                “แบมให้นายโทรตามแจบอมมาด้วย อ้อ ส่วนฉันก็จะไปโทรตามจินยอง” แจ็คสันตาโตทันทีที่มาร์คเอ่ยชื่อลูกพี่ลูกน้องที่แสนโหดของแบมแบม

     

                “เห้ยย ทำไมต้องโทรตามพี่ชายแบมแบมมาด้วยว่ะ”

     

                “แบมแบมคิดถึงพี่ชายตัวเอง” มาร์คแอบอมยิ้มในใจเมื่อเห็นอาการของแจ็คสันตอนที่เขาพูดถึงพี่ชายของคนตัวเล็กที่อยู่ในครัว

     

                “ทำไม?? ไม่อยากให้จินยองมาหรอ งั้นเดี๋ยวฉันไปบอกแบมให้” มาร์คหมุนตัวเตรียมที่จะเดินกลับเข้าไปในครัว แต่แจ็คสันรีบดึงเอาไว้ก่อน และพยักหน้าให้มาร์คอย่างจำยอม

     

                “เออๆ นายไปโทรบอกจินยองซะ ฉันจะโทรหาแจบอมเอง” แจ็คสันกลับไปที่โซฟาและรีบโทรหาแจบอมทันที ส่วนมาร์คก็เดินไปที่ระเบียงเพื่อโทรหาจินยอง

     

     

     

                คนที่จะมาเป็นตัวช่วยพิเศษของมาร์คในค่ำคืนนี้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk 47%

     

    ตอนที่ 3 เกือบครึ่งนึง มาลงให้หายคิดถึงกันสักหน่อยจะดีกว่า ตอนนี้เเจ็คสันพึ่งจะโผล่มาเจอมาร์คเเบมเเบบโคตรจะบังเอิญ เเต่ความบังเอิญของเเจ็คสันก็เหมือนจะทำให้ใครบางคนหงุดหงิดไม่ใช่น้อย 55555555 อีก 53% จะเป็นไงต่อ โปรดติดตาม ใครที่รอเรื่องนี้ เข้าไปคุยกันใน #ฟิคซ้อนกลมบ กันหน่อยเร้วววววว

     

     

    Talk 100%

     

    มาลงให้ฉลองวันเกิดมาร์คพอดี ตอนเเรกว่าจะเเต่งตอนพิเศษวันเกิดมาร์คด้วยเเต่ก็ล้มเลิกเพราะคิดไม่ออก เเต่ไม่เเน่ว่าตอนเช้าอาจจะคิดออกเเละมาลงตอนพิเศษก็ได้ 5555 ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ 

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×