ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END]Cupid's trap ซ้อนกลกามเทพ #Markbam

    ลำดับตอนที่ #3 : ซ้อนกลกามเทพ ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 58








              เเบมเเบมออกจากห้องนอนด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่ที่เจ้าของจริงๆทำกับข้าวอยู่ในครัว เเบมเเบมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองไปยึดของมาร์คมาใส่ตอนไหน เเล้วทำไมยังไม่คืนอีก กางเกงขาสั้นสีขาวขากว้างถูกปิดทับด้วยความยาวของเชิ้ตจนดูเหมือนว่าเเบมไม่ได้ใส่กางเกง เเต่มันเป็นภาพที่ตัวเองชินเเล้วหล่ะ เพราะใส่เเบบนี้นอน เเบมคิดว่ามันสบายสุดๆ

     

     

                เเบมเเบมนั่งเช็ดผมอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ เอื้อมมือไปหยิบรีโมตหารายการที่น่าสนใจในทีวีไปเรื่อยๆ ร่างสูงของอีกคนมาหยุดอยู่ข้างๆพร้อมกับวางจานสปาเก็ตตี้ลงบนโต๊ะกระจก เเบมเเบมช้อนตาขึ้นมองเเค่เเป๊บเดียวเเล้วก็หันกลับไปจ้องทีวีตามเดิม

     

     

                มาร์คนั่งลงข้างๆพร้อมกับเอนหลังไปตามพนักพิงของโซฟา สายตามองสำรวจร่างของคนตัวเล็ก ตั้งเเต่หัวจรดเท้าจนเเบบมเเบมรู้สึกได้

     

     

                "มองอะไร" เเบมเเบมโยนผ้าเช็ดหัวที่พึ่งเช็ดเสร็จปิดลงบนใบหน้าของมาร์ค เลื่อนจานสปาเก็ตตี้มาไว้ตรงหน้า ก่อนจะลงไปนั่งกับพื้นที่พอจะมีพื้นที่ให้ตัวเองนั่ง

     

     

                มาร์คเอาผ้าเช็ดหัวเเบมเเบมไปตากที่ระเบียงเเล้วกลับมานั่งลงที่โซฟาตามเดิม หยิบหมอนใบเล็กเเล้วโยนไปที่ตักของเเบมเเบม

     

     

                "จะโชว์อะไรขนาดนั้น เดี๋ยวก็อดใจไม่ไหวหรอก" ถึงปากจะพูดกับเเบมเเบมเเต่สายตาก็จ้องไปที่โทรทัศน์ที่เเบมเเบมเปิดไว้ เเบมเเบมหันมาถลึงตาใส่เเต่ก็ยอมหยิบหมอนที่มาร์คโยนมา เอามาปิดตรงตักตัวเอง

     

     

                มาร์คลุกขึ้นอีกรอบ เข้าไปหยิบหวีในห้องนอนแบมแบมมาหวีผมเเบมเเบมตามความเคยชิน เเบมเเบมก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้มหน้าก้มตากินต่อไปเรื่อยๆ

     

     

                "ทำไมไม่อยู่บ้านกับม๊า" เเบมเเบมถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่ารายการที่ตัวเองดูมันโฆษณาอยู่ มาร์คมองไปที่ดวงตากลมโตของคนที่นั่งอยู่ที่พื้นก่อนจะหลับตาลงเเล้วตอบออกมาเบาๆ

     

                "คิดถึงห้อง...มั้ง" เเบมเเบมพยักหน้าให้กับคำตอบของมาร์ค ลุกขึ้นเอาจานไปล้างเเล้วกลับมานั่งที่โซฟาที่มีพื้นที่ว่างอยู่

     

                "ง่วงก็กลับไปนอนที่ห้องได้เเล้วมาร์ค" เเบมเเบมเอ่ยปากไล่คนที่นอนหลับตาพริ้มเเต่ไม่ได้หลับสนิทเพียงเเค่พักสายตาเฉยๆ

     

                "ไม่อ่ะ จะนอนห้องนี้" เเบมเเบมเบะปากให้กับคำตอบของมาร์ค เเกล้งลุกไปหยิบผ้าห่มกับหมอนไปใหญ่ในห้องนอนตัวเองออกมาวางไว้ให้มาร์ค

     

                "งั้นก็นอนที่โซฟาหล่ะกัน....เว่ยยยยย" เเบมเเบมถูกกระชากจากมือหนาของคนที่นอนหลับอยู่ มาร์คดึงเเบมเเบมเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ซุกหน้าลงระหว่างซอกคอขาว ลมหายใจอุ่นๆทำให้เเบมรู้สึกจั๊กจี้ได้ไม่ยาก

     

                "มาร์ค ปล่อย มันจั๊กจี้ ปล่อยเลย" เเบมเเบมตีมือลงบนกล้ามเเขนของอีกคนที่เเกล้งหลับ เเต่คนถูกตียังคงนิ่งเฉย เเบมเเบมเลยลดมือลงเเล้วปล่อยให้อีกฝ่ายกอดจนตัวเองหลับไป

     

     

                ตื่นมาบนเตียงกว้างสีขาวขนาดใหญ่ ความอบอุ่นที่ยังคงกอบกุมให้เเบมเเบมรู้สึกดี ตากลมเงยหน้ามองใบหน้าที่อยู่ด้านบน เหม่อมองอีกฝ่ายยามหลับใหลเเล้วลอบยิ้มออกมาบางๆ เเขนเล็กเอื้อมกอดเอวของอีกฝ่ายเเละซุกหน้าลงไปใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจของคนที่หลับ

     

     

                มาร์คลืมตามองการกระทำของคนตัวเล็กในอ้อมกอด อมยิ้มอยู่คนเดียว ก่อนจะกดจูบลงบนกลุ่มผมหนุ่มของอีกคน เเบมเเบมเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง

     

     

                "กี่โมงเเล้วอ่ะ" เสียงเล็กถามคนตัวสูงกว่า มาร์คเลยต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเเละบอกเวลาตามที่เห็น

     

                "สองทุ่มเเล้ว" เเบมเเบมพยักหน้ารับ ขยับตัวนอนหงายโดยใช้เเขนของมาร์คหนุนเเทนหมอน

     

                "อุ้มเเบมเข้ามานอนในห้องหรอมาร์ค" มาร์คส่ายหน้า เเบมเเบมเลิกคิ้วงง เพราะถ้ามาร์คไม่อุ้มเขามานอนในห้อง ตัวเขาจะมานอนอยู่บนเตียงได้ยังไง

     

                "เเบมละเมอเดินเข้ามาในนี้เอง มาร์คก็เลยเดินตามมา" เเบมเเบมยกยิ้มมุมปากก่อนจะกำหมัดหลวมๆเเล้วเขกที่หน้าผากมาร์คหนึ่งที

     

                "เชื่อตายเเหละ" เเบมเเบมเด้งตัวขึ้น ลุกขึ้นนั่งที่ดลางเตียง มาร์คเลยลุกขึ้นตาม

     

                "ไปล้างหน้า เเปรงฟันอีกรอบดีกว่า" มาร์คพยักหน้าตาม ลุกขึ้นจากเตียงของเเบมเเบมเหมือนกับเจ้าของ

     

                "เเต่เเต่งตัวใหม่ด้วยนะเเบม มาร์คจะพาไปซื้อของ ของในตู้เย็นหมดตู้เเล้ว" เเบมเเบมพยักหน้ารับ หยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่าเเล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

     

     

                มาร์คเดินออกจากห้องเเบมเเบม ปิดประตูให้สนิท เเสกนนิ้วเข้าห้องตัวเองเหมือนปกติ โดยที่ไม่รู้เลยว่า มีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องเขาอยู่

     

     

                เกือบครึ่งชั่วโมง เเบมเเบมออกจากห้องน้ำ ออกมาเเต่งตัวอยู่หน้ากระจก น้ำหอมที่เเบมเเบมจำได้ดีว่า ไปหยิบมาจากห้องมาร์ค ถูกหยิบขึ้นมาใช้

     

     

                เสียงเคาะประตูด้านนอกทำให้เเบมสงสัย เพราะปกติมาร์คมักจะเเสกนนิ้วเเล้วเข้ามาเลย ทำไมวันนี้ถึงได้เคาะห้อง หรือจะรีบไปเลยไม่เข้ามา

     

     

                เเบมเเบมจัดการเก็บของทุกอย่างที่หน้ากระจก เตียงนอน เดินไปใส่รองเท้าผ้าใบคู่เก่งของตัวเอง กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตู เเต่คนข้างนอกผลักประตูเข้ามาก่อน

     

     

                "โอ๊ยย" เเบมเเบมยกมือลูบที่หน้าผากตัวเอง ตรงที่ประตูกระเเทก มาร์คปิดประตูลงเเล้วเดินเข้ามาใกล้เเบมเเบม จับมือเเบมเเบมที่จับหน้าผากเเล้วเอาออกเพื่อจะดูเเผลให้

     

                "เเค่หัวโนเอง ฟู่วว เดี๋ยวก็หาย" มาร์คเบาที่หน้าผากเเบมเเบมเบาๆ นิ้วชี้กับนิ้วกลางของมาร์คลูบเบาๆตรงลอยเเดง

     

     

                กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยลอยมาจากร่างเล็กตรงหน้า ทำให้มาร์คอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไปสูดดมกลิ่นใกล้ๆ

     

     

                "ทำอะไร" เเบมเเบมดันหน้ามาร์คออก เพราะรู้ดีว่าคนตัวสูงจะทำอะไร มาร์คยกยิ้มเเล้วขยับออกมา เอื้อมมือจับข้อมือเล็กของเเบมเเบม ก่อนจะพาออกจากห้อง

     

                "มาร์ค เมื่อกี้ได้เคาะประตูรึเปล่า" เเบมเเบมเอ่ยถามมาร์คตอนที่ทั้งคู่อยู่ในรถ มาร์คส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะถามเเบมเเบมกลับ

     

                "ทำไมอ่ะ? มีคนมาเคาะประตูหรอ" เเบมเเบมตอบรับเสียงเบา ก่อนจะหยุดความคิดตัวเองไม่ให้นึกถึงเรื่องลี้ลับที่ลอยเข้ามาในหัว

     

                "คืนนี้ให้มาร์คนอนเป็นเพื่ิอนมั้ยอ่ะ หรือจะไปนอนห้องมาร์ค" เเบมเเบมหันขวับไปทางคนถาม

     

                "ขอคิดดูก่อน เพราะบางทีคนเเถวนี้อาจจะเเกล้งเเบมก็ได้" มาร์คหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทีของคนข้างๆ

     

     

                ทั้งคู่เดินเข้าไปในห้างเพื่อเลือกซื้อของสดเเละของใช้นิดๆหน่อยๆ เเต่ก็ยังใช้เวลาเกือบๆสองชั่วโมง ใกล้เวลาที่ห้างจะปิด

     

     

                "เอาอะไรอีกป่ะ" มาร์คถามคนที่เดินนำหน้าตัวเอง เเบมเเบมไม่ตอบอะไร เเต่เดินนำไปตรงชั้นที่วางขนม

     

                "พอเเล้วเเบม เเค่นี้ก็เต็มรถเเล้ว" เเบมเเบมมองหน้ามาร์คนิดหน่อย เเล้วหันไปหยิบขนมต่อ โดยไม่สนใจเสียงถอนหายใจของอีกคน

     

     

                เมื่อหยิบจนหน่ำใจ มาร์คก็เข็นรถไปจ่ายตังค์ ช่วยกันถือถุงกลับไปที่รถคนละ 4-5 ถุง

     

     

                "อยากไปไหนก่อนกลับรึเปล่า" เเบมเเบมไม่ตอบอะไร หยิบขนมออกมาจากถุงหนึ่งห่อ เเล้วเข้าไปนั่งในรถ

     

                "งั้นกลับคอนโดเลยนะ" เเบมเเบมพยักหน้ารับ มือเล็กเเกะถุงขนมออกมา เเล้วยื่นให้มาร์คหยิบ เเต่มาร์คไม่หยิบ กลับอ้าปากเเทน เเบมเเบมเลยจำใจป้อนให้คนขับ

     

     

                เเจ็คสันเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องของตัวเอง คอยฟังเสียงของคนสองคนที่น่าจะกลับมาเเล้ว พอได้ยินเสียงประตูปิดลง เเจ็คสันเลยชะโงกหน้าออกไปดู เขาเห็นมาร์คกลับเข้าห้องตัวเอง ส่วนเเบมเเบมเขาคิดว่าน่าจะเข้าไปในห้องตัวเองเหมือนกัน เเจ็คสันเลยปิดประตูลง เเล้วค่อยๆเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องของเเบมเเบม

     

     

                เสียงหมุนลูกบิดที่ดังมาจากห้องของมาร์ค ทำให้เเจ็คสันรีบวิ่งไปหลบตรงบริเวณบันไดหนีไฟ

     

     

                เเบมเเบมเปิดประตูออกมาจากห้องของมาร์คพร้อมกับถือถุงขยะออกมาด้วย พอทิ้งเสร็จก็กลับเข้าไปในห้องของมาร์คตามเดิม

     

     

                เเจ็คสันกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเเจบอมเพื่อถามสิ่งที่ตัวเองสงสัย

     

     

                "ฮัลโหล มีอะไรว่ะไอ้เเจ็ค โทรมาตอน 5 ทุ่มจะชวนไปเที่ยวหรอว่ะ"

     

                "ไม่ใช่เว้ย ฉันมีเรื่องจะถาม เเบมเเบมกับมาร์คเขาคบกันอยู่เปล่าว่ะ" เสียงหัวเราะของเเจบอมดังขึ้นมาเเทนคำตอบ

     

                "ก็พี่น้องนั้นเเหละ เเต่ดูไม่ค่อยเหมือนพี่น้องกันเท่าไหร่ ฉันเคยถามไอ้มาร์คอยู่หลายรอบเหมือนกัน ว่ามันกับเเบมเป็นอะไรกัน เเต่มันก็ตอบกลับมาว่า เป็นพี่น้องกัน"

     

                "เเต่พี่น้องอะไรว่ะ อยู่ด้วยกันในห้องสองคน โคตรจะนานเลย เเล้วคิดดูนะเว้ย พอมันกลับมา ไอ้มาร์คก็ขลุกอยู่เเต่ในห้องเเบม เมื่อกี้ออกไปไหนกันมาไม่รู้ เเต่พอกลับมา ฉันก็นึกว่าเเบมจะกลับห้องตัวเอง ไอ้มาร์คก็น่าจะเข้าห้องมัน เเต่ที่ไหนได้ ตอนนี้กลายเป็นเเบมเเบมเข้าไปอยู่ในห้องไอ้มาร์คเเทน"

     

                "เรื่องปกติมั้ง เขาอาจจะชวนกันเล่นเกม กินข้าว อะไรงี้ก็ได้ เพราทั้งคู่ ต่างคนก็ต่างอยู่คนเดียว กินข้าวด้วยกันก็ไม่เห็นจะเเปลก อยากรู้ว่าเขาทำอะไรกันก็ลองเคาะห้องดิ่ว่ะ"

     

                "ไม่เอาเว้ย วันนี้ไม่มีอารมณ์โผล่ไปเซอร์ไพร์สเเบมหล่ะ พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่" เเจ็คสันกดวางสาย วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัว ในหัวก็คิดเเต่เเผนการที่จะเซอร์ไพร์สเเบมเเบมในวันพรุ่งนี้

     

     

     

     

     

                มาร์คเดินออกจากห้องนอนเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ตัวเองเเละเเบมเเบม เขาปลุกเเบมเเบมให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำตั้งเเต่ 5 นาทีก่อน

     

     

                มาร์คหยิบหม้อขึ้นมาต้มน้ำเพื่อทำโจ๊ะให้เเบมเเบมทาน เพราะเมื่อวานได้ยินเเบมบ่นว่าอยากจะทาน วันนี้มาร์คเลยต้องทำให้

     

     

                เเบมเเบมออกมาก็พอดีกับโจ๊กที่มาร์คทำวางอยู่ที่โต๊ะพอดี ปากอิ่มฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นโจ๊กที่ตัวเองบ่นเมื่อวานวางอยู่บนโต๊ะ

     

     

                มาร์ครินนมใส่เเก้ว เเล้วยื่นให้เเบม ส่วนของตัวเองก็คงจะเป็นกาเเฟดำกับน้ำเปล่าอีกหนึ่งเเก้ว

     

     

                "เเบมเอาขนมปังปิ้งด้วยมั้ย" เเบมเเบมวางช้อนลง ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้เเล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างๆมาร์ค

     

                "มาร์คไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวขนมปังปิ้งเเบมทำให้ ตอบเเทนที่มาร์คทำโจ๊กให้เเบมกิน ไปนั่งๆ" เเบมเเบมดันหลังคนสูงกว่าให้ไปนั่งที่เก้าอี้

     

     

                เเบมเเบมรู้ดีว่ามาร์คชอบขนมปังเเบบไหน ทาเเยมอะไร จริงๆเเบมรู้เเทบทุกอย่างที่มาร์คกิน อาจจะเพราะอยู่ด้วยกันมานานเเหละมั้ง เเบมเเบมถึงรู้ว่ามาร์คชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ก็เหมือนกับมาร์คที่รู้เกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเเบม

     

     

                "เดี๋ยวมาร์คทำงานเสร็จ ตอนเที่ยงเราออกไปทานข้าวกัน เเล้วค่อยไปดูหนังหล่ะกันเนอะ" เเบมพยักหน้ารับ เดินตามหลังมาร์คไปที่ห้องทำงาน

     

     

                พนักงานเเถวนั้นทักทายคนทั้งคู่ที่เดินมาด้วยกัน เเบมเเละมาร์คส่งยิ้มคืนกลับไป เเล้วเข้าห้องทำงานของมาร์คไป

     

     

                เเบมเเบมนั่งรอที่โซฟา ส่วนมาร์คก็นั่งอ่านเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของตัวเอง จนได้เวลาพักตามที่บอกกับเเบมเเบมไว้

     

     

                "หมดเวลาทำงานเเล้ว เย้!" เเบมเเบมตะโกนเสียงดังเมื่อมองนาฬิกาที่บอกเวลาว่าตอนนี้ เที่ยงตรงเเล้ว มาร์คปิดเเฟ้มลงวางไว้บนโต๊ะให้เป็นระเบียบ หยิบกุญเเจรถเเละโทรศัพท์ใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย

     

                "ไปกันได้เเล้ว อยากกินอะไรบอกมาร์คได้เลย" มาร์คเดินนำเเบมเเบมไปที่ลิฟต์ ก่อนจะมาเขาบอกกับเลขาของป๊าที่สอนงานเขาเรียบร้อยเเล้ว

     

     

                ร้านอาหารญี่ปุ่นบนห้างหรูเป็นร้านที่เเบมเเบมเลือกสำหรับเป็นมื้อกลางวันในวันนี้ ปากอิ่มสั่งอาหารอย่างคล่องเเคล่ว สั่งเมนูที่ตัวเองนั่งคิดมาตั้งเเต่ในรถเเละไม่ลืมที่จะสั่งของโปรดมาร์ค

     

     

                ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ มาร์คกับเเบมก็คุยกันไปเรื่อยๆจนมาหยุดที่โปรเเกรมหนังที่ทั้งคู่อยากดู

     

     

                "มาร์คก็ดูเเต่หนังเเนวนี้อ่ะ เเบมไม่ชอบ" เเบมหน้างอทันทีที่มาร์คพูดถึงหนังสยองขวัญ ทั้งๆที่มาร์คก็รู้ว่าเเบมไม่ชอบดู ยังจะเสนอขึ้นมาอีก

     

                "เเล้วเเบมอยากดูเรื่องไรอ่ะ ก็เมื่อกี้เเบมให้มาร์คเลือก พอมาร์คเลือกเเบมก็บอกไม่ชอบอีกอ่ะ เเบมดูเเต่หนังคอมเมดี้อ่ะ มาร์คก็อยากดูเเนวอื่นบ้าง" เเบมเเบมเบะปากใส่ร่างสูงทันทีที่มาร์คพูดจบ

     

                "งั้นไปดูหนังรักมั้ยหล่ะ" เเบมเเบมตอบออกมา จริงๆ ทั้งมาร์คเเละเเบมต่างไม่เคยดูหนังด้วยกันมาก่อน เวลามาดูด้วยกันมักจะเป็นคอมเมดี้ หรือไม่ก็เเอคชั่นไซไฟว์มากกว่า

     

                "เอาจริงหรอ เมื่อก่อนยังบ่นว่าเลี่ยนอยู่เลย"

     

                "ก็อันนั้นเราสองคนเเค่สันนิฐาน เราทั้งคู่ต่างไม่มีใครเคยดูด้วยกันทั้งนั้น ลองดูกันสักครั้งมั้ยหล่ะ"

     

                "ตามใจเเบมหล่ะกัน ได้ลองอะไรใหม่ๆบ้างก็คงจะดี" มาร์คเเละเเบมต่างคนต่างกินกันเงียบๆ จนในที่สุดมันก็หมด เเบมเเบมกินเสร็จก่อนมาร์คเลยมองออกไปนอกหน้าต่าง

     

     

                ดวงตากลมเบิกกว้างกับภาพตรงหน้า ทำให้มาร์คที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหันไปมองตามสายตาของเเบมเเบม

     

     

                "นั้นมันพี่จินยองกับพี่เเจบอมนี่ ทำไมสองคนนั้นถึงมาเดินห้างด้วยกันได้" เเบมเเบมชี้ไปยังร่างสูงของพี่ชายคนสนิททั้งสองคน

     

     

                พี่จินยองเป็นลูกพี่ลูกน้องของเเบมเเบมที่เเต่งตัวดีมีรสนิยม ใบหน้าที่หวานเเลพรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้หลายคนหลงใหล

     

     

                ส่วนอีกคน เป็นถึงเดือนคณะ หน้าตาหล่อเหลา หุ่นที่ได้รับการดูเเลมายังดี เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็คตั้งเเต่หัวจรดปลายเท้า เเละที่สำคัญคือโสด

     

     

                จริงๆก็โสดด้วยกันทั้งคู่นั้นเเหละ เเต่พี่เเจบอมดูจะฮอตกว่าลูกพี่ลูกน้องเเบมเเบมอยู่มาก อาจจะเพราะเป็นเดือนคณะเเละยังชอบทำกิจกรรม เเม้จะดูเหมือนคนโลกส่วนตัวสูงนิดๆก็ตาม ต่างจากพี่ชายเเบมเเบมที่หน้าตาดีไม่ต่างเเต่ไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าใกล้ อาจจะเป็นเพราะจินยองขึ้นชื่อเรื่องความโหด เเละโลกส่วนตัวสูงเลยไม่มีใครทำลายกำเเพงที่จินยองสร้างขึ้นมาได้

     

     

                "เขาอาจจะบังเอิญเจอกันก็ได้" มาร์คตอบอย่างไม่ใส่อะไรนัก ก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อ ปล่อยให้เเบมเเบมมองตามพี่ชายตัวเองต่อไป

     

                "เเบมกินไอติมป่าว" มาร์คถามคนที่เอาเเต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง

     

                "ชาเขียวเพิ่มถั่วเเดง" เเบมเเบมตอบกลับไปเเต่สายตายังคงมองที่นอกกระจกไม่เปลี่ยน

     

                "จินยองกับเเจบอมยังอยู่ตรงนั้นหรอ" เเบมเเบมส่ายหน้าเป็นคำตอบ มาร์คเลยมองตามสายตาของเเบมเเบมไป จึงเห็นว่าเเบมเเบมมองไปยังตู้คีบตุ๊กตาที่มีเด็กอายุประมาณ 15-16 กำลังตั้งอกตั้งใจคีบมันอยู่

     

                "อยากได้ตุ๊กตาหรอ"

     

                "ป่าว อยากลองเล่นอ่ะ อยากจะรู้ว่ามันจะยากอะไรขนาดนั้น เห็นเด็กคนนั้นยืนคีบอยู่ตั้งนานเเล้ว"

     

                "มันหลอกกินเงินเฉยๆเเหละเเบม ตัวคลีบเเม่งก็ดูอ่อนเเรง ตุ๊กตามันหนักขนาดนั้น ไหนจะตอนที่มันลอยขึ้นมาเเล้วเเกว่งไปเเกว่งมาอีก กว่าจะได้ มาร์คซื้อให้เเบมเเบบที่ไม่ต้องไปหยอดเงินที่ตู้นั้นได้สิบตัวเลย ถ้าเเบมอบากได้ตุ๊กตาอ่ะ"

     

                "ทำเเบบนั้นเเบมก็ทำได้มาร์ค เเบมก็มีเงินเหมือนกัน แบมก็แค่อยากลองเพราะอะไรที่ได้มาง่ายๆเรามักจะไม่เห็นคุณค่า เเต่ถ้ามันได้มายาก ในสายตาคนอื่นอาจจะเเค่บาทสองบาท เเต่คนที่ได้มามันมีความภูมิใจเเละเรื่องราวกับสิ่งๆนั้นเเบบไม่มีวันลืมเลยนะมาร์ค ได้ยากมักจะรักษาดีกว่าอะไรที่ได้มาง่ายๆไม่ใช่หรอ"

     

                "นี่เรายังพูดถึงตุ๊กตากันอยู่รึเปล่า" มาร์คอมยิ้มนิดๆกับคำพูดของคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม เเบมเเบมเลยหยิบช้อนไอศกรีมที่ยังไม่ได้ตัก ตีเบาๆที่หน้าผากมาร์ค

     

                "กินๆไปเลยจะได้ไปดูหนังกัน"

     

                "ครับๆ คุณเเม่" เเบมเเบมถลึงตาใส่มาร์คที่พูดเสร็จก็หัวเราะร่วนจนโต๊ะข้างๆหันมามอง

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk

    ตอนที่ 2 มาแล้วนะคะ เรื่องนี้ดำเนินเรื่องแบบเรื่อยๆเอื่อยๆ ไม่ต้องคิดอะไรกันมาก เหมือนกับเราติดตามชีวิตของคนสองคนที่สถานะเป็นได้แค่พี่น้อง แต่การกระทำไม่ค่อยจะเหมือนพี่น้องกันเท่าไหร่

    ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตามและรอคอย คาดว่าถ้าว่างจะอัพบ่อยๆ แต่อาจจะไม่บ่อยเท่า #ฟิคเราควรพอ เพราะตอนนี้ไรท์เปิดเทอมเรียบร้อยแล้ว อดใจรอการอัพฟิคกันนิดนึงนะคะ ส่วน #ฟิคขังรักกักใจ ก็ขอให้รอกันนะ เรื่องนี้ต้องใช้เวลาแต่งจริงๆ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×