ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END]Cupid's trap ซ้อนกลกามเทพ #Markbam

    ลำดับตอนที่ #2 : ซ้อนกลกามเทพ ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 58











                ดวงตาคมค่อยๆลืมขึ้นทีละน้อยเมื่อเเสงเเดดที่ส่องสว่างลอดผ่านม่านสีครีม มาร์คลืมตาขึ้นมาพร้อมกับมองคนในอ้อมกอดที่ซุกหน้าเข้ากับอกของตัวเอง ยิ่งมาร์คขยับตัวคนตัวเล็กก็ยิ่งขยับตาม มาร์คมองภาพนั้นด้วยเเววตาเอ็นดู อดใจที่จะฝังจมูกลงบนเเก้มนิ่มไม่ได้

     

     

                "ไปทำงานก่อนนะ" ก้มลงกระซิบที่ข้างหูคนตัวเล็กเเผ่วเบา วางศีรษะของอีกฝ่ายลงบนหมอน กระชับผ้าห่มให้อุ่นขึ้นเเทนอ้อมกอดของตัวเอง

     

     

                มาร์คเดินออกมาจากห้องน้ำใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยเตรียมพร้อมที่จะออกไปทำงาน ขายาวก้าวไปชิดกับขอบเตียง หยุดมองร่างเล็กที่นอนขดอยู่กลางเตียง ค่อยๆคลานเข้าไปหา เเล้วก้มหน้าลงไปจูบหน้าผากมนเบาๆ

     

     

                "อย่าตื่นสายหล่ะเดี๋ยวม๊ารอนาน" มาร์คเขี่ยปอยผมให้พ้นจากหน้าผากมนของคนตัวเล็ก ลุกขึ้นจากเตียงเเล้วเดินออกจากห้องไป

     

                "ตื่นเเล้วหรอ ม๊านึกว่าวันนี้จะหยุดงานซะเเล้ว" ม๊าสั่งเด็กยกข้าวต้มมาให้มาร์ค พร้อมกับเดินไปชงกาเเฟให้ลูกชาย

     

                "ก็นอนกันปกติ ทำไมมาร์คจะไม่ไปทำงานหล่ะครับม๊า ม๊าคิดอะไรอยู่เนี่ย" มาร์คอมยิ้มนิดๆ กางหนังสือพิมพ์ที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาอ่าน

     

                "จ้า ปกติก็ปกติ รีบกินเข้าจะได้รีบไปทำงาน เเล้วปกติน้องเเบมตื่นกี่โมง"

     

                "บ่ายมั้งครับ เเต่ม๊าไปปลุกตอน 10 โมงก็ได้ครับ เเบมเขาจะได้เตรียมตัว" ม๊าพยักหน้าตามคำบอกของลูกชาย นั่งทานข้าวกันเงียบๆสองคนเเม่ลูก

     

     

                เเบมเเบมตื่นขึ้นมาตอน 8 โมงเช้า กวาดสายตามองไปรอบห้องก็พบเเต่ความว่างเปล่า ร่างเล็กลุกขึ้นนั่งที่กลางเตียง เเล้วค่อยยันตัวเองขึ้น ลุกขึ้นยืนเข้าไปอาบน้ำ

     

     

                ชุดที่ใส่วันนี้ถูกเเขวนอยู่หน้าตู้โดยฝีมือเจ้าของห้อง เเบมเเบมหยิบขึ้นมาสวมใส่ ยืนส่องกระจกมองดูเงาตัวเอง จัดการตัวเองให้เรียบร้อย เเล้วก้าวออกจากห้อง

     

     

                "ตื่นเเล้วหรอครับ ทานข้าวเลยมั้ย" เเบมเเบมพยักหน้าเเล้วเดินตามม๊าเข้าไปในครัว ข้าวต้มร้อนๆถูกเสิร์ฟตรงหน้า เเบมเเบมค่อยๆตักเข้าปากจนหมดถ้วย

     

     

                ลุกขึ้นจะเอาไปล้างเเต่ก็ถูกเเม้บ้านคว้าชามไปจัดการเอง เเบมเเบมเลยออกนั่งอยู่ที่สวนหลังบ้านเงียบๆ

     

     

                "เราจะออกไปสปากี่โมงดีจ๊ะ" ม๊าเดินมาหยุดอยู่ข้างๆพร้อมกับคุกกี้เเละนมหนึ่งเเก้ว

     

                "เเล้วเเต่ม๊าเลยครับ เเบมยังไงก็ได้" เเบมเเบมยิ้มบางๆให้กับเเม่ของพี่ชายข้างห้อง

     

                "งั้นออกไปเลยหล่ะกัน นวดเสร็จเราจะได้หาข้าวทานกัน จะได้ชวนตามาร์คมาทานด้วย"

     

     

     

     

     

     

     

    สนามบินสุวรรณภูมิ

     

     

                ชายหนุ่มรูปหล่อเดินลากกระเป๋าเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านกาเเฟชื่อดัง เข้าไปนั่งรอเพื่อนสนิทให้มารับ

     

     

                เเจ็คสัน หวัง ทายาทตระกูลหวัง ที่เริ่มลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับกาเเฟในไทย หลังจากลงทุนในฮ่องกงเเละเกาหลีเเล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ไทยเลยเป็นเเหล่งลงทุนใหม่ที่น่าสนใจสำหรับเขา

     

     

                ร่างสูงโปร่งอดีตเดือนคณะเดือนเข้ามาหยุดอยู่ที่โต๊ะที่มีเพื่อนสนิทชาวฮ่องกงนั่งอยู่ อิม เเจบอม นั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามอีกฝ่าย ไม่ได้เปิดปากทักทายอะไร รอให้เเจ็คสันเงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมามองเอง

     

     

                "ไอ้มาร์คอ่ะ" เงยหน้าขึ้นมาก็ถามหาเพื่อนสนิทอีกคนนึงที่ตั้งเเต่เริ่มเข้าไปทำงานในบริษัทของพ่อตัวเองก็เเทบไม่มีเวลาจะทำอะไร

     

                "เห็นมันป่ะหล่ะ ถ้าเห็นก็เเสดงว่ามา ถ้าไม่เห็นก็เเสดงว่ามันไม่มา" คำตอบกวนๆจากปากเเจบอมเเทบจะทำให้เเจ็คสันแทบจะสาดกาเเฟใส่ ถ้าไม่ติดว่ามันเเพงเเละรู้นิสัยกันดี เเจบอมคงจะโดนกาเเฟสาดใส่เเน่ๆ

     

                "เออๆ เเม่งติดงานอีกอ่ะดิ เดือนที่เเล้วที่ฉันมาเเม่งก็ไม่ว่าง ทำเเต่งานเเบบนี้มันจะเอาเวลาที่ไหนไปหาสะใภ้ให้ป๊าม๊ามันว่ะ"

     

                "เเล้วนายจะไม่ยุ่งเรื่องของมันทำไม สะใภ้ตระกูลหวังหาได้เเล้วหรอ" เเจ็คสันยกยิ้มเมื่อได้ยินคำถามที่ถูกใจ เขาตบบ่าเเจบอมสองสามทีเเล้วส่งยิ้มหล่อๆให้เพื่อนสนิท

     

                "นายก็รู้อยู่เเล้วไม่ใช่หรอว่ะ ว่าตำเเหน่งสะใภ้ตระกูลหวังฉันจองไว้ให้เเบมเเบมเเค่คนเดียว" เเจบอมส่ายหน้าให้กับเพื่อนสนิทจอมเพ้อ

     

     

                เเจ็คสันเเอบชอบน้องรหัสมาร์คตั้งเเต่เห็นรูปที่มาร์คเอาลง Fackbook ถามนู้นถามนี้เกี่ยวกับเเบมเเบมจนมาร์ครำคาญ เเจ็คสันเลยเปลี่ยนเป้าหมายมาถามเเจบอมเเทน

     

     

                เเจ็คสันเคยเจอเเบมเเบมเเค่เพียงปีละสองถึงสามครั้งเวลาที่เเจ็คสันบินมาเที่ยวกับเเจบอมเเละมาร์ค เพราะเวลามาร์คไปเที่ยวมักจะชวนเเบมเเบมไปด้วยเสมอ เเละเเน่นอนว่าเเบมเเบมไม่เคยปฏิเสธคำชวนของมาร์ค

     

     

                ตอนที่เห็นในรูปว่าน่ารักเเล้วเเต่พอเจอตัวจริงเเม่งโคตร!!! ถึงจะกวนๆบ้างก็เถอะ เเต่น้ำเสียง หน้าตา ท่าทางของเเบมเเบม มันทำให้เเจ็คสันนึกเอ็นดูเเละยิ่งชอบคนตัวเล็กมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดขออนุญาตมาร์คจีบน้องรหัสตัวเอง เเต่พอขอเท่านั้น จากที่ไอ้มาร์คเคยพามาบ่อยๆกลับพามาบ้าง ไม่พามาบ้าง เเจ็คสันหล่ะเซ็ง

     

                    “ถ้าคิดว่าจีบแบมง่าย นายคงจีบติดตั้งแต่สี่ปีก่อนแล้วมั้ง ไม่ใช่แค่แบมแบมไม่เล่นด้วยนะ ไอ้มาร์คก็หวงน้องรหัสยิ่งกว่าเมีย ไหนจะพี่ชายแบมอีก รายนั้นนะ ถ้านายเจอ นายโดนฆ่าหมกสวมแน่” แจ็คสันหน้าถอดสีทันทีเมื่อแจบอมพูดถึงพี่ชายแบมแบม ที่เป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูกน้องเท่านั้น แต่กิตติศักดิ์อันเลื่องชื่อเรื่องความหวงน้องชายและความโหดหนาหูแจ็คสันมาก แค่แจบอมพูดถึง แจ็คสันก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที

     

                “โหดขนาดนั้นเลย” แจ็คสันพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วเดินตามหลังแจบอมมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่รถยี่ห้อดังของเพื่อนสนิท แจบอมช่วยแจ็คสันยกกระเป๋าขึ้นรถ แล้วพาแจ็คสันไปที่คอนโดที่แจ็คสันฝากเขาซื้อไว้เมื่อสองเดือนก่อน

     

                “เรื่องนี้ไอ้มาร์คกับแบมแบมยังไม่รู้ใช่มั้ยว่ะ ว่าฉันอยู่ชั้นเดียวกับทั้งคู่อ่ะ” แจบอมพยักหน้ารับ สายตามองตรงไปที่ถนนที่โล่งจนสามารถขับด้วยความเร็วเกินกำหนดได้

     

                “แล้วนายพอจะรู้ป่ะว่าตอนนี้สองคนนั้นอยู่ที่ห้องรึเปล่า” แจบอมส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เริ่มจะขี้เกียจฟังแจ็คสันถามถึงแบมแบมซะแล้วสิ

               

                “แล้ว....” แจ็คสันชะงักทันทีที่แจบอมเลี้ยวรถไปจอดข้างทางพร้อมหันมาจ้องหน้า จนไม่กล้าที่จะขยับ

     

                มันเป็นอะไรของมันว่ะ

     

                “เลิกถามแล้วอยู่เงียบๆ มันเสียสมาธิในการขับรถโว้ยยย ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ก็ลงไปเลยไป” เป็นอันว่า มนุษย์ที่มีนามว่า แจ็คสัน ถึงกับสงบและนิ่งราวกับหุ่นขี้ผึ้ง ไม่กล้าทำให้สารถีในวันนี้หงุดหงิด

     

     

     

     

     

     

                แบมแบมเดินออกมาจากสปาพร้อมกับแม่ของมาร์ค ความรู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายจากสปาที่มีค่าเมมเบอร์แพงหูฉี่ ทำให้หนุ่มน้อยกับคุณแม่ยังสาวคุยกันไม่หยุดถึงความสบายตัวและอะไรต่างๆมากมาย

     

                แบมแบมชะงักเท้าทันทีที่สายตาสะดุดเข้ากับสิ่งที่น่าสนใจ หนุ่มน้อยเดินเข้าไปใกล้ๆกระจกแล้วมองไปยังเป้าหมาย แม่ของมาร์คยกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของหนุ่มน้อยที่อยู่ข้างๆ

     

     

                “แบมแบมอยากได้เชิ้ตหรอจ๊ะ” แบมแบมพยักหน้าหงึกหงัก นิ้วชี้จิ้มอยู่ที่ปาก แตะไปมาเบาๆเหมือนกับกำลังใช้ความคิด

     

                “ม๊าซื้อให้เอามั้ย” แบมแบมส่ายหน้าปฏิเสธ แต่กลับดึงมือม๊าเข้าไปในร้าน ร่างเล็กเดินไปที่ดูเชิ้ตที่แขวนอยู่ หยิบเชิ้ตสีดำและขาวออกมาดู ยืนพินิจพิเคราะห์อยู่นาน สุดท้ายก็ยื่นเชิ้ตสีดำให้กับพนักงาน

     

                “แบมแบมจะซื้อให้มาร์คน่ะครับ มาร์คไม่ค่อยมีเชิ้ตสีดำในตู้เท่าไหร่ แบมเลยกะจะซื้อไว้ให้มาร์ค เพื่อว่าต้องใช้” คำอธิบายของแบมแบมทำให้แม่ของชายหนุ่มที่ถูกพูดถึงยิ้มออกมา

     

     

                สองคนนี้เวลาไปไหนมาไหนมักจะคิดถึงกันอยู่เสมอ บางทีก็ใส่ใจกันเกินไปจนมากกว่าคำว่าพี่น้อง บางทีก็ทำตัวห่างเหินเหมือนกับคนไม่รู้จักกัน การกระทำของทั้งสองคนเหมือนมีอะไรบางอย่างปิดกั้นความรู้สึกและการแสดงออกของกันและกัน

     

     50% 

     

     

     

     

     

                 ร้านอาหารจีนราคาเเพงภายในโรงเเรมหรูระดับ 5 ดาวที่อยู่ใจกลางเมืองหลวง สองร่างเดินเข้าไปนั่งภายด้านในห้องรับรองที่ถูกจองไว้ตั้งเเต่เช้า

     

     

                หนุ่มน้อยใบหน้าหวานเปิดเมนูที่อยู่ตรงหน้าดู ดวงตากลมโตไล่มองเมนูอย่างถี่ถ้วน ไล่มองรายการอาหารเเละสั่งออกไปตามความเคยชิน ไม่ลืมที่จะสั่งเมนูโปรดให้กับอีกคนที่ยังไม่มาถึง

     

     

                "มาร์คบอกว่าจะถึงที่นี่ภายใน 10 นาทีครับ" เเบมเเบมเงยหน้าจากโทรสัพท์ในทือตัวเอง หลังจากคุยกับมาร์คเสร็จ บอกกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ผู้หญิงที่อายุอานามเหยียบเลข 5 เเต่ก็ยังดูสวยไม่เปลี่ยนเเปลง

     

                "จ้ะๆ เเล้วเเบมสั่งอาหารของเเบมรึยัง ม๊าเห็นเราสั่งเเต่ของโปรดตามาร์ค" เเบมเเบมพยักหน้าให้กับเเม่ของพี่รหัสตัวเอง

     

     

                เมนูที่เเบมสั่งให้มาร์คเป็นเมนูที่มาร์คพาตัวเองมาทานที่นี่บ่อยๆ สั่งเเต่เเบบเดิมๆทุกครั้งจนเเบมเเบมจำได้ เเละก็ชินกับรสชาติของทุกเมนู จนมันกลายเป็นเมนูที่ทั้งคู่สั่งมากินเป็นประจำไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่งมาที่นี่

     

     

                ตามเวลาที่คนมาใหม่บอก มาร์คมาถึงที่ห้องอาหารโดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ก็มานั่งอยู่ข้างเเบมเเบม เหงื่อที่ขมับไหลซึมจนคนนั่งข้างๆอย่างเเบมเเบมต้องล้วงเอาพาเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาร์คออกมาเช็ดให้

     

     

                ภาพของชายหนุ่มทั้งสองทำให้ผู้เป็นเเม่ของร่างสูงเเอบยิ้มอยู่คนเดียว เธอชอบเเบมเเบมมาก ถ้าเเบมเเบมเป็นลูกชายอีกคนของเธอ เธอคงจะประคบประหงมเเละเลี้ยงดูเเบมเเบมไม่ต่างจากเด็กผู้หญิง

     

     

                อาหารละลานตามาเสิร์ฟตรงหน้า หน้าตาน่ารับประทานเเละชวนให้น้ำลายสอ มาร์คคีบเป็ดย่างวางลงในถ้วยของเเบมเเบมเเละของตัวเอง

     

     

                เเบมเเบมชำเลืองมองท่าทีของผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเงียบๆ เมื่อไม่เห็นว่าเเม่ของมาร์คสนใจทั้งเเบมเเบมเเละมาร์ค เเบมเลยตักอาหารให้มาร์คบ้าง

     

     

                "มาร์คงานที่บริษัทเป็นไงบ้างหล่ะลูก ป๊าไม่อยู่ เรียบร้อยดีรึเปล่า" เเบมชะงักมือที่พึ่งตักกระเพาะปลา เเต่ก็เพียงเเค่ไม่กี่วิ ก็ทำท่าทีเหมือนปกติ เเล้ววางถ้วยกระเพราะปลาไว้ตรงหน้าตัวเอง

     

                "เรียบร้อยดีครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จริงๆวันนี้มาร์คก็มีคุยงานที่โรงเเรมนี้เเหละครับ เข้าไปดูบริษัทเเป๊บเดียว เเต่คิดว่าช่วงที่มาร์คไม่อยู่ที่บริษัทน่าจะไม่มีอะไร" ม๊าพยักหน้ารับเเล้วลงมือทานอาหารต่อ

     

     

                อาหารกลางวันจบลงโดยที่มาร์คเป็นคนจ่ายทั้งหมด มาร์คเดินนำเเม่เเละน้องชายคนสนิทไปที่รถเพื่อพากลับบ้าน

     

     

                "มาร์ค ไม่ต้องไปส่งเเบมที่บ้านมาร์คก็ได้ เเบมว่าจะกลับคอนโดเลย" เเบมเเบมพูดขึ้นมาหลังจากเดินออกจากตัวโรงเเรม กำลังจะเเยกไปที่ป้ายรถเมล์

     

                "งั้นเเบมก็ไปส่งม๊าเป็นเพื่อนมาร์ค เเล้วเดี๋ยวเรากลับคอนโดพร้อมกัน โอเคมั้ย" เเบมเเบมส่ายหน้า เเล้วหยุดเดิน มาร์คเลยต้องหยุดตาม เเล้วเลิกคิ้วอย่างนึกสงสัย

     

                "ทำไมอ่ะ?? วันนี้มาร์คก็จะกลับไปนอนคอนโดเหมือนกัน"

     

                "วันนี้มาร์คนอนที่บ้านนั้นเเหละ ม๊าอยู่บ้านคนเดียว มาร์คไม่ห่วงท่านหรอ รีบๆไปส่งม๊าสิ เดี๋ยวเเบมถึงคอนโดเเล้วจะโทรหา ไปสิ" เเบมดันหลังมาร์คให้ก้าวไปยังรถของตัวเอง ส่วนตัวเองก็เดินเเยกออกไปที่ป้ายรถเมล์

     

     

                สองขาเล็กชะงักทันทีที่มีคนดึงไหล่จากด้านหลัง เเบมเเบมกำลังจะหันไปต่อว่าเพราะคิดว่าเป็นมาร์ค

     

     

                เเต่เเบมเเบมกลับคิดผิด เพราะคนที่ดึงไหล่เขาไว้กลับเป็นร่างสูงโปร่งของเพื่อนสนิท ที่พอเเบมเเบมหันไปมองก็ฉีกยิ้มกว้างๆให้กับเเบมเเบม

     

     

                "มาทำไรที่นี่อ่ะ เเล้วนี่จะไปไหน ให้เราไปส่งป่าว" ยูคยอมถามเเบมเเบมเพราะสังเกตจากทางที่เพื่อนตัวเล็กจะเดินไปคือป้ายรถเมล์

     

                "กลับคอนโดอ่ะเจอยูคก็ดีเหมือนกัน ไปส่งเราที่คอนโดหน่อยดิ" ยูคยอมพยักหน้ารัวๆเเละยิ้มกว้างๆ ก่อนจะดึงข้อมือเล็กของเเบมเเบมไปจับเเล้วพาเดินไปที่รถของตัวเอง

     

     

                ยูคยอมขับรถมาเรื่อยๆตามเส้นทางที่เขาจำได้ขึ้นใจ เพราะเคยมาส่งเเบมเเบมอยู่สองสามครั้ง เเละเพื่อนตัวเล็กยังเคยชวนขึ้นไปทานข้าวที่ห้องด้วย เเต่ตอนนั้นเหมือนฟ้าเปิดโอกาสเเละในขณะเดียวกันก็ผ่าลงมาทำให้ความหวังของเขาดับสลาย เมื่อเขาก้าวลงจากรถ กำลังจะเดินตามเเบมเเบมเข้าไปในคอนโด พี่ชายคนตัวเล็กกลับมาขวางเอาไว้เเละไล่กลับบ้าน เเละจะทำไงหล่ะ ก็ต้องกลับสิ เพราะยูคยอมรู้ดีว่าจินยองน่ะเป็นคนจริง ไม่เคยมีคำว่า ขู่ จินยองพูดคำไหนคำนั้น ขืนยังไม่ทันตาม ยูคยอมคงไม่มีชีวิตอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้

     

     

                "วันนี้เเบมไปทำอะไรที่โรงเเรมนั้นหรอ" ยูคยอมหันมาถามเเบมเเบมในขณะที่รถกำลังจอดติดไฟเเดง เเบมเเบมเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ หางตายูคยอมหเหลือบไปเห็นว่าเเบมเเบมกำลังคุยกับมาร์ค

     

                "เราไปทานข้าวกับม๊ามาร์คเเล้วก็มาร์คอ่ะ เเล้วยูคยอมหล่ะไปทำไรที่นั้น" พอได้ยินชื่อพี่รหัสของเพื่อนตัวเล็ก ยูคยอมก็รู้สึกอิจฉาพี่ชายหน้าหล่อที่เป็นทั้งพี่รหัส เป็นคนที่พักอยู่ข้างห้อง ไหนจะเป็นคนที่จินยองเปิดโอกาสให้ดูเเลเเบมเเบมได้เต็มที่อีก ดูก็รู้ว่าการจะขยับสถานะกับเเบมเเบมของตัวเองมันยากยิ่งกว่ามาร์คเสียอีก

     

                "เราไปทานข้าวเป็นเพื่อนป๊าเหมือนกัน เออ เเบมพรุ่งนี้ว่างป่ะ ไปดูหนังกัน เราหยุดงานอ่ะ เพราะวันนี้เราไปทานข้าวกับป๊าเเละลูกค้าป๊า พรุ่งนี้ป๊าเลยให้เราหยุด" ยูคยอมพูดไปก็ขับรถไปเรื่อยๆ

     

                "น่าจะว่างมั้ง นี่ก็กำลังคุยกับมาร์คอยู่ว่าพรุ่งนี้มาร์คจะชวนไปไหนรึเปล่า" คำก็ มาร์ค สองคำก็มาร์ค ยูคยอมอยากกระชากเเบมเเบมเเล้วเขย่าให้คำว่า มาร์ค หลุดออกจากหัว จากตัวเเบมเเบมสักที

     

                "ถ้าว่างก็โทรหาเราหล่ะกัน เผื่อยองเเจว่าง เราจะได้ไปเที่ยวกันสามคนพอดี" เเบมเเบมวางมือถือลงบนตักเเล้วหันมาพยักหน้าเเละส่งยิ้มให้ยูคยอม

     

     

                ยิ้มที่มันค้างมาจากการคุยกับมาร์ค ยิ้มที่ไม่ได้ตั้งใจจะมอบให้ยูคยอมตั้งเเต่เเรก ยูคยอมคงจะเป็นคนที่หวังมากไป หวังให้คนตัวเล็กหันมายิ้มให้กับตัวเองเเบบเดียวที่ยิ้มให้กับมาร์ค ยิ้มที่ออกมาจากใจ ยิ้มที่ตั้งใจจะให้ยูคยอมจริงๆ

     

     

                รถของยูคยอมขับมาจอดตรงหน้าคอนโดหรูของแบมแบม แบมแบมหันไปส่งยิ้มแล้วกล่าวขอบคุณเพื่อนสนิทตัวสูงและก้าวลงจากรถ ยูคยอมมองแบมจากในรถจนเพื่อนตัวเล็กหายเข้าไปลิฟต์จึงขัยรถออกไป

     

     

                ลิฟต์จอดจามชั้นที่แบมแบมกด สองขายาวก้าวไปตามทางเหมือนปกติ วางนิ้วลงบนตัวแสกนนิ้ว ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้อง แบมแบมก็โดนกระชากจากด้านหลังจนเซไปปะทะกับแผ่นอกกว้าง

     

                กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยลอยเข้ามาในจมูก แบมแบมเงยหน้ามองคนที่กระชากตัวเอง ก่อนจะตีหน้าดุ แล้วขยับออกห่างจากอีกฝ่าย คนตัวสูงกว่าส่งยิ้มให้บางๆแล้วผลักประตูของคนตัวเล็กให้เปิดออก

     

     

                “จะเข้ามาทำไมเนี่ย” แบมแบมถามคนที่ดันหลังตัวเองและก้าวเข้ามาในห้องของตัวเอง ก่อนที่อีกฝ่ายจะเลี่ยงเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นหาอะไรสักอย่างอยู่

     

                “ทำอะไร” แบมแบมพิงกรอบประตู ยกมือขึ้นกอดอกมองคนที่สำรวจตู้เย็นตัวเองไม่เลิก

     

                “ทำอาหารไง ไม่ช่วยก็เข้าไปอาบน้ำไป” แบมแบมมองอีกฝ่ายที่กำลังหยิบผ้ากันเปื้อนของตัวเองไปใส่ แล้วยืนอยู่หน้าเตา ของที่คนตัวสูงหยิบออกมา เหมือนกับว่าจะทำสปาเก็ตตี้ให้เขาทาน

     

                “งั้นไปอาบน้ำแหละ ทำเสร็จก็เก็บครัวให้ด้วยหล่ะกัน” อีกฝ่ายตอบรับในลำคอเบาๆ แบมแบมเลยหมุนตัวแล้วเดินเข้าห้องตัวเองไป

               

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk

    ตอนที่ 1 ไม่รู้ว่าคนอ่านรู้สึกยังไงกันบ้าง อยากจะถามว่า พออ่านจบ 1 ตอน เเล้วรู้สึกว่า ฟิคเรื่องนี้จะเป็นไงต่อไป ให้เดาๆ ลองเดากันมาเล่นๆดู ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงกันต่อไป ตัวละครที่เหลือจะทยอยออกมาเรื่อยๆนะคะ ไม่ต้องห่วง

    ขอขอบคุณทุกคอมมเมนท์ที่คอมเมนท์ให้กัน เข้ามาคุยกันได้ใน #ฟิคซ้อนกลมบ หรือใครที่อยากอ่านฟิคหน่วงๆ ไรท์ขอแนะนำ #ฟิคเราควรพอ สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน หรือจะไปลองติดตาม #ฟิคขังรักกักใจ ฟิคใสๆพระ-นายวิ่งเล่นบนไร่ชา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk

     

                ตอนที่ 1 เอาไปก่อน 50% หล่ะกันนะคะ อัพสองเรื่องแบบ 100% วันเดียวก็ดูฟิตไป จริงๆไรท์ไม่ใช่คนขยันอะไรนะ แต่แค่อยากจะอัพเฉยๆ 55555555

                ขอเสียงคนที่รอฟิคเรื่องนี้หน่อยเร้วววววววว และอย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันได้ใน #ฟิคซ้อนกลมบ กันนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×