คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ซ้อนกลกามเทพ ตอนที่ 17
มาร์คขับรถมาเรื่อยๆยันถึงที่หมายจุดเเรกที่คนตัวเล็กอยากจะมา
รถยนต์ที่ถูกขับเข้าไปในที่จอดรถ
จอดนิ่งสนิทก่อนที่มาร์คจะเดินนำคนตัวเล็กเข้าไปข้างใน
ลิฟต์ถูกกดไปที่ชั้น89 เเบมเเบมตาวาวทันทีที่ตัวเลขดิจิตอลค่อยๆเลื่อนถึงชั้นจุดหมายที่ตัวเองอยากมานัก
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ขาสองข้างก็เเทบจะพาเจ้าของวิ่งออกมาเกาะขอบกระจก
เเต่มาร์คไวกว่าที่คว้าไหล่เล็กให้เดินตามมาเขียนโปสการ์ดเป็นที่ระลึกก่อน
"มาร์คเขียนโปสดาร์ดให้ใครอ่ะ"
เเบมเเบมมองโปสการ์ดที่มาร์คคว่ำหน้าลง
เหมือนต้องการจะไม่ให้เเบมเเบมเห็นว่าตัวเองเขียนให้ใครเเละเขียนถึงใคร
"ความลับ เเล้วเเบมหล่ะ
เขียนถึงใคร"
"ความลับเหมือนกัน"
เมื่อเเบมเเบมเขียนโปสการ์ดเสร็จ
ก็เดินไปยังร้านขายของที่ระลึกทันที มาร์คกอดอกเดินตามหลังคนที่พามาด้วยรอยยิ้ม
เเบมเเบมในสายตามาร์คตอนนี้ ก็ไม่ต่างจากเด็กๆที่ดูตื่นเต้นกับสถานที่เเปลกตา
"มาร์คมาดูนี่เร็ว สวยเนอะ
ถ้าเรามาดึกๆจะสวยกว่านี้มั้ยอ่ะ"
เเบมเเบมกุมมือคนตัวสูงกว่าเเล้วลากมายืนเคียงข้าง
มาร์คไม่ได้มองตามวิวที่เเบมเเบมชี้เลยสักนิด
ดวงตาคมจับจ้องเเต่เพียงรอยยิ้มที่หน้าหวานฉีกยิ้มตลอดเวลา
"ชอบที่นี่หรอ"
มาร์คอดไม่ได้ที่จะถามเเบมเเบม ที่วิ่งไปวิ่งมารอบๆเพื่อดูทิวทัศน์ให้ทั่วถึง
"ก็ชอบนะ ทั้งสูง ทั้งสวย
ถ้าเรามาดึกๆ คงจะเห็นดาวบนท้องฟ้าเเละดาวบนดินเลยเนอะ"
มาร์คยิ้มตามคนที่ส่งรอยยิ้มกว้างมาให้ ในใจอยากจะตอบคนตัวเล็กกลับไปเหลือเกินว่า
คนตรงหน้าสวยกว่าจินตนาการที่คนตัวเล็กคิดไว้ซะอีก
"ดูวิวข้างบนเสร็จเเล้ว
ลองไปดูอีกชั้นมั้ย เผื่อจะชอบ"
มาร์คโอบไหล่คนตัวเล็กที่ยังสนใจภาพที่พื้นดินอยู่ เเบมเเบมพยักหน้ารับช้าๆ
เเล้วเดินตามทิศทางที่มาร์คกำหนด
ลิฟต์ถูกกดมาที่ชั้น 91 ซึ่งเป็นชั้นที่ทำให้เห็นบรรยากาศโดยรอบเเบบชัดเจนยิ่งกว่าชั้น
89 เพราะชั้นนี้เป็นลานกว้างๆทำให้คนตัวเล็กในอ้อมกอดมาร์คตื่นเต้นเข้าไปอีก
"สวยจัง ลมเย็นด้วย"
เเบมเเบมหันมามองคนข้างกายที่มองตัวเองอยู่ตลอด
"มองอะไรของมาร์คเนี่ย มองซะเขินเลย"
เเบมเเบมพูดออกมาเบาๆเเต่คนฟังที่อยู่ใกล้เเบบมาร์ค
อดที่จะยิ้มในประโยคที่ได้ยินไม่ได้
มาร์คมองตามเเบมเเบมที่เดินถ่ายรูปมุมนู้น
มุมนี้อยู่คนเดียว ลมเย็นๆทำให้ผมนิ่มปลิวไปตามเเรงลม ยิ่งตากเเดด
ตากลมมากๆผิวเเก้มเเบมเเบมก็เริ่มเปลี่ยนสี
"กลับเข้าไปในตึกดีกว่า เเดดเริ่มออก
ลมก็เเรงเเบบนี้ ยืนนานๆเดี๋ยวไม่สบายได้นะ ไปกันเถอะ" มาร์คเห็นเเบมเเบม
เดินไปเดินมาจนหนำใจเลยเอ่ยชวนให้เข้าตึกไวๆ ขืนอยู่นานกว่านี้
เดี๋ยวเเบมเเบมจะป่วยเอา
มาร์คพาคนตัวเล็กมาที่ชั้น
5F ซึ่งเป็นชั้นที่เหมาะเเก่การช้อปปิ้งเป็นอย่างมาก
ชั้นนี้ไม่ต่างอะไรกับห้างเลยเเหละ มันเลยเหมาะกับคนที่มาร์คโอบไหล่อยู่สุดๆไปเลย
"ขออนุญาตใช้เงินได้ป่ะ"
เเบมเเบมหันมาถามคนที่เปลี่ยนจากโอบไหล่มาเป็นจับมือเเทน พอมาร์คพยักหน้าให้
เเบมเเบมก็ช้อปปิ้งตามสไตล์ตัวเองทันที
"เหนื่อยเหมือนกันน่ะเนี่ย"
เเบมเเบมนั่งลงที่เก้าอี้ในร้านอาหารที่ตัวเองเป็นครเลือก
"มาร์ครึป่าวที่เป็นคนที่ควรพูดประโยคนั้น"
เเบมเเบมมองถุงที่มาร์คเป็นคนถือให้ตลอดการช้อปปิ้งก็ได้เเต่ยิ้มเเห้งๆให้คนตัวสูง
"นานๆทีน่ามาร์ค นานๆทีมาร์คจะว่างมาเดินช้อปปิ้งกับเเบมเเบบนี้
รอบนี้เลยเอาให้คุ้มหน่อย อิอิ"
"จ้ะ เอาที่เเบมสบายใจเลยนะ
เเล้วนี่เราทานข้าวเสร็จเเล้วจะไปไหนกันต่อ มาร์คว่า shilin ไปดึกๆหน่อยหล่ะกัน"
"อืม ก็ได้
งั้นเรากลับไปนอนเอาเเรงที่บ้านดีกว่าเนอะ เเล้วค่อยไปเดินเที่ยวต่อก็ได้"
"จินยองงงง จินยองหยุดก่อน"
คนตัวสูงพยายามเดินตามร่างของคนที่เดินนำหน้าให้ไวกว่าเเล้วคว้าเเขนของคนหน้าหวานเอาไว้
"อย่ามายุ่งกับฉัน!!"
จินยองหันมาสบตากับคนตรงหน้าตรงๆพร้อมกับเเกะมือหนาที่พันธนาการตัวเองเอาไว้ให้ออกจากข้อมือตัวเอง
"นี่อย่าเล่นตัวให้เยอะไปกว่าผู้หญิงได้มั้ยจินยอง
ฉันตามจีบมาตั้งหลายวัน ไม่คิดจะใจอ่อนหน่อยเลยรึไง"
"ใครจะไปใจอ่อนง่ายๆกับคนอย่างนาย
ห้ะ!! เเล้วที่บอกเล่นตัว ฉันไม่ได้เล่นตัวเว้ยย เเต่ฉันไม่ชอบคนปากสุนัขเเบบนาย
เเล้วก็เลิกตามฉันเหมือนพวกไม่มีการมีงานทำสักที รำคาญ!!!"
"เเต่ฉันชอบ ฉันชอบที่จะตามนายเเบบนี้
เเล้วอีกอย่างบริษัทฉันไม่มีวันเจ๊งหรอกไม่ต้องห่วง เพราะฉันบอกป๊าเเล้วว่าจะพาลูกสะใภ้เข้าบ้าน
ป๊าเลยมาดูเเลบริษัทเเทนเเล้ว"
"นายว่าไงนะ!! โอ๊ยยย
ฉันหล่ะปวดหัวกับนายจริงๆ จะไปไหนก็ไปเลยไป๊เเจบอม ฉันเบื่อหน้านาย
ไอ้โรคจิต" จินยองที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากพูด
ก็คอยไล่คนตรงหน้าด้วยคำพูดอยู่เรื่อยๆ
"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้โรคจิตเเจบอม
ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วยยยย" เสียงที่จินยองตะโกนดังก้องลานจอดรถ
เเต่ไม่มีรปภ.คนไหนเข้ามาช่วย ก็เพราะ...
"ไม่มีใครช่วยนายได้หรอก ท่านรอง
เพราะคนทั้งบริษัทเขารู้หมดเเล้วมั้ง ว่าผมเป็นลูกเขยตระกูลปาร์คน่ะ"
"นะ...นายว่ายังไงนะเเจบอม
เมื่อกี้พูดบ้าอะไรของนาย ห้ะ!!" จินยองเเทบจะเปลี่ยนจากเเกะมือออกจากเเจบอม
เป็นเขย่าคอเเจบอมเเทน
"ก็ป๊ากับม๊าฉันไปคุยกับพ่อเเม่นายเรียบร้อยเเล้วไง
เป็นไงหล่ะฉันนี่โคตรสุภาพบุรุษเลยเนอะ เข้าตามตรอกออกตามประตู ผู้ชายดีๆเเบบนี้
หาไม่ได้อีกเเล้วนะ จินยอง"
"ไอ้บ้า!!! ไอ้ชั่ว!! นี่คิดจะมัดมือชกกันเลยหรอ
หึ!!! เเต่จำไว้เลยนะ คนอย่างปาร์ค จินยอง คนนี้ ไม่มีทางเป็นอะไรกับนายขาด อิม
เเจบอม ง้ำ!!!" จินยองก้มลงกัดลงที่เเขนของเเจบอมเเทบฝังเขี้ยว
จนคนถูกกัดต้องรีบผลักจินยองให้พ้นตัว
"อ๊ากกกกกกกกก"
"สมน้ำหน้า ขออีกทีหล่ะกัน"
จินยองถีบเข้าที่ท้องของอีกคนเเล้วรีบวิ่งนี่ไปที่ลิฟต์ที่จอดชั้นที่ตัวเองอยู่เเบบพอดิบพอดี
"เเสบนักนะจินยอง
เป็นเมียฉันเมื่อไหร่ จะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู!!"
เเจ็คสันกำลังคิดว่าตัวเองกำลังเหงาเเละหวั่นไหวง่ายเกินไป
วันทั้งวันถึงได้เอาเเต่คิดถึงใบหน้าหวานๆ รอยยิ้มสดใสของใครคนนึง ใครคนนั้น
คนที่เจอเขาติดกันสองสามวันมานี้ เเค่ชวนไปทานข้าวกับพูดคุยอะไรกันนิดๆหน่อยๆ
ทำไมเเจ็คสันถึงเสพติดการเจอ เด็กคนนั้น เด็กที่ชื่อ ชเว ยองเเจ
เพื่อนของคนที่เขาเเอบชอบมานานได้ขนาดนี้
เเจ็คสันไม่อยากฟันธงว่าสิ่งที่รู้สึกตอนนี้คืออะไร
ถ้าเป็นเพราะตัวเองเหงาหรือเพราะยองเเจกับเเบมเเบมมีอะไรที่คล้ายกันหล่ะก้อ
เเจ็คสันไม่อยากจะรู้สึกผิดต่อยองเเจเลย ที่เอามาเเทนใครอีกคน
เเต่ทำไมกัน...ทำไมคนอย่างเเจ็คสันต้องมานั่งจ้องมือถือไม่เป็นอันทำงานทำการเเบบนี้ด้วย
นี่เขากำลังหวังอะไรอยู่
อย่าบอกนะว่าหวังให้ยองเเจส่งข้อความมาชวนไปทานข้าวอีกน่ะ
เเต่ก็ไม่อยากจะยอบรับนักหรอกว่าหวังเเบบนั้นจริงๆ
เพราะเสียงเเจ้งเตือนข้อความเข้าทีไหร่ เเจ็คสันก็สะดุ้งทุกที
จนตอนนี้ก็เริ่มจะเลิกหวังเเล้วเเหละ...มั้ง
ติ๊ง!!!
ไม่ใช่ยองเเจหรอกน่า หวัง
เเจ็คสัน อย่างเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลย
ติ๊ง!!!
เเต่ถ้าเป็นยองเเจหล่ะ
จะไม่อ่านจริงๆหรอว่ะ ถ้าเกิดยองเเจเปลี่ยนใจไปชวนคนอื่นหล่ะ
ติ๊ง!!
ส่งมาถี่ขนาดนี้
อาจจะเป็นไอ้เเจบอมก็ได้น่า ไม่น่าจะใช่เด็กหน้าใสนั่นหรอก
อย่าเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลย
ติ๊ง!!
"โว้ยยยยย จะส่งอะไรกันนักกันหนาว่ะ
ถ้าไม่ใช่ยองเเจนะน่าดู"
เเจ็คสันเอื้อมหยิบโทรศัพท์ที่ถูกคว่ำอยู่ที่โต๊ะให้หงายขึ้นมา
เเละเเจ้งเตือนที่ปรากฎก็ทำเอาเจ้าของมือยิ้มออกมาไม่รู้
พี่เเจ็คสันครับ
วันนี้ว่างรึป่าว
ยองเเจว่างนะ
เราไปเที่ยวกันมั้ย
นายจะรู้มั้ยยองเเจ ว่าการที่นายส่งข้อความมาเชิญชวนขนาดนี้
นายไม่คิดบ้างหรอ ว่าคนอย่างเเจ็คสัน จะปฏิเสธ
นายคงไม่คิดสินะ
เพราะฉันน่ะ ก็ปฏิเสธนายไม่ได้เหมือนกัน
ว่างสิ
อยากไปไหนหล่ะ เดี๋ยวพี่ขับรถไปรับ
ตกเย็น
เเบมเเบมถูกปลุกจากเสียงเพลงที่มาร์คเดินเอาไว้ก่อนที่คนตัวสูงจะลงไป
บอกเเม่บ้านให้ทำอาหารรอคนตัวเล็กตื่น
มาร์คไม่ค่อยอยากให้เเบมซื้อของที่ตลาดทานเยอะ
เพราะรู้ดีว่า คนตัวเล็กจะซื้ออย่างเดียวจนกินไม่หมด
เลยอยากให้รองท้องก่อนออกจากบ้าน
เเบมเเบมออกจากห้องน้ำมาใส่เสื้อผ้าด้วยชุดใหม่
มาร์คก็เปิดประตูเข้ามาพอดี กะว่าจะมาปลุกให้เเบมเเบมล้างหน้าเเล้วลงไปทานข้าว
เเต่คงไม่ทันเเล้ว
เมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่เเค่ล้างหน้าเเต่อาบน้ำพน้อมกับเปลี่ยนชุดใหม่เลย
"หอมจัง"
เเละงานลวนลามคนตัวเล็กก็มา มาร์คกดจมูกฝังลงบนเเก้มนิ่ม ก่อนจะไล่ลงมายังปลายคาง
วกมาที่ซอกคอขาวของเเบมเเบม ก่อนจะ....
"หยุด หยุดๆๆๆเลยนะมาร์ค
ชักจะมากไปเเล้วนะ"
เเบมเเบมใช้มือเเกะมือมาร์คออกจากตัวเพื่อปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากคนชอบลวนลามที่ยืนซ้อนเเผ่นหลังตัวเองอยู่
"ก็ปล่อยให้หอมตั้งนานเนอะ
เเล้วพึ่งมาบอกให้หยุด ใจร้ายจริงๆเลยนะ เเบมเเบม"
มาร์คบีบจมูกเล็กของคนในอ้อมกอด ที่ตัวเองกอดอีกรอบ
ก่อนจะใช้เเขนรัดตัวเเบมเเบมให้เเนบชิดกับอกมากขึ้น
"พรุ่งนี้ก็กลับกันเเล้วนะ
ดีใจมั้ย" เเบมเเบมไม่ตอบคำถามของมาร์ค
เเต่สีหน้าเเล้วเเววตาทำให้มาร์คที่อยู่ใกล้ชิดกับคนตัวเล็กมานาน ทำให้รู้ทันทีว่าเเบมเเบมมีเรื่องกังวลอยู่ภายในใจ
"เรื่องเเจ็คสันหรอ
มาร์คก็คิดอยู่เหมือนกันว่าจะบอกมันยังดี
จะบอกว่าเราเป็นสามีภรรยาทางพฤตินัยเเล้วดีมั้ย"
"มาร์ค!!"
"หรือจะบอกไปเลยว่า
เมียข้าใครอย่าเเตะดี"
"จริงจังสักทีได้มั้ยห้ะ!
นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ ยังไงพี่เขาก็เป็นเพื่อนตัวเองนะมาร์ค
จะพูดอะไรก็รักษาน้ำใจกันหน่อย"
"ดูห่วงความรู้สึกมันจังเลยนะ"
"มันใช่เวลามางอนมั้ยเนี่ย
ที่พูดเนี่ย เพราะหวังดีกับมาร์คต่างหาก
มาร์คกับพี่เเจ็คสันไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน ถ้ามาทะเลาะกันเพราะเรื่องเเบมเนี่ย
ไม่คิดว่าเเบมจะรู้สึกผิดหน่อยหรอ"
"จ้ะ เค้าขอโทษที่งอนตัวเอง"
"มาร์ค!"
"ก็ได้ๆ จริงจังก็ได้
มาร์คจะไปสารภาพกับมันว่ามาร์คชอบเเบม เเละก็รักเเบมมานานเเล้วด้วย
มาร์คคงเปิดทางให้มันมาดูเเลเเบมเเทนมาร์คไม่ได้เเล้ว โอเคมั้ยครับ"
"อืมมม >//<"
"อืม
เเล้วหลบหน้ากันทำไมจ้ะคนดี"
"ก็มันเขินนี่
เหมือนโดนสารภาพรักอยู่เลย"
"ขอบคุณที่เขินให้มาร์คก็เป็นด้วย
ดูดิ่เเก้มเเดงไปหมดเเล้วเนี่ย เห็นเเล้วมันน่า......"
ก๊อกๆๆ
"มาร์ค เเบมลงไปทางข้าวกันได้เเล้วลูก
เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นซะก่อน" เสียงของม๊าเเทรกกลางบทสนทนาของมาร์ค
เเละทำให้เเบมเเบมรอดตัวไปในครั้งนี้
ทำเอาคนตัวสูงได้เเต่ทำหน้าผิดหวังจนเเบมเเบมต้องหันไปหยิกเเก้ม
เเล้วจับมือพาลงมาทานข้าวข้างล่าง
โต๊ะอาหารสำหรับมื้อค่ำดูจะพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว
เมื่อโจอี้กับป๊ากับมาจากบริษัทกันเเล้ว เเบมเเบมนั่งลงเคียงข้างกับมาร์ค
ตรงข้ามกับโจอี้ที่ดูเหนื่อยๆจนไม่มีเสียงเเซวออกมาจากปากเลย
"พรุ่งนี้ก็กลับกันเเล้วสินะ
วันนี้ไม่ไปเที่ยวไหนกันหรอ"
ป๊าถามขึ้นมาเมื่อเห็นมาร์คกับเเบมเเบมอยู่ที่บ้าน
ทั้งๆที่เวลานี้ถ้าทั้งคู่ออกไปข้างนอกก็คงทานข้าวกันสองคน
"เดี๋ยวทานเสร็จก็ไปเเล้วหล่ะป๊า
เเบมเเบมอยากไปเดินตลาดกลางคืนน่ะ"
มาร์คเป็นคนตอบผู้เป็นพ่อพลางตักอาหารให้คนข้างกายไม่หยุด
"อ่อ ก็ดีเเล้ว
พาเเบมเเบมไปเที่ยวบ้างก็ดี ไม่ใช่ปล่อยให้อยู่เเต่บ้าน เป็นฉัน
ฉันคงหนีกลับไปเเล้ว"
"ไม่หรอกป๊า เเบมเเบมน่ะ
ไม่มีทางทิ้งมาร์คหรอก รักมาร์คซะขนาดนี้" มาร์คคงจะลืมเหตุการณ์ที่เเบมเเบมเมาเเล้วจะหนีกลับสินะ
ถึงได้กล้าพูดออกมาเเบบนั้น
"เพ้อเจ้อน่ะมาร์ค
เเบมเคยบอกรึไงว่ารักมาร์คน่ะ"
"ต้องให้รื้อฟื้นความจำมั้ยจ้ะน้องสาว
ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า ต้องให้รื้อฟื้นความจำไม่จ๊ะเมียจ๋า"
มาร์คกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคน จนเเบมเเบมอดไม่ได้ที่จะฟาดลงที่มือมาร์คดังเพลียะ
"คุยอะไรกันน่ะ ป๊าอยากรู้บ้าง"
"ไม่มีอะไรหรอกครับป๊า อย่าสนใจเลย
ทานข้าวต่อเถอะครับ" เเบมเเบมเป็นคนตอบผู้ที่นั่งหัวโต๊ะ
เเล้วตักข้าวเข้าปากเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่มาร์คพูดกับตัวเอง
มาร์คกับเเบมเเบมมาถึงตลาดนัดกลางคืนซือหลินในเวลาเกือบทุ่มครึ่ง
นักท่องเที่ยวเดินเข้าเดินออกร้านนั้นร้านี้เต็มไปหมด
มาร์คต้องคอยจับมือคนตัวเล็กที่ไม่รู้จักโตไม่ให้วิ่งไปชนคนอื่น
เเบมเเบมเห็นอะไรก็อยากซื้อ
อยากชิม อยากลองทั้งนั้น ทั้งๆที่พึ่งทานข้าวมา
"มาร์ค สตอเบอรี่"
เเบมเเบมชี้ไปที่สตอเบอรี่ลูกโตที่ถูกเสียบไม้
ผลไม้สีเเดงที่มีรสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน อยู่ในมือของคนตัวเล็กข้างกายมาร์คทันที
เพราะเป็นหนึ่งสิ่งที่มาร์คก็อยากกินเหมือนกัน
"ชอบอ่ะ"
ปากอิ่มเป็นสีเเดงเพิ่มขึ้นมาอีกนิดเมื่อกัดสตอเบอรี่เข้าปาก มาร์คมองเเบมเเบมที่กินหมดก่อนตัวเองอย่างทึ้งๆ
"ขออีกได้ป่าว"
เเบมเเบมใช้สายตากลมโตของตัวเองมองหน้ามาร์คอย่างอ้อนวอน
เพราะใบหน้าน่ารักที่กำลังอ้อนวอนมาร์คอยู่
ทำให้มาร์คนึกอะไรดีๆออก
รอยยิ้มร้ายปรากฏอยู่บนหน้าหล่อเพียงเสี้ยววิก่อนจะยื่นไม้ที่ตัวเองถือไปจ่อปากของเเบมเเบม
"กินสิ มาร์คกินไม่หมดหรอก"
"ไม่ต้องทำมาเป็นใจดี
เเบมรู้นะว่ามาร์คคิดจะทำอะไร เอาเงินมาให้เเบมเลยนะคนเจ้าเล่ห์"
"มาร์คคิดอะไร? ป่าวเลยนะ
กินสิ กินไม้นี้หมด มาร์คจะให้ไปซื้ออีก" มาร์คคะยันคะยอ
จนเเบมเเบมขี้เกียจฟัง กัดคำเเรกเข้าปาก มาร์คก็ยืนถือนิ่งๆจนเเบมเเบมวางใจ.....
"ง้ำ!"
"ง้ำ!"
มาร์คอาศัยจังหวะที่คนตัวเล็กหลับตาพริ้มดื่มด่ำกับรสชาติสตอเบอรี่
ก้มลงไปกัดชิ้นสตอดบอรี่ชิ้นเดียวกันกับเเบมเเบมพอดี จนปากของทั้งคู่เเตะกันเบาๆ
เเบมเเบมลืมตามองคนตรงหน้าที่ผละออกเเล้วยกยิ้มกริ่มเหมือนเเผนการที่คิดเอาไว้สำเร็จ
"ทำอะไรเนี่ย!!!
ไม่อายคนอื่นรึไง" เเบมเเบมเเหวใส่ทันที
กวาดสายตามองคนที่เดินผ่านไปผ่านมาว่ามีใครมองอยู่รึป่าว
"หวานเนอะ"
"หวานอะไรของมาร์ค ไม่กินเเล้ว
ไปซื้ออย่างอื่นดีกว่า"
เเบมเเบมเดินซื้อขนมเเละของฝากมากมายจนมือมาร์คเเทบจะหิ้วไม่ไหว
ไม่รู้เหมือนกันว่าเเบมจะเอาไปฝากหรือซื้อไปขายต่อกันเเน่ ถึงได้เยอะขนาดนี้
"พอเถอะเเบม ที่ซื้อไปเนี่ย
เอาไปฝากทั้งบริษัทมาร์คยังเหลือเลยนะ กลับเถอะ"
มาร์คเริ่มเหนื่อยจนเมื่อยขาไปหมด ต่างจากเเบมเเบมที่ยังยิ้มร่าอยู่เลย
"ไม่ให้เห็นจะเย็นเลยมาร์ค
มือเเบมยังว่างอยู่เลยเนี่ย ยังซื้อได้อีกนะ"
"เเบมเเบม พอได้เเล้ว
มาร์คเหนื่อยเเล้วนะ" เมื่อไม้อ่อนใช้ไม่ได้ มาร์คเลยต้องงัดไม้เเข็งเข้าสู้
"ก็ได้ กลับก็ได้
ไม่เห็นต้องดุเลย" เเบมเเบมหันหลังเดินกลับทันที
เดินเร็วจนมาร์คที่ถือของเต็มสองมือ เดินตามเเทบไม่ทัน
"งอนหรอเเบมเเบม"
เเบมเเบมหยุดอยู่ที่รถที่มาร์คจอดเอาไว้
ไม่ได้เข้าไปข้างในเพราะมาร์คยังไม่กดปลดล็อก
"ทำไมต้องงอนหล่ะ
มาร์คมีเรื่องอะไรให้เเบมงอน" ถึงปากจะยอมพูด
เเต่หน้าเเบมเเบมกลับไม่ยอมหันมาคุยกับมาร์คดีๆ
"เฮ้ออ ขึ้นรถเถอะ
อากาศเริ่มเย็นเเล้ว ค่อยคุยกันในรถนะ" มาร์คกดปลดล็อกเเล้วเอาของที่ซื้อมาใส่ท้ายรถ
ก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งที่ตำเเหน่งคนขับ
ภายในรถเงียบมานานจนเกือบถึงบ้าน
เเต่จู่ๆมาร์คก็เลี้ยวจอดข้างทาง เเล้วหันมามองคนข้างกาย
เเบมเเบมที่พอรู้ตัวว่ามาร์คจอดรถก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไร
ยังคงนั่งๆมองตรงไปข้างหน้า
"หันมาคุยกับมาร์คหน่อยสิเเบม
บอกมาร์คหน่อยว่างอนเรื่องที่มาร์คไม่ให้เดินซื้อของต่อใช่มั้ย"
"......"
"อย่าเม้มปากเเบบนั้นเเบมเเบม
อย่าเงียบด้วย งอนอะไรมาร์คก็บอกมาร์คมาตรงๆ มาร์คจะได้อธิบายให้ฟัง"
"อือ
ก็รู้เเล้วจะถามอีกทำไมหล่ะ" เเบมเเบมตอบกลับด้วยเสียงงอนๆ
"ที่มาร์คไม่ให้ซื้อต่อก็เพราะมาร์คคิดว่ามันเยอะเกินไปเเล้วน่ะสิ
ไม่ใช่เเค่มาร์คถือไม่ไหวนะ เเต่เเบมต้องคิดด้วยว่า ที่เเบมซื้อ
เเบมซื้อไปทำไม"
"ก็ซื้อไปฝากคนอื่นๆไง"
"ของฝากเมื่อเช้าเราก็ซื้อมาเเล้ว
อันนี้ก็ซื้ออีก มันจะเยอะไปจนตอนขากลับเราสองคนจะเอากลับไม่หมดนะเเบม
มาร์คไม่ได้งกนะเเบม เเต่มาร์คอยากให้เเบมเห็นคุณค่าของเงินกับของที่ซื้อมา"
"......."
"อีกอย่างมันก็ดึกเเล้ว
พรุ่งนี้เราต้องเดินกลับกันเเล้วนะ มาร์คกลัวเเบมเดินนานๆเเล้วจะไม่สบายเอา
รีบกลับบ้านมานอนจะดีกว่า" มาร์คพยายามอธิบายให้คนข้างกายฟังด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
มาร์คไม่ได้อยากจะดุคนตัวเล็กเลยสักนิด เเค่อยากสอนเเละเตือนเท่านั้น
ถึงเเม้จะไม่ใช่เงินของเเบมเเบมที่เป็นคนจ่าย
เเต่มาร์คอยากจะให้เเบมเเบมรู้จักใช้เงินให้เป็น เพราะถ้าวันใดวันหนึ่ง
เเบมเริ่มทำงานอย่างจริงจังเเบมเเบมจะได้มีเงินเก็บเป็นของตัวเอง เเม้ว่า
พอเเต่งงานไป มาร์คจะให้เเบมเเบมอยู่บ้านเฉยๆก็เถอะ
และตลาดกลางคืนซือหลิน
ความคิดเห็น