คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ซ้อนกลกามเทพ ตอนที่ 13
เเสงเเดดอ่อนๆที่ลอดผ่านผ้าม่านสีครีม ผ้าม่านที่อยู่ภายในห้องนอนของผมเป็นผ้าม่านผืนยาวที่ปิดประตูบานกระจกเอาไว้จนเเทบจะไม่เห็นข้างนอก
ผมค่อยๆขยับตัวทีละนิดเพื่อบดบังเเสงเเดดที่ลอดผ่านเข้ามาภายในห้อง ไม่ให้เเสงสีเหลืองอ่อนรบกวนการนอนของคนตัวเล็กในอ้อมกอดของผม
ใบหน้าหวานที่ยามหลับก็ยังดูน่ารักเเละสวยในสายตาของผมอยู่เสมอ เเบมเเบมคือผู้ชายคนเดียวที่ผมมองว่าเขาสวย มันเเปลกนะครับ ที่เราจะมองใครว่าสวยที่สุดในสายตา ทั้งๆที่เขาไม่น่าจะใช้คำๆนี้ได้เลย
เรื่องเมื่อคืน....ถึงผมจะดื่มมา เเต่บอกเลยว่า ผมไม่ได้เมาหรอกนะ สติที่มีอาจจะไม่ 100% เเต่ผมยังจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้เป็นอย่างดี ผมยังจำทุกๆอย่างได้ โดยเฉพาะคำบอกรักของคนตัวเล็กที่อยู่ข้างกายผม
เรื่องราวทั้งหมดสำหรับผม มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผมเมา เเต่มันเกิดขึ้นจากความรู้สึกลึกๆของผมเอง
"อื้อออออ" เเบมเเบมค่อยขยับตัวเข้ามาหาผมเรื่อยๆ อาจจะเพราะอยากจะหนีเเสงที่ส่องเข้ามาหรือจะเพราะว่าเขาหนาวที่ไม่ได้ใส่อะไร ผมก็ไม่เเน่ใจ
จุ๊บ!
ผมค่อยๆทาบทับริมฝีปากของตัวเองลงบนปากอิ่มของเเบมเเบมเบาๆ ริมฝีปากที่ผมลิ้มลองความหวานมาหลายต่อหลายครั้งเเต่ก็ไม่รู้จักเบื่อ ผมว่าผมไม่เคยอิ่มหรือรู้สึกพอเลยสักนิด พอได้ชิม ได้ลิ้มลองเเล้วก็อยากจะชิม อยากจะลิ้มลองอีก ชิมจนรู้สึกหวง ไม่อยากให้ได้ทำเเบบที่ตัวเองทำ ไม่อยากให้ใครได้ลิ้มลองความหวานจากปากอิ่มนี้เลยสักคน
ผมหวงริมฝีปากนี้
หวงร่างกายนี้
หวงคนๆนี้
หวงหัวใจของคนๆนี้
ไม่อยากให้ใครได้เป็นเจ้าของนอกจากตัวเอง
เปลือกตาที่ซ้อนดวงตากลมโตเอาไว้ค่อยๆขยับเหมือนจะเปิดออก ผมค่อยๆหลับตาลง คอยฟังเสียงของคนที่พึ่งตื่น
"ปวดหัวอ่ะ" เสียงหวานๆที่บ่นเบาๆในอ้อมกอดผม ค่อยเปร่งออกมาอย่างยากลำบากเเละเเหบเเห้งเอามากๆ
"โอ๊ยยย" เหมือนเเบมเเบมจะขยับตัว เเล้วคงจะลืมเรื่องเมื่อคืนไปเเล้วมั้ง ถึงได้กล้าขยับเเรงเเบบนั้น
"วะ...เวรเเล้ว...โอ๊ยยยย กะ...เกิดอะไรขึ้นว่ะเนี่ย ทะ...ทำ....."
"ตื่นเเล้วหรอเเบม" ใบหน้าหวานที่อยู่ไม่ห่างจากผมจนผมสังเกตทุกอย่างที่เเสดงออกมาจากสีหน้าเเละเเววตาได้อย่างชัดเจน ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นผมลืมตาขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆหลบสายตาผมเเทบจะทันที
"....กะ...เกิดอะไรขึ้น...."
"มาร์ครักเเบมนะ" ในเมื่อเเบมลืมว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมก็เลือกที่ไม่เล่าให้ฟัง เเต่ย้ำคำว่ารัก ให้เเบมเเบมได้มั่นใจ เขาจะได้ไม่คิดว่า พอตื่นมาเเล้ว ผมขอ.....
เขาคบ เขาจะได้ไม่คิดว่าผมขอเพราะอยากจะรับผิดชอบ
"มะ...มาร์ค...พูดว่าอะไรนะ..." เเบมเเบมเงยหน้ามามองผมตรงๆ ปลายจมูกของเราเลยเเตะกันเเบบไม่ได้ตั้งใจ เเละก็เป็นเขาที่ค่อยๆขยับตัวออกห่างจากผม
"มาร์คบอกว่า มาร์ครักเเบมนะครับ" ผมย้ำคำว่า รัก ให้เเบมฟังชัดๆ ว่าเมื่อกี้ผมพูดกับเขาว่าอะไร
"ละ....ล้อเเบมเล่นใช่มั้ยมาร์ค...ที่พูดเเบบนี้...เพราะ..."
"เพราะมาร์ครักเเบม รักเเบบที่คนๆนึงจะสามารถรักใครักคนได้ ไม่ได้รักเเบม หรือมองเเบมเป็นน้องรหัสมานานเเล้ว" ผมจับมือเล็กมากุมไว้หลวมๆ ค่อยจูบลงบนสองมือนั้นเบาๆ
"ตั้งเเต่เมื่อไหร่...." สีหน้าของเเบมเเบมบ่งบอกว่าเชื่อในคำพูดของผม อาจจะเป็นเพราะเเววตาของผมเเละน้ำเสียงที่จริงจัง ไม่ได้ล้อเขาเล่น
"จำไม่ได้ เเล้วเเบมหล่ะ รักมาร์คมั้ย รักเหมือนที่มาร์ครักเเบมรึป่าวครับ"
รักเเบบที่ไม่ใช่...พี่น้อง
รักเเบบที่ผมรักเเบม
"เเบม....เเบม...ไม่....."
ไม่ทันที่เเบมจะพูดจบ ผมก็ฉกฉวยเอาคำนั้น ไม่ให้เเบมได้พูดออกมา ถ้าเเบมไม่ได้รักผมเเบบที่บอกเมื่อคืน ผมคง....จะบังคับให้เขารักผมให้ได้
ผมไม่ใช่ผู้ชายเเสนดีขนาดนั้นหรอกนะ เรื่องราวเมื่อคืน มันไม่ใช่เเค่ความรู้สึกที่ผูกกันไว้ เเต่มันยังมีความสัมพันธ์ทางกายเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็บอกเเล้วว่าผมหวงของผม ผมไม่มีวันให้ใครเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของคนตรงหน้านอกจากผมหรอกนะ
"อื้อออ" เเบมเเบมทุบลงบนไหล่ของผมเต็มเเรง ผมเลยค่อยผละออก เพราะรู้ว่าคนตรงหน้าเริ่มที่จะหายใจไม่ทัน
"หายใจไม่ทันเลยนะ...ไอ้บ้า" มือเล็กยังคงทุบลงบนไหล่ผมไม่หยุด เเต่ผมเห็นนะว่าเเบมหน้าเเดง เเดงเเบบที่ไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินผมกันเเน่
"ฟังไม่ทันจบเลยนะ เป็นคนเเบบนี้ตั้งเเต่เมื่อกัน ห้ะ!!" ผมจับข้อมือเล็กที่เช็ดปากตัวเองไม่หยุด จากที่มันบวมอยู่เเล้ว ถ้าผมปล่อยให้เเบมเช็ดเเรงๆเเบบนั้น มันจะยิ่งบวมเข้าไปอีก
"ขอโทษ"
"ขอโทษเเบมเรื่องอะไรหล่ะ เรื่องที่มาร์คทำผิดกับเเบมมีตั้งหลายเรื่อง"
"ทุกเรื่อง ทุกเรื่องเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา มาร์คขอโทษนะครับ ถ้าทำให้เเบมรู้สึกไม่ดี"
"ไม่ให้อภัย!!!" คำพูดกับน้ำเสียงจริงจังของเเบมทำให้ผมได้เเต่ก้มหน้าลง ผมไม่กล้าจะสบตากับเเบมจริงๆ การที่เเบมไม่ให้อภัยผม มันอยากจะหมายความว่า.......
"ถ้าไม่ขอเเบมคบ เเบมก็ไม่หายโกรธหรอกนะ ^_____^ ว่าไง???"
หายโกรธ???
ขอคบ????
หมายความว่า???
"เป็นเมียมาร์คนะ"
เพลียะ!!!!
มือเล็กฟาดลงบนเเก้มผมเต็มๆ เเบมคงมีเเรงเหลือเฟือมั้งเนี่ย ตบลงมาซะหน้าผมชาเลย
"พูดจาไม่เพราะเลยนะมาร์ค เมียเมออะไรกัน เป็นเเค่เเฟนกันก็พอเเล้ว เข้าใจมั้ยครับ คุณเเฟนสุดหล่อ"
"เเสบนักนะ ไอ้ตัวเล็กของมาร์ค" ผมดึงเเบมเเบมเข้ามากอดจนจมูกของเขาฝังลงที่อกผม เเบมคงได้ยินเสียงหัวใจผมที่มันเต้นดังจนเเทบจะหลุดออกมาเเบบชัดเจน
ร่างหนาเดินวนไปวนมาหน้าห้องของคนสองคนที่เขาตั้งใจจะมาหา เเต่กลับไม่มีใครออกมาเปิดประตู โทรหาทั้งคู่ก็ไม่มีใครรับ เเจ็คสันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อโทรหาเพื่อนสนิทอีกคนอย่างเจบี
"ไอ้บี นายพอจะรู้มั้ยว่ามาร์คกับเเบมเขาชอบไปไหนกันสองคน" เเค่เเจบอมกดรับสาย เเจ็คสันก็ถามออกไปโดยที่เเจบอมยังไม่ทันเอ่ยทักทาย
"ทำงานมั้ง ไอ้มาร์คมันบ้างานจะตาย คงออกไปทำงานเเหละมั้ง เเบมก็น่าจะไปด้วย ลองไปหาที่ทำงานมันดิ่"
"เเล้วจะไปหาเรื่องอะไรดีว่ะ"
"ก็ซื้อของไปให้เเบมไง เค้กที่เเบมชอบไง ลืมไปเเล้วหรอ" รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา เเจ็คสันวิ่งกลับไปหยิบกุญเเจกับกระเป๋าตังค์ที่ห้องตัวเอง เเล้วรีบวิ่งลงบันได
ไม่ทันที่เเจ็คสันจะไขกุญเเจรถ ร่างบางของใครสักคนก็เดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังเเละสะกิดไหลาหนาเบาๆให้หันมาสนใจ
"สวัสดีเเจ็คสัน" จินยองฉีกยิ้มกว้างให้กับคนตรงหน้า ทั้งที่ในใจเเทบจะกระชากคอเสื้อเเละดึงเข้ามาคุย
"อะ...เอ่อ...สวัสดีจินยอง มีอะไรกับผมรึป่าว" เเจ็คสันมองจินยองที่กำลังมองตัวเองด้วยสายตาที่บ่งบอกว่า ไม่ได้รู้สึกดีกับตัวเขาสักเท่าไหร่ เเละพร้อมที่จะเข้ามาต่อยหน้าเขาตลอดเวลา
"พอจะมีเวลาว่างมั้ย ผมอยากคุยด้วยหน่อย" เเจ็คสันที่ไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ว่าจินยองจะมาไม้ไหน ได้เเต่ตอบปฏิเสธไปก่อน
"ไม่ว่างเลยหรอ งั้นว่างวันไหนหล่ะ ผมอยากคุยกับคุณจริงๆ" จินยองมองท่าทีของคนตรงหน้าก็รู้ว่าเเจ็คสันนั้นดูลนลาน เหมือนกำลังกลัวตัวเองยังไงอย่างงั้น
"งั้นผมนัดกับเเจบอมก่อนดีกว่า เผื่อว่าวันที่คุณว่าง ผมไม่ว่าง เเจบอมเขาจะได้ช่วยอธิบายสิ่งที่ผมอยากจะพูดกับคุณได้ งั้นผมขอตัวก่อนนะ" เเจ็คสันมองเเผ่นหลังของอีกคนที่ค่อยๆหายไป ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมา เเต่กลับต้องลนลานอีกครั้ง เมื่อนึกถึงคำพูดของจินยองที่บอกว่าจะไปหาเเจบอม
"รับสิว่ะๆ ไอ้บีเอ่ยย บทจะซวยก็โคตรซวยเลยเนอะมึงเนี่ย" เเจ็คสันพยายามติดต่อเเจบอมที่ตอนนี้เข้าประชุมอยู่ ไม่สามารถรับโทรศัพท์
ดวงตาคมกวาดสายตามองไปทั่วห้องรับรองภายในบริษัทของคนที่ตัวเองต้องการที่จะมาหา จินยองมองไปที่รูปภาพของครอบครัวเพื่อนสนิทมาร์ค ก่อนจะละสายตาจากรูปภาพนั้นหันไปมองที่ประตูเเทน
"มาหาฉันถึงบริษัท มีอะไรรึป่าวจินยอง" เเจบอมนั่งลงตรงข้ามอีกคนที่มานั่งรอเขาเกือบชั่วโมง ทั้งๆที่ยังไม่ได้โทรคุยกับเเจ็คสันเลยสักนิด พอเลขาบอกว่ามีคนมาขอพบ เเละบอกชื่อ เเจบอมก็รีบมาหาจินยองเลยทันที
เเจบอมกับจินยองรู้จักกันเพราะเเบมเป็นน้องรหัสมาร์ค มีพี่ชายที่เเสนจะขี้หวงอย่างจินยอง ก็เลยมีปะทะคารมกันบ้างนิดหน่อยตามประสาคนหวงน้องที่ไม่อยากให้ใครที่ตัวเองไม่ไว้ใจเข้าใกล้น้องชาย ซึ่งช่วงเเรกๆเเจบอมก็คือหนึ่งในนั้นที่จินยองอยากจะกันให้ห่างจากเเบมเเบม
เเต่ช่วงที่เเบมเเบมขึ้นปี 2 ดูเหมือนจินยองจะวางใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะเเจบอมก็ดูเหมือนจะเเค่เอ็นดูน้องเขาเหมือนน้องชายคนนึงเท่านั้น ส่วนมาร์ค ช่วงเเรกก็ดูเหมือนจะไม่อะไรกับเเบม เเต่พอผ่านไปสักพักจินยองก็สังเกตได้ว่า มาร์คไม่ได้ดูเเลเเบมเหมือนสายรหัสทั่วไป พอถามเจ้าตัว มาร์คก็บอกกับจินยองเพียงเเค่ว่าให้จินยองสังเกตเอาเอง เเต่ไว้ใจมาร์คได้ เพราะมาร์คขอเเค่ได้ดูเเลเเบมจนกว่าจะเรียนจบก็พอ
จริงๆจินยองก็ไม่ถึงกับไว้ใจหรือเชื่อใจมาร์คง่ายๆหรอกนะ เเต่จากหลายเหตุการณ์ที่จินยองลองทดสอบมาร์ค มันทำให้จินยองไว้ใจให้มาร์คดูเเลเเบมเเบมเเทนเเละมาร์คก็ทำหน้าที่นั่นได้ดีมาโดยตลอด เเต่ช่วงนี้มันไม่ได้เป็นเเบบนั้น
ส่วนเรื่องที่รู้ว่าเเบมเเบมเองก็เเอบชอบมาร์ค จินยองพึ่งมารู้ก็ตอนที่เเบมเเบมโทรมาเเล้วร้องไห้ ที่มาร์คออกไปเต้นกับผู้หญิงคนอื่น ปล่อยให้เเบมนั่งอยู่กับเเจ็คสันสองคน จนต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากให้เเจ็คสันพากลับ จริงๆวันนั้นจินยองเเทบจะขับรถออกมาลากมาร์คออกจากผับเเล้วมาเคลียร์กับตัวเองให้รู้เรื่อง เเต่เป็นเเบมเเบมที่ขอเอาไว้ ว่าอย่าไปทำอะไรมาร์ค วันนั้นจินยองเลยเค้นถามความรู้สึกของน้องชายตัวเอง เเละได้รู้ว่า เเบมเเบมเองก็เเอบชอบมาร์คมาตั้งเเต่ปีหนึ่ง เเต่ไม่กล้าบอกมาร์คออกไปเเละไม่กล้าคิดว่ามาร์คเองก็ชอบตัวเองอยู่เหมือนกัน
"อ้าว นึกว่ารู้เเล้ว" จินยองมองหน้าอีกคนที่ทำหน้างงๆใส่ ก่อนจะยิ้มออกมา ยิ้มที่เเจบอมรู้ว่าอีกฝ่ายยิ้มไปงั้น ทั้งที่ในใจอยากจะวิ่งเข้ามาขย้ำคอเขาไปเเล้ว
"ก็ฉันนึกว่าเพื่อนนายจะโทรบอกนายเเล้วว่าฉันจะมาหา"
"หืม? เเจ็คสันน่ะหรอหรือไอ้มาร์ค" เพราะไม่รู้จริงๆว่าจินยองไปหาใครมา น่าจะเป็นมาร์คมากกว่า เพราะจินยองน่าจะสนิทกับมาร์ค
"มาร์คจะบอกนายได้ไง ในเมื่อมาร์คบินไปทำงานที่ไต้หวัน" คำตอบของจินยองทำเอาเเจบอมถึงกับสบถออกมา
"ไม่เห็นเเม่งจะบอกเลย" เเจบอมบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ โดยไม่รู้ว่าจินยองยังคงมองอยู่
"เเล้วสรุปว่ามาหาฉันมีธุระอะไรรึป่าว" เเจบอมถามออกไปเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าคนที่จินยองไปหาก่อนที่จะมาเจอตัวเองคงจะเป็นเเจ็คสันเเน่นอน
"ขอพูดตรงๆเลยหล่ะกันนะ นายน่ะ เลิกคิดที่จะช่วยให้เเจ็คสันสมหวังกับเเบมได้เเล้ว เพราะช่วยไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก"
"เเล้วทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วยหล่ะ"
"ฉันไม่ได้บอกให้นายเชื่อฉัน เเต่ฉันสั่งให้นายทำตามที่ฉันบอกต่างหากหล่ะ"
"เเล้วนายมีสิทธิอะไรมาสั่งคนอย่างฉัน พ่อก็ไม่ใช่ เเม่ก็ไม่ใช่ หรือคิดว่าตัวเองเป็น....." เเจบอมตั้งใจพูดทิ้งช่วงเอาไว้ เเล้วอมยิ้มออกมาคนเดียว
"เป็นอะไรของนาย!!" จินยองมองรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจของคนตาตี่ตรงหน้าเเล้วได้เเต่กร่นด่าในใจ
"เมียฉันไง"
"บ้านนายเถอะเเจบอม!!! ใครจะไปเป็นเมียนายกัน ต่อให้นายเป็นคนๆเดียวที่มีขีวิตรอดอยู่บนโลก ฉันก็ไม่มีทางเอานายมาทำพันธุ์หรอก จำไว้!!!" จินยองคว้ากระเป๋าเเล้วเดินกระเเทกเท้าออกไป เขารู้ว่าการปะทะฝีปากกับเเจบอมเเต่ละที มันไม่เคยมีประโยชน์เลยสักครั้ง เเถมยังรกสมองอีก
"ได้เลยครับจินยอง ผมจะจำเอาไว้เลย จำให้เเม่นเลยว่า สะใภ้ตระกูลอิม จะต้องชื่อ จินยองเท่านั้น!" เเจบอมยกยิ้มเเละมองตามเเผ่นหลังเล็กๆที่กำลังจะหายไปจากหลังบานประตู
ปั้ก!!!!
"โอ้ยยยย จินยอง นายปาอะไรมาเนี่ย" เเจบอมยกมือกุมหน้าผากตัวเองทันที มันเจ็บมาก เจ็บจนเขาคิดว่าตัวเองน่าจะหัวเเตกเเน่ๆ
เเล้วมันก็เป็นเเบบนั้นจริงๆ
"เเม็คเย็บกระดาษไง ไม่รู้จักหรอ นี่ยังถือว่าฉันปราณีเเละเสียดายรองเท้าตัวเองนะ ฉันถึงไม่ได้โยนรองเท้าไป" พูดจบก็ปิดประตูเสียงดังใส่ ไม่สนใจเลือดบนหัวเเจบอมเลยเเม้เเต่น้อย
"คนบ้าอะไรว่ะพกเเม็คในกระเป๋า เเม่งเอ้ยยยย คิดว่าจะชนะอยู่เเล้วเชียว"
อีกด้านหนึ่ง
เเจ็คสันถือกล่องเค้กเดินคอตกออกมาจากลิฟต์ เขาขึ้นไปหาเเบมเเบมกับมาร์คที่คิดว่าน่าจะมาทำงาน ก็กลับพบกับความว่างเปล่า เมื่อเลขาหน้าห้องบอกว่า มาร์คเดินทางไปไต้หวันเเละอีกหลายวันกว่าจะกลับ เเละที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ไปกับเเบมเเบมเเค่สองคน
เเล้วเเบบนี้ จะไม่ให้เเจ็คสันเซ็งได้ยังไง
"อ้าว พี่เเจ็คสันสวัสดีครับ ทำไมมาอยู่ที่นี่หล่ะ" ยองเเจที่มาทำธุระที่ตึกใกล้ๆกับบริษัทมาร์ค ตั้งใจจะเเวะมาหาเเบมเเบมเหมือนกัน เเต่โชคดีที่ก่อนจะขึ้นลิฟต์ไป จินยองโทรมาเล่าว่าไปหาเเจ็คสันเเต่โดนอีกคนปฏิเสธ เเล้วยังบอกอีกว่า เเบมเเบมไปไต้หวันกับมาร์คเเค่สองคน จินยองเลยใช้โอกาสนี้จัดการเคลียร์คนที่จะเข้ามายุ่งกับความสัมพันธ์ของมาร์คเเบม ที่พอกลับมาที่นี่น่าจะลงเอยกัน หรือไม่ก็อะไรๆมันจะพัฒนาขึ้นมากกว่าเดิม
"เเวะมาหามาร์คน่ะ เเต่มาร์คมันไม่อยู่ นายเองก็มาหาเเบมเเบมเหมือนกันหรอ"
"อ่อ ป่าวหรอกครับ ผมเเค่เเวะมาทำธุระเเถวนี้ เเล้วเเบมเคยบอกว่าร้านอาหารเเถวนี้กับข้าวอร่อยก็เลยเดินผ่านมาน่ะครับ"
"เเต่เมื่อกี้นายไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟต์หรอกหรอ"
"ป่าวครับ" ยองเเจโกหก จริงๆเขายืนอยู่หน้าลิฟต์อ่ะเเหละ คุยกับจินยองเรื่องที่จินยองไปปาเเม็คใส่หัวประธานบริษัทถึงบริษัท
"งั้นหรอ สงสัยฉันจะคิดไปเอง"
"พี่เเจ็คสันเป็นอะไรรึป่าวครับ ดูซึมๆนะ เเล้วนี่ทานข้าวยังครับ ไปทานข้าวกับผมมั้ย"
"ฉันไม่ได้เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วงหรอกนะ เเต่ว่าเรื่องทานข้าว ฉันไปด้วยก็ได้ ยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งเเต่เช้า ยังไงก็....รบกวนนายด้วยนะ ยองเเจ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ไปกันเถอะ"
Talk
ตอนที่ 13 มาเเล้วค่ะ ตอนนี้เเอบมีคู่อื่นๆมาด้วยตอนท้ายๆ ไรท์เป็นคนเเบบนี้เเหละค่ะ พอเเต่งมาร์คเเบมเเล้วมักจะเล่าเเต่มาร์คเเบมยาวๆ จนลืมนึกถึงคนอื่นๆ 5555 ยูคยอมออกน้อยเนอะ ว่าไหม??? ตั้งเเต่เรื่อง #ฟิคเราควรพอ เเล้ว 5555 อย่าว่าเเหละค่ะ ค่าตัวเเพง ไรท์เลยให้ออกเเค่นิดเดียว ไม่มีเงินจ่าย
ตอนหน้ายังไม่เเน่ใจว่าจะต่อคู่หลักหรือคู่รองก่อนดี เเต่ถ้าฟีลของคู่ไหนมาก่อน ตอนหน้าก็คู่นั้นเเหละค่ะ
ไรท์ว่า เรามาตั้งทีมกันดีมั้ย #มาร์คเเบมคนซึน #บีเนียร์คู่ฮาร์ดคอ #เเจ็คเเจผู้เริงร่า ใครเชียร์ทีมไหนกันบ้าง ฟิคเรื่องนี้อนุญาตให้หลายใจ เชียร์ได้ทั้งสามทีม 555555
ขอบคุณที่คอมเม้นท์กันเข้ามานะคะ คนที่ไปติดเเท็กในทวิตด้วย ขอบคุณมากๆเลย
ความคิดเห็น