ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END]Cupid's trap ซ้อนกลกามเทพ #Markbam

    ลำดับตอนที่ #13 : ซ้อนกลกามเทพ ตอนที่ 12

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.พ. 59















                ผมเก็บกระเป๋าของตัวเองเรียบร้อยเเล้วเเหละ เหลือเเต่มาร์ค ไม่รู้ว่าตอนนี้เก็บรึยัง

     

     

                วันนี้มาร์คเลิกดึกครับ เพราะมีประชุมก่อนที่เราจะบินไปไต้หวันกัน มาร์คไปทำงานได้สองสามวันเเล้วหล่ะ พอเคลียร์งานที่นี่เสร็จ มาร์คก็ให้ป๊าหาตั๋วเครื่องบินให้เลย

     

     

                นี่เป็นครั้งเเรกเลยนะครับที่ผมได้บินไปเที่ยวบ้านมาร์คที่ไต้หวัน กะว่าพอไปถึง มาร์คเข้าบริษัทปุ๊บ ผมว่าจะหาที่เที่ยวรอมาร์คซะหน่อย เพราะดูท่าว่าจะหวังพึ่งให้มาร์คนำทางก็คงไม่ได้ มาร์คเคยบอกว่า มาร์คกลับไปไต้หวันเเค่ปีละ 2-3 ครั้งเอง เพราะฉะนั้น เรื่องเที่ยว ผมจะลองหาดูในอินเตอร์เน็ตน่าจะเวิร์คกว่า

     

     

                ตุบ!!!

     

     

                "มาร์คคคค จัดกระเป๋ายัง" ผมกระโดดทับคนที่นอนคว่ำหน้าลงกับเตียงเเบบทั้งตัว ไม่รู้มาร์คจะจุกรึป่าว เเต่เงียบขนาดนี้ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

     

                "หืมมมม? จัดให้มาร์คหน่อยสิเเบม" ที่เเท้ก็หลับอยู่นี่เอง สงสัยจะเพลียเเน่เลย ผมยอมจัดกระเป๋าให้ก็ได้

     

                "เเล้วเราไปอยู่นู้นกี่วันอ่ะมาร์ค เเบมจัดของเเบมเเค่สามวันเองนะ" ผมเปิดตู้เสื้อผ้าที่เเขวนไว้อย่างไม่ค่อยจะเป็นระเบียบเท่าไหร่

     

     

                ตู้มาร์คเเขวนเเยกกางเกงกับเสื้อนะ เเค่ไม่ได้ไล่โทนสีหรือจัดว่า เชิ้ตต้องอยู่กับเชิ้ต คือเเขวนรวมกันหมด เเค่เอากางเกงไว้ทางซ้าย เสื้อไว้ทางขวาเเค่นั้น

     

     

                "อาทิตย์นึงอ่ะ มาร์คให้ป๊าจองตั๋วทั้งไปเเละกลับให้เราสองคนเลย" อ่าาา ถ้ายังงั้น ผมคงจะต้องจัดเสื้อผ้าของตัวเองใหม่เเล้วเเหละ

     

                "เเต่เเบมไม่ต้องเตรียมไปเยอะหรอกนะ ที่นั้นมีเเม่บ้าน จริงๆเเบมกับมาร์คใช้กระเป๋าใบเดียวกันก็ได้เดี๋ยวมาร์คลากเอง เเบมไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองมาดีกว่า" มาร์คลุกจากเตียงเเล้วหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หลังตู้ลงมาวาง ผมเลยเดินกลับห้องมาเอากระเป๋าตัวเอง

     

                "คนละครึ่งละกันเนอะ ฝั่งซ้ายของเเบม ฝั่งขวาของมาร์ค" มาร์ครื้อเสื้อผ้าตัวเองออกมา กองๆกันไว้เเล้วค่อยๆส่งมาให้ผมพับลงบนกระเป๋า

     

                "ยิ้มอะไรมาร์ค" ผมหันไปมองคนที่นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว มาร์คเป็นเเบบนี้มาหลายวันเเล้วหล่ะครับ ชอบยิ้มคนเดียว ไม่รู้ยิ้มอะไร

     

                "ก็เเค่คิดว่า เราสองคนเหมือนคู่รักกันเลยเนอะ"  ฉ่าาา ใครก็ได้เพิ่มเเอร์ให้ผมที ผมว่าอากาศเเถวนี้ ตอนนี้มันร้อนไป

     

                "เพ้อเจ้อ ส่งตัวนั้นมาเร็วๆ มันดึกเเล้วเเบมจะได้ไปนอน" มาร์คกางเกงยีนส์ตัวสุดท้ายมาให้ผม เเต่ไม่ยอมปล่อย เราดึงกันไปดึงกันมา ดึงกันท่าไหนไม่รู้ผมถึงได้ล้มลงมาเกยตักมาร์คเเบบนี้

     

                "คืนนี้นอนห้องมาร์คนี่เเหละ จะได้ตื่นพร้อมกัน"

     

                "ไม่เอาอ่ะ จะกลับไปนอนที่ห้อง" ผมพับกางเกงยีนส์ที่อยู่ในมือตัวสุดท้าย ส่วนมาร์คน่ะหรอ ไม่รู้ว่ามือหรืออะไรที่ไวกว่ากัน ทั้งขาทั้งเเขนพันรอบตัวผม เล่นเอาขยับไม่ได้

     

                "มาร์คอย่าลูบดิ่" ผมรีบตะครุบมือคนลามกที่เริ่มจะเลิกเสื้อผมขึ้นมาทีละนิด ช่วงนี้มาร์คเเปลกๆอ่ะ ดูยิ้มคนเดียวบ่อย พูดจาอะไรก็ไม่รู้ เเล้วยังรุ่มร่ามเกินกว่าเหตุกับผมอีก

     

                "ก็ตัวเเบมนุ่มอ่ะ นิ่มด้วย ตัวก็หอมด้วย" ไม่ว่าเปล่า ก้มลงมาขโมยหอมเเก้มผมอีก คนนิสัยไม่ดี

     

                "พอได้เเล้ว เดี๋ยวนี้ชักจะเยอะเเล้วนะมาร์ค" ผมทำเสียงดุใส่คนที่กอดผมเอาไว้ เเต่มาร์คก็คือมาร์คอ่ะ กลัวผมซะที่ไหน

     

                "เยอะอะไรเล่า ก็ปกตินะ เหมือนทุกครั้งเลย" ยังมีหน้ามายิ้มระรื่นใส่อีก ดูสิคนเรา

     

                "พอเลยๆ ให้นอนที่ห้องนี้ใช่มั้ย งั้นก็ปล่อยเเบมได้เเล้ว เเบมจะได้นอน"

     

                "นอนเเบบนี้ก็ได้นี่ ไม่เปลืองพื้นที่เตียง เวลาห่มผ้าก็ห่มทีเดียวได้ตั้งสองคน เเถมยังอุ่นกว่าอีก"

     

                "ไม่เอา จะนอน ปล่อยๆ" มาร์คพลิกตัวหันมานอนตะเเคงข้าง เอาคางของเขาวางไว้ที่ไหล่ของผม ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่ามันจั๊กจี้ไปมากกว่านี้ ผมรีบดันหน้ามาร์คให้ห่างจากคอตัวเอง

     

                "เลิกเล่นได้เเล้ว เเบมจะนอน"

     

                "เเบมจะนอน เเบมก็นอนไปสิ มาร์คก็ไม่ได้ว่าอะไรเเบมนี่ครับ"

     

                "ก็มาร์คก่อกวนเเบมอยู่เเบบนี้จะนอนได้ยังไงกัน" ผมใช้ความพยายามเป็นอย่างมาร์คในการพลิกตัวเเล้วดันตัวเองให้ห่างจากมาร์ค

     

                "อ่าๆ งั้นเลิกเเกล้งก็ได้ หลับตาซะ นอนกันๆ พรุ่งนี้จะได้ไม่ปวดหัว" มาร์คค่อยหลับตาลง เเล้วก็นิ่งไป ผมนอนมองใบหน้าหล่อของมาร์คนิ่งๆ เมื่อเเน่ใจว่า มาร์คจะไม่ตื่นมาก่อกวนอะไรอีก ก็หลับตาลงช้าๆ เเละขยับเข้าหาอกอุ่นๆของมาร์ค

     

     

                เเรงกระชับที่เอว เเละความอบอุ่นที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้รู้มาร์คเองก็ขยับเข้ามาหาผมอีก

     

     

                จุ๊บ!

     

     

                "ฝันดีนะครับ เเบม" ถ้าเสียงหัวใจที่ดังอยู่ ไม่ใช่เเค่คนฟังอย่างผมคนเดียวหล่ะ ผมต้องบ้าๆไปเเล้วเเน่ๆ ที่มานอนเขินเเม้กระทั่งเสียงหัวใจของมาร์ค

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                "เมื่อยอ่ะมาร์ค" ผมทิ้งตัวลงบนเตียงนอนกว้างๆในห้องนอนของมาร์ค เรามาถึงได้ประมาณชั่วโมงนึงเเล้วหล่ะครับ แต่ว่าคนขับรถเขาหาเราสองคนไม่เจอ ก็เลยมาถึงบ้านมาร์คช้า

     

                "ลุกขึ้นมานั่งดีๆสิ เดี๋ยวมาร์คนวดให้" มาร์คฉุดเเขนผมให้ลุกขึ้นมานั่งดีๆ จริงๆก็เกรงใจอยู่หรอกนะ มาร์คมากกว่าที่ควรจะเมื่อย เพราะเขานั่งอ่านเอกสารมาตลอด ผมอ่ะ เอาเเต่นอนอย่างเดียว

     

                "เเล้วมาร์คไม่เมื่อยหรอ ให้เเบมนวดให้ก่อนมั้ย" ผมหันไปถามคนที่นั่งซ้อนหลังตัวเองอยู่ มาร์คนวดให้ผมบ่อยมากเลยนะครับ แล้วก็นวดเก่งด้วย ทั้งๆที่เขาอายุมากกว่าผมแต่เขาก็ยังนวดให้ผม เมื่อก่อนผมคอยห้ามเขาตลอด แต่มาร์คก็จะบอกว่า ไม่เป็นไร มาร์คไม่ถือ

     

                "เดี๋ยวค่อยผลัดกันก็ได้ มาร์คนวดให้เเบมก่อนดีกว่า" มาร์คค่อยนวดไล่ตั้งเเต่บริเวณต้นคอของผมจนมาถึงเเขน โคตรสบายเลยหล่ะ ไม่อยากจะบอก

     

                "สบายขึ้นป่ะ" ผมพยักหน้าเเล้วส่งยิ้มให้คนที่นวดให้ผมอย่างตั้งใจ ต่อไปผมก็จะนวดให้มาร์คบ้างเเหละ

     

                "พอเเล้วก็ได้ เดี๋ยวเเบมนวดให้มาร์คบ้าง" ผมหย่อนขาลงที่ปลายเตียง กำลังจะเดินอ้อมมาด้านหลังมาร์ค เเต่กลับโดนมาร์คกอดเอวเอาไว้เเน่นเเล้วดึงตัวผมเข้าไปกอด

     

     

                ตุบ!

     

     

                "ไม่ต้องหรอก เเค่นี้มาร์คก็หายเมื่อยเเล้ว"

     

     

                ฟอดดดดดด

     

     

                "ลวนลามเเบมอีกเเล้วนะมาร์ค" ผมค่อยดันหน้ามาร์คให้ห่างจากเเก้มตัวเอง เพราะถ้าปล่อยให้หอมบ่อยๆ เดี๋ยวมาร์คจะเคยตัว ช่วงนี้มาร์คดูจะทำอะไรเเบบนี้บ่อย เเต่ก็ไม่ได้มากมายถึงขนาด......อ่า.....ถ้าผมพูดออกไป มันค่อนข้างจะ 18+

     

                "ป่าวซะหน่อย มาร์คไม่ได้ลวนลามเเบมเลยนะ เเบมยื่นเเก้มมาโดนจมูกมาร์คเอง ดูสิ คนอะไรไม่รู้ ยื่นเเก้มมาทางเขาเเล้วหาว่าเขาลวนลาม"

     

                "เเบมยื่นเเก้มไปหามาร์คตอนไหน อย่ามามั่วนะ มาร์คนั้นเเหละดึงเเบมไปกอด เเล้วพอเเบมล้มลงบนเตียงก็หอมเเก้มเลย"

     

                "จริงดิ่ มาร์คทำเเบบนั้นจริงๆหรอ ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย" โกหกหน้าตายมากเลย พูดออกมาได้หน้าตาใสซื่อเชียว

     

                "ตลกมากป่ะครับ มาร์ค ต้วน ปล่อยได้เเล้ว"

     

                "ไม่ปล่อยอ่ะ อยากกอดเเบมเเบบนี้ ไม่ได้หรอครับ" มาร์คเหมือนจะรู้นะ ว่าผมเเพ้เสียงอ้อนๆของเขาเเบบนี้ เดี๋ยวนี้เวลาจะกอด จะหอมผมทีไรก็ทำเสียงนี้ทุกที เเต่วันนี้ผมไม่ยอมหรอกนะ

     

                "ไม่ได้"

     

                "ทำไมอ่ะ! เดี๋ยวนี้หวงเนื้อหวงตัวกับมาร์คหรอครับ"

     

                "ป่าว ก็เเค่...มาร์ค เเบมว่าเดี๋ยวนี้เราเล่นกันมากเกินไปรึเปล่า"

     

                "หือ? เล่นอะไรอ่ะ เเบมหมายถึงอะไรหรอ"

     

                "เเบมรู้ว่ามาร์ครู้ว่าเเบมหมายถึงเรื่องอะไร เเบมว่า...เดี๋ยวนี้มันเริ่มจะเกินเลยมากกว่าคำว่า...พี่น้องกันไปแล้วนะ มาร์ค "

     

                "......"

     

                "......"

     

                "อืม มาร์คเข้าบริษัทนะ คงจะกลับมาดึกๆ ไม่ต้องรอกินข้าวหล่ะ" มาร์คส่งยิ้มให้ผมเเล้วรีบลุกขึ้นจากเตียงเลย

     

                มาร์คจะรู้ไหมว่า...รอยยิ้มของมาร์คเมื่อกี้มันฝืนแค่ไหน

     

     

                มาร์คจะรู้ไหม....ว่า....ดวงตาเศร้าๆของเขามันทำให้....ผมน้ำตาไหล

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เที่ยงคืนเเล้วนะ ทำไมมาร์คยังไม่กลับมาอีกอ่ะ ผมนั่งรอ นอนรอมาร์คมาหลายชั่วโมงเเล้ว ไลน์ไปหา มาร์คก็ไม่ยอมตอบ จะโทรไป ผมก็ไม่กล้า กลัวว่ามาร์คจะยุ่งกับงานอยู่ เพราะขนาดไลน์ยังไม่หยิบขึ้นมาเปิดดูเลยอ่ะ

     

     

                "ฮัลโหลครับ"

     

                "ว่าไงเรา โทษทีนะที่เมื่อกี้พี่ไม่ได้รับ พอดีว่าคุยกับลูกค้าอยู่น่ะ โทรหาพี่ดึกขนาดนี้มีอะไรไม่สบายใจรึป่าว"

     

                "พี่จินยอง มาร์ค...คือ...มาร์คยังไม่กลับมาเลยอ่ะ"

     

                "มาร์คออกไปไหนหล่ะ พึ่งบินไปไต้หวันกันวันนี้เองไม่ใช่หรอ"

     

                "มาร์คออกไปทำงานครับ"

     

                "หือ? มาร์คบ้างานขนาดนั้นเลยหรอ"

     

                "มั้งครับ"

     

                "มีอะไรรึป่าว เสียงเเบมดูหงอยๆนะ ตอนนี้ที่นั้นกี่โมงเเล้วหล่ะ"

     

                "เที่ยงคืนเเล้วครับ"

     

                "....."

     

                "พี่จินยอง...เเบม....เเบมไม่รู้ว่าที่มาร์คไม่กลับบ้าน เป็นเพราะงานมันมีปัญหา หรือเป็นเพราะ....เเบมรึป่าวอ่ะ เเบม...."

     

                "ว่ามาสิ พี่ฟังอยู่"

     

                "คือ...ช่วงนี้ มาร์คกับเเบมเล่นกัน....มากกว่าเดิม....นิดหน่อย อาจจะผิดที่เเบมเองที่ไม่เคยว่าอะไรมาร์คเลย เเล้ววันนี้ เเบมก็...เเบมก็พูดออกไป"

     

                "พูดว่า???"

     

                "เราเล่นกัน จนเเบมรู้สึกว่า....มันเริ่มจะเกินเลย...เกินกว่า...คำว่า...พี่น้องเเล้วนะ"

     

                "........."

     

                "พี่จินยองงงง อย่าเงียบสิครับ"

     

                "ก่อนที่พี่จะช่วยเเบม พี่ขอถามเเบมก่อนว่าเเบมเเน่ใจหรอว่าที่ผ่านมา การกระทำของตัวเเบมเองที่ปฏิบัติต่อมาร์คมันคือการเล่นกัน คุยกัน ปฏิบัติต่อกันเหมือนกับสายรหัสทั่วไป

     

                "......."

     

                "เเบมเเน่ใจว่าตัวเองก็คิดกับมาร์คเเค่พี่ชายคนนึง เเล้วมาร์คเองก็คิดกับเเบมเเค่น้องชายคนนึง"

     

                "เเบม...เเบมว่า....มาร์คก็เเค่..."

     

                "เพราะอยู่ใกล้กันเกินไปรึป่าวเเบม เเบมเลยไม่เห็นในสิ่งที่พี่เห็น พี่ว่าเเบมรู้ตัวเองมาตลอดนะ ไม่งั้นเเบมจะไปปรึกษาเรื่องหัวใจกับยองเเจบ่อยๆทำไม"

     

                "พะ...พี่จินยอง....ระ...รู้ด้วยหรอครับ ยองเเจบอกพี่หรอ"

     

                "หึ เเบมคิดว่าไงอ่ะ เเต่อย่าพึ่งสนใจเลย สนใจเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ดีกว่า เเบมคิดว่า ปัญหาตอนนี้คืออะไร"

     

                "เเบมไม่รู้"

     

                "เฮ้ออออออ เเบมรู้ นี่จะ 5 ปีเเล้วนะเเบม นานเกินไปเเล้วนะ จะปล่อยไว้เเบบนี้ต่อไปหรอ หรือจะต้องรอให้เขามีเเฟนเป็นตัวเป็นตนก่อน เเล้วค่อยมานั่งเสียใจทีหลังน่ะ เลิกกลัวได้เเล้ว ใจๆหน่อย"

     

                "ไม่เอาอ่ะ"

     

                "ไม่เอา ก็เรื่องของเเบม วันนี้เชื่อพี่สิ ยังไงมาร์คก็ไม่มีทางกลับบ้าน เผลอๆพรุ่งนี้ก็ไม่กลับ"

     

                "พี่จินยองรู้ได้ไง มาร์คอาจจะกลับก็ได้"

     

                "ถ้ามาร์คจะกลับ มาร์คกลับมาตั้งนานเเล้วหล่ะเเบม เลือกเอาว่าจะนั่งหงอยเเบบนี้ หรือจะโทรตามมาร์คให้กลับมา"

     

                "ตอนนี้มาร์คอาจจะยุ่งๆอยู่ก็ได้"

     

                "จะตีหนึ่งอยู่เเล้ว จะยุ่งอะไรนักหนา ถึงมาร์คจะบ้างานขนาดไหน เเต่ร่างกายคนเรามันก็ต้องการการพักผ่อนนะเเบม เร็วๆ รีบๆตัดสินใจ"

     

                "เเล้วถ้าโทรตามมาร์คกลับมา พี่ว่า...บรรยากาศมันจะเหมือนเดิมหรอ"

     

                "เเล้วคิดว่า ทำยังไงมันถึงจะเหมือนเดิมหล่ะ พี่ใบ้ให้ก็ได้....พูดอะไรก็เเก้ไขในสิ่งที่พูดนั้นเเหละ"

     

                "ก็ตอนนี้เรายังเป็นพี่น้องกันจริงๆนี่"

     

                "สรุปจะไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเองใช่มั้ย อ่ะ! เเบมไม่อยากรู้หรอว่า มาร์คคิดยังไงกับตัวเอง"

     

                "ไม่....ไม่รู้อ่าาา เเบมไม่เอาเเล้ว ไม่คุยกับพี่จินยองเเล้ว" ผมตัดสินใจตัดสายเลย ยิ่งคุยผมยิ่งเครียดกว่าเดิม ผมรอมาร์คกลับมาบ้านต่อดีกว่า

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    02.00 น.

     

     

                ร่างเล็กที่รอใครอีกคนกลับมา ย้ายตัวเองมานั่งอยู่ตรงบันไดทางเข้ามาในตัวบ้านพร้อมกับไวน์หนึ่งขวดที่ไปเจอมาในครัว

     

     

                เพราะว่าเเม่บ้านต่างก็เเยกย้ายกันไปนอนกันหมดเเล้ว เลยไม่มีใครคอยห้าม

     

     

                ก่อนที่มาร์คจะออกจากบ้านไป ก็คอยกำชับเเม่บ้านให้ดูเเลอีกคนเป็นอย่างดี มาร์คไม่ได้ชอบให้เเบมดื่มนัก เเม้จะเป็นคนพาไปสถานบันเทิงด้วยตนเองก็เถอะ เเต่ที่มาร์คพาไป ก็เเค่อยากให้เเบมรู้เฉยๆว่าสถานที่เเบบนั้นเป็นยังไง

     

     

                มือบางล้วงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมานั่งอ่านไลน์เก่าๆที่เคยส่งไปหาอีกคน เเบมเเบมไม่เคยลบเเชทหรือเคลียร์เเชทออกเลย ทุกๆอย่างในนี้ยังอยู่เหมือนเดิมตั้งเเต่เริ่มที่จะคุยกันใหม่ๆจนถึงตอนนี้ ตอนที่มาร์คยังไม่อ่านไลน์ของเเบมเเบมเลย

     

     

                เเบมเเบมยังคงกำโทรศัพท์ในมือเเน่น ในหัวก็เอาเเต่คิดว่าจะโทรหามาร์คดีรึป่าว นิ้วเรียวกดหมายเลขของมาร์คที่จำได้ดีจนครบ เหลือเพียงก็เเต่กดโทรออก

     

     

                เเต่เเล้วก็ปล่อยมันลงบนตักตามเดิม เเล้วหยิบขวดไวน์ที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาดื่มเเทน

     

     

                อึกๆๆๆๆ

     

     

                น้ำใสๆค่อยๆไหลลงจากดวงตากลมโตมีเสน่ห์ เเบมเเบมไม่รู้เลยว่าตัวเองร้องไห้ออกมา ในหัวเเบมเเบมตอนนี้มีเเต่ใบหน้าของอีกคนเต็มไปหมด อารมณ์ของเเบมเเบมเริ่มจะไม่คงที่ เหมือนหลายๆอย่างหลั่งไหลเข้ามาให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงบันไดคิดมาก

     

     

                "มานั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้านทำไมหล่ะเเบม" เเบมเเบมเงยหน้าที่ตอนนี้มันคงเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาตอนไหนเจ้าตัวยังไม่รู้เลย

     

                "......."

     

                "ดื่มไวน์ด้วยหรอ" มาร์คหยิบขวดไวน์เปล่าๆที่เเทบจะไม่เหลือสักหยดขึ้นมาเเกว่งไปเเกว่งมา

     

                "ขึ้นห้องกันมั้ย นั่งตรงนี้นานรึยัง ป่ะ ขึ้นห้องกันเถอะ"

     

                "กลับมาทำไม...สนใจด้วยหรอว่าเเบมจะเป็นยังไงอ่ะ" เเบมเเบมถามร่างสูงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตอนนี้ความน้อยใจที่มีมันเริ่มเเสดงออกมาชัดเจน เเบมเเบมคิดว่าส่วนนึงที่มาร์คไม่กลับมาอาจจะเป็นเพราะคำพูดของตัวเอง

     

     

                เเต่...เเค่เขาพูดเเบบนั้น

     

     

                มาร์คก็ไม่สนใจเลยรึไง ว่าเเบมจะเป็นยังไง อยู่บ้านมาร์คคนเดียวได้มั้ย

     

     

                "........."

     

                "เเบม...แบม.....จะกลับบ้านเเล้ว....เเบมไม่อยากอยู่กับมาร์คเเล้ว" มือบางยกขึ้นมาปาดน้ำตา ถึงเเม้ว่าจะยิ่งเช็ดน้ำตาก็ยังคงไหลออกมาเรื่อยๆ เเต่เเบมเเบมก็ยังเช็ดมันต่อไป

     

                "เมาเเล้วหรอ ขึ้นไปพักข้างบนกันเถอะ เดี๋ยวมาร์คอุ้มขึ้นไป" มาร์คพยายามพูดกับอีกคนด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ ทั้งๆที่ในใจ มาร์คเป็นห่วงเเบมเเทบตาย อยากจะดึงคนตัวเล็กตรงหน้ามากอดปลอด เเต่เพราะคำพูดของคนตัวเล็กเมื่อตอนเย็น มันยังดังก้องอยู่ในหัว

     

                "ไม่ต้องมาจับ!!! อย่ามายุ่งกับเเบม" เเบมเเบมสะบัดตัวออกจากการกอบกุมของมาร์คที่พยายามจะพาเเบมเข้าบ้าน

     

                "เเบม....เเบมเมาเเล้วนะ ขึ้นห้องกันดีกว่า" มาร์คใช้ความอดทนเป็นอย่างมากที่จะไม่ดึงอีกคนเข้ามาในอ้อมกอด

     

                "ไม่ได้เมา เเบมไม่ขึ้นห้องด้วย เเบมจะกลับบ้านเเบมเเล้ว" เเบมเเบมค่อยถอยห่างมาร์คออกมา น้ำตาที่ไหลเมื่อกี้เริ่มจะหยุดลง

     

                "เเล้วเเบมจะกลับยังไง นี่มันไต้หวันนะเเบม" มาร์คค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้เเบมเเบม พยายามจะขวางไม่ให้อีกคนเดินไปถึงรั้วบ้าน

     

                "เออ รู้ว่าอยู่ที่ไหน เเต่เเบมจะกลับ ไม่ต้องไปส่งด้วย เเบมจะกลับบ้าน" เเบมเเบมหันหลังเเล้ววิ่งออกมาจากตรงนั้น เเม้ว่าทางที่ตัวเองเห็นมันจะลางๆเเละน่าเวียนหัวก็ตาม

     

                "เเบมเเบม! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ เเบม! มาร์คบอกให้หยุดไง" มือบางยกขึ้นมาปิดหูตัวเองให้เเน่นสนิท ไม่ให้เสียงของมาร์คดังเข้ามา

     

     

                มาร์ครวบตัวอีกคนเอาไว้เเล้วจับพาดบ่า เเม้จะโดนเเบมเเบมทุบตียังไง มาร์คก็ไม่ยอมปล่อยเเบมลง รีบก้าวเข้าไปในบ้านตัวเองเเละปิดประตูลง ทิ้งเเบมลงบนโซฟาภายในห้องรับเเขก

     

     

                "นั่งอยู่นี่เเหละ ไม่ต้องไปไหน ถ้าอยากกลับ เดี๋ยวมาร์คไปส่งเอง เเต่....เเบมต้องดื่มไวน์อีกขวดให้หมดก่อน เเล้วมาร์คจะไปส่ง โอเคมั้ย" เพราะมาร์ครู้ดีว่ายามที่เเบมดื่มหนักๆเเล้วเเบมจะหลับไปเอง มาร์คเลยต้องยื่นข้อเสนอนี้ขึ้นมา ทั้งๆที่ เเบมเเบมอาจจะไม่ตกลงก็ตาม เเต่จะให้วิ่งไล่กันเเบบนี้ทั้งคืนก็ไม่ไหวหรอกนะ เพราะมาร์คเอง ก็ดื่มมาเหมือนกัน

     

                "ไม่!!! ก็บอกเเล้วไงว่าไม่ต้องไปส่ง ฟังไม่รู้เรื่องรึไง"

     

                "ทำไมเเบมดื้ออย่างงี้ว่ะ!!" มาร์คเผลอตวาดออกมาจนเเบมเเบมสะดุ้ง น้ำตาที่พึ่งหยุดไหลจากดวงตากมเริ่มหลั่งไหลออกมาอีกรอบ ทำให้มาร์คถึงกับนิ่งไป มือหนาพยายามจะประคองใบหน้าหวานแต่กลับถูกอีกฝ่ายสะบัดออกเหมือนไม่ต้องการให้มาร์คแตะต้อง

     

                "มาร์ค...มาร์คขอโทษ"

     

                "ฮึก....."

     

                "เเบมอย่าร้อง...มาร์คขอโทษ" มาร์คคุกเข่าลงตรงหน้าคนหน้าหวานทันที มือหนาประคองหน้าอีกคนเอาไว้ ค่อยๆใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเบาๆ เเม้เเบมเเบมจะพยายามสะบัดหน้าหนีก็ตาม

     

                “จะปล่อยแบมไปใช่มั้ย....ถ้าแบมดื่มไวน์หมด” มาร์คพยักหน้าลงอย่างจำใจ แบมแบมเองก็รู้ว่าถ้าตัวเองเมาหนักๆตัวเองจะหลับ แต่เพราะความดื้อที่มี เลยคิดว่า แค่ไวน์อีกขวดคงจะทำอะไรตัวเองไม่ได้หรอก

     

               

                มาร์คเดินกลับมาพร้อมกับไวน์และแก้วในมือ วางลงบนโต๊ะแล้วค่อยๆรินใส่แก้ว มือบางยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว วางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะแล้วดันไปทางมาร์ค

     

     

                มาร์คเปลี่ยนจากรินทีละเยอะเป็นค่อยๆรินแทน ขยับตัวเข้าไปใกล้แบมแบมเล้วค่อยๆเช็ดน้ำตาให้คนตัวเล็กตรงหน้าเบาๆ ครั้งนี้แบมแบมไม่ได้ผลักหรือสะบัดออก ปล่อยให้ความอ่อนโยนของมาร์คทำให้ตัวเองรู้สึกดีไปเรื่อยๆ

     

                มาร์คค่อยขยับออกมา แล้วย้ายตัวเองไปนั่งที่อื่น คอยลอบมองแบมแบมอยู่ตลอด เพราะมาร์ครู้ดีว่า นอกจากแบมเมาแล้วจะหลับ แบมยังเหมือนกลายเป็นอีกคนไปเลย ยามทีเมาหนักๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk

     

     

    ตอนนี้แอบ...อะไรดีอ่ะ ตอนนี้ดูหลากหลายอารมณ์มากเลยเนอะทั้งแอบหวานนิดๆ เศร้าหน่อยๆ สับสนไปเรื่อยๆ และแบมก็เสียน้ำตา ตอนหน้าเป็นพาทของมาร์ค เป็นตอนที่ต่อจากเหตุการณ์นี้ค่ะ บอกเลยว่าทริปไต้หวัน เราจะเล่ายาวๆ เพราะนานๆทีจะอยู่กันสองคนแบบที่ไม่มีแมว มาขวาง

    และมีเซอร์ไพร์สด้วยตอนหน้า บอกนิดนึงว่า มันจะทำให้คนขี้กลัวทั้งสองคนกล้าที่จะพูดคำๆนั้น ให้เดาเล่นๆ ว่าจะเป็นอะไร

     

    ฉากบางฉากที่หายไป หาได้จาก #ฟิคซ้อนกลมบ นะคะ 

     

     

    *** นิดนึง มีคนถามมาเรื่องเพลง ไรท์ตอบไปแล้วนะคะ ชื่อเพลง  พี่ชาย ของ โตน โซฟา ค่ะ รู้สึกดีที่มีคนเปิดฟัง ถ้าใครยังไม่ได้ฟัง ลองฟังดูนะคะ แล้วจะรู้ว่าเรื่องราวของเรื่องนี้อาจจะเป็นแบบในเพลง ***

    ©
    t
    b
    u
    t
    t
    e
    r
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×