คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ซ้อนกลกามเทพ ตอนที่ 11
ผมได้ยินเสียงของใครสักคนที่น่าจะเดินเข้าในห้องพร้อมกับเเบม ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นเเจ็คสันมั้งนะที่เข้ามา
"เป็นไงบ้างว่ะมาร์ค" ผมไม่ตอบอะไร เพียงเเค่ให้เเจ็คสันยืนมองสำรวจร่างกายไปเรื่อยๆ
"ขอบใจนะ" อยู่ๆเเจ็คสันมันก็พูดขึ้นมาทำเอาผมงงกับคำพูดของมัน มันขอบใจผมเรื่องอะไรกัน ผมเจ็บตัวอยู่นะ อยู่ๆมันมาบอกว่า ขอบใจ อะไรของมันว่ะ
"ไม่ต้องงงหรอก ที่ขอบใจเพราะที่นายต้องเป็นเเบบนี้ เป็นเพราะช่วยดูเเลเเบมเเบมใช่รึป่าวหล่ะ ขอบใจนะเว้ยมาร์คที่ดูเเลเเบมมาตลอด เเต่ตอนนี้....ให้ฉันได้ทำหน้าที่นั้นบ้างได้รึป่าวว่ะ"
ไม่ได้!!!
ผมอยากจะตอบกลับไปเเบบนั้น เเต่มันก็อยากเกินไปที่ผมจะพูดคำนั้น ผมไม่มีสิทธินี่ครับ ที่จะมาตัดสินใจว่าใครที่ได้มาดูเเลเเบม คนที่มีสิทธิเลือกคือเเบมต่างหาก บางทีการที่เเบมมีเเจ็คสันมาดูเเล อาจจะดีกว่าผมก็ได้
"อืม เเต่ขอเวลาหน่อยเเล้วกัน อยู่ๆจะให้นายมาดูเเลเเบมเลย...ก็คงไม่ได้" เพราะผมยังทำใจไม่ได้ ผมอยากจะซื้อเวลาต่อไป ขอเเค่ได้เพียงวันสองวัน สักอาทิตย์หรือเดือนนึงได้มั้ย ก่อนที่ผมจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเเบม
เเบมเเบมเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารเเละยา เเจ็คสันมองหน้าผมนิดๆ ก่อนจะตบลงที่ขาผมเบาๆ เเล้วลุกขึ้นจากเตียง
"ไม่ได้เป็นอะไรมากก็ดีเเล้ว ฉันไปนะ เเบมพี่กลับห้องเเล้วนะ" เเบมตอบรับพร้อมกับยิ้มให้เเจ็คสัน
กลับสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน
"มาร์คไวป่าว มา เเบมช่วย" จริงๆเเผลผมก็ค่อยๆหายเเล้วหล่ะ จะมีเเค่หลังที่ยังปวดๆอยู่เเต่ก็ไม่ได้มากเท่าวันเเรก
เเบมเเบมค่อยสวมเสื้อเชิ้ตสีดำที่เจ้าตัวซื้อให้กับผม พร้อมทั้งติดกระดุมให้อีก
"ไม่ต้องติดครบทุกเม็ดก็ได้ครับ มาร์คหายใจไม่ออก" ผมเขกหัวคนขี้เเกล้งเบาๆ เเบมเเบมยิ้มร่าเเละปลดกระดุมเม็ดบนออก เขาหันกลับไปจัดการตัวเองต่อ
ผมมองตัวเองในกระจก สำรวจดูว่าทุกอย่างเรียบร้อย เเล้วหันไปมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ เเบมเเบมใส่เสื้อเชิ้ตสีดำยี่ห้อเดียวกับผมกับกางเกงยีนส์สีซีดที่เเบมเเบมชอบใส่ ทุกอย่างที่อยู่บนตัวเเบม เเทนที่มันจะเท่เเต่มันกลับมองดูเเล้วน่ารักซะอย่างนั้น ผมมองเเบมกับตัวเองผ่านกระจกอีกครั้ง
ถ้ามีเเบมยืนเเต่งตัวอยู่ข้างๆเเบบนี้ ในทุกๆวันก็คงจะดี ผมคงจะมีเเต่รอยยิ้มทุกเช้าเวลาจะออกไปทำงาน เเค่คิด เเค่จินตนาการ ผมก็มีความสุขเเล้ว
"ยิ้มอะไรมาร์ค เพี้ยนหรอ" เเค่ผมยิ้มให้ก็หาว่าผมเพี้ยนอีก ดูสิคนเรา ผมยกเเขนข้างซ้ายพาดลงบนไหล่เล็ก หยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาถ่ายรูปเราสองคนผ่านกระจก
"เหมือนคู่รักอินดี้ในโซเชียลเลยว่ะมาร์ค" เเบมเเบมชะโงกหน้ามาดูรูปในโทรศัพท์ผม ที่ตอนนี้ผมเปลี่ยนมาเป็นวอลเปเปอร์เรียบร้อย
"เหมือนหรอ? เเล้วอยากเป็นป่ะหล่ะ" ไม่ได้หวังกับคำตอบนักหรอก เเค่ถามอ่อยไปงั้นเเหละ เเต่ในใจนี่ก็ภาวนาให้เเบมตอบออกมาว่า อยาก อยู่เหมือนกัน
"พูดอะไรของมาร์ค เพ้อเจ้อ ไปกันได้เเล้ว เดี๋ยวเราต้องซื้อของกันอีก" ถ้าผมไม่ได้สายตาพร่ามัวหรือมโนไปเอง ก่อนที่เเบมจะเดินออกไป ผมเห็นเเก้มกลมๆนั้นเปลี่ยนสีด้วยหล่ะ ^^
เราสองคนมาที่ห้าง หาซื้อของให้คนตัวเตี้ยๆข้างๆผมเนี่ยจัดปาร์ตี้กับเพื่อนสนิท ถ้าเเบมกินเลี้ยงกับยองเเจเเค่สองคน ผมก็ไม่ตามมาหรอก ปล่อยให้เเบมมีเวลากับเพื่อนตัวเองบ้าง ผมคงจะนอนเล่นอยู่ที่บ้าน เเต่นี่ดันมีไอ้เด็กยักษ์นั้นด้วยไง ไอ้เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนนั้นน่ะ
ผมรู้ว่ามันเองก็ดูผมออก ว่าผมคิดยังไงกับเเบม ผมก็อยากจะตะโกนใส่หน้ามันเหมือนกันว่า กูก็ดูมึงออก ไม่ต่างกัน
"มาร์คว่าเเบมซื้อสีไหนดี" เเบมเเบมหยิบเเก้วน้ำสองสีขึ้นมาถือ สีนึงเป็นสีที่ผมชอบ ส่วนอีกสีเป็นสีที่เเบมชอบ
"สีม่วง"
"ทำไมอ่ะ มาร์คชอบสีเเดงไม่ใช่หรอ ทำไมถึงเลือกสีม่วงให้เเบมอ่ะ" เเบมเเบมถามเสียงงอเเงเหมือนเด็กๆถูกขัดใจ ทั้งๆที่ผมอ่ะ เลือกในสิ่งที่เขาชอบนะ มางอเเงใส่ผมทำไมเนี่ย
"มาร์คก็เลือกในสีที่เเบมชอบไง หรือเเบมจะเลือกเเก้วสีที่มาร์คชอบหล่ะ หืม?" ผมยีผมคนตัวเล็กข้างๆเบาๆ หยิบเเก้วสีม่วงในมือเเบมมาถือเอาไว้ ส่วนสีเเดงก็ให้เเบมถือ
"เเบมคิดออกเเล้ว มาร์คซื้อสีม่วงไปไว้ที่ห้องมาร์คหล่ะกัน ส่วนเเบมก็จะซื้อสีเเดงไปไว้ที่ห้องเเบม ดีป่ะ"
"ไม่อ่ะ มาร์คจะซื้อทำไม ห้องมาร์คเเก้วที่มีอยู่เอาออกมาใช้เเค่ไม่กี่ใบเอง" เพราะส่วนใหญ่ ผมจะสิงอยู่ในห้องเเบมไง ห้องตัวเองก็เลยไม่ค่อยได้หยิบอะไรมาใช้
"มาร์คซื้อสิ มันจะได้เป็นเเก้วคู่ไง"
"เเก้วคู่อะไรเล่า มันคนละสีเเค่เเบบเดียวกัน บ๊องเอ๊ย" ผมวางเเก้วที่ถืออยู่วางลงที่ชั้นตามเดิม
"มาร์คนั้นเเหละบ๊อง อยากเป็นคู่รักไอดอลไม่ใช่หรอ เราก็ต้องมีไอเท็มคู่สิ" อะไรนะ??? คู่รักไอดอล? ไอเท็มคู่
"พูดเหมือนขอมาร์คคบเลยรู้ตัวป่ะ" ยอมซื้อก็ได้ว่ะ ถึงไม่ค่อยได้ใช้ เเต่เดี๋ยวจะขนไปไว้ห้องเเบมก็ได้ เดี๋ยวคงจะได้ใช้เองเเหละ
"คิดไปเอง เเบมก็เเค่พูดไปงั้นเเหละ ไปซื้ออย่างอื่นได้เเล้ว" คิดไปเองก็ได้ครับ มาร์คคิดไปเองคนเดียวก็ได้ เเต่ทำไมเเบมต้องหน้าเเดงเเล้วเข็นรถหนีด้วยหล่ะ ^^
"เอาอะไรอีกป่าว?" เเบมเเบมดูวุ่นวายกับโทรศัพท์ตั้งเเต่ 5 นาทีก่อนที่เราจะออกจากห้างมา ไม่รู้ว่ามีอะไรรึเปล่า ดูรีบๆยังไงไม่รู้
"ไม่เเล้วหล่ะ รีบกลับกันเถอะ ยูคยอมกับยองเเจมาถึงเเล้ว" อ่อ ที่เเท้ก็เพื่อนสองคนมากันเเล้วนี่เอง ผมวางถุงที่ซื้อมาไว้หลังรถ เเล้วรีบไปนั่งประจำที่ ช่วงนี้เเบมเเบมเป็นคนขับรถครับ เเบมไม่ยอมให้ผมครับ เพราะกลัวว่าผมจะปวดหลัง
"รีบมากขนาดนั้นเลย" ผมถามเเบมเเบมที่ดูรีบร้อนเอามากๆ เเค่เห็นสัญญาณไฟเปลี่ยนสี เเบมก็เเถบจะด่าจราจรอยู่เเล้ว
"ก็ยูคซื้อไอติมที่เเบมชอบมาอ่ะ เเบมกลัวว่าทันจะละลายเเล้วไม่อร่อยอ่ะดิ" เฮ้ออออ ที่เเท้ก็ห่วงกินนี่เอง นึกว่าอะไร ตอนเเรกก็เเอบน้อยใจอยู่หน่อยๆเเหละ เเต่พอรู้ว่าเรื่องอะไร ก็น้อยใจไม่ลงเลยหล่ะครับ เเบมเเม่งเด็ก^__^
"เขามีน้ำเเข็งเเห้งมาให้น่าเเบม มันไม่ละลายเร็วขนาดนั้นหรอก ไม่ต้องรีบ" ผมหัวเราะออกมาเบาๆเมื่ออีกคนหันมาอยู่หน้าใส่ เเล้วบ่นผมมาตลอดทางว่าผมไม่เข้าใจ
"รอนานมั้ยอ่ะ ยองเเจ ยูคยอม" พอประตูลิฟต์เปิดออก เเบมก็วิ่งทั้งๆที่มือน่ะเต็มไปด้วยของ ผมจะช่วยถือก็ไม่ยอม ไม่รู้จะกลัวไอติมละลายอะไรขนาดนั้น
"ไม่เลย เเค่ยี่สิบนาทีเอง" ยูคยอมมันเป็นคนตอบครับ พร้อมกับยิ้มให้เเบมด้วย เเต่พอมันเห็นผมก็หุบยิ้มลงทันที เเม่งโคตรชัดเจนอ่ะ
"พี่มาร์คสวัสดีครับ เห็นเเบมบอกว่าพี่เกือบโดนรถชนเพราะเเบม เป็นไงบ้างครับ" ยองเเจยกมือไหว้ผมพร้อมกับส่งยิ้มตาหยีให้ ยองเเจเป็นคนน่ารักนะครับ มีคนมาจีบเยอะ เเต่ยองเเจเป็นพวกไม่สนใจอะไรเเบบนั้น ถึงได้โสดมาเป็นเพื่อนเเบมเเบบนี้ไง จริงๆกลุ่มนี้ก็โสดทั้งกลุ่ม เหมือนกลุ่มผมอ่ะเเหละ
"ก็ดีขึ้นมาบ้างเเล้วหล่ะยองเเจ ขอบใจนะที่เป็นห่วงพี่" ผมส่งยิ้มให้ยองเเจที่เดินตามหลังมา เเละเป็นคนปิดประตู ส่วนเเบมเเบมน่ะหรอ โดนยูคยอมมันใช้ไอติมล่อเข้าไปในครัวเเล้ว
"เเบม เเจเปิดทีวีดูนะ" ยองเเจนั่งลงที่โซฟาอีกตัวข้างๆผม ส่งยิ้มนิดๆ เเล้วมองซ้ายมองขวา เหมือนกลัวมีคนเดินผ่านมายังไงอย่างงั้น
"มีอะไรรึเปล่า ยองเเจ" ผมมองท่าทีอีกฝ่ายที่ดูจ้องหน้าผมเหมือนมีคำถามเเต่ก็ไม่กล้าที่จะถามออกมา
"คืออออ....เเจขอพูดตรงๆ ถามพี่มาร์คตรงๆสักหนึ่งเรื่องได้มั้ยอ่ะ" ผมพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้ยองเเจได้ถาม ผมว่าช่วงนี้ผมก็ไม่มีอะไรนะ ยองเเจมีเรื่องอะไรจะถามผมกัน
"พี่จินยองให้เเจมาถามว่า พี่คิดจะให้เพื่อนพี่จีบเเบมเเบมใช่มั้ย" คำถามของยองเเจทำให้ผมนิ่งไป
ผมควรจะตอบว่าอะไรดี ผมคิดไว้อยู่เเล้วว่าจินยองต้องรู้เรื่องพวกนี้ อาจจะรู้จากวันที่เเบมไปกินข้าวกับเเจ็คสันตอนนั้น เเต่ถ้าบอกไป เรื่องมันจะยิ่งเเย่มั้ย ผมจะต้องช่วยเพื่อนตัวเองมากขึ้นรึป่าว ถ้าเป็นอย่างงั้น คนที่เเย่มันก็คือผมที่ต้องทนเห็นอะไร ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเอง....ไม่อยากจะทำมันเลย
เเละอีกอย่างถ้าจินยองรู้ว่าผมคอยเป็นพ่อสื่อให้เพื่อนตัวเอง จินยองอาจจะไม่ไว้ใจให้ผมดูเเลเเบมอีกต่อไปก็ได้
"ถ้ามันจริงอย่าที่พี่จินยองคิด พี่จินยองฝากมาบอกพี่ว่า พี่อย่าคิดอะไรเเทนเเบมมันเลย คนที่พี่คิดว่าดีสำหรับเเบม เขาอาจจะดีเกินพอดีของเเบมเเบมรึป่าว ผมก็...พูดได้เท่านี้เเหละ"
"คุยอะไรกันอ่ะ ดูเครียดๆ" เเบมถือไอติมเเล้วนั่งลงข้างๆผม ยองเเจหันไปสนใจทีวี ทำเหมือนไม่มีอะไร เเละยกให้เป็นหน้าที่ผมเป็นคนตอบคำถามเเบม
"ยองเเจก็เเค่ถามมาร์คถึงเหตุการณ์วันนั้น ไม่มีอะไรหรอก" ผมยีหัวคนนั่งข้างๆเบาๆ เเบมเเบมพยักหน้าเหมือนเข้าใจเเละเชื่อในคำพูดของผม
"อ่ออออ กินไอติมกันมาร์ค" ช้อนเย็นๆจ่อที่ริมฝีปากผม ไอติมรสสตอเบอรี่ค่อยๆละลายในปาก เเบมเเบมอมยิ้มเเล้วเอียงคอถามถึงรสชาติของมัน
"หวาน"
"หวานหรอ เเบมว่าเปรี้ยวนะ จริงๆมันอมเปรี้ยวอมหวานอ่ะ ถ้ามาร์คไม่ชอบรสนี้ มีคุกกี้เเอนด์ครีมอีกอันอ่ะ เอาป่ะ เดี๋ยวเเบมไปหยิบให้"
"ไม่เป็นไร มาร์คอยากกินข้าวมากกว่า ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งเเต่เช้า"
"เออจริงสิ เเบมก็ลืมว่ามาร์คต้องกินยา งั้นเดี๋ยวเเบมไปทำอะไรให้มาร์คกินนะ นั่งรออยู่นี่ก่อน" เเบมเเบมกำลังจะลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่ เเต่ผมจับข้อมือเขาเอาไว้ก่อน ไหนๆเพื่อนก็มาหาเเล้ว ขืนให้เเบมไปทำกับข้าว เเล้วนั่งอยู่กับเพื่อนเเบมมันก็ดูจะเเปลกๆเกินไป
"ไม่เป็นไรเเบม เดี๋ยวมาร์คไปทำเองดีกว่า นัดเพื่อนมาก็อยู่กับเพื่อนสิ" ผมยกยิ้มบางๆเเล้วเดินเข้ามาในครัวเเทน ตอนเเรกเเบมเหมือนจะไม่ยอม เเต่ผมกดไหล่ให้เขานั่งลงตามเดิม เเบมเลยยอมเเต่โดยดี
"เดี๋ยวเเจไปช่วยพี่มาร์คดีกว่า เเบมคุยกับยูคไปก่อนนะ" ยองเเจรีบเดินเข้ามาในครัว เเล้วนั่งลงที่เคาเตอร์เงียบๆ
"พี่มาร์ค ช่วยตอบอะไรเเจหน่อยสิ....พี่ชอบเเบมเเบมรึป่าว" เป็นคำถามที่สองที่ทำให้ผมนิ่งไปอีกรอบ คำว่า 'ชอบ' สำหรับผม ผมว่า ผมห่างไกลคำนี้มานานเเล้วนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมก็คงจะตอบได้เต็มปาก เเต่ตอนนี้ ไม่มากเกินกว่าคำนี้เเล้ว
"ยองเเจคิดว่าไงอ่ะ?" ผมว่าคำบางคำก็ควรจะพูดกับคนบางคน ยิ่งเป็นคนที่ควรพูดด้วยเเล้ว เขาควรจะได้ยินก่อนใคร เเต่ตอนนี้ ผมมันเป็นเเค่คนขี้กลัว ที่ไม่กล้าที่จะพูดมันกับเเบม ก็เเค่กลัวในคำตอบ กลัวว่ามันจะยิ่งทำให้เราค่อยๆห่างกัน บางทีที่เป็นอยู่ตอนนี้ ผมว่า ผมก็ควรที่จะพอใจได้เเล้ว
"ถ้ามองในมุมของเเจนะ การกระทำของพี่มันชัดเจนมาก เเต่...พี่ไม่คิดบ้างหรอ ว่าเพื่อนผมมันอยากได้ยิน คำๆนั้นจากปากพี่" หมายความว่าไง? ยองเเจต้องการที่จะให้ผมพูดกับเเบม บอกกับเเบมไปตรงๆอย่างนั้นหรอ
"เเล้วถ้าพี่พูดออกไป เเบมไม่ได้คิดเหมือนกันกับพี่หล่ะ" ผมก้มหน้าลงมองข้าวต้มในหม้อที่ตัวเองทำ
"เเล้วทำไมพี่ไม่ลองถามเเบมดูหล่ะ ว่าเเบมคิดยังไงกับพี่ เผื่อว่าพี่กับเเบมจะคิดเหมือนกัน" คำพูดของยองเเจทำให้ผมเค้นยิ้มออกมา สิ่งที่ผมกลัวมากกว่าคำตอบของเเบมตอนที่ผมบอกคำๆนั้นออกไป ก็คือการที่ผมถามเเบมออกไปว่ารู้สึกยังไง เเล้วเเบมตอบมาว่า 'เราเป็นเเค่พี่น้องกัน' ผมคงจะเจ็บหนักน่าดู
"พี่กลัวนะเเจ กลัวคำตอบของเเบม" ผมตอบไปตามความรู้สึกจริงๆของตัวเอง ยองเเจเป็นคนเดียวเลยตอนนี้ที่รู้ว่าผมคิดอะไร รู้สึกยังไง
"เเล้วพี่จะปล่อยให้มันเป็นเเบบนี้หรอ เเจเชื่อว่า พี่เองก็ไม่ได้อยากมีใครนอกจากเเบม เเล้วพี่คิดว่าเเบมไม่คิดเหมือนพี่บ้างหรอ เเจว่า เพื่อนเเจน่าจะเคยบอกอะไรพี่บ้างนะ"
"....."
"อย่ารอให้อะไรๆ มันสายเกินไปนะพี่มาร์ค ข้าวต้มพี่ได้เเล้วนะครับพี่มาร์ค" ยองเเจกระโดดลงจากเคาเตอร์เเล้วเดินออกจากครัวไป ปล่อยให้ผม ยืนคิดถึงคำพูดของเเบมเเบมในหลายๆวันที่ผ่านมา
เสียงหัวเราะของคนสามคนที่นั่งอยู่โซฟา ทำให้ผมอดที่จะยิ้มตามคนที่นั่งข้างๆไม่ได้ สามคนนี้ชอบเอาเรื่องสมัยเรียนมาคุยกัน บางเรื่องผมก็เคยฟังไม่ต่ำกว่าสามรอบ เเต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่เรียกเสียงฮาจากทั้งสามคนได้อยู่ดี
"ผมว่าพี่ง่วงก็ไปนอนเถอะครับ จะนั่งถ่างตาไว้ทำไม" ไอ้หมียักษ์ที่นั่งฝั่งตรงข้ามพูดขึ้นมา ตอนที่ผมเริ่มเอนตัวไปพิงไหล่เเบม พอมันพูดเเบบนั้นเเบมเลยจะไล่ผมไปนอน เเต่ผมไม่ได้ง่วงนี่ครับ ผมก็เเค่อยากทิ้งตัวเฉยๆ
"ไม่ได้ง่วง ก็เเค่อยากพิงเเบมเฉยๆ ไม่ได้หรอ" ผมพูดกับคนตัวเล็กเสียงอ้อนๆให้ได้ยินกันสองคน เเล้วหันไปยักคิ้วใส่ไอ้คนขี้อิจฉาที่นั่งฝั่งตรงข้าม
"เเต่ถ้าพิงมา มาร์คจะปวดหลังรึป่าว" เเบมเเบมถามกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นห่วงผมมากกว่ารำคาญ ผมส่ายหน้าเเทนคำตอบให้กับเเบมเเบม พร้อมกับส่งยิ้มยืนยืนอีกที
"งั้น....ให้มาร์คหนุนตักได้มั้ย นะเเบม น้าๆๆ จะนอนหนุนเงียบๆ นิ่งๆไม่ขยุกขยิกเลย สัญญา"
"ไม่ได้ง่วงจริงๆใช่มั้ย ถ้าง่วงก็เข้าไปนอนที่เตียงดีๆนะ" ผมพยักหน้าให้กับคนขี้กังวลก่อนจะค่อยเอนตัวลง
"ไม่ง่วง หนุนตักนะ" ในเมื่อเเบมไม่ห้าม มาร์ค ต้วนก็จะทำตามใจตัวเองเเล้วนะ ผมล้มตัวลงนอน เอาหัววางไว้บนตักนุ่มๆของเเบมเเบม ไม่ได้สนใจสายตาริษยาของใครเลยสักนิด หึๆ
"ยูคว่า เราออกไปนั่งที่ระเบียงมั้ย ระเบียงห้องเเบมกว้างไม่ใช่หรอ ออกไปคุยกันตรงนั้น น่าจะดีกกว่า" เอาจนได้นะไอ้หมี ขี้อิจฉาจริงๆเลยมึงเนี่ย
ผมส่งสายตาไปทางยองเเจให้ช่วยเเก้ไขสถานการณ์เเบบเร่งด่วน ยองเเจก็พยักหน้ารับ
"เออ ออกไปข้างนอกก็ดีนะเเบม เเจว่า" ไงเป็นงั้นอ่ะ ส่งสายตาให้ช่วยเหลือผมนะเว้ย ไม่ใช่ไอ้ยูค
"เอางั้นก็ได้ มาร์คนอนที่โซฟามั้ย เดี๋ยวเเบมออกไปนั่งคุยกับเพื่อนข้างนอก มาร์คจะได้พักด้วย"
"เดี๋ยวมาร์คออกไปด้วย ไม่ค่อยง่วงอ่ะ ออกไปนั่งรับลมก็ดีเหมือนกัน" ผมพอจะเข้าใจเเล้วหล่ะ ว่าทำไมยองเเจให้ออกไปนั่งข้างนอก
ก็เพราะเก้าอี้มันมีเเค่สามตัวไง เป็นเก้าอี้ที่เอนหลังได้สบายๆ เเต่มันมีเเค่สามตัว ถ้าอยากให้มีสี่ตัวก็ต้องไปยกในครัว เเต่เป็นเก้าอี้นั่งเเบบปกติ ซึ่งเเน่นอนว่า เเบมคงไม่ให้ผมยก เเละผมก็ไม่ให้เเบมยก ทีนี้หล่ะ
"เดี๋ยวเเบมไปยกเก้าอี้ที่โต๊ะอาหารมาดีกว่า" เเบมเเบมทำท่าจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เรานั่งกันอยู่
"ไม่ต้องหรอกเเบม เเบมมานั่งนี่ดีกว่า" ผมดึงเเบมเเบมลงมาให้นอนๆข้างๆตัวเอง
"ไม่อึดอัดหรอมาร์ค เเบมไปยกเก้าอี้ดีกว่านะ" อึดอัดอะไรอ่ะ ผมว่ามันกว้างไปด้วยซ้ำ
"ไม่ต้องหรอก เเบบนี้เเหละดีเเล้ว มาร์คจะได้ยืมไหล่เเบมด้วย" ผมวางหัวตัวเองไว้บนไหล่ของคนในอ้อมกอด ดึงตัวเเบมเเบมให้ชิดกับอก เเบมจะได้ไม่ตกลงไป
"เดี๋ยวยูคไปยกมาให้ดีกว่า พี่มาร์คเจ็บหลังอยู่ไม่ใช่หรอ น่าจะนอนคนเดียวสบายๆนะ ยูคว่า เเบมมานอนตัวที่ยูคนอนดีกว่า"
"ไม่เป็นไรหรอกยูคยอม ฉันไม่ได้ปวดหลังอะไร เเบมนอนเเบบนี้เเหละดีที่สุดสำหรับฉันเเล้ว"
"เเต่ผมว่า เเบมจะไม่สบายนะครับ นอนเบียดกันสองคนเเบบนั้น"
"เเบมอึดอัดหรอ? " ผมถามคนในอ้อมกอดของตัวเอง เเบมเเบมเหมือนนิ่งไปนิดนึงก่อนจะยิ้มบางๆเเล้วส่ายหน้า
"ไม่หรอก เเค่กลัวว่ามาร์คจะนอนไม่สบาย เเล้วก็เลิกกอดเเบมได้ยัง เเบมไม่ตกลงไปหรอก" ประโยคหลังเเบมพูดกับผมเสียงเบา
"งั้นก็ตามใจเเบมเเล้วกัน" มันก็เเน่นอนอยู่เเล้วเเหละ ยูคยอม หึๆๆ
TALK
กลับมาเเล้ว หายไปนานหลายวันเลย จริงๆมาร์คกับยูคยอมเจอกันก็ไม่ได้เเขวะกันเท่าไหร่ ออกเเนวเเย่งกันทำคะเเนนมากกว่า ตอนนี้เราส่งยองเเจมาเป็นตัวกระตุ้นความรู้สึกมาร์ค ตอนหน้า ให้เเบมกับมาร์คไปทำงานที่ไต้หวันด้วยกันดีกว่าเนอะ เผื่ออะไรๆมันจะคืบหน้า
ขอคอมเม้นท์ของคนที่รอตอนหน้ากันหน่อยค่า #ฟิคซ้อนกลมบ
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
ความคิดเห็น