ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END]Cupid's trap ซ้อนกลกามเทพ #Markbam

    ลำดับตอนที่ #1 : ซ้อนกลกามเทพ Inro

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 58

















                ท่ามกลางผู้คนมากมายบนท้องถนน รถที่สัญจรไปมาเหมือนปกติดังเช่นทุกวัน ร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่เต็มสองฝั่งถนน ไฟส่องสว่างตามทางเดิมส่องแสงให้กับผู้คนที่ใช้เส้นทางบริเวณนี้

     

     

                เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายเพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะไปที่ไหนดี จะกลับห้องเลยก็น่าเบื่อจะตายชัก จะไปเดินห้างต่อ วันนี้เขาก็เดินมาทั้งวัน โทรชวนเพื่อนสนิทไปเที่ยวคืนนี้ก็คงจะต้องรอจนขี้เกียจไป

     

     

                เฮ้อ.......เบื๊ออออ.....เบื่อ....นี่แหละนะ ชีวิตของคนว่างงาน

     

     

                มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงตัวเองที่สั่นจนเขานึกหงุดหงิดว่าใครแม่งช่างตื้อ ช่างขยันโทรเสียจริง ชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือทำให้แบมแบมยิ้มกว้างออกมา

     

     

                มาร์ค

     

     

                “ฮัลโหลลลลลลล” ทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงเริงร่า ถึงมาร์คจะแก่กว่าเขาปีนึง ถึงจะขี้บ่น และชอบทำให้เขาหงุดหงิดไปบ้าง แต่มาร์คมักจะแก้ปัญหาให้เขาได้เสมอ เวลาที่ได้คุยกับมาร์คมันก็ทำให้แบมแบมอารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้างแหละน่า

     

                “กำลังเบื่ออยู่หล่ะสิ” บางทีก็สงสัยนะว่ามาร์คแอบส่งคนมาสะกดรอยตามตัวเองรึเปล่า ถึงได้รู้ทุกอย่างโดยที่เขาไม่ต้องบอกหรือพูดอะไรออกมาเลยด้วยซ้ำ

               

                “มากเลยว่ะมาร์ค ไม่รู้จะไปไหนแล้วอ่ะ เมื่อยขาด้วย วันนี้เดินดูชุดทั้งวันเลยอ่ะ ได้มาแค่สองชุดเองง่ะ เซ็ง” แบมแบมใช้เวลาเดินห้างตั้งแต่บ่ายยันหนึ่งทุ่มตรงแต่กลับได้ชุดใหม่เพียงแค่สองชุดเท่านั้น มันเลยทำให้จากคนที่เบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตแบบไม่มีอะไรจะทำ ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ถึงกับเซ็ง

     

                “งั้นมาหาที่ทำงานหล่ะกัน มานั่งตากแอร์ที่บริษัทสักชั่วโมงได้ป่ะหล่ะ เดี๋ยวพาไปหาม๊า” คำพูดเชิญชวนที่หลุดออกจากปากมาร์คแน่นอนว่าแบมแบมไม่ปฏิเสธ การที่มาร์คพาไปหาม๊าแสดงว่าวันนี้แบมแบมจะได้ทานกับข้าวแสนอร่อยแทนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใกล้จะหมดห้อง

     

                “อีก 15 นาทีเจอกันนะครับผม บาย” แบมแบมเดินไปที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้ที่สุด รอไม่นานรถเมล์สายที่ผ่านที่ทำงานมาร์คก็มาจอดตรงหน้า

     

     

                ใช้เวลาเพียง 10 นาทีแบมก็มาหยุดหน้าตึกสูงใหญ่ที่มีเกือบ 20 ชั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคุ้นหน้าคนตัวเล็กเป็นอย่างดี พอแบมแบมมาถึงก็เปิดประตูให้เข้าไปอย่างรวดเร็ว ทันใจ

     

     

                ลิฟต์ขนาดใหญ่พาแบมแบมมาถึงชั้นที่ 14 ตามที่คนตัวเล็กกด สองเท้าก้าวยาวๆตรงไปที่ห้องทำงานของคนที่โทรมาชวน แบมแบมทักทายคนที่สอนงานให้มาร์คพอเป็นพิธีแล้วก็ผลักประตูเข้าไปข้างในโดยที่ไม่ได้เคาะเลยด้วยซ้ำ

     

                “ไม่เคาะประตูอีกแล้วนะ” มาร์คเอ่ยเสียงเรียบแต่ก็ยังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้า ไม่ได้เงยขึ้นมามองหน้าคนตัวเล็กแม้แต่น้อย แบมแบมเลยทำปากขมุบขมิบล้อเลียนคำพูดของมาร์คอย่างสนุกปาก

     

                “มาถึงก็นั่งสิ เมื่อยไม่ใช่หรือไง” มาร์คปิดแฟ้มที่อยู่ตรงหน้าเมื่ออ่านมันจบ ร่างสูงลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่นั่งมานานนับสี่ชั่วโมง เดินตรงมาที่โซฟาที่คนตัวเล็กนั่งอยู่

     

                “เมื่อยมากป่ะ” มาร์คถามคนที่เอนตัวมานอนหนุนตักตัวเองแล้วจ้องหน้าเขา ตาไม่กระพริบเลยสักนิด

     

                “เมื่อยมากกกกกก ปวดขาโคตรๆกลับไปห้องคงต้องแช่น้ำอุ่นๆสักหน่อย แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปสปา ได้นวดตัวสักหน่อยก็คงจะดี” มาร์คพยักหน้าให้กับคำพูดของอีกฝ่าย ไม่ใช่ว่าไม่เคยห้ามนะที่แบมแบมใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ แต่พูดมาตั้งแต่แบมพึ่งเรียนจบได้แค่วันเดียวจนหยุดพูดไปเมื่อวาน เพราะเริ่มรับรู้ได้ว่าพูดไปจนครบปีแบมแบมก็ไม่ออกไปหางานทำหรอก ถ้าเจ้าตัวไม่อยากจะทำ

     

                “แล้วเมื่อไหร่มาร์คจะว่างอ่ะ ตั้งแต่ทำงาน มาร์คแม่งโคตรไม่มีเวลาว่างเลย ไม่เบื่อบ้างหรอ” แบมแบมถามมาร์คแล้วขยับตัวจัดท่านอนให้ตัวเองนอนสบายขึ้นมากกว่าเดิม

     

                “ก็มีบ้างนะ แต่ให้ใช้ชีวิตแบบแบมคงไม่ไหวว่ะ ดูว่างเกินไป” แบมแบมยู่ปากเมื่อถูกพาดพิง ใบหน้าเล็กซุกเข้ากับหน้าท้องแกร่งที่มีเชิ้ตตัวบางกั้นระหว่างหน้าตัวเองกับหน้าท้องของคนที่ตัวเองนอนหนุนตัก

     

                “เคลียร์งานเสร็จยังอ่ะ ถ้ายังไม่กลับ แบมขอพักสายตาแป๊บนึงดิ” มาร์คไม่ได้ตอบอะไร เพียงหยิบมือถือตัวเองขึ้นมากดเล่นเกมแก้เบื่อ ปล่อยให้แบมแบมนอนหนุนตักตัวเองตามชอบใจ

     

     

                หนึ่งชั่วโมงผ่านไป แรงสะกิดที่ไหล่ทำให้แบมต้องลืมตาตื่นขึ้นมามอง แต่ก็ยังไม่ลุกขึ้นจากตัก นอนจ้องใบหน้าหล่อที่ก้มลงมาใกล้ๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย และก็เป็นมาร์คที่กลับมานั่งหน้าตรงทำตัวปกติ จับตัวแบมแบมให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ

     

     

                “ถึงห้องแล้วต้องนวดให้มาร์คนะ มาร์คก็เริ่มเมื่อยแล้วเหมือนกัน” มาร์คบีบนวดที่ขาของตัวเองสองสามทีก็ยืนขึ้น เดินไปหยิบสูทที่พาดไว้กับเก้าอี้แล้วเดินตามแบมแบมที่ออกไปยืนรอที่ลิฟต์

     

     

                ปากอิ่มอ้าปากกว้าง หาวแล้วไม่ยอมปิดปากเป็นภาพประจำที่มาร์คเห็นอยู่ตลอด มาร์คเอื้อมมือไปปิดปากคนตัวเล็กแล้วใช้มืออีกข้างดึงร่างของคนตรงหน้าให้ขยับเข้ามาใกล้

     

     

                “นอนไม่พออีกหรอ เมื่อกี้น่ะ” แบมแบมส่ายหน้าแล้วยิ้มจนตาปิด มาร์คยีหัวคนน่าหมั่นไส้แรงๆสักสองสามที แล้วก็จัดผมให้เข้าที่ตามเดิม

     

     

                เสียงลิฟต์ที่ดังขึ้นที่ชั้นไหนสักชั้นทำให้มาร์คปล่อยตัวแบมแบม แล้วขยับให้พนักงานคนอื่นเข้ามา แบมแบมมองตัวเลขเงียบๆ ส่วนมาร์คก็หยิบโทรศัพท์ออกมากด จนถึงชั้นของลานจอดรถ

     

     

                แบมแบมก้าวออกมาก่อนโดยที่มาร์คเดินตามหลังไม่ห่าง ทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ที่ลูกรักของมาร์ค แบมแบมแบมือขอกุญแจรถจากมาร์ค มาร์คก็ยื่นให้โดยที่ไม่ได้ว่าอะไร

     

               

                แบมแบมขับรถตามเส้นทางที่คุ้นชิน บ้านมาร์คเป็นเหมือนบ้านหลังที่สามของแบมแบม แบมแบมมาที่นี่บ่อยพอๆกับมาร์คที่กลับมาบ้าน พ่อกับแม่ของมาร์คเอ็นดูแบมแบมเหมือนกับเป็นลูกชายอีกคนของครอบครัว แบมแบมไปที่บ้านมาร์คทีไร มาร์คจะรู้สึกได้ถึง คำว่า หมาหัวเน่าทันที

               

               

                “มาร์คเอารถไปเก็บด้วยนะ เดี๋ยวแบมเข้าบ้านก่อน” แบมแบมเปิดประตูรถแล้วรีบวิ่งเข้าไปข้างในตัวบ้านทันที มาร์คได้แต่ส่ายหน้าให้กับความขี้อ้อนของแบมแบม ชายหนุ่มลงจากรถแล้วขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัย ขับรถเข้าไปจอดที่โรงจอดรถของบ้าน

     

     

                เสียงพูดคุยของผู้เป็นแม่กับเด็กข้างห้องดังออกมาจากห้องครัว มาร์คยืนพิงกรอบประตู รอให้สองแม่ลูกคุยกันเสร็จค่อยทำตัวเองให้มีตัวตน

     

     

                “ม๊า พรุ่งนี้เราไปสปากันเถอะฮะ วันนี้แบมไปเดินห้างมาเมื่อยมากเลย แล้วอีกอย่าง แบมจำได้ว่าม๊าไม่ได้ไปสปามาหลายเดือนแล้ว ไปสปากับแบมนะฮะ” แบมแบมยิ้มหวานให้กับแม่ของมาร์ค เธออดไม่ได้ที่จะกดจมูกลงบนแก้มนิ่มของคนขี้อ้อนและพยักหน้าเออออไปกับเด็กหนุ่มตรงหน้า

     

                “ม๊า สวัสดีครับ คิดถึงจัง” มาร์คเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่ที่กอดแบมแบมอยู่ แล้วหอมลงบนแก้มของมารดา ค่อยขยับแขนแล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นมากกว่าเดิม จนกลายเป็นว่าแบมแบมก็อยู่ในอ้อมกอดของมาร์คโดยมีม๊ากั้นกลาง

     

                “อยากกอดกันก็ขอกันดีๆ ไม่ต้องเอาม๊ามันกั้นกลางก็ได้” ม๊าตีที่แขนลูกชายสุดหล่อเบาๆ มาร์คหัวเราะออกมานิดหน่อยแล้วคลายอ้อมกอด

     

                “มาเหนื่อยๆไปนั่งพักกันก่อนเถอะ เดี๋ยวม๊าให้เด็กยกน้ำไปให้” มาร์คพยักหน้ารับแล้วเดินนำแบมแบมไปที่โต๊ะอาหาร

     

                “วันนี้นอนที่นี่กันมั้ย ไหนๆแบมก็จะไปสปากับม๊าพรุ่งนี้ พรุ่งนี้เช้ามาร์คจะได้ไม่ต้องขับรถมาส่งที่บ้านหลังนี้” แบมแบมที่พึ่งเดินมานั่งพร้อมกับไอศกรีมที่หยิบติดมือมา ตักแล้วยื่นให้มาร์คกินก่อนจะพยักหน้าเอออกกับคำพูดของมาร์ค

     

                “ก็ได้นะ ยังไงก็ได้แล้วแต่เลย” แบมแบมตักไอศกรีมเข้าปากไปเรื่อยๆ สลับกับป้อนมาร์คที่อ้าปากรอจนไอศกรีมจนหมดถ้วย

     

                “ม๊าแล้วป๊าหล่ะครับ” มาร์คเอ่ยถามถึงพ่อ เมื่อเห็นแม่เดินออกมาจากครัวพร้อมกับอาหารหนึ่งอย่างในมือ

     

                “ไปเยี่ยมน้องชายกับพี่สาวเราที่แอลเอไง จำไม่ได้หรอ” มาร์คพยักหน้าเมื่อนึกออกว่าป๊าพึ่งบอกตัวเองก่อนจะไปว่าจะไปไหนแล้วกลับวันไหน

     

                “แก่แล้วก็เงี้ย ขี้ลืม” แบมแบมกระซิบที่ข้างหูมาร์คเบาๆเลยโดนมาร์คเขกหน้าผากแรงทีนึงที่กวนประสาท

     

                “อายุห่างกันแค่ปีเดียวมาบอกว่าแก่ เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวจะโดน” แบมแบมลอยหน้าลอยตาไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านในคำพูดของมาร์คแต่อย่างใด

     

               

                บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหวานๆของคนตัวเล็กที่เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่หยุด บางเรื่องแบมแบมก็เคยเล่าไปแล้ว แต่ก็ยังเล่าซ้ำอีก แต่สองแม่ลูกก็ไม่มีใครขัด ปล่อยให้แบมแบมเล่าไป จนมื้ออาหารจบลง

     

               

                “สรุปว่าเราสองคนจะค้างที่นี่ใช่มั้ย” มาร์คและแบมแบมพยักหน้าพร้อมกัน เมื่อเดินตามหลังม๊าขึ้นมาที่บันได

     

                “งั้นก็นอนห้องเราหล่ะกันน่ะมาร์ค ม๊าพึ่งให้คนทำความสะอาดไป” แบมแบมและมาร์คไม่ได้มีปัญหาอะไร ถึงไม่ได้อยู่ที่นี่ ตอนอยู่คอนโด แบมแบมกับมาร์คก้ต่างคนต่างไปนอนห้องอีกฝ่ายอยู่บ่อยๆ

     

                “งั้นแยกย้าย ม๊าชักจะง่วงแล้ว ฝันดีนะจ๊ะแบมแบม” เธอหอมแก้มแบมแบมทั้งสองข้างจนหน่ำใจ ก็ดึงลูกชายตัวเองเข้ามากอดแล้วกระซิบอะไรบางอย่างให้ได้ยินกันค่าสองคน

     

     

               

                 

     

     

     

     

     

     

     

    Talk

     

    Intro มาแล้ว มาแบบสั้นๆ ไม่ต้องยืดยาว เรื่องนี้อยากให้อ่านแบบผ่อนคลาย อ่านแบบเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เหมือนสองเรื่องก่อนหน้า 555555

    ไม่อยากให้คิดว่าไรท์เป็นพวกสายดราม่า หน่วงๆไรงี้ จริงๆใสๆสบายๆก็แต่งได้ แต่ไม่รู้ว่าจะลื่นไหลรึเปล่าต้องตามกันเอง

    แล้วก็เหมือนเดิมเลยค่ะ คอมเม้นท์สักกะนิดและฝากแท็ก #ฟิคซ้อนกลมบ กันด้วยนะคะ เจอคำผิดบอกได้ทันที




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×