คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ซ้อนกลกามเทพ Inro
ท่ามกลางผู้คนมากมายบนท้องถนน รถที่สัญจรไปมาเหมือนปกติดังเช่นทุกวัน
ร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่เต็มสองฝั่งถนน
ไฟส่องสว่างตามทางเดิมส่องแสงให้กับผู้คนที่ใช้เส้นทางบริเวณนี้
เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายเพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะไปที่ไหนดี
จะกลับห้องเลยก็น่าเบื่อจะตายชัก จะไปเดินห้างต่อ วันนี้เขาก็เดินมาทั้งวัน โทรชวนเพื่อนสนิทไปเที่ยวคืนนี้ก็คงจะต้องรอจนขี้เกียจไป
เฮ้อ.......เบื๊ออออ.....เบื่อ....นี่แหละนะ
ชีวิตของคนว่างงาน
มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงตัวเองที่สั่นจนเขานึกหงุดหงิดว่าใครแม่งช่างตื้อ
ช่างขยันโทรเสียจริง ชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือทำให้แบมแบมยิ้มกว้างออกมา
มาร์ค
“ฮัลโหลลลลลลล”
ทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงเริงร่า ถึงมาร์คจะแก่กว่าเขาปีนึง ถึงจะขี้บ่น และชอบทำให้เขาหงุดหงิดไปบ้าง
แต่มาร์คมักจะแก้ปัญหาให้เขาได้เสมอ เวลาที่ได้คุยกับมาร์คมันก็ทำให้แบมแบมอารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้างแหละน่า
“กำลังเบื่ออยู่หล่ะสิ”
บางทีก็สงสัยนะว่ามาร์คแอบส่งคนมาสะกดรอยตามตัวเองรึเปล่า
ถึงได้รู้ทุกอย่างโดยที่เขาไม่ต้องบอกหรือพูดอะไรออกมาเลยด้วยซ้ำ
“มากเลยว่ะมาร์ค ไม่รู้จะไปไหนแล้วอ่ะ
เมื่อยขาด้วย วันนี้เดินดูชุดทั้งวันเลยอ่ะ ได้มาแค่สองชุดเองง่ะ เซ็ง” แบมแบมใช้เวลาเดินห้างตั้งแต่บ่ายยันหนึ่งทุ่มตรงแต่กลับได้ชุดใหม่เพียงแค่สองชุดเท่านั้น
มันเลยทำให้จากคนที่เบื่อหน่ายกับการใช้ชีวิตแบบไม่มีอะไรจะทำ
ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ถึงกับเซ็ง
“งั้นมาหาที่ทำงานหล่ะกัน
มานั่งตากแอร์ที่บริษัทสักชั่วโมงได้ป่ะหล่ะ เดี๋ยวพาไปหาม๊า”
คำพูดเชิญชวนที่หลุดออกจากปากมาร์คแน่นอนว่าแบมแบมไม่ปฏิเสธ การที่มาร์คพาไปหาม๊าแสดงว่าวันนี้แบมแบมจะได้ทานกับข้าวแสนอร่อยแทนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใกล้จะหมดห้อง
“อีก 15 นาทีเจอกันนะครับผม บาย” แบมแบมเดินไปที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้ที่สุด
รอไม่นานรถเมล์สายที่ผ่านที่ทำงานมาร์คก็มาจอดตรงหน้า
ใช้เวลาเพียง 10
นาทีแบมก็มาหยุดหน้าตึกสูงใหญ่ที่มีเกือบ 20 ชั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคุ้นหน้าคนตัวเล็กเป็นอย่างดี
พอแบมแบมมาถึงก็เปิดประตูให้เข้าไปอย่างรวดเร็ว ทันใจ
ลิฟต์ขนาดใหญ่พาแบมแบมมาถึงชั้นที่ 14
ตามที่คนตัวเล็กกด สองเท้าก้าวยาวๆตรงไปที่ห้องทำงานของคนที่โทรมาชวน แบมแบมทักทายคนที่สอนงานให้มาร์คพอเป็นพิธีแล้วก็ผลักประตูเข้าไปข้างในโดยที่ไม่ได้เคาะเลยด้วยซ้ำ
“ไม่เคาะประตูอีกแล้วนะ”
มาร์คเอ่ยเสียงเรียบแต่ก็ยังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้า
ไม่ได้เงยขึ้นมามองหน้าคนตัวเล็กแม้แต่น้อย แบมแบมเลยทำปากขมุบขมิบล้อเลียนคำพูดของมาร์คอย่างสนุกปาก
“มาถึงก็นั่งสิ เมื่อยไม่ใช่หรือไง”
มาร์คปิดแฟ้มที่อยู่ตรงหน้าเมื่ออ่านมันจบ ร่างสูงลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่นั่งมานานนับสี่ชั่วโมง
เดินตรงมาที่โซฟาที่คนตัวเล็กนั่งอยู่
“เมื่อยมากป่ะ”
มาร์คถามคนที่เอนตัวมานอนหนุนตักตัวเองแล้วจ้องหน้าเขา ตาไม่กระพริบเลยสักนิด
“เมื่อยมากกกกกก
ปวดขาโคตรๆกลับไปห้องคงต้องแช่น้ำอุ่นๆสักหน่อย แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปสปา
ได้นวดตัวสักหน่อยก็คงจะดี” มาร์คพยักหน้าให้กับคำพูดของอีกฝ่าย
ไม่ใช่ว่าไม่เคยห้ามนะที่แบมแบมใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ แต่พูดมาตั้งแต่แบมพึ่งเรียนจบได้แค่วันเดียวจนหยุดพูดไปเมื่อวาน
เพราะเริ่มรับรู้ได้ว่าพูดไปจนครบปีแบมแบมก็ไม่ออกไปหางานทำหรอก ถ้าเจ้าตัวไม่อยากจะทำ
“แล้วเมื่อไหร่มาร์คจะว่างอ่ะ ตั้งแต่ทำงาน
มาร์คแม่งโคตรไม่มีเวลาว่างเลย ไม่เบื่อบ้างหรอ” แบมแบมถามมาร์คแล้วขยับตัวจัดท่านอนให้ตัวเองนอนสบายขึ้นมากกว่าเดิม
“ก็มีบ้างนะ แต่ให้ใช้ชีวิตแบบแบมคงไม่ไหวว่ะ
ดูว่างเกินไป” แบมแบมยู่ปากเมื่อถูกพาดพิง ใบหน้าเล็กซุกเข้ากับหน้าท้องแกร่งที่มีเชิ้ตตัวบางกั้นระหว่างหน้าตัวเองกับหน้าท้องของคนที่ตัวเองนอนหนุนตัก
“เคลียร์งานเสร็จยังอ่ะ ถ้ายังไม่กลับ
แบมขอพักสายตาแป๊บนึงดิ” มาร์คไม่ได้ตอบอะไร
เพียงหยิบมือถือตัวเองขึ้นมากดเล่นเกมแก้เบื่อ ปล่อยให้แบมแบมนอนหนุนตักตัวเองตามชอบใจ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป แรงสะกิดที่ไหล่ทำให้แบมต้องลืมตาตื่นขึ้นมามอง
แต่ก็ยังไม่ลุกขึ้นจากตัก นอนจ้องใบหน้าหล่อที่ก้มลงมาใกล้ๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย และก็เป็นมาร์คที่กลับมานั่งหน้าตรงทำตัวปกติ
จับตัวแบมแบมให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ
“ถึงห้องแล้วต้องนวดให้มาร์คนะ
มาร์คก็เริ่มเมื่อยแล้วเหมือนกัน” มาร์คบีบนวดที่ขาของตัวเองสองสามทีก็ยืนขึ้น
เดินไปหยิบสูทที่พาดไว้กับเก้าอี้แล้วเดินตามแบมแบมที่ออกไปยืนรอที่ลิฟต์
ปากอิ่มอ้าปากกว้าง หาวแล้วไม่ยอมปิดปากเป็นภาพประจำที่มาร์คเห็นอยู่ตลอด
มาร์คเอื้อมมือไปปิดปากคนตัวเล็กแล้วใช้มืออีกข้างดึงร่างของคนตรงหน้าให้ขยับเข้ามาใกล้
“นอนไม่พออีกหรอ เมื่อกี้น่ะ” แบมแบมส่ายหน้าแล้วยิ้มจนตาปิด
มาร์คยีหัวคนน่าหมั่นไส้แรงๆสักสองสามที แล้วก็จัดผมให้เข้าที่ตามเดิม
เสียงลิฟต์ที่ดังขึ้นที่ชั้นไหนสักชั้นทำให้มาร์คปล่อยตัวแบมแบม
แล้วขยับให้พนักงานคนอื่นเข้ามา แบมแบมมองตัวเลขเงียบๆ ส่วนมาร์คก็หยิบโทรศัพท์ออกมากด
จนถึงชั้นของลานจอดรถ
แบมแบมก้าวออกมาก่อนโดยที่มาร์คเดินตามหลังไม่ห่าง
ทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ที่ลูกรักของมาร์ค แบมแบมแบมือขอกุญแจรถจากมาร์ค
มาร์คก็ยื่นให้โดยที่ไม่ได้ว่าอะไร
แบมแบมขับรถตามเส้นทางที่คุ้นชิน
บ้านมาร์คเป็นเหมือนบ้านหลังที่สามของแบมแบม แบมแบมมาที่นี่บ่อยพอๆกับมาร์คที่กลับมาบ้าน
พ่อกับแม่ของมาร์คเอ็นดูแบมแบมเหมือนกับเป็นลูกชายอีกคนของครอบครัว แบมแบมไปที่บ้านมาร์คทีไร
มาร์คจะรู้สึกได้ถึง คำว่า หมาหัวเน่าทันที
“มาร์คเอารถไปเก็บด้วยนะ
เดี๋ยวแบมเข้าบ้านก่อน” แบมแบมเปิดประตูรถแล้วรีบวิ่งเข้าไปข้างในตัวบ้านทันที
มาร์คได้แต่ส่ายหน้าให้กับความขี้อ้อนของแบมแบม
ชายหนุ่มลงจากรถแล้วขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัย ขับรถเข้าไปจอดที่โรงจอดรถของบ้าน
เสียงพูดคุยของผู้เป็นแม่กับเด็กข้างห้องดังออกมาจากห้องครัว
มาร์คยืนพิงกรอบประตู รอให้สองแม่ลูกคุยกันเสร็จค่อยทำตัวเองให้มีตัวตน
“ม๊า พรุ่งนี้เราไปสปากันเถอะฮะ
วันนี้แบมไปเดินห้างมาเมื่อยมากเลย แล้วอีกอย่าง แบมจำได้ว่าม๊าไม่ได้ไปสปามาหลายเดือนแล้ว
ไปสปากับแบมนะฮะ” แบมแบมยิ้มหวานให้กับแม่ของมาร์ค เธออดไม่ได้ที่จะกดจมูกลงบนแก้มนิ่มของคนขี้อ้อนและพยักหน้าเออออไปกับเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ม๊า สวัสดีครับ คิดถึงจัง”
มาร์คเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่ที่กอดแบมแบมอยู่ แล้วหอมลงบนแก้มของมารดา ค่อยขยับแขนแล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นมากกว่าเดิม
จนกลายเป็นว่าแบมแบมก็อยู่ในอ้อมกอดของมาร์คโดยมีม๊ากั้นกลาง
“อยากกอดกันก็ขอกันดีๆ
ไม่ต้องเอาม๊ามันกั้นกลางก็ได้” ม๊าตีที่แขนลูกชายสุดหล่อเบาๆ
มาร์คหัวเราะออกมานิดหน่อยแล้วคลายอ้อมกอด
“มาเหนื่อยๆไปนั่งพักกันก่อนเถอะ
เดี๋ยวม๊าให้เด็กยกน้ำไปให้” มาร์คพยักหน้ารับแล้วเดินนำแบมแบมไปที่โต๊ะอาหาร
“วันนี้นอนที่นี่กันมั้ย ไหนๆแบมก็จะไปสปากับม๊าพรุ่งนี้
พรุ่งนี้เช้ามาร์คจะได้ไม่ต้องขับรถมาส่งที่บ้านหลังนี้” แบมแบมที่พึ่งเดินมานั่งพร้อมกับไอศกรีมที่หยิบติดมือมา
ตักแล้วยื่นให้มาร์คกินก่อนจะพยักหน้าเอออกกับคำพูดของมาร์ค
“ก็ได้นะ ยังไงก็ได้แล้วแต่เลย” แบมแบมตักไอศกรีมเข้าปากไปเรื่อยๆ
สลับกับป้อนมาร์คที่อ้าปากรอจนไอศกรีมจนหมดถ้วย
“ม๊าแล้วป๊าหล่ะครับ” มาร์คเอ่ยถามถึงพ่อ
เมื่อเห็นแม่เดินออกมาจากครัวพร้อมกับอาหารหนึ่งอย่างในมือ
“ไปเยี่ยมน้องชายกับพี่สาวเราที่แอลเอไง
จำไม่ได้หรอ” มาร์คพยักหน้าเมื่อนึกออกว่าป๊าพึ่งบอกตัวเองก่อนจะไปว่าจะไปไหนแล้วกลับวันไหน
“แก่แล้วก็เงี้ย ขี้ลืม” แบมแบมกระซิบที่ข้างหูมาร์คเบาๆเลยโดนมาร์คเขกหน้าผากแรงทีนึงที่กวนประสาท
“อายุห่างกันแค่ปีเดียวมาบอกว่าแก่
เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวจะโดน” แบมแบมลอยหน้าลอยตาไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านในคำพูดของมาร์คแต่อย่างใด
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหวานๆของคนตัวเล็กที่เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่หยุด
บางเรื่องแบมแบมก็เคยเล่าไปแล้ว แต่ก็ยังเล่าซ้ำอีก แต่สองแม่ลูกก็ไม่มีใครขัด
ปล่อยให้แบมแบมเล่าไป จนมื้ออาหารจบลง
“สรุปว่าเราสองคนจะค้างที่นี่ใช่มั้ย”
มาร์คและแบมแบมพยักหน้าพร้อมกัน เมื่อเดินตามหลังม๊าขึ้นมาที่บันได
“งั้นก็นอนห้องเราหล่ะกันน่ะมาร์ค
ม๊าพึ่งให้คนทำความสะอาดไป” แบมแบมและมาร์คไม่ได้มีปัญหาอะไร ถึงไม่ได้อยู่ที่นี่ ตอนอยู่คอนโด
แบมแบมกับมาร์คก้ต่างคนต่างไปนอนห้องอีกฝ่ายอยู่บ่อยๆ
“งั้นแยกย้าย ม๊าชักจะง่วงแล้ว
ฝันดีนะจ๊ะแบมแบม” เธอหอมแก้มแบมแบมทั้งสองข้างจนหน่ำใจ
ก็ดึงลูกชายตัวเองเข้ามากอดแล้วกระซิบอะไรบางอย่างให้ได้ยินกันค่าสองคน
Talk
Intro
มาแล้ว มาแบบสั้นๆ ไม่ต้องยืดยาว เรื่องนี้อยากให้อ่านแบบผ่อนคลาย
อ่านแบบเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เหมือนสองเรื่องก่อนหน้า 555555
ไม่อยากให้คิดว่าไรท์เป็นพวกสายดราม่า
หน่วงๆไรงี้ จริงๆใสๆสบายๆก็แต่งได้ แต่ไม่รู้ว่าจะลื่นไหลรึเปล่าต้องตามกันเอง
แล้วก็เหมือนเดิมเลยค่ะ
คอมเม้นท์สักกะนิดและฝากแท็ก #ฟิคซ้อนกลมบ กันด้วยนะคะ
เจอคำผิดบอกได้ทันที
ความคิดเห็น