กรงดิบ - กรงดิบ นิยาย กรงดิบ : Dek-D.com - Writer

    กรงดิบ

    กรงดิบ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตสัตว์ที่ต้องถูกทรมานอยู่ในกรง ซึ่งมีเสี่ยยุทธนาเจ้าของสวนสัตว์เป็นผู้สั่งการ แต่ผลสุดท้ายเรื่องราวกับหักมุมให้ผู้อ่านได้ลองติดตาม

    ผู้เข้าชมรวม

    129

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    129

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  หักมุม
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 ต.ค. 54 / 12:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      "สวัสดีครับเสี่ย"
      "เป็นไงเดินทางสะดวกดีไหม"
      "ก็ดีเหมือนทุกครั้งแหละครับ"
      "ว่ามาเลยครั้งนี้เอาเท่าไหร่"
      "ผมขอห้าหมื่นแล้วกัน"
      เสี่ยยุทธนาควักกระเป๋าใบเขื่องสีดำมันขลับออกจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน นำแบงก์พันที่ซ้อนกันเป็นปึกๆ ออกมานับ แล้วยื่นให้พรานสิงห์
      เสี่ยยุทธนาเป็นนายทุนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในการรับซื้อสัตว์ป่าจากนายพรานมากที่สุดของจังหวัด สัตว์ที่เขาซื่อมานั้น ถ้ามีลักษณะดีเขาจะส่ิงให้คนงานนำมันมาขังไว้ในกรง เพื่อจัดแสดงให้บุคคลทั่วไปได้ชม หรือบางครั้งสัตว์ตัวใดเป็นที่ต้องการของตลาดเขาก็จะนำมาทำธุรกิจการค้าสัตว์ป่าต่ออีกทอด เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับตนเอง บุคคลในละแวดนั้นรู้จักเขาในนามของผู้มีอิทธิพล ซึ่งจัดเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ มักใช้กำลังขู่เข็ญ บังคับผู้อื่นให้กระทำตามคำสั่งของตนเองอยู่เสมอ
      วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ภายในยุทธนาซาฟารีแห่งนี้จึงมีเด็กๆ และผู้ปกครองละลานตาอไปหมด รวมถึงผู้ที่ยืนรอซื้อตั๋วยาวเหยียดด้านหน้าสถานที่แห่งนี้ด้วย
      ยุทธนาซาฟารีตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่เศษ ใจกลางกรุงเทพมหานคร มีสัตว์นับพันๆ ตัวที่ถูกจัดแสดงไว้ในกรง ทุกๆ วันหลังสวนสัตว์แห่งนี้ปิดทำการลงจะมีคนงานมาดูแลความสะอาดและนำอาหารมาให้สัตว์เหล่านั้น นานๆ ครั้งเสี่ยยุทธนาจึงจะมาดูแลความเรียบร้อยสวนสัตว์ดว้ยตนเอง
      ถึงแม้เสี่ยยุทธนาจะร่ำรวยจากการตั้งสวนสัตว์แห่งนี้และค้าสัตว์ป่ามากเพียงใด แต่ด้วยความเป็นคนขี้ตระหนี่อยู่ไม่น้อย เขาจึงกำชับคนงานให้นำอาหารให้สัตว์ที่มีอยู่นับพันๆ ตัว เพียงวันละหนึ่งครั้งเท่านั้น สัตว์ที่อยู่ในกรงจึงมีร่างกายค่อนข้างผอมโซจนเห็นหนังหุ้มกระดูก สัตว์บางตัวถูกพรากมาจากอกแม่ พรากจากป่า แล้วถูกกักขังอยู่ในกรงอย่างไร้อิสรภาพ ดวงตาของพวกมันจึงแฝงไว้ด้วยความเศร้าหมอง แต่ผู้คนจำนวนมากก็ยังแห่แหนมาสถานที่แห่งนี้ เพื่อสร้างความสุขให้กับตนเอง และครอบครัว
      ค่ำวันนี้ เสี่ยยุทธนาได้เดินมาเพื่อเตรียมที่จัดแสดงสัตว์ชุดใหม่ที่ได้รับซื้อมาจากพรานสิงห์
      "วันนี้ฝนห่าใหญ่ตกแน่ เสี่ยยุทธนาลงมาดูแลความเรียบร้อยด้วยตัวเอง"
      เสียงคนงาน 4-5 คน ในสวนสัตว์จับกลุ่มซุบซิบนินทาเจ้านายของตนเอง
      เขาเดินดูสัตว์กรงโน้นกรงนี้ไปเรื่อยๆ จนค่ำ ไม่นานเขาเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับบรรยากาศรอบข้างที่เกิดขึ้นภายในสวนสัตว์ เป็นบรรยากาศที่เงียบสงัดราวกับว่าเขาอยู่ในป่าช้า ไม่ใช่อยู่ในสวนสัตว์ที่ปรกติจะมีสัตว์ส่งเสียงร้องดังกังวาน
      ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามาในความเงียบสงัด เสียงนั้นคือเสียงเขย่ากรงของสัตว์ที่ถูกจองจำ ซึ่งดังน่ากลัวยิ่งนัก
      "กึ้ง..กึ้ง..กึ้ง..กึ้ง..กึ้ง..กึ้ง"
      เสียงนั้นทำให้เสี่ยยุทธนาตกใจจนหน้าซีดเผือด สัตว์ทุกตัวในสวนสัตว์ร่วมกันเขย่ากรงและส่งเสียงร้องโหยหวนในบรรยากาศอันเงียบสงบ คนงานที่เก็บกวาดสวนสัตว์อยูุ่นั้นต่างหายไปอย่างไม่มีวีแวว คงเหลือแต่ตัวเขาเท่านั้น และดวงตาอีกนับพันๆ คู่ที่กำลังจ้องมองเขาอยู่อย่างอาฆาต
      ลิงชิมแปนซีตัวโต ซึ่งอยู่ในอาการดุร้ายด้วยความหิว พร้อมทั้งดวงตาที่แดงกร่ำเต็มไปด้วยความโกรธ เนื่องจากเสี่ยยุทธนาได้สั่งให้คนงานกักขังและเลี้ยงมันอย่างอดอยาก มันได้ดึงประตูเหล็กเปิดออก ด้วยความเผอเรอของคนงานที่ใส่กุญแจไม่หนาแน่นเหมือนกับว่าประตูนั้นไม่มีความหนักของเหล็กเลยแม้แต่น้อย ท่าทางของมันเหมือนกำลังเดินมุ่งตรงมาที่เสี่ยยุทธนา จนทำให้เขารู้สึกตัวชา แม้จะอยากวิ่งหนีสักเพียงใด แต่ขาเจ้ากรรมของเขาก็ดันก้าวไม่ออก
      เพียงไม่กี่อึดใจลิงชิมแปนซีตัวนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเสี่ยยุทธนา และใช้มือที่ทั้งใหญ่และยาวทั้งสองข้างลากเสี่ยยุทธนาเข้าไปในกรง จากนั้นมันได้ใช้กุญแจล็อคกรงอย่างแน่นหนา เช่นเดียวกับที่เสี่ยยุทธนาสั่งให้คนงานทำกับพวกมัน เสี่ยยุทธนารู้สึกตกใจและหวาดกลัวเป็นที่สุด ได้แต่ส่งเสียงร้องโหวกเหวกโวยวายไปมาในกรงนั่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
      "ช่วยด้วย...ช่วยด้วย"
      นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่หลุดออกจากปากของเสี่ยยุทธนา ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนจากที่เป็นมนุษย์มีเนื้อหนัง ใช้เสือผ้าเป็นเครื่องนุ่งห่ม ได้กลายเป็นสัตว์ต่างๆ วนเวียนเปลี่ยนไป ทั้งสัตว์สองเท้า สี่เท้า และส่งเสียงร้องโหยหวนอยู่อย่างนั้น
      สัตว์ทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่หน้ากรงและมองดูความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นกับเสี่ยยุทธนาอย่างสาแก่ใจ คล้ายกับว่าพวกมันกำลังหัวเราะที่เสี่ยยุทธนากำลังได้รับและชดใช้ชะตากรรมนั้น เช่นเดียวกับที่ได้ทำไว้กับพวกมัน
      "กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง"
      เสี่ยยุทธนาสะดุ้งกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ เกาะอยู่เต็มไปหมด และอยู่ในอาการเหนื่อยหอบอย่างเห็นได้ชัด เมื่อตั้งสติได้เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียง
      "ฮัลโหล"
      "วันนี้ผมจะเอาของไปส่งนะครับเสี่ย"
      "เออ...เออ เอาเข้ามาเลย"
      หลังจากวางสาย เข้าได้แต่นั่งคิดทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และหยิกแขนตัวเองสองสามที เพื่อทดสอบว่านั้นคือความฝันหรือความจิรงที่เกิดขึ้นกับตัวเขา จากนั้นก็เดินไปที่กระจกบานใหญ่มุมห้อง เพื่อสำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง แต่เขาต้องตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อพบกับร่างของตนเองที่ปรากฏเบื้องหน้าในบานกระจก ได้เปลี่ยนไปตามลักษณะของสัตว์ต่างๆ ที่เขาได้ทรมานกักขังมันไว้ในกรงภายในยุทธนาซาฟารี

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×