ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Grαnd Mαlρhεas Saηarιa ll MS .

    ลำดับตอนที่ #2 : ลำดับตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 57



    ' Bed Time Story '
    นิทานก่อนนอน



    [ The Old Man's Tale ]

     

    “แฮ่กๆ”


    เสียงไอแหบพร่าของชายชราดังขึ้นในห้องเล็กสะท้อนก้องไปทั่ว

    เหล่าเด็กน้อยทายาทตระกูลอันสูงส่งแอบแง้มประตูเข้ามาด้านในด้วยความอยากรู้อยากเห็น


    “ถึงสายตาข้าจะพร่ามัว แต่ข้าก็ยังเห็นพวกเจ้านะ…”


    ชายชราเอ่ยแกมเอ็นดูมากกว่าจะต่อว่า

    เขาคือชายแก่หลงๆลืมๆ ผู้บอกเล่านิทานก่อนนอนให้แก่เด็กๆทุกคนของตระกูล

    เขาจึงรักเด็กๆมากกว่าใครๆ


    “เข้ามาสิ … ข้ารู้ว่าพวกเจ้าอยากฟังนิทานใช่ไหม”


    ได้ยินคำอนุญาตดังนั้น ชีวิตน้อยๆไร้มลทินจึงกล้าก้าวเข้ามาในห้อง

    ร่างกายเล็กๆและบอบบางต่างจับจองที่นั่งกัน บ้างก็ที่พื้น บ้างก็บนเตียงนอนของชายแก่

    แววตาเป็นประกายนับสิบคู่ต่างจ้องมองไปที่เจ้าของหนวดเคราสีขาวรกรุงรัง


    เว้นแต่เด็กชายเพียงคนเดียว ที่ยังคงนั่งนิ่งๆอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าด้านหลังสุดของห้อง มันเป็นที่ประจำของเขา

    ชายแก่มองเด็กชายคนนั้นพร้อมกับค้อมหัวและยิ้มให้เล็กๆ ก่อนจะเริ่มต้นเล่านิทาน


    “เอาล่ะ … ข้าจะเล่าให้ฟัง...

    พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้สร้างโลก และดูแลเหล่ามนุษย์ เรื่องนั้นพวกเจ้ารู้กันอยู่แล้ว

    แต่คืนนี้ ข้าจะเล่าเรื่องที่ต่างออกไปนิดหน่อย… เรื่องราวต่อจากนั้น

    ต่อจากที่พระเจ้าสร้างโลก เหมือนที่เจ้าเคยถามไงล่ะ เชสซี่”


    มือเหี่ยวย่นลูบหัวเด็กหญิงที่นั่งข้างๆเขาอย่างเอ็นดู

    เด็กหญิงยิ้มตอบอย่างสนใจที่จะได้ฟังเรื่องที่เธออยากรู้ และตั้งคำถามในใจมาแสนนาน


    “เรื่องราวหลังจากนั้นมันอาจน่าเศร้า แต่พวกเจ้าจงตั้งใจฟัง ตั้งใจมากกว่าครั้งไหนๆ…”


    คำพูดจริงจังประโยคนั้น ยิ่งทำให้เด็กๆสนใจมากเข้าไปอีก

    เห็นดังนั้นเขาจึงเริ่มเข้าสู่เรื่องราว


    “หลังจากที่พระองค์ได้สร้างโลก และปฏิบัติภารกิจดูแลมนุษย์มาตลอดเวลา

    พระเจ้าก็เริ่มแก่ตัวลง เนื้อหนังเหี่ยวย่นเหมือนกับข้านี่ ฮ่าๆ

    พระองค์จึงได้สร้างเหล่าเทวทูตขึ้นมาเพื่อช่วยเหลืองาน เทวทูตองค์แรกที่พระผู้เป็นเจ้าสร้างขึ้นมีนามว่า


    ...ลูซิเฟอร์


    เมื่อเอ่ยถึงชื่อนั้น เสียงของสายลมก็พัดเบาหวิวเข้ามาภายในห้อง

    ชวนให้เด็กๆเบียดตัวเข้าหากันเพื่อข่มความกลัวและความหนาวเหน็บยามค่ำคืน

    มีเพียงเด็กน้อยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าเท่านั้น ที่ยังคงจ้องชายแก่เพียงนิ่งๆ

    ด้วยดวงตาสีดำสนิทที่ไร้ซึ่งความหวาดหวั่นใดๆ


    ชายแก่สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนเล่าต่อ


    “ลูซิเฟอร์ คือเทวทูตผู้มีพลังอันแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ที่สุดจนเทียบทันพระผู้เป็นเจ้าได้

    ถึงอย่างนั้น พระเจ้าก็ยังคงรักและเอ็นดูลูซิเฟอร์เป็นดั่งบุตรคนโปรดของพระองค์

    กาลเวลาผ่านไป ด้วยความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นมากมายบนโลก

    ลูซิเฟอร์ ผู้เป็นทั้งปราชญ์ เป็นทั้งผู้หยั่งรู้ และผู้ชั่งน้ำหนักเหตุและผลได้อย่างเท่าเทียมไร้ที่ติ

    เขาสิ้นศรัทธาในตัวพระเจ้าในวินาทีนั้นเอง

    วินาทีที่เขาได้มองดูสิ่งมีชีวิตอันโสมมอย่าง …. มนุษย์


    บนโลกถูกเติมเต็มด้วยความมืดมิดและโง่เขลาแทนปัญญาและศรัทธาแห่งพระเจ้า

    ลูซิเฟอร์ คิดจะใช้ด้านมืดนั้นครองอำนาจ และจัดระเบียบของเหตุและผลบนโลกมนุษย์เสียใหม่


    ด้วยอำนาจอันแข็งแกร่งของลูซิเฟอร์ เขาได้ตระบัดสัตย์ กลับคำสาบานและความซื่อสัตย์ที่มีต่อพระเจ้า

    เขาได้ทรยศเส้นทางแห่งแสงสว่างและมุ่งลงสู่ความดำมืดอันไร้ก้นบึ้ง

    พระเจ้าลงทัณฑ์ลูซิเฟอร์ด้วยความตาย แม้พระองค์จะเจ็บปวดราวกับถูกหอกแหลมทิ่มแทงดวงใจเพียงใดก็ตาม


    ก่อนที่วิญญาณจะแตกสลาย ลูซิเฟอร์ได้ใช้พลังจากลมหายใจสุดท้ายของตน

    แยกวิญญาณของตัวเองออกเป็นหกส่วนและปล่อยมันลงสู่โลก เพื่อให้พ้นจากสายตาของพระเจ้า

    วิญญาณทั้งหกส่วนก่อกำเนิดขึ้นเป็นปีศาจร้ายที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก…”


    ชายแก่เว้นช่วงอีกครั้ง กลัวว่านัยน์ตาแสนบริสุทธิ์นับสิบนั้นจะตามเขาไม่ทัน

    แต่เหมือนเด็กๆจะตื่นเต้นกับเรื่องราวนั้นมากทีเดียว


    “จบแล้วเหรอคะ”


    เชสซี่ เด็กหญิงช่างสงสัยประจำตระกูลเอ่ยถามเสียงใส

    ชายแก่หัวเราะให้กับคำถามนั้น


    “สิ่งนี้แหละที่สำคัญที่สุด ...แม้กาลเวลาได้ดำเนินผ่านไปกว่าพันปี

    ปีศาจทั้งหกนั้นก็ไม่ได้สูญสลายไป แต่กลับซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ท่ามกลางความไร้สมดุลของโลก

    .

    .

    .

    และว่ากันว่า

    พวกมันได้ซ่อนตัวอยู่ในเลือดทุกๆหยดของเหล่าทายาทแห่งมัลเฟียส ซานาเรีย อย่างพวกเจ้าทุกคน”


    เด็กๆสะดุ้งจนตัวลอยเมื่อได้ฟังประโยคน่าขนหัวลุกนั้น


    “พะ พวกเราเป็น … ปีศาจ … เหรอฮะ” เด็กชายคนหนึ่งถามขึ้นด้วยเสียงที่สั่นเครือ


    “แล้วถ้าใช่ล่ะ…”

    ชายแก่หรี่ตาจ้องไปที่เขาอย่างลองเชิง


    “ถ้างั้น … มันก็เจ๋งสุดยอดไปเลยฮะ !”

    เด็กชายคนเดิมตอบเสียงใสนัยน์ตาเป็นประกายเจิดจ้า

    ถ้าหากเป็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันทั่วๆไป ก็คงกลัวตัวเองและจิตตกไปหลายวัน

    แต่ไม่ใช่กับเด็กๆที่นี่ เด็กๆของมัลเฟียส ซานาเรีย

    ตระกูลที่ได้ขึ้นชื่อด้านความลึกลับ และถูกหมายหัวอันดับหนึ่งทั้งในฐานะพันธมิตรและอริแห่งศาสนจักร


    เสียงหัวเราะแหบพร่าดังลั่นทั้งห้อง พอใจกับคำตอบของเด็กชาย

    ซึ่งเด็กๆคนอื่นก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง


    ปัง !


    เสียงปิดประตูไม้เรียกความสนใจ

    ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับความพิเศษของสายเลือดตัวเอง

    เด็กชายที่เคยนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่า ก็ได้เดินออกจากห้องแล้ว


    เด็กๆทุกคนต่างจ้องมองไปที่ประตูไม้ืที่ปิดสนิทนั้นอย่างไม่เข้าใจนัก


    “เอาล่ะ … ถ้าอย่างนั้น นิทานวันนี้ก็จบเท่านี้ล่ะนะ

    พวกเจ้าควรเข้านอนได้แล้ว เป็นเด็กต้องพักผ่อนเยอะๆรู้ไหม”


    ชายแก่ดึงความสนใจกลับมาที่ตัวเอง ก่อนส่งเด็กๆเข้านอน

    ภายในใจเขาตื่นเต้นไปกับเด็กๆเหล่านั้นด้วยเช่นกัน

    ชวนให้จินตนาการไปว่า ในราตรีนี้ เหล่าทายาทของตระกูลจะมีความฝันเช่นไรเกี่ยวกับนิทานก่อนนอนเรื่องนี้

    .

    .

    .

     








     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×