คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เรื่องเล่าที่หนึ่ง "เจ้าหญิงผู้เลอโฉม"
...กาลครั้งหนึ่ง...
เป็นประโยคขึ้นต้นก่อนที่จะเล่าเรื่อง
แล้วท่านล่ะ พร้อมที่จะฟังเรื่องของข้าหรือไม่?
หากท่านพร้อม
โปรดรับฟังและนึกภาพตามเถิด
กาลครั้งหนึ่ง...นานมาแล้ว
เจ้าหญิงผู้เลอโฉมถูกขังอยู่บนหอคอย
‘ปีศาจ’ กักขังนางเอาไว้
เธอไม่เคยพบเห็น แต่เธอได้ยิน
เสียงของ ‘เจ้าชาย’
เจ้าหญิงผู้เลอโฉม
เฝ้ารอคอยเจ้าชายมาช่วยเธอออกไป
ยามระฆังตีบอกเวลาเที่ยงคืน
ชายสวมหน้ากาก
ปรากฎตัวตรงหน้าร่างบาง
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?”
เขาถามเจ้าหญิงที่ร้องไห้ขอบตาบวม
“ข้าไม่มีความสุข”
เจ้าหญิงตอบเสียงสะอื้น
“ท่านทั้งสุขสบายมีเงินทอง มีเสื้อผ้าดีๆได้สวมใส่
มีชีวิตเป็นอยู่ที่ดี มีเตียงนุ่มๆให้หลับ
เหตุใดท่านจึงทุกข์?”
“ข้าต้องการความรัก”
“ความรักอยู่รอบตัวท่าน”
“ไม่มีความรักอยู่รอบข้า”
“ท่านแค่ยังมองได้ไม่ดีพอ”
ร่างสูงพูดก่อนที่ร่างจะหายไป
หลายวันถัดมา
เสียงระฆังลั่นบอกเวลาอีกครา
ชายสวมหน้ากากพบว่า
เจ้าหญิง ‘หายไป’
ปีศาจ ‘ไม่อยู่’
นางหนีไปจากที่นี่เสียแล้ว
ปีศาจปล่อยให้สภาพรอบๆทรุดลง
เจ้าหญิงเดินไปอย่างไร้จุดหมาย
จนเมื่อเดินทางไปถึงเมืองแห่งหนึ่ง
เธอพบกับ ‘เจ้าชาย’
และตกหลุกรักเขาทันที
แต่เจ้าชายมี ‘คนรัก’ อยู่แล้ว
หญิงคนรักของเจ้าชายไม่ชอบใจ
จึงได้ท้าดวลเจ้าหญิงด้วยฝีมือดาบ
นั้นคือสิ่งที่อีกฝ่ายมั่นใจสุดตัว
การแข่งขันจักเริ่มขึ้นยามระฆังบอกเวลาเดิม
เสียงระฆังบอกเวลา ‘ครั้งที่สาม’ ดังขึ้น
ชายสวมหน้ากากปรากฏขึ้นอีกครา
เขาลองออกตามหาเธอดู
ไม่นานก็พบ
เจ้าหญิงถือดาบด้วยมือสั่นระริก
“ท่านควรหยุดเสีย”
ชายสวมหน้ากากกล่าวตักเตือน
“ไม่ ข้าถอยไม่ได้
ข้าต้องการเจ้าชาย ข้าต้องการความรัก”
“เจ้าคิดหรือว่าความรักนี้จักยืนยง?”
มือหนาจับไหล่ร่างบางให้หยุดเดิน
“ข้าเชื่อแบบนั้น”
“หากท่านชนะ จะทำอย่างไร?”
“ข้าก็จะมีความสุขตลอดไป”
เจ้าของร่างนิ้วเรียวบางเผยยิ้มออกมา
“ชีวิตของท่านมีค่าเพียงแค่ชายที่พบเพียงหนเดียวงั้นหรือ?”
“ข้ารักเขา”
“ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่านั่นคือความรัก?”
สิ้นเสียงชายสวมหน้ากาก เจ้าหญิงเงียบไปทันใด
นางกำลังคิดและใช้มือทาบหัวใจของตน
“เมื่อท่านมีชีวิตท่านจักต้องการความรัก
แต่หากไร้ชีวิตท่านจักมีความรักได้อย่างไร”
ไร้เสียงตอบรับจากเจ้าหญิง
“ข้าขอไถ่ถามท่านเป็นครั้งสุดท้าย”
เขายื่นมือส่งให้เจ้าหญิง
“ท่านจะหยุดหรือไม่”
.
.
.
“ไม่”
ทันใดนั้นร่างบางก็สาวเท้าเดินออกไป
“ท่านช่างโง่เขลายิ่งนัก”
มือหนากำมือตัวเองแน่น
“จงตายอยู่ที่นี่เพราะความเขลาของท่านเสียเถอะ”
เสียงระฆังบอกเวลาเที่ยงคืน ครั้งต่อไป
ไร้ร่างชายหนุ่มที่ปรากฎยามราตรี ณ หอคอย
แต่เฝ้ามอง ‘ปีศาจ’ ร้องไห้คร่ำครวญ
ดั่งหัวใจตนสลาย เมื่อได้รับข่าวว่า
‘ลูกสาว’ ที่หายไปของพวกตนกลายเป็น ‘ศพ’ เสียแล้ว
หญิงสาวผู้คิดว่าตนคือเจ้าหญิงผู้เลอโฉม
เฝ้าไคว่คว้าหา ‘ความรัก’
ลุ่มหลง ยึดติด ไม่เห็นแม้กระทั่งความรักที่อยู่รอบตัว
ไม่เห็นแม้กระทั่งมือที่ลูบหัวของตนอย่างเจ็บปวดยามเธอเสียใจ
ไม่เห็นแม้กระทั่งความเอาใจใส่ ที่ดูแลให้ห้องของเธอสะอาดเสมอ
ไม่เห็นแม้กระทั่งความหวังดี ที่คอยกัน ‘เจ้าชาย’ ที่ไม่หวังดีออกไป
ไม่เห็นแม้กระทั่งความทุกข์ ที่ว้าวุ่นยามเธอหายไปและเฝ้าตามหา
ไม่เห็นความรักที่มีให้กับเธอ
‘ความรัก’ ที่มั่นคง
“ช่างเป็นหญิงที่โง่เขลาเสียจริง”
.
.
.
“หลงมัวเมา จนเห็นว่าบิดามารดา
ของตนเป็น ‘ปีศาจ’ ไปเสียได้”
สิ้นคำพูด ร่างของชายสวมหน้ากากก็หายไปในท้องฟ้ายามราตรี
ไม่มีเจ้าหญิงผู้เลอโฉมเฝ้ารอคอยเจ้าชาย
ไร้ปีศาจร้ายน่าเกรงขามผู้กักขัง
หรือแม้แต่หอคอยสูงใหญ่
.
.
.
มีเพียงเด็กสาวธรรมดาผู้ลุ่มหลง
บิดามารดาผู้หวังดีเฝ้าช่วยเหลือ
และบ้านหลังเล็กหลังหนึ่งเท่านั้น
ความคิดเห็น