คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Big Shot : 01 ปฐมนิเทศ {100%}
01 ปฐมนิเทศ
"คิม จองอา" เสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้นในขณะที่จงอินกำลังยืนเก็บสายหูฟังลงกระเป๋าอยู่ข้าง ๆ พี่สาวที่เหมือนกำลังโทรตามใครบางคนอยู่ เขาเห็นพี่สาวของตัวเองรีบเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าก่อนจะรีบคว้าแขนเขากึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาคนที่เรียก ผู้ชายตัวใหญ่ท่าทางใจดีที่เขาคาดว่าน่าจะเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง พูดคุยกับพี่สาวของเขาอยู่สองสามคำก่อนจะหันมามองหน้าเขา...
"นี่เหรอน้องชายเธอ"
"ใช่ค่ะอาจารย์น้องชายแท้ ๆ เลยค่ะ" จองตอบก่อนจะเอื้อมมือมาดันต้นคอเขาให้ก้มลงทักทาย เขาก้มหัวลงทักทายแบบเก้ ๆ กัง ๆ พลางลูบท้ายทอยแก้เก้อ
"ชื่อ จงอินเหรอ? อยู่ห้องไหนล่ะ" เขาเห็นสายตาที่เหลือบลงมามองที่ป้ายชื่อเขาแล้วก็ละสายตามามองที่ใบหน้าของเขาราวกับว่ากำลังทำบันทึกประวัติเขาในสมอง
"ห้อง 7 ครับ...ฝากตัวด้วยนะครับ" อันที่จริงเขาก็ไม่ค่อยจะถูกกับคนที่ต้องเรียกว่าอาจารย์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะเขามักจะโดนหาว่าเป็นตัวก่อเหตุเสียบ่อย ๆ จนเขาน่ะแทบต้องเลี่ยงไม่ให้เจออาจารย์นอกห้องเรียน โดยเฉพาะอาจารย์ฝ่ายปกครองเนี่ย อย่าเจอกันเลยจะดีกว่า...
"ฝากมันด้วยนะคะอาจารย์...ถ้ามันก่อเรื่องก็จัดการได้เลยค่ะ ไม่เกี่ยวข้องกับหนู" แรงมือหนัก ๆ ของพี่สาวตัวเองตบเข้าแรง ๆ ที่บ่าจนเขาแทบทรุด แต่ก็สังเกตได้ว่าสีหน้าอาจารย์ก็บอกบุญไม่รับเท่าไหร่ทันทีที่รู้ว่าเขาอยู่ห้องไหน ...
"ก็หวังว่าเธอจะไม่นิสัยเหมือนคนในห้องแล้วกัน" อาจารย์ตัวโตยิ้มให้เขาก่อนจะหันไปคุยกับพี่สาวของเขาต่อ เรื่องอะไรเขาก็ไม่แน่ใจหรอก แต่เท่าที่พอจับใจความได้ก็คงเป็นเรื่องซ้อมล่ะมั้ง ก็พี่สาวเขาเป็นนักกีฬาไอคิโดของโรงเรียน แถมยังเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวอีกด้วย ต่างกับเขาลิบลับเลย... พี่สาวของเขาคุยอยู่สักพักก็พาเขาเดินเข้าโรงเรียน...
"เฮ้ย !... ไอ้คนกาก !!!" น้ำเสียงและชื่อเรียกที่คุ้นหูสุด ๆ ทำให้จงอินต้องหยุดยืนหันไปมอง ชายหนุ่มที่ตัวสูงกว่าเขาและมีใบหูเป็นเอกลักษณ์กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาพร้อมกับจักรยาน ในขณะที่สาว ๆ กำลังเดินเข้าโรงเรียนก็พากันหยุดยืนมองและซุบซิบถึงความหล่อเหลา...
"ไอ้หูกาง ... มาได้ไง เรียนที่นี่เหรอ ไหนมึงบอกต่อที่เดิม" จงอินตกใจไม่น้อยที่เพื่อนสนิทของเขาที่แยกจากกันตอนจบมัธยมต้นอยู่ดี ๆ ก็โผล่มาที่นี่แถมยังใส่ชุดนักเรียนเหมือนเขาอีก
"แหม่ กูซื้อชุดมาใส่เล่นมั้ง ก็พ่อแม่กู อยู่ดี ๆ ก็มาเปิดร้านที่นี่ กูก็เลยต้องย้ายมาที่นี่" ปาร์ค ชานยอลยิ้มกว้างอย่างดีใจ ก่อนที่จองอา จะหันกลับมาเห็นพอดี
"อ้าว ชานยอล มาได้ไง เห็นจงอินบอกว่าเรียนที่เดิมนี่" พี่สาวของเขารีบเดินเข้ามาถามไถ่ด้วยความสนใจ ทำให้จงอินก็เหมือนกลายเป็นส่วนเกินไปอีกรอบ จนกระทั่งชานยอลหันมาถามเขา...
"มึงอยู่ห้องไหนวะ"
"ห้อง 7 มึงอ่ะ?" จงอินตอบก่อนจะเท้ามือลงเบาะจักยานอีกคน
"ห้อง 1" อยู่คนละห้องยังไม่เท่าไหร่ แต่ห้อง 1 นี่มันห้องเด็กเก่งชัด ๆ นี่ล่ะเป็นหนึ่งในหลาย ๆ สิ่งที่เขาสู้เพื่อนคนนี้ไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าเขาสองคนจะแข่งกัน เพราะการที่มีชานยอลเป็นเพื่อนนี่ล่ะที่ทำให้คิม จงอินไม่กลายเป็นคนขี้เกียจและไม่ตั้งใจเรียน เพราะคนตัวสูงหูกางคนนี้ล่ะที่คอยช่วยเหลือเรื่องเรียนมาตลอด...
"เก่งสมกับที่จงอินบอกเลยนะเนี่ย ยังไงก็ฝากจงอินอีกสักสามปีนะ" พี่สาวของเขาพูดแย้งขึ้นก่อนที่จะผลักหัวเขา นี่พี่สาวเขาตั้งใจจะฝากเขากับไปทุกคนบนโลกนี้เลยหรือเปล่าเนี่ย...
"ไม่ต้องฝากหรอกครับพี่ จงอินมันเพื่อนผม ไม่ช่วยก็ชั่วขั้นสุดละ" ชานยอลตอบพลางเกาหัวแก้เขิน ก่อนที่พี่สาวของเขาจะขอตัวแยกไปหาเพื่อนแล้วทิ้งให้เขาอยู่กับชานยอล 2 คน
"เสียใจวะมึง ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน ไม่งั้นสนุกแน่" ชานยอลเดินเข้ามากอดคอเขาก่อนจะพากันเดินเข้าโรงเรียน...
"มึงรู้มั้ยว่าเขาจอดจักรยานกันตรงไหน"
"ไม่รู้ว่ะ ทำไมไม่ถามพี่สาวกูวะเมื่อกี้"
"เอ่อ ลืม"...
กรี๊ดดดดดดดด.....
เสียงกรี๊ดดังมาจากทางด้านหลัง คนตัวสูงที่ดูเหมือนจะเป็นพวกที่สนใจกับสิ่งรอบข้างเป็นพิเศษก็รีบหันไปมองหาต้นเสียงในทันที ชายหนุ่มผมสีบลอนขาวซีดในชุดนักเรียนแบบเดียวกันแต่ต่างกันที่เนคไท ซึ่งเขาเดาว่าน่าจะเป็นรุ่นพี่เดินเข้ามาในโรงเรียนพร้อมกับกลุ่มสาว ๆ กลุ่มใหญ่ที่เดินตามมากรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ...
“สงสัยจะหนุ่มป็อปมั้ง?” จงอินที่หันมามองพร้อม ๆ กันพูดขึ้นก่อนจะเลิกสนใจไป
“คนห่าไรหน้าเหมือนแองกรี้เบิร์ด นี่ถ้าหัวแดง ๆ กูจะจับใส่หนังสติ๊กยิงแม่ง” คนตัวสูงพูดถึงบุคคลที่สามตรงหน้าก่อนจะหลุดขำออกมา...
“แรงไปละ ปากคอเราะร้ายขึ้นนะครับคุณชานยอล” ทั้งสองคนเลิกสนใจกับเสียงกรี๊ดเหล่านั้นก่อนจะหันกลับไปเดินต่อ ...
“โถ่... มัธยมปลายแล้วจะหงิม ๆ ก็โดนหาว่าเป็นสะ .... เฮ้ย!” ยังไม่ทันที่ชานยอลจะพูดจบก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนมาเดินเบียดเขา ทั้ง ๆ ที่ทางเดินก็ออกจะกว้าง ทั้งสองคนรีบหันไปมอง และพบว่าคนที่มาเดินเบียดชานยอลก็คือรุ่นพี่คนที่เพิ่งจะนินทากันไปเมื่อครู่หยก ๆ แถมเดินเบียดผ่านไปแล้วก็ยังหันมามองหน้าแล้วกระตุกยิ้มใส่อีกต่างหาก...
“คิดว่าหล่อตายดิสาดดด !!!”
”อะไรนะ?” รุ่นพี่ตัวสูงชะงักเมื่อได้ยินคำพูดนั้นจนต้องหันกลับมาถาม แล้วก็เห็นว่าจงอินกำลังเอามือปิดปากคนที่ตัวสูงกว่าอย่างเอาเป็นเอาตาย...
“ไม่มีอะไรครับ ๆ” จงอินโค้งหัวให้ไม่หยุดทั้งที่มือก็ยังปิดปากอีกคนอยู่... อีกฝ่ายเห็นแล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไรก่อนจะเดินจากไป นี่ปาร์คชานยอลแม่งปากหมาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ปากพาซวยชะมัด ...
“มึงไปแดกหมาที่ไหนมา อย่าพากูซวยดิ” จงอินบ่นไม่หยุดปาก ถึงเขาจะเป็นคนกาก ๆ แต่ก็อยากมีชีวิตสงบสุขนะ 3 ปีที่ผ่านมาสมัยมัธยมชีวิตเขามันโลดโผนพอแล้ว ทั้งโดนหาว่าเป็นคนทำให้เพื่อนเจ็บ โดนหาว่าพาพวกเรียนเก่ง ๆ โดดเรียนทั้ง ๆ ที่เขาแค่แอบหนีมานอนคนเดียวแต่พวกนั้นหนีมานั่งเล่นกัน นี่ยังไม่รวมที่เขาเป็นตัวซวยในงานกีฬาสีจนทำให้แข่งอะไรก็แพ้ โดนเกี่ยงไม่ให้เข้าทีมตอนเล่นฟุตบอลอีก โอย กากอย่างเดียวไม่พอนะ ชีวิตต้องบัดซบด้วยถึงจะเป็นคิม จงอินได้...
“ก็พูดความจริงนี่หว่า ...เฮ้ย รอกูด้วยดิ จงอิน!!!” ....
ครืด....ครืด....
แรงสั่นในกระเป๋ากางเกงทำเอาจงอินต้องรีบหยิบขึ้นมาดู หน้าต่างป็อปอัพของโปรแกรมสนทนาแสดงข้อความที่ถูกตัดทอนไปเพราะตัวอักษรที่จำกัด แต่ชื่อด้านบนก็ทำให้เขารู้ว่าใครส่งมา...
VIRUSPARK;
เบื่อว่ะมึง -3-
อาจารย์ทุกโรงเรียนแม่งพูดมากเหมือนกันหมดเหรอวะ
จงอินตั้งใจจะตอบกลับไปเพราะตัวเองก็รู้สึกเบื่อกับการมานั่งฟังอาจารย์ทั้งหลายบรรยายสรรพคุณของโรงเรียน และกฎระเบียบต่าง ๆ อยู่เหมือนกัน แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นอาจารย์ที่นั่งควบคุมนักเรียนอยู่อีกฝั่งหันมามองทางเข้าด้วยสีหน้าที่เดาได้ว่าถ้าเขาจิ้มโทรศัพท์ตอบเพื่อนรักกลับไปต้องโดนเด็ดหัวแน่นอน เขาเลยได้แต่กำโทรศัพท์เอาไว้ในมือ แต่ยังไม่ทันไรอีกฝ่ายก็ส่งข้อความมาตัดพ้อ...
VIRUSPARK;
มึงอ่านทำไมไม่ตอบ เมินกูเหรอไอ้กาก กูเสียใจ
จงอินแทบอยากจะเอาโทรศัพท์ไปเขวี้ยงใส่หัวอีกฝ่าย ทำตัวน่ารักเป็นสาวน้อยตัดพ้อคนรัก(?) ยังไม่พอ ยังส่งสติกเกอร์สาวน้อยตาหวานที่แจกฟรีในโปรแกรมสนทนานี้อีก นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาอยู่ไกลกัน ไอ้คนหูกางไม่มีทางรอดแน่นอน เขาตัดสินใจปิดการแจ้งเตือนแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ยังไงก็ขอเอาตัวรอดก่อนแล้วกัน ถ้ามีเรื่องกับอาจารย์ตั้งแต่วันแรกชีวิตมัธยมปลายของเขาก็อาจไม่สงบสุขอย่างที่หวัง...
“นายชื่อคิมจงอินใช่ป่ะ?” เอาแต่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยนานไปหน่อยจนไม่ทันได้เห็นว่ามีใครบางคนมานั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ เก้าอี้ เมื่อเขาหันมองก็พบกับเด็กผู้ชาย...ไม่ใช่สิ น่าจะเป็นผู้หญิงมากกว่า เพราะใส่ชุดนักเรียนหญิง แต่ผมสั้นแถมยังเป็นสีบลอนด์ทองแบบที่เขาอยากทำสุด ๆ กำลังนั่งยื่นหน้ายิ้มให้เขาโดยที่ในมือถืออะไรบางอย่างที่คาดว่าน่าจะเป็นซองจดหมายอะไรบางอย่าง...
“รู้จักชื่อผมด้วย?” คิมจงอินชี้หน้าตัวเอง แล้วถามด้วยเสียงเบา ๆ อย่างสงสัย
“โอเค นายชื่อจงอิน อ่ะนี่ รับไปนะ ถ้าสนใจก็ไปที่ห้อง 201 ตึกชมรมหลังโรงเรียนหลังปฐมนิเทศเสร็จด้วยล่ะ” พอหญิงสาว(?)คนนั้นพูดจบก็ยิ้มหวานเลี่ยนให้ 1 ที แล้วยื่นซองจดหมายสีขาวให้ ก่อนจะรีบลุกแล้ววิ่งค้อมตัวไปทางเก้าอี้แถวด้านหน้า เขามองตามและพบว่าหญิงสาวคนนั้นมุดเข้าไปที่แถวด้านหน้า ๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นแถวของห้องที่ชานยอลนั่งอยู่ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อก่อนจะกลับมาสนใจของที่เพิ่งได้รับ ซองกระดาษสีขาวขนาดไม่ใหญ่นัก ที่มีชื่อเขาติดอยู่ที่หน้าซองจดหมาย เขาค่อย ๆ เปิดซองออกอย่างระมัดระวัง แล้วหยิบจดหมายที่มีอยู่ด้านออกมาคลี่อ่าน ...
Inventor Club
ชมรมนักประดิษฐ์
ขอแสดงความยินดีด้วย !
หากคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้นั่นแปลว่าท่านได้รับการเชื้อเชิญเข้าสู่ชมรมอันทรงเกียรติ
เราขอแจ้งให้ท่านทราบว่า ท่านเป็นหนึ่งในจำนวนนักเรียนเพียงน้อยนิดที่ได้รับสิทธิ์ในการสมัครเข้าชมรมของเรา
ชมรมนักประดิษฐ์ เป็นชมรมที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน ติดอันดับต้น ๆ ของชมรมที่ได้รับการสนับสนุนทางด้านงบประมาณจากโรงเรียน
หากท่านมีความสนใจกรุณามาติดต่อที่ห้องชมรมเพื่อทำการเยี่ยมชม และฟังบรรยายสรุปเกี่ยวชมรมได้ในวันเปิดโลกกิจกรรม
หวังว่าเราจะได้มีโอกาสร่วมใช้เวลาดีๆ ตลอดปีการศึกษาด้วยกัน
ลงชื่อ K . Wu
ประธานชมรมนักประดิษฐ์
ชมรมนักประดิษฐ์ ??? จดหมายเชิญ ???...
ความสงสัยพุ่งเข้ามาในหัวของคิมจงอินจนหัวแทบจะระเบิด คนกาก ๆ อย่างเขานี่เหรอที่จะมีคนสนใจขนาดส่งจดหมายเชิญให้เข้าชมรม นี่ยังไม่รู้กันสินะ ว่าเขานี่ตัวซวยเบอร์ 1 ในปฐพี แค่ตอนมัธยมต้นทำการทดลองในวิชาวิทยาศาสตร์ก็ทำเอาห้องวิทยาศาสตร์แทบวอดวายจนสุดท้ายอาจารย์ถึงกับสั่งไม่ให้เขาทำการทดลองอีก ต้องทนนั่งดูเพื่อนทำอะไรสนุก ๆ ตลอดปี โดยไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วนี่ ชมรมนักประดิษฐ์อะไรนี่ ถ้ามีเขาเป็นสมาชิกชมรมก็คงจะโคตรซวยแน่ ๆ แต่อย่างน้อยก็ดีใจที่เขายังมีคนสนใจตั้งแต่วันเปิดเทอมวันแรก...
ว่าแต่...
ตั้งแต่เดินเข้าโรงเรียนมาก็ไม่ได้คุยกับรุ่นพี่คนไหน
จะมีใครมาสนใจได้ยังไงวะ?
เฮ้ย หรือว่า...
“จงอิน ๆ มึง ๆ ๆ ได้นี่เหมือนกูป่ะ?” เสียงชานยอลดังขึ้น พร้อมกับเจ้าของเสียงที่วิ่งถลาเข้ามาหาหลังจากที่เดินออกมาจากห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียนไม่นาน ตั้งแต่ได้รับจดหมาย ได้เปิดอ่านเขาก็คิดอะไรเพลิน ๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีพิธีปฐมนิเทศก็จบแล้ว...
“เออ ได้เหมือนกัน” จงอินหยิบซองจดหมายออกมาจากกระเป๋า สภาพมันก็เริ่มจะดูไม่เรียบร้อยแล้วเพราะพออ่านจบเขาก็พับใส่กระเป๋ากางเกงไปเลย...
“โคตรเจ๋งเลยว่ะ ได้เหมือนกัน นี่พวกสาว ๆ ที่ห้องฉันบอกว่าชมรมนี้นะดังมาก ใครได้เข้าชมรมนี้นี่เจ๋งสุด ๆ อ่ะ” ชานยอลสาธยายความดีงามของชมรมให้จงอินฟังในขณะที่นักเรียนรุ่นเดียวกันกำลังเดินไปมากันขวักไขว่
“มึงจะเข้าชมรมนี้ก็เข้าเถอะ กูขอบาย” ถึงเขาจะยังนึกไม่ออกว่าจะเข้าชมรมไหน แต่เขาคงไม่กล้าไปทำให้ชมรมใครพังแน่นอน
“อะไรว๊า ไม่ได้เรียนห้องเดียวกันก็อยู่ชมรมเดียวกันหน่อยดิ” คนตัวสูงบ่นอุบอิบก่อนแล้วทำหน้างอ ก็จริงอยู่ว่าสมัยมัธยมชานยอลกับจงอินน่ะตัวติดกันมาก เป็นเพื่อนซี้ที่ใครก็รู้ดีว่าถ้าวันไหนเห็นคนหนึ่งแล้วไม่เจออีกคนเนี่ยมันต้องเป็นอะไรที่แปลก แถมพวกเขาไม่เคยจะทะเลาะกันสักครั้งเดียว...
ขณะที่กำลังคุยกันถึงเรื่องจดหมายที่ได้รับอยู่ดี ๆ จงอินก็ได้กลิ่นคุ้น ๆ เหมือนกับกลิ่นที่ได้สัมผัสเมื่อเช้า ก็เลยหันไปมองและพบว่า...
“นางฟ้า...” คนผิวเข้มเผลออุทานออกมาทำให้อีกคนที่กำลังกระฟัดกระเฟียดเป็นสาวน้อยหยุดมองหน้าอีกคนแล้วถาม...
“นางฟ้า?... ไหนวะนางฟ้า?” พอเห็นว่าสายตาอีกคนกำลังมองเลยตัวเองไปชานยอลก็เลยรีบมองตาม และพบว่าคนตัวบางผิวขาวท่าทางน่ารักกำลังยืนทำหน้ามุ้ยอยู่...
“นั่นเหรอนางฟ้า? ... เขาไม่ได้ชื่อนางฟ้าเว้ย เขาชื่อ โอเซฮุน อยู่ห้อง 2” คนตัวสูงตบบ่าเพื่อนเบา ๆ ก่อนจะสาธยายประวัติให้ฟัง...
“มึง...มึงรู้จักเขาได้ไง?” จงอินหันไปมองเพื่อนรักด้วยความสงสัย ... นี่ไปรู้จักกันตอนไหนเนี่ย?
“ก็เขานั่งแถวหลังกูไง แล้วสาว ๆ ที่นั่งแถวเดียวกับกูเขากรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เลย ... แต่กูว่าท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรว่ะ สาว ๆ ถามไรก็ไม่เห็นตอบ” ร่างสูงพูดต่อพลางยักไหล่อีกหนึ่งที
“แต่เขาน่ารักดีนะ กลิ่นก็หอมด้วย” จงอินเผลอหลุดปากออกไปจนอีกฝ่ายต้องหันมามอง...
“มึงไปได้กลิ่นเขามาได้ไง นี่มึงกลายเป็นโรคจิตไปแล้วเหรอ?”
“คิดอะไรก็รักเพื่อนบ้างเถอะ ... เมื่อเช้าเขาขึ้นรถเมล์คันเดียวกับกู ยืนใกล้ ๆ ด้วย น่ารักชิบหายกลิ่นตัวก็หอม กูละเคลิ้มเลย” ยิ่งเห็นหน้ามุ้ย ๆ นั่น ยิ่งทำเอาจงอินจ้องตาไม่กะพริบแถมยังเผลอพูดอะไรออกไปแบบไม่ทันคิดอีกด้วย
“มึงกลายเป็นโรคจิตไปแล้วจริง ๆ ด้วย ... เฮ้ย ไปไหน” ชานยอลตะโกนไล่หลังเพื่อนที่กำลังเดินออกไปนอกตึกแล้วรีบวิ่งตาม ...
“จะรีบไปไหนวะ สะกิดบอกกันนิดดิปล่อยกูบ่นคนเดียวอยู่ เดี๋ยวเขาก็หาว่ากูบ้ากันพอดี”
“นางฟ้าเขาจะไปไหน เดินไวจริง ๆ” ที่ชานยอลบ่นอยู่ข้าง ๆ หูน่ะ ไม่ได้สนใจหรอกที่สนใจน่ะคือคนตัวบางผิวขาว ๆ ที่เดินนำไปหลายช่วงตัวโน้นต่างหาก ที่กำลังเดินไปกับคนตัวเล็ก ๆ ที่ดูท่าทางแล้วจะขี้เล่นและร่าเริงไม่ใช่น้อย ต่างจากอีกคนที่เขาเล็ง เอ้ย มอง อยู่อย่างลิบลับ....
“โรงเรียนนี้ก็ชมรมเยอะดีแฮะ” คนตัวสูงพูดขึ้นในขณะที่มองไปสองข้างทางและพบว่าเขากับเพื่อนเดินเข้าสู่ลานกิจกรรมที่จัดให้นักเรียนปี 1 เลือกเข้าชมรมได้ตามความชอบ ...
“เฮ้ย มีชมรมฟุตบอลด้วย... กีฬาก็มีตั้งหลายอย่าง ... นั่นชมรมไอคิโด พี่สาวนายนั่งอยู่ชมรมนั้นนี่ ไปหาพี่สาวนายกัน ๆ” ชานยอลพูดจบก็กระชากแขนจนอินให้เดินตามไปด้วย...
“เฮ้ย เดี๋ยวดิวะ ...” ถึงจะแย้งยังไงแต่เพราะชานยอลตัวค่อนข้างใหญ่กว่าเขา เลยทำให้สุดท้ายจงอินก็ต้องเดินไปตามแรงลากของอีกฝ่ายอยู่ดี ...
“อ้าว ...มาเลือกชมรมเหรอ? เลือกได้หรือยัง?” จองอาเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองคนเดินมาถึงหน้าโต๊ะของชมรม
“จะมาชมรมพี่ ได้ไหมล่ะครับ” ชานยอลหยอกกลับ ในขณะที่หญิงสาวพบว่าน้องชายตัวเองกำลังชะโงกซ้ายชะโงกขวามองหาอะไรบางอย่างอยู่...
“จงอิน ! นี่นายมองอะไรน่ะ?” ร่างผอมบางแต่ดูแข็งแรงชะโงกตัวแล้วยื่นมือไปดึงหูเจ้าน้องชายตัวแสบจนอีกฝ่ายร้องลั่น ก่อนจะหดตัวกลับมานั่ง...
“นี่เจ้ดึงหูผมทำไมเนี่ย?” มือหนาลูบหูตัวเองป้อย ๆ บรรเทาความเจ็บปวด พี่สาวเขานี่นอกจากจะโหดแล้วยังมือหนักสุด ๆ ล่ะบอกเลย...
“ก็หมั่นไส้ เห็นมองหาอะไรอยู่ได้” ใจอยากจะเถียงกลับแต่พอคิดว่าอยู่ในถิ่นพี่สาว ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจถึงเป็นน้องสาวแท้ ๆ ก็อาจจะไม่มีใครช่วยได้ (นอกจากชานยอล)
“ก็เปล่า ... มองไปเรื่อยเฉย ๆ” ได้แต่แก้ตัวไปขุ่น ๆ เท่านั้นล่ะ
“ย่ะ! แล้วจะเชื่อนะ แล้วเลือกหรือยังว่าจะเข้าชมรมไหน? แต่ชมรมฉันไม่ต้อนรับนะยะ แต่สำหรับชานยอลโอเคเลยนะ” พูดจบก็หันมายิ้มให้ชานยอล แต่ชานยอลก็เอ่ยปฏิเสธอย่างสุภาพ...
“ผมว่าจะเข้าชมรมนักประดิษฐ์อ่ะครับ เห็นมีจดหมายเชิญมาถึงผมเลยล่ะ” ชานยอลหยิบจดหมายออกมาชูให้ดู และทันใดนั้นเองก็เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง สายตาทุกคู่ที่อยู่ใกล้เคียงไม่ว่าจะเป็นสมาชิกชมรมไอคิโดหรือชมรมข้างเคียงหันมามองคนตัวสูงหูกางที่ยืนชูจดหมายกันเป็นตาเดียว...
“นี่นายได้จดหมายของชมรมนักประดิษฐ์เหรอ?”
“ครับ เนี่ยจงอินก็ได้นะ ...ใช่ป่ะ ๆ เอาออกมาให้พี่ชายนายดูสิ” ชานยอลกระทุ้งศอกเบา ๆ เขาที่แขนจงอิน สายตาของพี่สาวที่เหมือนคาดคั้นให้เขาหยิบมันออกมาทำให้เขาหยิบจดหมายยับ ๆ ออกมาจากกระเป๋า...
“จงอิน ... นายต้องเข้าชมรมนั้นนะ พี่ขอร้อง” นานทีปีหนเขาจะเห็นพี่สาวของตัวเองที่ทั้งสวยและทั้งเก่งมาขอร้องน้องชายที่ไม่ได้เรื่อง (ยกเว้นเรื่องที่มาช่วยให้ปฏิเสธพวกเห่ย ๆ ที่โทรมาตอแยตอนปิดเทอมนะ)
“ทะ ทำไมอ่ะ ... ผมมันตัวซวยจะตาย เข้าไปทำชมรมเขาพังแน่”
“คือ ... เอาเถอะเข้าเถอะนะ ถือว่าพี่ขอร้อง” กะพริบตาวิ้ง ๆ ใส่อีกสองสามครั้ง ทำเอาเขาก็ทำอะไรไม่ถูกไปครู่ใหญ่ จนกระทั่งได้ยินเสียงโหวกเหวกจนต้องหันไปมองกันหมด....
“นี่น้อง เป็นผู้ชายจะเข้าชมรมจัดดอกไม้ เป็นผู้ชายแน่เหรอวะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ” สิ่งที่เขาเห็นก็คือนางฟ้าของเขากำลังโดนรุ่นพี่ตัวเขื่องในชุดยูโดยืนขวางหน้าโต๊ะชมรมอะไรสักอย่าง แต่เท่าที่เห็นชมรมนั้นเหมือนจะมีแต่ผู้หญิง และกระเช้าดอกไม้...
“ไอ้เจ้ากอริลานั่นไปอาละวาดอะไรอีกล่ะนั่น...” จองอาหันไปบ่นกับเพื่อนร่วมชมรมที่ออกมายืนมองเหตุการณ์ด้วยเช่นกัน พอเห็นว่าคนน่ารักกำลังจะอยู่ในอันตราย(?) เขาก็รู้สึกว่าอยากจะทำอะไรสักอย่าง แต่พอจะออกตัวก็ดันโดนมือเรียว ๆ ของพี่สาวตัวเองดึงคอเสื้อเสียก่อน...
“อย่าไปยุ่ง ไอ้เจ้ากอริลานั่นต่อยนายทีเดียวก็สลบแล้ว ฉันไม่อยากแบกนายไปห้องพยาบาลนะ”
“แต่เขาจะรังแกรุ่นน้องนะเจ้ ยอมได้ไง” จงอินถามกลับ
“ก็ไม่ต้องยุ่งไง เดี๋ยวถ้ามีอะไรหนักพวกฉันจัดการเองย่ะ” คำพูดของพี่สาวเขาทำเอาอึ้ง นี่พี่สาวเขาเป็นขาใหญ่ด้วยเหรอ?... แต่ก็อึ้งอยู่ได้ไม่นานเพราะอยู่ดี ๆ ก็ได้ยินเสียงใครบางคนเหมือนกำลังเถียงกลับ...
“ขอโทษนะครับ ... ผมจะเข้าชมรมจัดดอกไม้มันไปหนักเส้นผมเส้นไหนบนหัวพี่เหรอครับ? ผมไม่ชอบชมรมศิลปะป้องกันตัวแล้วจะเข้าทำไม ผมอยากทำอะไรที่มีความสุขมากกว่า... นั่น ... พี่อย่าทำหน้าเหมือนหมาโดยไถขนสิครับ ฟังผมให้จบก่อน ...” นั่นเป็นสิ่งที่นางฟ้าคนน่ารักที่เขาอุตส่าห์เล็ง เอ้ย มองอยู่ พูดออกมา ซึ่งทำเอาคิม จงอินอ้าปากค้าง ซึ่งคนอื่น ๆ ก็ไม่ต่างกัน แต่ก็พวกรุ่นพี่ก็แอบสะใจที่รุ่นพี่ตัวเขื่องคนนั้นโดนสวนกลับแบบชนิดที่ทำหน้าไม่ถูก จนในที่สุดคนมาหาเรื่องก็ต้องล่าถอยไป ... ก่อนจะมีเสียงปรบมือจากรุ่นพี่จากชมรมต่าง ๆ ดังเกรียวกราว...
“ปากจัดชะมัดเลย เห็นหน้าสวย ๆ แบบนั้น” สิ่งที่ชานยอลพูดออกมา มันตรงกับที่จงอินคิดเอาไว้ไม่มีผิด แต่จงอินก็ยังมองคนตัวบางนั้นไม่วางตา แม้ว่าเหตุการณ์จะจบลงแล้วนางฟ้าของเขาจะลงชื่อที่ชมรมใกล้ ๆ เสร็จแล้วก็ตามที..
...ใช่ ปากจัดชะมัด ... แต่น่ารัก คิม จงอินให้อภัย ....
“นี่! จงอิน” เสียงพี่สาวของเธอดังขึ้นเรียกสติเขาให้กลับคืนมาและพบว่าพี่สาวของเธอกำลังส่งสัญญาณให้เขาหลับไปจากด้านหน้าของโต๊ะเพราะมีเด็กปีหนึ่งคนอื่นกำลังจะมาลงชื่อ เขาเขยิบไปข้าง ๆ โต๊ะ แต่เหมือนไหล่จะไปชนกับใครบางคนเข้า...
“อ้าว พวกนายนี่เอง ตัดสินใจกันหรือยัง?” เด็กสาวในชุดนักเรียนที่ดูยังไงแล้วบุคลิกก็ไม่เหมาะกับการใส่กระโปรงคนเดียวกับที่เอาจดหมายมาให้เขาร้องขึ้น ก่อนจะถามคำถาม ชานยอลเห็นก็จำได้ทันทีเลยหันไปคุย...
“ผมตกลงครับ แต่ว่าผมต้องไปที่ห้องชมรมมันอยู่ตรงไหน ผมต้องไปลงชื่อที่โต๊ะชมรมก่อนหรือเปล่าครับ?”
“อ๋อ พวกเราไม่มีโต๊ะชมรมหรอก มันยุ่งยาก ถ้าอยากไปก็เดี๋ยวพี่พาไปเลย ไป ๆ” บทสนทนาของทั้งสองคนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาคิมจงอินไปดื้อ ก็จะไม่ให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไรก็ในเมื่อสายตาของเขาก็ยังอยู่ที่นางฟ้าซึ่งโดนรุ่นพี่ในชมรมที่เพิ่งลงชื่อไว้ดึงตัวไปคุย พวกสาว ๆ พวกนั้นดูจะตื่นเต้นกันใหญ่ เห็นแล้วน่าอิจฉา ... อยากทำความรู้จักบ้าง ...
“เฮ้ย จงอิน กูไปห้องชมรมนักประดิษฐ์ก่อนนะ เดี๋ยวพักเที่ยงเจอกันไปกินข้าวกัน เจอกันตรงไหนเดี๋ยวไลน์บอก” พอคนตัวสูงพูดจบก็เดินไป จงอินได้แต่พยักหน้าก่อนจะโดนพี่สาวไล่ให้ไปเลือกชมรมต่อเหตุผลยืนขวางที่ขวางทาง และกลัวว่าจงอินจะกลายเป็นตัวไล่คน...โธ่ ... ถึงจะเป็นตัวซวยจับอะไรก็พังแต่ก็ไม่ได้น่ารังเกียจขนาดนั้นนะ...
เดินวนไปวนมาหลายรอบ ก็ยังไม่เจอชมรมที่ถูกใจเสียที เอาแต่เหม่อเรื่องนางฟ้านานไปจนลืมว่าต้องเลือกชมรม ทำให้หลาย ๆ ชมรมได้คนครบไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะชมรมฟุตบอล อุตส่าห์คิดไว้เล่น ๆ ว่าอยากจะเข้า อย่างน้อยไปเป็นคนเก็บบอลก็ยังดี ...
“นี่เซฮุน... วันนี้ที่บ้านเราทำข้าวกล่องมาให้ล่ะ มานั่งกินด้วยกันเนอะ” น้ำเสียงสดใสเจื้อยแจ้วเรียกชื่อนางฟ้าของเขา(?) จนเขาต้องหันไปมอง คนตัวเล็กท่าทางร่าเริงกำลังนั่งคุยกับคนตัวบางที่ม้านั่งด้านนอกของลานกิจกรรม แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเตรียมใจ รอยยิ้มหวานน่ารักบาดใจก็ผุดขึ้นบนใบหน้าหวาน ๆ พร้อมกับพูดตอบอีกคนอย่างน่ารัก ซึ่งมันทำให้คิม จงอินใจเต้นโครมครามจนแทบจะระเบิดออกเลยทีเดียว...
โอ้ย ยิ้มน่ารักเกินไปแล้ว ฮื้อออ คิม จงอินจะตายแล้วครับท่านผู้ชม...
และวินาทีนั้นเองเขาก็ตัดสินใจว่า ยังไงก็ต้องทำความรู้จักให้ได้ พอคิดได้แบบนั้นก็ไม่ลังเล รีบเดินเข้าไปทักทายในทันที....
“สวัสดี เราชื่อจงอิน ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ขอโทษนะครับ เราจำเป็นต้องรู้จักกันเหรอ?”
TBC.
- Writer Talk -
ขออภัยอย่างสูงที่มาลงให้ครบช้าไปหน่อย ขอสารภาพว่าไม่ได้เขียนฟิกแนวแบบนี้นานมาก
เลยกลัวว่าจะออกมาไม่สนุก ซึ่งพอเขียนออกมาก็รู้สึกมันยังจืด ๆ ยังไงใครมีข้อแนะนำยังไง
ก็ช่วยชี้แนะกันได้เนอะ จะได้ปรับให้สนุก ๆ กันต่อไปมากขึ้นไง ><
ตอนนี้เหมือนตัวละครเกือบทุกตัวจะออกมาแล้ว แต่ยังไม่เฉลยว่าใครเป็นใครล่ะ
ตอนหน้าจะเฉลยและดึงตัวละครออกมาให้ครบเลยน้า
แล้วก็... ถ้าอ่านแล้วชอบใจ คอมเม้นท์และโหวต หรือจะเม้าท์กันเรื่องฟิกได้ที่แท็กนี้นะคะ
#khbigshot
หรือจะแนะนำหรือคุยเป็นการส่วนตัวกับไรท์เตอร์ได้ที่ @LittleChisaru
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจค่ะ >< เจอกันตอนหน้าฮับ
- คุณนายคิริยาม่า -
O W E N TM.
ความคิดเห็น