ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : คนในอดีต (1)
    ร้านนี้เป็นร้านประจำของภูตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย เขาชอบบรรยากาศในร้านนี้ที่อยู่กลางแมกไม้และดอกไม้ชวนให้หลงใหล แต่เพื่อนๆ ของเขาไม่ค่อยจะยินดีมาด้วยสักเท่าไหร่ เพราะบรรยากาศมันสงบเงียบเกินไป ไม่สามารถที่จะเฮฮากันได้  ด้วยเหตุนี้ภูจึงมักจะพาสาวๆ ของเขามานั่งกินที่นี่เป็นประจำ ผู้หญิงคนแรกที่ที่ภูพามาก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจากมิว แฟนคนที่เขาเคยรักมากที่สุดและเป็นคนที่ทำให้เขาเจ็บปวดที่สุด
    \"มาร้านนี้อีกแล้วเหรอคะ\" ปิ่นถามพลางย่นจมูกน้อยๆ ใช่ว่าไม่ชอบ แต่มาบ่อยเสียเหลือเกิน การที่รู้จักกับภูมา 7-8 เดือนทำให้เธอรู้ว่า ภูเป็นคนที่ยึดติดกับพอสมควร อย่างเช่น ถ้ากินข้าวก็จะกินแต่ร้านนี้ อาจเป็นเพราะเขากลัวที่จะเปลี่ยนแปลง
    \"ไม่ชอบเหรอ\" เขาถามเธอกลับ เขาจำได้ว่าครั้งแรกที่พาเธอมา ปิ่นยังตื่นเต้นดีใจ และชมว่าร้านสวยอย่างนั้นอย่างนี้อยู่เลย
    \"ไม่ใช่ไม่ชอบค่ะ แต่อาทิตย์นี้มาเป็นครั้งที่ 3 แล้วนะคะ แถมร้านนี้แพงจะตาย\" คำพูดของปิ่นสามารถเรียกเสียงหัวเราะจากเขาได้ ปิ่นเป็นอย่างนี้เสมอ มักจะใช้เงินอย่างระมัดระวัง ซึ่งต่างจากเขา หากว่าพอใจ เขาก็ยินดีที่จะจ่าย
    \"เดี๋ยวพี่ลี้ยงเองน่า\" เขาพูดพลางลูบหัวเธอเบาๆ
    \"ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้นสักหน่อย\" ปิ่นพูดงอนๆ พลางเดินนำไป ภูได้แต่มองตามร่างเล็กไปอย่างขำๆ กึ่งเอ็นดู
    \"อุ้ย ขอโทษค่ะ\" ปิ่นพูดขึ้นอย่างอัตโนมัติ เมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองชนใครเข้าสักคน \'สวย\' เป็นความคิดของปิ่น เมื่อเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่เธอเดินชนด้วย
    \"ไม่เป็นไรค่ะ เราก็ไม่ได้ดูเหมือนกัน\" รอยยิ้มของผู้หญิงที่ปิ่นเดินชนเปล่งประกายเสียจนปิ่นต้องยิ้มตาม เธอช่างเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ แม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกันเองยังอดไม่ได้ที่จะคิดหลงรัก
   
    \"ปิ่นเป็นอะไรหรือเปล่า เดินไม่ระวังอยู่เรื่อยเลย\" เสียงคนตัวสูงบ่นมาไกลๆ เขาเห็นอยู่ไกลๆ ว่าปิ่นชนกับใครคนนึง แต่จะเป็นใคร เขาเห็นหน้าไม่ชัด และไม่สนใจจะมอง เขาสนใจผู้หญิงตัวเล็กๆ จอมซุ่มซ่ามมากกว่า
    \"ไม่เป็นไรค่ะ...........\" ปิ่นตอบรับเบาๆ แต่ไม่ทันจะพูดจบประโยคก็โดนขัดเสียก่อน
    \"ภู ภูใช่ไหม\" เสียงหวานทักขึ้น ทำให้ปิ่นมองภูกับผู้หญิงคนนั้นด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
    \"รู้จักกันเหรอคะ?\" ปิ่นถามขึ้น พลางมองไปที่คนรักของเธอที่กำลังอยู่ในอาการตกตะลึง
   
    \"มิว\" นี่เป็นคำพูดเดียวที่เปล่งออกมาจากปากของเขา เขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะเจอเธออีก หลังจากที่เรียนจบ เขาปิดหนทางที่จะติดต่อกับเธอ แม้แต่การเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ
    \"มากินข้าวกันเหรอ\" มิวถามขึ้น พร้อมยิ้มน้อยๆ ที่ปิ่นคิดว่าช่างมีเสน่ห์นัก
   
    \"ค่ะ\" ปิ่นตอบแทนภูที่ดูเหมือนว่าจะหลุดลอยไปไกลเสียแล้ว
   
    \"งั้นนั่งด้วยกันไหม พอดีเรามาคนเดียว มีเพื่อนเก่านั่งกินเป็นเพื่อนคงจะดี จะได้คุยกันด้วย ดีไหมภู\" ปิ่นเริ่มสังเกตความผิดปกติของคนรัก เขาดูนิ่งเงียบ เวลาเขาเจอเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เพื่อนเก่าหรือใหม่ เขามักจะทักทายด้วยน้ำเสียงที่แจ่มใสเสมอ แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น
    \"พี่ภูคะ เพื่อนถามแหนะ\" เสียงของปิ่นดูเหมือนว่าจะเรียกสติของเขากลับมาได้
    \"อย่าเลยมิว เราไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด ไปเถอะปิ่น\" เขาพูดพลางโอบตัวปิ่นเข้าไปข้างในร้าน โดยไม่สนใจของหญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหลัง
    เงียบ พี่ภูของปิ่นนั่งกินเงียบๆ และเงียบเกินไป ไม่คุยเล่น ไม่มองหน้า นานๆ ทีถึงจะหันมามองแล้วยิ้มบางๆ ที่ดูไม่เต็มใจที่จะยิ้มให้สักครั้ง นอกจากนั้นปิ่นยังสังเกตได้ถึงสายตาของผู้หญิงที่ชื่อมิว ที่ลอบมาทางภูบ่อยๆ
    หึงหรือน้อยใจ ปิ่นเองก็ไม่อาจจะทราบได้ เมื่อตอนก่อนเข้าร้าน เธอยังคิดว่าเธอเป็นคนสำคัญของเขา แต่ความสำคัญที่เธอคิดตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนไปให้คนอื่น ตอนนี้เขาคงจะคิดถึงแต่ผู้หญิงคนนั้นแล้วสินะ ปิ่นก้มหน้าก้มหน้าละเลียดกินเค้กด้วยความน้อยใจ ปากของปิ่นเม้มสนิท น้ำตาพาลจะไหลออกมา ต่อให้ภูเอาแต่ใจ หรือทำอะไร เธอก็ไม่เคยคิดมาก เพราะคิดว่า นั่นเป็นธรรมดาของคนรักกัน ที่ต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่การที่เขามีผู้หญิงอื่นในหัวใจ เป็นเรื่องที่เธอไม่สามารถรับได้จริงๆ
    ดูเหมือนว่าภูจะไม่สังเกตเห็นความน้อยใจของปิ่นแม้แต่น้อย เขาก้มหน้าก้มตาม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปาก อาหารที่เขาคิดว่ามันน่าจะอร่อย มันกลับไม่อร่อยเป็นครั้งที่สองของวัน ยังรักมิวอยู่หรือเปล่า เขาเองก็บอกไม่ได้ รู้เพียงแต่ไม่อยากเจอหน้า ไม่อยากทักทาย แต่มิวก็ยังทักทายเหมือนกับเขาราวกับไม่เคยสร้างบาดแผลใดๆ ให้กับเขาแม้แต่น้อย
    \"กลับกันยัง พี่เหนื่อยแล้ว\" เขาพูดขึ้นในที่สุด ปิ่นพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตอบรับ ตอนนี้เธอเองก็ไม่อยากเห็นหน้าเขาเหมือนกัน
    ภูขับรถมาส่งปิ่นเหมือนเดิม มีเพียงบรรยากาศในรถที่ดูแตกต่างออกไป ภูเงียบขรึม เงียบเกินกว่าที่ปิ่นจะเข้าใจ และความเงียบนี่เองทำให้ปิ่นจินตนาการไปไกลถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้น และในที่สุดภูก็ขับรถมาจอดที่หน้าคอนโดของปิ่น
    \"ฝันดีนะครับ\" เขาพูดพลางลูบหัวเธอเบาๆ ทันทีที่เขาสัมผัสตัวเธอ เธอรู้สึกเศร้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกครั้งที่เขาลูบหัวหรือหยิกแก้มเธอเบาๆ ทุกครั้งความอบอุ่นจากตัวเขาจะสื่อผ่านมายังตัวเธอ แต่ครั้งนี้มันช่างดูห่างเหินและเย็นชา
    \"ค่ะ ฝันดีค่ะพี่ภู\" ปิ่นพูดพลางยิ้มฝืดๆ ไปที่เขา แต่เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเธอแม้แต่น้อย
    พอกลับถึงห้องปิ่นก็รีบหยิบผ้าเช็ดตัว เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ดีนะว่ากวางเพื่อนของเธอยังคงอยู่ที่ร้าน ไม่งั้นคงสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเธอได้แน่ๆ ไม่มีน้ำตาไหลออกมา มีแต่ความอึดอัดคับข้องใจ ปิ่นเปิดฝักบัวให้รดร่างของตัวเอง หลับตาปล่อยให้สายน้ำดับความอิจฉาที่มีต่อผู้หญิงคนนั้น เธอไม่อยากเป็นผู้หญิงงี่เง่า ที่คอยแต่จะงอนหรือว่าโกรธ
    เป็นเวลานานอยู่กว่าปิ่นจะออกจากห้องน้ำ ตอนนี้อารมณ์ของเธอสงบกว่าเดิมมากแล้ว ปิ่นมองนาฬิกานี่ก็ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้วหลังจากที่เธอแยกกับเขามา ปิ่นมองโทรศัพท์อย่างเหม่อลอย ถ้าเธอไม่โทรไปเช็คว่าเขาถึงบ้านแล้ว เขาจะรู้สึกถึงความผิดปกติของเธอบ้างไหมนะ ปิ่นล้มตัวลงนอนกับโซฟา โดยที่ผมยังเปียกอยู่ พลางคิดถึงผู้หญิงที่ชื่อ มิว เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่ต้องมีความสำคัญกับเขาอย่างแน่นอน ปิ่นคิดนู่นคิดนี่สักพักเปลือกตาก็หนักลง จากความเหนื่อยล้า และผลจากการอดนอนเมื่อคืนก่อน
    ปิ่นหลับไปได้ไม่เท่าไหร่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น มือปิ่นควานหาสะเปะสะปะ พลางคิดเคืองคนที่โทรมาเอาป่านนี้  เป็นเวลานานอยู่กว่าปิ่นจะควานหาโทรศัพท์เจอ ปิ่นคว้าโทรศัพท์มาด้วยความหวังว่าจะเป็นพี่ภูของเธอ แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะว่าเป็นกวางที่โทรมาบอกว่า คืนนี้จะค้างที่ร้าน
    พอวางโทรศัพท์จากกวาง ความเหงาก็แทรกซึมเข้ามาในจิตใจของปิ่นทันที แม้ว่าเธอจะรู้ว่ากวางไม่ได้ทิ้งเธอไปไหน แต่คืนนี้เธอไม่อยากจะอยู่คนเดียว ไม่งั้นเธอต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ ปิ่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะลุกขึ้นไปแต่งตัว แล้วโทรหาเพื่อนของเธออีกคน
    \"ส้มเหรอ คืนนี้ไปค้างด้วยคนได้ไหม\" ปิ่นกรอกเสียงไปตามสายอย่างอ่อนแรง
    \"ได้สิ มีอะไรหรือเปล่าว่ะ\" เสียงเพื่อนสาวของเธอถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง สำหรับเพื่อนเธอคนนี้กับกวาง มันไม่มีอะไรต้องปิดบัง
    \"เหงา\" คำตอบง่ายๆ สั้นๆ ของปิ่นทำให้เพื่อนของเธอเข้าใจในทันที บางทีปิ่นจะมีอารมณ์เหงาอย่างสุดซึ้ง โดยที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึง บางทีอาจเป็นความคิดถึงที่มีต่อตากับยายที่ล่วงลับไปเมื่อ 5 ปีก่อนด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตากับยายผู้ที่เป็นคนดูแลปิ่นมาตลอดตั้งแต่ปิ่นอายุได้ 5 ขวบ และเป็นคนที่ปิ่นมีความผูกพันธ์ด้วยมากที่สุด
    รุ่งเช้าปิ่นตรงไปที่ทำงาน โดยไม่แวะไปที่คอนโดก่อน แม้ว่าเธอเพิ่งจะรู้เมื่อหลังออกมาจากคอนโดว่า เธอลืมมือถือเอาไว้ แต่ความขี้เกียจ ประกอบกับการต้องวกไปวนมาทำให้เธอตัดสินใจทิ้งมือถือเอาไว้เบื้องหลัง ยังไม่ทันจะก้าวเข้าสู่บริษัทดี เสียงเพื่อนร่วมงานของเธอก็ร้องเรียก
    \"ปิ่นมาพอดี ทำไมโทรเข้ามือถือแล้วไม่รับ\" เสียงเพื่อนร่วมงานของเธอต่อว่าต่อขานทันทีที่เห็นเธอ
    \"ลืมเอาไว้ที่คอนโดน่ะ มีอะไรเหรอ\"
   
    \"ไปถ่ายรูปให้เราหน่อยสิ ไป\" พูดจบเพื่อนของเธอก็ดันหลังออกไปทันที สรุปแล้ววันนั้นทั้งวันเธอก็ไม่ได้เข้าไปที่บริษัทอีกเลย เนื่องจากสถานที่ที่ไปทำคอลัมน์นั้นอยู่นอกเมือง ประกอบกับเจ้าของสถานที่ชวนทานอาหารเย็น กว่าปิ่นจะกลับถึงคอนโดก็เกือบ 2 ทุ่มได้
    เมื่อปิ่นก้าวเข้ามาในบริเวณด้านล่างของคอนโดก็ต้องชะงัก เพราะมีใครบางคนมองเธอตาเขม็ง ปิ่นยืนตัวแข็ง รอยยิ้มบางๆ ที่ส่งให้ยามเมื่อครู่จางหายไปทันที
    \"ไปไหนมา แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว รู้ไหมว่าเป็นห่วงมาก โทรไปที่บริษัทเขาก็บอกว่าไม่เห็น\" ภูพูดดังราวกับตะคอก ทำให้คนบริเวณนั้นหันมามอง ตอนนี้ปิ่นหน้าซีดเป็นกระดาษ เธอไม่เคยเห็นภูโมโหขนาดนี้เลย
    \"พี่ภูมารอตั้งแต่เมื่อไหร่คะ\" ปิ่นพยายามเบี่ยงเบนประเด็น แต่สีหน้าที่อิดโรย ผมที่ยุ่งเหยิงบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาคงมารอเธอนานมาก
    \"เมื่อไหร่เหรอ ก็ตั้งแต่เมื่อคืน พี่โทรหาปิ่นเท่าไหร่ปิ่นก็ไม่รับ ทั้งที่ห้องและมือถือ พอมาถึงที่นี่ยามก็บอกว่าปิ่นออกไปข้างนอก พอโทรไปที่บริษัทเขาก็บอกยังไม่เข้า พอตอนบ่ายแวะไปดูก็ไม่เจอ โทรหากวางก็ไม่ติด พี่นั่งรออยู่จนจะเป็นบ้าอยู่แล้วรู้ไหม\" เขาพูดพลางจับไหล่เธอด้วยความโมโห ความจริงเขารู้สึกโล่งอกที่เธอยังปลอดภัย แต่รถที่มาส่งเธอเมื่อกี้ทำให้เขาโมโหมากขึ้น ถึงมองไม่เห็นว่าเป็นใคร แต่ก็พอรู้ว่าเป็นผู้ชาย
    \"ปิ่นไปค้างบ้านส้มมา เมื่อคืนกวางไม่กลับ ปิ่นก็เลยเหงา ส่วนมือถือปิ่นลืมเอาไว้ แล้ววันนี้ปิ่นไปถ่ายรูปมาเลยไม่ได้เข้าบริษัท\" ปิ่นพูดเสียงอ่อย แต่ไม่ได้ทำให้ภูมีแววตาที่อ่อนลงเลย
    \"แล้วทำไมไม่โทรบอกพี่เลย พี่เป็นห่วงรู้ไหม\"
    แม้รู้ว่าตัวเองผิดที่ไม่โทรบอกเขา แต่ความน้อยใจเมื่อคืนก็ยังหลงเหลืออยู่ ปิ่นหลุบสายตามองต่ำ ชักไม่แน่ใจกับคำพูดของเขา
   
    \"พี่ภูเป็นห่วงปิ่นด้วยเหรอคะ\"
    \"ปิ่น\" ภูร้องขึ้น เขาไม่เคยคิดว่าปิ่นจะพูดคำนี้ออกมา แล้วก็เปลี่ยนเป็นโมโห \"ก็ได้ ถ้าไม่อยากโทรหากันต่อไปนี้ก็ไม่ต้องโทร\"
    ภูปล่อยไม้ตายสุดท้าย ยังไงปิ่นก็ต้องง้อเขา เพราะมันเป็นแบบนั้นทุกทีนี่นา ภูเดินออกไปที่ประตู คาดหวังที่มือเล็กๆ มารั้ง แล้วเอ่ยคำขอโทษ แต่เปล่าเลย ปิ่นยังคงยืนอยู่ที่เดิม ภูหันกลับไปมองด้วยความสงสัย ความผิดปกติที่ภูไม่ได้สังเกตเมื่อคืน ในวันนี้เขากลับเห็นมันอย่างชัดเจน ทั้งสองยืนอยู่ที่เดิมสักครู่ก่อนที่ปิ่นจะเดินเข้าไปในตัวอาคาร ทิ้งให้ภูมองตาม แล้วตัดสินใจวิ่งไปหาปิ่นก่อนประตูทางเข้าจะปิด
    \"ปิ่นโกรธอะไรพี่\" เขาถามขณะที่ปิ่นกำลังตกใจกับการกระทำของเขา \"ถ้าปิ่นไม่พูดพี่ก็ไม่รู้หรอกนะ\"
    ปิ่นก้มหน้างุด เธอไม่ได้โกรธสักหน่อย เธอกลัว กลัวว่าเขาจะไม่สนใจเธอ กลัวว่าเขาจะไม่รักเธออีกต่อไป กลัวผู้หญิงที่ชื่อมิว จะมาแย่งความสำคัญของเธอไป
    \"มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับคุณปิ่น\" เสียงยามเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง พลางมองคนนอกอย่างภู เขามีหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานที่และคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงต้องสอดส่องดูแลตามปกติ
    \"ไม่มีอะไรค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่ป้อง\" ปินหันไปพูดและยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันมาพูดกับภู
    \"พี่ภูกลับไปเถอะค่ะ ปิ่นไม่ได้โกรธ ไปก่อนนะคะ ปิ่นเหนื่อย อยากพักผ่อน\" ปิ่นพูดพลางเดินเข้าลิฟท์ แต่คนตัวสูงกลับเดินตามเข้าไปหน้าตาเฉย
   
    \"ขอพี่คุยด้วยไม่ได้เหรอ\" เขาพูดเสียงอ่อนกว่าเดิมมาก
    \"ไม่เห็นมีอะไรต้องคุยเลยนี่คะ\" ปิ่นค้าน
    \"ชั้นอะไรคะ\" เสียงวัยรุ่นผู้หญิงถามขึ้น เมื่อเห็นปิ่นไม่กดจุดหมายเสียที ปิ่นหันไปตอบ ก่อนที่จะหันมามองคนตัวสูงที่ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ ปิ่นก็ได้แต่ถอนใจแล้วหันไปมองทางอื่น ท่าทางของปิ่นทำให้ภูรู้ว่าปิ่นกำลังมีเรื่องในใจ ถ้าเขาเดาไม่ผิดก็คงเป็นเรื่องของ \"มิว\" เมื่อคืนเขาคงออกอาการมากเกินไป
    ในที่สุดปิ่นก็ต้องพาเขาขึ้นมาด้านบน ภูไม่เคยขึ้นมาข้างบนมาก่อน เพราะปิ่นไม่เคยอนุญาตเขาแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยสาเหตุของความไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในห้องกันตามลำพังสองคน เพราะเวลาหัวค่ำเช่นนี้กวางมักจะไปอยู่ที่ร้าน
    \"หิวไหม เดี๋ยวปิ่นจะหุงข้าว แล้วก็ต้มจืด พี่ภูสนใจไหมคะ\" ปิ่นถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ
    \"ปิ่นทำเองเหรอ\" เขาถามตาโต เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าปิ่นทำอาหารกินเอง
    \"ค่ะ เวลากวางกลับมาดึกๆ จะหิวมาก แล้วก็จะซัดทุกอย่าง ปิ่นเลยต้องทำกับข้าวเอาไว้ให้\" ปิ่นอธิบาย พลางเดินไปตรงครัว และจัดแจงหุงข้าว ภูวางแก้วน้ำที่ปิ่นส่งให้เมื่อครู่แล้วเดินไปหาปิ่น
    \"แล้วทำไมกวางไม่กินมาจากที่ร้านล่ะ\" ภูถามพลางสวมกอดเธอด้านหลังอย่างอดใจไว้ไม่ไหว ทำให้ปิ่นสะดุ้งเล็กน้อย และเบี่ยงตัวหลบ
    \"กวางบอกว่าชอบฝีมือปิ่นมากกว่า\" ปิ่นพูดพลางเดินที่ตู้เย็น หยิบผักและหมูออกมาเตรียม พร้อมกับเดินไปหยิบหม้อที่อยู่บนชั้น
    \"แล้วถ้าวันนึงเราแต่งงานกันกวางจะทำไงล่ะเนี่ย\"
   
    \"แกร้ง\" ปิ่นทำหม้อตกทันทีเมื่อภูพูดประโยคนั้นออกมา เล่นเอาภูอมยิ้มกับปฏิกิริยาของหญิงคนรัก ในใจก็นึกอยากจะแกล้งต่อ
    \"เพราะพี่คงไม่ให้เมียพี่ไปทำกับข้าวให้คนอื่นกินหรอกนะ พี่หวง\" เขาพูดพลางก้มลงจุดที่หม้อตก แล้วจับมือปิ่นเอาไว้
    ถ้าเป็นปกติปิ่นคงพูดอะไรไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่รู้ทำไมเธอจึงตัดสินใจที่จะเงียบ ปิ่นพยายามดึงมือของจากเขา แต่ก็ดูเหมือนว่ามันยากลำบากมากพอควรเลยทีเดียว
    \"ปิ่นติดใจเรื่องมิวใช่ไหม\" ภูถามขึ้น ทำให้ปิ่นเงยหน้ามามอง
    นี่คงเป็นข้อดีของปิ่นที่ภูชอบ แววตาที่ไม่เคยปกปิดอะไร แม้แต่เวลาที่ปิ่นนิ่งเฉย หรือเงียบงัน ปิ่นเม้มริมฝีปากแน่น พยายามเหลือเกินที่จะไม่ร้องไห้ออกมา ปิ่นไม่อยากเป็นคนเจ้าน้ำตา แต่ในหัวของปิ่นตอนนี้มีแต่ท่าทีที่เฉยเมยของเขาเมื่อคืนเต็มไปหมด เรื่องแค่นี้เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงทำให้เธอรู้สึกเจ็บในอกถึงเพียงนี้
    \"ปิ่น พี่กับมิวไม่มีอะไรต่อกันนะ มิวเป็นแค่เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย\" ภูพยายามอธิบาย
    \"พี่ภูรักเธอใช่ไหมคะ\" คำถามตรงๆ ง่ายๆ ของปิ่นทำให้ภูนิ่งเงียบ
    \"ทำไมปิ่นถามแบบนี้\" เขากลืนน้ำลายดังเอื้อก มองปิ่นด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ
    \"ถ้าพี่ภูรักเธอก็ปล่อยปิ่นไปเถอะค่ะ ปิ่นก็แค่คนที่เข้ามาชั่วคราว\" ตอนนี้ปิ่นไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป หยาดน้ำตาใสๆ ไหลลงมาช้าๆ คำพูดของปิ่นแม้จะเจือปนด้วยความน้อยใจ แต่ก็แฝงไปด้วยความจริงจังและหนักแน่น
    ภูดึงตัวปิ่นเข้ามาหาตัวเอง แล้วกอดเธอเอาไว้แน่น ตัวปิ่นสั่นไหวตามแรงสะอื้น ความอบอุ่นจากภูในตอนนี้มันเหมือนเข็มมากมายที่ทิ่มแทงเธอ
    \"พูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างหรือเปล่า พี่เคยบอกว่าพี่รักมิวเหรอ? ไม่เคย หรือว่าพี่เคยติดต่อกับเขา ก็ไม่มี คนที่สำคัญกับพี่คือคนที่อยู่ตรงหน้าพี่ตอนนี้ต่างหาก\" ภูพูดพร้อมกับกอดเธอแน่นขึ้น เขาเริ่มรู้สึกถึงความชื้นที่เสื้อของเขา ภูถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นคนที่เขาโอบกอดอยู่ไม่มีท่าทีที่จะหยุดร้อง
    เวลาผ่านไปสักพักปิ่นถึงจะขืนตัวออกจากอ้อมกอดของภู ทั้งสองมองตากันสักพัก ก่อนที่ปิ่นจะเป็นฝ่ายหลบสายตา แล้วหันหลังกลับไปเตรียมอาหาร ภูมองร่างบางที่หันไปเตรียมอาหารโดยไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย เขาถอนหายใจหนักๆ ก่อนที่จะตัดสินใจ
    \"ในเมื่อปิ่นต้องการให้พี่ไป พี่ก็จะไป ไปจากชีวิตปิ่น\"
    เสียงปิดเปิดและปิดประตูดังขึ้น ปิ่นแทบจะทรุดตัวลงตรงนั้น ขาของเธอหมดแรงไปเสียดื้อๆ แม้ว่าเธอจะเป็นคนบอกให้เขาไป แต่พอเขาไปจริงๆ ใจของเธอแทบจะขาดเสียให้ได้ เธอทรุดตัวลงกับพื้น ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อายใคร เธอรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าเสียเหลือเกินที่บอกเขาไปอย่างนั้น เพราะคำพูดของเธอมันทำให้เธอเสียเขาไป
..........................................................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น