ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : คำพูดของภู
    ภายในอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง สายลมภายนอกไม่อาจลอดเข้ามาในห้องที่มีสายลมเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศได้แม้แต่น้อย คนสองคนที่ยืนอยู่กันคนละมุมห้องต่างเงียบจมอยู่ในความคิดของตัวเอง บทสนทนาเมื่อครู่ทำให้ทั้งสองต่างเงียบงัน แต่คนละอย่างกันไป คนหนึ่งจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่เกาะกินหัวใจ อีกคนจมอยู่กับความเศร้าหมอง
    \"พี่หวังว่าผิงจะเข้าใจ\" เขาทำลายความเงียบขึ้น ด้วยการพูดประโยคอะไรสักประโยคที่อาจจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
    \"ทำไมพี่ภูคิดว่าผิงจะเข้าใจ ผิงไม่เข้าใจ\" ผิงตะโกนใส่หน้าภู น้ำตาไหลอาบแก้ม ความจริงแล้วเธอเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยล่ะ เข้าใจว่าเขาไม่เคยนึกรักเธอเลยแม้สักนิดเดียว เกือบ 1 ปีที่คบกันมา เธอก็เป็นได้เพียงคู่นอน และคู่ควงในบางเวลาเท่านั้น ไม่เคยได้เป็นมากกว่านี้ แล้วสิ่งที่เธอกลัวก็เกิดขึ้นจริงๆ เขาเจอคนที่เขารัก และเขากำลังจะจากเธอไป
    \"ทำไมค่ะพี่ภู ทำไมเราต้องเลิกติดต่อกันด้วย ผิงไม่เคยเรียกร้องอะไร\" ผิงเดินเข้าไปหาภู กอดเขาไว้ และซุกหน้าลงบนอกกว้าง เธอเคยหวังว่าสักวัน เขาจะหันมาจริงจังกับเธอ แต่ความจริงก็คือความจริงที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้
    \"พี่ทำไม่ได้ ถ้าพี่มีแฟนสักคน พี่จะให้ความสำคัญกับเธอ และจะมีแต่เธอคนเดียว ที่ผ่านมาพี่ไม่มีใครที่พี่จะคิดจริงจังด้วย แต่ตอนนี้พี่มีคนๆ นั้นแล้ว พี่ขอโทษผิง อย่าร้องไห้ให้พี่เลย\" เขาพูดพลางดันเธอออกจากตัว เช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา แล้วก้มลงจูบที่เปลือกตาของเธอ
    \"คนที่ชื่อปิ่นใช่ไหมค่ะ\" ผิงถามเสียงแผ่ว ใจของเธอจะขาดเสียให้ได้ ภูพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตอบรับ \"พี่ภูออกไปจากห้องผิงเถอะค่ะ ผิงไม่อยากเห็นหน้าพี่ภูแล้ว ไปสิ!!!\" ผิงตะโกนไล่เขาในคำสุดท้าย ก่อนที่จะเอามือปิดหน้าร้องไห้ตัวโยน ความจริงที่เธอพยายามที่จะปฏิเสธมาตลอด ความจริงที่ว่า เธอรักเขา
   
    คนสุดท้ายแล้วสินะ ภูคิดอย่างอ่อนล้า เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการบอกเลิกจะยากกว่าการบอกรักหลายเท่าตัวนัก แม้ว่าเขาจะไม่ได้รักใครสักคน แต่เขาก็อดที่จะสงสาร และรู้สึกผิดไม่ได้ โดยเฉพาะกับผิง เนื้อตัวที่สั่นเทาของผิงบอกเขาได้ดีถึงความเสียใจของเธอ วันนี้เขารู้สึกว่าเป็นผู้ชายที่เลวเสียเหลือเกิน เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันยิ่งกว่าการทำร้ายร่างกาย เพราะมันเป็นการทำร้ายจิตใจของคน แผลที่ร่างกายทายาสักพักก็หาย แต่แผลที่ใจนานเท่าไหร่ถึงจะหาย ไม่มีใครสามารถจะตอบได้
    \"พี่ภูเป็นอะไรคะ ทำหน้าเครียดเชียว\" เสียงหวานๆ ถามเขา ทำให้เขาตื่นจากภวังค์
    \"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก\" เขาฝืนยิ้มให้เธอ แต่นั่นก็เป็นยิ้มที่เฝื่อนที่สุด เท่าที่ปิ่นเคยเห็นเลย
    ปิ่นเองก็ไม่รู้ว่าวันนี้ภูเป็นอะไร พอมาถึงเขาก็นั่งหน้าเครียด และชวนเธอมานั่งที่สวนสาธารณะ และตั้งแต่เขามานั่งที่นี่ เขาก็เงียบ และไม่พูดจาอะไรสักคำ พอเธอถามเขาก็ถามคำตอบคำ และพยายามยิ้มให้กับเธอ ท่าทางของเขาทำให้ปิ่นรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ภูริเองไม่เคยมีท่าทีอย่างนี้มาก่อน ปิ่นเอื้อมมือที่แขนของเขา และบีบเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ เขาหันมามองเธอชั่วครู่ และดึงตัวเธอไปกอด การกระทำของเขาทำให้เธอตกใจและพยายามจะผลักเขาออกไป ด้วยความไม่สมควร
    \"ขอโทษครับ\" ภูกผละออกจากปิ่น แม้ว่าเขาและเธอจะรู้จักกันมาเกือบครึ่งปี และไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำ แต่เขาก็ไม่เคยเอ่ยคำรักกับเธอเลย มีแต่พูดเป็นนัยๆ การที่เขาทำกริยาแบบนี้ คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ แม้ว่าเขาอยากจะกอดเธอเอาไว้ ยามที่เขาเหนื่อยล้าเช่นนี้ก็ตาม
    \"ปิ่นไม่โกรธพี่นะ\" เขาพูดพลางมองดวงตาสีน้ำตาลกลมโตของเธอ
    \"ไม่โกรธค่ะ\" ปิ่นพูดขณะที่สบตาภู \"ถ้าพี่ภูบอกปิ่นว่าพี่ภูเป็นอะไร แต่ถ้าไม่ไว้ใจปิ่นก็ไม่เป็นไรค่ะ\" ปิ่นพูดเป็นเชิงน้อยใจทำให้ภูได้แต่ถอนหายใจ จะให้เขาบอกปิ่นได้ยังไงว่าเขากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ แต่ท่าทางของปิ่นตอนนี้ ไม่พูดอะไรก็คงไม่ได้
    \"ปิ่นเคยทำให้คนอื่นเสียใจไหม เสียใจจนร้องไห้จะเป็นจะตายน่ะ\"
    \"เคยค่ะ แต่ปิ่นก็ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นจะตายหรือเปล่า แต่ปิ่นรู้ในแววตาว่าเขาเสียใจมาก\" ปิ่นสลดไปนิดหน่อย เมื่อพูดถึงตอนนี้ แววตาของผู้ชายคนนึงปรากฏชัดตรงหน้าเธอ แววตาของการตัดพ้อ น้อยใจ และผิดหวัง
    \"ทำไมล่ะ\" เขาถามด้วยความแปลกใจ ท่าทางของปิ่นในตอนนี้ดูเจ็บปวด แม้ว่าเธอพยายามที่จะข่มมันเอาไว้แค่ไหนก็ตาม
    \"ปิ่นมีทางเดินของตัวเองค่ะ เขาเองก็มีทางเดินของเขา เมื่อเราเอามาบรรจบกันไม่ได้ก็ต้องจบลงไป และปิ่นก็เป็นคนทำให้มันจบเอง\"
    \"เขาเป็นคนดีไหม\" ภูถาม
    \"ดีค่ะ ดีมากๆ ด้วย อาจจะดีเกินไปสำหรับปิ่นด้วยซ้ำ ใครๆ ก็อิจฉาปิ่นที่ได้คบกับเขา แต่บางทีมันก็ทำให้ปิ่นอึดอัด\" ความเงียบเข้ามาครอบงำคนทั้งสองอีกครั้ง ภูลอบมองปิ่นอย่างพิจารณา ความรู้สึกที่ปิ่นมีต่อผู้ชายคนนั้นจะเหมือนกับเขาในเวลานี้หรือเปล่า บางทีเขาเองก็อดคิดไม่ได้ว่าปิ่นเองดีเกินไปสำหรับเขา แต่ความรู้สึกรัก และอยากครอบครองเธอมันก็มีมากกว่า แต่ผู้ชายที่ดีเกินไปสำหรับปิ่นงั้นเหรอ นี่แสดงว่าผู้ชายคนนั้นต้องดีสุดๆ ไปเลย เพราะขนาดปิ่นยังพูดแบบนี้ เขาอยากจะเห็นผู้ชายคนนั้นเสียแล้วสิ
    \"ปิ่นรักเขามากไหม\" คำถามของเขาทำให้ปิ่นหัวเราะร่วนขึ้นมา เขามองหน้าเธอด้วยความแปลกใจ
    \"ปิ่นถามพี่ภูก่อนนะค่ะ ว่าพี่ภูเป็นอะไร แต่พี่ภูไม่ตอบ แถมถามปิ่นกลับเสียอยางนี้ไม่ยุติธรรมเลย\" ปิ่นย่นจมูกใส่เขา ท่าทางของเธอ ทำให้เขาหัวเราะขึ้นมาบ้าง
    \"พี่ชอบขี้โกงอย่างนี้เสมอแหละ ปิ่นรับได้หรือเปล่าล่ะ\" เขาพูดแหย่เธอ ดูเหมือนว่าพี่ภูคนเดิมของปิ่นจะกลับมาแล้ว ปิ่นยิ้มบางๆ ด้วยความโล่งอก  \"พี่หิวแล้วล่ะ วันนี้กินอะไรกันดี\" ภูริพูดพลางฉุดปิ่นให้ลุกตาม น่าแปลกที่การคุยกับปิ่นเพียงไม่กี่ประโยคกลับทำให้จิตใจที่หนักอึ้งของเขาบรรเทาเบาบางลงไปบ้าง
    วันนี้ดูเหมือนว่าเชื้อของความรู้สึกผิดของภูได้แพร่กระจายไปสู่ตัวปิ่น โดยที่ปิ่นไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย พอหลังจากที่ปิ่นกลับมาถึงคอนโดแล้ว ปิ่นก็นั่งมองคอมพิวเตอร์ด้วยจิตใจที่เหม่อลอย ความตั้งใจที่จะทำงานไม่อยู่ในหัวสมองของเธอเลย กวางมองเพื่อนของเธอที่อยู่ในอาการเหม่อลอยอย่างสงสัย ก่อนที่จะเลื่อนเก้าอี้ไปนั่งข้างๆ เพื่อนของเธอ
    \"เป็นไรว่ะ\" กวางพูดพลางมองหน้าปิ่นนิ่ง \"คิดถึงเขาอีกแล้วเหรอ\" เขาในที่นี้ ทั้งกวางและปิ่นก็รู้ดีว่าหมายถึงใคร ทุกครั้งที่ปิ่นนิ่งเงียบ นั่นหมายความว่าปิ่นกำลังคิดถึงเรื่องเก่าๆ
    \"แกว่าฉันผิดไหม ที่ไม่เอาความรักเป็นตัวตั้ง\"  ปิ่นหันไปถามเพื่อนสาว
   
    \"แกไม่ผิดหรอกปิ่น ใครๆ ก็ต้องมีชีวิตของตัวเอง อีกอย่าง แกก็ไม่ได้รักเขาจนมากพอที่แกจะทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา จริงไหม ปล่อยเขาไปแหละดีแล้ว\" กวางพูดพลางเอนหัวปิ่นมาซบไหล่ และลูบหัวเพื่อนเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ
    \"ขอบใจว่ะกวาง แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลย\"
    \"ย่ะ เออ ว่าแต่เรื่องแกกับพี่ภูของแกไปถึงไหนแล้ว ควงกันไปควงกันมาสักพักแล้วไม่ใช่เหรอ\" กวางถามพลางทำหน้าเจ้าเล่ห์
    \"ไม่บอกหรอก เรื่องอะไรจะบอก\" ปิ่นลอยหน้าลอยตาพูด ทำให้กวางหมั่นไส้จนแทบจะถีบตกจากเก้าอี้จริงๆ
    ปิ่นกับกวางคุยกันอยู่สักพักก่อนที่กวางจะล้มตัวลงนอนดูหนังที่ปิ่นซื้อมาเมื่อตอนเย็น ส่วนปิ่นก็ก้มหน้าก้มตาพิมพ์งานอยู่หน้าคอม
   
    \"ห๊า!!! ช่วยบอกสิว่ากูหูฝาด นี่มึงบอกเลิกผู้หญิงทุกคนแล้วจริงจังกับผู้หญิงคนเดียว แถมเขายังไม่ได้ตอบรับมึงเป็นแฟนด้วย\"
    \"พูดเกินไปไอ้คี แค่ยังไม่ได้บอก ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ตอบรับ\" ภูริพูดพลางเอนหลังไปที่เก้าอี้สำนักงาน เขารู้ปฏิกิริยาของเพื่อนคนนี้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นยังไงเมื่อเขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
    \"แล้วทำไมไม่ไปบอกรักเขาก่อนแล้วค่อยเลิกกับสาวๆ ว่ะ อย่างงี้ถ้าเขาไม่รับรักแก แกก็แห้วสิ\" เสียงคีพูดพลางมองหน้าเพื่อนตัวเองล้อๆ
    \"ไม่ว่ะ ไม่อยากให้ใครเป็นตัวสำรอง อีกอย่าง ถ้าคิดจะคบกับปิ่นจริงๆ ก็ต้องแสดงความจริงใจ ตอนนี้จีบเขาก็ควรมีเขาคนเดียว จริงไหม\" ภูพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เขามักจะเป็นอย่างนี้เสมอ เวลาที่เขาต้องการคบใครสักคนจริงๆ ที่ไม่ใช่แค่ความต้องการทางกาย แต่เป็นความต้องการทางใจ
   
    หลังจากประโยคนั้น ภูก็หันหน้าไปหางานตรงหน้า ทิ้งให้คีมองดูภูอย่างครุ่นคิด ตอนนี้เขาชักอยากเห็นผู้หญิงที่ทำให้เพื่อนของเขาคิดอยากที่จะจริงจังอีกครั้ง แต่ถ้าเขาเดาไม่ผิด ผู้หญิงคนนั้นจะต้องตากลมโต ตัวเล็ก เหมือนตุ๊กตาแน่ๆ ก็สเปคของเพื่อนเขาคนนี้ มันเป็นแบบนี้นี่นา
   
    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ภูริมารับปิ่นถึงที่ทำงาน เขามักจะใช้เหตุผลว่าเขาเหงาที่จะกินข้าวคนเดียวเสมอๆ ทำให้ปิ่นใจอ่อนแทบจะทุกครั้ง จะมียกเว้นก็แต่เมื่อเธอจะต้องอยู่ที่ทำงานดึกๆ เพื่อปิดต้นฉบับ
    ครอบครัวของภูริอยู่ที่เชียงใหม่ทั้งหมด ทั้งพ่อแม่ พี่ชาย โดยที่บ้านของเขาเป็นไร่ส้มกินเนื้อที่มากอยู่ พี่ชายของเขาก็รับช่วงกิจการทางบ้าน ส่วนเขาเองกลับชอบงานทางสถาปัตยกรรมมากกว่า เขาจึงเลือกเรียนคณะสภาปัตย์ และเขาก็ได้เรียนสมใจ
    \"วันนี้กินข้าวที่ไหนดีครับปิ่น\" เขาหันมาถามหญิงสาวที่นั่งข้างๆ เขา ระหว่างที่เขากำลังขับรถ
    \"แล้วแต่พี่ภูสิคะ\" ปิ่นตอบยิ้มๆ ปิ่นมักจะตามใจภูเสมอ ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
    \"แล้วแต่พี่อีกแล้ว พี่ก็อยากตามใจปิ่นบ้าง ไม่รู้แหละ วันนี้ปิ่นตัดสินใจ\" เขาพูดตัดบท ปิ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจ
    \"เป็นร้านมะตะบะที่ท่าพระอาทิตย์ไหมคะ\" ปิ่นเสนอ ชายหนุ่มข้างๆ ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากขับรถไปที่ร้าน
   
    ความจอแจของผู้คนทำให้ภูถึงกับทำหน้าเซ็งด้วยความเบื่อหน่าย ส่วนใหญ่แล้วเขามักจะเลือกร้านที่คนน้อยๆ แม้จะราคาแพงหน่อย แต่เขาก็ไม่เคยเกี่ยง ปิ่นเดินนำเขาขึ้นไปยังชั้นสองของร้าน ผู้คนก็จอแจไม่แพ้ชั้นล่างแม้แต่น้อย จะดีหน่อยก็ตรงที่ไม่มีควันจากอาหารทำให้หงุดหงิดใจ จะเป็นความโชคดีหรืออะไรไม่ทราบ ที่มีโต๊ะเล็กๆ พอให้เขาและปิ่นนั่งได้อยู่โต๊ะหนึ่งอยู่มุมหนึ่งของร้าน
    \"ไม่อร่อยเหรอคะ\" เสียงปิ่นถามขึ้น เมื่อเห็นภูทำหน้าเบื่อโลก ความจริงอาหารก็อร่อยอยู่ แต่ความแออัดของร้านทำให้เขาอึดอัด ความจริงมันก็ไม่ได้เป็นความผิดของปิ่น แต่ว่าเขาเองเป็นคนที่ไม่ชอบที่ที่ผู้คนพลุกพล่านและแออัด ทำให้ครั้งนี้นับเป็นครั้ง 2 ที่เขามีท่าทีเช่นนี้ ส่วนครั้งแรกนั้นก็เมื่อปิ่นชวนเขาไปสวนจตุจักร เมื่อครั้งตอนที่ไปสวนจตุจักรนั้นทีแรกเขาก็บอกปัดไป แต่พอรู้ว่าปิ่นไปคนเดียว เขาก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ ก็เลยต้องจำใจมาด้วย ครั้งนั้นเขาเองก็ทำหน้าเบื่อหน่ายไม่แพ้ครั้งนี้เหมือนกัน และอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ทำให้ปิ่นต้องจำใจกลับโดยที่ยังไม่ได้ซื้ออะไรสักชิ้น
    \"เปล่า\" เขายิ้มฝืนๆ ให้ปิ่น ทำให้ปิ่นหน้าเจื่อนไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาเห็นปิ่นทำหน้าอย่างนั้น เขาก็อดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้ เขาขยี้หัวเธอเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ เขาจะโกรธเธอก็ไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนบอกให้เธอเป็นคนเลือกร้านเองนี่นะ
    \"งั้นชิมนี่หน่อยนะค่ะ\" ปิ่นตักนู่นตักนี่ให้เขากินอย่างเอาใจ แล้วก็ชวนเขาคุยนู่นคุยนี่ สักพักรสชาติอาหาร และคนตรงหน้าของเขาก็ทำให้เขาลืมความจอแจของร้านไปได้อย่างน่าประหลาด
    หลังจากทานข้าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปิ่นก็ชวนภูมานั่งมองแม่น้ำเจ้าพระยายามดึก เขาและเธอเลือกนั่งที่ม้านั่งอยู่อยู่ริมน้ำ แสงไฟจากโคมไฟส่องอ่อนๆ แต่ก็พอเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้ชัดเจน ตอนนี้ดูเหมือนว่าอารมณ์ของภูจะกลับมาอยู่ที่ปกติแล้ว เขาคุยเล่นสนุกสนานเหมือนเคย
    \"เออใช่ปิ่น เสาร์หน้าไปไหนหรือเปล่า\" เขาถามขึ้น
    \"ไม่รู้เลยค่ะ แต่คิดว่าไม่น่าไปไหน ทำไมเหรอคะ\" ปิ่นมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
    \"เพื่อนๆ พี่ มันนัดไปเที่ยวทะเลกัน ปิ่นไปด้วยกันนะ\" เขาถามเชิงบังคับ แม้ว่าเขากับเธอจะไม่ได้บอกคบกันอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยความที่ปิ่นมักจะตามใจภูเสมอ ทำให้เขาอดที่จะได้ใจไม่ได้
    \"อย่าเลยค่ะ พี่ภูไปกับเพื่อนเถอะ ปิ่นไปด้วยเดี๋ยวจะหมดสนุกกันเปล่าๆ\"
    \"ไปเถอะ พวกมันเอาแฟนไปทั้งนั้น พี่ไปคนเดียวเบื่อแย่เลย\" คำพูดของเขาทำให้เธอนิ่งไป นี่เขาหมายความว่าอะไรกัน เขากับเธอเป็นอะไรกัน ทุกวันนี้ยังคลุมเคลือ แม้ว่าเขาจะแสดงท่าทีชัดเจน แต่ก็ไม่มีคำใดออกจากปากของเขาแม้แต่คำเดียว
    ภูหันมามองปิ่นที่นั่งจมอยู่กับความคิดสักครู่หนึ่ง เขาพอเดาออกว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่ เขาเลื่อนมือของเขาไปคว้ามือของเธออย่างแผ่วเบา ทำให้ปิ่นหันมามองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ
    \"ปิ่นไปเถอะนะ ไปในฐานะแฟนพี่ไง\" คำพูดที่เหมือนจะโมเมของเขา ทำให้ปิ่นหน้าร้อนวาบขึ้นมาทันที นี่เขาไม่เคยพูดอะไรกับเธอ แถมยังจะมาโมเมอย่างนี้อีกเหรอ แต่ไม่ทันที่เธอจะพูดปฏิเสธ เขาก็พูดขึ้นมาก่อน \"อย่าปฏิเสธนะ เราโทรคุยกันทุกวัน ไปกินข้าวเย็นด้วยกันแทบทุกวัน วันหยุดก็ไปดูหนังด้วยกัน อย่างงี้ไม่เรียกว่าแฟนแล้วเขาจะเรียกว่าอะไร ไหนบอกพี่มาสิ\"
    จริงอย่างที่เขาพูด ช่วงเดือนนี้เขากับเธออยู่ด้วยกันแทบจะทุกนาทีที่เขาและเธอมีเวลาว่างตรงกัน ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ตั้งแต่เขาบอกเลิกกับบรรดาสาวๆ ของเขา เขาก็ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปที่ปิ่น
    \"เป็นแฟนกับพี่นะครับ\" เขาพูดพลางยกมือของเธอมาจูบเบาๆ ตอนนี้ปิ่นทำอะไรไม่ถูกแล้ว เธอนั่งตัวแข็ง ไม่มีแรงแม้แต่จะขัดขืนหรือพูดอะไรออกไป \"ว่าไงครับ\"
    ปิ่นหันมามองหน้าภูที่กำลังจ้องมองเธออยู่อย่างคาดคั้นเอาคำตอบ แต่ตอนนี้ปิ่นไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เธอพูดไม่ออกเลยต่างหาก ปิ่นจึงได้แต่นั่งนิ่ง แล้วก็หลบตาด้วยความเขินอาย
    \"ปิ่นรังเกียจพี่ใช่ไหม งั้นพี่จะโดดน้ำตายตรงนี้เนี่ยแหละ\" เขาแกล้งทำหน้าเศร้า ทำให้ปิ่นแอบขำ เพราะรู้ว่าเขาเริ่มที่จะแหย่เธอเล่นอีกแล้ว
    \"ขำเหรอปิ่น ใช่สิ พี่มันไม่มีค่า พี่จะโดดน้ำเดี๋ยวนี้แหละ\" ภูพูดจบก็ลุกขึ้นไปที่รั้วแล้วทำท่าปีน ด้วยความตกใจทำให้ปิ่นรีบไปคว้าแขนเขาเอาไว้ แม้จะรู้ว่าเขาไม่ทำจริง แต่เธอก็กลัวใจของเขา เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าถ้าเธอไม่ห้าม เขาจะกล้าบ้าบิ่นกระโดดลงไปหรือเปล่า
    \"พี่ภูอย่าเล่นแบบนี้สิคะ\" ปิ่นพูดเสียงเบา คนที่อยู่บริเวณนั้นเริ่มหันมามอง
    \"พี่ไม่ได้เล่นนะ พี่เอาจริง\" เขาแกล้งทำหน้าจริงจัง แต่นัยน์ตาเป็นประกาย ทำให้ปิ่นอดที่จะก้มหน้าขำไม่ได้
    \"ค่ะๆ เอาจริงก็เอาจริง แต่มานั่งเถอะน้า นะคะ\" ปิ่นกระตุกแขนเขาเบาๆ ทำให้ภูหันมามองหน้าปิ่นอย่างเจ้าเล่ห์
    \"ปิ่นบอกพี่มาก่อนว่า ปิ่นรังเกียจพี่หรือเปล่า\" เขาถามพลางจ้องหน้าเธอนิ่ง ปิ่นยิ้มและส่ายหัว ทำให้ภูแอบยิ้มด้วยความพึงพอใจ
    \"งั้นปิ่นเป็นแฟนกับพี่นะ\" เขาถาม แต่ปิ่นกลับนิ่งเงียบแล้วก้มหน้าก้มตาไปเสียอย่างนั้น เขาแอบอมยิ้ม เขารู้ดีว่าตอนนี้เธอกำลังเขิน ผู้หญิงอะไรน่ารักเป็นบ้าเลย เขาคิดอย่างขบขัน \"งั้นพี่จะโดดละนะ\" เขาพูดพลางทำท่าจะกระโดด ทำให้ปิ่นตกใจ รีบคว้าแขนเขาเอาไว้
    \"ค่ะ พี่ภู ปิ่นยอมแล้วค่ะ ลงมาเถอะค่ะ\" ปิ่นพูดประโยคหลังเสียงเบา ทำให้ภูยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วคว้าตัวปิ่นมากอด ปิ่นก็ได้แต่ดิ้นขลุกขลัก \"ปล่อยปิ่นนะ\"
    \"ไม่ปล่อย พี่ดีใจนี่นา\"
   
    \"พี่ภูค้า\" ปิ่นทำเสียงอ่อนเสียงหวาน ทำให้ภูใจอ่อน ปล่อยปิ่นด้วยความเสียดาย
   
    \"พี่รักปิ่นนะ รักมากด้วย\" เขาพูดพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ สิ่งที่เขาสื่อออกมาทางสายตาทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้โกหกเธอแม้แต่น้อย แต่ปิ่นก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากพยักหน้าเบาๆ \"แล้วปิ่นล่ะ คิดยังไงกับพี่ ไม่ตอบพี่โดดน้ำนะ\"
    \"ปิ่นไม่รู้\" ปิ่นตอบเสียงอ่อย เขาไม่รู้ว่าจะตอบเขาว่ายังไงดี รักเหรอ มันจะเร็วไปไหม ถ้าพูดถึงว่าชอบ เธอชอบเขาแน่ๆ แต่รักหรือเปล่าเธอไม่แน่ใจ
    \"ไม่เป็นไร สักวันพี่จะทำให้ปิ่นรักพี่จนหมดหัวใจ\" เขาพูดพลางหมายมั่น ทำให้ปิ่นแอบอมยิ้มน้อยๆ ปิ่นไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เขาสามารถจะทำให้เธอรักจนหมดใจได้อย่างที่เขาว่าจริงๆ
*****************************************************************
แมวส้มคุย ---- ขอเร่งปิดเรื่อง โดยขยับมา 1 สเต๊ปนะจ๊ะ โดยจะลงทุกวันที่ 6 หารลงตัว ( 6 - 12 - 18 - 24 - 30)
    \"พี่หวังว่าผิงจะเข้าใจ\" เขาทำลายความเงียบขึ้น ด้วยการพูดประโยคอะไรสักประโยคที่อาจจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
    \"ทำไมพี่ภูคิดว่าผิงจะเข้าใจ ผิงไม่เข้าใจ\" ผิงตะโกนใส่หน้าภู น้ำตาไหลอาบแก้ม ความจริงแล้วเธอเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยล่ะ เข้าใจว่าเขาไม่เคยนึกรักเธอเลยแม้สักนิดเดียว เกือบ 1 ปีที่คบกันมา เธอก็เป็นได้เพียงคู่นอน และคู่ควงในบางเวลาเท่านั้น ไม่เคยได้เป็นมากกว่านี้ แล้วสิ่งที่เธอกลัวก็เกิดขึ้นจริงๆ เขาเจอคนที่เขารัก และเขากำลังจะจากเธอไป
    \"ทำไมค่ะพี่ภู ทำไมเราต้องเลิกติดต่อกันด้วย ผิงไม่เคยเรียกร้องอะไร\" ผิงเดินเข้าไปหาภู กอดเขาไว้ และซุกหน้าลงบนอกกว้าง เธอเคยหวังว่าสักวัน เขาจะหันมาจริงจังกับเธอ แต่ความจริงก็คือความจริงที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้
    \"พี่ทำไม่ได้ ถ้าพี่มีแฟนสักคน พี่จะให้ความสำคัญกับเธอ และจะมีแต่เธอคนเดียว ที่ผ่านมาพี่ไม่มีใครที่พี่จะคิดจริงจังด้วย แต่ตอนนี้พี่มีคนๆ นั้นแล้ว พี่ขอโทษผิง อย่าร้องไห้ให้พี่เลย\" เขาพูดพลางดันเธอออกจากตัว เช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา แล้วก้มลงจูบที่เปลือกตาของเธอ
    \"คนที่ชื่อปิ่นใช่ไหมค่ะ\" ผิงถามเสียงแผ่ว ใจของเธอจะขาดเสียให้ได้ ภูพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตอบรับ \"พี่ภูออกไปจากห้องผิงเถอะค่ะ ผิงไม่อยากเห็นหน้าพี่ภูแล้ว ไปสิ!!!\" ผิงตะโกนไล่เขาในคำสุดท้าย ก่อนที่จะเอามือปิดหน้าร้องไห้ตัวโยน ความจริงที่เธอพยายามที่จะปฏิเสธมาตลอด ความจริงที่ว่า เธอรักเขา
   
    คนสุดท้ายแล้วสินะ ภูคิดอย่างอ่อนล้า เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการบอกเลิกจะยากกว่าการบอกรักหลายเท่าตัวนัก แม้ว่าเขาจะไม่ได้รักใครสักคน แต่เขาก็อดที่จะสงสาร และรู้สึกผิดไม่ได้ โดยเฉพาะกับผิง เนื้อตัวที่สั่นเทาของผิงบอกเขาได้ดีถึงความเสียใจของเธอ วันนี้เขารู้สึกว่าเป็นผู้ชายที่เลวเสียเหลือเกิน เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันยิ่งกว่าการทำร้ายร่างกาย เพราะมันเป็นการทำร้ายจิตใจของคน แผลที่ร่างกายทายาสักพักก็หาย แต่แผลที่ใจนานเท่าไหร่ถึงจะหาย ไม่มีใครสามารถจะตอบได้
    \"พี่ภูเป็นอะไรคะ ทำหน้าเครียดเชียว\" เสียงหวานๆ ถามเขา ทำให้เขาตื่นจากภวังค์
    \"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก\" เขาฝืนยิ้มให้เธอ แต่นั่นก็เป็นยิ้มที่เฝื่อนที่สุด เท่าที่ปิ่นเคยเห็นเลย
    ปิ่นเองก็ไม่รู้ว่าวันนี้ภูเป็นอะไร พอมาถึงเขาก็นั่งหน้าเครียด และชวนเธอมานั่งที่สวนสาธารณะ และตั้งแต่เขามานั่งที่นี่ เขาก็เงียบ และไม่พูดจาอะไรสักคำ พอเธอถามเขาก็ถามคำตอบคำ และพยายามยิ้มให้กับเธอ ท่าทางของเขาทำให้ปิ่นรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ภูริเองไม่เคยมีท่าทีอย่างนี้มาก่อน ปิ่นเอื้อมมือที่แขนของเขา และบีบเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ เขาหันมามองเธอชั่วครู่ และดึงตัวเธอไปกอด การกระทำของเขาทำให้เธอตกใจและพยายามจะผลักเขาออกไป ด้วยความไม่สมควร
    \"ขอโทษครับ\" ภูกผละออกจากปิ่น แม้ว่าเขาและเธอจะรู้จักกันมาเกือบครึ่งปี และไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำ แต่เขาก็ไม่เคยเอ่ยคำรักกับเธอเลย มีแต่พูดเป็นนัยๆ การที่เขาทำกริยาแบบนี้ คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ แม้ว่าเขาอยากจะกอดเธอเอาไว้ ยามที่เขาเหนื่อยล้าเช่นนี้ก็ตาม
    \"ปิ่นไม่โกรธพี่นะ\" เขาพูดพลางมองดวงตาสีน้ำตาลกลมโตของเธอ
    \"ไม่โกรธค่ะ\" ปิ่นพูดขณะที่สบตาภู \"ถ้าพี่ภูบอกปิ่นว่าพี่ภูเป็นอะไร แต่ถ้าไม่ไว้ใจปิ่นก็ไม่เป็นไรค่ะ\" ปิ่นพูดเป็นเชิงน้อยใจทำให้ภูได้แต่ถอนหายใจ จะให้เขาบอกปิ่นได้ยังไงว่าเขากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ แต่ท่าทางของปิ่นตอนนี้ ไม่พูดอะไรก็คงไม่ได้
    \"ปิ่นเคยทำให้คนอื่นเสียใจไหม เสียใจจนร้องไห้จะเป็นจะตายน่ะ\"
    \"เคยค่ะ แต่ปิ่นก็ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นจะตายหรือเปล่า แต่ปิ่นรู้ในแววตาว่าเขาเสียใจมาก\" ปิ่นสลดไปนิดหน่อย เมื่อพูดถึงตอนนี้ แววตาของผู้ชายคนนึงปรากฏชัดตรงหน้าเธอ แววตาของการตัดพ้อ น้อยใจ และผิดหวัง
    \"ทำไมล่ะ\" เขาถามด้วยความแปลกใจ ท่าทางของปิ่นในตอนนี้ดูเจ็บปวด แม้ว่าเธอพยายามที่จะข่มมันเอาไว้แค่ไหนก็ตาม
    \"ปิ่นมีทางเดินของตัวเองค่ะ เขาเองก็มีทางเดินของเขา เมื่อเราเอามาบรรจบกันไม่ได้ก็ต้องจบลงไป และปิ่นก็เป็นคนทำให้มันจบเอง\"
    \"เขาเป็นคนดีไหม\" ภูถาม
    \"ดีค่ะ ดีมากๆ ด้วย อาจจะดีเกินไปสำหรับปิ่นด้วยซ้ำ ใครๆ ก็อิจฉาปิ่นที่ได้คบกับเขา แต่บางทีมันก็ทำให้ปิ่นอึดอัด\" ความเงียบเข้ามาครอบงำคนทั้งสองอีกครั้ง ภูลอบมองปิ่นอย่างพิจารณา ความรู้สึกที่ปิ่นมีต่อผู้ชายคนนั้นจะเหมือนกับเขาในเวลานี้หรือเปล่า บางทีเขาเองก็อดคิดไม่ได้ว่าปิ่นเองดีเกินไปสำหรับเขา แต่ความรู้สึกรัก และอยากครอบครองเธอมันก็มีมากกว่า แต่ผู้ชายที่ดีเกินไปสำหรับปิ่นงั้นเหรอ นี่แสดงว่าผู้ชายคนนั้นต้องดีสุดๆ ไปเลย เพราะขนาดปิ่นยังพูดแบบนี้ เขาอยากจะเห็นผู้ชายคนนั้นเสียแล้วสิ
    \"ปิ่นรักเขามากไหม\" คำถามของเขาทำให้ปิ่นหัวเราะร่วนขึ้นมา เขามองหน้าเธอด้วยความแปลกใจ
    \"ปิ่นถามพี่ภูก่อนนะค่ะ ว่าพี่ภูเป็นอะไร แต่พี่ภูไม่ตอบ แถมถามปิ่นกลับเสียอยางนี้ไม่ยุติธรรมเลย\" ปิ่นย่นจมูกใส่เขา ท่าทางของเธอ ทำให้เขาหัวเราะขึ้นมาบ้าง
    \"พี่ชอบขี้โกงอย่างนี้เสมอแหละ ปิ่นรับได้หรือเปล่าล่ะ\" เขาพูดแหย่เธอ ดูเหมือนว่าพี่ภูคนเดิมของปิ่นจะกลับมาแล้ว ปิ่นยิ้มบางๆ ด้วยความโล่งอก  \"พี่หิวแล้วล่ะ วันนี้กินอะไรกันดี\" ภูริพูดพลางฉุดปิ่นให้ลุกตาม น่าแปลกที่การคุยกับปิ่นเพียงไม่กี่ประโยคกลับทำให้จิตใจที่หนักอึ้งของเขาบรรเทาเบาบางลงไปบ้าง
    วันนี้ดูเหมือนว่าเชื้อของความรู้สึกผิดของภูได้แพร่กระจายไปสู่ตัวปิ่น โดยที่ปิ่นไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย พอหลังจากที่ปิ่นกลับมาถึงคอนโดแล้ว ปิ่นก็นั่งมองคอมพิวเตอร์ด้วยจิตใจที่เหม่อลอย ความตั้งใจที่จะทำงานไม่อยู่ในหัวสมองของเธอเลย กวางมองเพื่อนของเธอที่อยู่ในอาการเหม่อลอยอย่างสงสัย ก่อนที่จะเลื่อนเก้าอี้ไปนั่งข้างๆ เพื่อนของเธอ
    \"เป็นไรว่ะ\" กวางพูดพลางมองหน้าปิ่นนิ่ง \"คิดถึงเขาอีกแล้วเหรอ\" เขาในที่นี้ ทั้งกวางและปิ่นก็รู้ดีว่าหมายถึงใคร ทุกครั้งที่ปิ่นนิ่งเงียบ นั่นหมายความว่าปิ่นกำลังคิดถึงเรื่องเก่าๆ
    \"แกว่าฉันผิดไหม ที่ไม่เอาความรักเป็นตัวตั้ง\"  ปิ่นหันไปถามเพื่อนสาว
   
    \"แกไม่ผิดหรอกปิ่น ใครๆ ก็ต้องมีชีวิตของตัวเอง อีกอย่าง แกก็ไม่ได้รักเขาจนมากพอที่แกจะทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา จริงไหม ปล่อยเขาไปแหละดีแล้ว\" กวางพูดพลางเอนหัวปิ่นมาซบไหล่ และลูบหัวเพื่อนเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ
    \"ขอบใจว่ะกวาง แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลย\"
    \"ย่ะ เออ ว่าแต่เรื่องแกกับพี่ภูของแกไปถึงไหนแล้ว ควงกันไปควงกันมาสักพักแล้วไม่ใช่เหรอ\" กวางถามพลางทำหน้าเจ้าเล่ห์
    \"ไม่บอกหรอก เรื่องอะไรจะบอก\" ปิ่นลอยหน้าลอยตาพูด ทำให้กวางหมั่นไส้จนแทบจะถีบตกจากเก้าอี้จริงๆ
    ปิ่นกับกวางคุยกันอยู่สักพักก่อนที่กวางจะล้มตัวลงนอนดูหนังที่ปิ่นซื้อมาเมื่อตอนเย็น ส่วนปิ่นก็ก้มหน้าก้มตาพิมพ์งานอยู่หน้าคอม
   
    \"ห๊า!!! ช่วยบอกสิว่ากูหูฝาด นี่มึงบอกเลิกผู้หญิงทุกคนแล้วจริงจังกับผู้หญิงคนเดียว แถมเขายังไม่ได้ตอบรับมึงเป็นแฟนด้วย\"
    \"พูดเกินไปไอ้คี แค่ยังไม่ได้บอก ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ตอบรับ\" ภูริพูดพลางเอนหลังไปที่เก้าอี้สำนักงาน เขารู้ปฏิกิริยาของเพื่อนคนนี้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นยังไงเมื่อเขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
    \"แล้วทำไมไม่ไปบอกรักเขาก่อนแล้วค่อยเลิกกับสาวๆ ว่ะ อย่างงี้ถ้าเขาไม่รับรักแก แกก็แห้วสิ\" เสียงคีพูดพลางมองหน้าเพื่อนตัวเองล้อๆ
    \"ไม่ว่ะ ไม่อยากให้ใครเป็นตัวสำรอง อีกอย่าง ถ้าคิดจะคบกับปิ่นจริงๆ ก็ต้องแสดงความจริงใจ ตอนนี้จีบเขาก็ควรมีเขาคนเดียว จริงไหม\" ภูพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เขามักจะเป็นอย่างนี้เสมอ เวลาที่เขาต้องการคบใครสักคนจริงๆ ที่ไม่ใช่แค่ความต้องการทางกาย แต่เป็นความต้องการทางใจ
   
    หลังจากประโยคนั้น ภูก็หันหน้าไปหางานตรงหน้า ทิ้งให้คีมองดูภูอย่างครุ่นคิด ตอนนี้เขาชักอยากเห็นผู้หญิงที่ทำให้เพื่อนของเขาคิดอยากที่จะจริงจังอีกครั้ง แต่ถ้าเขาเดาไม่ผิด ผู้หญิงคนนั้นจะต้องตากลมโต ตัวเล็ก เหมือนตุ๊กตาแน่ๆ ก็สเปคของเพื่อนเขาคนนี้ มันเป็นแบบนี้นี่นา
   
    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ภูริมารับปิ่นถึงที่ทำงาน เขามักจะใช้เหตุผลว่าเขาเหงาที่จะกินข้าวคนเดียวเสมอๆ ทำให้ปิ่นใจอ่อนแทบจะทุกครั้ง จะมียกเว้นก็แต่เมื่อเธอจะต้องอยู่ที่ทำงานดึกๆ เพื่อปิดต้นฉบับ
    ครอบครัวของภูริอยู่ที่เชียงใหม่ทั้งหมด ทั้งพ่อแม่ พี่ชาย โดยที่บ้านของเขาเป็นไร่ส้มกินเนื้อที่มากอยู่ พี่ชายของเขาก็รับช่วงกิจการทางบ้าน ส่วนเขาเองกลับชอบงานทางสถาปัตยกรรมมากกว่า เขาจึงเลือกเรียนคณะสภาปัตย์ และเขาก็ได้เรียนสมใจ
    \"วันนี้กินข้าวที่ไหนดีครับปิ่น\" เขาหันมาถามหญิงสาวที่นั่งข้างๆ เขา ระหว่างที่เขากำลังขับรถ
    \"แล้วแต่พี่ภูสิคะ\" ปิ่นตอบยิ้มๆ ปิ่นมักจะตามใจภูเสมอ ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
    \"แล้วแต่พี่อีกแล้ว พี่ก็อยากตามใจปิ่นบ้าง ไม่รู้แหละ วันนี้ปิ่นตัดสินใจ\" เขาพูดตัดบท ปิ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจ
    \"เป็นร้านมะตะบะที่ท่าพระอาทิตย์ไหมคะ\" ปิ่นเสนอ ชายหนุ่มข้างๆ ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากขับรถไปที่ร้าน
   
    ความจอแจของผู้คนทำให้ภูถึงกับทำหน้าเซ็งด้วยความเบื่อหน่าย ส่วนใหญ่แล้วเขามักจะเลือกร้านที่คนน้อยๆ แม้จะราคาแพงหน่อย แต่เขาก็ไม่เคยเกี่ยง ปิ่นเดินนำเขาขึ้นไปยังชั้นสองของร้าน ผู้คนก็จอแจไม่แพ้ชั้นล่างแม้แต่น้อย จะดีหน่อยก็ตรงที่ไม่มีควันจากอาหารทำให้หงุดหงิดใจ จะเป็นความโชคดีหรืออะไรไม่ทราบ ที่มีโต๊ะเล็กๆ พอให้เขาและปิ่นนั่งได้อยู่โต๊ะหนึ่งอยู่มุมหนึ่งของร้าน
    \"ไม่อร่อยเหรอคะ\" เสียงปิ่นถามขึ้น เมื่อเห็นภูทำหน้าเบื่อโลก ความจริงอาหารก็อร่อยอยู่ แต่ความแออัดของร้านทำให้เขาอึดอัด ความจริงมันก็ไม่ได้เป็นความผิดของปิ่น แต่ว่าเขาเองเป็นคนที่ไม่ชอบที่ที่ผู้คนพลุกพล่านและแออัด ทำให้ครั้งนี้นับเป็นครั้ง 2 ที่เขามีท่าทีเช่นนี้ ส่วนครั้งแรกนั้นก็เมื่อปิ่นชวนเขาไปสวนจตุจักร เมื่อครั้งตอนที่ไปสวนจตุจักรนั้นทีแรกเขาก็บอกปัดไป แต่พอรู้ว่าปิ่นไปคนเดียว เขาก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ ก็เลยต้องจำใจมาด้วย ครั้งนั้นเขาเองก็ทำหน้าเบื่อหน่ายไม่แพ้ครั้งนี้เหมือนกัน และอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ทำให้ปิ่นต้องจำใจกลับโดยที่ยังไม่ได้ซื้ออะไรสักชิ้น
    \"เปล่า\" เขายิ้มฝืนๆ ให้ปิ่น ทำให้ปิ่นหน้าเจื่อนไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาเห็นปิ่นทำหน้าอย่างนั้น เขาก็อดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้ เขาขยี้หัวเธอเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ เขาจะโกรธเธอก็ไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนบอกให้เธอเป็นคนเลือกร้านเองนี่นะ
    \"งั้นชิมนี่หน่อยนะค่ะ\" ปิ่นตักนู่นตักนี่ให้เขากินอย่างเอาใจ แล้วก็ชวนเขาคุยนู่นคุยนี่ สักพักรสชาติอาหาร และคนตรงหน้าของเขาก็ทำให้เขาลืมความจอแจของร้านไปได้อย่างน่าประหลาด
    หลังจากทานข้าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปิ่นก็ชวนภูมานั่งมองแม่น้ำเจ้าพระยายามดึก เขาและเธอเลือกนั่งที่ม้านั่งอยู่อยู่ริมน้ำ แสงไฟจากโคมไฟส่องอ่อนๆ แต่ก็พอเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้ชัดเจน ตอนนี้ดูเหมือนว่าอารมณ์ของภูจะกลับมาอยู่ที่ปกติแล้ว เขาคุยเล่นสนุกสนานเหมือนเคย
    \"เออใช่ปิ่น เสาร์หน้าไปไหนหรือเปล่า\" เขาถามขึ้น
    \"ไม่รู้เลยค่ะ แต่คิดว่าไม่น่าไปไหน ทำไมเหรอคะ\" ปิ่นมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
    \"เพื่อนๆ พี่ มันนัดไปเที่ยวทะเลกัน ปิ่นไปด้วยกันนะ\" เขาถามเชิงบังคับ แม้ว่าเขากับเธอจะไม่ได้บอกคบกันอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยความที่ปิ่นมักจะตามใจภูเสมอ ทำให้เขาอดที่จะได้ใจไม่ได้
    \"อย่าเลยค่ะ พี่ภูไปกับเพื่อนเถอะ ปิ่นไปด้วยเดี๋ยวจะหมดสนุกกันเปล่าๆ\"
    \"ไปเถอะ พวกมันเอาแฟนไปทั้งนั้น พี่ไปคนเดียวเบื่อแย่เลย\" คำพูดของเขาทำให้เธอนิ่งไป นี่เขาหมายความว่าอะไรกัน เขากับเธอเป็นอะไรกัน ทุกวันนี้ยังคลุมเคลือ แม้ว่าเขาจะแสดงท่าทีชัดเจน แต่ก็ไม่มีคำใดออกจากปากของเขาแม้แต่คำเดียว
    ภูหันมามองปิ่นที่นั่งจมอยู่กับความคิดสักครู่หนึ่ง เขาพอเดาออกว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่ เขาเลื่อนมือของเขาไปคว้ามือของเธออย่างแผ่วเบา ทำให้ปิ่นหันมามองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ
    \"ปิ่นไปเถอะนะ ไปในฐานะแฟนพี่ไง\" คำพูดที่เหมือนจะโมเมของเขา ทำให้ปิ่นหน้าร้อนวาบขึ้นมาทันที นี่เขาไม่เคยพูดอะไรกับเธอ แถมยังจะมาโมเมอย่างนี้อีกเหรอ แต่ไม่ทันที่เธอจะพูดปฏิเสธ เขาก็พูดขึ้นมาก่อน \"อย่าปฏิเสธนะ เราโทรคุยกันทุกวัน ไปกินข้าวเย็นด้วยกันแทบทุกวัน วันหยุดก็ไปดูหนังด้วยกัน อย่างงี้ไม่เรียกว่าแฟนแล้วเขาจะเรียกว่าอะไร ไหนบอกพี่มาสิ\"
    จริงอย่างที่เขาพูด ช่วงเดือนนี้เขากับเธออยู่ด้วยกันแทบจะทุกนาทีที่เขาและเธอมีเวลาว่างตรงกัน ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ตั้งแต่เขาบอกเลิกกับบรรดาสาวๆ ของเขา เขาก็ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปที่ปิ่น
    \"เป็นแฟนกับพี่นะครับ\" เขาพูดพลางยกมือของเธอมาจูบเบาๆ ตอนนี้ปิ่นทำอะไรไม่ถูกแล้ว เธอนั่งตัวแข็ง ไม่มีแรงแม้แต่จะขัดขืนหรือพูดอะไรออกไป \"ว่าไงครับ\"
    ปิ่นหันมามองหน้าภูที่กำลังจ้องมองเธออยู่อย่างคาดคั้นเอาคำตอบ แต่ตอนนี้ปิ่นไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เธอพูดไม่ออกเลยต่างหาก ปิ่นจึงได้แต่นั่งนิ่ง แล้วก็หลบตาด้วยความเขินอาย
    \"ปิ่นรังเกียจพี่ใช่ไหม งั้นพี่จะโดดน้ำตายตรงนี้เนี่ยแหละ\" เขาแกล้งทำหน้าเศร้า ทำให้ปิ่นแอบขำ เพราะรู้ว่าเขาเริ่มที่จะแหย่เธอเล่นอีกแล้ว
    \"ขำเหรอปิ่น ใช่สิ พี่มันไม่มีค่า พี่จะโดดน้ำเดี๋ยวนี้แหละ\" ภูพูดจบก็ลุกขึ้นไปที่รั้วแล้วทำท่าปีน ด้วยความตกใจทำให้ปิ่นรีบไปคว้าแขนเขาเอาไว้ แม้จะรู้ว่าเขาไม่ทำจริง แต่เธอก็กลัวใจของเขา เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าถ้าเธอไม่ห้าม เขาจะกล้าบ้าบิ่นกระโดดลงไปหรือเปล่า
    \"พี่ภูอย่าเล่นแบบนี้สิคะ\" ปิ่นพูดเสียงเบา คนที่อยู่บริเวณนั้นเริ่มหันมามอง
    \"พี่ไม่ได้เล่นนะ พี่เอาจริง\" เขาแกล้งทำหน้าจริงจัง แต่นัยน์ตาเป็นประกาย ทำให้ปิ่นอดที่จะก้มหน้าขำไม่ได้
    \"ค่ะๆ เอาจริงก็เอาจริง แต่มานั่งเถอะน้า นะคะ\" ปิ่นกระตุกแขนเขาเบาๆ ทำให้ภูหันมามองหน้าปิ่นอย่างเจ้าเล่ห์
    \"ปิ่นบอกพี่มาก่อนว่า ปิ่นรังเกียจพี่หรือเปล่า\" เขาถามพลางจ้องหน้าเธอนิ่ง ปิ่นยิ้มและส่ายหัว ทำให้ภูแอบยิ้มด้วยความพึงพอใจ
    \"งั้นปิ่นเป็นแฟนกับพี่นะ\" เขาถาม แต่ปิ่นกลับนิ่งเงียบแล้วก้มหน้าก้มตาไปเสียอย่างนั้น เขาแอบอมยิ้ม เขารู้ดีว่าตอนนี้เธอกำลังเขิน ผู้หญิงอะไรน่ารักเป็นบ้าเลย เขาคิดอย่างขบขัน \"งั้นพี่จะโดดละนะ\" เขาพูดพลางทำท่าจะกระโดด ทำให้ปิ่นตกใจ รีบคว้าแขนเขาเอาไว้
    \"ค่ะ พี่ภู ปิ่นยอมแล้วค่ะ ลงมาเถอะค่ะ\" ปิ่นพูดประโยคหลังเสียงเบา ทำให้ภูยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วคว้าตัวปิ่นมากอด ปิ่นก็ได้แต่ดิ้นขลุกขลัก \"ปล่อยปิ่นนะ\"
    \"ไม่ปล่อย พี่ดีใจนี่นา\"
   
    \"พี่ภูค้า\" ปิ่นทำเสียงอ่อนเสียงหวาน ทำให้ภูใจอ่อน ปล่อยปิ่นด้วยความเสียดาย
   
    \"พี่รักปิ่นนะ รักมากด้วย\" เขาพูดพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ สิ่งที่เขาสื่อออกมาทางสายตาทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้โกหกเธอแม้แต่น้อย แต่ปิ่นก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากพยักหน้าเบาๆ \"แล้วปิ่นล่ะ คิดยังไงกับพี่ ไม่ตอบพี่โดดน้ำนะ\"
    \"ปิ่นไม่รู้\" ปิ่นตอบเสียงอ่อย เขาไม่รู้ว่าจะตอบเขาว่ายังไงดี รักเหรอ มันจะเร็วไปไหม ถ้าพูดถึงว่าชอบ เธอชอบเขาแน่ๆ แต่รักหรือเปล่าเธอไม่แน่ใจ
    \"ไม่เป็นไร สักวันพี่จะทำให้ปิ่นรักพี่จนหมดหัวใจ\" เขาพูดพลางหมายมั่น ทำให้ปิ่นแอบอมยิ้มน้อยๆ ปิ่นไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เขาสามารถจะทำให้เธอรักจนหมดใจได้อย่างที่เขาว่าจริงๆ
*****************************************************************
แมวส้มคุย ---- ขอเร่งปิดเรื่อง โดยขยับมา 1 สเต๊ปนะจ๊ะ โดยจะลงทุกวันที่ 6 หารลงตัว ( 6 - 12 - 18 - 24 - 30)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น