ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    + + + แสนรัก + + +

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนพิเศษ - - สุดที่รักในใจ ตอนจบ

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 48


    16 ก.ค.



    ความจริงฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลย บางทีฉันยังนั่งหยิกตัวเอง คิดว่าตัวเองฝันไป

    เขากอดฉัน และกระซิบเบาๆ ว่า...รัก ฉันคิดว่าคิดไปเองเสียอีก แต่เปล่าเลย ทุกอย่างคือความจริง

    ตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว แล้วเราก็ทำสนธิสัญญาในการเรียกันและกันใหม่ ให้ดูน่ารักกว่าเดิม



    แต่แม้ว่าเรื่องส่วนตัวจะดี แต่อาการของพราวก็ยังไม่ดีขึ้นเลย

    หมอบอกว่าทางเดียวที่น้องสาวจะมีชีวิตได้เหมือนกันทั่วไปก็ต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ

    คงเพราะเครียดเรื่องพราวจึงทำให้หมู่นี้ปวดหัวบ่อยๆ แย่จัง








    \"นี่พี่กอล์ฟแฟนพราว พราวเป็นน้องสาวของแพรว พี่กอล์ฟคะ แฟนแพรวค่ะ\" แพรวพูดเสียงใส ไม่สะดุดเลยสักนิด เล่นเอาผมต้องแอบเขินอยู่เหมือนกัน ก็เนี่ยเป็นครั้งแรกที่แพรวแนะนำผมกับคนอื่นในฐานะแฟน หน้าที่ตีขรึมๆ เอาไว้ กะว่าจะวางมาดเป็นแฟนแพรวอย่างเต็มที่ก็ต้องแตกเพล้งๆ ผมหันไปมองหน้าแพรวที่อมยิ้มล้อๆ แล้วส่งสายตาเหมือนจะบอกว่า \'เป็นไงล่ะ หึงดีนัก ใช่อย่างที่คิดไหม?\' มาให้ผม ทำให้ผมเขกหัวแพรวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู





    จากสถานะที่กำลังจะมาเขยของบ้านนี้เหมือนกัน ทำให้ผมรู้สึกวางใจในตัวพี่กอล์ฟทันที และยิ่งรู้ว่าเขาเรียนแพทย์เพราะต้องการดูแลพราวที่เจ็บออดๆ แอดๆ มาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาอยากจะเป็นคนดูแลพราว ไหนจะสายตาที่มองพราวอีก หวานซึ้งอย่าบอกใคร





    และในวันนั้นผมก็ได้รับรู้เรื่องบางอย่างที่ผมไม่เคยรับรู้มาก่อน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่แพรวต้องทำงานหนักมาตลอด





    \"วันนี้แพรวจะไปเยี่ยมพราวหรือเปล่า\" เสียงพี่กอล์ฟถามขึ้น ทำให้ผมมองหน้าทั้งสองคนงงๆ พราวเป็นอะไรทำไมต้องไปเยี่ยมด้วย





    \"เดี๋ยวแพรวจะตามไปตอนเย็นๆ ค่ะ\" แพรวตอบพลางทำสีหน้ากังวลใจ





    \"แพรวเชื่ออย่างที่พี่เชื่อไหม?... พราวจะต้องไม่เป็นอะไร พราวจะต้องหายดี\" แพรวยิ้มกว้างเป็นการตอบรับ แต่ผมก็เห็นประกายแห่งความไม่มั่นใจในดวงตาของแพรว







    \"พราวไม่สบายเหรอ?\" ผมถามแพรวหลังจากที่เราแยกจากพี่กอล์ฟแล้ว พี่กอล์ฟบอกกับเราว่าจะตรงไปเยี่ยมพราวในทันที





    แพรวมองหน้าผมอย่างชั่งใจว่าจะเล่าดีไหม แต่ผมก็ไม่ยอมให้แพรวปิดบังอะไร ผมจึงบีบมือแพรวเป็นเชิงบอกว่า ...เราเป็นอะไรกันแล้ว ทำไมต้องปิดบังกัน....





    \"พราวเป็นโรคหัวใจ เพิ่งมารู้ก็ตอนที่แพรวอยู่ปี 1 ตอนนี้อาการพราวก็ทรุดลงมา แพรวกลัวจังเลยคี\" ผมไม่เคยเห็นแพรวทำสีหน้ากังวลอย่างนี้มาก่อนเลย ผมโอบไหล่แพรวแล้วบีบไหล่เบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ ผมไม่ชอบให้แพรวเป็นอย่างนี้เลย มันทำให้หัวใจของผมเจ็บช้ำไปด้วย แต่ที่แย่ไปกว่านั้น ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าภายใต้รอยยิ้มที่ร่าเริงของแพรว แพรวกลับต้องแบกอะไรเอาไว้มากมายขนาดนี้ ผมสัญญากับตัวเองว่าต่อไปนี้ ผมจะดูแลแพรวอย่างดีที่สุด ให้เต็มกำลังความสามารถของผม







    เย็นวันนั้นผมตัดสินใจไปโรงพยาบาลกับแพรว เพื่อไปเยี่ยมพราว ผมอยากจะยืนอยู่เคียงข้างแพรวทุกครั้งที่แพรวจะต้องเจอกับเรื่องทุกข์ใจ ระหว่างทางผมชวนแพรวซื้อของเยี่ยมพราว การเจอกับครอบครัวแพรวครั้งแรกต้องสร้างภาพพจน์กันหน่อย





    สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นกว่าการไปเยี่ยมพราวก็คือ แพรวบอกว่าพ่อกับแม่ของแพรวคงอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย ให้ตายสิ ผมจะได้เจอพ่อแม่แพรวแบบไม่ทันตั้งตัวหรือนี่ แล้วดูเนื้อตัวผมเข้าสิ ทุเรศสิ้นดี แล้วอย่างนี้เขาจะยกลูกสาวให้ไหม







    \"แพรวๆ คีว่า เดี๋ยวแวะเล็มผมหน่อยนะ แล้วก็ซื้อเสท้อเปลี่ยนด้วยดีกว่า แล้วใช้ช่างเขาโกนเคราให้ด้วยดีไหม แล้วก็....\"





    \"พอๆ ไม่ต้องทำอะไรขนาดนั้นหรอก เราจะไปเยียมพราวนะ ไม่ได้ไปงานเลี้ยงไฮโซ\" แพรวพูดยิ้มขำๆ มันก็จริงของแพรว แต่ผมอยากให้แพรวมองดูสภาพผมตอนนี้ เสื้อยืดเก่าๆ สีซีด กางเกงยีนที่ไม่ได้ซักมา 3 -4 วัน หนวดเคราที่ขึ้นเขียว ผมที่เริ่มยาวรุงรังเพราะไม่ได้ใส่ใจจะตัด แล้วถ้าเจอพ่อแม่พราวตอนนี้ คะแนนตกฮวบๆ แน่เลย แล้วถ้ายิ่งเอาผมไปเทียบกับพี่กอล์ฟแล้ว โอ้พระพุทธเจ้า ช่วยผมที ถ้าผมรอดไปคราวนี้ผมจะไม่กินนก (ปกติเคยกินเหรอ - -\")





    \"แต่...\" ผมพยายามจะเถียงแพรว





    \"ไม่มีแต่ แพรวชอบของแพรวแบบนี้ ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก\" แพรวพูดประโยคแรกเสียงเข้ม ก่อนที่จะพูดประโยคหลังที่ทำให้หัวใจของผมพองโต ที่พวงแก้มของแพรวปรากฏรอยชมพูจางๆ





    \"งั้นคีมัดผมหน่อยดีกว่าไหม?\" ผมถามยิ้มๆ พร้อมกับยื่นยางมัดผมอันเล็กให้ \"มัดให้หน่อยสิ\"





    เมื่ออ้อนจบ ผมก็นั่งรอให้แพรวมามัดผมให้ แพรวส่ายหน้านิดๆ ก่อนจะเดินมามัดผมให้ผม แม้สิ่งที่แพรวสัมผัสจะเป็นเพียงเส้นผมของผม แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นของมือแพรว ผมเอื้อมมือมาจับมือแพรวหลังจากที่แพรวมัดผมให้ผมเรียบร้อยแล้ว





    \"รักแพรวจัง\" ผมพูดเบาๆ แต่คำพูดนั้นก็ทำให้แพรวหน้าแดงขึ้นมาได้





    \"บ้า\" แพรวตีผมเบาๆ ที่ท่อนแขน แต่ก็ไม่ได้เจ็บปวดอะไร





    \"บ้าก็บ้ารักแพรวแหละ\" แพรวมองหน้าผมงอนๆ แต่ก็มีรอยยิ้มในแววตาให้ผมใจชื้นขึ้นมาว่าแพรวไม่ได้โกรธผมจริงๆ





    \"ไม่คุยด้วยแล้ว\"





    สวรรค์จะว่าอะไรไหม... ถ้าผมจะขอมีความสุขตราบเท่าที่มีลมหายใจสุดท้าย ความสุขของผมไม่มีอะไรมากมาย นอกไปจากการอยู่ใกล้ๆ แพรว ได้รักแพรว และได้ถูกแพรวรัก ผมคงไม่ขอเกินไปใช่ไหม ถ้าอยากจะมีความสุขอย่างนี้ตลอดไป









    พราวกับแพรวหน้าตาคล้ายกันมากอย่างคาดไม่ถึง ยังกับพี่น้องฝาแฝดเลยทีเดียว แต่นิสัยก็มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ ไม่ได้เหมือนกันสักทีเดียว พราวจะดูเด็กๆ และค่อนข้างเอาแต่ใจ คิดอะไรก็แสดงออกมาหมด ส่วนแพรวจะเป็นผู้ใหญ่กว่า ค่อนข้างเก็บความรู้สึก และเข้มแข็งกว่าพราวมากนัก อาจเป็นเพราะแพรวเป็นพี่คนโตก็เป็นได้







    \"พี่คีบอกรักแพรวก่อนใช่ไหม?\"

    พราวถามขึ้นตรงๆ เล่นเอาผมกับแพรวสะดุ้งกันไปทีเดียว





    \"ยัยพราว!!\" แพรวดุน้องเสียงเข้ม แต่ก็ทำให้พราวหัวเราะออกมาอย่างสดใส





    \"ก็อย่างแพรวอ่ะนะจะบอกรักใครก่อน ก็แอบดูแลเอาใจใส่ ห่วงใย เข้าไปใกล้ แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยไปจนตายนั่นแหละ\" ผมแอบอมยิ้มน้อยๆ นั่นหล่ะแพรวเลย





    \"พูดมากไปแล้วพราว\" แพรวพูดเสียงเข้ม ทำให้พราวหยุดหัวเราะ แล้วมองแพรวอย่างรู้กัน





    \"แพรวไปรอรับพ่อกับแม่ไป๊ เห็นว่าจะซื้อของกินมาเยอะแยะเลย อ้อ ทิ้งพี่คีไว้เนี่ยแหละ\"





    \"เรื่อง คิดจะทำอะไรพราว\" แพรวถามอย่างรู้มัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้พราวสลด สงสัยบ้านนี้จะหน้าเป็นกันทั้งบ้าน





    \"ไม่กินแฟนเธอหรอกน่า แค่อยากคุยอะไรด้วยหน่อย นะๆๆๆๆ\" แพรวทำหน้าทำตาอ้อนๆ ทำให้แพรวต้องพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่





    หลังจากที่แพรวเดินออกไป พราวก็หันมามองหน้าผมอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเอ่ยประโยคที่จริงจังจนผมขนลุก





    \"รักแพรวแค่ไหน? จริงจังหรือว่าคบเล่นๆ\" คราวนี้พราวไม่ดูขี้เล่นเหมือนเด็กน้อยเมื่อกี้เลย ผมลอบกลืนน้ำลายก่อนตอบออกไปตามความจริง





    \"รักมาก เรียกได้ว่ารักยิ่งกว่าใคร และพี่ไม่เคยคบใครเล่นๆ\"





    คำตอบของผมคงสร้างความพึงพอใจให้พราวไม่น้อย เพราะหลังจากที่ผมตอบไปก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่





    \"ฝากแพรวด้วยนะ แพรวเป็นคนขี้เหงา ถ้าวันนึงพราวไม่อยู่แพรวคงเหงา พราวดีใจที่มีพี่คีมาช่วยดูแลแพรว\" ผมอยากจะพูดสวนไปเหลือเกินว่าทำไมพราวถึงคิดอย่างนั้น แต่ดูจากแววตาของพราวแล้ว พราวก็คงรู้ชะตากรรมของตัวเองดี ...เป็นตายเท่ากัน...





    ผมคุยกับพราวไม่นานแพรวก็ขึ้นมาพร้อมกับพ่อแม่ แล้วหอบข้างของมาเยอะแยะ พ่อกับแม่ของแพรวไม่ดุ และใจดีมาก แม้จะมีท่าทีที่เหนื่อยล้า แต่ทุกคนก็ดูรักกันมาก ทุกคนในบ้านของแพรวต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมารักษาพราว แต่ครอบครัวก็รักใคร่ห่วงใยและเป็นกำลังใจให้กัน ทำให้ผมรู้เลยว่า แพรวโตขึ้นมาอย่างแสนดีได้อย่างไร







    ความรักคืออะไร ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน ความรักคือการเจ็บปวดเช่นนี้หรือเปล่า ฉันเองก็ไม่ค่อยจะแน่ใจ

    ฉันพยายามคิดว่ารักกันไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของกัน แต่ทำไมฉันต้องเจ็บแปลกๆ เวลาที่เขาอยู่กับผู้หญิงอื่นด้วยนะ

    ฉันควรจะเชื่อใจเขามากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ





    ผมเองก็ไม่ได้อยากตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้หรอกครับ แต่จะให้ทำไงได้





    เมื่อวันก่อนกิ๊บแฟนเก่าของผมโทรมาหา ผมเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย เพราะตั้งแต่เลิกกันไปกิ๊บเองไม่เคยโทรหาผมเลย ไม่ว่าวันเกิด ปีใหม่สงกรานต์ หรือเทศกาลงานบุญอะไร แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมแปลกใจได้ยังไง





    \'คีสบายดีหรือเปล่า\' เสียงของเธอยังคงเหมือนวันเก่า ดูสดใสร่าเริง และมีสเน่ห์ ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนตอบออกไปเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคุยโทรศัพท์อยู่ กิ๊บไม่มีทางเห็นผมพยักหน้าอย่างแน่นอน





    \'กิ๊บมีอะไรหรือเปล่า?\' ผมถามออกไปโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันจะสร้างความวุ่นวายให้ผมอย่างมากในเวลาต่อมา







    \"เขาทิ้งเราไปแล้วล่ะ คีเรามันโง่เองที่ให้ความใกล้ชิดมาทำลายความรักของเรา\" ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในร้านคอฟฟี่ช็อปแถวมหาวิทยาลัย หลังจากที่เธอขอร้องแกมบังคับให้ผมออกมาหาสำเร็จ





    ผมถอนหายใจหนัก นาทีนี้ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี รู้งี้ลากไอ้มลมาด้วยก็ดี เผื่อมันจะช่วยให้สถานการณ์มันดีขึ้นกว่านี้





    \"เรื่องของเราที่ผ่านมาแล้วไม่ต้องไปใส่ใจหรอก เราเองก็ไม่ได้คิดมากอะไร\" ผมพยายามที่จะลากเรื่องให้ออกห่างจากตัวผมให้มากที่สุด ผมไม่อยากจะมีปัญหาทีหลัง ที่สำคัญที่สุดผมไม่อยากให้แพรวคิดมากหรือเสียใจ แพรวคือผู้หญิงที่ผมรักในตอนนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างหน้าผม





    \"คีพูดอย่างนี้แสดงว่ายังโกรธกิ๊บอยู่มใช่ไหม?\" พูดจบเธอก็ร้องไห้โฮเล่นเอาผมทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว





    \"ไม่ได้โกรธ บอกแล้วไง อย่าร้องไห้เลยนะ\" ว่าแล้วผมก็ลอบถอนหายใจเบาๆ ผมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กิ๊บเช็ดน้ำตา ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงซับน้ำตาให้เธอเองไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมไม่สามารถทำอะไรได้อย่างนั้นอีกต่อไป ไม่ใช่เพราะไม่เหมาะสม แต่คนที่ผมจะให้ความอ่อนโยนนี้จะมีเพียงแค่คนเดียว





    \"เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?\" ซื้อหวยทำไมไม่ถูกอย่างนี้น้า ผมล่ะกลัวคำถามนี้ที่สุดจริงๆ





    ผมลอบผ่อนลมหายใจเบาๆ ก่อนที่จะมองดวงตาที่เปียกชื้นคู่นั้น  ...สงสารนะ แต่มันไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากความเป็นเพื่อน ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงดีใจ แต่ตอนนี้หัวใจของผมไม่มีที่ว่างให้ใครอีกต่อไป หัวใจของผมมีเพียงคนๆ เดียวที่เป็นเจ้าของ จากวันนี้และตลอดไป





    \"เรามีแฟนแล้ว...\" ผมบอกกิ๊บเบาๆ แต่หนักแน่น ผมมองเห็นแววตาของกิ๊บดูตระหนกกับความจริงข้อนี้ ก่อนที่จะปรับให้เป็นเหมือนเดิม \"... แล้วเราก็รักเขามาก มากจนไม่คิดว่าจะรักใครได้อย่างนี้อีกแล้ว แล้วเราก็ขาดเขาไม่ได้ ขอโทษนะ\"





    กิ๊บอ้าปากค้างอยู่นาน ก่อนที่จะมองผมด้วยสายตาที่สับสน อีกนานทีเดียวกว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอ





    \"ไม่จริง คียังโกรธเราอยู่ใช่ไหม? เราขอโทษ เราสัญญานะว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก\"





    ผมส่ายหน้ากับความคิดของกิ๊บ กิ๊บมักจะเป็นอย่างนี้เสมอ มั่นใจในความคิดของตัวเอง...จนเกินไป จนบางครั้งลืมไปว่า ไม่มีใครที่จะไม่เปลี่ยนแปลง





    \"ขอโทษนะ\" ผมพูดเบาๆ เมื่อเห็นกิ๊บทำท่าเหมือนน็อตหลุด หยาดน้ำตาใสๆ ไหลรินมาช้าๆ แต่ความหวังที่จะให้ผมช่วยรักษาแผลใจ ผมคงทำให้ไม่ได้





    \"คีเลิกกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เหรอ แล้วเรา....\"



    \"พอเถอะกิ๊บ ทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว\" ผมแตะมือของเธอเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ และผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ผมต้องไปเสียที







    ผมเคยเปิดละครหลังข่าวดูผ่านๆ และฉากที่ผมเห็นบ่อยๆ ก็คือฉากที่นางเอกเข้ามาผิดจังหวะ ทำให้เห็นภาพที่ชวนเข้าใจผิดจนต้องโกรธเคืองกันไป ผมเคยคิดว่ามันงี่เง่าสิ้นดี อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น แต่วันนี้ผมต้องยอมรับแล้วว่า ความบังเอิญนั้น...มันมีจริง





    \"แพรว\" ผมเห็นแพรวยืนมองผมกับกิ๊บนิ่งๆ ผมไม่รู้ว่าแพรวยืนอยู่นานแค่ไหน แต่สิ่งที่เห็นเด่นชัดก็คือแววตาที่ปวดร้าวของแพรว ก่อนที่แพรวจะหันหลังกลับไปช้าๆ แต่ผมก็ไม่เป็นพระเอกหนังไทยที่ทำอะไรไม่ทันใจหรอกครับ ผมรีบวิ่งไปตามหาหัวใจของผมทันที ผมไม่ยอมให้แพรวเข้าใจผิดอย่างนี้ ผมไม่ยอมที่จะต้องเสียแพรวไป





    \"ฟัวคีก่อนนะแพรว แพรวกำลังเข้าใจผิดนะ\" ผมคว้าแขนแพรวที่กำลังเดินอยู่ แพรวหันมามองผมนิ่งๆ แต่ก็ทำให้ผมเย็นวาบไปทั้งหัวใจ





    \"คีอธิบายได้นะ\" ผมพูดอย่างแผ่วเบา กลัวเหลือเกินว่าจะต้องสูญเสียแพรวไป นี่ผมรักแพรวขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย





    \"ไม่ต้องหรอก แพรวเชื่อใจคี\" แพรวพูดก่อนที่ผมจะอธิบายอะไรออกไป แต่ผมรู้ว่าแพรวก็ยังสงสัย แต่พอผมจะเอ่ยปากพูด แพรวก็ขัดผมเรื่อยไป





    \"ไม่ต้องหรอกคี แพรวไม่อยากจะฟัง\" แพรวพูดพลางเบือนหน้าหนีไปทางอื่น





    \"แพรวไม่ได้เชื่อใจคีจริงๆ นี่นา แพรวกำลังกลัวอะไรที่มันไม่มีทางเป็นจริงได้\" ผมตะโกนใส่แพรวด้วยความโมโห \"มานี่เลยมา ไปคุยกันให้รู้เรื่อง\"





    ผมลากแพรวมาที่ไกลจากผู้คน ตอนนี้ผมโมโหเกินกว่าที่จะสนใจอะไร แม้กระทั่งอาการขัดขืนของแพรว ตลอดทางที่เดินมา แพรวพยายามแกะมือผมออก แล้วก็ขืนตัว





    \"คีแพรวเจ็บ\" แพรวพูดขึ้นหลังจากที่เราเดินมากันได้สักพัก





    \"จะเดินดีๆ ไหม\" ผมถามเสียงดุ พร้อมกับปาดน้ำตาที่อยู่บนแก้มเนียนๆ ของแพรว แพรวพยักหน้าตอบช้าๆ ผมจึงผ่อนกำลังของมือ แต่ไม่ยอมปล่อยมือของแพรว





    ผมพาแพรวมาที่รถของผม และอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ทุกอย่าง...และตามความเป็นจริง พอฟังจบแพรวก็นั่งนิ่งๆ มองไปข้างนอกโดยที่ไม่ยอมมองผมเลย ผมคว้ามือแพรวมาจับและบรรจงจุมพิตอย่างแผ่วเบา ผมไม่สามารถเดาได้เลยว่าแพรวคิดยังไง





    \"คีจะกลับไปหาเธอก็ได้นะ\" แพรวพูดขึ้น แต่ไม่ยอมมองตาผม แต่เสียงของแพรวสั่นจนผมใจหาย \"..แพรวเข้าใจ คีรักเธอมากไม่ใช่เหรอ\"





    \"ถ้าจะพูดให้ถูก คีเคยรักมากต่างหาก แต่ตอนนี้รักผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนเดียวเท่านั้น\" พูดจบผมก็จูบแพรวอย่างแผ่วเบา แล้วก็ยิ้มให้เธอ และดูเหมือนว่าน้ำตาที่แพรวกลั้นเอาไว้จะทลายออกมาพอดี แพรวจึงร้องไห้ออกมาแบบไม่เกรงใจใคร ผมจึงได้แต่กอดเอาไว้แนบอก มีแฟนคิดมาก็อย่างนี้แหละน้า ไม่มีทางอื่นใดแก้ไข นอกจากจะแสดงออกให้รู้ว่ารักมาก





    \"คีรักแพรวมากที่สุด และไม่ยอมเสียไปด้วย\" คำพูดนี้ผมพูดย้ำให้แพรวฟัง และย้ำให้ตัวเองได้ยิน แพรวจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในใจไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม









    ผมเคยบอกหรือยังครับว่าแฟนเก่าผมเป็นคนชอบเอาชนะอย่างร้ายกาจ และเธอจะเชื่อความคิดของตัวเอง โดยไม่มองเหตุผลแวดล้อม เรียกได้ว่าเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่นั่นแหละ บางทีผมยังเคยคิดว่าผมทนคบกับเธอยังไงมาได้หลายปี อาจเป็นเพราะอย่างที่เขาว่ากัน \'ความรักทำให้คนตาบอด\'





    และความที่เธอเป็นคนชอบเอาชนะเนี่ยแหละครับ ทำให้ผมมีปัญหาในปัจจุบันนี้ ก็แม่เจ้าพระคุณรุณช่องเล่นมาหาผมที่คณะแบบไม่ให้ตั้งตัว ผมอยากจะบ้าตาย แล้วมาในเชิงน่ารักเสียด้วยสิ





    \"คี เราโทรหาแล้วทำไมไม่รับ\" เมื่อสาวเจ้ายิ้มแจ่มใสให้ ผมก็ไม่กล้าที่จะทำหน้าบึ้งใส่หรอก





    \"เรียนอยู่น่ะ\" ผมตอบโดยที่แอบมองคนข้างๆ เป็นระยะ แต่แพรวก็นิ่งเสียจนผมไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่





    \"อ้อ กิ๊บยังไม่รู้จักแฟนเราใช่ไหม นี่แพรวแฟนเราเอง\" ผมพูดบอกกิ๊บด้วยความภาคภูมิใจ เพราะถึงแม้ว่าแพรวจะไม่ดูสวยเก๋แบบแฟนเก่าของผม แต่ตากลมโต แก้มเนียนๆ แถมแววตาที่จริงใจของแพรวทำให้แพรวดูน่ารักมาก และแพรวก็สวยที่สุดในสายตาของผม





    กิ๊บพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก่อนที่จะยิ้มหวานให้แพรว \"หวัดดีจ๊ะ เราเป็น \'เพื่อนเก่า\' ของคี วันนี้ขอยืมคีสักวัน คงไม่ว่าอะไรนะ\"





    ผมแทบอยากไม่เชื่อหูตัวเองเลย ทำไมกิ๊บถึงได้กล้าพูดคำนั้นออกมา ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ผมหันไปมองคนข้างๆ กายที่เม้มปากเพื่อสะกดกั้นอารมณ์ ก่อนที่ผมจะบีบมือแพรวเบาๆ เป็นเชิงบอกว่าให้ใจเย็น





    \"ก็คงต้องแล้วแต่คีเขานะ ถ้าอยากไปเราก็รั้งอะไรไว้ไม่ได้ แต่ถ้าเขาไม่อยากไป อะไรก็ดึงเขาไปไม่ได้เหมือนกัน\" โอ้ แฟนผม หันตอกอะไรกลับไปเป็นเหมือนกันแหะ น่ารักดีเชียว





    \"เราคงไปไม่ได้หรอกนะ คือเราต้องไปส่งแพรวน่ะ\" ผมบอกยิ้มๆ ตอนนี้กำลังอารมณ์ดีที่แพรวหวงผม





    \"คีไม่ต้องไปส่งก็ได้นะ เราไปเองได้ ไม่ต้องเกรงใจหรอก\" แพรวบอกผมยิ้มๆ แต่...เรื่องอะไรล่ะ ขืนผมไม่ไปเฝ้า ไอ้พวกมดก็รุมตอมน่ะสิ อ้อ ผมลืมบอกไปอีกข้อว่าผมน่ะ ขี้หึงขี้หวงสุดๆ แค่ใครมามองแพรวนิดนึง ผมยังทนไม่ได้เลย





    \"เรื่องอะไร เดี๋ยวก็มีคนมองแพรวอีกน่ะสิ ขืนคีไม่ไปเฝ้านะ ไอ้พวกที่ตามแพรวจะได้ดีใจกันตาย\" ผมพูดอย่างที่ใจคิด ทำให้ไอ้พวกปากไม่มีหูรูดพูดแซวผมกันใหญ่





    \"มิวจ๋า อย่าไปไหนไกลจากภูนะจ๊ะ เดี๋ยวจะมีคนตาม ฮ่าฮ่า เลี่ยนว่ะ\" ไอ้ภูพูดแซวขึ้น แต่ไม่ทันที่ผมจะด่ามันก็มีคนจัดการมันแทนแล้วล่ะครับ





    \"บ้า\" มิวนั่นเอง แฟนของมัน ดีมากมิว เอาแรงๆ เลย





    ตอนนี้ที่โต๊ะคณะผมเลยเต็มไปด้วยความครื้นเครงต่างกับสีหน้าของผู้หญิงที่มาหาผมเสียเหลือเกิน เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะทั้งโกรธและผิดหวัง





    \"คีไปกับ....เพื่อนก็ได้นะ ท่าทางสีหน้าไม่ดีเลย\" แพรวพูดกับผมเบาๆ ดูหน้าแพรว แพรวคงเสียใจไม่น้อยที่ตอกกลับกิ๊บไปแบบนั้น แพรวเป็นคนขี้สงสารแบบไม่มีเหตุผล บางทีเขาทำให้แพรวเจ็บแทบตาย มาทำหน้าน่าสงสารแป๊บเดียว แพรวก็ยกโทษให้แล้ว แพรวชอบพูดเสมอว่า \'ชีวิตคนเราอยู่ได้สักกี่ปี ให้อภัยไปเถอะ อย่าไปคิดเล็กคิดน้อยเลย\'





    \"ไม่เอา ข้อแรกถ้าคีไปจริงแพรวก็ต้องคิดมาก ข้อที่สองคีหวงเดี๋ยวใครมามอง มาชวนคุย ไว้ใจได้ที่ไหน\"





    คำพูดของผมทำเอาแพรวหัวเราะกิ๊ก เห็นอย่างนี้ผมก็อดที่จะดีใจไม่ได้ อย่างน้อยแพรวก็ยังหัวเราะ และไว้ใจผม ผมหันไปพูดประนีประนอมกับกิ๊บด้วยการบอกกิ๊บว่าจะไปไปส่งกิ๊บที่สยาม และไม่ลืมที่จะขออนุญาตแพรว พร้อมบอกกิ๊บว่า \'ทีหน้าทีหลังให้โทรมานัดก่อน\' และวงเล็บไว้ในใจว่า \'จะได้ปฏิเสธทัน\'





    ระหว่างที่นั่งรถไปก็มีบ้างที่กิ๊บออกจะรวนๆ บ้าง แต่ผมก็แก้สถานการณ์โดยการที่ไปหวานกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมไม่รู้สึกผิดหรอกครับ ก็ในเมื่อกิ๊บเป็นคนทิ้งผมไป ไม่ใช่ผมที่ไปมีคนใหม่ เปล่าเลย ผมไม่ได้ประชดกิ๊บหรือใคร แต่ความจริงก็คือ เวลาที่ผมอยู่กับแพรวสองคนผมจะหวานมากเป็นพิเศษ ในเมื่อกิ๊บต้องการมาขัดความสุขของผม ผมก็จะไม่ใส่ใจ และขอหวานกับคนข้างๆ เหมือนเคย





    \"เป็นอะไรหรือเปล่าแพรว\" ผมถามแพรวเมื่อเห็นแพรวทำหน้านิ่วคิ้วขมวด





    \"ปวดหัวนิดหน่อยน่ะ ช่วงนี้สงสัยนอนน้อย แพรวปวดหัวบ่อย แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคี\" แพรวพูดประโยคหลังต่อ เมื่อเห็นผมทำหน้ามุ่ยๆ





    \"ไปหาหมอหรือยัง ที่พี่กอล์ฟให้ไปตรวจน่ะ ไปมาหรือยัง เห็นผลัดอยู่นั่นแหละ\" ผมพูดเสียงเครียด ทำให้แพรวมาแตะที่มือผมเบาๆ แพรวรู้ว่าผมกำลังจะดุคนดื้อ เลยต้องประจบเอาไว้ก่อน





    \"แล้วแพรวจะไปตรวจนะ ไม่ต้องห่วง\" แพรวยิ้มหวานๆ ให้ผม แต่คราวนี้ผมไม่หลงกล





    \"งั้นพรุ่งนี้ไปตรวจกัน คีไปด้วย\"





    \"พรุ่งนี้คีมีสอบนี่ อย่าเลยนะ\"





    \"ไม่ได้ ถ้าไม่ไปคุมก็ไม่ยอมไปสักที\" ผมพูดเสียงเข้ม ก็คนมันเป็นห่วงนี่ครับ เล่นปวดหัวบ่อยๆ อย่างนี้ ไว้ใจได้ที่ไหน





    \"โอเคๆ พรุ่งนี้แพรวสัญญาว่าจะไปตรวจ ให้พี่กอล์ฟยืนยันก็ได้เอ้า\" แพรวพูดพลางยื่นนิ้วก้อยมาให้ผม





    \"สัญญาแล้วนะ\" ผมเกี่ยวก้อยสัญญากับแพรว โดยไม่สนใจคนที่นั่งทำหน้าตาบึ้งตึงอยู่ข้างหลัง





    หลังจากที่ส่งกิ๊บลงจากรถไปแล้ว ผมก็จับมือแพรวมาจูบเบาๆ \"ผมรักแพรวนะ\" ผมพูดออกไปเบาๆ และจะย้ำให้เธอรู้ทุกคืนวันเลยทีเดียว







    24 ธ.ค.



    บางทีโชคชะตาก็เล่นตลกกับคนเราอย่างเหลือร้าย อยู่ดีๆ ก็ทำให้ฝันเราเป็นจริง

    ให้ตัวเราขึ้นมาล่องลอย ฝันจะอยู่กับความสุขไม่รู้จบ

    แต่ไม่นานนักก็ให้ลมพัดพาเราให้ตกลงไปยังหุบเหวที่มืดสนิท ทำไมนะ... ทำไมกัน



    อาจเป็นเพราะชาติที่แล้วฉันคงไปทำกรรมอะไรไว้ ชาตินี้ถึงได้ต้องเกิดมารับกรรม

    ถ้าเป็นแต่ก่อนฉันคงไม่สนใจอะไร แต่ตอนนี้ฉันอยากจะอยู่กับคีให้นานๆ อยากจะเห็นรอยยิ้มของของตลอดไป

    แต่ถึงตอนนี้มันคงยากแล้วใช่ไหม








    ตั้งแต่วันนั้นกิ๊บก็ไม่โทรหรือมายุ่งกับผมอีกเลย คงรู้แล้วล่ะมั้งว่าผมไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิม อีกอย่างการที่กิ๊บทำอย่างนี้ลดคุณค่าในตัวเองลงไปมากเลยทีเดียว มลเองตั้งข้อสันนิษฐานว่ากิ๊บคงเจ็บใจที่หมอนั่นมาทิ้งไปหน้าตาเฉย เลยอยากจะกลับมาคบกับผมเพื่อเย้ย เพราะถ้าพูดกันตามตรง ผมเองก็สามารถเอาไปควงอวดได้แบบไม่อายใคร แถมยังขับรถมียี่ห้อ ผมฟังคำสันนิษฐานของมลก็ได้แต่เหนื่อยใจ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมก็คงมองกิ๊บผิดไปมากเลยทีเดียว









    \"เป็นอะรทำไมวันนี้ดูเครียดๆ อาการพราวแย่ลงเหรอ?\" ผมถามแพรวที่นั่งเหม่อๆ คิ้วขมวดกันเป็นปม แพรวต้องมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกผม





    \"แพรว\" ผมเรียกแพรวอีกครั้ง เมื่อเห็นแพรวนั่งนิ่ง ไม่ยอมพูดอะไร





    \"หา..คีว่าไงนะ\" แพรวหันมามองผมตาแป๋ว เล่นมองอย่างนี้ผมก็โกรธไม่ลงสิ





    ผมเอื้อมมือไปขยี้หัวคนที่นั่งเหม่อเบาๆ เป็นการลงโทษ ความจริงก็อยากจะลงโทษมากกว่านี้หรอกนะ แต่ว่าสงสาร อีกอย่างนั่งอยู่ที่คณะด้วย จะทำอะไรประเจิดประเจ้อก็ไม่ดี จริงไหมครับ





    \"เย็นนี้ว่างไหม?\" ผมถามเบาๆ แพรวทำท่าคิดครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า





    \"กินข้าวบ้านคีนะ\" คำชวนง่ายๆ ของผม ทำให้แพรวทำตาโตขึ้นมาทันทีทันใด \"ห้ามปฏิเสธ\"





    เท่านี้แหละครับ แพรวก็หมดสิทธิ์ที่จะโต้แย้งใดๆ ความจริงแพรวกำลังทำให้ผมเคยตัว เพราะตั้งแต่คบกันมา เรียกได้ว่าตั้งแต่เป็นเพื่อนกัน แพรวไม่เคยขัดใจผมสักที ผมเคยเกริ่นกับที่บ้านเรื่องแพรวแล้วล่ะครับ แม่ก็บ่นอยากเห็นแพรว เพราะเห็นผมพร่ำเพ้อว่าน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ต้องแปลกใจครับ ผมเห่อแฟนตัวเอง ถ้าใครลองถามนิดเดียวผมก็ถือโอกาสเล่าเสียยาว





    วันนั้นถือได้ว่าเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดเลยก็ว่าได้ พ่อแม่แล้วก็แพรวคุยกันอย่างเข้าขา แถมแม่ยังว่าผมให้แพรวได้ยินอีกต่างหาก





    \"แพรวอย่าไปถือสาคีมากนะลูก รายนี้เขาใจร้อน แถมเอาแต่ใจอีกต่างหาก ยังไงๆ ก็ทนๆ ไปหน่อย หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะ\"





    \"แม่พูดยังกับคีแต่งงานกับแพรววันนี้แหนะครับ\" นายวีหรือนายกวี พี่ชายคนโตของผมพูดขึ้น คราวนี้เล่นเอาแพรวหน้าแดงเลยครับ





    \"ก็พูดซ้อมๆ ไว้ก่อนไง พอจบปุ๊บจะได้ไปขอเลย\" แม่พูดติดตลก เล่นเอาคนข้างๆ ผมนิ่งเงียบ หน้าเป็นสีชมพูระเรื่อ แต่ขอโทษนะครับ ผมชอบใจอย่างมาก





    \"แม่พูดแล้วอย่าคืนคำนะครับ พอสอบตัวสุดท้ายเมื่อไหร่ปุ๊บ ไปขอให้ผมเลยนะ\" คำพูดของผมทำให้แพรวตีแขนผมเบาๆ แต่ผมไม่เจ็บหรอกครับ ผมกำลังมีความสุข





    \"ใครจะแต่งกัน\" แพรวพูดพลางก้มน้างุด แต่ก็ปิดใบหน้าที่เขินอายนั้นไม่อยู่หรอก ทำให้ที่บ้านผมหัวเราะกันเสียงดัง





    \"ตกลงตามนี้นะ บอกพ่อกับแม่ให้เตรียมใจแต่งลูกสาวออกเลยล่ะกัน\" พ่อพูดสรุปปิดท้ายในที่สุด





    ถ้าเป็นอย่างที่พ่อพูดได้ก็ดีสิ เรียนจบแล้วใช้ชีวิตอยู่กับแพรว ผมอยากให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ เลย แต่ชีวิตมันก็ไม่มีอะไรง่ายใช่ไหมครับ เวลาที่เรามีความสุขมากๆ โชคชะตามักจะเล่นตลกให้เรามีความทุกข์มากๆ ตามมา







    \"บ้านคีนี่ท่าทางเป็นศิลปินกันทั้งบ้านเลยเนอะ มีลูกชื่อกวีกับคีตา แล้วพี่วีทำงานอะไรเหรอ\" แพรวถามผมระหว่างที่ผมพาแพรวมานั่งเล่นที่สวนหน้าบ้าน แหม ผมก็อยากมีเวลากับแพรวสองคนบ้าง อีกอย่างวันนี้แพรวกลับบ้านไปก็อยู่คนเดียว เพราะพ่อแพรวไปทำงานต่างจังหวัด ส่วนแม่ก็ไปเฝ้าพราว





    \"บอกไปแล้วแพรวจะไม่เชื่อ วีน่ะเป็นหมอ เรียนปีสุดท้ายแล้ว พ่อกับแม่คีก็เหมือนกัน เป็นหมอทั้งคู่ รู้จักกันในโรงพยาบาลนั่นแหละ แต่รักกันได้เพราะเสียงเพลงและบทกวี ลูกเลยชื่อ คีตากับกวีไง\" แพรวทำตาโตกับคำพูดของผม





    \"ไม่น่าเชื่อเลย แล้วคีหลุดรอดจากการเป็นหมอได้ยังไงเนี่ย\" แพรวถามผมอย่างแปลกใจ





    \"ผมไม่ค่อยชอบน่ะ อย่าบอกใครไปนะ คีกลัวเลือด\" ผมพูดกระซิบเบาๆ ทำให้แพรวหัวเราะออกมา





    \"ไม่น่าเชื่อ\" แพรวหัวเราะไม่หยุด ทำให้ผมทำโทษจั๊กกะจี๋แพรว แพรววิ่งหนีไปรอบๆ ก่อนที่ผมจะจับตัวแพรวได้ แล้วดึงตัวแพรวมากอดเอาไว้





    \"วันนี้คีมีความสุขมาก แพรวคิดเหมือนกันไหม\"





    \"อื้อ\" แพรวพูดเสียงอู้อี้อยู่ที่อกผม ผมอยากกอดแพรวจนวันสุดท้ายของชีวิตจริงๆ ผมเริ่มฝันถึงชีวิตครอบครัวของผมกับแพรว ถ้าผมมีลูกกับแพรวผมจะตั้งชื่อว่าน้ำ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมกับแพรวเริ่มต้นที่จะมาสนิทกัน









    ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอารมณ์ไหน แพรวถึงได้ชวนผมมาเที่ยวไกลๆ กันสองคน ผมน่ะอยากไปกับแพรวสองคนอยู่หรอก แต่ก็กลัวใจตัวเองเหลือเกิน ก็ผมน่ะ ผู้ชายนะ ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงที่รักสองต่อสอง มันก็กลัวอดใจไม่ไหวเหมือนกัน แถมเชียงใหม่ก็บรรยากาศดีซะอย่างนั้น ผมกับแพรวไปพักที่บ้านพักตากอากาศของที่บ้านผมที่เชียงใหม่ แม้ว่าจะพักกันคนละห้อง แต่ก็อยู่บ้านเดียวกัน ผมต้องพยายามห้ามใจตัวเองอย่างแรง เพื่อไม่ให้แพรวต้องเสียหาย





    \"คีหยิบน้ำปลาให้แพรวหน่อยสิ\" แพรวบอกผมเสียงหวาน ก่อนที่ผมจะหยิบน้ำปลาให้ วันนี้แพรวเป็นคนลงมือทำอาหารให้ผมด้วยตัวเอง ส่วนผมก็เป็นลูกมือที่น่ารักของแม่ครัวจำเป็นคนนี้





    ผมมองแพรวทำกับข้าวด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก จะว่าผมบ้าก็ได้นะ ถ้าผมอยากกลับบ้านแล้วได้อยู่กับแพรวอย่างตอนนี้





    \"มองอะไร ไปหยิบจานมาสิ\" แพรวพูดพลางทำหน้าดุๆ แต่ก็มีประกายขี้เล่นในแววตา





    \"ครับที่รัก\" ผมพูดอย่างไม่อายปาก แต่คนที่ยืนถือตะหลิวนี่สิ หน้าแดงไปถึงไหนๆ แล้ว แกล้งแพรวให้หน้าแดงเป็นสีไฟจราจรนี่เป็นความสุขของผมจริงๆ







    วันนั้นผมดึงแพรวมานั่งคุยกันที่ระเบียงบ้าน ดูเหมือนว่าแพรวจะรู้เหมือนกันว่าวันนี้ผมพยายามที่จะไม่ถูกเนื้อต้องตัวแพรวมากเหมือนทุกวัน





    \"คีเป็นอะไรหรือเปล่าแปลกๆ \" แพรวถามผม





    \"ปะ....เราแค่กลัวน่ะ\" ผมเกือบจะปฏิเสธแล้ว แต่เห็นสายตาดุๆ ของแพรวก็พูดโกหกไม่ออก





    \"หือ? กลัวอะไร\" แพรวทำท่างงได้น่ารักสุดขีด





    \"กลัวว่าจะอดใจลากแพรวเข้าห้องไม่ไหว\" ผมพูดไปหัวเราะไป แพรวจึงคิดว่าโดนผมรวนเข้าให้แล้ว จึงตีเข้ามาที่ไหล่ผมหลายตุ๊บเหมือนกัน แต่แพรวจะรู้ไหมน้า ว่านั่นน่ะ คือความจริง ในที่สุดผมก็อดใจไม่ไหว ดึงแพรวมากอดหลวมๆ





    \"แพรว คีรักแพรวนะ\"





    \"แพรวก็รักคี...รักมาก รักจนกลัวว่าวันนึงเราจะต้องจากกันไป\" แพรวพูดจบก็ร้องไห้ออกมา คำว่าจากกันเล่นเอาใจผมแป้วไปเล็กน้อย แต่ก็กระชับกอดคนตรงหน้าเข้ามา





    \"เราจะไม่จากกันไปไหน เราสัญญา\"  







    อยากรู้ใช่ไหมครับว่าเราไปกันได้ดีแค่ไหน และไปไกลขนาดไหนที่เชียงใหม่ เสียใจครับ มันไม่มีฉากเรทๆ อย่างที่คิดหรอก ผมให้เกียรติแพรวพอ แม้ว่าจะแอบกอด หอมแก้ม หรือว่าจูบเบาๆ ไปมากหน่อยก็เท่านั้น แต่มันก็คงไม่มากไปกว่าคนที่เป็นแฟนกันใช่ไหมครับ







    หลังจากที่ผมไปเที่ยวกับแพรวเสร็จ ลงมาก็พบกับปัญหาใหญ่ของเพื่อนรัก ตอนนี้ไอ้ภูมันเลิกกับไอ้มิวแล้วล่ะครับ ผมก็รู้ว่ามันมีเรื่องระหองระแหงเพราะรุ่นพี่คนนึงมานานนับปี แต่ก็ไม่คิดว่าสองคนนี้จะเลิกกันจริงๆ ผมเห็นไอ้ภูมันรักของมันจะตาย และการเลิกครั้งนี้ก็เป็นเพราะรุ่นพี่คนนั้นจริงๆ เพราะมิวพูดออกมาเต็มปากเต็มคำว่าชอบเขา แม้ว่าพี่เขาจะไม่มองมันก็ตาม ส่วนไอ้ภูถูกผู้หญิงพูดถึงขนาดนั้นก็ไม่ทู่ซี้ไปตามตื้อ แต่ผมดูออกว่ามันเสียใจมาก และก็ทำให้ผมต้องมานั่งก๊งกับมันแทบทุกเย็น ก็ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง ก็เลยต้องมาดูแล ผมกับแพรวเลยอดสวีทกันเลยทีเดียว





    \"มรึงคิดดูนะไอ้คี\" เออ...คิดตามอยู่ \"ถ้าไอ้แพรวไปเที่ยวกับผู้ชายสองต่อสองมรึงจะทนได้ไหม\"





    \"อ้าว ทำไมต้องพาดพิงแฟนกรูด้วยวะ\" ผมประท้วงมัน





    \"กรูแค่เปรียบเทียบ มรึงนี่ควายจริงๆ\" ผมรู้แล้วล่ะครับว่ามันเมาจริงๆ มันเริ่มพูดไม่รู้เรื่องแล้ว แล้วนี่มันเวรกรรมอะไรของผมเนี่ย ที่ต้องมานั่งเฝ้ามัน





    \"มรึงนะโชคดี\" มันเริ่มพล่ามต่อ ผมควปล่อยให้มันพูดต่อไปดีไหมเนี่ย \"ไอ้แพรวมันไม่หวาน ไม่สวย\"





    เวรแล้วไง คุยทีไรก็มาลงเรื่องผมกับแพรวทุกทีเลย





    \"มรึงหาเรื่องกรูเหรอไอ้เพื่อนเวร\" ผมเริ่มรำคาญมันได้ที่แล้วล่ะครับ





    \"กรูไม่ได้หาเรื่อง มรึงน่ะแหละหาเรื่องกรู\" ผมเชื่อคำโบราณแล้วล่ะครับว่าอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา เพราะมันพูดไม่รู้เรื่อง!! ไม้เว้นแม้แต่เพื่อนผมเหมือนกัน







    \"ปล่อยกรู กรูอยากรู้ว่าแม่งดีกว่ากรูตรงไหน กรูจะไปถามมิวว่าทำอย่างนี้ได้ยังไง ปล่อย\" ผมไม่อยากจะบอกเลยว่าเหตุการณ์ตอนนี้มันวุ่นวายมาก ไอ้ภูมันเมาได้ที่แล้วครับ ได้ที่โดนอัด เพราะตอนนี้เพื่อนๆ อยากจะอัดมันทั้งนั้น แต่ที่ทำได้ก็เพียงกุมขมับแล้วจับมันให้อยู่นิ่งๆ ซึ่งก็ทำได้ยากมากๆ





    \"พลั่ก\" ผมต่อยมันเองแหละครับข้อหาหมั่นไส้





    \"มรึงเลิกทำตัวอย่างนี้ได้เปล่าวะ ทุเรศลูกตาวะ ผู้หญิงมีตั้งเยอะแยะให้เลือก กับอีแค่ผู้หญิงคนเดียวทิ้งไปไม่ตายหรอกว่ะ\"







    หลังจากที่ผมปล่อยหมัดขวาตรงใส่เจ้าเพื่อนตัวดีแล้ว ผมก็ขับรถไปหาแพรวที่โรงพยาบาลทันที เพราะคนเดียวที่ทำให้จิตใจของผมสงบได้ก็คือแพรว





    วันนั้นผมไม่ได้บอกกับแพรวก่อนว่าจะไปหา อาจเป็นเพราะผมไม่มีอารมณ์คิดอะไรทั้งนั้นก็เป็นได้ ผมคิดปลอบใจตัวเองว่าถ้าไม่เจอแพรวที่โรงพยาบาลก็จะเลยไปหาที่บ้านก็ได้ ขับรถเลยไปอีกนิดเดียวเอง แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่าต้องมาเจอกับเซอร์ไพส์ของแพรว ผมไม่เคยนึกเอะใจกับความผิดปกติของแพรวในช่วงเดือนที่ผ่านมาเลย ผมห่างเหินแพรวไปใช่ไหม หรือว่าผมทำตัวไม่ดียังไง ใครก็ได้ช่วยบอกผมที





    \"....แพรวควรบอกคีนะ\" เสียงพี่กอล์ฟดังขึ้น ผมมองเห็นแพรวก้มหน้าร้องไห้เบาๆ แพรวร้องไห้ ผมอยากจะเข้าไปกอดปลอบใจเหลือเกิน แต่ว่าเรื่องอะไรล่ะที่ทำให้แพรวร้องไห้ แล้วแพรวมีเรื่องอะไรที่ต้องบอกผม





    \"แพรวไม่รู้จะทำยังไงดี แพรว...\" แพรวพูดได้เท่านั้นก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดฝืน ไอ้หมอนั่นกอดแพรว ผมอยากจะเข้าไปกระชากตัวมันออกมาแล้วตั๊นหน้ามันสักที แต่สิ่งที่ทำให้ผมหยุดนิ่งคือท่าทีของแพรว แพรวหันไปกอดหมอนั่นกลับ และกอดมันราวกับเป็นที่พึ่งพิงสุดท้ายที่เหลืออยู่ ให้ตายสิ





    \"แพรว\" ผมเรียกแพรวเสียงแข็งทำให้แพรวกับหมอนั่นผละออกจากกันในทันที  สีหน้าของคนทั้งคู่ดูตกใจมากที่เห็นผมยืนอยู่ตรงนี้





    \"คี พี่อธิบายได้นะ\"





    \"คุณไม่ต้องพูด แพรวกลับบ้าน เรามารับ\" ผมตวาดใส่หมอนั่นเสียงดัง แล้วกระชากแพรวมายืนข้างๆ ผมด้วยความโมโห





    \"คีไม่เห็นต้องรุนรงขนาดนั้นเลยนี่นา\" ดูเหมือนว่ามันจะโมโหขึ้นมาเหมือนกัน แต่เรื่องอะไรที่ผมต้องใส่ใจ





    \"มันเรื่องของผมกับแพรว คนอื่นไม่เกี่ยว\" ผมมองหน้ามันอย่างเอาเรื่อง มันไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องแพรว





    \"คีเราขอร้องนะ พี่กอล์ฟแพรวไม่เป็นไร กลับกันนะคี\" ผมเดินตามแรงฉุดของแพรว แต่ตาก็ยังมองมันไม่วางตา ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างผมกับแพรว ทุกอย่างเป็นเพราะมัน









    ความจริงผมมีเรื่องที่อยากจะพูดอยากจะถามมากมาย พออยู่ด้วยกันสองคนผมกลับไม่รู้จะพูดจะถามอะไร เราสองคนนั่งนิ่งๆ อยู่ในรถที่จอดอยู่บนลาดจอดรถของโรงพยาบาล แพรวดูนิ่ง...จนเกินไป ผมคาดหวังคำแก้ตัว หรือว่าอะไรก็ได้จากคำพูดของแพรว แต่นี่...ไม่มี





    \"แพรวมีเรื่องอะไรจะบอกคีหรือเปล่า?\" ผมทำลายความเงียบด้วยคำถามง่ายๆ





    \"....\" แพรวนิ่งเหมือนเดิม ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ





    \"แพรว...\"





    \"แพรวอยากกลับบ้าน\" ผมกับแพรวพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน ทำให้เราสองคนมองตากันโดยไม่ตั้งใจ





    บรรยากาศในรถตอนนี้ตึงเครียดทีเดียว แพรวยังคงเงียบแล้วมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ส่วนผมก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง นี่ผมต้องประสบชะตากรรมเดียวกันกับไอ้ภูหรือนี่  ไม่นะ ผมไม่ยอม ผมรักแพรวเกินกว่าที่จะสูญเสียแพรวไป





    ตอนนี้บ้านของแพรวยังคงมืดสนิทเหมือนเคย ผมจอดรถอยู่หน้าบ้านของแพรว แล้วหันมามองคนที่นั่งข้างๆ ก่อนที่จะจับมือ แพรวมากุมเอาไว้ ผมอยากจะมั่นใจว่าระหว่างเราทุกอย่างจะเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จังหวะนั้นแพรวเงยหน้าขึ้นมามองผม แล้วมองหน้าผมเหมือนที่จะตัดสินใจอะไรบางอย่าง...ที่มันสำคัญมากๆ





    \"อยู่ด้วยกันตลอดไปนะแพรว\"





    \"แพรว..ขอโทษ\" แพรวพูดจบก็ลงจากรถวิ่งเข้าบ้านไป ทิ้งให้ผมนั่งมึนงงกับคำขอโทษของแพรว ก่อนที่ผมจะรู้ตัววิ่งตามแพรวลงไปเกาะที่รั้วบ้านของแพรว





    \"แพรวหมายความว่ายังไง ออกมาพูดกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะ เราไม่ยอมนะแพรว ออกมาพูดกันให้รู้เรื่อง แพรว!!\"





    ในชีวิตนี้ ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะร้องไห้เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว แต่ผมก็ร้อง เพราะผมเข้าใจความหมายของคำๆ นั้นดี คำขอโทษของแพรวในเวลานี้ก็ต่างอะไรกับคำว่า  \'เราเลิกกัน\'







    30 ม.ค.



    ปล่อยให้เขาเข้าใจผิดอย่างนี้ก็ดี ไม่ต้องให้เขารับรู้เรื่องราวอะไรที่เลวร้าย

    สักวันเขาก็จะลืม แล้วยิ้มได้กับคนใหม่ของเขา...ลาก่อนคี






    ตั้งแต่วันนั้นผมกับแพรวก็แทบจะไม่มองหน้ากันเลย จะว่าไปอาจเป็นเพราะตัวผมเองที่หลบหน้าแพรว เราสองคนเลยเป็นที่สงสัยของเพื่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันไม่เหมือนกับเรื่องของไอ้ภูที่มีเรื่องระหองระแหงกันมานาน เพราะผมกับแพรวยังรักกันดี และจู่ๆ ก็ห่างกันไปเลย





    \"ไอ้คีแกจะงอนไอ้แพรวไปถึงไหน\" ผมอยากบอกเหลือเกินว่าผมไม่ได้งอน และผมก็อยากจะมาเริ่มต้นใหม่... ถ้าแพรวต้องการ แต่ศักดิ์ศรีและความโกรธมันยังค้ำคออยู่





    \"กรูไม่ได้งอน\"





    \"แล้วมรึงเป็นอะไร\" เพื่อนคนเดิมถาม





    \"กูชอบคนอื่นแล้ว พอใจหรือยัง\" ผมพูดจบก็เดินไปทางอื่น ผมตอบอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน คนอื่นจะได้เลิกถามเสียที











    \"คีทำอย่างนี้ทำไม\" แพรวพูดขึ้นหลังจากที่ผมพูดว่าผมมีคนใหม่กับคนอื่นไป ผมคิดว่าคงมีใครสักคนเอาไปถามแพรว





    \"คีทำอะไร\" ผมถามเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร





    \"ทำไมต้องบอกกับเพื่อนอย่างนั้นด้วย\" แพรวมองหน้าผมอย่างเค้นเอาคำตอบ





    ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมกำลังทำอะไร ในช่วงเวลานั้นผมรู้สึกเวทนาตัวเองอย่างบอกไม่ถูก อะไรบางอย่างทำให้ผมพูดอะไรที่ไม่ตรงกับความจริงออกไป





    \"ก็เรามีคนอื่นจริงๆ นี่นา\" ผมมองหน้าแพรวที่ฉายแววปวดร้าวและตัดพ้อมาเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะปรับให้เหมือนเดิม แพรวไม่พูดอะไรสักคำ ไม่ทำอะไรเลย นอกจากก้มหน้าแล้วเดินจากไป ใจนึงผมก็อยากจะฉุดแพรวมากอดเอาไว้ แต่อีกใจก็บอกกับผมว่าในเมื่อใจแพรวไม่อยู่กับผมแล้วรั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร







    ตั้งแต่วันั้นผมก็เริ่มทำอะไรผิดเพี้ยนไป ผมเริ่มที่จะเจ้าชู้ ผมมักจะยิ้มให้สาวๆ บ่อยกว่าความจำเป็น บางทีก็ตกปากรับคำไปกินข้าวกับรุ่นน้องง่ายๆ โดยที่ไม่สนใจสายตาใคร ผมเพียงแค่อยากจะลืม ลืมผู้หญิงที่ทิ้งผมไป คำถามของผมที่มีอยู่ในหัวใจตอนนี้ก็คือ... เราเลิกกันจริงๆ แล้วใช่ไหม?





    ..เลิก.. คำๆ นี้ช่างทำร้ายจิตใจผมรุนแรงยิ่งนัก ผมรู้ซึ้งเลยว่าคำว่ายิ่งใกล้ยิ่งเจ็บเป็นไง เหมือนเพลงๆ นึงที่ผมเคยฟังเมื่อนานมาแล้ว





    \'จากคนคนที่เคนมีใจกันอยู่

    เปลี่ยนไปเป็นไม่มีเยื่อใยต่อกัน

    อยากลืมลืมทุกสิ่ง

    ลบล้างเรื่องวันวาน

    หากเราไม่เห็นกันคงลืมกันได้



    หนักใจตรงที่ความจำเป็นบางอย่าง

    กดดันทำให้เราเจอกันต่อไป

    ยิ่งเจอใจยิ่งเจ็บ

    มันทรมานเกินไป

    ห่างกันไปให้ไกลมันยังดีกว่า



    คนที่รักร้างไกลนั้นเจ็บไม่นาน

    คนไม่รัก ใกล้กันช้ำใจยิ่งกว่า

    แต่ว่าหนทางทางของคน

    ไม่มีให้เลือกเท่าไหร่

    เจ็บสักเท่าไร ก็ต้องรับมา



    อีกนาน...นานเท่าไหร่มันจึงจะจบ

    จบกันกันให้ไปไกลกันสุดตา

    อยากมีชีวิตใหม่ ไม่ต้องมีเธอมา

    ต้องเจอกับสายตาเย็นชากันอยู่



    เจ็บปวดเสมอที่ต้องเจอกัน

    เอ่ยปากต่อกัน..เหมือนคนใหม่

    จำใจแสดง แกล้งทำกันไป

    อย่างไม่ค่อยเต็มใจ อย่างกับคนไม่เคยรักกัน\'








    แม้ว่าแพรวจะแอบส่งสายตา และรอยยิ้มมาให้ผมบ่อยครั้ง แต่ผมก็ไม่ได้มีหัวใจที่แข็งเป็นหินเหมือนแพรวที่จะลืมเรื่องทั้งหมดได้ภายในช่วงระยะเวลาอันสั้น และในขณะที่มองเห็นหน้ากันอย่างนี้..แทบทุกวัน ทำให้ผมทำได้อย่างมากก็แค่ยิ้มฝืนๆ ให้ไป





    วันก่อนผมเห็นไอ้กอล์ฟมันมารับแพรวที่มหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมแทบจะวิ่งไปต่อยหน้ามัน แต่ผมก็ทำไม่ได้ ไม่ใช่เพราะผมไม่กล้า แต่ผมรู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์ เพราะถึงแม้ว่าเราไม่ได้เลิกกันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าสภาพของเราสองคนตอนนี้ก็คือเลิกกันอยู่ดี ผมอยากรู้นักว่าพราวรู้เรื่องนี้หรือเปล่า? ...ใช่พราว ทำไมผมไม่คิดถึงพราวก่อนหน้านี้นะ ผมต้องไปหาพราว ตอนนี้เลย







    พอผมไปที่โรงพยาบาลก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะว่าตอนนี้บรรยากาศมันเศร้าเกินกว่าที่ผมจะเอ่ยอะไรได้ ผมรับทราบจากพ่อแม่ของแพรวและพราวว่าตอนนี้พราวอาการหนักและกำเริบขึ้น ผมเห็นแพรวกับไอ้กอล์ฟเดินมาด้วยกัน และมองผมด้วยสีหน้าที่ตกใจผสมงงงัน





    \"เรามาเยี่ยมพราว\" ผมพูดสั้นๆ บอกคนทั้งคู่ แต่ไอ้กอล์ฟเดินมาใกล้ๆ ผม แล้วขู่คำรามเบาๆ





    \"แกอย่าพูดอะไรเหลวไหลในเวลาแบบนี้ให้พราวฟังเด็ดขาด\"





    ผมยิ้มเยาะกับคำพูดของมัน ทีเวลาทำน่ะไม่คิด ทีตอนนี้....





    \"พี่กอล์ฟ คีเขาไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก เชื่อแพรวเถอะ\" แพรวมองหน้าผมเป็นเชิงขอโทษในความใจร้อนของเขา แต่ตาผมตอนนี้อยู่ที่มือของแพรวที่จับแขนไอ้บ้านั่นอยู่ เลือดในกายผมพลุ่งพร่านขึ้นมาทันที ผมทนไม่ไหวกับภาพนั้นอีกต่อไป ผมเดินชนไหล่ไอ้กอล์ฟแล้วเดินจากไป ทำให้ผมไม่ทันเห็นแววตาของแพรวที่บอกอะไรหลายๆ อย่างเสียเหลือเกิน









    หลังจากวันนั้นผมก็ไม่มองหน้าแพรวอีกเลย เพราะทุกครั้งที่มองหน้าแพรวสิ่งที่ผมเห็นคือเงาของใครอีกคน และดูเหมือนว่าแพรวจะรู้ใจผม เพราะไม่มาให้ผมเห็นหน้า แต่ใจเจ้ากรรมของผม ยิ่งสมองบอกว่าไม่ให้เห็นก็ยิ่งอยากเห็น เพียงแค่แว๊บเดียวก็ยังดี แต่ผมก็ยังทำใจแข็งไม่ถามใคร แม้ว่าจะคิดถึงแพรวสักเท่าไหร่ก็ตาม





    \"เฮ้ย ทำไมช่วงนี้ไม่เห็นหน้าไอ้แพรวเลยวะ\" ไอ้ภูถามขึ้น ไม่รู้ว่ามันจงใจหรือเปล่า เพราะน้องหยีที่ผมควงอยู่ตอนนี้นั่งอยู่ที่โต๊ะด้วย ผมทำท่าไม่ใส่ใจอะไร แต่ใจของผมก็อยากให้ใครตอบมาสักคนเหลือเกินว่าแพรวหายไปไหน





    \"อยู่คนละเอกมั้ง เลยไม่ค่อยได้เจอกัน\" เสียงไอ้โจ้พูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจเช่นกัน





    คำตอบอย่างนี้ผมก็ตอบได้ ผมกับแพรวไม่ได้เลือกเรียนเอกเดียวกัน โอ้ย... แล้วนี่ผมจะคิดถึงแพรวทำไมกันล่ะเนี่ย เราทางใครทางมันแล้วไม่ใช่เหรอ





    \"เฮ้ยนั่นไอ้ตูนมาพอดี ตูน วู้ทางนี้\" ภูเรียกตูนที่หน้าดำคร่ำเครียดมาทางโต๊ะ ท่าทางวันนี้ไอ้ตูนเครียดเป็นพิเศษ





    \"เป็นไรวะ ขี้ไม่ออกเหรอ\" ไอ้โจ้ถามกวนๆ แต่ก็ไม่ได้เรียกท่าทีที่โกรธเคืองของตูนได้เลย ตูนยังคงจมอยู่กับความคิดตัวเองเงียบๆ





    \"มีเรื่องอะไรซีเรียสหรือเปล่า?\" ไอ้ภูถามขึ้นด้วยท่าทางที่จริงจังกว่าเดิม





    ไอ้ตูนมองหน้าผมแล้วมองหน้าน้องหยี ก่อนที่จะส่ายหัวปฏิเสธ \"ช่างเถอะ พวกฉันจัดการเองได้ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พวกแกมีอะไรหรือเปล่าที่เรียกมาเนี่ย\"





    \"ไอ้แพรวมันหายไปไหนวะ ไม่ค่อยเห็นหน้ากวนๆ ของมันเลย\" ไอ้ภูถามขึ้นอย่างที่ใจคิด ผมเองก็ตั้งใจฟัง แม้ว่าจะแสร้งทำเป็นมองไปทางอื่นก็ตามเถอะ





    \"ก็เนี่ยแหละที่ฉันกลุ้มใจ หมู่นี้แพรวหยุดบ่อยมาก มาวันหยุดสองวัน ไม่รู้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? จะว่าเรื่องน้องสาวมันอย่างเดียวก็ไม่ใช่ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น\"





    \"เรื่องไรวะ\" ไอ้โจ้ถามขึ้นมาเหมือนกับจะรู้ใจผม ตอนนี้ผมบังคับหน้าตัวเองให้ไม่มองตูนแล้วฟังอย่างตั้งใจไม่ได้แล้ว





    \"ไม่รู้ คีถามหน่อยเถอะ ก่อนที่แกจะเลิกกับไอ้แพรว มันเคยบ่นอะไรไหม\" ตูนถามผมด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง





    \"ไม่นี่\" ผมตอบออกไปด้วยความห่วงใย แพรวจะมีปัญหาอะไร ผมอยากรู้...เหลือเกิน







    ด้วยความอยากรู้ ผมพยายามย้ำตัวเองว่าทั้งหมดผมทำไปเพราะความอยากรู้ เพราะผมไม่รู้เลยว่าผมขับรถมาที่บ้านแพรวได้อย่างไร ผมรู้สึกตัวอีกทีก็จอดรถอยู่หน้าบ้านแพรว ผมพยายามเลือกมุมแอบๆ ไม่ให้แพรวเห็นว่าผมมา ให้ตายสิ ผมกำลังทำอะไรอยู่นะ แต่ถึงแม้จะอยู่ไกล แต่ผมก็เห็นแพรวออกมานั่งวาดรูปที่สวนหน้าบ้าน ผมไม่สามารถเห็นหน้าของแพรวได้ แต่ท่าทางของแพรวตอนนี้ดูเหมือนคนมีอะไรในใจ ผมอยากจะเข้าไปกอด อยากจะเข้าไปปลอบ แต่ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นแล้ว





    วันนั้นกว่าผมจะขับรถออกจากแถวบ้านแพรวก็เกือบสองทุ่ม ผมกลับมาบ้านด้วยความรู้สึกที่สับสน ผมไม่รู้สึกเหมือนตอนที่กิ๊บทิ้งไป ตอนนั้นผมไม่รู้สึกเจ็บหนึบที่หัวใจอย่างนี้ นี่ผมรักแพรวมากขนาดนี้เลยหรือ แต่รักเท่าไหร่ก็ต้องตัดใจ เพราะมันไม่มีทางที่จะหวนมา





    หลังจากวันนั้นแพรวก็มาเรียนเหมือนเคย แต่ก็ดูเหมือนว่าแพรวจะดูเซียวๆ ไป ผมทำเป็นไม่ใส่ใจแพรวเหมือนเดิม แต่ก็ดูเหมือนว่าแพรวจะไม่ว่าอะไร จากนั้นพวกเราก็ต้องเพ่งสมาธิกับการสอบ แล้ววันนั้น วันที่หัวใจของผมปวดร้าวระบมก็มาถึง ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าเรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นกับผม หรือว่าเกิดขึ้นกับแพรว ผมได้แต่ถามโชคชะตาว่า... ทำไม? ทำไมต้องเป็นแพรว







    \"ไอ้ตูน ปวดขี้ทำไมไม่เข้าห้องน้ำวะ เดินไปเดินมาอยู่นั่นแหละ\" เสียงไอ้โจ้ปากหมาใส่ตูนอีกแล้ว





    \"ไอ้เวรโจ้ กรูกำลังเครียด ไอ้แพรวยังไม่เอางานมาส่งเลย เนี่ยนัดกัน 9 โมง จะ 11 โมงแล้วยังไม่โผล่เลย จะเป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้\" ตูนบ่นมายาว ทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ แพรวไม่ใช่คนอย่างนี้ แพรวเป็นคนมีความรับผิดชอบพอ อีกอย่างถ้าเป็นเรื่องงานแพรวไม่เคยพลาด





    \"เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?\" ผมถามเสียงเครียด และก่อนที่ใครจะพูดอะไรผมก็ชิงพูดออกมาเสียก่อน \"เดี๋ยวเราไปดูแพรวที่บ้าานให้ ถ้าแพรวมาถึงแล้วโทรเข้ามือถือเราด้วย อ้อ.. ถ้าแพรวมาถึงไม่ต้องบอกนะว่าเราไปตาม\"





    \"ไอ้ขี้เก็กเอ้ย\" เสียงไอ้โจ้พูดอยู่ไกลๆ แต่ตอนนี้ผมไม่ใส่ใจจะฟัง ตอนนี้ผมเป็นห่วงแพรวมากเหลือเกิน ตอนนี้ผมเพิ่งรู้ใจตัวเองว่าไม่ว่าแพรวจะมีใครในหัวใจ แต่ขอให้แพรวมีความสุข ขอให้ผมได้อยู่ใกล้ๆ เท่านั้นก็พอแล้ว









    3 มี.ค.



    ฉันไม่รู้เลยว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายของฉัน ก็คือตอนที่ฉันกำลังจะออกจากบ้าน

    เอาข้อสอบเทคโฮมไปส่งอาจารย์ แล้วจากนั้น ฉันก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

    ถ้าฉันจะตาย ก่อนตายฉันขอเห็นรอยยิ้มที่สดใสนั้นก่อนได้ไหม รอยยิ้มของเขา






    \"แพรว\" ผมรู้ตัวว่าเสียงของผมแหบพร่า ผมหมดเรี่ยวแรงตั้งแต่ได้รู้อะไรบางอย่างจากพี่กอล์ฟ แพรวไม่ได้รักผมน้อยลงไปกว่าเดิม เพียงแต่ว่าแพรวเลือกทีจะปิดบังผม ทำไมแพรวถึงโง่ขนาดนี้นะ แพรวไม่รู้เหรอว่าทำอย่างนี้ ผมจะยิ่งไม่มีความสุข แพรวก็ไม่มีความสุข





    \'แพรวบอกกับพี่ว่าเขาอยากเห็นคียิ้ม ไม่ใช่ทำหน้ากลุ้มใจเวลาเห็นเขา แพรวบอกว่าสักวันคีก็ต้องลืมแพรว\'





    เสียงพี่กอล์ฟดังขึ้นในหัวผมไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ





    \"แพรว คีรักแพรวนะ ลืมตาขึ้นมาคุยกับคีสิ\" ผมกุมมือแพรวแนบกับแก้มของตัวเอง น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมา เป็นครั้งแรกที่ผมกลัว... ผมไม่อยากจะสูญเสียแพรวไป





    \"คีอย่าร้อง แพรวไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย\" แพรวพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ทำให้ผมลุกขึ้นอย่างดีใจ แล้วรีบเรียกหมอมาทันที ต่อไปนี้ไม่ว่ามีอะไรผมจะไม่อยู่ห่างจากแพรว จะรักแพรวคนเดียว





    ผมปล่อยให้คุณหมอตรวจแพรวสักพัก ก่อนที่จะคุยกับพ่อแม่ของแพรว ไม่ใช่แค่ผมไม่รู้เรื่อง ดูเหมือนว่าแพรวจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้คนเดียว เพราะพ่อแม่ของแพรวก็ไม่รู้เรื่องด้วยเหมือนกัน แม่ของแพรวร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ผมเองก็เห็นใจอยู่เหมือนกัน คนนึงก็เป็นโรคหัวใจ อีกคนนึงก็... แต่ผมไม่ยอมปล่อยให้แพรวเป็นอะไรไปเด็ดขาด ไม่มีทาง





    ผมโทรคุยปรึกษากับพ่อ แล้วก็หมอที่โรงพยาบาลเกี่ยวกับอาการของแพรว การที่ผมอยู่โรงพยาบาลและคลุกคลีกับหมอตั้งแต่เด็ก ทำให้ผมรู้เรื่องพวกนี้พอสมควร ทั้งพ่อและหมอพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนนี้สิ่งที่แพรวต้องทำคือผ่าตัดให้เร็วที่สุด





    \"จะเอาเงินจากไหนมาคะ ตอนนี้อาการของพราวก็แย่อยู่ แพรวไม่ผ่า ยังไงก็ไม่ผ่า\" แพรวพูดขึ้นเสียงเครียด ผมมองลอดช่องกระจกเข้าไป เห็นพ่อกับแม่ของแพรวทำหน้าแบบไม่เชื่อหูตัวเอง





    \"แพรวคุยกับหมอแล้ว ถึงแพรวผ่าก็อยู่ได้อีกไม่กี่ปี สู้เอาเงินไปรักษาพราวดีกว่า\"





    ผมไม่ยอม ผมคิดได้คำเดียวว่าผมไม่ยอม ชีวิตของผมจะเป็นยังไงถ้าไม่มีแพรว





    \"พูดอย่างนี้ได้ยังไง แพรวกำลังจะฆ่าแม่ทั้งเป็นนะลูก\" แม่ของแพรวพูดขึ้นทั้งน้ำตา \"ทั้งแพรวกับพราวเป็นของขวัญที่ฟ้าประทานมาให้ ถึงแม้แม่ต้องหมดตัวกู้หนี้ยืมสินมา แต่แม่ขอร้องล่ะแพรว ผ่าตัดเถอะนะ\"





    แม่ของแพรวพูดจบก็กอดแพรวร้องไห้ ผมไม่ได้เข้าไปตอนนี้ให้เสียบรรยากาศ แต่ผมรับรู้ในใจเพียงแต่ว่า ผมเองก็ไม่ยอมปล่อยแพรวไปเหมือนกัน ไม่ว่ายังไงผมจะให้แพรวผ่าตัดให้ได้





    วันนั้นผมอาสาที่จะอยู่เฝ้าแพรว ผมมองตาแพรวก่อนที่จะกดจมูกลงไปที่แก้มของแพรวเบาๆ \"คีรักแพรว\" ผมพูดกับแพรวที่ข้างหู ก่อนที่จะดึงตัวแพรวเข้ามากอด ผมรับรู้ได้ว่าแพรวผอมลงไปมาก ผมรู้ว่าอาการพราวยิ่งแย่ แพรวยิ่งทำงานหนักขึ้น แพรวทำงานหนักทั้งๆ ที่ไม่สบาย แพรวของผมต้องทำเพื่อคนอื่นมาตลอด แต่วันนี้ผมจะทำทุกอย่างเพื่อแพรว เท่าที่ชีวิตนี้ผมจะทำได้ ไม่ว่าอย่างไรผมก็จะทำ





    \"คีอย่าทำหน้าแบบนั้น แพรวไม่ได้ตายไปสักหน่อย แพรวแค่ไม่สบายเดี๋ยวก็หาย\" ดูสิครับ แพรวรู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นอะไร แต่แพรวกลับมาปลอบผม หน้าที่นั่นควรเป็นของผมสิ





    \"แพรว อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ\" ผมย้ำคำพูดที่เคยพูดกับแพรวครั้งหนึ่ง ผมไม่สามารถทนได้ หากแพรวจะจากผมไป





    ผมรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่อกของผม แพรวคงร้องไห้ \"แพรวขอโทษ\"





    \"แพรวขอโทษคีเรื่องอะไร\" ผมเชยคางแพรวขึ้น แล้วเช็ดน้ำตาให้เบาๆ พลางยิ้มให้คนตัวเล็กขี้แย





    \"แพรวอยากรับปาก แต่...\"  





    \"เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปแพรว\" คราวนี้ผมไม่พูดเป็นเชิงถามแพรวอีกแล้ว หากแต่ย้ำให้ใจของเราสองคนได้ยิน...









    1 เม.ย.



    มีใครเคยเป็นบ้าง

    เพลงบางเพลงที่เราเคยคิดว่าเพราะ ชอบ แต่พอเวลาผ่านไปก็คิดว่ามันธรรมดา

    แต่กับเพลงบางเพลงที่เคนคิดว่ามันธรรมดา

    แต่พอคนสำคัญเป็นคนร้อง หรือว่าให้ฟัง... มันกลับตราตรึงในหัวใจไม่มีวันเลือน






    \"You give your heart to me

    On the sunny day

    A little clouds come over and it turn away

    I see what\'s going on

    This is never mine



    Baby, I don\'t know where it coming from

    Just hold my hand

    And please understand

    If you want me too

    I\'ll be here for you

    Believe me when I\'m telling you



    I don\'t need forever

    But I don\'t wanna ever

    hear you say goodbye

    I kinda like you by my side

    You and I forever

    Baby we can whether the thing inside

    Ah..... On every rainy night

    Ah..... I\'ll be safe inside

    Ah..... On every rainy night



    Sometime we try to hard

    to play the game

    The only thing

    We ever went is yesterday

    I know the love we had

    just slip away

    If we don\'t start them before too late



    Where do we go?

    Where do we stay?

    If you want me too

    I\'ll be here for you

    Believe me when I\'m telling you



    I don\'t need forever

    But I don\'t wanna ever

    hear you say goodbye

    I kinda like you by my side

    You and I forever

    Baby we can whether the thing inside

    Ah..... On every rainy night

    Ah..... I\'ll be safe inside

    Ah..... On every rainy night



    Baby hold on to me

    Just open your heart and let me in

    And we can make it better



    I don\'t need forever

    But I don\'t wanna ever

    hear you say goodbye

    I kinda like you by my side

    You and I forever

    Baby we can whether the thing inside

    Ah..... On every rainy night

    Ah..... I\'ll be safe inside

    Ah..... On every rainy night



    Ah..... I\'ll be safe inside

    Ah..... On every rainy night

    Ah..... I\'ll be safe inside

    Safe inside

    On every rainy night

    Every rainy night



    I\'ll be safe inside

    Baby...\"






    ผมร้องเพลงนี้ให้แพรวระหว่างที่เรากำลังดูดาวด้วยกัน ผมเคยคิดอยากจะร้องเพลงนี้ให้แพรวฟังตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่กล้าเสียที ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะร้อง ผมเพิ่งรู้ว่าชีวิตคนสั้นนัก หากคิดจะทำอะไรบอกรักใครก็ให้รีบทำเสียตอนนี้





    เมื่อผมดีดเส้นเสียงสุดท้าย ผมก็วางกีตาร์แล้วมาจับมือแพรว มองหน้าคนที่นั่งฟังเพลงนิ่งอย่างเต็มตา





    \"ไม่ว่าฝนตกหรือแดดออกเราจะอยู่ด้วยกันนะแพรว\" ผมทำให้แพรวร้องไห้อีกแล้ว แพรวกอดผมแน่น ผมรู้ดีว่าเพราะอะไร ผมพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ร้องตามแพรว ผมจะหมดหวังไม่ได้ เพราะแพรวหมดหวังไปแล้ว ถ้าผมหมดหวังอีกคน เราจะไม่เหลืออะไรกันเลย





    \"แพรวรักคีเพราะอะไร หือ\" ผมถามคนตัวเล็กที่ผมดึงมากอดไว้แนบอก ผมตัดสินใจขออนุญาตพ่อแม่ของแพรวพาแพรวมาเที่ยวทะเลใกล้ๆ โดยรับปากว่าจะดูแลอย่างดี เป็นการพักผ่อนก่อนที่แพรวจะผ่าตัดใหญ่





    \"ทำไมอยู่ดีๆ ถาม\" แพรวพูดขึ้นยิ้มๆ แพรวมักเป็นอย่างนี้เสมอ ไมว่ายังไงแพรวก็จะยิ้ม คนส่วนมากถึงไม่รู้ว่าแพรวมีปัญหาหรืออะไรที่เก็บเอาไว้ข้างใน ผมชอบรอยยิ้มของแพรว แต่ผมก็ไม่ชอบให้แพรวเก็บทุกอย่างเอาไว้คนเดียวเลย





    \"อยากรู้นี่นา\" ผมพูดพลางกดจมูกไปอีกหนึ่งที





    \"แล้วคีล่ะ?\"





    \"คีถามก่อน\"





    แพรวหันมามองผมยิ้มๆ ก่อนที่จะเอามือเล็กๆ จับแก้มผมเอาแล้วก็ดึงแก้มบนไปคนละข้าง ทำให้ผมอดอมยิ้มกับกริยาของแพรวไม่ได้ ไม่ว่าแพรวจะทำะไรก็น่ารักไปหมดสินะ





    \"แพรวชอบเวลาคียิ้ม มันดูโลกสดใส เวลาคียิ้มแพรวก็จะยิ้มไปด้วยทุกครั้ง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้ แพรวขอให้คียิ้ม เพราะเวลาคียิ้มแพรวก็ยิ้ม ไม่ว่าแพรวจะอยู่ไหนก็ตาม\"





    ทำไมผมจะไม่รู้ความนัยที่แพรวพูดออกมา แพรวกำลังจะบอกผมว่าถึงแม้แพรวจะตายไป ก็ขอให้ผมยิ้มสู้กับโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ แพรว... คีจะยิ้มอยู่ได้ยังไงเมื่อไม่มีแพรว





    \"จะไม่รับปากแพรวหน่อยเหรอ?\" แพรวพูดเหมือนตัดพ้อ ทำให้ผมดึงแพรวมากอด





    \"เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพียงแค่เราอยู่ข้างกัน ทำไมคีจะไม่ยิ้ม\"





    \"รับปากแพรวหน่อยไม่ได้เหรอ\" แพรวมองหน้าผมนิ่ง เหมือนขอคำตอบ แต่ผมรับไม่ได้กับคำพูดนั้น ถ้าผมรับปากก็เท่ากับผมยอมรับว่าชีวิตของผมต้องไม่มีแพรวอีกต่อไป แล้วผมจะทนยิ้มอยู่ได้ยังไง ทุกวันนี้แม้ว่าใครต่อใครบอกให้ผมทำใจ แต่ผมก็ยังหวัง แม้โอกาสจะมีอยู่น้อยนิด แต่เราก็ยังมีโอกาสไม่ใช่เหรอ ผมขอร้องล่ะ อย่าพรากผมกับแพรวออกจากกันเลย จะให้แลกกับอะไรก็ยอม







    ในวันผ่าตัด แพรวยิ้มให้กับทุกคนว่าไม่ต้องเป็นห่วง แพรวจับมือแม่กับพ่อเอาไว้ แล้วย้ำบอกว่าแพรวจะออกมายิ้มให้พ่อกับแม่เหมือนเดิม แพรวมองผมแลวก็ยิ้มให้เหมือนเคย แต่ในแววตาของแพรวทำไมผมจะดูไม่ออก มันแฝงรอยกังวล และความกลัวอย่างชัดเจน แพรวเคยบอกผมตั้งแต่ยังไม่รู้เรื่องที่เป็นโรคร้ายว่า ...ถ้าเธอจะตาย ขอตายในวงล้อมของคนที่รัก...





    \"พ่อครับ ช่วยแพรวด้วยนะ\" ผมหันไปบอกพ่อเบาๆ ทุกอย่างผมฝากความหวังเอาไว้ที่พ่อ ศัลยแพทย์ที่ผมวางใจมากที่สุดขณะนี้ พ่อตบบ่าผมเบาๆ ก่อนที่จะเดินแยกเพื่ออกไปเตรียมตัว อีกสักพักก็จะมีหมอมาวางยาสลบแพรว





    วันนั้นผมเป็นคนสุดท้ายที่เข้าไปหาแพรว ผมจับมือที่เย็บเชียบของแพรว แล้วบีบเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ ผมยิ้ม...แบบที่แพรวบอกว่าชอบ





    \"ออกมาแล้วคีมีอะไรจะให้ด้วยนะคนเก่ง\" ผมเอียงคอมองผมนิดๆ เป็นเชิงถามว่าอะไร ผมจึงหัวเราะน้อยๆ ก่อนที่จะบอกแพรว \"รอให้ฟื้นก่อน แล้วจะบอก\"





    ผมบีบจมูกแพรวเบาๆ ก่อนท่จะบรรจงจูบที่หน้าผาก แพรวจะต้องฟื้นมารับของขวัญจากผมอย่างแน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น







    7 พ.ค.



    ฉันรู้ดีว่าทุกอย่างมันไม่มีประโยชน์อะไร แต่พอเห็นแววตาของทุกคน ฉันก็อยากที่จะเสี่ยงไปด้วยกัน

    แม้ว่ามันจะมีโอกาสไม่ถึง 1% ก็ตาม








    ผมจับมือแพรวที่นอนนิ่ง อาการของแพรวตอนนี้เรียกได้ว่าทรงตัว แต่อาการแบบนี้ก็เป็นอาการของคนที่จะเป็นเจ้าหญิงนิทราได้เหมือนกัน มือผมกำของขวัญของผมนิ่ง ก่อนที่จะบรจงสวมมันลงในนิ้วเรียวของแพรว ผมซื้อแหวนมาสองวง แหวนที่เหมือนกัน ให้ผมกับแพรวใส่ไว้คนละวง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป





    ผมไม่เคยรู้เลยว่าเวลาแต่ละนาทีมันช่างยาวนาน ผมรอให้แพรวฟื้น แต่แพรวก็ยังไม่ฟื้น ยิ่งนานใจผมก็ยิ่งกลัว เพื่อนๆ หลายคนแวะเวียนกันมาเยี่ยมแพรว พร้อมกับให้กำลังใจผม รวมถึงบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของแพรว เด็กตัวน้อยๆ วิ่งมาหาแพรวจับมือคุณครูแพรวของเขาแล้วร้องไห้





    ...แพรวตื่นเถอะ แพรวเห็นไหมว่าแพรวเป็นที่รักของใครมากมาย ตื่นมาให้เราทุกคนได้รักได้ชื่นชมเถอะนะ...









    \"..เจ็บ\" เสียงของแพรวเพ้อขึ้น ทำให้ผมตื่นจากภวังค์ทันที ตอนนั้นผมไม่รู้อะไรมาก นอกจากรีบวิ่งไปตามหมอ ผมตื่นเต้นเสียจนควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ พ่อมาดูอาการแพรว ก่อนที่จะให้ยาให้แพรวนอนพักต่อ แต่คราวนี้พ่อบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะยังไงพรุ่งนี้เช้าแพรวจะต้องตื่นมาอย่างแน่นอน





    \"คี..พ่อมีเรื่องจะพูด ยังไงๆ แกก็ต้องทำ...\"





    \"พ่อหยุดพูด แพรวจะต้องอยู่กับผมตลอดไป\" ผมเผลอตัวตวาดพ่อเสียงดัง ผมรู้ว่าพ่อจะพูดอะไร แต่ว่าผมไม่ยอมรับมัน





    \"คีจะหลอกตัวเองอย่างนั้นก็ตามใจ แต่แกอย่าลืมว่าเวลาคือสิ่งที่สำคัญสำหรับคีกับแพรว\" พ่อพูดแล้วตบบ่าผมเบาๆ น้ำตาไหลออกมาจากตาผมช้าๆ คำถามเดิมแล่นเข้ามาในหัวผม





    ....ทำไมต้องเป็นแพรว...









    ตอนนี้ฉันเบื่อตัวเองจังเลย ทำอะไรไม่ค่อยได้ดีอย่างที่ใจคิด... ต้องพึ่งคีตลอด

    แม้ว่าจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่อาการบางอย่างก็ยังคงมีอยู่ บางครั้งก็ปวดหัว

    ลายมือก็โย้เย้จนดูไม่ได้ ทุกอย่างดูแย่หมด ยกเว้น...ความรักที่คอยห่อหุ้มฉันเอาไว้

    ไม่ว่าจากครอบครัว หรือว่าจาก...เขา





    \"หิวหรือยัง มาคีป้อน\"





    \"อยากกินเอง\" แพรวเม้มปากมองหน้าผมอย่างจริงจัง ทำให้ผมต้องยื่นช้อนให้





    \"กินข้าวพร้อมกันนะ\" แพรวพูดชวนพร้อมยิ้มหวานให้ ผมจึงไปตักข้าวมาอีกจานนั่งกินพร้อมกัน ผมมองดูแพรวที่พยายามเหลือเกินท่จะตักข้าวให้ไม่หก ผมอยากจะเข้าไปช่วย แต่แพรวก็ทำหน้าเหมือนจะบอกว่า \'แพรวอยากทำอะไรด้วยตัวเอง\' ผมจึงต้องปล่อยแพรวไป





    \"เห็นไหมแพรวทำได้\" แพรวพูดพร้อมยิ้มให้ผม





    \"เก่งจังแพรวของคี\" แพรวมองค้อนผมเสียวงใหญ่ แต่ท่าทีของแพรวก็เรียกเสียงหัวเราะจากผมได้





    ทุกวันนี้ผมย้ายมาอยู่บ้านแพรวเป็นการถาวร เพื่อดูแลแพรว ซึ่งพ่อแม่ผมและพ่อแม่แพรวก็อนุญาต ทีแรกผมคิดว่าจะให้แพรวไปอยู่บ้านผมเพราะมีคนดูแล แต่แพรวไม่ยอม เพราะแพรวบอกว่าแพรวอยากอยู่กับพ่อแม่ ผมเข้าใจแพรวดี ผมจึงขอร้องทุกๆ คนให้ผมมาอยู่กับแพรว ซึ่งทุกคนก็ไม่ว่าอะไร





    กิจวัตรของผมก็คือดูแลแพรวในตอนเช้าจนถึงเข้านอน ส่วนตอนที่ผมไปเรียนจะมีพี่พยาบาลมาดูแล ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้ผมเป็นคนออกให้ ทำให้แพรวแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอกครับ สิ่งที่แพรวทำให้ผมมันมากกว่าที่ผมให้ไปเสียอีก







    \"คีรักแพรวนะ\" ผมพูดพร้อมกับจูบที่เปลือกตาแพรว แพรวยิ้มรับผมก่อนที่จะหลับตา





    เวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกันเรามักจะยิ้มและหัวเราะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมรู้ดีว่าในใจของเราต่างกลัว... กลัววันที่ต้องจากลา







    \"คีหลับหรือยัง?\" แพรวถามผมในความืด ไม่ต้องแปลกใจครับ ผมไม่ได้นอนเตียงเดียวกับแพรวหรอก แต่ผมนอนหน้าเตียงแพรวต่างหาก ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะผมกลัวว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วผมไม่รู้ แม่ของแพรวก็จะมาเฝ้าในวันที่ผมต้องทำงานส่งอาจารย์





    \"ปวดหัวเหรอ\" ผมถามแพรวแล้วลุกขึ้นมาดูแพรวด้วยความเป็นห่วง





    \"เปล่า แต่แพรวอยากดูดาว\"





    ผมประคองแพรวไปที่ระเบียง เราแหงนหน้ามองดาวกันเงียบๆ ผมเหลืบมองแพรวที่นั่งพิงไหล่ผม ก่อนที่จะเอื้อมมือไปกอดแพรว





    \"คีเคยดูเรื่องคู่กรรมไหม\" แพรวถามผมเบาๆ ทำให้ผมหันไปมองหน้าแพรวแล้วก็อมยิ้ม ...จะมาไม้ไหนอีกล่ะเนี่ย....





    \"เคยดูผ่านๆ\"





    \"โกโบริบอกว่าจะไปรอฮิเดโกะบนทางช้างเผือก แพรวเคยคิดนะว่าแพรวจะไปรอคีที่ไหน\"





    \"แพรว...\" ผมครางออกมา และพยายามจะบอกแพรวว่าไม่ให้พูดต่อ แต่แพรวก็ทำมือและส่งสายตาเป็นทำนองให้ผมเงียบฟัง แต่สิ่งที่ผมไม่สามารถควบคุมได้คือแขนของผมที่กอดแพรวเอาไว้แน่นขึ้น เพราะกลัวว่าแพรวจะหลุดลอยไปไกล





    \"ถ้าเป็นแพรวแพรวจะคอยอยู่ข้างๆ คี คอยดูแลคี จนกว่าคีจะมีคนมาดูแล แล้วจะคอยยิ้ม เมื่อคียิ้ม แล้วจะร้องไห้เมื่อคีเสียใจ สัญญาได้ไหมว่าคีจะยิ้ม และมีความสุขเผื่อแพรว\"





    \"แพรวอยู่กับคีไม่ได้เหรอ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป นะแพรว\"  แพรวมองหน้าผมแล้วก็แหงนหน้ามาจูบคางผมเบาๆ การกระทำของแพรวทำให้น้ำตาผมไหลลงมาช้าๆ ผมดึงแพรวมากอดไว้แนบหัวใจ





    \"คีอย่าร้องนะ แพรวจะอยู่กับคีไม่จากไปไหน เพียงบางครั้งคีอาจจะไม่สามารถรู้สึกได้ก็ตาม\"





    วันเวลาผ่านไปเนิ่นนาน แพรวเหมือนกับว่ามีกำลังใจดีขึ้นมามาก จนกระทั่งพวกผมเรียบจบ แม้ว่าแพรวจะไม่สามารถกลับไปเรียนได้ตามเดิมเนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ในวันรับปริญญาเพื่อนๆ ก็พร้อมใจที่จะลากแพรวมาถ่ายรูปด้วยกัน พวกเรานั่งกินข้าวเลี้ยงฉลองในสวนบ้านของผม วั้นนั้นแพรวยิ้มแย้มอย่างมีความสุข พลอยทำให้ผมมีความสุขไปด้วย พวกเรากินและร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่เพื่อนๆ ของพวกเราจะแยกย้ายกันกลับ ก่อนกลับเพื่อนๆ หันมากำชับผมให้ดูแลแพรวดีๆ ซึ่งผมก็ยอมรับอย่างเต็มใจ คืนนั้นผมเห็นแพรวนอนยิ้มทั้งคืน





    \"แพรว... แต่งงานกันไหม\" ผมพูดขึ้นหลังจากที่ห่มผ้าห่มให้แพรวแล้ว ผมตั้งใจจะพูดคำนี้กับแพรวหลังจากที่เรียบจบ แล้วผมก็พูดจริงๆ ผมขอบคุณสวรรค์ที่ให้โอกาสผมได้พูดคำนี้





    \"รู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมาคี\" แพรวถามผมด้วยน้ำเสียงที่ตกใจพอสมควร





    \"รู้ ไม่ใช่แค่รู้ตัว แต่รู้ใจตัวเองด้วย ขอโทษนะ ที่ขอแต่งงานแบบไม่โรแมนติกเลย คีนี่แย่จังเลยเนอะ\" ผมพูดพลางจับมือแพรวไว้แน่น





    \"ไม่เลย คีเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับแพรว\" ดูเหมือนว่าแพรวจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว แพรวร้องไห้ออกมาแล้วก็กอดผมเอาไว้แน่น เราจะไม่จากกันไปไหนนะแพรว







    หลังจากที่เถียงกับแพรวหลายตลบ งานแต่งของผมกับแพรวก็ไม่มีอะไรมาก นอกไปจากการทำบุญตอนเช้า และงานเลี้ยงเล็กๆ กับเพื่อนๆ และญาติพี่น้องที่สนิทกัน แพรวไม่ยอมจดทะเบียน แม้ว่าผมขอร้องแค่ไหน นี่ถือว่าเป็นเรื่องแรกที่แพรวไม่ยอมผมเลยทีเดียว





    งานวันนั้นผ่านไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะตามเคย พ่อกระซิบบอกผมว่า เพราะแพรวได้กำลังใจดีเลยสามารถต่อสู้ได้นานกว่าคนอื่น และให้ผมเป็นกำลังใจให้แพรวอย่างนี้ตลอดไป ผมบอกพ่อไปว่า ผมไม่มีวันที่จะทิ้งแพรว และผมจะทำอย่างนั้นจริงๆ





    ผมพาแพรวไปฮันนีมูนที่เชียงใหม่ เรานั่งดูดาวและนับดาวกันเหมือนเคย แพรวยังคงส่งเสียงเจี๊ยแจ้วพูดนู่นพูดนี่ แต่ผมไม่รู้สึกรำคาญเลยสักนิดเดียว แพรวพูดถึงคนนู้นคนนี้ เรื่องราวที่ผ่านมา แต่มีสิ่งเดียวที่แพรวไม่พูดถึงคือ... อนาคตของเรา





    \"คีรักแพรวนะ\" แพรวพูดพลางจูบลงที่ขมับของแพรว แพรวยิ้มให้ผมก่อนที่จะเอนตัวมาหา





    \"แพรวก็รักคี รักมากที่สุด\"







    และนั่นก็เป็นคำพูดสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากของแพรว......









    คี...มันคงเชยไปหน่อยเนอะที่เราจะเขียนจดหมายหาคี ดูๆ ไปคล้ายๆ หนังเรื่องนึงที่เราเคยดูด้วยกันเลยเนอะ แต่แพรวก็เลือกวิธีนี้ เพราะคิดว่ามันคงเป็นสิ่งเดียวที่ยังอยู่เมื่อเราต้องไกลกัน





    แพรวฝากจดหมายฉบับนี้เอาไว้กับภู เพราะคิดว่าภูคงช่วยดูแลรักษามันเป็นอย่างดี รวมถึงช่วยดูแลคีด้วย คีไม่ต้องห่วงแพรวนะ แพรวแค่เดินทางล่วงหน้าไปก่อนเท่านั้นเอง สิ่งที่คีควรเป็นห่วงก็คือตัวคีเอง แพรวเป็นห่วงคีมากๆ เลยรู้หรือเปล่า กลัวคีจะลืมกินข้าว กลัวคีจะนอนไม่พอ และกลัวที่สุดคือกลัวคีจะไม่ยิ้มไม่หัวเราะ



    จำได้ไหมว่าคีเคยถามแพรวว่ารักคีเพราะอะไร แล้วแพรวก็ตอบไป วันนี้แพรวขอน้ำคำนั้นอีกที เอาล่ะทีนี้ คีเปิดซีดีสิ เร็วๆ เข้า ห้ามขี้โกงนะ นั่นแหละดีมาก



    เพลงนี้เลย...



    \'เธอเคยถามกับฉันที่ฉันรักเธอ ก็อยากจะรู้รักเพราะอะไร

    กลับไปคิดไปค้น ใคร่ครวญมากมาย ไม่เจอคำตอบ

    ทีผ่านมานั้นไม่คิดอยากรู้ที่มา และไม่เคยหาเหตุผลใดๆ

    แค่ตัวฉันได้รู้ ว่าเป็นสุขใจเมื่ออยู่เคียงกัน



    อาจจะฟังแล้วไร้เหตุผล ว่าสิ่งที่ทำให้คนรักกัน

    หรือเป็นเพียงรอยยิ้ม รอยนั้นเมื่อวันแรกเจอ



    หากจะหาเหตุผลสักคำ ว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรักเธอ

    นั่นเป็นเพราะตัวฉันมาเจอ เจอสิ่งดีงาม\'






    ยิ้มเผื่อแพรวด้วยนะคี อยู่อย่างมีความสุขเผื่อแพรว แล้วแพรวจะส่งผู้หญิงดีๆ น่ารักๆ มาอยู่กับคี แต่คีต้องสัญญานะว่าชาติหน้าเราจะมาคู่กัน ห้ามไปสัญญากับผู้หญิงคนอื่นเด็ดขาดว่าจะคู่กันทุกชาติ เพราะชาติหน้าและต่อๆ ไป แพรวจะจับคีไม่ปล่อยเลย คอยดูสิ





    รักคีที่สุด

    แพรวของคี











    ต่อไปนี้ ผมจะยิ้ม จะหัวเราะ จะมีความสุข.... เพื่อแพรว สุดที่รักในใจของผม









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×