Love fool [harryFanFic] - Love fool [harryFanFic] นิยาย Love fool [harryFanFic] : Dek-D.com - Writer

    Love fool [harryFanFic]

    มีคนบอกว่า เวลาคนตกอยู่ในห้วงแห่งรักก็เหมือนคนโง่ ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นจริง จนกระทั่ง............. มาเจอกับตัวเอง

    ผู้เข้าชมรวม

    956

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    956

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ม.ค. 48 / 22:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      มีคนบอกว่า เวลาคนตกอยู่ในห้วงแห่งรักก็เหมือนคนโง่ ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นจริง จนกระทั่ง.............

      มาเจอกับตัวเอง

      ****

      ฉันตกหลุมรักมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ฉันบอกไม่ได้หรอก รู้แต่ว่ามันเริ่มก่อตัวในใจของฉัน ตั้งแต่ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักแบบหนุ่มสาวมันเป็นยังไง เด็กผู้ชายผมบลอนด์ที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดยามโพล้เพล้ มือถือกล่องของขวัญขนาดกลาง เมื่อเห็นฉัน เขากระตุกยิ้มที่มุมปากเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะยื่นของขวัญวันเกิดให้ฉัน นั่นคือการพบกันครั้งแรกของเขากับฉัน เมื่อตอนเราทั้งสองอายุได้ 8 ขวบ ก่อนเข้าเรียนที่ฮอกวอร์ต

      \"แพนซี่ เธอเห็นเจ้างี่เง่าสองตัวนั่นไหม\" เสียงเขาตวาดถามขึ้น เล่นเอาฉันสะดุ้งเล็กน้อย เพราะเสียงของเขาใส่เบาเสียที่ไหน แถมตอนนี้ฉันกำลังเพ่งสมาธิอยู่กับการบ้านตรงหน้า

      \"ไม่\" ฉันตอบสั้นๆ แล้วหันกลับไปสนใจการบ้านต่อ เขากระแทกตัวนั่งลงใกล้ๆ ฉัน ผมของเขาถูกหวีเอาไว้อย่างเรียบร้อย ฉันไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าตอนนี้หน้าของเขากำลังบูดเต็มที่ เพราะไม่มีใครสนใจ เฮ้อ ช่วยไม่ได้นี่นะ \"นายมีอะไรกับสองคนนั่น\" ฉันตัดสินใจถามออกไปในที่สุด พร้อมๆ กับวางปากกาขนนกแล้วหันไปมองหน้าเขา

      \"เปล่า แล้วเธอทำอะไรอยู่\" เขาชะโงกหน้ามามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าฉัน \"พยากรณ์ ฉันบอกให้เธอเลิกเรียนวิชางี่เง่านี่ไปตั้งนานแล้วนะแพนซี่ เลือกเรียนอะไรที่มีประโยชน์ดีกว่า\" เขาพูดพลางย่นจมูกด้วยความไม่พอใจ

      \"ก็ฉันชอบนี่\" ฉันตอบเบาๆ ราวกับเด็กที่กำลังทำความผิด ให้ตายสิฉันไม่กล้าขัดเขา ไม่กล้าทำตัวงี่เง่า (ในความคิดของเขา) ในยามที่อยู่กับเขา จนบางครั้งฉันต้องแสร้งเป็นอีกคน เพื่อเอาใจเขา

      \"เดรโก วันอาทิตย์นี้ไปฮอกมีดส์ด้วยกันนะ\" ฉันเปลี่ยนเรื่องพูด เผื่อจะทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

      \"แล้วแต่เธอ\" เขาพูดจบก็เดินออกไปจากห้องนั่งเล่นรวม ฉันถอนหายใจด้วยความหนักใจ นานเท่าไหร่แล้วที่เราคบกันเกินเพื่อน นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่สนใจ นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่รักฉัน สองคำถามหลัง ฉันอาจมมีคำตอบที่แน่นอนให้กับตัวเองแล้ว เพียงแต่ฉันไม่กล้าที่จะยอมรับมัน คำตอบที่ขมขื่นเกินกว่าที่จะยอมรับ คำตอบที่เฝ้ากระซิบอยู่ทุกครั้งในยามที่ฉันอยู่กับเขา คำตอบที่บอกว่า \"เขาไม่เคยรักและสนใจฉันเลย\" ไม่เคยสนใจมาตั้งแต่แรก ที่เขาคบกับฉันก็เพียงเพราะคำสั่งของที่บ้าน ก็แค่นั้น

      ****

      กระแสผู้คนที่เบียดเสียดในร้านค้า ทำให้ฉันต้องเบ้ปากด้วยความอึดอัด แต่ทำไงได้ เขาอยากมานี่ ฉันก็ต้องมา ฉันโดนคนนู้นคนนี้เบียดเสียดไปมา จนกระทั่งคลาดกันกับเขา ฉันพยายามเขย่งเท้า มองซ้ายมองขวา แต่ก็ไม่เจอเขาเลย ฉันถอนหายใจอีกครั้ง เป็นครั้งที่ล้านแปดได้แล้วมั้ง ตั้งแต่คบกับเขา ฉันตัดสินใจเดินออกไปจากร้าน \'อยู่นั่นเอง\' ฉันเห็นชายเสื้อคลุมของเขาสะบัดอยู่ไกลๆ และฉันก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาถึงเดินออกจากร้านไปทางนั้น ฉันเดินตามเขาไปอย่างรวดเร็วด้วยความสงสัยเต็มกำลัง

      \"สนุกนักสิมากับแฟนของเธอน่ะ\" เสียงผู้หญิงคนนึงพูดขึ้น ทำให้ฉันขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ

      \"หึงเหรอ\" เสียงยานคางเย็นๆ ตามแบบฉบับของเขาดังขึ้น ทำให้ฉันอดที่จะชะโงกหน้าไปมองไม่ได้ \'เกรนเจอร์\' เป็นไปไม่ได้ เขารังเกียจเลือดสีโคลนไม่ใช่เหรอ หัวใจฉันกระตุกวูบ เมื่อเห็นสายตาของเขาที่มองเกรนเจอร์ มันไม่เหมือนกับที่เขามองฉันหรือมองใครๆ มันเป็นแววตาที่ฉันอยากได้มานานแสนนาน แต่ฉันไม่เคยได้จากชายคนที่ชื่อว่าเป็นแฟน

      ทั้งสองเถียงกันอยู่สักพักก่อนที่จะจบลงด้วยการที่เขาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน เขาเช็ดน้ำตาให้กัน แล้วน้ำตาของฉันที่ไหลอยู่ตอนนี้ล่ะ ใครจะเป็นคนเช็ดให้ ไม่มีใคร นอกจากตัวฉันเอง ใครจะมารักเธอแพนซี่ เธอมันก็แค่แม่มดสายเลือดบริสุทธิ์ที่ทำอะไรไม่เป็น ดีแต่ตามเขาต้อยๆ หน้าตาก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่าใคร

      ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเดินออกมาจากตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีฉันก็ยืนอยู่ตรงเพิงโหยหวน ฉันทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง ก้มหน้าร้องไห้อย่างไม่อายใคร นี่สินะ สาเหตุที่เดรโกไม่เคยรักฉัน ไม่เคยสนใจฉัน เพราะเขามีผู้หญิงอื่นในดวงใจอยู่แล้ว เมื่อไหร่กันนะ เมื่อไหร่กัน ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าอย่างนี้มาก่อน คุณหนูตระกูลพาร์กินสันสู้แม่มดเลือดสีโคลนไม่ได้ ทำไม....

      ***

      \"แพนซี่ฉันหาเธอตั้งนานเธอหายไปไหนน่ะ\" เสียงของเขาพูดขึ้น ขณะก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่นรวม หึ หายไปไหน คำถามนั้นฉันน่าจะเป็นคนถามมากกว่า แต่ให้ตายเถอะ ฉันไม่กล้าหรอก ฉันรู้ดีว่าเขาจะเลือกใคร ถ้าหากฉันอาละวาด แล้วพูดว่าฉันรู้เรื่องของเขากับเกรนเจอร์แล้ว

      \"ฉันปวดหัว หาเธอไม่เจอเลยกลับมาก่อน\" อันที่จริงก็ไม่ถือว่าฉันโกหกเสียทีเดียว เพราะฉันก็ปวดหัวจริงๆ ปวดหัวเพราะร้องไห้มากเกินไปยังไงล่ะ

      \"ตาแดงๆ เป็นอะไร\" เขามองหน้าฉัน ทำให้ฉันต้องก้มหน้างุด ฉันไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของฉัน

      \"ปะ เปล่า เอ่อ เดรโก ไปเดินเล่นด้วยกันหน่อยสิ\" ฉันพูดพลางยิ้มกว้าง ปกปิดความเศร้าเอาไว้ภายใน เมอร์ลิน ฉันทำ อะไรไม่ได้เลยใช่ไหม นอกจากจะยื้อเขาเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ เขาพยักหน้ารับฉันเบาๆ ก่อนจะเดินนำฉันไป

      มีคนเคยบอกว่าความรักคือการก้าวย่างไปด้วยกัน พร้อมกัน แต่ละคนต่างก็มีก้าวย่างที่เร็วช้า สั้นยาว ต่างกันไป แต่เมื่อคนสองคนตัดสินใจที่จะเลือกมาอยู่ด้วยกัน ก็ต้องปรับก้าวย่างให้เดินไปพร้อมกัน คนที่ก้าวยาวก็ต้องก้าวให้สั้นลง เพื่อรอคนก้าวช้า แต่ฉันกับเขา เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น การเดินเล่นในวันนี้ก็เหมือนกับทุกวันที่เขาจะเดินนำออกไป จนฉันต้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามเขาไป ฉันเหนื่อย ฉันล้า แต่ทำยังไงได้ ตราบใดที่ฉันมีแรง ฉันจะต้องพยายามตามเขาให้ทัน เพราะฉันจะไม่ปล่อยเขาไป แม้จะรู้ว่าหัวใจของเขาไม่เคยเอามาพักไว้ที่ฉันก็ตาม

      \"เดรโก บอกรักฉันหน่อยสิ\" ฉันพูดพลางเอามือไปเกาะที่แขนของเขา และทันทีที่ฉันทำอย่างนั้น เขาก็จะแกะมือฉันออกทันที นี่แหละนะ คนเขาไม่รักก็ไม่อยากจะแตะตัวกันเป็นธรรมดา ฉันควรจะยื้อ หรือว่าควรจะหยุดรัก ไม่ว่าทางไหนฉันก็ไม่เห็นปลายทางของมันเลยสักทาง

      \"ทำไมถึงชอบให้พูดนักนะ\" เขาขมวดคิ้วมองฉันอย่างไม่ชอบใจ น้ำตาใสๆ ของฉันเริ่มคลอหน่วย เขารำคาญฉัน ฉันก็แค่อยากฟัง แม้ว่ามันจะเป็นการโกหกคำโต แต่ฉันก็อยากฟัง

      \"ก็ฉันรักเธอ ก็อยากฟัง.....\" ฉันก้มหน้างุด น้ำตาเริ่มไหลเป็นทางยาว \"ให้มันแน่ใจ\" เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย

      \"รัก พอใจหรือยัง ไปกินข้าวกันเถอะ หิว\" เขาพูดอย่างรำคาญๆ ทำให้ฉันยิ่งปวดร้าวเข้าไปใหญ่ แล้วหางตาของฉันก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงผมสีน้ำตาลเดินมาอีกทางหนึ่ง ฉันเขย่งเท้าและจูบเขาอย่างแผ่วเบา ใครจะว่าฉันร้าย เป็นนางปีศาจก็ยอม ก็ฉันรักของฉัน

      ทันทีที่เกรนเจอร์เห็น เธอยืนนิ่ง แล้วผละออกไปอีกทาง พอเขาเห็นเกรนเจอร์วิ่งไป เขาก็ทำท่าจะออกวิ่งตาม แต่ฉันฉุดรั้งเขาเอาไว้ ฉันไม่ให้เขาเป็นเด็ดขาด เมอร์ลิน ได้โปรด อย่าให้เขาไป ไม่ต้องให้เขารักก็ได้ แค่เขาอยู่กับฉันตลอดไป ได้โปรด....

      น่าเสียดายเหลือเกินที่คำขอของฉันไม่เป็นผล เขาสะบัดแขนฉันสุดแรง จนฉันล้มลงไปกับพื้นหินที่เย็นเฉียบ แต่รู้ไหมว่าใจของเขาที่ให้ฉันมามันเย็นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ฉันร้องไห้โฮอย่างไม่แคร์สายตาใคร ก็ฉันอยากร้อง ก็มันเกินทน จะให้ทำยังไง

      ***

      \"แพนซี่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ\" เสียงเขาพูดขึ้นในวันหนึ่ง ฉันหลบหน้าเขามาสักพัก ฉันกลัว กลัวว่าเขาจะบอกเลิกฉัน ฉันทนไม่ได้หรอก แต่คราวนี้ฉันเลี่ยงไม่ได้แล้ว ฉันเม้มปากจนเป็นเส้นตรง ก่อนที่จะพยักหน้า มันจะจบแล้วใช่ไหมเรื่องของเรา ฉันเดินตามเขาไปยังห้องเรียนเก่าห้องหนึ่ง ห้องนี้มันดูทึมๆ ยังไงไม่รู้ แต่ก็ดี เขาจะได้ไม่เห็น เผื่อว่าฉันจะร้องไห้ออกมา

      \"เดรโก มีอะไรเหรอ\" ฉันกลั้นใจถาม ทั้งๆ ที่ในใจมีคำตอบอยู่แล้ว

      \"เราละ.....\"

      \"อย่านะ อย่าพูดคำนั้น\" ฉันร้องห้าม น้ำตาไหลเป็นทาง

      \"นี่แพนซี่อย่าทำตัวเป็นเด็ก เธอก็รู้ว่าเราไม่เคยรักกัน ฉันไม่เคยรักเธอ\" เขาตะโกนออกมาอย่างเหลืออด

      \"ฉันรู้ ฉันรู้\" ฉันตะโกนสุดเสียง \"แต่ฉันรักเธอได้ยินไหม อย่าทิ้งฉันไป อยู่กับฉัน แกล้งทำเป็นว่ารักฉันก็ได้ โกหกว่ารักฉันก็ได้ ไปคบกับคนอื่น ไปคบกับใครก็ได้ แต่อย่าเลิกกับฉันเลยนะ\" โง่ เป็นคำที่ฉันด่าตัวเอง ใช่ฉันมันโง่ที่ไปขอเขาอย่างนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาไม่รัก และต้องเจ็บปวดแค่ไหน ถ้าเขาทำยังงั้นจริงๆ

      \"แพนซี่ ฉันรักเธออย่างน้องสาว เธออย่าทำอย่างนี้สิ\" เขาพูดอย่างเบื่อหน่าย แต่น้ำเสียงก็อ่อนลงกว่าเดิม เขาเดินมาหาฉัน แล้วดึงฉันไปกอด ลูบหัวฉันเบาๆ ตอนนี้ฉันร้องไห้จนเป็นบ้า สะอื้นสุดตัว เขาคงสมเพชเต็มแก่ \"ยอมรับความจริงเถอะนะ\" เขาพูดจบก็ทำท่าจะคลายกอดเขา แต่ฉันเองก็กอดเขาแน่นไม่ยอมปล่อย ร้องไห้หนักเข้าไปอีก ฉันรู้ว่าถ้าฉันปล่อยเขาตอนนี้ หมายถึง ฉันต้องปล่อยเขาออกจากชีวิตของฉัน

      \"แพนซี่\" เขาเริ่มทำเสียงดุ

      \"บอกรักฉันหน่อยได้ไหม โกหกก็ได้ ได้โปรด\" ฉันร้องไห้ไปพูดไป \"ครั้งสุดท้ายนะเดรโก\"

      \"ฉันรักเธอ\" เขาพูดจบก็ก้มลงจูบที่เปลือกตาฉันเบาๆ ตอนี้ฉันไม่มีเรี่ยวแรงที่จะฉุดรั้งเขาเอาไว้อีกแล้ว ฉันมองเขาเดินออกไปจากห้องนั้น ทุกอย่างรอบตัวฉันในตอนนี้ดูเหมือนจะเชื่องช้า โลกนี้มันหยุดหมุนไปแล้วหรือไง ฉันพิงผนังห้องและทรุดตัวลงนั่งช้าๆ ฉันมันโง่ ต่อให้เขาพูดอีกกี่ครั้ง เขาก็ไม่มีทางรัก ไม่มีทาง............

      *****************

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×