ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รามสูรสุริยะชนะหมู่มาร

    ลำดับตอนที่ #5 : วิทยาศาสตร์ ความเชื่อ และความตาย และการปรับทัศนคติ แค่นั่งก็สำเร็จแล้ว ยอดไปเลย

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 58


    ต่อไปนี้คือบทสัมภาษณ์หัวหน้ากลุ่มที่เข้าประกวดสร้างสิ่งประดิษฐ์บั่นทอนความฉลาดปราศจากข้อดีมีแล้วอันตรายทำลายชาติและสังคม ได้รางวัลชนะเลิศดีเด่น
         นักข่าว
    : สวัสดีค่ะคุณธนกร
         คุณธนกร
    : อัดแล้วเหรอครับ
         นักข่าว
    : เออ ไอ้โง่___ ห้องสมชายนี่___กันทั้งห้องเลยเหรอ
         คุณธนกร
    : เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะครับ
         นักข่าว
    : เออ ไอ้โง่___ ห้องสมชายนี่___กันทั้งห้องเลยเหรอ
         คุณธนกร
    : ทำไมเวลาพูดบางคำถึงถึงโดนตัดเสียงออกล่ะครับ
         นักข่าว
    : (สบถเบาๆว่า___) ในฐานะที่คุณธนกรเป็นตัวแทนจากกลุ่มแพะโง่___และธาม กลุ่มชนะเลิศดีเด่น___จากการแข่งขันประกวดสิ่งประดิษฐ์___________________________________________________________ รู้สึกอย่างไรกับรางวัลที่ได้รับคะ
         คุณธนกร
    : ก็รู้สึกดีครับ
         นักข่าว
    : แค่นั้นเหรอคะ
         คุณธนกร
    : ครับ
         นักข่าว
    : _________
         คุณธนกร : ____________________________และ_________กลับบ้านไป______เลยไป๊
         นักข่าว : (เงียบไปพักหนึ่ง) เล่าเกี่ยวกับความเป็นมาสิ่งประดิษฐ์ของกลุ่มแพะโง่___และธามหน่อยค่ะ
         คุณธนกร
    : พวกเราก็เลยอยากลองสร้างเครื่องย้อนเวลาดู ตอนสร้างนี่ก็ลำบากครับเพราะสมาชิกในกลุ่มมีทะเลาะกันนิดหน่อย อีกทั้งวัตถุดิบอย่างที่หายากตามท้องตลาดอย่างเช่นพลูโตเนียม-สองสามเก้า สมองไอสไตน์ กับลูกกระเดือกยีราฟ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นสุลต่าน โครงงานของเราก็สำเร็จด้วยดีครับ
         นักข่าว
    : เครื่องนี้มันทำงานอย่างไรคะ
         คุณธนกร
    : (ลูบคางด้วยความครุ่นคิด) อธิบายยากนะครับ ลองโยงให้เข้ากับเรื่องง่ายๆดีกว่า คุณนักข่าวเคยรำไทเก๊กไหมครับ
         นักข่าว
    : (ขมวดคิ้ว) ก็เคยนะคะ
         คุณธนกร
    : ดีครับ คุณนักข่าวคงจะเข้าใจคำอธิบายได้ง่ายขึ้น ผมจะบอกว่าคุณนักข่าวกลับบ้านไปรำไทเก๊กเถอะครับ ฟังผมอธิบายไปก็ไม่เข้าสมอง เสียเวลาทำมาหากินของทั้งสองฝ่ายไปอย่างเปล่าประโยชน์
         นักข่าว
    : (เงียบไปพักหนึ่ง) ___เถอะ
         คุณธนกร
    : ________________เถอะอะไรล่ะ เป็นนักข่าวคิดว่าเจ๋งนักเรอะ เดี๋ยวเรียกพ่อการันต์ให้เอานิวเคลียร์ไปยิงบ้านเลย ____เถอะ ถุย กาก
         นักข่าว
    : (สูดลมหายใจลึก) มาที่คำถามต่อไปดีกว่าค่ะ ___ หลังจากความสำเร็จของสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกได้ว่าอาจเปลี่ยนแปลงโลกและวิถีการดำเนินชีวิตของเรา อยากให้คุณธนกรเล่าถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ขึ้นมาหน่อยค่ะ
         คุณธนกร
    : เป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ ก่อนอื่นต้องเท้าความไปถึงเรื่องเล่าสนุกๆสำหรับเด็กสักเล็กน้อยเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ คุณนักข่าวรู้จักไอแซ็ก นิวตันหรือเปล่าครับ
         นักข่าว
    : ใช่คนที่เป็นนักฟิสิกส์หรือเปล่าคะ
         คุณธนกร
    : อ้า ใช่แล้วครับ ก่อนที่จะวกเข้าเรื่องแรงบันดาลใจของกลุ่มเรา ผมจะขอเล่านิทานเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์บิดาแห่งแคลคูลัสสักนิดหนึ่ง ไอแซ็ก นิวตันเกิดในวันคริสต์มาส ปี ค.ศ. 1642 ในหมู่บ้านเล็กๆอบอุ่นแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ หลังจากพ่อของเขาเสียชีวิตสามเดือน ส่วนแม่ก็ทิ้งเขาอยู่กับยาย ปมชีวิตในวัยเด็กทำให้เขาเป็นคนเก็บตัว พึ่งพาตนเอง และให้ความสำคัญกับผลงานของตัวเอง นิวตันเป็นคนที่เรียกได้ว่าแทบไม่มีเพื่อน ด้วยฐานะอันดีของครอบครัวเขาสามารถผลักดันตัวเองเพื่อให้ได้มาซึ่งใบปริญญาบัตร และเนื่องจากประกายความอัจฉริยะที่เขาแสดงออกมา เขาได้รับการเสนอชื่อโดยศาสตราจารย์ที่ชื่นชมในความสามารถให้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยแคมบริจด์ หากแต่ในเวลาต่อมาโรคปอดบวมได้ระบาดทั่วลอนดอน ทำให้มหาวิทยาลัยต้องปิดทำการชั่วขณะ แต่นั่นนับว่าเป็นโอกาสอันดีสำหรับนิวตัน เพราะเขาได้มีเวลาในการใช้ความคิดเพื่อไขความลับของความเป็นไปในสิ่งต่างๆ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้กันอย่างชัดเจนในสมัยนั้น ว่ากันว่าเขาศึกษาศาสตร์หลายแขนง แต่ตีพิมพ์เพียงน้อยนิดในสิ่งที่ตนได้ค้นพบ เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม ปี ค.ศ. 1665 มันเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังนั่งอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ล
         นักข่าว
    : เขาไปทำอะไรใต้ต้นแอปเปิ้ลคะ
         คุณธนกร
    : ทำไมคุณไม่ไปถามเขาเองละครับมาถามผมทำไม เขากำลังนั่งอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ล เหม่อมองพระอาทิตย์พลางสงสัยว่าทำไมพระอาทิตย์จึงอยู่บนท้องฟ้าและหายไป แล้วก็โผล่กลับขึ้นมาอีกในวันถัดมา ทำไมมันจึงไม่ลอยหายไป แล้วเมฆล่ะ อีกทั้งพระจันทร์ ทำไมทุกอย่างถึงเป็นอย่างที่มันเป็น ขณะที่กำลังคิดอยู่นั่นเอง...
         นักข่าว
    : แอปเปิ้ลก็ร่วงใส่หัวของนิวตัน!
         คุณธนกร : ใช่ครับ และเขาก็ได้ความคิดขึ้นมาว่า เพราะโลกมีความเร่งที่ทำให้สิ่งของพุ่งเข้าหามัน ในขณะนั้นเขาพิสูจน์ไม่ได้ถึงเหตุผลของการมีอยู่ของมัน แต่เขาได้ความคิดว่ามันเป็นกฎแห่งการเคลื่อนที่ของทุกสิ่ง นั่นถือเป็นวินาทีที่เริ่มต้นทุกอย่างที่เรามีอยู่ เป็นวินาทีสำคัญแห่งมนุษยชาติอย่างแท้จริง เมื่อนิวตันค้นพบแรงโน้มถ่วง
         นักข่าว
    : น่าสนใจมากค่ะ แล้วกลุ่มของคุณได้แรงบันดาลใจจากนิวตันใช่ไหมคะ
         คุณธนกร
    : เขาถือเป็นเป้าหมายของการทำงานของเราเลยล่ะครับ เพราะไม่มีเขาคงไม่มีเครื่องย้อนเวลา
         นักข่าว
    : แล้วกล่มของคุณวางแผนจะนำสิ่งประดิษฐ์นี้ไปใช้ทำอะไรคะ
         คุณธนกร
    : จากการค้นพบของนิวตันเราจะเห็นได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในปัจจุบันเกิดจากการค้นพบเล็กๆของเขา ทุกอย่างที่เราต้องอ่านเพื่อไปสอบ ต้องมานั่งทำการทดลอง มันช่างงี่เง่าสิ้นดี ไม่คิดเหรอว่าหากคุณมีทางเลือก หรือโอกาสครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะได้มาซึ่งทุกอย่างที่คุณต้องการในชีวิตนี้ คุณจะคว้ามันไว้ หรือปล่อยให้มันหลุดมือไป โย่...
         นักข่าว
    : นี่มันแค่ลอกเอมิเน็มเอามาแปลไทย ไม่เห็นจะคมเลย
         คุณธนกร
    : นิวตันไม่รู้ตัวว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะหยุด เขาไม่รู้ว่าเขากำลังเล่นกับไฟ เล่นกับสิ่งที่เขาไม่รู้จัก สิ่งที่เขาค้นพบจะกลับมาทำร้ายตัวของเขา นิวตันจะต้องเสียใจกับทุกสิ่งที่เขาทำไว้กับเด็กนักเรียนทุกรุ่น ทุกคำกรีดร้องสาปแช่งนิวตันของนักเรียนเหล่านั้นจะกลายเป็นจริง สูตรฟิสิกส์สูตรไหนที่เขาค้นพบก็ไม่มีทางหยุดมันได้เพราะครั้งนี้คือของจริง เขาอาจโกงข้อสอบคณิตศาสตร์ได้ เขาอาจโกงตำแหน่งมาได้...
         นักข่าว
     ; อย่าบอกนะว่า...
         คุณธนกร
    : (แสยะรอยยิ้มชั่วร้าย) ...แต่เขาโกงความตายไม่ได้...
        
    (เสียงฆ้องแบบหนังจีนดัง ผ่างๆๆๆๆๆ)
         ณ สักแห่งในลอนดอน ประเทศอังกฤษ คืนของวันที่ 14 มกราคม ปี ค.ศ. 1665 ไอแซ็กตื่นขึ้นมาเนื่องจากเสียงฆ้องจากข้างบ้านที่ตีไล่รามสูร เขาบินออกจากหน้าต่างเพื่อไปต่อว่าข้างบ้าน การที่ทุกคนบินได้บนโลกไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะแรงโน้มถ่วงยังไม่ถูกค้นพบในขณะนั้น ไอแซ็กบินกลับไปนอนในเตียงอบอุ่นอย่างหัวเสีย เขาประสาทเสียได้ง่ายหากพักผ่อนไม่พอ
         เมื่อรู้ตัวว่าข่มตาหลับไม่ลงจากเสียงตีและประทัดที่ดังต่อเนื่อง ไอแซ็กตัดสินใจบินออกไปยังทุ่งหญ้าใหญ่ ที่ที่เต็มไปด้วยฝูงแกะน่ารักกำลังหลับใหลและต้นไม้ที่ออกดอกผล และเขาก็หลับลงใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งอย่างสบายใจ
         เมื่อตื่นเช้าขึ้นเขาก็บิดขี้เกียจและหันไปด้านหลัง พระอาทิตย์ที่ลอยอยู่บนฟ้าช่างสดใสเสียจริง เขาสงสัยเหลือเกินว่าทำไมมันถึงไม่ร่วงหล่นลงมา หลังจากคิดอยู่สิบนาทีอยู่ไอแซ็กสรุปได้ว่าเขาหิวมาก ช่างหัวพระอาทิตย์เถอะ และหันไปบนต้นไม้ที่อยู่เหนือเขา ทันใดนั้นเขาก็ต้องตกใจ
    ! ทำไมต้นกล้วยมาอยู่ในอังกฤษได้ น่าแปลกจริงๆ เขาเด็ดกล้วยหวีหนึ่งยัดใส่ปากโดยไม่ปอกเปลือก ก่อนจะบ้วนทิ้งออกมา
         เขาเดินไปยังต้นแอปเปิ้ลฟูจิต้นหนึ่ง และเด็ดผลของมันกินลูกแล้วลูกเล่าอย่างเอร็ดอร่อยแม้ว่ารสชาติมันจะประหลาด ทันใดนั้นเขาก็สังเกตความผิดปกติบางอย่างเมื่อแอปเปิ้ลลูกหนึ่ง หลังจากใคร่ครวญอยู่นานในที่สุดไอแซ็กก็รู้ความจริง
    ในแอปเปิ้ลมียาพิษ!” เสียงสุดท้ายก่อนที่ไอแซ็กจะสิ้นสติไปคือเสียงแม่มดยืนหัวเราะเขาจากด้านหลัง
         ไอแซ็กตื่นขึ้นบนเตียงผ้าไหมอย่างดี ภาพแรกที่เขาลืมตาเห็นคือเจ้าชายกำลังจุมพิตเขาเพื่อถอนคำสาป ไอแซ็กถอยไปสุดเตียงอย่างตกใจ ไม่เคยมีใครใกล้กับเขาขนาดนี้มาก่อน และครั้งแรกของเขา...เป็นชายแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จัก ความคิดนั้นทำให้แก้มของเขาแดงฉานจากความเขินอาย
        
    เต้นรำกับผมเถอะนะ เจ้าชายพูดด้วยเสียงเข้มปานเทพบุตร ทำเอาหัวใจไอแซ็กแทบจะละลายไปดั่งหิมะที่โปรยปรายอยู่ด้านนอก เจ้าชายกุมมือของไอแซ็กไว้ ในทีแรกไอแซ็กคิดจะปล่อยมือ แต่บางสิ่งดลใจให้เขาถูกเจ้าชายนำทางไปยังบานประตูใหญ่
         เมื่อเปิดออกก็เผยให้เห็นงานเลี้ยงหรูหราของบรรดาผู้สูงศักดิ์ ทุกคนต่างปรบมือเมื่อทั้งสองเดินเข้ามา เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นทุกคู่ก็ต่างเต้นรำไปตามท้วงทำนองที่อ่อนหวาน ไอแซ็กสบลงบนไหล่ของเจ้าชายรูปงาม ไม่คิดไม่ฝันว่าชายยากจนอย่างเขาจะได้มีโอกาสร่วมงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ราวกับความฝัน
         แต่ไอแซ็กนึกสิ่งหนึ่งขึ้นได้ พรจากแม่ทูนหัวจะหมดลงหลังเที่ยงคืน
    ! เสื้อผ้าหรูหราของไอแซ็กเริ่มจางหายไป เขากำลังกลับกลายเป็นเด็กที่ยากจนเหมือนเดิม! ไอแซ็กสะบัดจากอ้อมกอดของเจ้าชายและวิ่งไปยังประตูทางออก เจ้าชายและเหล่าผู้ร่วมงานต่างงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าชายสั่งให้ทหารรีบจับตัวไอแซ็กกลับมายังอ้อมกอดของเขา
         ไอแซ็กมองดูชายกระโปรงของเขาที่กำลังจางหายไป เข็มนาฬิกาเข้าใกล้เลขสิบสอง ด้วยความรีบร้อน ไอแซ็กสะดุดจนเกือบล้มแต่ยังคงวิ่งต่อไปเมื่อได้ยินเสียงตามมาจากด้านหลัง ทิ้งรองเท้าแก้วข้างหนึ่งไว้ ไอแซ็กวิ่งต่อไปอย่างเร่งรีบ
         เขาวิ่งไปยังสวนหย่อมในพระราชวัง และตัดสินใจหลบลงใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ใจของเขาเต้นระรัวเมื่อทหารล่ำกว่าสิบนายเดินออกตามหาโดยมีเสียงเจ้าชายคอยสั่งอยู่แต่ไกล ไอแซ็กพยายามเก็บเสียงของตัวเองให้เงียบ แอปเปิ้ลลูกหนึ่งหล่นใส่ศีรษะของเขาทำให้เขาร้องออกมาดังมากว่า
    “___” และเรียกความสนใจจากทหารล่ำในละแวกนั่น
         แต่แล้วมือหนึ่งก็คว้าตัวไอแซ็กวิ่งหนีออกมา ไอแซ็กมองไม่เห็นใบหน้าของเขาในความมืด เสื้อของเขาบ่งบอกว่าเขาเป้นทหารคนหนึ่งที่ตัดสินใจช่วยไอแซ็กออกมาจากฮาเร็ม ทั้งสองหยุดพักเหนื่อยที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง
        
    เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงช่วยข้า ไอแซ็กพูดพลางหอบ
        
    นามของข้าไม่สำคัญหรอก แม่หญิง ข้าเป็นแค่ชายต่ำต้อยจากแดนไกล ชายคนนั้นหัวเราะเหมือนอาจารย์ในหนังจีนข้าใคร่อยากรู้นามของเจ้ามากกว่า
         “นามของข้าคือไอแซ็ก ไพโรจน์
         ชายคนนั้นขมวดคิ้ว ไม่ใช่ไอแซ็ก นิวตันหรอกรึ
         “อ๋อ คนนั้นเป็นเพื่อนบ้านของข้าเอง เขาเป็นคนตลกดีนะ ชอบนั่งพึมพำกับตัวเองทั้งวัน เขาเป็นคนเพี้ยนๆน่ะ ท่านถามทำไมรึ
         ชายคนนั้นสบถก็หมายถึงข้าเสียเวลาเปล่าน่ะสิ
         “อย่าพูดกระนั้นเลย ข้าซาบซึ้งในบุญคุณของท่าน ไอแซ็กพูดคราวนี้ถึงตาท่านบอกนามของท่านแล้ว
         สายตาของเขาสบตากับไอแซ็กนามของข้านั่นมีมากมาย แต่นามของข้าจะเป็นนามที่เจ้าจะต้องจดจำ...มือของเขาล้วงบางสิ่งออกจากย่าม มันคือรองเท้าแก้วที่ไอแซ็กทิ้งไว้ มันเป็นนามที่ทุกคนจะต้องเคยได้ยิน นามของข้าเป็นสิ่งสวยงาม แม้ว่าทุกคนจะขยาดเมื่อได้ยิน... นามของข้า... คือความตาย
          ชายคนนั้นปาดรองเท้าแก้วลงบนลำคอของไอแซ็ก เลือดทะลักออกอย่างรวดเร็วขณะที่ไอแซ็กพยายามสูดลมหายใจเข้าในลำคอของเขา ภาพของชายคนนั้น ที่มีนามว่าความตาย กำลังจางหายไปพร้อมกับลมหายใจของไอแซ็ก
        
    ภารกิจล้มเหลว ปืนหยิบโทรศัพท์ขึ้นพูดกับปลายสายเป้าหมายเป็นแค่ตัวปลอม เป้าหมายหลักอาจไหวตัวทันแล้ว ขอให้ระมัดระวังมากขึ้นด้วย
         มือหนึ่งสัมผัสข้อเท้าของกัน มันคือมือของไอแซ็กที่คว้าอย่างอ่อนแรง กันแค่นหัวเราะ มือหยิบบางสิ่งออกจากย่าม มันคือแอปเปิ้ลลูกมหึมา
        
    หากนายได้ความคิดอย่างหนึ่งตอนที่แอปเปิ้ลโง่ๆนี่หล่นใส่หัวนาย ปืนพูดนายควรจะคิดว่านายผิดตั้งแต่กล้าแหยมกับฟิสิกส์แล้ว
    และกันก็ปล่อยแอปเปิ้ลให้ร่วงลงใส่ศีรษะของไอแซ็ก เมื่อกระทบอย่างแรงก็ทำให้ศีรษะระเบิดกระจุยกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กันยิ้มพอใจเล็กน้อยก่อนจะทิ้งร่างที่เคยมีชีวิตของไอแซ็กจากไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×