ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รามสูรสุริยะชนะหมู่มาร

    ลำดับตอนที่ #2 : นาวองวี, นานึน นอรึล นาเอ มาอึม มันคึม ซารังฮัมนีดา จ้ายเจี้ยน

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 57


         ตอนนี้เราได้รวมรวบรายชื่อที่จะตั้งเป็นชื่อกลุ่มแล้วนะครับหมอกพูดเป็นศูนย์กลางของกลุ่มในขณะที่สมาชิกต่างตั้งใจฟัง ยกเว้นเก้าที่ใส่หูฟังเล่นเบิร์นเอาท์บนพีเอสพีอยู่ผมจะอ่านชื่อกลุ่มที่ทุกคนเขียนใส่กระดาษมาทีละชื่อ แล้วเรามาลงความเห็นกันนะครับ อิงยื่นปึกกระดาษให้กับหมอกซึ่งเขายิ้มให้เป็นการขอบคุณ
        
    ชื่อแรกนะครับ อ่านยากมาก สี่ทับสอง อะไรจะสิ้นคิดขนาดนี้ เอาห้องที่ประจำมาตั้งชื่อกลุ่ม อันนี้ขอคัดค้านนะครับ หมอกขยำกระดาษแล้วโยนออกนอกหน้าต่างชื่อที่สอง ฤยำ อ่านว่าอะไร รึยำใช่ไหม สื่อถึงเป้าหมายชีวิตของสมาชิกมาก ทุกคนเห็นว่าไงครับ
         สมชายยักไหล่ เราว่าก็โอเคนะ
         ธามโยกมือขึ้นคัดค้านเรียนประธานที่เคารพ ผมเห็นว่าทุกวันนี้พวกเพื่อนชั่วๆของผมก็ฤยำมากพออยู่แล้ว ไม่ต้องตั้งชื่อเพื่อแสดงอัตลักษณ์หรอก ชื่อที่ทุกคนคิดห่วยทั้งนั้น สู้ของเราไม่ได้หรอก ขอบคุณมาก
         หมอกพยายามไม่ใส่ใจและทำหน้านิ่วเมื่อเห็นชื่อในกระดาษใบหนึ่ง รัน เราว่าทุกคนเขารู้กันหมดแล้วล่ะว่าพ่อนายเป็นสุลต่าน ไม่ต้องถึงกับต้องตั้งเป็นชื่อกลุ่มหรอก อีกใบก็ทำให้หมอกดูเซ็งมากขึ้นพ่อโทรมา
         ไม่มีใครพูดอะไรหมอกจึงหยิบกระดาษอีกใบขึ้นมาดูด้วยความคาดหวังที่สูงเล็กน้อยเพราะเป็นลายมือของธามแพะโง่และธาม หมอกดูปฏิกิริยาจากใบหน้าของทุกคนไม่ผ่านนะครับธามด่าทุกคนว่าเป็นอูฐที่เคี้ยวแต่หญ้าไม่มีคุณภาพทุกวันจนสมองทำงานไม่ปกติ
         อิงฟ้าพูดขึ้นว่า
    เราว่าบางทีเราตั้งจากอะไรง่ายๆดีไหม เช่นคำพูดที่ติดปาก หรือว่าอะไรที่มันเก๋ๆ อย่างลองพูดอะไรสักอย่างที่ฟังดูเท่ๆมาสิ
         ทุกคนพยายามนึกคำพูดดีๆเมื่อเสียงเพลงแขกดังขึ้น การันต์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นจากกระเป๋าเสื้อ พ่อโทรมา การันต์เดินออกไปคุยนอกห้องขณะที่ทุกคนพยายามคิดชื่อ หมอกไล่ดูชื่อที่เหลือและรู้สึกดีที่ไม่ต้องพูดออกมาดังๆ
         ต้องบอกว่า
    ลองตั้งชื่อตามอะไรที่ดูน่ากลัวไหม มันอาจจะดูขลังนะ
         ปืนเลิกคิ้วอย่างวีนาเนี่ยนะ
         อิงฟ้าได้ความคิดใหม่และดูตื่นเต้นมากตั้งตามชื่อเพลงใหม่ อย่าง...
         การันต์ขัดจังหวะหนักแผ่นดิน
         ต้องตกใจมากเฮ้ย มันได้อ่ะ เอาชื่อนี่เลยชอบมาก
         สมชายรีบขัดจังหวะก่อนจะต้องกลายเป็นสมาชิกกลุ่มหนักแผ่นดินชื่อเพลงมารวยฟังดูเป็นไง เก้าถึงกับถอดหูฟังเพลงบ้าอะไรชื่อมารวย
         ปืนเสนอความคิดฮังกาเรียนราพโซดี้นัมเบอร์ทู
         สมชายส่ายหน้า ธามเสนอความคิดบ้างวีอาร์เนเวอร์เอเวอร์เอเวอร์บีแบ็คทูเกเตอร์ของจัสติน บีเบอร์
         การันต์ถาม
    ใช่ที่ร้องมิเรอร์ป่ะ
         อิงฟ้าส่ายหน้านั่นมันบีโทเฟ่น
         สมชายเสริมเทเลอร์กาก หมอกหยุดการถกเถียงไว้เพียงเท่านั้นเมื่อธามล้วงมีดสปาต้าออกมาจากกระเป๋านักเรียน
         คาบพักเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ประเทศชาติเจริญลดลง การันต์ซื้อเกมกระดานชื่อเซทเลอร์สออฟเคทานมาตั้งกลางห้องเรียน หรือที่หมอกตั้งชื่อให้ใหม่ว่าเกมเสียเพื่อน ธามด่าสมชายว่าเป็นคางคกขึ้นวอเมื่อสมชายเรียกโจรไปซ่องสุมหลังบ้านธามและยืมอิฐจากธามไปสร้างทางด่วนตัดหน้าบ้าน ปืนกำลังจะโชว์สเต็ปชนะหกแต้มจากการขโมยอูฐจากธามเพื่อขยายหมู่บ้าน บรรยากาศในห้องกำลังโวยวายได้ที่แต่ถูกขัดจังหวะโดยเพื่อนของอิงฟ้าชื่อต่ายวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นกลัวแล้วตะโกนบอกทุกคนว่า
    คาบต่อไปอาจารย์แลกคาบเป็นคาบวีนา
         ทุกเสียงเงียบในทันทีและทุกอย่างเหมือนเคลื่อนไหวช้าลง พีเอ็สพีร่วงลงจากมือเก้า ปืนทำสีหน้าสยดสยองเหมือนวันที่โลกดับสลายมาถึงแล้ว เพื่อนในห้องคนหนึ่งหยิบปืนขึ้นมายิงตัวตายแต่ไม่มีใครสนใจ ทุกคนได้แต่ตะลึงกับสิ่งที่จะมาเยือน มีแต่เสียงของต่ายที่ยังคงดังก้อง คาบต่อไป เป็นคาบวีนา คาบวีนา วีนา นา นา วีนา นา ปืนวิ่งออกไปที่ดาดฟ้า แล้วตะโกนว่า ม่ายยยยยยย เพื่อนห้องอื่นที่เดินผ่านห้องเรียนถึงกับร้องไห้อย่างสะเทือนใจให้กับความสูญเสีย
         พ่อการันต์ซึ่งเป็นสุลต่านจัดหาบาทหลวงสวดส่งให้ห้องเรียนรอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง แต่ไม่ช่วยให้บรรยากาศของห้องที่มืดสลัวดูคลายลง ธามฉีกกระดาษจากสมุดแล้วเขียนลงไปว่า
    ถึงแม่ นี่อาจเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายในชีวิตของผม หากผมตาย อย่าลืมฝากจดหมายนี้ให้เทเลอร์ สวิฟท์ด้วย สมชายเอากระเทียมพวงใหญ่แขวนที่คอแล้วท่องคาถาชินบัญชร เก้าเพิ่งสังเกตเห็นว่าปืนหายไป เมื่ออ้าปากจะถามก็ได้ยินเสียงยิงปืนหนึ่งนัดดังขึ้นฟ้า
         ทุกคนหันไปมองที่มาของเสียง ร่างร่างหนึ่งยืนบดบังแสงจากบานประตูค่อยๆก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ ทุกคนก้มลงดูรองเท้าหนังขัดเงาของเขา กางเกงสแล็กที่ตัดอย่างดี ไม้กางเขนในถุงมือหนังสีดำเหมือนอีกาและชุดสูทที่ดำยิ่งกว่า และที่ขาดไม่ได้คือหมวกเฟดอร่าที่บดบังสายตาอันตรายของเขา ควันบุหรี่สีขาวทำให้เห็นใบหน้าของเขาไม่ชัดเจน เก้าเป็นคนแรกเดินเข้าไปประจันหน้าของชายคนนั้นแล้วถามว่า
    แกเป็นใคร ชายในชุดดำยิ้มในใต้ความมืด
         “เมื่อยุคสว่างเปลี่ยนไป ยุคมืดเข้าแทนที่ เมื่อความหวังเป็นธุลี ความชั่วร้ายจะชิงชัย เก้าคิดในใจว่ามันเป็นโคลงที่เห่ยมาก ทันใดนั้นเขาก็คิดออกว่ามีเพียงคนเดียวที่พูดอะไรแบบนั้นได้
         “หลายคนรู้จักข้าในชื่อปืน ชายชุดดำโยนบุหรี่ลงกับพื้น ไฟของมันมอดลงในความมืดแต่นับจากนี้... สายตาของปืนหันมาสบกับเก้าเรียกข้าว่าความตาย
         ห้องศิลปะของวีนาอยู่ที่อาคารศิลปะ ทุกก้าวที่เดินจากอาคารเรียนไปยังห้องของวีนาทำให้การันต์หมดแรงจะสู้ชีวิตต่อไป ทำไมเขาต้องมาพบเจออะไรเลวร้ายอย่างนี้ พ่อเขาเป็นถึงสุลต่าน น่าจะมีอะไรสักอย่างที่ทำได้เพื่อให้เขาไม่ต้องเรียนคาบศิลปะกับวีนา การันต์ทรุดตัวลงบนเข่าทั้งสอง แต่มือที่เย็นเยือกจับไหล่ของเขาไว้ การันต์รู้โดยไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นมือของ...ความตาย เป็นการให้กำลังใจในแบบของชายที่เกิดมาโดยปราศจากหัวใจ  แต่มันก็ถือว่าเป็นกำลังใจ การันต์ลุกขึ้นต่อแม้รู้ว่าในที่สุดเขาจะต้องพบสิ่งที่น่าสยดสยองยิ่งกว่าความตาย
         สมชายย่างบนก้าวสุดท้ายของบันไดไปสู่ชั้นสี่ของอาคารศิลปะ หรือที่เป็นที่ขนานว่าชั้นแห่งความโศกาชั่วนิรันดร สมชายอยู่โรงเรียนนี้มาสี่ปีแต่ไม่เคยเห็นส่วนนี้ของโรงเรียนมาก่อน ภาพในหัวของเขาเมื่อได้ยินฉายาของชั้นนี้ครั้งแรกคือภาพห้องทรมานมีเลือดป้ายเต็มผนังและพิธีอัญเชิญซาตาน แต่มันกลับดู...ปกติ ผนังเรียบๆ ทางเดินเรียบๆ ไฟเรียบๆ อาจจะมืดสลัวไปหน่อยแต่ปกติ เข้าขั้นน่าผิดหวัง
         รุ่นพี่ที่เรียนจบหรือถูกไล่ออกเพราะขโมยเครื่องบินอาจารย์ ไม่แน่ใจว่าอันไหนเพราะจำไม่ค่อยได้ เล่าให้สมชายฟังว่าเมื่อคุณมายืนที่ก้าวสูงสุดของบันไดแล้วคุณมีตัวเลือกสองทาง คือก้าวถอยหลังและลืมทุกอย่างที่คุณเห็น หรือก้าวต่อไปและยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น คุณต้องก้าวทั้งหมดสามสิบเอ็ดก้าวในการไปถึงห้องศิลปะของวีนา ก้าวแรกคุณจะสัมผัสถึงคำพูดในหัวของคุณที่ไม่มีใครได้ยิน ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ต้อนรับคุณ และรอบด้านจะหนาวขึ้นเรื่อยๆ จนถึงก้าวที่สิบสามจะมีเสียงน้ำไหลดังมาจากห้องนิทรรศการ ว่ากันว่าเจ้าของเสียงคือนักเรียนที่ถูกอาจารย์วีนาแทงลำคอด้วยพู่กันเพื่อเป็นการบูชาปิกัสโซ่ งานทุกชิ้นของวีนาหมายถึงการสังเวยชีวิตของนักเรียนหนึ่งคน เมื่อถึงก้าวที่ยี่สิบสามเสียงตะกุกตะกักจะดังขึ้นจากห้องเก็บของ เล่ากันว่าที่งานประติมากรรมของวีนาเสมือนมีวิญญาณของมนุษย์อยู่ในนั้นเป็นเพราะมันถูกสร้างมาจากกายเนื้อของมนุษย์ มนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่และดิ้นรนเพื่ออิสรภาพในลังเก็บของสักลังหนึ่ง พวกเขาจะกระซิบข้างหูคุณให้ปลดปล่อยชีวิตที่น่าสมเพชของพวกเขา และเมื่อถึงก้าวที่สามสิบเอ็ด คุณจะยืนอยู่ตรงหน้าจุดตกต่ำที่สุดในชีวิตของคุณ ที่ที่เป็นจุดจบของหลายชีวิตเพียงเพื่ออุทิศให้กับงานศิลปะ ห้องเรียนของวีนา บานประตูจะเปิดอย่างช้าๆราวกับรู้ว่าคุณมาเพื่อพิสูจน์ว่าคุณจะเป็นคนแรกที่กล้าท้าทายความเฮี้ยนของห้องนี้และจะเอาชีวิตรอดออกไปได้
         หลังจากรวบรวมความกล้าเป็นเวลานาน ในที่สุดสมชายพูดกับตัวเอง
    ช่างแม่ง แล้วเดินไปหาอะไรกินที่โรงเรียนที่โรงอาหาร สวนทางกับเก้าซึ่งใบหน้าดูซีดเซียวเหมือนถูกสูบวิญญาณ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือร้ายที่เก้าไม่เคยได้ยินคำล่ำลือเกี่ยวกับชั้นสี่ของอาคารศิลปะ เก้ามาถึงขั้นสุดท้ายของบันได เมื่อเท้าของเขาสัมผัสกับอาคารความเย็นเยือกสุดบรรยายก็คลืบคลานเข้ามา
         เก้าสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วก้าวเท้าซ้ายเพื่อความเป็นศิริมงคล แล้วมานึกออกอีกสักพักว่าจริงๆแล้วต้องก้าวเท้าขวาออกก่อนแต่ไม่ทันแล้ว ไฟที่กระพิบเป็นจังหวะทำให้มองเห็นอะไรไม่สะดวก ทุกก้าวเป็นไปอย่างช้าๆ เหมือนจะคิดไปเองแต่เขาได้ยินเสียงมาจากไกลๆจนแทบไม่ได้ยินว่า
    ออกไป ดังซ้ำๆ ห้องเรียนของวีนาอยู่ที่ปลายสุดของทางเดิน เก้ามุ่งตรงไปยังห้องเรียนขณะที่ไฟกระพิบถี่ขึ้นเรื่อยๆ พอถึงก้าวที่สิบสามก็มีเสียงน้ำไหล เก้าพยายามไม่ใส่ใจ เมื่อถึงก้าวที่ยี่สิบสามก็มีเสียงอะไรสักอย่างพยายามผุดขึ้นมาจากที่คุมขังของมัน มันดังจนเก้าถึงกับถอนฝีเท้าย้อนหลัง อีกไม่กี่ก้าว เก้าคิดในใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องแหลมจนบาดหู ตามด้วยเสียงครวญครางชึ้ด...อ้า ค่อยๆดังขึ้น เก้าทนกับความกลัวไม่ไหวแล้ว เขาวิ่งตรงไปยังบานเลื่อนกระจก แล้วพุ่งเข้าไปในห้อง
        
    อ้ากกกกกก เสียงอาจารย์วีนากรีดร้องเมื่อโดนน้ำร้อนจากกาลวกขณะพยายามจะยกมันออกจากเตาแก๊ส เสียงของกาเดือดดังแสบแก้วหูเหมือนปีศาจร้อง ทันใดนั้นร่างของนักเรียนคนหนึ่งพุ่งทะลุผ่านบานประตูเข้ามาในห้องเหมือนหนังสามมิติพร้อมกับเสียงระดับฟูลเอชดี อาจารย์วีนาหันไปมอง ทำไมไม่ถอดรองเท้าก่อนเข้าห้อง เก้าลุกขึ้นเพื่อไม่ให้เสียฟอร์ม เห็นธามนั่งกินเป็บซี่อยู่ที่โต๊ะเรียนกลุ่มและร้องว่าซี้ด...อ้าด้วยความซาบซ่านในความซ่าของเป็บซี่ เสียงตะกุกตะกักดังขึ้นเรื่อยๆ อาจารย์วีนาเดินไปดูที่เตาแก๊สและพบว่าข้าวโพดคั่วสุกแล้ว เทใส่ชามให้นักเรียนทั้งสองหยิบไปกิน สักพักอาจารย์วีนามานั่งที่โต๊ะด้วยพร้อมมาม่าชามใหญ่ แล้วตะโกนไล่รัฐบาลร่วมกับม็อบในโทรทัศน์ต่อกับธาม ทั้งห้องที่มีกันอยู่แค่สามคนเป็นบรรยากาศที่ประหลาด
         “ทำไมห้องเธอยังไม่มากันอีก อาจารย์วีนาถามนี่คาบแรกยังไม่มีความรับผิดชอบ อย่างนี้ครูปรับตกทั้งห้องได้นะ พวกเธอไปตามคนอื่นมาเรียนสิ ธามเรอใส่หน้าอาจารย์วีนา เก้าเห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงชิงอาสาไปตามเพื่อนให้ แล้วกระโดดทะลุประตูกระจกก่อนอาจารย์วีนาจะทันบอกว่าประตูซ่อมเสร็จแล้ว
         ที่โรงอาหาร การันต์กำลังเล่าให้ต้องฟังว่าทำไมไก่มีมือถึงเป็นพล็อตหนังสยองขวัญที่สุดยอดมากขณะที่สมชายเดินมาพร้อมกับน้ำมะพร้าวปั่น
    ...ตอนกลางคืนแกหลับอยู่แต่ไม่อาจข่มใจในหลับสนิทได้ แกได้ยินเสียงกรีดร้องของไก่ กระต๊าก กระต๊าก เบาแต่ชัดเจนในสายลม น้ำหนักลึกลับกดที่หน้าอกของแก แกลืมตาขึ้นหวังว่ามันจะเป็นเพียงแค่ความฝัน แกสบตากับไก่ตัวหนึ่ง มันเหมือนกับไก่ทั่วไป แต่ต่างกันตรงที่ส่วนที่ควรจะเป็นปีกกลับแทนที่ด้วยมือหนากำยำ ไม่มีแม้แต่แขน ตาของมันบ่งบอกถึงความแค้นที่สั่งสม ไข่ทุกฟองที่แกเจียวกิน ข้าวยำไก่แซ่บทุกจานที่แกสั่ง วันนี้มันมาตามล้างแค้น มันจรดมือลงบนลำคอของแก แกพยายามกรีดร้องขอความช่วยเหลือ แต่อากาศผ่านหลอดลมของแกไปไม่ได้ และหมดลงอย่างช้าๆ แกได้แต่จ้องมองดวงตาบ้าคลั่งของมัน และเสียงสุดท้ายที่แกได้ยินคือ... ต้องทำหน้าลุ้นกะต๊าก ต้องแทบลืมหายใจด้วยความสยองของคอนเซปท์หนัง สมชายทำเป็นไม่สนใจ แต่รู้ตัวว่าคืนนี้ฝันร้ายแน่
         ทุกคนหันไปมองเมื่อเก้าเดินเข้ามา สายตาอิงเป็นประกายเมื่อชมเก้าว่า
    เก้าเท่มากเลยอ่ะ เอาเสื้อไปย้อมแดงมาเหรอ เจ๋งดีนะ แล้วเข้าไปถ่ายรูปคู่กับเก้าซึ่งกำลังงงอยู่ อิงฟ้าบอกก่อนจะกลับไปนั่งกับกลุ่มผู้หญิง สีเต็มหน้าผากเลย ไปล้างหน้าเหอะ
         เก้ายืนที่หัวโต๊ะแล้วประกาศว่าทุกคนไปเรียนเถอะอาจารย์วีนาเรียกแล้ว ทุกเสียงเงียบลง ทุกอย่างดูเหมือนขยับช้าลงอีกครั้ง ทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตกใจและหันมาทางเก้า เสียงของเก้ายังคงดังก้อง วีนา วีนา นา นา นา นา สมชายที่กำลังดูดน้ำมะพร้าวบ้วนอยู่มันใส่หน้าเก้าด้วยความตกใจ บาทหลวงฉีกเสื้อออกแล้วตะโกนว่าฆ่าให้เหี้ยน!” เพื่อนคนหนึ่งในห้องวิ่งเอาเบนซินราดหัวแล้วจุดไฟหมายจะปลดปล่อยตัวเองจากชะตากรรมโหดร้ายแต่ไม่มีใครใส่ใจ
         ในที่สุดทุกคนมารวมตัวอยู่หน้าอาคารศิลปะ วงมโหรีตามหลังติดๆพร้อมกับเล่นเพลงธรณีกรรแสง ทุกคนได้แต่จ้องตึกสูงที่แฝงไปด้วยรังสีความชั่วร้าย ไม่มีใครกล้าออกตัวนำหน้า ชายชุดดำเดินฝ่าฝูงชนห้องสี่ทับสองและก้าวขึ้นบันไดไปสู่ชั้นสี่ ทำให้หลายคนมีกำลังใจว่าอย่างน้อยถ้าชายชุดดำเป็นอะไรไปก็ยังวิ่งออกมาทัน และเดินตามขึ้นไปทีละหลายคน การันต์ถือกล้องดิจิตอลตัวใหญ่ขึ้นตามหลังโดยโฟกัสที่อิงฟ้ากับรุ่นพี่ที่เพิ่งเรียนจบชื่อดิว อิงฟ้าพูดกับกล้องโดยมีต้องถือไมค์ลอยอยู่นอกมุมกล้อง
        
    สวัสดีค่ะนี่คือรายการคนอวดวีนา วันนี้เรามายังสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเฮี้ยนที่สุดในโรงเรียนเจริญพวง นั่นก็คืออาคารศิลปะ ที่ร่ำลือกันว่ามีนักเรียนถูกสังเวยชีวิตในอาคารแห่งนี้มากกว่าจำนวนยิวทั้งหมดที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง เราจะมาพิสูจน์ถึงความเฮี้ยนของอาคารศิลปะ มาดูกันดีกว่าว่าเราจะเจออะไรบ้าง เราขอแนะนำให้รู้จักรุ่นพี่ที่เรียนจบจากคณะการสื่อสารกับวิญญาณ คุณดิวจิตสำส่อน ดิวแก้จิตสัมผัสครับอิงฟ้าพูดต่อ คุณดิวจิตสัมผัส และดิฉัน อิงฟ้า จะให้ทุกคนร่วมพิสูจน์ไปพร้อมกันกับเราถึงความน่ากลัวของอาคารเรียนแห่งนี้ ตามมาเลยค่ะ
         คนเริ่มทยอยเข้าห้องเรียนในขณะที่ธามนั่งเคี้ยวข้าวโพดคั่วและซดเป็บซี่อยู่ ทีมงานรายการคนอวดวีนาเดินผ่านบานประตูกระจกที่แตกร้าวและมีคราบเลือดเข้ามาในห้อง
         อิงฟ้าหันมาพูดกับกล้องด้วยน้ำเสียงเบาลง
    ตอนนี้เรามาถึงแล้ว ห้องเรียนสยองขวัญของอาจารย์วีนา สัมผัสบรรยากาศชวนขนลุกไหมคะเสียงคำรามดังขึ้นจนตากล้องตกใจจนมือสั่น แพนกล้องไปหาต้นเสียง เป็นธามกำลังเรออยู่ขนลุกจริงๆเลยค่ะ รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างไหมค่ะคุณดิวจิตสำส่อน ดิวเดินมาใกล้ระยะกล้องมากขึ้นไม่ใช่สำส่อนครับ จิตสัมผัส ดูปากดิวนะครับ จิด-สำ-ผัด ตอนนี้ผมได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวอายุสิบหก
         อิงฟ้าตัดบทนั่นมันกาต้มน้ำค่ะกล้องตัดภาพไปที่กาต้มน้ำกำลังเดือด คุณดิวพูดต่อโดยไม่สนใจกล้องแพนไปที่คนคนนั้นนะครับ ผมไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร แต่เขาดูเกาหลีมากเลย กล้องหันไปยังใบหน้าของอาจารย์วีนา หน้าของเขาเกาหลี ไว้ทรงผมเกาหลี แต่งตัวเกาหลีเหนือ อิงฟ้าพูดต่อเราเข้าไปนั่งในห้องเรียนกันเถอะค่ะดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในช่วง ล่า ท้า วีนา
         นักเรียนจากห้องสี่ทับสองมารวมตัวกันครบในห้องเรียนของอาจารย์วีนา ทุกคนเงียบ ไม่รูจะพูดอะไรให้บรรยากาศไม่น่ากลัวเพิ่มขึ้น มีเสียงสมชายชวดคาถาชินบัญชรอยู่หลังห้องเบาๆแต่อาจารย์วีนาไม่สังเกต เมื่อเห็นนักเรียนนั่งเรียบร้อยอาจารย์ก็พอใจเอ้าใครเป็นหัวหน้าห้อง บอกทำความเคารพก่อนเรียนสิ
         นักเรียนคนหนึ่งลุกขึ้นแล้วบอกกับชั้นเรียนว่าออกไปเจ้าผีร้าย!” ชายชุดดำนั่นเอง อาจารย์วีนานิ่วหน้าเธอชื่ออะไร กล้าดียังไงมาเรียกอาจารย์ว่าผีร้าย ชายชุดดึงปืนพกบรรจุกระสูนเงินออกมาเล็งไปยังใบหน้าของอาจารย์วีนา กล้องซูมไปที่หน้าของเขาเรียกข้าว่าความตาย เก้ายืนขึ้นเพื่อจะห้ามเพื่อนให้หายเพ้อเจ้อ บาทหลวงจับอาจารย์วีนาล็อกแขน การันต์เดินเข้ามาพร้อมกับไม้กางเขนและจ่อมันเข้ากับใบหน้าของอาจารย์
         การันต์สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วท่องคาถาขับไล่ซาตานที่ซักซ้อมมาอย่างดี
    พ่อเป็นสุลต่าน มีบ้านเป็นพันหลัง มีเครื่องบินเป็นร้อยลำ มีฐานทัพนิวเคลียร์ ใบหน้าของอาจารย์บิดเบี้ยวเมื่อแสงจากไม้กางเขนสาดส่อง การันต์ท่องคาถาซ้ำ เพื่อนร่วมชั้นทั้งห้องเห็นว่าคาถาได้ผลจึงร่วมส่งพลังเพื่อขับไล่ซาตานด้วยการท่องคาถาอย่างพร้อมเพรียง ชายชุดดำยิ้มในใจขณะที่ทุกอย่างรอบตัวโกลาหล ข้างในของเขามันกลับสงบนิ่ง เขาชนะแล้ว เขาชนะความกลัว ไม่สิ เขาเป็นเจ้าแห่งความกลัว ไม่มีอีกต่อไปแล้วสิ่งที่ตามหลอกหลอนเขามากว่าสามปี ต่อจากนี้ทุกคนจะเรียกเขาว่า...
        
    นายธนกร ผ.อ. พูดเรียบๆเธอแต่งตัวอะไรของเธอ ไปขโมยสูทใครมา เห็นโรงเรียนเป็นอะไร เป็นบ่อนซ่องสุมมาเฟียรึไง ดูก๊อดฟาเธอร์มากไปรึเปล่า ถ้าผู้กำกับมาเห็นเข้าจะเสียใจขนาดไหนที่มีคนติดตามงานเป็นพวกปัญญาอ่อน เธอทำหน้าเครียดทำไม พ่อเธอเป็นโจ๊กเกอร์เหรอ กลับบ้านไปดูดนมที่กอทแธมไป๊ ปืน การันต์ และเก้าพบว่าตัวเองโดนเรียกให้เข้าห้องปกครอง ผ.อ.นั่งอยู่ที่โต๊ะประจำตำแหน่งและทั้งสองได้แต่นั่งก้มหน้า ผ.อ.ด่าเหมารวมในข้อหาทำร้ายร่างกายอาจารย์ ก่อนจะวกมาเรื่องการแต่งกายผิดระเบียบ ปืนเป็นคนแรกที่โดนผ.อ.ด่า เก้าโดนด่าเป็นคนถัดมาแล้วเธอ นายกันย์ กล้าเอาชุดไปย้อมสีแดง จะไปประท้วงรึไง บ้านพ่อเธออยู่ดูไบเหรอ กลับบ้านไปดูดนมที่ดูไบไป๊
         ผ.อ. หันไปหาปืนรู้ไหมว่า ผ.อ. ย่อมาจากอะไร นายธนกรปืนจะตอบไปว่าผู้อำนวยการแต่ผ.อ.ชิงพูดต่อ ไม่รู้ล่ะสิ  วันๆเอาแต่อ่านคุโรมาตี้ ในวันที่เธอได้มานั่งที่ห้องปกครองอีกฉันจะบอกให้เธอรู้ รับรองได้หนาวซึ้งถึงหัวใจของเธอแน่ แล้วถึงวันนั้นเธอจะเสียใจที่ได้รู้ แล้วเธอ นายการันต์ ผ.อ.หันไปหาการันต์หมดเรื่องที่จะพูดแล้ว ออกไปได้
         ทั้งสามเดินออกมาอย่างมึนงง เมื่อไปถึงห้องก็พบกับบรรยากาศอึมครึม ทุกคนต่างรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและรวมกันไปขอโทษอาจารย์ที่สุสาน ทั้งสามรู้สึกแปลกแยกที่ติดภาระจนไม่ได้ไปแสดงความรู้สึกผิดที่มองอาจารย์วีนาผิดไป ทั้งที่อาจารย์แกเป็นอาจารย์ที่ตั้งใจสอนคนหนึ่ง
         เมื่อหมอกเห็นใบหน้าเศร้าซึมของเก้าเลยเข้าไปปลอบ
    วันนี้อาจารย์อรภาไปเที่ยวญี่ปุ่น ไม่มีคาบเรียนแล้ว ปาร์ตี้ให้ลืมโลกไปเลย!" ทุกคนในห้องร้องเฮ วงโยทวาทิตเดินเข้ามาพร้อมกับบรรเลงเพลงพ่อเป็นสุลต่าน บาทหลวงขี่ม้าเข้ามาเปิดไวน์ฉลอง วงพ่อโทรมาขึ้นบรรเลงเพลงเป๊บซี่อร่อยมากจากธาม ธามแนะนำแขกรับเชิญคือดิวจิตสำส่อนซึ่งเจ้าตัวต้องแก้ว่าจิตสัมผัสมาแทนมือเบส ทุกคนต่างมีความสุข แต่ขณะที่โบกป้ายไฟให้วงดนตรีบนเวที ข้างในลึกๆเก้ายังคงมีอะไรติดค้างในใจ
         กลุ่มหมอกเป็นชื่อแบบจำลองอะตอมที่ว่าด้วยการรวมกันของโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน สื่อว่าแต่ละคนต่างมาจากหลากหลายที่ แต่ก็มารวมตัวเป็นหนึ่งเดียวได้ เป็นอะไรที่วิชาการและเท่ในเวลาเดียวกัน
         อิงฟ้ารู้สึกว่ามันเป็นชื่อที่สุดยอดมาก เพราะมันมีชื่อของคนที่เธอชื่นชมอยู่ในนั้นอย่างแนบเนียน อิงฟ้าวางแผนเอากระดาษเสนอชื่อเท่าจำนวนที่มีอยู่ตอนแรกใส่ในกล่องแล้วหยิบสุ่ม แต่จริงๆแล้วเธอเขียนชื่อกลุ่มหมอกใส่ไปในกระดาษทุกใบ เมื่อเธอนำแนวคิดไปเสนอหลังงานเลี้ยงจบทุกคนต่างก็เห็นด้วย หมอกได้รับเกียรติในการสุ่มหยิบชื่อซึ่งทำให้ทุกคนลุ้นไปตามๆกัน เมื่อหยิบชื่อออกมาอ่านหมอกถึงกับอึ้ง อิงฟ้าจ้องหน้าหมอกอย่างเขินๆขณะที่หมอกอ่านชื่อกลุ่มออกมาดังๆ
    แพะโง่และธาม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×