ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] : (One Piece) Law x Luffy คุณหมอเย็นชากับนายตัวแสบ!!

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 59


    CR.SH- Chapter 8 –

     - Chapter 8 -


                ลูฟี่รวบแรงทั้งหมดที่มีผลักชายร่างยักษ์ที่กำลังคร่อมเขาออกไป แต่ดูเหมือนความพยายามของเขาจะไม่มีผลกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย นี่คนหรือหมีควายเนี่ย..แรงเยอะชะมัดแถมยังตัวใหญ่อีกต่างหาก ที่ไม่เหมือนหมีควายก็คงจะมีอย่างเดียวคือหน้าตานี่แหละ...

     

                ชายร่างยักษ์ยังคงคร่อมลูฟี่ไว้และไม่ได้สะทกสะเทือนเลยสักนิด เขาเลียใบหูบางๆดูน่าอร่อยของอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาฝังจมูกและริมฝีปากได้รูปลงบนแก้มใสของอีกฝ่ายแทน

     

    ลูฟี่ได้แต่ดิ้นในอ้อมแขนของอีกฝ่ายอย่างสิ้นหวัง  ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไหร่ชายร่างยักษ์ตรงหน้าก็ดูไม่สะทกสะท้อนเลยแม้แต่น้อยแถมยังไม่มีวี่แววว่าจะปล่อยเขาอีกต่างหาก...ไม่นะ..นี่เขาต้องตกเป็นของหมอนี่จริงๆงั้นหรอ!? ไม่เอานะ!

     

                “เลิกดิ้นสักที ยังไงนายก็ไม่มีทางรอดจากฉันหรอก” ว่าพลางฉีกยิ้มกว้างกวนประสาท

     

                ลูฟี่ทำได้เพียงมุ่ยหน้าใส่อีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ มือบางๆทั้งสองข้างที่ยังคงเป็นอิสระก็รวบรวมแรงเท่าที่มีทุบอกกว้างของอีกฝ่ายหวังจะให้อีกฝ่ายปล่อยตนจากพันธนาการ แต่อีกฝ่ายก็ทำแค่ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์มองเหยื่อใต้อาณัติด้วยดวงตาสีอำพันคู่สวยที่ถูกเติมเต็มไปด้วยความปรารถนา

     

    นี่เขา...ต้องตกเป็นของหมอนี่จริงๆสินะ...

     

    แต่ในตอนนั้นเองตอนที่ลูฟี่ดูเหมือนจะสิ้นหวังก็มีร่างสูงของชายอีกคนเดินมาหยุดชายร่างยักษ์ตรงหน้าเขาเสียก่อน

     

                “เฮ้ยๆ ใจเย็นน่า อย่าลืมสิว่าเรามาทำอะไรที่นี่”

     

    ชายร่างสูงผมสีบลอนยาวในหน้ากากลายแทงสีฟ้าขาวเดินมาจับไหล่กว้างของชายตรงหน้าลูฟี่ ความหวังที่ดูริบหรี่ลงเรื่อยๆเหมือนจะถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง ลูฟี่รู้สึก(โคตร)ขอบคุณชายในหน้ากากเมื่อชายตรงหน้าเขาละความสนใจจากเขาแล้วหันไปหาชายคนนั้น

     

    ชายตรงหน้าดูเหมือนจะคล้อยตามเพื่อนในหน้ากากของตัวเองไปครู่หนึ่งแต่...

     

                “ไว้เสร็จธุระ แล้วนายจะไปต่อกับเด็กนี่ที่ไหนก็ตามใจ”

     

                ความหวังที่เริ่มถูกจุดประกายพลันหล่นฮวบไปอยู่ที่นิ้วก้อยเท้าเมื่อชายในหน้ากากพูดประโยคถัดมา ณ ตอนนั้นลูฟี่อยากจะกระโดดทับเขาเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปที่บังอาจมาให้ความหวังเขาแล้วฉุดมันให้ลงมาต่ำกว่าเดิม...

     

                “รู้แล้วๆ แต่ระหว่างรอไอหมอนั่นฉันขอเรียกน้ำย่อยก่อนก็แล้วกัน” ว่าแล้วก็หันมาสนใจเหยื่อใต้อาณัติต่อ

     

                “ปล่อยฉันนะ!” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหันกลับมาสนใจตน ลูฟี่ก็ดิ้นสุดแรงพลางโวยวายใส่ตามระเบียบแม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่ายังไงซะอีกฝ่ายก็ไม่มีทางปล่อยเขาอย่างแน่นอน

     

    ไม่เหนือความคาดหมายสักนิด...อีกฝ่ายไม่มีวี่แววว่าจะกระทบกระเทือนจากแรงของเขาเลยแม้แต่น้อย โอ๊ย จะอึดไปไหนเนี่ย!?

     

                “ฉันบอกแล้วไง ว่าดิ้นไปก็ไม่มีประโยชน์” 

     

    พูดจบก็ก้มลงมาขบซอกคอขาวๆของลูฟี่ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งเฮือก ลูฟี่พยายามดิ้นเพื่อให้อีกฝ่ายปล่อย แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม มือที่ยังเป็นอิสระยกขึ้นทุบอกของอีกฝ่ายรัวๆแต่ก็โดนอีกฝ่ายรวบมือบางๆทั้งสองไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียว

     

    มือหนาของอีกฝ่ายก็พลางลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเขาด้วยความปรารถนา ลูฟี่พยายามดิ้นอย่างเคยแม้มือของเขาจะไม่เป็นอิสระแล้วก็ตาม

     

    ชายร่างยักษ์ยกมือหนาขึ้นจับแก้มใสของอีกฝ่ายแล้วค่อยๆก้มหน้าลงมาหวังจะปะกบจูบ เมื่อเห็นอย่างนั้นลูฟี่ก็พยายามดิ้นและหันหน้าหนีอีกครั้งแต่กลับถูกอีกฝ่ายบีบแก้มเนียนแรงยิ่งขึ้นจนน้ำใสๆอุ่นๆเริ่มเอ่อล้นออกมาตรงขอบตา

     

    ลูฟี่ได้แต่หลับตาแน่นรู้สึกผิดที่ไม่ยอมทำตามที่พนักงานสาวคนนั้นบอก  ทำไมนะ...เขาน่าจะทำตามที่พนักงานสาวคนนั้นบอก ทั้งๆที่พนักงานสาวคนนั้นเตือนแล้วแท้ๆแต่เขาก็ยังจะดื้อด้านไม่ทำตามที่พนักงานสาวคนนั้นบอก...เขาผิดเอง...

     

    ช่วยฉันด้วย...โทราโอะ...

     

                เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร...ทั้งๆที่สมองขาวโพลนจนคิดอะไรไม่ออกแต่ชื่อนี้กลับเป็นชื่อแรกที่แล่นเข้ามาในหัวของเขา แถมยังดังซ้ำไปซ้ำมาในหัวราวกับแถบโฆษนาข้างล่างสุดเวลาดูข่าวในโทรทัศน์ที่มักจะมีตัวหนังสือเลื่อนวนไปวนมา

     

                ลูฟี่สัมผัสได้ถึงความชื้นอุ่นๆตรงขอบตาของเขาแต่เขาก็ยังคงหลับตาแน่นหวังลึกๆให้ทั้งหมดนี่เป็นเพียงความฝันหากลืมตาขึ้นมาฝันร้ายทั้งหมดจะหายไป

     

    แต่ลูฟี่ยังคงกลัว...ว่าถ้าหากลืมตาขึ้นมาจะต้องพบเจอกับความจริงอันแสนโหดร้าย ความจริงว่าเขาไม่ฟังที่พนักงานคนนั้นเตือน ความจริงว่าเขากำลังจะตกเป็นของชายร่างยักษ์แปลกหน้าที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ ความจริง...ว่าไม่มีใครมา...

     

                เอี๊ยดดดดดดดดดดดด!!


                เสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นดังขึ้นแสบแก้วหูเป็นเหตุให้ทุกสายตาหันไปจับจ้องยังต้นเสียง ลูฟี่เบิกตากว้างเมื่อเห็นรถบีเอ็มสีดำที่คุ้นเคยจอดประจัญหน้ากับรถสปอร์ตของชายร่างยักษ์

     

                ประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของชายหนุ่มทั้งสี่ที่ก้าวลงมาจากรถ

     

                ชายร่างยักษ์ผมทรงโมฮอว์กก้าวลงมาจากรถเป็นคนแรก เขามีร่างที่สูงใหญ่กว่าทุกคนในที่นี้ ตรงกลางหน้าผากมีรอบแผลเป็นรูปร่างแปลก และเขาไว้หนวดเคราดูน่ากลัวแต่มันกลับดูเข้ากับใบหน้าของเขาอย่างน่าประหลาด

     

    ตามมาด้วยร่างของชายหนุ่มอีกคน เขามีผมสีน้ำตาลอ่อน สวมแว่นกันแดดกับหมวกทรงกัปตันสีเขียวที่มีปีกหมวกสีแดง เขาก้าวลงมาพร้อมๆกับชายในหมวกกันหนาวปิดหูสีน้ำเงินเข้ม ตรงหมวกของเขามีตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนไว้ว่า ‘PENGUIN’

     

                คนสุดท้ายที่ก้าวลงมาจากรถคือร่างสูงที่คุ้นเคย...ลูฟี่คุ้นเคยกับเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีเหลืองสลับดำที่มีรูปสัญลักษณ์แปลกๆคล้ายหน้าคนตรงกลางนั้นดี เขาคุ้นเคยกับหมวกขนสัตว์สีขาวลายดำนั่นดี...

     

    หากคุณไม่แน่ใจว่าภาพตรงหน้าเป็นความจริงหรือเป็นเพียงความฝัน ให้คุณลองหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง...หากคุณลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าภาพตรงหน้ายังไม่หายไป มันคือความจริง

     

    แต่ถ้ามันหายไป..มันคงเป็นเพียงความฝัน

     

                เปลือกตาของลูฟี่ปิดทับดวงตากลมโตคู่สวยนั่นแนบแน่นอีกครั้ง ปล่อยให้แพขนตางอนยาวประกบกันเป็นสีเข้ม ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความกลัว...เขากลัว กลัวว่าถ้าลืมตาขึ้นมาแล้วภาพตรงหน้าจะหายไป กลัวเหลือเกิน...ว่าภาพตรงหน้าเป็นเพียงแค่ความฝัน

     

    หากเขาต้องตื่นมาเจอกับความเป็นจริงว่าไม่มีใครมา...เขาขอฝันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเสียยังจะดีกว่า


                ในที่สุดลูฟี่ก็ตัดสินใจเปิดเปลือกตาบางๆของตัวเองขึ้นช้าๆ นัยน์ตาสีรัตติกาลทอประกายสะท้อนภาพของชายร่างสูงผิวแทนที่คุ้นเคยยังคงอยู่ที่เดิม พลันน้ำตาใสๆก็เริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตากลมโตคู่สวยอีกครั้ง

     

    ลูฟี่สัมผัสได้ถึงความชื้นอุ่นๆตรงขอบตา เขาเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นพยายามกลั้นเสียงสะอื้นที่เริ่มจะเล็ดลอดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ก้อนเนื้อตรงอกด้านซ้ายเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความดีใจ

     

                “โทราโอะ...” ลูฟี่พูดด้วยเสียงอันสั่นคลอนปนสะอื้นเล็กๆ

     

                “ปล่อยเด็กนั่นซะ ยูสทัส-ยะ”

     

                ลอว์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกและจ้องเขม็งมาที่ชายร่างยักษ์ที่คร่อมลูฟี่ไว้ราวกับจะกลืนกินอีกฝ่ายเข้าไปทั้งตัว ทำเอาลูฟี่ถึงกับเสียวสันหลังวาบแทนเจ้าตัวเลยทีเดียว...

     

                “หือ? รู้จักกันด้วยหรอ?” ว่าพลางฉีกยิ้มกวนประสาท

     

                “เด็กนั่นน่ะ...ของฉัน” เสียงทุ้มต่ำอันแสนจะเยือกเย็นดังขึ้นมาอีกครั้งจากริมฝีปากได้รูปของลอว์


           ตึกตัก..ตึกตัก

     

                หัวใจของลูฟี่กลับเต้นรัวไม่เป็นส่ำอีกครั้ง ใบหน้าใสก็พลันร้อนผ่าวขึ้นมาเสียจนจะทอดไข่ดาวให้สุกได้ เขาเองไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแน่ แต่ที่เขาแน่ใจอย่างหนึ่งคือเขารู้สึก..อบอุ่น ทั้งๆที่น้ำเสียงทั้งแสนจะเย็นชา ทั้งแสนจะเรียบนิ่งแท้ๆ...

     

    แต่เรื่องนั้นน่ะ...ช่างมันเถอะ! ประเด็นน่ะคือหมอนั่นบอกว่าเขาเป็นของหมอนั่นนะ! ใครเป็นของตาบ้านั่นกัน กล้าดียังไงถึงได้มาพูดอย่างนี้!?

     

    เขาน่ะ...ไม่ใช่ของตาบ้านั่นสักหน่อย!

     

                “งั้นหรอ? นายเป็นของไอนั่นจริงดิ?”

     

     โอ๊ย...จะมาตอกย้ำกันทำไม แค่นี้หัวใจก็จะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว...

     

    แต่เขาควรจะตอบยังไงดีนะ...ถ้าตอบว่าไม่ใช่ ไอเม่นยักษ์หมีควายนี่คงจะไม่ปล่อยเขาแหงๆ..ต..แต่ถ้าตอบว่าใช่เขาก็ตกไปเป็นของหมอปล้นสวาทนั่นไปโดยปริยายเลยน่ะสิ...

     

    จะตอบยังไงดีนะ...เอาเถอะ เอาตอนนี้ให้รอดก่อนแล้วกัน เรื่องอื่นไว้ค่อยคิดทีหลัง

     

                “ช..ใช่! รู้แล้วก็ปล่อยฉันได้แล้ว!

     

                พูดจบก็รวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักอกแกร่งของชายตรงหน้าออกไปและคิดว่าผลลัพธ์ก็คงจะเหมือนเดิม แต่ผิดคาด...เขากลับยอมผละออกอย่างง่ายดายจนลูฟี่หลุดออกมาจากพันธนาการทั้งๆที่ยังไม่ทันตั้งตัวส่งผลให้เขาเสียหลักไปเล็กน้อย แต่เท้าเจ้ากรรมนี่สิที่ดันสะดุดกันเองซะงั้น

     

    เป็นเหตุลูฟี่ต้องเสียการทรงตัว แต่ก่อนที่เขาจะล้มลงไปจูบกับพื้นถนนเขากลับถูกมือหนาของใครบางคนมาคว้าต้นแขนบางๆของเขาเสียก่อน

     

    ยังไม่ทันที่ลูฟี่จะได้ตั้งสติก็ต้องพบว่าตัวเองนั้นถูกเจ้าของมืออุ่นกระชากเข้าไปไว้ในอ้อมแขนเสียแล้ว ลูฟี่ได้กลิ่นสบู่จางๆที่คุ้นเคยลอยมาแตะจมูกของตัวเอง...เขาจำกลิ่นนี้ได้...

     

                ลูฟี่เงยหน้าขึ้นกระพริบตาปริบๆมองใบหน้าเจ้าของอ้อมกอดแกร่งอย่างมึนๆ แต่ทันทีที่ตั้งสติได้พวงแก้มใสทั้งสองข้างก็ขึ้นสีแดงระเรื่อพร้อมๆกับเจ้าตัวที่เริ่มดิ้นในอ้อมแขนของอีกฝ่าย

     

                เนื่องจากลูฟี่ตัวเล็กกว่าลอว์ค่อนข้างมากจึงทำให้ใบหน้าของเขานั้นอยู่แค่เพียงระดับอกของอีกฝ่ายเท่านั้น แต่...ส่วนสูงไม่มีผลในแนวราบสักหน่อย...จริงไหม?

     

                “ปล..ปล่อยเลยนะ” ลูฟี่พูดด้วยเสียงสั่นพยายามไม่สบตากับนัยน์ตาสีเทาหินโมราคู่นั้น

     

                “ชู่ว...นายอยากโดนหมอนั่นปล้ำอีกรอบหรือไง?”

     

                ลอว์กระซิบพลางเอานิ้วเรียวยาวที่สักตัวอักษรรูปตัว E ของตัวเองมาแตะที่ริมฝีปากนิ่มของอีกฝ่ายเบาๆพร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างพึงพอใจ

     

    ลูฟี่ขมวดคิ้วทำแก้มป่องใส่อีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรไปมากกว่านั้น แหงล่ะ เขาไม่อยากถูกคนแปลกหน้าจับปล้ำอีกรอบหรอกนะ...โดยเฉพาะคนแปลกหน้าแบบเจ้าเม่นหมีควายนั่นน่ะ...

     

    ว่าแล้วก็รูดซิบปากตัวเองไปและจำยอมอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ

     

                “ชิ” ชายร่างยักษ์สบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอกด้วยความไม่พอใจ “ทราฟาลก้า! อย่ามัวชักช้าอยู่เลย เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า!

     

                “รู้แล้วๆ” ตอบแบบปัดๆตามแบบฉบับเจ้าตัว

     

                ว่าแต่..เริ่มหรอ? เริ่มอะไรกัน? ไม่เห็นจะเข้าใจเลย...ลูฟี่สังเกตเห็นเหล่าเพื่อนๆของชายร่างยักษ์เริ่มจะถอดเสื้อที่สวมอยู่ออกแล้วโยนไปกองอยู่บนรถ

     

    ทำอย่างกับคนเตรียมจะมีเรื่องกันอย่างนั้นแหละ..เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ! อย่าบอกนะว่า...!!

     

                “หมวกฟาง-ยะ” เสียงทุ้มต่ำอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้งเรียกให้ลูฟี่เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง “ไปรอในรถกับซาชิ”

     

    ว่าแล้วก็ช้อนตัวร่างเล็กขึ้นโดยไม่มีการบอกกล่าวทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งโหยงจนต้องเอาแขนบางขึ้นโอบรอบคอแกร่งนั่นโดยอัตโนมัติ ลอว์เดินตรงไปยังรถบีเอ็มสีดำของตัวเองแล้ววางลูฟี่ลงบนเบาะข้างคนขับอย่างนุ่มนวล

     

    ฝ่ายลูฟี่เมื่อเห็นว่าก้นตัวเองแตะกับเบาะรถแล้วก็ค่อยๆคลายอ้อมกอดจากคออีกฝ่ายช้าๆ

     

                “ซาชิ ดูแลหมอนี่ด้วย” พูดจบก็ทำท่าจะปิดประตูรถ

     

                เมื่อเห็นอย่างนั้นลูฟี่ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์มากนักก็เตรียมจะอ้าปากถามอีกฝ่าย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะส่งเสียงเรียกสักแอะกลับถูกบางอย่างมาคลุมหัวไว้เสียก่อน...

     

    มันเป็นผ้า...และมีกลิ่นหอม..กลิ่นที่เขาคุ้นเคย

     

                ลูฟี่สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายจงใจโยนผ้านี่ให้คลุมหัวเขาไว้...ผ้าอะไรไม่รู้แต่หมอนี่จงใจแน่นอน!

     

    ว่าแล้วก็รีบเอาผ้าที่คลุมหัวออกก่อนจะอ้าปากเตรียมโวยวายใส่ตามระเบียบ แต่เมื่อเห็นคนตรงหน้าเขาก็ต้องหยุดการกระทำนั้นลงไปทันทีเมื่อเห็นคนตรงหน้าที่เปลือยท่อนบนโชว์รอยสักกับกล้ามเนื้อน่าใจเต้นนั่นเหลือไว้เพียงกางเกงยีนส์สีน้ำเงินตัวเดียวเท่านั้น

     

     ใบหน้าใสของลูฟี่ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งพร้อมๆกับหัวใจที่เริ่มเต้นไม่เป็นส่ำจนแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยงไปเสียตรงนั้น

     

    เอ๊ะ...ว่าแต่เสื้อของหมอนั่นหายไปไหนล่ะ? ว่าแล้วลูฟี่ก็ก้มลงมองในมือของตัวเองก่อนจะพบว่ามันมาตกอยู่ในมือของเขานี่เอง...

     

                “ฝากเสื้อหน่อย” เสียงของลอว์ปลุกลูฟี่ให้ตื่นจากภวังค์เขาเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไปจนถึงใบหู

     

                “อ..อื้อ”

     

                “ฝากนี่ด้วย” ว่าแล้วก็โยนสร้อยบางอย่างให้อีกฝ่าย

     

                ลูฟี่รีบยื่นสองมือบางของตัวเองไปรับมันมาก่อนจะสังเกตเห็นว่ามันเป็นจี้ทองรูปหัวใจที่มีเพชรหัวใจสีแดงตรงกลาง ข้างหลังมีคำว่า ‘corazon’ สลักอยู่ ไม่เข้าใจหรอกว่าแปลว่าอะไรแต่มันสวยมากเลย...ดูแล้วคงจะแพงพอสมควรเลยแฮะ...

     

                “ฝากหมวกด้วย”

     

                “เอามาสิ”

     

                ลูฟี่ตอบและแบมือใส่อีกฝ่ายโดยที่ยังไม่ละความสนใจจากจี้รูปหัวใจในมือ

     

                ลอว์ถอดหมวกขนสัตว์สีขาวลายดำของตัวเองออกก่อนจะนำมันมาสวมซ้อนทับกับหมวกฟางที่ลูฟี่สวมอยู่

     

                “ขอกำลังใจหน่อยสิ” ลอว์พูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งพร้อมกับยกนิ้วเรียวขึ้นจิ้มตรงแก้มของตัวเองเบาๆ “จูบที”

     

                “ได้สิ” ด้วยความที่ลูฟี่มัวแต่สาละวนอยู่กับจี้หัวใจในมือจึงเผลอตอบตกลงไปโดยไม่ทันตั้งตัว เขาคิดทวนคำถามใหม่อีกรอบก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองตอบอะไรออกไป

     

    เขาละความสนใจจากจี้ในมือแล้วหันขวับมาหาอีกฝ่ายทันทีแล้วก็ต้องพบว่าอีกฝ่ายนั้นฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ไว้ก่อนที่เขาจะหันไปหาเสียอีก..นี่เขา...ตกหลุมพรางของหมอปล้นสวาทอีกแล้วงั้นหรอ!?

     

                ลอว์ค่อยๆก้มหน้าลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอีกฝ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถึงจะบอกอย่างนั้นก็เถอะ..ยังไงเขาก็ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าลูฟี่อยู่ดีนั่นแหละ แม่เลี้ยงด้วยอะไรนะถึงได้สูงเป็นเสาร์ไฟฟ้าขนาดนี้!

     

    ลูฟี่ใจ้เต้นไม่เป็นส่ำอีกครั้ง เขาค่อยๆเขย่งตัวขึ้นฝังจมูกเล็กๆและริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพูของตัวเองลงบนแก้มเนียนของอีกฝ่าย หอม...กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ลอยมาแตะจมูกของเขาอีกครั้งทำเอาลูฟี่ถึงกับเคลิ้มไปไม่น้อยเหมือนกัน...

     

    มือบางของลูฟี่กำจี้และเสื้อในมือไว้แน่น ใบหน้าของเขานั้นร้อนผ่าวเสียยิ่งกว่ากระทะทอดไข่เสียอีก หัวใจก็เต้นรัวอย่างกับมีคนมาแข่งตีกลองสะบัดชัยอยู่ในอกของเขาอย่างนั้นแหละ..


    แต่ก่อนที่ทั้งสองจะเคลิ้มไปมากกว่านี้สายตาเจ้ากรรมของลูฟี่ก็ดันเหลือบไปเห็นซาชิที่นั่งขำคนเดียวอยู่เบาะฝั่งที่นั่งคนขับเหมือนคนบ้า...แต่นั่นกลับเรียกสติสัมปชัญญะของลูฟี่ได้ดีเลยทีเดียว...

     

                ลูฟี่รีบผละออกจากร่างสูงตรงหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไปจนถึงใบหูแล้วก้มลง หัวใจของเขายังคงเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ พวงแก้มทั้งสองก็ยังคงร้อนไปจนถึงใบหู เขาเม้มปากแน่นรวบรวมความกล้าทั้งหมดเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายพลางโวยวายใส่ตามระเบียบ

     

                “ฉันให้กำลังใจแล้ว! รีบไปเลยนะ!

     

                พูดแค่นั้นลอว์ก็ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างพึงพอใจก่อนจะปิดประตูรถแล้วเดินตรงไปยังเหล่าชายร่างยักษ์ที่กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่โดยมีชายร่างยักษ์ที่ทำผมทรงโมฮอว์กและเพนกวิ้นเดินตามไปด้วย

     

    ลูฟี่ได้แต่จ้องเหล่าชายฉกรรจ์ตรงหน้าที่ยืนเรียงแถวกันเปลือยท่อนบนโชว์กล้ามเนื้อน่าใจเต้นเสียยิ่งกว่านายแบบในนิตยาสารอย่างเอือมระอา ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ตรงหน้าเท่าไหร่นักก็ตาม แต่ก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องได้อยู่นิดๆล่ะนะ...ก็แค่นิดๆ...

     

                ลอว์ยักคิ้วกวนประสาทใส่ชายหัวแดงตรงหน้าเป็นการเปิดศึก ไม่นานเขาก็ถูกหมักหนักๆของอีกฝ่ายสวนเข้าที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของตัวเองจนถึงเขากับหน้าหันไปตามแรงต่อยเลยทีเดียว

     

    แล้วเหล่าชายผู้บ้าเลือดตรงหน้าก็แลกหมัดกันอย่างดุเดือด

     

                ทำเอาลูฟี่ถึงกับสะดุ้งเฮือกจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว เขาหันขวับไปยังซาชิที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยสีหน้ากังวลสุดๆ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะดูปกติสุขกีแถมยังฮัมเพลงอย่างไร้กังวลสุดๆ...

     

                “นี่! โทราโอะโดนต่อยอยู่นะ!” ว่าแล้วก็โวยวายใส่ตามระเบียบ

     

                “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า” ซาชิที่เหมือนจะอ่านใจลูฟี่ออกตอบพร้อมกับหาวไปหวอดใหญ่ “หัวหน้าได้กำลังใจจากนายแล้วนี่ ยังไงก็ไม่แพ้หรอก” พูดจบก็ยังอุส่าห์หันมาฉีกยิ้มกว้างให้

     

                นี่ปลอบใจหรือกวนประสาทกันแน่เนี่ย...

     

                ลูฟี่ได้แต่ยกมือขึ้นกอดอกพลางมุ่ยหน้าใส่อีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ เขาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกฝ่ายก่อนจะหันกลับไปสนใจเหล่าชายฉกรรจ์บ้าเลือดตรงหน้าต่อ

     

    แล้วสีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนกลับไปเป็นสีหน้ากังวลอีกครั้งเมื่อไม่เห็นร่างสูงของชายผิวแทนที่คุ้นเคยอีกแล้ว เขาคงจะจมหายไปกับเหล่าหมีควายผู้บ้าเลือดพวกนั้นแล้วล่ะ...จะเป็นยังไงบ้างนะ ไม่แน่หมอนั่นอาจจะนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นก็ได้...

     

    ไม่ๆ! คิดมากไปแล้วนะ ลูฟี่ หมอนั่นน่ะหนังเหนียวจะตายไปยังไงก็ไม่มีทางตายง่ายๆหรอก อีกอย่าง...เขาไม่ได้เป็นห่วงหมอนั่นสักหน่อย!

     

                “ปกติพวกเราก็มีเรื่องชกต่อยกันที่นี่ประจำอยู่แล้ว ชาวบ้านแถวนี้ถึงได้ไม่เดินผ่านซอยนี้ไง...นายไม่สงสัยเลยหรือไง?” ซาชิว่าพลางหันมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอือมระอากับความซื่อบื้อของเจ้าตัว

     

                “ก็ไม่รู้น่ะสิ...” ลูฟี่บุ้ยปากใส่อีกฝ่าย ก็แหงล่ะ...เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าซอยนี้มีตัวจนอยู่บนโลกนี้น่ะ “ถ้ารู้จะมาหรือไง”

     

                “แล้วรู้ไหมว่าจี้นั่นน่ะ หมายถึงอะไร?” อยู่ๆเปลี่ยนเรื่องดื้อๆซะอย่างนั้น

     

                “จะไปรู้ได้ไงล่ะ”  ว่าแล้วก็มุ่ยหน้าใส่ซาชิอีกหน

     

                ซาชิฉีกยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย “จี้นั่นน่ะชื่อ ฮาร์ท มันเป็นจี้ที่เฉพาะเดือนมหาลัยเท่านั้นที่จะได้ หัวหน้าน่ะเป็นหนุ่มฮอตนะจะบอกให้...ขนาดไม่ใช้เส้นที่ทั้งเรียนเก่ง ทั้งเป็นเหมือนลูกผอ.ยังถูกโหวตให้เป็นเดือนตั้งสามปีซ้อน” ซาชิพูดอย่างภูมิอกภูมิใจ

     

    “แล้วที่หัวหน้าให้จี้นายน่ะ...” ซาชิพูดอย่างจงใจเว้นระยะทำเอาลูฟี่ถึงกับตื่นเต้นตามไปเลย... “ก็หมายความว่าหัวหน้าประกาศความเป็นเจ้าของกับนายแล้วยังไงล่ะ!” พูดจบก็หัวเราะออกมาอย่างภาคภูมิใจ...ทำเอาลูฟี่ต้องมุ่ยหน้าใส่อีกครั้ง

     

    มีความสุขจังนะ! เขาดูมีความสุขด้วยไหมเนี่ย!?

     

                แต่ทำไม...ก้อนเนื้อตรงอกด้านซ้ายมันเต้นเร็วไม่เป็นส่ำอีกแล้ว...แถมใบหน้ายังรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาจนแทบไหม้ตรงนี้เลยนะ...?

     

                “จ..จะบ้าหรือไง!? หมอนั่นแค่ฝากไว้เฉยๆเอง!

     

                “แต่หัวหน้าไม่เคยถอดสร้อยนี้ให้ใครเลยนะ” 


                ลูฟี่ไม่ได้ตอบอะไรเขาเพียงแค่มุ่ยหน้าใส่อีกฝ่ายก่อนจะหันกลับไปสนใจเหล่าฝูงหมีควายที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดตรงหน้าซึ่งเขาไม่อาจเห็นลอว์ได้เลย...แหงล่ะ ก็แต่ล่ะคนตัวยักษ์ๆกันทั้งนั้น คงจะมีแต่หมอนั่นกับเพนกวิ้นเท่านั้นแหละที่ดูปกติกว่าชาวบ้านเขาน่ะ...

     

    เขากำจี้ในมือไว้แน่น ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งดูฝูงหมีควายซัดกันไปมาตรงหน้าและภาวนาให้มันจบลงเร็วๆ

     

                “ฉันจะหลับแล้ว พวกนั้นสู้กันเสร็จแล้วก็ปลุกด้วยล่ะ”

     

                ซาชิพูดพลางเอนเบาะลงและดึงปีกหมวกลงมาปิดตาเล็กน้อย เขาฮัมเพลงออกมาเบาๆอย่างสบายใจ ลูฟี่แอบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจก่อนจะหันกลับไปสนใจศึกบ้าดีเดือดตรงหน้าอีกครั้ง

     

     

     

                ทั้งหมดแลกหมัดกันอยู่นานและในที่สุดเรื่องบ้าๆนี่ก็จบลง โดยที่ลอว์เป็นฝ่ายชนะไป อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจในผลลัพธ์มากนักแต่ก็ยอมถอยทัพไปแต่โดยดี

     

                ลูฟี่รีบเขย่าตัวซาชิที่นั่งหลับน้ำลายยืดอย่างสบายใจเพื่อปลุกให้เขาตื่น ซาชิยกตัวขึ้นนั่งพลางเกาหัวแกรกๆก่อนจะปลดล็อคประตูรถให้อีกฝ่ายอย่างสะลึมสะลือ

     

    ลูฟี่รีบวิ่งลงจากรถตรงไปยังลอว์ที่สภาพไม่ค่อยจะต่างจากศพเดินได้สักเท่าไหร่...

     

    เขามีรอยเลือดและรอยฟกช้ำอยู่เต็มตัวไปหมด คิ้วแตก ปากแตก เลือดกำเดาก็ไหล นี่เขารอดมาได้ยังไงนะ ถ้าจะรอดมาแบบนี้...ตายไปเถอะ...

     

                “ไงล่ะ” อีกฝ่ายพูดพลางแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ “เพราะได้กำลังใจจากนายฉันเลยชนะไง”

     

              ตึกตัก..ตึกตัก

     

                ห..หัวใจมัน...เต้นผิดจังหวะอีกแล้ว...ให้ตายสิ! นี่มันรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วเนี่ย! ที่เขาใจเต้นไม่เป็นส่ำแบบนี้น่ะ ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เกิดมาก็ไม่เคยใจเต้นเร็วขนาดนี้มาก่อน จะมีก็แค่ตอนออกกำลังกายเหนื่อยๆหรือตอนที่ตื่นเต้นเท่านั้น

     

    ทำไมเจอหมอนี่ทีไรใจเต้นทุกที!?

     

                “บ้านนายสิ!” ว่าแล้วก็ปาหมวกขนสัตว์สีขาวกับเสื้อในมือใส่อีกฝ่ายอย่างจัง “คนเขาอุส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ!” กวนประสาทได้ขนาดนี้...แสดงว่ายังไม่ตายสินะ

     

    ลูฟี่พูดจบก็แลบลิ้นใส่อีกฝ่ายด้วยความงอนก่อนจะกอดอกหันหลังใส่

     

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไมได้กวนประสาทต่อก็แอบหันหน้าไปดูด้วยความสงสัย เขาเห็นใบหูของอีกฝ่ายขึ้นสีแดงหน่อยๆก่อนเจ้าตัวจะสะบัดหัวตัวเองเบาๆ อะไรของเขานะ...แปลกชะมัด

     

                ลอว์สะบัดหัวตัวเองเบาๆเรียกสติกลับมาก่อนจะเดินตรงไปยังเพนกวิ้นและชายร่างยักษ์ที่ยืนคุยกับซาชิอยู่ที่รถ

     

                “จีน เพนกวิ้น ไปทำแผลที่คอนโดฉันแล้วพวกนายกลับเองล่ะ ฉันจะไปส่งหมอนี่กลับบ้าน” พูดพลางชี้นิ้วเรียวของตัวเองมาที่ลูฟี่

     

                จีนและเพนกวิ้นพยักหน้ารับเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะเดินไปขึ้นรถ เพนกวิ้นนั่งเบาะหลังฝั่งเดียวกับที่นั่งคนขับโดยมีจีนนั่งอยู่อีกฝั่งข้างๆกับเขา จริงๆแล้วเบาะหลังมันก็นั่งได้สามคนแหละนะ...

     

    แต่แค่จีนนั่งคนเดียวก็ปาไปสองที่นั่งแล้ว...รวมกับเพนกวิ้นอีกหนึ่งเป็นสามครบพอดี ซาชิขับ ลอว์นั่งข้างซาชิ...แล้วลูฟี่นั่งไหนล่ะ?

     

                “แล้วฉันนั่งไหนล่ะ?” ลูฟี่ขมวดคิ้วเอียงคอถามด้วยความสงสัย

     

                “ตักฉันไง”

     

                ลอว์พูดพลางเดินไปที่รถเป็นเหตุให้ลูฟี่ต้องเดินตามก้นของเขาต้อยๆราวกับลุกเป็ดที่เดินตามแม่เป็นไม่มีผิด

     

                เมื่อมาถึงจุดหมายลอว์ก็หย่อนก้นตัวเองลงบนเบาะก่อนจะตบหน้าขาของตัวเองเบาๆ ลูฟี่พยักหน้ารับก่อนจะหย่อนก้นลงบนหน้าขาของอีกฝ่ายตามคำสั่ง เป็นอันเสร็จสรรพเขาก็ปิดประตูให้ซาชิได้ออกรถ

     

                “ว่าแต่ทำไมพวกนายต้องทะเลาะกันด้วยล่ะ?” ลูฟี่ถามพลางหันหน้าไปหาเจ้าของต้นขาที่เขากำลังนั่งทับอยู่

     

                “มหาลัยที่ฉันกับหมอนั่นเรียนไม่ถูกกัน” ลอว์ตอบพลางมองใบหน้าไร้เดียงสาของอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตาสีเทาหินโมราคู่สวยก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความเหนื่อยใจ “ว่าแต่นายเถอะ มาทำอะไรแถวนี้ ถ้าฉันไม่มาเจอก่อนจะเป็นยังไง...ไม่สังเกตรึไงว่าชาวบ้านเขาไม่เดินผ่านทางนี้กัน”

     

                “ก็ฉันไม่รู้นี่!” ลูฟี่มุ่ยหน้าใส่อีกฝ่าย

     

                “นายนี่โง่จริงๆด้วยแฮะ”

     

                “ฉันไม่ได้โง่นะ!” ก็ใครมันจะไปรู้เล่า...

     

                ลูฟี่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแก้มพองใส่อีกฝ่ายด้วยความน้อยใจแล้วหันหลังกลับไปมองถนนอีกครั้ง

     

                เอ๊ะ..

     

                ทำไมถึงรู้สึกเหมือนมีอะไรแข็งอยู่ที่สะโพกกันนะ?  นี่เขากำลังนั่งทับอะไรหรือเปล่า...แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไรนี่นา ว่าแล้วลูฟี่ก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย

     

    เขาขยับตัวเล็กน้อยพยายามมองหาว่าตัวเองกำลังนั่งทับอะไรอยู่รึเปล่าซึ่งก็ไม่พออะไรนอกจากต้นขาของอีกฝ่ายที่เขากำลังนั่งทับอยู่เท่านั้น...

     

    แล้วอะไรมันมาโดนสะโพกเขาล่ะ..?

     

                “นี่ นายจะดิ้นทำไม อยู่นิ่งๆไม่เป็นรึไง?” ลอว์ดุคนตัวเล็กกว่าพร้อมกับดีดหน้าผากอีกฝ่ายไปเบาๆหนึ่งที

     

                “อ้าว! ก็ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรแข็งๆอยู่ที่ก้นเลยจะดูว่านั่งทับอะไรอยู่เท่านั้นเอง” ลูฟี่ยกมือขึ้นกุมหน้าผากพลางมุ่ยหน้าใส่อีกฝ่าย

     

    สายตาก็แอบเหลือบไปเห็นเพนกวิ้นและซาชิที่กำลังกลั้นขำกันอยู่โดยมีจีนนั่งทำหน้าปลงอยู่ข้างหลัง อะไรของคนพวกนี้นะ...แปลกเป็นบ้า แปลกพอๆกับหัวหน้าของพวกเขาเลย..

     

                ลูฟี่ละความสนใจจากชายหนุ่มทั้งสามก่อนจะหันกลับมาสนใจชายหนุ่มตรงหน้าเขาต่อ แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งนิดๆเมื่อพบว่าใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นแดงมาก...แดงไปจนถึงใบหูทั้งสองเลย

     

                “ท..โทราโอะ! ทำไมนายถึงหน้าแดงขนาดนี้ เจ็บแผลหรอ..หรือว่าเป็นไข้ ม..ไม่สิ..หรือว่าปวดท้องอึ..โอ๊ย!

     

                พูดไม่ทันจบก็ถูกนิ้วเรียวยาวของอีกฝ่ายดีดลงกลางแสกหน้าผากอย่างแรงจนเจ้าตัวถึงกับอุทานออกมาด้วยความเจ็บ

     

    ลูฟี่ยกมือสองข้างขึ้นกุมหน้าผากที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเจ็บอีกรั้ง เขาเบ้ปากใส่อีกฝ่ายก่อนจะหันกลับไปมองถนนต่อ

     

    คนเขาอุล่าห์เป็นห่วงแท้ๆ คนบ้า!


    - to be continue -


                   โย่ๆๆ#ผิด สวัสดีค่ะ=w=/ หายหน้าหายตาไปนานยังไม่ตายนะคะ ถถถว์ คิดถึงกันบ้างไหมเอ่ย-3- เอาตรงๆเลยก็...พอดีช่วงนี้ขี้เกียจค่ะ5555#หลบเท้า บวกสมองไม่ค่อยแล่น=_= สมองโคตรไม่ไบร์ทเลยค่ะ ต้องหาอะไรทำให้มองไบร์ทหน่อยแล้ว ฟฟฟ ;w; นิยายก็ดองไว้เยอะเสียเหลือเกิน ฮืออออออออออ

                   ยังไม่แน่ใจนะคะว่าอัพครั้งต่อไปจะอัพบทใหม่หรือรีไรท์=w=" แต่เอาเป็นว่าอ่านกันเสร็จแล้วก็อย่าลืมคอมเม้นหรือกดติดตามให้กำลังใจกันด้วยนะคะ <3 

                   ช่วงนี้สงกรานต์เล่นน้ำกันระวังๆนะคะ ด้วยรักจากไรท์ จุ้บๆ#หลบเท้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×