คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8
- Chapter 8 -
ลูฟี่รวบแรงทั้งหมดที่มีผลักชายร่างยักษ์ที่กำลังคร่อมเขาออกไป
แต่ดูเหมือนความพยายามของเขาจะไม่มีผลกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
นี่คนหรือหมีควายเนี่ย..แรงเยอะชะมัดแถมยังตัวใหญ่อีกต่างหาก
ที่ไม่เหมือนหมีควายก็คงจะมีอย่างเดียวคือหน้าตานี่แหละ...
ชายร่างยักษ์ยังคงคร่อมลูฟี่ไว้และไม่ได้สะทกสะเทือนเลยสักนิด
เขาเลียใบหูบางๆดูน่าอร่อยของอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาฝังจมูกและริมฝีปากได้รูปลงบนแก้มใสของอีกฝ่ายแทน
ลูฟี่ได้แต่ดิ้นในอ้อมแขนของอีกฝ่ายอย่างสิ้นหวัง
ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไหร่ชายร่างยักษ์ตรงหน้าก็ดูไม่สะทกสะท้อนเลยแม้แต่น้อยแถมยังไม่มีวี่แววว่าจะปล่อยเขาอีกต่างหาก...ไม่นะ..นี่เขาต้องตกเป็นของหมอนี่จริงๆงั้นหรอ!? ไม่เอานะ!
“เลิกดิ้นสักที
ยังไงนายก็ไม่มีทางรอดจากฉันหรอก” ว่าพลางฉีกยิ้มกว้างกวนประสาท
ลูฟี่ทำได้เพียงมุ่ยหน้าใส่อีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ
มือบางๆทั้งสองข้างที่ยังคงเป็นอิสระก็รวบรวมแรงเท่าที่มีทุบอกกว้างของอีกฝ่ายหวังจะให้อีกฝ่ายปล่อยตนจากพันธนาการ
แต่อีกฝ่ายก็ทำแค่ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์มองเหยื่อใต้อาณัติด้วยดวงตาสีอำพันคู่สวยที่ถูกเติมเต็มไปด้วยความปรารถนา
นี่เขา...ต้องตกเป็นของหมอนี่จริงๆสินะ...
แต่ในตอนนั้นเองตอนที่ลูฟี่ดูเหมือนจะสิ้นหวังก็มีร่างสูงของชายอีกคนเดินมาหยุดชายร่างยักษ์ตรงหน้าเขาเสียก่อน
“เฮ้ยๆ
ใจเย็นน่า อย่าลืมสิว่าเรามาทำอะไรที่นี่”
ชายร่างสูงผมสีบลอนยาวในหน้ากากลายแทงสีฟ้าขาวเดินมาจับไหล่กว้างของชายตรงหน้าลูฟี่
ความหวังที่ดูริบหรี่ลงเรื่อยๆเหมือนจะถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง ลูฟี่รู้สึก(โคตร)ขอบคุณชายในหน้ากากเมื่อชายตรงหน้าเขาละความสนใจจากเขาแล้วหันไปหาชายคนนั้น
ชายตรงหน้าดูเหมือนจะคล้อยตามเพื่อนในหน้ากากของตัวเองไปครู่หนึ่งแต่...
“ไว้เสร็จธุระ
แล้วนายจะไปต่อกับเด็กนี่ที่ไหนก็ตามใจ”
ความหวังที่เริ่มถูกจุดประกายพลันหล่นฮวบไปอยู่ที่นิ้วก้อยเท้าเมื่อชายในหน้ากากพูดประโยคถัดมา
ณ ตอนนั้นลูฟี่อยากจะกระโดดทับเขาเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปที่บังอาจมาให้ความหวังเขาแล้วฉุดมันให้ลงมาต่ำกว่าเดิม...
“รู้แล้วๆ
แต่ระหว่างรอไอหมอนั่นฉันขอเรียกน้ำย่อยก่อนก็แล้วกัน”
ว่าแล้วก็หันมาสนใจเหยื่อใต้อาณัติต่อ
“ปล่อยฉันนะ!” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหันกลับมาสนใจตน
ลูฟี่ก็ดิ้นสุดแรงพลางโวยวายใส่ตามระเบียบแม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่ายังไงซะอีกฝ่ายก็ไม่มีทางปล่อยเขาอย่างแน่นอน
ไม่เหนือความคาดหมายสักนิด...อีกฝ่ายไม่มีวี่แววว่าจะกระทบกระเทือนจากแรงของเขาเลยแม้แต่น้อย
โอ๊ย จะอึดไปไหนเนี่ย!?
“ฉันบอกแล้วไง
ว่าดิ้นไปก็ไม่มีประโยชน์”
พูดจบก็ก้มลงมาขบซอกคอขาวๆของลูฟี่ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งเฮือก
ลูฟี่พยายามดิ้นเพื่อให้อีกฝ่ายปล่อย แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม
มือที่ยังเป็นอิสระยกขึ้นทุบอกของอีกฝ่ายรัวๆแต่ก็โดนอีกฝ่ายรวบมือบางๆทั้งสองไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียว
มือหนาของอีกฝ่ายก็พลางลูบไล้ไปทั่วร่างกายของเขาด้วยความปรารถนา
ลูฟี่พยายามดิ้นอย่างเคยแม้มือของเขาจะไม่เป็นอิสระแล้วก็ตาม
ชายร่างยักษ์ยกมือหนาขึ้นจับแก้มใสของอีกฝ่ายแล้วค่อยๆก้มหน้าลงมาหวังจะปะกบจูบ
เมื่อเห็นอย่างนั้นลูฟี่ก็พยายามดิ้นและหันหน้าหนีอีกครั้งแต่กลับถูกอีกฝ่ายบีบแก้มเนียนแรงยิ่งขึ้นจนน้ำใสๆอุ่นๆเริ่มเอ่อล้นออกมาตรงขอบตา
ลูฟี่ได้แต่หลับตาแน่นรู้สึกผิดที่ไม่ยอมทำตามที่พนักงานสาวคนนั้นบอก
ทำไมนะ...เขาน่าจะทำตามที่พนักงานสาวคนนั้นบอก
ทั้งๆที่พนักงานสาวคนนั้นเตือนแล้วแท้ๆแต่เขาก็ยังจะดื้อด้านไม่ทำตามที่พนักงานสาวคนนั้นบอก...เขาผิดเอง...
ช่วยฉันด้วย...โทราโอะ...
เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร...ทั้งๆที่สมองขาวโพลนจนคิดอะไรไม่ออกแต่ชื่อนี้กลับเป็นชื่อแรกที่แล่นเข้ามาในหัวของเขา แถมยังดังซ้ำไปซ้ำมาในหัวราวกับแถบโฆษนาข้างล่างสุดเวลาดูข่าวในโทรทัศน์ที่มักจะมีตัวหนังสือเลื่อนวนไปวนมา
ลูฟี่สัมผัสได้ถึงความชื้นอุ่นๆตรงขอบตาของเขาแต่เขาก็ยังคงหลับตาแน่นหวังลึกๆให้ทั้งหมดนี่เป็นเพียงความฝันหากลืมตาขึ้นมาฝันร้ายทั้งหมดจะหายไป
แต่ลูฟี่ยังคงกลัว...ว่าถ้าหากลืมตาขึ้นมาจะต้องพบเจอกับความจริงอันแสนโหดร้าย
ความจริงว่าเขาไม่ฟังที่พนักงานคนนั้นเตือน ความจริงว่าเขากำลังจะตกเป็นของชายร่างยักษ์แปลกหน้าที่โผล่มาจากไหนไม่รู้
ความจริง...ว่าไม่มีใครมา...
เอี๊ยดดดดดดดดดดดด!!
เสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นดังขึ้นแสบแก้วหูเป็นเหตุให้ทุกสายตาหันไปจับจ้องยังต้นเสียง
ลูฟี่เบิกตากว้างเมื่อเห็นรถบีเอ็มสีดำที่คุ้นเคยจอดประจัญหน้ากับรถสปอร์ตของชายร่างยักษ์
ประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของชายหนุ่มทั้งสี่ที่ก้าวลงมาจากรถ
ชายร่างยักษ์ผมทรงโมฮอว์กก้าวลงมาจากรถเป็นคนแรก
เขามีร่างที่สูงใหญ่กว่าทุกคนในที่นี้ ตรงกลางหน้าผากมีรอบแผลเป็นรูปร่างแปลก และเขาไว้หนวดเคราดูน่ากลัวแต่มันกลับดูเข้ากับใบหน้าของเขาอย่างน่าประหลาด
ตามมาด้วยร่างของชายหนุ่มอีกคน
เขามีผมสีน้ำตาลอ่อน สวมแว่นกันแดดกับหมวกทรงกัปตันสีเขียวที่มีปีกหมวกสีแดง
เขาก้าวลงมาพร้อมๆกับชายในหมวกกันหนาวปิดหูสีน้ำเงินเข้ม
ตรงหมวกของเขามีตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนไว้ว่า ‘PENGUIN’
คนสุดท้ายที่ก้าวลงมาจากรถคือร่างสูงที่คุ้นเคย...ลูฟี่คุ้นเคยกับเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีเหลืองสลับดำที่มีรูปสัญลักษณ์แปลกๆคล้ายหน้าคนตรงกลางนั้นดี
เขาคุ้นเคยกับหมวกขนสัตว์สีขาวลายดำนั่นดี...
หากคุณไม่แน่ใจว่าภาพตรงหน้าเป็นความจริงหรือเป็นเพียงความฝัน
ให้คุณลองหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง...หากคุณลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าภาพตรงหน้ายังไม่หายไป
มันคือความจริง
แต่ถ้ามันหายไป..มันคงเป็นเพียงความฝัน
เปลือกตาของลูฟี่ปิดทับดวงตากลมโตคู่สวยนั่นแนบแน่นอีกครั้ง
ปล่อยให้แพขนตางอนยาวประกบกันเป็นสีเข้ม ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความกลัว...เขากลัว กลัวว่าถ้าลืมตาขึ้นมาแล้วภาพตรงหน้าจะหายไป
กลัวเหลือเกิน...ว่าภาพตรงหน้าเป็นเพียงแค่ความฝัน
หากเขาต้องตื่นมาเจอกับความเป็นจริงว่าไม่มีใครมา...เขาขอฝันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเสียยังจะดีกว่า
ในที่สุดลูฟี่ก็ตัดสินใจเปิดเปลือกตาบางๆของตัวเองขึ้นช้าๆ
นัยน์ตาสีรัตติกาลทอประกายสะท้อนภาพของชายร่างสูงผิวแทนที่คุ้นเคยยังคงอยู่ที่เดิม
พลันน้ำตาใสๆก็เริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตากลมโตคู่สวยอีกครั้ง
ลูฟี่สัมผัสได้ถึงความชื้นอุ่นๆตรงขอบตา
เขาเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นพยายามกลั้นเสียงสะอื้นที่เริ่มจะเล็ดลอดออกมาอย่างห้ามไม่ได้
ก้อนเนื้อตรงอกด้านซ้ายเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความดีใจ
“โทราโอะ...”
ลูฟี่พูดด้วยเสียงอันสั่นคลอนปนสะอื้นเล็กๆ
“ปล่อยเด็กนั่นซะ
ยูสทัส-ยะ”
ลอว์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกและจ้องเขม็งมาที่ชายร่างยักษ์ที่คร่อมลูฟี่ไว้ราวกับจะกลืนกินอีกฝ่ายเข้าไปทั้งตัว
ทำเอาลูฟี่ถึงกับเสียวสันหลังวาบแทนเจ้าตัวเลยทีเดียว...
“หือ?
รู้จักกันด้วยหรอ?” ว่าพลางฉีกยิ้มกวนประสาท
“เด็กนั่นน่ะ...ของฉัน”
เสียงทุ้มต่ำอันแสนจะเยือกเย็นดังขึ้นมาอีกครั้งจากริมฝีปากได้รูปของลอว์
ตึกตัก..ตึกตัก
หัวใจของลูฟี่กลับเต้นรัวไม่เป็นส่ำอีกครั้ง
ใบหน้าใสก็พลันร้อนผ่าวขึ้นมาเสียจนจะทอดไข่ดาวให้สุกได้ เขาเองไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแน่
แต่ที่เขาแน่ใจอย่างหนึ่งคือเขารู้สึก..อบอุ่น ทั้งๆที่น้ำเสียงทั้งแสนจะเย็นชา
ทั้งแสนจะเรียบนิ่งแท้ๆ...
แต่เรื่องนั้นน่ะ...ช่างมันเถอะ!
ประเด็นน่ะคือหมอนั่นบอกว่าเขาเป็นของหมอนั่นนะ!
ใครเป็นของตาบ้านั่นกัน กล้าดียังไงถึงได้มาพูดอย่างนี้!?
เขาน่ะ...ไม่ใช่ของตาบ้านั่นสักหน่อย!
“งั้นหรอ?
นายเป็นของไอนั่นจริงดิ?”
โอ๊ย...จะมาตอกย้ำกันทำไม
แค่นี้หัวใจก็จะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว...
แต่เขาควรจะตอบยังไงดีนะ...ถ้าตอบว่าไม่ใช่
ไอเม่นยักษ์หมีควายนี่คงจะไม่ปล่อยเขาแหงๆ..ต..แต่ถ้าตอบว่าใช่เขาก็ตกไปเป็นของหมอปล้นสวาทนั่นไปโดยปริยายเลยน่ะสิ...
จะตอบยังไงดีนะ...เอาเถอะ
เอาตอนนี้ให้รอดก่อนแล้วกัน เรื่องอื่นไว้ค่อยคิดทีหลัง
“ช..ใช่! รู้แล้วก็ปล่อยฉันได้แล้ว!”
พูดจบก็รวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักอกแกร่งของชายตรงหน้าออกไปและคิดว่าผลลัพธ์ก็คงจะเหมือนเดิม
แต่ผิดคาด...เขากลับยอมผละออกอย่างง่ายดายจนลูฟี่หลุดออกมาจากพันธนาการทั้งๆที่ยังไม่ทันตั้งตัวส่งผลให้เขาเสียหลักไปเล็กน้อย
แต่เท้าเจ้ากรรมนี่สิที่ดันสะดุดกันเองซะงั้น
เป็นเหตุลูฟี่ต้องเสียการทรงตัว
แต่ก่อนที่เขาจะล้มลงไปจูบกับพื้นถนนเขากลับถูกมือหนาของใครบางคนมาคว้าต้นแขนบางๆของเขาเสียก่อน
ยังไม่ทันที่ลูฟี่จะได้ตั้งสติก็ต้องพบว่าตัวเองนั้นถูกเจ้าของมืออุ่นกระชากเข้าไปไว้ในอ้อมแขนเสียแล้ว
ลูฟี่ได้กลิ่นสบู่จางๆที่คุ้นเคยลอยมาแตะจมูกของตัวเอง...เขาจำกลิ่นนี้ได้...
ลูฟี่เงยหน้าขึ้นกระพริบตาปริบๆมองใบหน้าเจ้าของอ้อมกอดแกร่งอย่างมึนๆ
แต่ทันทีที่ตั้งสติได้พวงแก้มใสทั้งสองข้างก็ขึ้นสีแดงระเรื่อพร้อมๆกับเจ้าตัวที่เริ่มดิ้นในอ้อมแขนของอีกฝ่าย
เนื่องจากลูฟี่ตัวเล็กกว่าลอว์ค่อนข้างมากจึงทำให้ใบหน้าของเขานั้นอยู่แค่เพียงระดับอกของอีกฝ่ายเท่านั้น
แต่...ส่วนสูงไม่มีผลในแนวราบสักหน่อย...จริงไหม?
“ปล..ปล่อยเลยนะ”
ลูฟี่พูดด้วยเสียงสั่นพยายามไม่สบตากับนัยน์ตาสีเทาหินโมราคู่นั้น
“ชู่ว...นายอยากโดนหมอนั่นปล้ำอีกรอบหรือไง?”
ลอว์กระซิบพลางเอานิ้วเรียวยาวที่สักตัวอักษรรูปตัว E ของตัวเองมาแตะที่ริมฝีปากนิ่มของอีกฝ่ายเบาๆพร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างพึงพอใจ
ลูฟี่ขมวดคิ้วทำแก้มป่องใส่อีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรไปมากกว่านั้น
แหงล่ะ เขาไม่อยากถูกคนแปลกหน้าจับปล้ำอีกรอบหรอกนะ...โดยเฉพาะคนแปลกหน้าแบบเจ้าเม่นหมีควายนั่นน่ะ...
ว่าแล้วก็รูดซิบปากตัวเองไปและจำยอมอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ
“ชิ”
ชายร่างยักษ์สบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอกด้วยความไม่พอใจ “ทราฟาลก้า! อย่ามัวชักช้าอยู่เลย
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า!”
“รู้แล้วๆ”
ตอบแบบปัดๆตามแบบฉบับเจ้าตัว
ว่าแต่..เริ่มหรอ?
เริ่มอะไรกัน? ไม่เห็นจะเข้าใจเลย...ลูฟี่สังเกตเห็นเหล่าเพื่อนๆของชายร่างยักษ์เริ่มจะถอดเสื้อที่สวมอยู่ออกแล้วโยนไปกองอยู่บนรถ
ทำอย่างกับคนเตรียมจะมีเรื่องกันอย่างนั้นแหละ..เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ! อย่าบอกนะว่า...!!
“หมวกฟาง-ยะ”
เสียงทุ้มต่ำอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้งเรียกให้ลูฟี่เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง
“ไปรอในรถกับซาชิ”
ว่าแล้วก็ช้อนตัวร่างเล็กขึ้นโดยไม่มีการบอกกล่าวทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งโหยงจนต้องเอาแขนบางขึ้นโอบรอบคอแกร่งนั่นโดยอัตโนมัติ
ลอว์เดินตรงไปยังรถบีเอ็มสีดำของตัวเองแล้ววางลูฟี่ลงบนเบาะข้างคนขับอย่างนุ่มนวล
ฝ่ายลูฟี่เมื่อเห็นว่าก้นตัวเองแตะกับเบาะรถแล้วก็ค่อยๆคลายอ้อมกอดจากคออีกฝ่ายช้าๆ
“ซาชิ
ดูแลหมอนี่ด้วย” พูดจบก็ทำท่าจะปิดประตูรถ
เมื่อเห็นอย่างนั้นลูฟี่ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์มากนักก็เตรียมจะอ้าปากถามอีกฝ่าย
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะส่งเสียงเรียกสักแอะกลับถูกบางอย่างมาคลุมหัวไว้เสียก่อน...
มันเป็นผ้า...และมีกลิ่นหอม..กลิ่นที่เขาคุ้นเคย
ลูฟี่สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายจงใจโยนผ้านี่ให้คลุมหัวเขาไว้...ผ้าอะไรไม่รู้แต่หมอนี่จงใจแน่นอน!
ว่าแล้วก็รีบเอาผ้าที่คลุมหัวออกก่อนจะอ้าปากเตรียมโวยวายใส่ตามระเบียบ
แต่เมื่อเห็นคนตรงหน้าเขาก็ต้องหยุดการกระทำนั้นลงไปทันทีเมื่อเห็นคนตรงหน้าที่เปลือยท่อนบนโชว์รอยสักกับกล้ามเนื้อน่าใจเต้นนั่นเหลือไว้เพียงกางเกงยีนส์สีน้ำเงินตัวเดียวเท่านั้น
ใบหน้าใสของลูฟี่ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งพร้อมๆกับหัวใจที่เริ่มเต้นไม่เป็นส่ำจนแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยงไปเสียตรงนั้น
เอ๊ะ...ว่าแต่เสื้อของหมอนั่นหายไปไหนล่ะ?
ว่าแล้วลูฟี่ก็ก้มลงมองในมือของตัวเองก่อนจะพบว่ามันมาตกอยู่ในมือของเขานี่เอง...
“ฝากเสื้อหน่อย”
เสียงของลอว์ปลุกลูฟี่ให้ตื่นจากภวังค์เขาเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไปจนถึงใบหู
“อ..อื้อ”
“ฝากนี่ด้วย”
ว่าแล้วก็โยนสร้อยบางอย่างให้อีกฝ่าย
ลูฟี่รีบยื่นสองมือบางของตัวเองไปรับมันมาก่อนจะสังเกตเห็นว่ามันเป็นจี้ทองรูปหัวใจที่มีเพชรหัวใจสีแดงตรงกลาง
ข้างหลังมีคำว่า ‘corazon’ สลักอยู่ ไม่เข้าใจหรอกว่าแปลว่าอะไรแต่มันสวยมากเลย...ดูแล้วคงจะแพงพอสมควรเลยแฮะ...
“ฝากหมวกด้วย”
“เอามาสิ”
ลูฟี่ตอบและแบมือใส่อีกฝ่ายโดยที่ยังไม่ละความสนใจจากจี้รูปหัวใจในมือ
ลอว์ถอดหมวกขนสัตว์สีขาวลายดำของตัวเองออกก่อนจะนำมันมาสวมซ้อนทับกับหมวกฟางที่ลูฟี่สวมอยู่
“ขอกำลังใจหน่อยสิ”
ลอว์พูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งพร้อมกับยกนิ้วเรียวขึ้นจิ้มตรงแก้มของตัวเองเบาๆ “จูบที”
“ได้สิ”
ด้วยความที่ลูฟี่มัวแต่สาละวนอยู่กับจี้หัวใจในมือจึงเผลอตอบตกลงไปโดยไม่ทันตั้งตัว
เขาคิดทวนคำถามใหม่อีกรอบก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองตอบอะไรออกไป
เขาละความสนใจจากจี้ในมือแล้วหันขวับมาหาอีกฝ่ายทันทีแล้วก็ต้องพบว่าอีกฝ่ายนั้นฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ไว้ก่อนที่เขาจะหันไปหาเสียอีก..นี่เขา...ตกหลุมพรางของหมอปล้นสวาทอีกแล้วงั้นหรอ!?
ลอว์ค่อยๆก้มหน้าลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอีกฝ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ถึงจะบอกอย่างนั้นก็เถอะ..ยังไงเขาก็ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าลูฟี่อยู่ดีนั่นแหละ
แม่เลี้ยงด้วยอะไรนะถึงได้สูงเป็นเสาร์ไฟฟ้าขนาดนี้!
ลูฟี่ใจ้เต้นไม่เป็นส่ำอีกครั้ง
เขาค่อยๆเขย่งตัวขึ้นฝังจมูกเล็กๆและริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพูของตัวเองลงบนแก้มเนียนของอีกฝ่าย
หอม...กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ลอยมาแตะจมูกของเขาอีกครั้งทำเอาลูฟี่ถึงกับเคลิ้มไปไม่น้อยเหมือนกัน...
มือบางของลูฟี่กำจี้และเสื้อในมือไว้แน่น ใบหน้าของเขานั้นร้อนผ่าวเสียยิ่งกว่ากระทะทอดไข่เสียอีก หัวใจก็เต้นรัวอย่างกับมีคนมาแข่งตีกลองสะบัดชัยอยู่ในอกของเขาอย่างนั้นแหละ..
แต่ก่อนที่ทั้งสองจะเคลิ้มไปมากกว่านี้สายตาเจ้ากรรมของลูฟี่ก็ดันเหลือบไปเห็นซาชิที่นั่งขำคนเดียวอยู่เบาะฝั่งที่นั่งคนขับเหมือนคนบ้า...แต่นั่นกลับเรียกสติสัมปชัญญะของลูฟี่ได้ดีเลยทีเดียว...
ลูฟี่รีบผละออกจากร่างสูงตรงหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไปจนถึงใบหูแล้วก้มลง
หัวใจของเขายังคงเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ พวงแก้มทั้งสองก็ยังคงร้อนไปจนถึงใบหู เขาเม้มปากแน่นรวบรวมความกล้าทั้งหมดเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายพลางโวยวายใส่ตามระเบียบ
“ฉันให้กำลังใจแล้ว! รีบไปเลยนะ!”
พูดแค่นั้นลอว์ก็ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างพึงพอใจก่อนจะปิดประตูรถแล้วเดินตรงไปยังเหล่าชายร่างยักษ์ที่กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่โดยมีชายร่างยักษ์ที่ทำผมทรงโมฮอว์กและเพนกวิ้นเดินตามไปด้วย
ลูฟี่ได้แต่จ้องเหล่าชายฉกรรจ์ตรงหน้าที่ยืนเรียงแถวกันเปลือยท่อนบนโชว์กล้ามเนื้อน่าใจเต้นเสียยิ่งกว่านายแบบในนิตยาสารอย่างเอือมระอา
ถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ตรงหน้าเท่าไหร่นักก็ตาม แต่ก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องได้อยู่นิดๆล่ะนะ...ก็แค่นิดๆ...
ลอว์ยักคิ้วกวนประสาทใส่ชายหัวแดงตรงหน้าเป็นการเปิดศึก
ไม่นานเขาก็ถูกหมักหนักๆของอีกฝ่ายสวนเข้าที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของตัวเองจนถึงเขากับหน้าหันไปตามแรงต่อยเลยทีเดียว
แล้วเหล่าชายผู้บ้าเลือดตรงหน้าก็แลกหมัดกันอย่างดุเดือด
ทำเอาลูฟี่ถึงกับสะดุ้งเฮือกจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว
เขาหันขวับไปยังซาชิที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยสีหน้ากังวลสุดๆ
แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะดูปกติสุขกีแถมยังฮัมเพลงอย่างไร้กังวลสุดๆ...
“นี่! โทราโอะโดนต่อยอยู่นะ!” ว่าแล้วก็โวยวายใส่ตามระเบียบ
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
ซาชิที่เหมือนจะอ่านใจลูฟี่ออกตอบพร้อมกับหาวไปหวอดใหญ่ “หัวหน้าได้กำลังใจจากนายแล้วนี่
ยังไงก็ไม่แพ้หรอก” พูดจบก็ยังอุส่าห์หันมาฉีกยิ้มกว้างให้
นี่ปลอบใจหรือกวนประสาทกันแน่เนี่ย...
ลูฟี่ได้แต่ยกมือขึ้นกอดอกพลางมุ่ยหน้าใส่อีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ
เขาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกฝ่ายก่อนจะหันกลับไปสนใจเหล่าชายฉกรรจ์บ้าเลือดตรงหน้าต่อ
แล้วสีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนกลับไปเป็นสีหน้ากังวลอีกครั้งเมื่อไม่เห็นร่างสูงของชายผิวแทนที่คุ้นเคยอีกแล้ว
เขาคงจะจมหายไปกับเหล่าหมีควายผู้บ้าเลือดพวกนั้นแล้วล่ะ...จะเป็นยังไงบ้างนะ
ไม่แน่หมอนั่นอาจจะนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นก็ได้...
ไม่ๆ! คิดมากไปแล้วนะ ลูฟี่ หมอนั่นน่ะหนังเหนียวจะตายไปยังไงก็ไม่มีทางตายง่ายๆหรอก
อีกอย่าง...เขาไม่ได้เป็นห่วงหมอนั่นสักหน่อย!
“ปกติพวกเราก็มีเรื่องชกต่อยกันที่นี่ประจำอยู่แล้ว
ชาวบ้านแถวนี้ถึงได้ไม่เดินผ่านซอยนี้ไง...นายไม่สงสัยเลยหรือไง?” ซาชิว่าพลางหันมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอือมระอากับความซื่อบื้อของเจ้าตัว
“ก็ไม่รู้น่ะสิ...”
ลูฟี่บุ้ยปากใส่อีกฝ่าย
ก็แหงล่ะ...เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าซอยนี้มีตัวจนอยู่บนโลกนี้น่ะ “ถ้ารู้จะมาหรือไง”
“แล้วรู้ไหมว่าจี้นั่นน่ะ หมายถึงอะไร?” อยู่ๆเปลี่ยนเรื่องดื้อๆซะอย่างนั้น
“จะไปรู้ได้ไงล่ะ” ว่าแล้วก็มุ่ยหน้าใส่ซาชิอีกหน
ซาชิฉีกยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย
“จี้นั่นน่ะชื่อ ‘ฮาร์ท’ มันเป็นจี้ที่เฉพาะเดือนมหา’ลัยเท่านั้นที่จะได้
หัวหน้าน่ะเป็นหนุ่มฮอตนะจะบอกให้...ขนาดไม่ใช้เส้นที่ทั้งเรียนเก่ง ทั้งเป็นเหมือนลูกผอ.ยังถูกโหวตให้เป็นเดือนตั้งสามปีซ้อน”
ซาชิพูดอย่างภูมิอกภูมิใจ
“แล้วที่หัวหน้าให้จี้นายน่ะ...”
ซาชิพูดอย่างจงใจเว้นระยะทำเอาลูฟี่ถึงกับตื่นเต้นตามไปเลย... “ก็หมายความว่าหัวหน้าประกาศความเป็นเจ้าของกับนายแล้วยังไงล่ะ!” พูดจบก็หัวเราะออกมาอย่างภาคภูมิใจ...ทำเอาลูฟี่ต้องมุ่ยหน้าใส่อีกครั้ง
มีความสุขจังนะ! เขาดูมีความสุขด้วยไหมเนี่ย!?
แต่ทำไม...ก้อนเนื้อตรงอกด้านซ้ายมันเต้นเร็วไม่เป็นส่ำอีกแล้ว...แถมใบหน้ายังรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาจนแทบไหม้ตรงนี้เลยนะ...?
“จ..จะบ้าหรือไง!? หมอนั่นแค่ฝากไว้เฉยๆเอง!”
“แต่หัวหน้าไม่เคยถอดสร้อยนี้ให้ใครเลยนะ”
ลูฟี่ไม่ได้ตอบอะไรเขาเพียงแค่มุ่ยหน้าใส่อีกฝ่ายก่อนจะหันกลับไปสนใจเหล่าฝูงหมีควายที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดตรงหน้าซึ่งเขาไม่อาจเห็นลอว์ได้เลย...แหงล่ะ
ก็แต่ล่ะคนตัวยักษ์ๆกันทั้งนั้น คงจะมีแต่หมอนั่นกับเพนกวิ้นเท่านั้นแหละที่ดูปกติกว่าชาวบ้านเขาน่ะ...
เขากำจี้ในมือไว้แน่น ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งดูฝูงหมีควายซัดกันไปมาตรงหน้าและภาวนาให้มันจบลงเร็วๆ
“ฉันจะหลับแล้ว
พวกนั้นสู้กันเสร็จแล้วก็ปลุกด้วยล่ะ”
ซาชิพูดพลางเอนเบาะลงและดึงปีกหมวกลงมาปิดตาเล็กน้อย
เขาฮัมเพลงออกมาเบาๆอย่างสบายใจ ลูฟี่แอบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจก่อนจะหันกลับไปสนใจศึกบ้าดีเดือดตรงหน้าอีกครั้ง
ทั้งหมดแลกหมัดกันอยู่นานและในที่สุดเรื่องบ้าๆนี่ก็จบลง
โดยที่ลอว์เป็นฝ่ายชนะไป อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจในผลลัพธ์มากนักแต่ก็ยอมถอยทัพไปแต่โดยดี
ลูฟี่รีบเขย่าตัวซาชิที่นั่งหลับน้ำลายยืดอย่างสบายใจเพื่อปลุกให้เขาตื่น
ซาชิยกตัวขึ้นนั่งพลางเกาหัวแกรกๆก่อนจะปลดล็อคประตูรถให้อีกฝ่ายอย่างสะลึมสะลือ
ลูฟี่รีบวิ่งลงจากรถตรงไปยังลอว์ที่สภาพไม่ค่อยจะต่างจากศพเดินได้สักเท่าไหร่...
เขามีรอยเลือดและรอยฟกช้ำอยู่เต็มตัวไปหมด
คิ้วแตก ปากแตก เลือดกำเดาก็ไหล นี่เขารอดมาได้ยังไงนะ ถ้าจะรอดมาแบบนี้...ตายไปเถอะ...
“ไงล่ะ”
อีกฝ่ายพูดพลางแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ “เพราะได้กำลังใจจากนายฉันเลยชนะไง”
ตึกตัก..ตึกตัก
ห..หัวใจมัน...เต้นผิดจังหวะอีกแล้ว...ให้ตายสิ! นี่มันรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วเนี่ย! ที่เขาใจเต้นไม่เป็นส่ำแบบนี้น่ะ ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
เกิดมาก็ไม่เคยใจเต้นเร็วขนาดนี้มาก่อน
จะมีก็แค่ตอนออกกำลังกายเหนื่อยๆหรือตอนที่ตื่นเต้นเท่านั้น
ทำไมเจอหมอนี่ทีไรใจเต้นทุกที!?
“บ้านนายสิ!”
ว่าแล้วก็ปาหมวกขนสัตว์สีขาวกับเสื้อในมือใส่อีกฝ่ายอย่างจัง “คนเขาอุส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ!” กวนประสาทได้ขนาดนี้...แสดงว่ายังไม่ตายสินะ
ลูฟี่พูดจบก็แลบลิ้นใส่อีกฝ่ายด้วยความงอนก่อนจะกอดอกหันหลังใส่
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไมได้กวนประสาทต่อก็แอบหันหน้าไปดูด้วยความสงสัย เขาเห็นใบหูของอีกฝ่ายขึ้นสีแดงหน่อยๆก่อนเจ้าตัวจะสะบัดหัวตัวเองเบาๆ อะไรของเขานะ...แปลกชะมัด
ลอว์สะบัดหัวตัวเองเบาๆเรียกสติกลับมาก่อนจะเดินตรงไปยังเพนกวิ้นและชายร่างยักษ์ที่ยืนคุยกับซาชิอยู่ที่รถ
“จีน
เพนกวิ้น ไปทำแผลที่คอนโดฉันแล้วพวกนายกลับเองล่ะ ฉันจะไปส่งหมอนี่กลับบ้าน”
พูดพลางชี้นิ้วเรียวของตัวเองมาที่ลูฟี่
จีนและเพนกวิ้นพยักหน้ารับเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะเดินไปขึ้นรถ
เพนกวิ้นนั่งเบาะหลังฝั่งเดียวกับที่นั่งคนขับโดยมีจีนนั่งอยู่อีกฝั่งข้างๆกับเขา จริงๆแล้วเบาะหลังมันก็นั่งได้สามคนแหละนะ...
แต่แค่จีนนั่งคนเดียวก็ปาไปสองที่นั่งแล้ว...รวมกับเพนกวิ้นอีกหนึ่งเป็นสามครบพอดี
ซาชิขับ ลอว์นั่งข้างซาชิ...แล้วลูฟี่นั่งไหนล่ะ?
“แล้วฉันนั่งไหนล่ะ?”
ลูฟี่ขมวดคิ้วเอียงคอถามด้วยความสงสัย
“ตักฉันไง”
ลอว์พูดพลางเดินไปที่รถเป็นเหตุให้ลูฟี่ต้องเดินตามก้นของเขาต้อยๆราวกับลุกเป็ดที่เดินตามแม่เป็นไม่มีผิด
เมื่อมาถึงจุดหมายลอว์ก็หย่อนก้นตัวเองลงบนเบาะก่อนจะตบหน้าขาของตัวเองเบาๆ
ลูฟี่พยักหน้ารับก่อนจะหย่อนก้นลงบนหน้าขาของอีกฝ่ายตามคำสั่ง เป็นอันเสร็จสรรพเขาก็ปิดประตูให้ซาชิได้ออกรถ
“ว่าแต่ทำไมพวกนายต้องทะเลาะกันด้วยล่ะ?”
ลูฟี่ถามพลางหันหน้าไปหาเจ้าของต้นขาที่เขากำลังนั่งทับอยู่
“มหา’ลัยที่ฉันกับหมอนั่นเรียนไม่ถูกกัน”
ลอว์ตอบพลางมองใบหน้าไร้เดียงสาของอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตาสีเทาหินโมราคู่สวยก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความเหนื่อยใจ
“ว่าแต่นายเถอะ มาทำอะไรแถวนี้
ถ้าฉันไม่มาเจอก่อนจะเป็นยังไง...ไม่สังเกตรึไงว่าชาวบ้านเขาไม่เดินผ่านทางนี้กัน”
“ก็ฉันไม่รู้นี่!” ลูฟี่มุ่ยหน้าใส่อีกฝ่าย
“นายนี่โง่จริงๆด้วยแฮะ”
“ฉันไม่ได้โง่นะ!” ก็ใครมันจะไปรู้เล่า...
ลูฟี่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแก้มพองใส่อีกฝ่ายด้วยความน้อยใจแล้วหันหลังกลับไปมองถนนอีกครั้ง
เอ๊ะ..
ทำไมถึงรู้สึกเหมือนมีอะไรแข็งอยู่ที่สะโพกกันนะ?
นี่เขากำลังนั่งทับอะไรหรือเปล่า...แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไรนี่นา
ว่าแล้วลูฟี่ก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย
เขาขยับตัวเล็กน้อยพยายามมองหาว่าตัวเองกำลังนั่งทับอะไรอยู่รึเปล่าซึ่งก็ไม่พออะไรนอกจากต้นขาของอีกฝ่ายที่เขากำลังนั่งทับอยู่เท่านั้น...
แล้วอะไรมันมาโดนสะโพกเขาล่ะ..?
“นี่
นายจะดิ้นทำไม อยู่นิ่งๆไม่เป็นรึไง?”
ลอว์ดุคนตัวเล็กกว่าพร้อมกับดีดหน้าผากอีกฝ่ายไปเบาๆหนึ่งที
“อ้าว! ก็ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรแข็งๆอยู่ที่ก้นเลยจะดูว่านั่งทับอะไรอยู่เท่านั้นเอง”
ลูฟี่ยกมือขึ้นกุมหน้าผากพลางมุ่ยหน้าใส่อีกฝ่าย
สายตาก็แอบเหลือบไปเห็นเพนกวิ้นและซาชิที่กำลังกลั้นขำกันอยู่โดยมีจีนนั่งทำหน้าปลงอยู่ข้างหลัง
อะไรของคนพวกนี้นะ...แปลกเป็นบ้า แปลกพอๆกับหัวหน้าของพวกเขาเลย..
ลูฟี่ละความสนใจจากชายหนุ่มทั้งสามก่อนจะหันกลับมาสนใจชายหนุ่มตรงหน้าเขาต่อ
แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งนิดๆเมื่อพบว่าใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นแดงมาก...แดงไปจนถึงใบหูทั้งสองเลย
“ท..โทราโอะ! ทำไมนายถึงหน้าแดงขนาดนี้
เจ็บแผลหรอ..หรือว่าเป็นไข้ ม..ไม่สิ..หรือว่าปวดท้องอึ..โอ๊ย!”
พูดไม่ทันจบก็ถูกนิ้วเรียวยาวของอีกฝ่ายดีดลงกลางแสกหน้าผากอย่างแรงจนเจ้าตัวถึงกับอุทานออกมาด้วยความเจ็บ
ลูฟี่ยกมือสองข้างขึ้นกุมหน้าผากที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเจ็บอีกรั้ง
เขาเบ้ปากใส่อีกฝ่ายก่อนจะหันกลับไปมองถนนต่อ
คนเขาอุล่าห์เป็นห่วงแท้ๆ คนบ้า!
- to be continue -
โย่ๆๆ#ผิด สวัสดีค่ะ=w=/ หายหน้าหายตาไปนานยังไม่ตายนะคะ ถถถว์ คิดถึงกันบ้างไหมเอ่ย-3- เอาตรงๆเลยก็...พอดีช่วงนี้ขี้เกียจค่ะ5555#หลบเท้า บวกสมองไม่ค่อยแล่น=_= สมองโคตรไม่ไบร์ทเลยค่ะ ต้องหาอะไรทำให้มองไบร์ทหน่อยแล้ว ฟฟฟ ;w; นิยายก็ดองไว้เยอะเสียเหลือเกิน ฮืออออออออออ
ยังไม่แน่ใจนะคะว่าอัพครั้งต่อไปจะอัพบทใหม่หรือรีไรท์=w=" แต่เอาเป็นว่าอ่านกันเสร็จแล้วก็อย่าลืมคอมเม้นหรือกดติดตามให้กำลังใจกันด้วยนะคะ <3
ช่วงนี้สงกรานต์เล่นน้ำกันระวังๆนะคะ ด้วยรักจากไรท์ จุ้บๆ#หลบเท้า
ความคิดเห็น