คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5
- Chapter 5 -
ลอว์พูดใส่สมาร์ทโฟนสีขาวของตัวเองที่แนบอยู่ข้างหูโดยมีลูฟี่กระพริบตาปริบๆมองอย่างงงๆ
“อยู่ห้าง...เออ ฉันรออยู่ชั้นล่างสุดประตูใกล้ๆห้องน้ำที่เดิม”
พูดจบลอว์ก็กดวางสายก่อนจะยัดสมาร์ทโฟนสีขาวของตัวเองใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์รัดรูปของเขาแล้วเดินลงออกจากบันไดเลื่อนตรงไปยังจุดนัดหมายที่เขาบอกคนในโทรศัพท์ไปเมื่อครู่
ลูฟี่พยายามดิ้นเพื่อให้คนร่างสูงปล่อยเขาโดยพยายามจะส่งเสียงให้น้อยที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้เพราะยิ่งเขาเสียงดังผู้คนรอบข้างก็ยิ่งหันมามองมากขึ้นน่ะสิ
แค่นี้เขาก็เขินจนตัวแทบระเบิดอยู่แล้ว
ลอว์ได้แต่ส่งสายตาปรามลูฟี่อย่างเงียบๆแต่ดูเหมือนเขาจะต้องเป็นฝ่ายแพ้และเบือนหน้าหนีทุกที...
ไม่นานทั้งสองก็มาหยุดอยู่ตรงม้านั่งหน้าห้องน้ำที่ประตูทางออกอย่างที่เขาบอกเมื่อครู่
เขาวางลูฟี่ลงบนม้านั่งอย่างอ่อนโยนก่อนจะมาหย่อนก้นตัวเองลงนั่งข้างๆเช่นกัน
ลูฟี่หันไปมองลอว์ที่กำลังนั่งไขว่ห้างจิ้มสมาร์ทโฟนเครื่องเดิมของเขาอยู่ข้างๆ
นับเป็นครั้งแรกของลูฟี่เลยก็ว่าได้ที่ได้เห็นเขาใกล้ๆและชัดขนาดนี้
ที่ผ่านมาเขาได้เห็นหน้าลอว์ใกล้ๆแล้วก็จริงแต่ก็ไม่เคยได้เห็นใกล้ขนาดนี้มาก่อน...
ดวงตาของเขาเป็นสีเทา...สีเดียวกับหินโมรา
ลึกลับ..ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่...แต่มันกลับสวยงาม น่าค้นหาและน่าหลงใหลอย่างไม่มีสาเหตุ
สวยงาม...จนไม่อาจละสายตาได้ง่ายๆ ใต้ตาของเขาคล้ำเกินจะเยียวยาจนเห็นได้ชัดเจนแม้ผิวของเขาจะเป็นสีแทนก็ตาม
จมูกของเขาโด่งเป็นสันเข้ากับใบหน้าเรียวได้รูปและเรือนผมสีดำขลับนั่นได้เป็นอย่างดี
คิ้วของเขาหนาและขมวดเข้าหากันจนเกือบจะตลอดเวลาแต่มันกลับทำให้เขาดูดาอย่างน่าประหลาด
ส่วนริมฝีปาก...
“น..นายทำอะไรน่ะ?”
ลอว์ผงะเล็กน้อยพลางขมวดคิ้วมุ่นมองหน้าหวานของเด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าตนที่ห่างกันแทบจะไม่ถึงสองเซนติเมตรจนเหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นมาบนใบหน้าได้รูปของชายหนุ่ม
ฝ่ายลูฟี่ก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆก่อนจะขมวดคิ้วอย่างงงๆ
แต่เมื่อตั้งสติได้ก็รีบถอนกรูดออกไปทันที
“หว..หวา!
ข..ขอโทษ เอ่อ..ฉันไม่ได้ตั้งใจ...”
ลอว์ไม่พูดอะไรเขายกมือขึ้นจับปีกหมวกของตัวเองพลางก้มหน้าลงเพื่อซ่อนนัยน์ตาสีเทาหินโมราคู่สวยไว้ใต้เงาปีกหมวก
ฝ่ายลูฟี่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามหลบหน้าแถมหูและหน้าของเขากำลังแดงสุดๆก็ดันคิดไปว่าเขาโกรธเสียนี่!
คนอะไรซื่อเป็นบ้า
ลอว์ได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ
ภาพเมื่อกี้ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเขาอย่างไม่อาจลบเลือนได้...
ภาพใบหน้าหวานที่ใสซื่อบริสุทธิ์ที่เข้ากับเรือนผมสีดำสนิทยุ่งเหยิงนั่นได้ป็นอย่างดี
ดวงตากลมโตคู่สวยที่ใต้ตาซ้ายถูกประดับด้วยรอยแผลเป็นเล็กๆ
นัยน์ตาสีรัตติกาลทอประกายราวกับถูกประดับด้วยดวงดาวทั้งท้องฟ้า
พวงแก้มทั้งสองข้างที่ขึ้นสีแดงจางๆ จมูกเล็กๆน่าหลงใหล
ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ...น่าขบเคี้ยวชะมัด...!
ยิ่งคิดหัวใจของเขาก็ยิ่งเต้นรัวขึ้นเรื่อยๆจนอทบจะระเบิดออกมาจากหน้าอกเสียตรงนั้น
ส่วนเด็กหนุ่มตรงหน้าก็ดันซื่อบื้อเกินเสียจนคิดว่าเขาโกรธไปซะอย่างนั้น!
“โทราโอะ...”
'♫~'
เสียงสมาร์ทโฟนของลอว์แผดเสียงดังขึ้นขัดจังหวะ
มือหนาสีแทนที่ถูกตกแต่งด้วยรอยสักรีบตะปปหาสมาร์ทโฟนของตัวเองแล้วหยิบขึ้นมาดูหน้าจอ
<<
Shachi >>
ลอว์รีบกดรับสายแล้วยกสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาแนบหูทันที
“ถึงรึยัง?”
ลอว์พูดโดยไม่กล่าวทักทายและไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูดอะไรก่อนทั้งสิ้น ‘เอ่อ..ครับ พวกเรามาถึงแล้วกำลังเลี้ยวไปหาแล้วครับ’
ลอว์ตัดสายทิ้งก่อนจะส่งสมาร์ทโฟนเครื่องเดินกลับสู่กระเป๋ากางเกงยีนส์รัดรูปของตัวเอง
ไม่นานก็มีรถเบนซ์สีเทามาจอดอยู่หน้าประตูกระจกที่ทั้งสองนั่งอยู่
ลอว์ลุกขึ้นยืนก่อนจะใช้แขนแกร่งทั้งสองข้างช้อนตัวลูฟี่ขึ้นอีกครั้ง
ฝ่ายลูฟี่ก็ตกใจจนต้องยกแขนบางๆขึ้นกอดคออีกฝ่ายไว้โดยอัตโนมัติ
“หวา!”
ลอว์ไม่พูดอะไรเขาพาขายาวๆของตัวตรงไปยังรถเบนซ์สีเทาที่จอดอยู่ไม่ไกล
แล้วจัดการเปิดประตูรถ
สิ่งแรกที่เขาเห็นคือใบหน้ากวนประสาทของชายหนุ่มในหมวกกันหนาวสีดำมีตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนว่า
‘เพนกวิ้น’ กับใบหน้ากวนประสาทของชายหนุ่มอีกคนในหมวกทรงกัปตันสีเขียวปีกหมวกสีแดง
ทั้งสองมองหน้าลอว์พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างอย่างมีเลศนัยระคนกวนประสาท
ฝ่ายลอว์ก็ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นพลางถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ นอกจากเด็กซื่อบื้อแล้วยังต้องมีพวกเพี้ยนนี่ที่คอยมาวนเวียนอยู่ข้างๆเขาอยู่บ่อยๆ
ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจริงๆนั่นแหละ
ลอว์วางลูฟี่ลงตรงเบาะหลังอย่างแผ่วเบาข้างๆกับซาชิที่กำลังนั่งยิ้มระรื่นอย่างมีความสุขที่จะได้กวนประสาทลอว์โดยมีลูฟี่มองอย่างงงๆ
“หัวหน้าอุ้มใครมาครับเนี่ย”
เพนกวิ้นพูดด้วยน้ำเสียงกวนประสาท “นั่นสิ” ซาชิเสริมด้วยน้ำเสียงกวนประสาทเช่นกัน
“หุบปาก”
ลอว์ได้แต่ปรามพลางส่งสายตาอำมหิตใส่ทั้งสองเงียบๆก่อนจะปิดประตูรถและเดินไปนั่งตรงเบาะหน้าข้างเบาะฝั่งที่นั่งคนขับ
“ไม่ต้องอายหรอกครับ
หัวหน้า” แต่ดูเหมือนไอคนข้างหลังยังไม่หยุด...
“ฉันจะฆ่านาย
ถ้านายยังไม่หุบปาก”
“ขอโทษครับบบบ”
เพนกวิ้นออกรถไปยังบ้านของลูฟี่โดยมีลอว์คอยบอกทางอยู่ตลอด
ส่วนลูฟี่ที่นั่งอยู่เบาะหลังก็คุยกับทั้งซาชิและเพนกวิ้นอย่างสนิทสนม
ลูฟี่ได้รู้ว่าพวกเขาทั้งสามเรียนอยู่มหาวิทยาลัยคณะแพทย์ปีสามส่วนเหตุผลที่ซาชิและเพนกวิ้นเรียกลอว์ว่าหัวหน้านั้นเป็นเพราะว่าลอว์เป็นทั้งหัวหน้าห้องและยังเป็นทั้งหัวหน้าคณะอีกด้วย
เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของลูฟี่ยังคงดังเป็นสีสันให้กับรถเบนซ์คันนี้อย่างไม่ขาดสาย
ไม่นานรถเบนซ์สีเทาคันเดิมก็มาจอดอยู่หน้าบ้านที่คุ้นเคย
ลอว์ลงจากรถก่อนจะเดินอ้อมไปที่ประตูเบาะหลัง เขาเปิดประตูออกแล้วอุ้มลูฟี่ขึ้น
เขาเดินตรงไปยังประตูหน้าบ้านของลูฟี่
“มีกุญแจไหม?”
“หือ?
อ..อื้อ”
ลูฟี่ล้วงมือลงกระเป๋ากางเกงสามส่วนของตัวเองพลางความหากุญแจ
ไม่นานเขาก็หยิบกุญแจที่มีพวงกุญแจรูปหมีขั้วโลกสีขาวขนปุกปุยตัวเล็กออกมาแล้วไขประตูอยู่สักพัก
ประตูถูกเปิดออกโดยมือหนาสีแทนของลอว์
สิ่งแรกที่เขาเห็นคือโซฟายาวสีแดงสดดึงดูดสายตา โต๊ะกระจกใสที่มีนิตยาสารกับหนังสือการ์ตูนวางกองไว้อย่างไม่เป็นระเบียบและทีวีจอแบนวางอยู่ตรงหน้า
ขายาวๆของลอว์พาตัวเองเข้าไปในบ้านของลูฟี่
เขาวางลูฟี่ลงบนโซฟายาวสีแดงอย่างแผ่วเบาแล้วเดินไปปิดประตูบ้านก่อนจะเดินมานั่งลงข้างแล้วหยิบเอาถุงพลาสติกสีขาวในมือลูฟี่ไปไว้ในมือของตัวเองแล้วเอามือหนาสีแทนล้วงเข้าไปหยิบหลอดยาสีขาวออกมา ทำเอาลูฟี่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“หือ?
นายจะทำอะไรน่ะ”
ลูฟี่มองหลอดยาในมือลอว์อย่างงงๆ
ฝ่ายลอว์ก็ได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายอย่างปลงๆก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ก็ทายาให้นายน่ะสิ”
“ขอบใจนะ...นายมาส่งฉันตั้งสองรอบแหนะ
ไว้คราวหลังฉันจะตอบแทนนะ ชิชิชิ” ลูฟี่พูดพลางฉีกยิ้มกว้าง
ลอว์มองหน้าลูฟี่สักพักก็ลุกขึ้นยืนแล้วถอดหมวกขนสัตว์สีขาวของตัวเองวางไว้บนโต๊ะกระจกใสตรงหน้าก่อนจะเดินหาคอตตอนบัดอยู่ทั่วบ้านแต่ก็ไม่เจอสักที
ลอว์หาอยู่นานและในที่สุดก็เจอมันวางอยู่ในห้องน้ำเป็นกระปุกข้างๆกับสบู่ล้างมือ
ลอว์เดินกลับมาหาลูฟี่พร้อมกับคอตตอนบัดสองสามอันในมือ
เขานั่งลงขัดสมาธิกับพื้นตรงหน้าลูฟี่และเปิดฝาหลอดยาแล้วบีบมันใส่คอตตอนบัด โดยมีลูฟี่นั่งมองจากบนโซฟา
เนื้อยาเหนียวๆสีขาวถูกบีบออกมาจากหลอดใส่สำลีตรงปลายคอตตอนบัดก่อนมันจะถูกทาลงบนแผลที่เข่าทั้งสองของลูฟี่อย่างเบามือแต่ทว่า...
“โอ๊ย!
มันเจ็บนะ..!”
“เงียบไปเลย
เมื่อวานบอกให้ทำแผลก็ไม่เชื่อเอง”
ลอว์พูดด้วยน้ำเสียงดุๆจนลูฟี่ถึงกับขนลุกซู่อย่างประหลาด
น่าแปลกทั้งที่ปกติก็โดนคุณปู่ดุอยู่เป็นประจำแถมยังมักจะโดนกำปั้นแห่งรักอีกต่างหากแต่เขาก็ไม่เคยจะกลัวเลยสักครั้ง
แต่ทำไมกับคนคนนี้ถึงได้น่ากลัวอย่างนี้นะ คนอะไรน่ากลัวเป็นบ้า
ลอว์เงยหน้ามองลูฟี่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบผิดปกติและก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของลูฟี่
คิ้วบางของเขาขมวดยุ่ง ดวงตากลมโตคู่สวยของเขากำลังสั่นคลอนทว่ากลับงดงามจนไม่อาจละสายตาได้
น้ำตาใสๆคลออยู่ตรงขอบตายิ่งดูยิ่งใจหาย ชักจะรู้สึกผิดซะแล้วสิ...
ลูฟี่มองลอว์ด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ฝ่ายลอว์เมื่อเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกผิดเต็มประตูจนต้องเบือนหน้าหนีอย่างห้ามไม่ได้
อา...หัวใจเต้นรัวอีกแล้วสิ
“ขอโทษ...”
ลอว์พูดด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมา “ฉันจะทำให้เบาลง”
ลอว์ก้มหน้าก้มตาบรรจงทายาลงบนแผลของลูฟี่อย่างแผ่วเบาอีกครั้ง
ดูเหมือนครั้งนี้ลูฟี่จะไม่ร้องออกมาแล้ว...แต่นั่นทำให้ลอว์แปลกใจไม่น้อยจนต้องเงยหน้าขึ้นมอง
ลูฟี่ขบริบฝีปากของตัวเองแน่นพยายามกลั้นเสียงร้องของเขาเอาไว้ ใบหน้าหวานยังคงถูกแต้มด้วยสีแดงไม่ได้จางลงเลยแม้แต่น้อย
ดวงตาสีรัตติกาลยังคงสั่นไหวไม่ได้ลดลงเลยเช่นกัน
“อย่ากัดปาก
เจ็บก็ร้องออกมาเถอะ ฉันไม่ดุนายแล้ว”
“ม..ไม่เอา
โทราโอะ...โทราโอะจะดุฉันน่ะสิ”
ลอว์ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆแต่ก็บรรจงทายาให้ลูฟี่ต่อไป เสียงครางแบบพยายามอดกลั้นของลูฟี่ยังคงดังต่อเนื่องโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจเลยแม้แต่น้อย แต่จะให้ทำยังไงล่ะ...ก็มันเจ็บนี่
อา..ให้ตายสิ นี่มันยั่วกันชัดๆ แค่นี้ยังยั่วกันไม่พออีกหรือไงนะ...ทั้งใบหน้าหวานๆที่เลอะคราบน้ำตานั่น ทั้งเสียงครางที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มอย่างไม่ได้ตั้งใจ...ถึงแม้จะรู้สึกผิดก็เถอะแต่ขืนลูฟี่ยังไม่หยุดแบบนี้เขาจะต้องทนต่อไปไม่ไหวแน่ๆ
ลอว์ได้แต่ควบคุมสติตัวเองไม่ให้ตัวเองคิดไปไกลกว่านั้นแต่ทว่าอะไรๆมันก็มักจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด...ไม่ว่าเขาจะพยายามควบคุมสติตัวเองเท่าไหร่แต่ในหัวของเขาก็คิดถึงแต่เรื่องแบบนั้นอย่างหยุดไม่ได้เสียนี่
ตอนนี้เหงื่อเขาแตกพลั่กท่วมทั้งตัวราวกับเพิ่งโดนครูลงโทษให้วิ่งรอบสนามมาสิบรอบอย่างนั้นแหละ
“อ..อือ..โทราโอะ
ฉันเจ็บ...”
อดทน...อดทนไว้ลอว์..
“ท..โทราโอะ...อึก!
มันเจ็บ ฉันไม่ไหวแล้ว พอก่อนได้ไหม...”
ม..ไม่ไหวแล้ว
ลอว์ปล่อยคอตตอนบัดในมือทิ้งอย่างไม่ใยดีก่อนจะยกมือหนาสีแทนที่ถูกประดับด้วยรอยสักทั้งสองข้างขึ้นจับไหล่บางๆของลูฟี่แล้วกดเขาลงกับโซฟาฝังร่างเล็กๆให้จมลงบนเบาะนุ่ม
ทำเอาลูฟี่ตกใจไม่น้อย
“หวา!
โทราโอะ นายโกรธฉันหรอ..ฉ..ฉันขอโท..”
ไม่ทันที่ลูฟี่จะได้พูดได้จบประโยคลอว์ก็ประกบริมฝีปากได้รูปของตัวเองลงกับริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อของลูฟี่อย่างหื่นกระหายและเร่าร้อน
มือหนาก็พลางลูบไล้ไปตามผิวกายของร่างเล็กจนร่างบางใต้อาณัติสะดุ้งและตกใจมากกว่าเก่า
ลิ้นร้อนของลอว์ถูกสอดเข้ามาในปากของร่างใต้อาณัติตวัดเก็บเกี่ยวความหวานทุกตารางนิ้วราวกับกลัวว่าความหวานนั้นจะหายไป
หวาน...หวานชะมัด...ไม่เคยได้ลิ้มรสอะไรที่หวานขนาดนี้มาก่อนเลย
อา..ไม่อยากหยุดเลย..
ไม่ทันที่ลอว์จะได้ลิ้มรสรสจูบอันแสนหวานและเร่าร้อนต่อ
มือบางๆที่กำลังสั่นระทมของลูฟี่ที่บีบไหล่เขาไว้แน่นก็เลื่อนลงมาทุบที่หน้าอกกว้างของเขาแทน
ลอว์ถอนริมฝีปากออกช้าๆเพื่อให้ร่างบางใต้อาณัติได้พักหายใจอย่างอดเสียดายไม่ได้
น้ำสีใสที่ยืดติดปากของทั้งสองขาดออกและติดอยู่ที่มุมปากแทน
แม้จะถอนจูบออกแล้วแต่รสชาติความหวานยังคงติดอยู่ที่ปลายลิ้นของลอว์อย่างไม่อาจลบเลือนได้
“ท..โทราโอะ..ทำอะไรของนายน่ะ”
ลูฟี่ใช้มือบางทั้งสองข้างพลักอกกว้างของคนตรงหน้าออก
แต่ดูเหมือนลอว์จะไม่ได้รับความสะทกสะเทือนเลยแม้แต่น้อย แน่ล่ะ..ก็เขาตัวใหญ่กว่าลูฟี่ตั้งเยอะนี่นา
ลอว์ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
เขาไม่อาจหยุดความปรารถนาของเขาได้อีกแล้ว...เขามองภาพใบหน้าแดงก่ำของร่างบางใต้อาณัติของเขาอย่างพึงพอใจก่อนเขาถอดเสื้อของตัวเองออกโดยไม่ลืมที่จะปลดเข็มขัดด้วยเช่นกัน
ลูฟี่ดิ้นสุดกำลังแต่ก็ต้องหยุดการกระทำนั้นทันทีเมื่อลอว์ก้มลงมาประกบจูบอีกครั้งมือหนาสีแทนคู่นั้นก็พลางลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเขาอย่างตัณหากลับ
ลอว์จำต้องถอนจูบออกอีกครั้งเมื่อร่างใต้อาณัติใกล้จะหมดลมหายใจแต่ไม่วายเย้าหยอกอีกฝ่ายด้วยการขบริมฝีปากล่างอันอวบอิ่มนั่นอย่างนึกสนุก
“อือ...ท..โทราโอะ...”
“อย่าครางแล้วเรียกชื่อฉันแบบนั้น...”
มันมีแต่จะเพิ่มความปรารถนาของเขาให้มากกว่าเดิมน่ะสิ..
ลูฟี่สะดุ้งเฮือกเมื่อลอว์ฝังจมูกโด่งเป็นสันของเขาลงบนซอกคอขาวๆของลูฟี่และฝังเขี้ยวลงไปจนเกิดเป็นรอยแดงหลายๆจุด
“อ๊ะ!”
และเสียงร้องของลูฟี่ก็ยิ่งเพิ่มความปรารถนาของลอว์ให้มากขึ้นไปอีก...ลอว์เลื่อนใบหน้าของเขาลงจูบโลมตามร่างกายของลูฟี่อย่างหื่นกระหาย
อยากจะครอบครอง...ร่างกายอันบอบบางนี่ เรือนผมสีดำขลับอันยุ่งเหยิง
ดวงตากลมโตคู่สวย นัยน์ตาสีรัตติกาลทอประหาย จมูกเล็กๆ ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ
ซอกคอขาวๆ..อยากจะครอบครองมันทั้งหมดไม่อยากจะหลงเหลือไว้ให้ใครเลยแม้แต่น้อย
“หย..หยุดนะ
โทราโอะ”
เสียงของลูฟี่กำลังสั่นเครือ..แม้จะแผ่วเบาแต่เขารู้ดีว่าเสียงของลูฟี่กำลังสั่น
ลูฟี่กำลังกลัว...
ลอว์เงยหน้าขึ้นมองก็พบกับใบหน้าแดงก่ำของร่างใต้อาณัติ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อและ...เลอะไปด้วยคราบน้ำตา
ดวงตาสีดำกำลังสั่นเครือด้วยความกลัวระคนตกใจ
ริมฝีปากอวบอิ่มบอบช้ำเพราะถูกจูบอย่างรุนแรง ซอกคอขาวๆถูกแต้มด้วยสีแดงเป็นจุดๆ
ทันทีที่รู้สึกตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไปลอว์ก็รีบลุกออกจากตัวของลูฟี่และปล่อยลูฟี่ให้เป็นอิสระจากพันธนาการของเขาในที่สุด
นี่เขา...ทำอะไรลงไป...
“นายกลัวหรอ..”
เสียงของลอว์แผ่วเบาจนเกือบจะกระซิบทว่าลูฟี่ก็ได้ยินมันชัดเจน
ลูฟี่พยักหน้ารับและรีบลุกขึ้นนั่งพลางยกมือทั้งสองขึ้นกอดตัวเองด้วยท่าทางกลัวๆ
ฝ่ายลอว์ที่เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่หงุดหงิดตัวเองที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้
เขาเดินไปหยิบเสื้อของตัวเองที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมาใส่และเดินตรงไปยังประตูบ้าน
“งั้นหรอ..’โทษทีนะ”
พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นเขาก็เปิดประตูและเดินออกจากบ้านไปโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูให้
อะไรกัน..เจ็บชะมัด...นี่เขากำลังทำให้ลูฟี่กลัวแถมยังทำให้ลูฟี่ต้องมาแปดเปื้อนเพราะเขาอีกหรอเนี่ย...ทั้งหมดเป็นความผิดเขาเอง
เขาน่าจะควบคุมตัวเองให้ได้ดีกว่านี้แท้ๆ...
ต่อไปนี้ลูฟี่คงจะไม่อยากเจอเขาอีกแล้วล่ะ...ก็คงจะดีแล้ว
คนบริสุทธิ์อย่างลูฟี่น่ะไม่คู่ควรกับเขาหรอก
อีกอย่าง...ถ้าสนิทกันไปนานๆเขาไม่อยากให้ลูฟี่ต้องมาพลอยรับเคราะห์ของเขาไปด้วย
- to be continue -
ความคิดเห็น