ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] : (One Piece) Law x Luffy คุณหมอเย็นชากับนายตัวแสบ!!

    ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 19

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 59


      CR.SHL

    - Chapter 19 –

     

                วันนี้อากาศยังคงสดใสเหมือนปกติ ท้องฟ้าโค้งสีครามถูกประดับด้วยเมฆสีขาวเป็นริ้วๆ  เสียงนกขับร้องทักทายยามเช้าประกอบกับสายลมอ่อนๆที่พัดเอาใบไม้เอนไปตามทิศทางของลมยิ่งให้ความรู้สึกสดฃื่น แสงแดดสีทองสาดทะลุกิ่งก้านใบกระทบลงบนดิน ช่างเป็นวันใหม่ที่สดใสจริงๆ

     

                เท้าเล็กของลูฟี่ก้าวฉับๆตรงไปยังโรงอาหารของโรงเรียน เขาอ้าปากกว้างหาวหวอดๆพลางยกมือขึ้นเกาหัวให้เรือนผมสีดำขลับยุ่งเหยิงนั่นยุ่งเหยิงกว่าเก่า ในยามเช้าตรู่แบบนี้ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าอาหารเช้าอย่างแน่นอน

     

    วันนี้เขาก็ติดกระดุมเม็ดบนสุดอีกเช่นเคย...แม้จะอึดอัดอยู่นิดหน่อยเพราะไม่ค่อยชินแต่ก็ต้องจำใจยอมปิดรอยจ้ำแดงๆที่หมอนั่นทำไว้เพราะไม่อยากให้พี่ชายขี้หวงทั้งสองและเพื่อนๆเห็น...ดูเหมือนรอบแดงนี่จะสร้างความลำบากให้เขามากกว่าที่คิดเหมือนกัน...

     

                ตั้งแต่วันที่ลอว์บุกขึ้นมาบนห้องของลูฟี่ก็ผ่านมาเกือบๆอาทิตย์แล้ว เขาไม่ได้เจอหมอนั่นอีกเลย คงเป็นเพราะทางมหาวิทยาลัยมีงานเยอะอีกฝ่ายเลยไม่ค่อยมีเวลาโผล่หน้าโผล่ตามากวนเขามากนัก จะว่าไป...เขาลืมเรื่องจี้นั่นไปเสียสนิทเลย เมื่อไหร่จะได้คืนสักทีนะ พอมีจี้นั่นอยู่ติดตัวแบบนี้มันก็ชวนทำให้เขารู้สึกไม่ดีตามไปด้วย...

     

                ลูฟี่ถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆพลางทิ้งก้นลงบนเก้าอี้ในโรงอาหาร ในเวลาเช้าๆแบบนี้ยังไม่มีคนมากนักแต่ก็ยังมีรุ่นพี่มัธยมปลายอยู่ไม่น้อย คงจะเป็นเพราะโปรเจกต์บางอย่างที่พี่ชายทั้งสองของเขาก็กำลังทำอยู่เหมือนกันทำให้พวกพี่ๆพวกนี้ต้องเบิกตาตื่นมาโรงเรียนแต่เช้า


    ลูฟี่ถอดกระเป๋าเป้ที่สะพายบ่าอยู่ออกพลางวางมันไว้บนเก้าอี้ตัวข้างๆ มือเล็กเปิดซิบกระเป๋าก่อนจะล้วงเข้าไปควานหากระเป๋าเงินที่ควรจะอยู่ในนั้นแต่กลับพบเพียงสมุดแค่ไม่กี่เล่มกับปากกาลูกลื่นหนึ่งแท่ง...


                อยู่ไหนนะ...จำได้ว่าเมื่อเช้าก็หยิบมาแล้วนี่...หรือว่าจะลืมไว้ที่บ้าน!


                “อ้าว ลูฟี่” เสียงหวานดังขึ้นจากข้างหลังในขณะที่ลูฟี่กำลังง่วนอยู่กับการหากระเป๋าเงินทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อยถึงแม้เสียงนี้จะคุ้นหูเขาก็ตาม เขาละความสนใจจากกระเป๋าเป้ในมือก่อนจะหันไปหาที่มาของเสียง

     

                “เบบี้ไฟว์”


                หญิงสาวส่งยิ้มน้อยๆให้คนตัวเล็กกว่าก่อนจะวางกระเป๋าสะพายสีแดงของตัวเองไว้บนโต๊ะและทิ้งก้นลงนั่งข้างๆอีกฝ่าย “วันนี้มาเช้าจังนะ”


                “อ๋อ พอดีวันนี้พี่ชายฉันมีโปรเจกต์ต้องทำน่ะ เลยมาเช้า” เจ้าตัวตอบพร้อมกับหัวเราะแห้งๆพลางยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อ “แล้วเธอล่ะ? มีโปรเจกต์เหมือนกันหรอ?”

     

                หญิงสาวยกแขนบางๆของตัวเองขึ้นชันคางของตัวเองแล้วส่งยิ้มมาให้เขา “อื้อ”

     

                ลูฟี่ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาฉีกยิ้มแห้งๆออกมา สถานการณ์ดูเหมือนจะอึดอัดขึ้นเรื่อยๆเมื่อไม่มีใครพูดอะไรอีก ลูฟี่ทำได้แค่กลอกนัยน์ตากลมสีรัตติกาลของตัวเองหนีนัยน์ตาคมปลาบคู่สวยของอีกฝ่ายเท่านั้น ในเวลาแบบนี้...ทำไมถึงนึกคำพูดแม้แต่คำเดียวไม่ออกเลยนะ...ให้มันได้อย่างนี้สิ!

     

    หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันนั้นเขากลับรู้สึกผิดเหมือนตัวเองไปขัดขวางความรักของเบบี้ไฟว์กับลอว์คนจนเขาแทบจะมองหน้าอีกฝ่ายไม่ติดแล้วด้วยซ้ำ...

     

    แล้วยังต้องมาเจอกันซึ่งๆหน้าแบบนี้อีก...อีกฝ่ายจะคิดว่าเขาเป็นคนบอกให้หมอนั่นเลิกกับเธอรึเปล่านะ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว โอ๊ย...ทำไมต้องโผล่มาตอนนี้ด้วยนะ ทั้งสัปดาห์มีเวลาตั้งเยอะไม่เห็นจะโผล่มาเลย อย่างกับจงใจจะโผล่มาตอนที่เขาอยู่คนเดียวอย่างนั้นแหละ

     

                “เรื่องลอว์น่ะ...” 


                อยู่ๆอีกฝ่ายก็โพล่งขึ้นทำเอาลูฟี่สะดุ้งเฮือกจนขนลุกซู่ไปทั้งตัวราวกับอ่านความคิดของเขาออก ใบหน้าหวานที่เคยขึ้นสีแดงจางๆอย่างมีชีวิตชีวาเปลี่ยนเป็นซีดเผือดอย่างไร้ชีวิตขึ้นมาทันที เหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นมาตามใบหน้าและไรผมสีดำขลับจนลูฟี่สัมผัสได้ถึงความชื้นที่เริ่มไหลอาบแก้มใสของตน

     

    เธอต้องเข้าใจเขาผิดแน่ๆ

     

                “อ..เอ่อ...เรื่องนั้น อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้”

     

    “ฉันแค่โกรธที่หมอนั่นไม่ยอมบอกความจริงเฉยๆ ก็เลย...เผลอไปทำตัวงี่เง่าใส่หมอนั่นน่ะ...” ลูฟี่เองไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าที่เห็นอีกฝ่ายมองเขาด้วยนัยน์ตาสีเข้มคมปลาบที่แอบแฝงไปด้วยความดูแคลน...


    ก็คงไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะโกรธเขา...เพราะเขาได้ไปทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเธอและลอว์ไปแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม รู้สึกผิดชะมัด...เขาก็แค่โกรธหมอนั่นที่ไม่ยอมบอกความจริงเท่านั้นเอง...รึเปล่า? หรือจริงๆแล้วในใจของเขาแอบแฝงความรู้สึกอย่างอื่น...


    เขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน..ว่ามันคืออะไรกันแน่ รู้เพียงแค่ว่าเขาไม่ชอบสิ่งที่อยู่ในหัวของเขาเอาเสียเลย...

     

                “แต่ฉันไม่ได้ไปบอกให้หมอนั่นเลิกกับเธอนะ! ฉันขอโทษจริงๆที่ทำให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ...” 


                ลูฟี่พูดจบก็ก้มหน้าลงหลบสายตาดูแคลนของอีกฝ่าย นัยน์ตาสีรัตติกาลกลมคู่สวยแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด อีกฝ่ายจะต้องเกลียดเขามากๆแน่ๆ...

     

                “คิดมากน่า...ฉันไม่โกรธนายสักหน่อย” หญิงสาวพูดพลางหัวเราะน้อยๆ ริมฝีปากเรียวที่ถูกเคลือบด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อนยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ ใบหน้างดงามของเธอกลับมาดูเป็นมิตรอีกครั้งผิดกับใบหน้าเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง

     

    ลูฟี่เงยหน้าขึ้นจากพื้นพลางเอียงคอมองหน้าอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตากลมโตคู่สวยที่แฝงไปด้วยความสงสัย “ไม่โกรธเลยหรอ...?”

     

    อีกฝ่ายยกมือข้างที่ยังว่างขึ้นปิดปากพลางหัวเราะออกมาอย่างไม่ปกปิดกับความไร้เดียงสาของอีกฝ่าย “ไม่เลยจ่ะ”

     

    สายตาดูแคลนเมื่อครู่หายไปแล้ว

     

    “เอาเป็นว่ารีบหาอะไรทานซะนะ ฉันไม่กวนล่ะ เพราะเดี๋ยวฉันต้องขึ้นไปจัดการกับโปรเจกต์ของตัวเองแล้ว” เธอลุกขึ้นยืนพลางหยิบกระเป๋าสะพายสีแดงดูมียี่ห้อที่วางอยู่บนโต๊ะมาสะพายที่บ่าของเธอ

     

    เธอหันมายิ้มให้อีกฝ่ายอีกครั้งพร้อมกับโบกมือเบาๆในอากาศ “บ๊าย บาย” พูดแค่นั้นเธอก็หันหลังแล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆ

     

                ลูฟี่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางเอาคางเกยโต๊ะ

     

                อา...โชคดีจังที่อีกฝ่ายไม่ได้โกรธเขาน่ะ...แต่สายตาดูแคลนของเธอช่างสมจริงเหลือเกิน...สมจริงเสียจน..เขารู้สึกกลัวขึ้นมาเลยแฮะ...

     

    ยังไงก็เถอะ! เขาคงจะคิดไปเองเสียมากกว่า ก็อีกฝ่ายทั้งสวยและใจดีขนาดนั้นไม่มีทางที่จะทำสายตาแบบนั้นใส่ใครหรอกน่า เขาคงจะหิวจนตาลายแล้วสิเนี่ย..จริงสิ เขายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา ตั้งแต่มาถึงก็หากระเป๋าเงินไม่เจอแล้ว...เขาทำหล่นไว้ที่ไหนรึเปล่านะ?

     

                ว่าแล้วก็หันกลับไปสนใจกระเป๋าเป้ใบโปรดของตัวเองอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะหายังไงเขาก็เจอแค่สมุดบางๆไม่กี่เล่มกับปากกาลูกลื่นสีน้ำเงินแท่งเดียวเท่านั้น ก็จำได้ว่าหยิบมาแล้วนี่นา...สงสัยคงทำหล่นแหงๆ

     

                ลูฟี่ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะรูดซิบปิดกระเป๋าเป้ใบนั้นแล้วหยิบมันขึ้นมาสะพายบนบ่าแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

     

    ให้ตายสิ...อุตส่าห์คิดว่าจะได้หาอะไรกินหน่อยแท้ๆ แบบนี้เขาก็ต้องอดข้าวเช้าไปน่ะสิ...เขาก็ยืมเงินเหล่าเพื่อนๆของเขาไม่ได้ด้วยเพราะเพื่อนๆของพวกเขาก็มากันสายเกือบทุกวันน่ะสิ...และเดาว่าวันนี้พวกนั้นก็ต้องมาสายแน่ๆ

     

                ขาบางๆของลูฟี่พาร่างของตัวเองตรงไปยังตึกเรียนของตน ในหัวก็นึกหงุดหงิดที่ทำกระเป๋าเงินหายมีหวังเอสรู้เข้าเขาคงโดนเฉ่งยับอีกเป็นแน่แท้

     

    ดีนะที่วันนี้เขาไม่ได้พกเงินในกระเป๋าเงินเยอะเท่าไหร่ ที่มีก็คงจะเป็นบัตรประจำตัวนักเรียน บัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็ม แล้วก็บัตรสมาชิกร้านอาหารกับโรงหนังล่ะมั้ง...ที่เขาเป็นห่วงน่ะคือบัตรสมาชิกร้านอาหารต่างหาก อย่างนี้เขาก็ไม่ได้รับส่วนลดเวลาไปทานที่ร้านน่ะสิ...

     

    โอ๊ย! วันนี้มันวันอะไรเนี่ย โชคร้ายแต่เช้าเลย!

     

               

     

                “เอาล่ะ ตั้งใจฟังแล้วจดตามดีๆนะ ข้อนี้ออกสอบ กรณ์ที่สองของ...”

     

                เสียงทุ้มต่ำของชายวัยกลางคนผู้เป็นอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์คือเสียงเดียวที่ดังอยู่ในห้องหากไม่นับเสียงนกร้องและเสียงลมพัดจากข้างนอกที่ลอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามา

     

    ลูฟี่ได้แต่นั่งเขี่ยปากกาลูกลื่นสีน้ำเงินไปมาที่โต๊ะเรียนของตัวเองอย่างหน่ายๆ สมุดเล่มบางที่ถูกเปิดวางไว้ตรงหน้าไม่มีร่องรอยการขีดเขียนมีเพียงภาพวาดพิลึกๆเท่านั้นที่ประดับใบหน้ากระดาษสีขาวไม่ให้ดูจืดชืดจนเกินไป

     

    น่าเบื่อชะมัด...เขาล่ะเบื่อคาบคณิตศาสตร์ที่สุดเลยล่ะ...เพราะมันทั้งยากและต้องใช้ความคิดด้วยเหตุผลนี้เองทำให้วิชานี้เป็นวิชาที่คนที่ไม่ค่อยจะคิดอะไรแบบเขาเกลียดไปโดยปริยาย ถ้าเป็นวิชาพละหรือวิชาที่ต้องใช้ร่างกายก็ว่าไปอย่าง เขาน่ะถนัดกว่าใครเลยล่ะ

     

                ลูฟี่ยกมือขึ้นป้องปากหาวไปหวอดใหญ่ด้วยความง่วงเมื่อเห็นว่าอาจารย์วัยกลางคนยังคงพล่ามไม่หยุดอยู่หน้าห้องแต่ก็ต้องถึงกับหน้าหงายเมื่อถูกอาจารย์ผู้สอนปาแท่งชอล์กทั้งแท่งใส่กลางแสกหน้าผากอย่างจังจนเจ้าตัวต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ

     

                “มังกี้ ดี ลูฟี่! เธอจะเรียนไหม!? นี่โรงเรียนนะไม่ใช่ห้องนอน!” เมื่ออาจารย์วัยกลางคนดุก็เรียกเสียงหัวเราะจากเหล่าเพื่อนๆในห้องให้ลุกฮือขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

     

                ลูฟี่ได้แต่ทำหน้ามุ่ยเบ้ปากใส่อาจารย์วัยกลางคนอย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้เถียงอะไรออกไปเพราะขี้เกียจหาเรื่องใส่ตัว ยิ่งไม่ได้ทานอาหารเช้าแบบนี้ยิ่งไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้วด้วยซ้ำ...

     

                อาจารย์วัยกลางคนส่ายหน้าไปมาอย่างหน่ายๆก่อนจะเดินไปหยิบแท่งชอล์กแท่งใหม่ในกล่องสีขาวเล็กๆที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน “ถ้าเธอไม่อยากเรียนล่ะก็ ไปหยิบกองแบบฝึกหัดที่ห้องออฟฟิศครูเลยไป”

     

                ลูฟี่สะดุ้งเฮือก เขาลุกขึ้นยืนพลางโวยวายใส่ตามระเบียบ “หา!? แต่มันอยู่อีก 2 ตึกถัดจากนี่เลยนะ แถมยังมีตั้งเกือบ 50 เล่ม จะให้ผมไปคนเดียวหรอ!?”

     

                “ก็จะได้ออกกำลังกายไง ง่วงนักไม่ใช่รึไง เอ้า! ไปได้แล้ว เดี๋ยวจะใช้แล้ว เวลาหมดก่อนฉันโทษแกนะ”

     

    อาจารย์วัยกลางคนพูดจบเสียงหัวเราะจากนักเรียนทั้งห้องก็ลุกฮือขึ้น ลูฟี่มุ่ยหน้าใส่อาจารย์ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจแต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี

     

    ลูฟี่ลากขาบางๆของตัวเองไปตามโถงระเบียงทางเดินผ่านทางเชื่อมไปอีกสองตึกอย่างหน่ายๆ ก็แหงล่ะ ห้องเรียนของเขาก็อยู่ตั้งชั้น 5 ออฟฟิศของอาจารย์คนนั้นก็ดันอยู่ชั้นล่างสุดอีก 2 ตึกผลัดจากตึกนี้น่ะสิ แถมหนังสือเรียนตั้งเยอะขนาดนั้นใครจะไปแบกไหวกัน...

     

    ว่าแล้วก็บุ้ยปากออกมาอย่างไม่พอใจอีกครั้ง

     

                ประตูออฟฟิศถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของลูฟี่เดินตรงไปยังโต๊ะทำงานที่มีกองหนังสือมากมายเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ เขาเดินหากองหนังสือของห้องตัวเองอยู่นานก่อนจะพบว่ามันถูกวางเอาไว้รวมกับกองอื่นๆของชั้นมัธยมปลาย

     

    ไม่รอช้ามือหนารีบเอื้อมไปหยิบกองหนังสือพวกนั้นแล้วเดินออกมาอย่างทุลักทุเล หนักกว่าที่คิดเยอะ แถมตัวเขายังเล็ก แค่กองหนังสือพวกนี้ก็บังทางเขาไปครึ่งแล้ว...เขาแทบจะไม่ไม่เป็นอะไรนอกจากเพดานสีขาวของโรงเรียนกับหน้าต่างที่มองเห็นเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น...

     

    ถ้าเขาต้องเดินแบบนี้ขึ้นลงบันไดมีหวังตกบันไดตายแหง...เกิดมาตัวเล็กก็ลำบากแบบนี้แหละนะ เขาล่ะเกลียดตัวเองจริงๆ

     

                “ให้ผมช่วยไหม?”

     

                เสียงทุ้มต่ำที่แสนจะคุ้นหูดังขึ้น ดวงตากลมโตของลูฟี่เบิกกว้างด้วยความแปลกใจ เขาเอียงหน้าออกมาจากกองหนังสือและเมื่อพบว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่นเขาก็เผลอฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

     

                “โทราโอะ” ลูฟี่พูดพลางหัวเราะตามแบบฉบับเจ้าตัว

     

                “หือ?..หมวกฟาง-ยะ” อีกฝ่ายยกคิ้วหนาขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจก่อนมันจะขมวดเข้าชนกันมุ่นแทน “ทำบ้าอะไรของนาย ถือหนังสือมากขนาดนี้อยากตกบันไดตายรึไง” ทำไมคำพูดมันไม่เหมือนเมื่อกี้...เมื่อกี้ไม่ได้พูดแบบนี้...

     

                ลูฟี่มุ่ยหน้าใส่อีกฝ่าย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้อ้าปากพูดอะไร กองหนังสือทั้งหมดในมือก็ตกไปอยู่ในมือหนาของอีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

                “ทำอะไร...”

     

                “นำทางไปห้องนายแล้วไม่ต้องพูดมาก”

     

                ลูฟี่ได้รับคำสั่งมาแบบนั้นเขาก็พยักหน้ารับงึกๆแล้วบอกทางไปห้องเรียนของตัวเองอย่างงงๆ

     

                เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นคนที่ค่อนข้างสูง การจะถือหนังสือมากมายขนาดนั้นจึงไม่ได้มีผลอะไรกับการมองเห็นของเขาเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้น ลูฟี่ก็ยังคงรู้สึกเกรงใจอีกฝ่ายอยู่ดีแถมยังสงสัยที่อยู่ๆอีกฝ่ายก็มาโผล่ที่โรงเรียนราวกับเทเลพอร์ตมาอย่างนั้นแหละ

     

    ก็จริงที่ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นถึงผู้ปกครองของเขา เขาจึงอาจจะโผล่ไปไหนมาไหนในรั้วโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยได้อย่างสบายๆ

     

    แต่...ในเวลาแบบนี้ไม่ใช่ว่าเขาต้องเรียนหรอกหรอ? เพราะเขาก็เป็นถึงนักศึกษางานเยอะกว่ามัธยมตั้งเยอะ...ทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ได้นะ..? แล้วมาเพื่ออะไรล่ะ...ในเมื่อเขาเป็นถึงนักศึกษาจะมาทำอะไรที่โรงเรียนมัธยม หรือจะมายืมอุปกรณ์ห้องแลบอีกล่ะ?

     

                “นี่ โทราโอะนายไม่เรียนหรอ?”

     

                “โดดมา”

     

                “หา? โดดมา เพื่อมายืมของในห้องแลบเนี่ยนะ?” ลูฟี่พูดพลางขมวดคิ้วชนกันมุ่นด้วยความสงสัย

     

                “ฉันบอกตอนไหนกันว่ามายืมของห้องแลบน่ะ” ลอว์ตอบ ทำเอาอีกฝ่ายขมวดคิ้วชนกันมุ่นด้วยความสงสัยมากกว่าเดิม เขาถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆก่อนจะเบือนหน้าหนี ไม่ไหว...สายตาไร้เดียงสาแบบนั้นมันทำให้เขาแทบจะเป็นบ้า...ขืนสบตาตรงๆเขาต้องเป็นบ้าจริงๆแน่

     

                “ฉันมาหานายต่างหาก”

     

                เสียงของอีกฝ่ายอ่อนโยนแม้จะแผ่วเบา ทำเอาลูฟี่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ สัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าอย่างรวดเร็วราวกับไวรัสแพร่กระจาย ใบหูของเขาร้อนผ่าว ฝ่ามือชื้นไปด้วยเหงื่อทั้งๆที่อากาศก็ออกจะเย็นสบายไม่ได้ร้อนอะไรมากแท้ๆ

     

    เมื่ออีกฝ่ายหันหน้ามาเขาก็เผลอกลอกนัยน์ตาสีรัตติกาลทอประกายคู่สวยหนีโดยอัตโนมัติ ไม่ได้...ยังไงนัยน์ตาสีเทาหินโมราคมปลาบคู่นั้นก็อันตรายเกินไปจริงๆ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่สามารถจ้องตาอีกฝ่ายตรงๆได้เลย พอสายตาคู่นั้นมองมาทีไรเขาก็จำต้องกลอกตากลมโตหนีทุกที

     

                “ถ..ถ้าจะมาเรื่องบุฟเฟ่ที่สัญญาไว้ล่ะก็..ฉ..ฉันไม่ว่างหรอกนะ!” ลูฟี่ตอบพลางยกมือขึ้นกอดอก

     

                “ฉันรู้น่า...” แค่ได้เห็นหน้านายก็พอแล้วล่ะ... “ไว้วันหลังว่างๆฉันจะมารับใหม่”


                “อ..อื้อ...”

     

     

     

                กริ๊งงงงงงงง!!~

     

                เสียงออดสวรรค์บอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น เสียงขาเก้าอี้ขูดกับพื้นดังขึ้นทำเอาแสบแก้วหู เหล่านักเรียนต่างพากันเก็บของใส่กระเป๋าของตนเตรียมกับบ้าน

     

    ลูฟี่ก็เช่นกัน เขารีบใช้แขนบางๆของตัวเองกวาดของทุกอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะใส่ในกระเป๋าเป้แล้วจัดการรูดซิบก่อนจะยกมันมาสะพายไว้บนไหล่ขวา

     

    วันนีพี่ชายของเขากลับค่ำเขาจึงต้องนั่งรถแท็กซี่กลับและเขาก็อยากถึงบ้านก่อนที่มันจะค่ำเพราะมีนัดเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อนของเขา แต่ดูเหมือนอะไรหลายๆอย่างจะไม่เป็นใจเมื่อเขาดันถูกคุณครูที่สอนคาบสุดท้ายรั้งเอาไว้

     

                “มังกี้ ดี ลูฟี่” ลูฟี่ชะงักฝีเท้าก่อนจะหันหลังกลับไปหาอาจารย์หนุ่มที่กำลังจัดการกับกองแบบฝึกหัดตรงหน้า “เดี๋ยวเธอช่วยเอาผ้าเช็ดตัวที่อยู่หลังห้องไปไว้ที่สระว่ายน้ำหน่อยสิ ฉันจะกลับไปตรวจงานที่ออฟฟิศแล้ว ขอบใจ” พูดไว้แค่นั้นก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้คัดค้านอะไรทั้งสิ้น

     

     

     

                ลูฟี่มาถึงสระว่ายน้ำในเวลาไม่นาน มันเป็นสระว่ายน้ำที่ถือว่ากว้างพอสมควรและมันในร่มเพราะฉะนั้นเวลาที่เรียนว่ายน้ำจึงไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องแดดร้อนสักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเกลียดคาบว่ายน้ำอยู่ดีนั่นแหละเพราะเขาว่ายน้ำไม่เป็น

     

                ขาบางๆของลูฟี่พาร่างของเขาตรงไปยังล็อคเกอร์เหล็กที่อยู่ปลายสุดของห้องโถงขนาดยักษ์นี่แล้วจัดการยัดผ้าขนหนูสีขาวใส่เข้าไปในตู้ทีละผืนอย่างลวกๆ

     

                แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในเวลาแบบนี้ไม่น่าจะมีเด็กนักเรียนเหลืออยู่แล้วนี่...หรือจะเป็นภารโรงนะ..?

     

    ว่าแล้วก็หันไปตามที่มาของเสียงให้หายสงสัย

     

                “ว่าไง มาทำอะไรเนี่ย วันนี้กลับช้าหรอ?” เบบี้ไฟว์หยุดตรงริมสระว่ายน้ำแล้วทักทายคนตัวเล็กกว่าที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บผ้าเช็ดตัวพลางฉีกยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร

     

                “อื้อ” ลูฟี่ฉีกยิ้มกว้างตอบอีกฝ่ายพลางหัวเราะตามแบบฉบับของตน “ครูใช้ให้มาเก็บผ้าเช็ดตัวน่ะ”

     

                “ให้ฉันช่วยไหม?”

     

                เบบี้ไฟว์ถาม ลูฟี่ไม่ได้ตอบอะไรเขาเพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆแล้วยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะหันกลับไปสนใจกองผ้าขนหนูตรงหน้าต่อ

     

                ใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็จัดการเก็บผ้าขนหนูทั้งหมดจนเสร็จเรียบร้อย เขาเดินตรงไปยังหญิงสาวแล้วฉีกยิ้มกว้างอีกครั้ง “ฉันกลับละนะ เจอกันพรุ่งนี้”

     

                “เดี๋ยวก่อนสิ” เบบี้ไฟว์รั้งเอาไว้ “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ” เธอพูดพลางฉีกยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร

     

                “อะไรหรอ?” ลูฟี่ถามพลางเอียงคอมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย

     

                เบบี้ไฟว์ฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร “นายรู้รึเปล่า...” เธอพูดอย่างจงใจเว้นระยะ ตอนนั้นรอยยิ้มของเธอหุบลง นัยน์ตาคมปลาบคู่สวยที่แฝงไปด้วยความเป็นมิตรค่อยๆเปลี่ยนเป็นนัยน์ตาที่มีแต่ความเย่อหยิ่งและความดูแคลน “นายกำลังทำตัวเหมือนเกย์น่าขยะแขยง”

     

    ไม่ว่าเปล่ามือเรียวทั้งสองก็ผลักไหล่เล็กของอีกฝ่ายเต็บแรง

     

                ดวงตากลมโตของลูฟี่เบิกกว้าง มือเล็กที่ไร้เรี่ยวแรงยื่นไปข้างหน้าโดยสัญชาตญาณแม้รู้ดีว่ายังไงก็ไม่มีทางหนีพ้น สมองขาวโพลนไปหมด หัวใจเหมือนหยุดเต้นไปจังหวะหนึ่ง แผ่นหลังสัมผัสได้ถึงความชื้นเย็นเฉียบที่ค่อยๆไล่ขึ้นมาตามไขสันหลัง

     

    ไม่นะ...


    - to be continue -


                   สวัสดีค่ะ;w; หายหน้าหายตาไปนาน อยากจะบอกว่าเปิดเทอมได้สามอาทิตยืแล้วค่ะT^T อยากจิคราย งานเยอะมากกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว ก็ไม่เข้าใจว่าจะเยอะไปไหน อาจารย์กลัวดเค้าไม่ว่างหรอคะT_T(?) #ผิด

                   เอาเป็นว่าถ้าเห็นไรต์หายหน้าหายตาไปนานหน่อยก็อย่าเพิ่งแปลกใจนะคะ=w=" ไรต์ยังไม่ตายนะคะT_T 

                   อ่านกันเสร็จแล้วก็อย่าลืมกดติดตาม คอมเม้น หรือกดแชร์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ♥ หากมีข้อผิดพลาดยังไงก็ติชมกันได้เสมอน้า ส่งข้อความมาคุยกันเล่นก็ได้นะ ไรต์ไม่กัด^_^ รักรีดเดอร์ค่า ♥

                   ปล.ที่เห็นธีมเป็นแบบนี้ไม่ต้องแปลกใจนะคะ ไรต์เองก็งงเหมือนกันค่ะ ถถถว์;w;

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×