ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] : (One Piece) Law x Luffy คุณหมอเย็นชากับนายตัวแสบ!!

    ลำดับตอนที่ #19 : Chapter 18

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 59


      CR.SHL

    - Chapter 18 -

     

                “ลูฟี่ นายไม่เป็นอะไรนะ?”

     

                เสียงทุ้มต่ำของซาโบดังขึ้นพร้อมๆกับบานประตูที่ถูกเปิดออก ผู้เป็นพี่ทั้งสองมองน้องชายตัวแสบของตนที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง ทว่าอีกฝ่ายกลับยกมือขึ้นในอากาศแล้วฉีกยิ้มกว้างจนแทบจะไปถึงใบหู

     

                “โย่!” ทักทายห้วนๆตามแบบฉบับเจ้าตัว

     

                “นายไม่เป็นอะไรใช่ไหมเมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงนายโวยวายจากในห้อง เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?” ซาโบรัวคำถามอย่างไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตอบ เขาตรงปรี่ไปยังน้องชายตัวเล็กของตนแล้วนั่งลงบนเตียงข้างๆร่างเล็กอย่างถือวิสาสะ

     

    เอสถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆก่อนจะเดินไปหย่อนก้นลงบนเตียงนุ่มข้างๆซาโบ

     

                “ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า” เจ้าตัวว่าพลางหัวเราะอย่างทุกครั้ง

     

                เมื่อเห็นอย่างนั้นซาโบก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ “เอสโทรมาบอกฉันว่าวันนี้นายไม่แตะของกินเลย...” ซาโบยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “แถมนายยังดูซึมๆ พอถามว่าเป็นอะไรนายก็ตอบแค่ว่า ‘ไม่เป็นไร’ นายกำลังทำให้พวกเราเป็นห่วงนะ

     

    เขาเป็นห่วงน้องชายของเขาเหลือเกิน...เพราะอะไรน่ะหรอก็อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยเห็นน้องชายตัวดีของเขาไม่แตะของกินแบบนี้เลยน่ะสิ... เมื่อตอนกลางวันตอนเขาถามว่าไปกินข้าวด้วยกันไหมอีกฝ่ายก็ปฏิเสธ แล้วตอนเย็นก็ยังมาบอกว่าไม่หิวอีก...ยิ่งน่าเป็นห่วงเข้าไปใหญ่ 

     

    ลูฟี่...” ซาโบพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ถ้านายมีเรื่องอะไรไม่สบายใจบอกฉันกับเอสได้ตลอดนะ...พวกเราเป็นพี่น้องกัน

     

                ตอนนั้นหัวใจของลูฟี่เหมือนอุ่นวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขารู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เขายังมีพวกพ้อง เขายังมีครอบครัว...ยังมีพี่น้อง ใช่แล้วล่ะ ‘สายสัมพันธ์พี่น้อง’ น่ะ เป็นอะไรที่วิเศษสุดๆไปเลย ว่าแล้วก็ฉีกยิ้มกว้างออกมาอีกครั้ง

     

                “คิดมากไปแล้วนะพวกนายเนี่ย” พูดพลางหัวเราะพลาง “ฉันคือลูฟี่นะ จะเกิดอะไรได้

     

                ซาโบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะวางมือหนาของตัวเองลงบนเรือนผมยุ่งเหยิงสีดำนั่นแล้วลูบเบาๆอย่างทะนุถนอมราวกับกลัวว่าหากทำแรงไปร่างเล็กๆตรงหน้าจะแตกสลายไปเสียตรงนั้น

     

                “นายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว...” ซาโบพูดพลางยกยิ้มบางๆ “งั้นฉันไปก่อนล่ะ ฉันยังมีงานที่ต้องทำอีก มีอะไรก็โทรมาล่ะ” พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วจับไหล่เอส  เอสยกมือทักทายลูฟี่แบบห้วนๆตามแบบฉบับตัวเองแล้วเดินออกจากห้องตามซาโบไป

     

                เมื่อประตูปิดลงลูฟี่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ริมฝีปากของเขายังคงยกเป็นรอยยิ้มบางๆ

     

                “นายมีพี่ที่ดีนะ” ทว่ามีความสุขได้ไม่นานก็เหมือนถูกเสียงทุ้มต่ำของใครมาขัดเสียก่อน...

     

                ลอว์กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงของลูฟี่เขาดึงผ้าห่มที่คลุมตัวเองออก นัยน์ตาสีเทาหินโมราคู่สวยจ้องมายังร่างเล็กกว่าตรงหน้า ตรงปลายจมูกโด่งเป็นสันและหน้าผากมีเหงื่อเม็ดใสเกาะกราวคงเพราะร้อนเนื่องจากอยู่ใต้ผ้าห่มแถมยังมีตุ๊กตาตัวใหญ่มาทับอีกต่างหาก

     

    อา...จริงสิเขาลืมหมอนี่ไปเสียสนิท...

     

                “แล้วนายเข้ามาทำอะไรในห้องฉันล่ะ ไม่มีอะไรก็ออกไปเลย” ลูฟี่บุ้ยปากพลางโวยวายใส่อีกฝ่าย

     

                ลอว์เปลี่ยนมานั่งท่าขัดสมาธิเพื่อให้นั่งได้ถนัดขึ้น เขาหันหน้าประจัญกับคนตัวเล็กกว่าก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “ถ้าไม่มีฉันคงไม่ปีนขึ้นมาถึงบนห้องนายขนาดนี้หรอก

     

                ลูฟี่ยกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นด้วยความสงสัยพลางเอียงคอมองอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตาสีรัตติกาลคู่สวย เมื่อเห็นอย่างนั้นลอว์ก็เผลอถอนหายใจออกมาอีกรอบแต่ก็อดที่จะเอ็นดูอีกฝ่ายไม่ได้ แค่ใบหน้าหวานของอีกฝ่ายก็ทำเอาใจเขาละลายไปครึ่งแล้ว...

     

                “เรื่องคู่หมั้น...เบบี้ไฟว์บอกนายแล้วใช่ไหม” ลอว์เข้าประเด็น พยายามเรียกสติตัวเองไม่ให้เตลิดไปมากกว่านี้

     

    ลูฟี่ขมวดคิ้วมุ่น...จริงสิ...เขายังโกรธหมอนี่อยู่นี่นา ว่าแล้วก็เผลอทำแก้มพองใส่อีกฝ่ายด้วยความงอนแล้วหันหน้าหนี “ฉันยังไม่หายโกรธนายหรอกนะ!” ไม่หายโกรธง่ายๆด้วยต่อให้เอาบุฟเฟ่เนื้อย่างมาต่อรองก็เถอะ!

     

    ...ก็ถึงได้ปีนห้องขึ้นมาง้ออยู่นี่ไง...

     

    ลอว์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อีกครั้ง “ฉันรู้น่า...” ลูฟี่ยังไม่มีท่าทีว่าจะหันหน้ากลับมา ลอว์มองแก้มใสของอีกฝ่ายที่ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความโกรธอย่างเหนื่อยใจ “นายกำลังเข้าใจผิด...ฉันกับยัยนั่นไม่ได้เป็นคู่หมั้นกัน ฉันถอนหมั้นกับยัยนั่นแล้ว

     

    พูดจบลูฟี่ก็ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยมากกว่าเก่า เขาหันมาหาอีกฝ่ายแล้วเอียงมองหน้า แขนบางทั้งสองค่อยๆยกขึ้นกอดอก “หา?”

     

    ทางบ้านของพวกเราสนิทกันมาตั้งแต่เด็กก็จริง...แต่ฉันไม่เคยชอบยัยนั่นเลย” ลอว์อธิบายต่อ ลูฟี่ลดมือที่กอดอกลงคิ้วบางค่อยๆคลายปมออก เขาเขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นราวกับเด็กเล็กๆที่กำลังขอให้พวกผู้ใหญ่เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังอย่างไม่มีผิด

     

    ลอว์มองดวงตากลมโตคู่สวยที่กำลังจ้องมาที่เขาตาไม่กระพริบอย่างอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ใบหน้าออดอ้อนแบบนั้นมันอะไรกัน...ใครจะไปใจร้ายกับเด็กไร้เดียงสาแบบหมอนี่ได้ลงคอ...

     

    ลอว์เผลอถอนหายใจออกมาอีกครั้งเป็นรอบที่ร้อยของวันก่อนจะเบือนหน้าหนี พอเห็นสายตาคู่นั้นทีไรเขาก็ต้องเผลอเบือนหน้าหนีทุกที...

     

    เขาล่ะเกลียดตัวเองจริงๆ...

     

               “เราถูกจับให้หมั้นกันตั้งแต่เด็ก” คิ้วบางของลูฟี่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของทั้งสองครอบครัว ซึ่งตอนนั้นฉันก็ไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรมาก ฉันเองก็ไม่ค่อยจะสนใจไอเรื่องพวกนี้อยู่แล้วด้วย...เลยไม่ได้คัดค้านอะไรออกไป

     

    ไม่เคยมีใครรู้เรื่องนี้ นอกจากครอบครัวของพวกเราทั้งสอง” นัยน์ตาสีรัตติกาลของลูฟี่ยังคงจับจ้องมาที่ใบหน้าของเขาตาไม่กระพริบ “แต่พอโตขึ้น....” ถึงได้รู้ว่า ‘ความรัก’ มันเป็นยังไง...จากคนที่ไม่เคยคิดจะใส่ใจใคร จากคนที่ไม่เชื่อในความรัก...

     

    กลับกลายเป็นว่า...เขาจะเสี่ยงดูสักครั้งกับคำว่า ’รัก’ ต่อให้ตอนสุดท้ายจะต้องเสียใจ...ก็ไม่เป็นไร

     

                “ฉันก็ขอโคร่า-ซังกับดอฟฟี่ให้ถอนหมั้นซะ ทั้งสองไม่ได้ปฏิเสธอะไร...แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะลืมบอกครอบครัวของอีกฝ่ายไปซะสนิทเลยน่ะสิ ยัยนั่นเลยคิดว่าเรายังหมั้นกันอยู่..แต่ตอนนี้ฉันคุยกับยัยนั่นเรียบร้อยแล้วล่ะ

     

                ลูฟี่กระพริบตาปริบๆมองอีกฝ่ายอย่างมึนๆราวกับเด็กตัวน้อยที่กำลังงงกับตอนจบของนิทาน แต่พอสมองประมวลเสร็จคิ้วบางก็ค่อยๆขมวดเข้าหากันช้าๆ “ยังไงก็เถอะฉันยังไม่หายโกรธหรอกนะก็นายน่ะ ไม่ยอมบอกฉันก่อนน่ะสิถ้าเบบี้ไฟว์ไม่มาบอกฉันก็ไม่รู้หรอก!

     

                “ฉันผิดเองที่ไม่บอกนายก่อน ฉันไม่อยากให้นายเข้าใจผิด ฉันขอโทษ” ลอว์พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาเผลอหลบตาอีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ตีขึ้นมาบนใบหน้า..อา ให้ตายสิ เขาน่าจะเอาหมวกขนสัตว์ใบนั้นมาด้วย...

     

                ลูฟี่เบ้ปากใส่พลางขมวดคิ้วมุ่นมองหน้าอีกฝ่าย “ไม่หายโกรธหรอก!

     

                “ถ้าฉันพาไปเลี้ยงบุฟเฟ่เนื้อย่างล่ะ...” ว่าแล้วว่าต้องมาไม้นี้...แต่ฝันไปเถอะ!

     

                “ยังไงก็ไม่หายโกรธ” ว่าพลางทำเสียงฮึดอัดใส่ แขนบางๆยกขึ้นไขว้กันตรงหน้าอกก่อนจะแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกฝ่ายอย่างจงใจเย้ยหยัน

     

                “แล้ว...ต้องทำยังไงถึงจะหายโกรธ..?” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาราวกับกระซิบทว่ากลับชัดเจนกับอีกฝ่าย ลูฟี่คลายแขนทั้งสองที่ไขว้กันออก เขาขมวดคิ้วเข้าหากันช้าๆ...นั่นสิ..แล้วต้องทำยังไงให้เขาหายโกรธล่ะ?

     

    อา...ไม่รู้เลยแฮะ...จะยังไงก็คงหายโกรธไม่ลง ก็หมอนั่นไม่ยอมบอกเขาเรื่องคู่หมั้นนี่ถ้าเมื่อตอนกลางวันเบบี้ไฟว์ไม่มาบอกเขาก็คงไม่มีวันรู้แน่ๆ!

     

                “ไม่รู้!” ตอบแบบเอาแต่ใจตามแบบฉบับเจ้าตัว...พูดจบก็กอดอกหันหลังใส่ “หาทางเองสิ!

     

                “นายพูดแล้วนะ” ลอว์พูด ลูฟี่ไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเพราะเขากำลังนั่งหันหลังให้อยู่ “งั้นฉันจะใช้วิธีของฉันล่ะนะ

     

    แน่จริงก็หาทางทำให้ฉันหายโกรธให้ได้สิ!

     

    ทันทีที่พูดจบลูฟี่ก็สัมผัสได้ถึงความอุ่นจากกล้ามเนื้อตรงแผ่นหลังของเขาทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งเฮือก เขาหันหน้าไปก็ต้องเสียวสันหลังวาบเมื่อพบกับใบหน้าเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ สัมผัสอุ่นบนแผ่นหลังของเขาคือสัมผัสจากแผงอกกว้างของอีกฝ่าย

     

    ริมฝีปากบางของอีกฝ่ายยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอกที่พร้อมจะเข้าขย้ำกระต่ายตัวน้อยตรงหน้าอย่างไม่ลังเล เขาค่อยๆขึ้นคร่อมร่างของคนตัวเล็กกว่าอย่างถือวิสาสะ

     

                “ท..ทำอะไรน่ะ!” ลูฟี่รู้สึกขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัว สัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าและใบหู หัวใจพลันเต้นรัวไม่เป็นส่ำจนแทบระเบิดออก แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเลยแม้แต่น้อยทำได้เพียงดิ้นไปมาใต้พันธนาการของอีกฝ่ายเท่านั้น

     

                “ก็ทำให้นายหายโกรธไง...ด้วยวิธีของฉันน่ะนะ” พูดจบก็กดจมูกลงบนผิวกายอันบอบบางของอีกฝ่ายแล้วสูดเอากลิ่นหอมทั้งหมดเข้าปอดอย่างปรารถนาไม่วายฝังเขี้ยวลงบนผิวพรรณผุดผ่องของอีกฝ่ายจนขึ้นเป็นสีแดงจ้ำๆ...เขาปรารถนาร่างกายเล็กๆนี่เหลือเกิน...ไม่ไหวแล้ว...

     

    ก็อีกฝ่ายน่ะงอนได้น่ารักซะขนาดนั้น..ทั้งใบหน้าหวานๆที่ขึ้นสีแดงระเรื่อนั่น ทั้งการกระทำแบบเด็กๆนั่น ใครจะไปห้ามใจไหวกันล่ะ...แค่เห็นหน้าก็ใจละลายไปครึ่งแล้ว...

     

    อยากจะปลดปล่อยความปรารถนาทั้งหมดนี้ออกมาเหลือเกิน....แต่ทำไม่ได้...

     

                “อ..อื้อ...โทราโอะ” มือเล็กของอีกฝ่ายบีบไหล่กว้างของเขาไว้แน่นบ่งบอกว่าอีกฝ่ายจวนเจียนจะไม่ไหวแล้ว เขาจึงจำต้องผละออกอย่างติดเสียดายนิดๆ

     

    ลูฟี่อ้าปากหอบถี่ ไม่เหลือแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะดิ้นราวกับเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกชายตรงหน้าสูบไปจนหมด นี่น่ะหรอ...วิธีง้อของหมอนี่น่ะ...เป็นวิธีที่แย่ที่สุดเลย...

     

                “โทราโอะ...อื้อ!” ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้เอ่ยปากโวยวายลอว์ก็บดขยี้ริมฝีปากเรียวของตนลงกับริมฝีปากอวบอิ่มของอีกฝ่ายเสียก่อน

     

    มือหนาอันซุกซนของเขาไม่ได้หยุดนิ่ง ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของอีกฝ่ายจนคนตัวเล็กกว่าใต้พันธนาการสะดุ้งและกระตุกเล็กน้อย ทันทีที่เขาเลิกเสื้ออีกฝ่ายขึ้นแล้วลูบแผ่นอกบางๆของอีกฝ่ายคนตัวเล็กกว่าก็เผลอโก่งหน้าอกขึ้นด้วยความตกใจ

     

    มือที่แสนจะซุกซนของเขาไม่ได้หยุดแค่นั้น นิ้วเรียวเล่นกับยอดอกสีชมพูระเรื่อที่กำลังตั้งชูชันอย่างสนุกมือ

     

                ลูฟี่ดิ้นไปมาใต้พันธนาการส่งเสียงครวญครางในลำคออย่างห้ามไม่อยู่จนลอว์ต้องผละริมฝีปากออกอย่างติดเสียดายนิดๆ น้ำใส่ๆที่ยืดติดกับลิ้นทั้งสองขาดออก ลูฟี่อ้าปากหอบถี่เอาอากาศเข้าปอด มือเล็กก็บีบไหล่ของอีกฝ่ายไว้แน่นด้วยความทรมาน

     

                “โทราโอะ...หย..หยุดนะ...

     

                ลอว์ค่อยๆเลื่อนมือหนาไปจับท้ายทอยของอีกฝ่าย นิ้วมือเรียวยาวค่อยๆสอดไปตามเรือนผมสีดำขลับของเจ้าตัว มืออีกข้างยกแผ่นอกบางๆของอีกฝ่ายให้โก่งขึ้น เขาค่อยๆก้มลง...ใบหน้าคมค่อยๆเข้าใกล้แผ่นอกบางขึ้นเรื่อยๆจนลูฟี่สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รินรดอยู่ตรงแผ่นอกของตน

     

    ใบหน้าใสของลูฟี่แผ่ซ่านไปด้วยสีแดงระเรื่อไปจนถึงใบหูทั้งสอง ร่างของเขากระตุกเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ มือบางพยายามผลักคนตรงหน้าออกไปแต่ก็แทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงพอที่จะหายใจแล้ว

     

                “อย..อย่านะห้ามทำนะ โทราโอะ!

     

                ลอว์เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนร่างเล็กใต้พันธนาการ นัยน์ตาคมปลาบสีเทาหินโมราฉายแววไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อถูกอีกฝ่ายขัดโดยที่ยังไม่ได้ลิ้มรสยอดอกที่ตั้งชูชันนั่นเลยแม้แต่นิดเดียว

     

                “ห..ห้ามทำนะ...” ลูฟี่พูดเสียงสั่น สัมผัสได้ถึงความชื้นอุ่นๆตรงขอบตาที่ค่อยๆทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ

     

                ใบหน้าหวานของลูฟี่แดงก่ำเช่นเดียวกับดวงตากลมโตคู่สวย น้ำใสๆที่เอ่อล้มขึ้นมาตรงขอบตาค่อยไหลอาบแก้มเนียนของอีกฝ่าย ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อที่ช้ำจากแรงจูบของอีกฝ่ายเม้มเข้าหากันแน่น นัยน์ตาสีรัตติกาลจ้องมาที่เขาอย่างออดอ้อน...

     

    อา...จะห้ามใจไหวได้ยังไงกัน...ก็อีกฝ่ายน่ารักซะขนาดนี้...

     

    ก็หลงรักอีกฝ่ายไปทั้งใจซะขนาดนี้แล้ว..

     

    อยากจะดื่มด่ำให้มากกว่านี้...ยังไม่พอ ละโมบ เขาต้องการมากกว่านี้...ต้องการร่างของคนตัวเล็กกว่า ต้องการหัวใจของคนตัวเล็กกว่า อยากจะได้ไปเสียหมด อยากจะครอบครองมันเสียหมด อยากจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัวไม่อยากจะเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น...

     

                 ลอว์สัมผัสได้ว่าร่างกายของตัวเองกำลังตื่นสุดๆแต่ถึงอย่างนั้นก็พยายามหักห้ามใจของตัวเองเอาไว้และยอมปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระแต่โดยดี เขายกมือขึ้นจับแก้มใสของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนแล้วใช้นิ้วโป้งเช็ดคราบน้ำตาที่เลอะแก้มใสของเจ้าตัวอย่างแผ่วเบา

     

    ปกติเขาเป็นคนที่มีความอดทนสูง...แต่อยู่ใกล้หมอนี่ทีไรเส้นความอดทนของเขาเหมือนจะลงมาอยู่ตรงจุดต่ำสุดทุกที...

     

                “ขอโทษ...” เสียงของลอว์แผ่วเบาจนแทบจะกลืนไปกับสายลมแต่ลูฟี่กลับได้ยินมันชัดเจนทุกถ้อยคำ ลูฟี่ยันตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิ ใบหน้าของเขายังคงถูกแต้มไปด้วยสีแดงระเรื่อ เขากระพริบดวงตากลมโตมองอีกฝ่ายโดยไม่พูดอะไร

     

    ลอว์ยกมือหนาสีแทนขึ้นกุมขมับแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอาก่อนจะเอื้อมมือหนาข้างเดิมไปลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ

     

                ลูฟี่หลับตาพริ้มสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นผ่านฝ่ามือหนาของอีกฝ่าย เขาเอาหัวของตัวถูไถไปกับมือหนาของอีกฝ่ายราวกับลูกแมวตัวน้อยๆที่กำลังอ้อนเจ้าของไม่มีผิด อา รู้สึกดีจัง...

     

                “ไง หายโกรธรึยังล่ะ?” ลอว์ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์พลางหัวเราะในลำคอ

     

                เสียงของลอว์ปลุกลูฟี่ให้สะดุ้งตื่นจากภวังค์ เขามุ่ยหน้าใส่อีกฝ่ายแล้วหันหน้าหนีด้วยความไม่พอใจ พวงแก้มทั้งสองที่เพิ่งหายแดงได้ไม่นานก็กลับมาขึ้นสีแดงจางๆอีกครั้งและยังคงปล่อยให้มือของอีกฝ่ายวางอยู่บนหัวเขาต่อไป “หายแล้วก็ได้

     

                อะไรคือก็ได้...

     

              ลอว์ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เขาขยี้เรือนผมสีดำขลับของอีกฝ่ายที่ยุ่งเหยิงอยู่แล้วให้ยุ่งเหยิงกว่าเก่า ลูฟี่เริ่มโวยวายพลางพยายามปัดมืออีกฝ่ายออกแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล...

     

                “นายหายโกรธก็ดีแล้ว...” ว่าพลางผละมือออกจากหัวของอีกฝ่าย เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วตรงไปเปิดประตูระเบียง “ฉันไปล่ะ ถ้าว่างๆฉันจะมารับนายไปเลี้ยงเนื้อย่าง” พูดจบก็ปีนระเบียงออกไปโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้คัดค้านหรือพูดอะไร

     

    ลูฟี่แลบลิ้นใส่ทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเห็น...เขาเดินไปปิดประตูระเบียงแล้วเดินมาทิ้งตัวลงฝังร่างอันบอบบางของตัวเองลงกับเตียงนุ่ม

     

                อา...วันนี้เกิดเรื่องเยอะชะมัด...แทบจะจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว แทบจะไม่เชื่อเลยว่าทั้งหมดนี่มันเกิดขึ้นภายในวันเดียว...ตั้งแต่หมอนั่นปีนระเบียงขึ้นมาพาไปกินไอศกรีม...แล้วก็เจอกับเจ้าเม่น...แถมยังเจอเบบี้ไฟว์ พอยัยนั่นเล่าเรื่องคู่หมั้นเขาก็ช็อคสุดๆไปเลย

     

    และเขายัง...คิดไม่ถึงว่าหมอนั่นจะปีนระเบียงขึ้นมาถึงห้องเพื่อมาง้อเขาอีกครั้ง...แล้ววิธีการง้อของเขาก็แปลกสุดๆเลยด้วย เมื่อกี้...เขาเกือบจะ...

     

                ความร้อนตีขึ้นมาบนใบหน้าใสของลูฟี่อีกครั้งเขาขมวดคิ้วเข้าชนกันมุ่นฝังใบหน้าหวานของตัวเองลงกับผ้าห่มนุ่มของตัวเองแล้วบิดตัวไปมาด้วยความอาย สัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่นซ่านตั้งแต่ใบหน้าไปจนถึงใบหู ให้ตายสิ! นี่เขากำลังเขินเพราะหมอนั่นอีกแล้ว!

     

                อื้อตาบ้า!

     

    - to be continue -

     

                    สวัสดีค่ะTwT เหล่ารีดเดอร์ที่น่ารักทุกท่าน ช่วงนี้เปิดเทอมแล้ว...นี่ก็เปิดมาได้อาทิตย์นึงแล้ว...อาจจะหายหน้าหายตาไปบ้างคงไม่โกรธกันเนอะT_T จะพยายามหาเวลามาอัพนะคะ;_;

                   ตอนนี้..แอบ(?)NCนิดๆ(?)จะปลิวไหม...;w; #ผิด แย่จังค่ะ...ทำไมรู้สึกชีวิตแย่lllorz

                   เอาเป็นว่าหลงเข้ามาอ่านแล้วก็อย่าลืมคอมเม้น กดติดตาม หรือกดแชร์เพื่อให้กำลังใจกันด้วยนะคะ^_^ หากมีข้อผิดพลาดประการใดสามารถติชมได้ตลอดค่ะ ไรท์ไม่กัดค่ะ <3 ถึงกัดก็ไม่เจ็บ><  รักรีดเดอร์ทุกท่านนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×