ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] : (One Piece) Law x Luffy คุณหมอเย็นชากับนายตัวแสบ!!

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 16

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 59


    CR.SHL
    - Chapter 16 -

           ลูฟี่และลอว์นั่งอยู่ ณ โต๊ะไม้มะฮอกกะนีสีเข้มของร้านไอศกรีมที่พวกเขาเคยมาเจอกันก่อนหน้านี้ ที่นี่...เป็นครั้งที่สองที่ลอว์ได้พบกับลูฟี่อีกครั้ง และเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับพี่ชายทั้งสองของลูฟี่ แม้จะเป็นการพบเจอกันที่ไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไหร่ก็ตาม...


    พูดถึงพี่ชายทั้งสองแล้ว...ก่อนหน้านี้ลอว์ก็ต้องขับบิ๊กไบค์คันใหญ่ของเขาออกมาจากหน้าบ้านของลูฟี่ในระหว่างที่เจ้าตัวกำลังจัดการกับธุระของตัวเองด้วยเหมือนกัน..เพราะอะไรน่ะหรอ? เพราะกลัวว่าคุณพี่ชายทั้งสองจะสงสัยแล้วจับได้เอาน่ะสิ 


    ก็ในเมื่อลูฟี่ไม่อยากให้พี่ชายทั้งสองรู้เรื่องของเขา เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปขัดขวางอีกฝ่ายนี่นา...จริงไหม?


    แต่โชคดีนะ...ที่เมื่อกี้พี่ชายทั้งสองของลูฟี่ออกไปทานข้าวข้างนอกก่อนที่จะมาเจอลอว์ที่แอบคอยเขาอยู่หน้าบ้านน่ะ ไม่อย่างนั้นล่ะก็...ศพไม่สวยทั้งคู่แน่

     

           ระหว่างที่นั่งรอไอศกรีมมาเสริฟนั้นลูฟี่ก็คุยจ้อไม่หยุดอย่างทุกที ผิดกับลอว์ที่เพียงแค่นั่งท้าวคางฟังอีกฝ่ายพูดอย่างเงียบๆ นัยน์ตาสีเทาหินโมราคู่สวยทอดไปยังใบหน้าหวานของอีกฝ่ายพลางถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

     

    แต่เขา...ก็ไม่สามารถละสายตาจากใบหน้าหวานนั่นได้เลย...

     

    ดวงตากลมโตคู่สวยที่จ้องหน้าเขาอย่างตื่นเต้นในขณะที่กำลังเล่าเรื่อง นัยน์ตาสีดำทอประกายราวกับท้องฟ้ายามราตรีที่ถูกดารดาษด้วยดวงดาวนับล้าน พวงแก้มใสทั้งสองที่ขึ้นสีแดงจางๆบ่งบอกถึงความมีชีวิตชีวา รอยยิ้มกว้างและเสียงหัวเราะที่ทำให้ดอกไม้บานได้

     

    เสียง...ที่เขารู้สึกรำคาญในตอนแรก...ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเขาหลงรักมันเข้าซะแล้วน่ะสิ...และที่สำคัญกว่านั้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อยากให้มันหายไปจากชีวิตเขาเลย...

     

                “นี่..โทราโอะ”

     

                เสียงหวานของลูฟี่ดังขึ้นปลุกลอว์ให้ตื่นจากภวังค์ เขาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะกระพริบตาปริบๆมองหน้าอีกฝ่ายเพื่อเรียกสติ เมื่อตั้งสติได้คิ้วหนาของเขาก็ต้องขมวดเข้าหากันให้มุ่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มทำสีหน้าจริงจังจนเหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นมาตามใบหน้า

     

    อะไร...นี่เขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า?

     

           “ฉันปวดฉี่..ไปส่งหน่อยสิ”

     

                ว่าแล้วเขาก็อยากจะยกฝ่ามือขึ้นกุมขมับตัวเองด้วยความเหนื่อยใจ แต่ก็ทำได้เพียงถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆแทน นึกว่าเรื่องอะไร...ที่แท้ก็เรื่องนี้เนี่ยนะ...

     

                “ไม่” ตอบโดยไม่ต้องคิด...

     

                เมื่อได้ยินอย่างนั้นลูฟี่ก็ทำหน้ามุ่ยใส่อีกฝ่ายทันที “ไปส่งหน่อยยยย...”

     

                “ไม่” ถูกปฎิเสธเป็นครั้งที่สอง...

     

                ลูฟี่มุ่ยหน้าใส่อีกฝ่ายอีกครั้ง คิ้วบางทั้งสองขมวดเข้าชนกันยุ่ง ดวงตากลมโตจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็งด้วยความไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรออกไป “ก็ได้” พูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากร้านไปทันทีโดยไม่ลืมที่จะหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกฝ่ายด้วยความน้อยใจ

     

                ลอว์ลอบมองแผ่นหลังเล็กๆของอีกฝ่ายที่ไกลออกไปเรื่อยๆโดยไม่พูดอะไร แม้ในใจจะรู้สึกผิดที่ตอบไปแบบนั้นก็เถอะ...ทั้งๆที่รู้ว่าหมอนี่ไม่ชอบอยู่คนเดียวแท้ๆ...น่าเป็นห่วงแฮะ ไม่น่าตอบไปแบบนั้นเลย...

     

    ว่าแล้วก็ถอนหายใจออกมาอีกหน




                ลูฟี่ลากขาบางๆคู่นั้นออกมาจากร้านด้วยใบหน้ายุ่งที่ไม่รู้จะยุ่งยังไงแล้ว คิ้วบางทั้งสองก็ยังคงขมวดกันมุ่นไม่ได้คลายลงเลยแม้แต่น้อยแถมยังยิ่งขมวดกันมุ่นกว่าเก่าเมื่อนึกถึงใบหน้าของอีกฝ่าย

     

                โทราโอะบ้า! ไปส่งหน่อยก็ไม่ได้ ขี้ตืดชะมัด


                แหงล่ะ ก็มันน่าน้อยใจนี่นา..แค่ไปส่งห้องน้ำแค่นี้เอง ทำไมถึงไม่ยอมไปส่งกันนะ

     

                แต่ด่าไปก็เท่านั้นแหละ..ยังไงอีกฝ่ายก็ไม่มีทางได้ยินหรอก...ก็ว่าในใจนี่นา อีกอย่างต่อให้เขาพูดออกมาเสียตรงนั้นก็ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะได้ยินอยู่ดี

     

    คิดได้อย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ ขาบางๆทั้งสองของเขาก็ยังคงพาร่างเล็กของตัวเองเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ ดวงตากลมโตคู่สวยก็พลางกวาดสายตามองหาป้ายที่ชี้บอกทางไปห้องน้ำ อยู่ไหนกันนะ...ทำไมมันหายากอย่างนี้เนี่ย จะราดอยู่แล้ว...!


    แล้วการก้าวเท้าของเขาก็สะดุดลงเมื่อพบกับป้ายชี้ทางไปห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก เขาฉีกยิ้มกว้างออกมาราวกับว่ากำลังประสบความสำเร็จในชีวิตก่อนจะรีบสาวเท้ามุ่งหน้าไปยังเป้าหมายทันที


    แต่เดินไปได้ไม่ทันไรการก้าวเท้าของเขาก็ต้องหยุดลงเมื่อใบหน้าของเขาไปชนเข้ากับก้อนกลมๆนุ่มๆบางอย่างเข้าจนเขาถึงกับเซล้มลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้ากับพื้น

     

                “ข..ขอโทษนะคะ คุณไม่เป็นไรนะ”

     

                เสียงหวานที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมๆกับมือเรียวที่ถูกยื่นมาอยู่ตรงหน้าของลูฟี่เพื่อหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เขา

     

    เสียงนี้เป็นเสียงของผู้หญิงและลูฟี่จำเสียงนี้ได้...รุ่นพี่คนนั้น! คนที่เก็บจี้ฮาร์ทมาให้เขา! จริงสิ! พูดถึงจี้ฮาร์ทเขากะจะคืนมันให้เจ้าของตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วนี่นา...

     

    ลูฟี่ลูบจมูกตัวเองปอยๆพลางเงยหน้าขึ้นหาเจ้าของเสียง ใช่จริงๆด้วย! มันเป็นรุ่นพี่หน้าสวยคนนั้นจริงๆ ผิวของเธอยังคงผุดผ่องไม่ได้หมองเลยแม้แต่น้อย ริมฝีปากได้รูปของเธอถูกทาด้วยลิปกลอสบางๆเหมือนวันแรกที่เจอกันไม่มีผิด ผมสีเข้มของเธอถูกรวบขึ้นไว้เหนือหัวและนัยน์ตาสีดำสนิท...ยังคงดูน่าหลงไหลเหมือนเดิม

     

                “อ๊ะ น้องคนนั้นนี่นา”

     

                ทันทีที่เธอเห็นหน้าลูฟี่เธอก็กล่าวทักทายพร้อมกับฉีกยิ้มอย่างเป็นมิตร ลูฟี่ฉีกยิ้มยิงฟันกว้างตอบพลางหัวเราะออกมาตามแบบฉบับเจ้าตัวก่อนจะยื่นมือของตัวเองไปจับมือได้รูปนั่น...นุ่มชะมัด

     

                “โลกนี้มันแคบจังเลยเนอะ” เธอหัวเราะนิดๆก่อนจะพยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืน

     

                “นั่นสิเนอะ ชิชิชิ”

     

                “จะว่าไป..พี่มีเรื่องอยากจะถามอยู่พอดีเลย แต่ไม่ค่อยเจอน้องที่โรงเรียนเลยยังไม่ได้ถามสักทีน่ะ...เอาเป็นว่าพี่ชื่อ เบบี้ไฟว์ นะ เรียกว่าเบบี้ไฟว์เฉยๆก็ได้ไม่ต้องเรียกพี่หรอก...แล้วนายล่ะ?” หญิงสาวถามพลางฉีกยิ้มอย่างเป็นมิตร

     

                “ลูฟี่” ตอบแบบเรียบง่ายตามแบบฉบับเจ้าตัว

     

                “งั้นฉันขอถามอะไรหน่อยนะ ลูฟี่...” เธอพูดอย่าจงใจเว้นระยะ “นายเป็นอะไรกับลอว์งั้นหรอ?” พูดจบเธอก็ย่อตัวลงมาให้ใบหน้าของตัวเองอยู่ในระดับเดียวกับอีกฝ่ายพลางมองหน้าใสอีกฝ่ายด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

     

                ท..ทำไมถูกถามแบบนี้แล้วมันรู้สึกร้อนแปลกๆนะ ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกแล้วสิ...โธ่เอ๊ย แถมหัวใจก็ยังเต้นรัวอย่างกับมันจะเด้งออกมาจากอกเสียตรงนั้นอีกต่างหาก!

     

                “ม..ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย พวกเราน่ะ..เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นเอง..”

     

    ลูฟี่ตอบอย่างลนลานพลางหลุบหน้าลงพยายามซ่อนใบหน้าใสอันร้อนผ่าวของตัวเองไว้ไม่ให้เธอสังเกตเห็น แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปและไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับอะไรทั้งสิ้นก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย

     

    หญิงสาวหน้าสวยตรงหน้ากำลังจ้องมาที่เขาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ภายในดวงตาคมกริบคู่สวยนั้นช่างว่างเปล่า...และเยือกเย็นจนลูฟี่รู้สึกเสียววาบไปทั้งสันหลัง...

     

                “ท..ทำไมหรอ?”

     

                ลูฟี่รีบเปลี่ยนเรื่อง เขาถามออกไปพลางฉีกยิ้มแห้งๆมองหน้าอีกฝ่าย ฝ่ายผู้เป็นรุ่นพี่เมื่อถูกถามอย่างนั้นก็สะดุ้งนิดๆ เมื่อรู้สึกตัวเธอก็หัวเราะออกมาอย่างเขินๆ

     

                “ขอโทษทีๆ พอดีกำลังเหม่อน่ะ...” เธอยิ้มอย่างเป็นมิตรอีกครั้งก่อนจะยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูงเหมือนเดิม “ที่ถามไปน่ะไม่มีอะไรหรอก...ฉันกับลอว์เป็นคู่หมั้นกันน่ะ”

     

                อยู่ๆลูฟี่ก็รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาที่อกข้างซ้ายเสียอย่างนั้นราวกับหัวใจกำลังถูกบดขยี้ให้เละคามือด้วยมือที่มองไม่เห็น.....

     

    ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายราวกับพิษงูที่แทรกซึกเข้าไปในกระแสเลือดพร้อมที่จะทำลายไอก้อนเนื้อที่เต้นตุบๆตรงอกด้านซ้ายนั่นทุกเมื่อ หัวใจที่เคยเต้นตึกตักอย่างมีชีวิตชีวาหยุดเต้นไปชั่วขณะ สมองไม่อาจสั่งการไปชั่วครู่ สรรพเสียงรอบกายก็พลันอื้ออึงไปอย่างไร้เหตุผล

     

    เจ็บ...เจ็บชะมัด ไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อนเลย...ความรู้สึกนี่มันอะไรกันนะ? เจ็บเหลือเกิน...ราวกับ..กำลังถูกดึงให้จมลงสู่ก้นทะเลที่แสนจะมืดมิดและว่างเปล่า...

     

                “อ..อ๋อ งั้นหรอ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย” ลูฟี่พูดพลางหัวเราะพลาง ซ่อนความเจ็บปวดและรอยน้ำตาเอาไว้ใต้รอยยิ้มกว้างนั่น

     

                “พอดีที่บ้านฉันกับที่บ้านลอว์น่ะสนิทกันมากๆ ตั้งแต่ฉันกับลอว์ยังเด็ก ตอนนั้นก็น่าจะประมาณสิบกว่าปีได้แล้วมั้ง เธอพูดพร้อมกัยฉีกยิ้มบางๆ “พวกท่านก็เลยให้พวกเราหมั้นกันเมื่อไม่นานมานี้เอง”


                “งั้นหรอ..ก็ดีแล้วล่ะ เธอเหมาะกับหมอนั่นดีนะ ชิชิชิ” ลูฟี่พูดพลางหัวเราะพลาง เขายังคงรอยยิ้มกว้างอันเป็นเอกลักษณ์ไว้บนใบหน้า “งั้นฉันไปก่อนนะ ปวดฉี่จะราดอยู่แล้ว บ๊ายบาย~

     

    พูดจบก็โบกมือลาด้วยใบหน้าระบายยิ้มแล้วลากขาบางๆที่แทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงออกมาจากตรงนั้น เมื่อแน่ใจว่าพ้นสายตาอีกฝ่ายแล้วลูฟี่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแต่ในใจของเขาก็ยังคงเจ็บช้ำไม่ได้ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย...

     

    เขายกมือขึ้นทาบหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองเบาๆ

     

    เจ็บจนหน้าชาเลยแฮะ..ไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อนเลย เจ็บจน..แทบจะหายใจไม่ออก เรี่ยวแรงจะหายใจหรือขยับกล้ามเนื้อยังไม่มีเลย แค่ขยับริมฝีปากเป็นรอยยิ้มยังยากเย็นแสนเข็ญ แค่นี้..ยังทำไมได้เลยด้วยซ้ำ...น่าสมเพชชะมัด...

     

    โอ๊ย! เป็นอะไรไปเนี่ยลูฟี่! ไม่เห็นจะต้องไปสนใจเลย ก็แค่หมอนั่นมีคู่หมั้นอยู่แล้วเท่านั้นเอง คนสวย..กับคนหล่อก็ต้องคู่กัน มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ก็เหมาะสมกันดีแล้วแท้ๆ แต่ทำไม...ถึงรู้สึกร้อนๆตรงขอบตานะ..

     

                ลูฟี่กัดริมฝีปากอวบอิ่มของตัวเองแน่นก่อนจะยกหลังมือขึ้นปาดหยดน้ำใสๆที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตากลมโตคู่สวยของเขา

     

     

     

                ขาบางๆที่พอจะมีกล้ามเนื้อแบบผู้ชายอยู่บ้างก้าวเท้าพาร่างของตัวเองออกมาจากห้องน้ำสำหรับผู้ชายมุ่งหน้าตรงไปยังร้านไอศกรีมร้านเดิมที่เขาเดินออกมา

     

    ปวดตาชะมัด..หยุดร้องไห้ไม่ได้เลย เกิดมาไม่เคยร้องไห้หนักขนาดมาก่อนเลย...ว่าแล้วลูฟี่ก็เผลอถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ขาบางๆทั้งสองข้างยังคงก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไปแม้จะไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลืออยู่เลยก็ตาม...

     

    แต่เดินไปได้ไม่นานลูฟี่ก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อรู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่นๆบนไหล่ข้างซ้ายของตน แล้วเขาก็ต้องหันไปตามที่มาของสัมผัสอุ่นบนไหล่ของเขา

     

    ชายร่างสูงกำยำกับแว่นกันแดดคู่ใจอันคุ้นเคยที่ถูกคาดไว้บนหัว ผิวสีขาวซีดราวกับผีดิบเดินได้ ผมสีแดงที่ชี้ขึ้นไม่เป็นทรงราวกับกระเดือกเม่นลงไปทั้งตัว...นัยน์ตาสีอำพันนักล่าที่พร้อมจะกระโดดเข้าตระครุบเหยื่อตรงหน้าได้ทุกเมื่อ...

     

                “เม่น...”

     

                “ไง..ใช่นายจริงๆด้วย” ว่าแล้วก็ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์พลางยกแขนบึกบึนนั่นขึ้นโอบรอบคอของลูฟี่อย่างถือวิสาสะ “จำฉันได้ด้วยแฮะ น่าประทับใจจัง”

     

    ชายร่างยักษ์พูดพร้อมกับหัวเราะต่ำๆในลำคอเป็นเหตุให้ลูฟี่ต้องมุ่ยหน้าใส่อีกฝ่ายทันที

     

    ให้ตายสิ..นี่มันวันอะไรของเขานะ...ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะมารู้ว่าโลกมันโคตรจะแคบก็วันนี้นี่แหละ ที่อื่นมีตั้งร้อยแปดที่ ทำไมต้องมาที่เดียวกัน วันเดียวกัน แล้วทำไมต้องมาเจอกันด้วยนะ...เมื่อกี้ก็รุ่นพี่คนนั้น..คราวนี้จะมาทำให้เขาเจ็บอะไรอีกล่ะ

     

                ลูฟี่ไม่ได้ขัดขืนอะไรเขายังคงนิ่งเงียบส่งผลให้อีกฝ่ายถึงกับต้องขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยกับการกระทำของเขาเลยทีเดียว

     

                “เป็นอะไรของนาย วันนี้ไม่เห็นดิ้นแถมยังดูเงียบๆอีก”

     

                ลูฟี่เหลือบมองใบหน้าอันคมคายของอีกฝ่ายก่อนจะกลอกตาหนีแล้วส่ายหน้าเบาๆ มือบางๆของเขาก็พลางยกขึ้นจับมือหนาของอีกฝ่ายแล้วยกออกอย่างแผ่วเบาก่อนขาเล็กๆคู่นั้นจะเดินหน้าต่ออีกครั้ง

     

    เมื่อเห็นอย่างนั้นชายร่างยักษ์ก็รีบสาวเท้าตามอีกฝ่ายไปด้วยความเป็นห่วง

     

                “เอาเถอะ ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร” เขาพูดพลางมองแผ่นหลังเล็กๆของอีกฝ่าย “ฉันชื่อ คิด ไม่ใช่เม่น เพราะฉะนั้นช่วยจำไว้ด้วยล่ะ...”

     

    นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ที่ยอมคุยดีๆหรือทำตัวดีๆกับคนอื่นแบบนี้ ก็แหงล่ะ..อีกฝ่ายซึมไปซะขนาดนั้นใครจะไปกล้าใจร้ายใส่ใด้ลงคอ...

     

                ยังไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย ริมฝีปากของลูฟี่ยังคงนิ่งเงียบไม่ขยับ ที่ขยับก็คงจะเป็นขาเล็กๆที่ไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงคู่นั้นที่พยายามพาร่างของตัวเองเดินหน้าต่อไป

     

                เดินไปได้สักพักลูฟี่ก็เริ่มมุ่ยหน้าด้วยความไม่พอใจเมื่ออีกฝ่ายยังคงเดินตามเขามาแบบไม่มีท่าทีว่าจะหยุดถึงแม้หมอนั่นจะไม่ได้ปริปากพูดอะไรเลยก็ตาม จะเดินตามไปถึงไหนนะ...อีกอย่างถ้าเดินไปเจอลอว์เข้าล่ะก็เรื่องจบไม่สวยแน่ๆ

     

                “นี่นายน่ะ! จะเดินตามฉันไปถึงไหนกัน!? เจ้าเม่น!” ว่าแล้วก็โวยวายใส่ตามระเบียบ

     

                ลูฟี่หันไปหาอีกฝ่ายด้วยใบหน้ายุ่งที่ไม่รู้จะยุ่งยังไงแล้วพลางโวยวายใส่อีกฝ่ายตามแบบฉบับเจ้าตัวเป็นเหตุให้อีกฝ่ายยกยิ้มเจ้าเล่ห์ด้วยความพึงพอใจ

     

                “กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วนี่”

     

                “ไปไหนก็ไปเลย” ลูฟี่ยกนิ้วขึ้นดึงเปลือกตาล่างลงก่อนจะแลบลิ้นใส่อีกฝ่าย

     

                 คิดไม่มีท่าทีจะสนใจการแลบลิ้นปลิ้นตาของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อยแถมยังคิดว่าน่ารักกว่าเดิมด้วยซ้ำ...เขายกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นรอยยิ้มแบบไหนพลางเดินเข้ามาใกล้อีกฝ่ายช้าๆซึ่งลูฟี่เองก็ไม่มีท่าทีว่าจะหนีแต่ก็ยังจ้องอีกฝ่ายด้วยใบหน้ายุ่ง...

     

    ดูๆไปหมอนี่ก็เป็นคนดีเหมือนกันแฮะ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดสักเท่าไหร่ ยังอุส่าห์เดินมาเป็นเพื่อนแถมยังดูเป็นห่วงเขามากกว่าคนบางคนเสียด้วย

     

                “หายซึมแล้วนี่” ว่าพลางยกมือหนาขึ้นขยี้หัวของอีกฝ่ายอย่างแรงจนเรือนผมสีดำขลับที่ยุ่งเหยิงอยู่แล้วยุ่งเหยิงมากกว่าเก่า

     

                ลูฟี่ปัดมือหนาอีกฝ่ายออกก่อนจะแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกครั้งซึ่งอีกฝ่ายก็ทำเพียงแค่ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์พลางหัวเราะต่ำๆในลำคออย่างพึงพอใจ

     

                “ถามอะไรหน่อยดิ...” คิดพูดก่อนจะก้มมองอีกฝ่ายที่ตัวเล็กกว่า “ฉันขอถามอีกครั้ง..แกเป็นของไอหมอนั่นจริงๆหรอ?”

     

                คำถามนั้นทำเอาลูฟี่ถึงกับผงะ..เขา..เป็นของลอว์จริงๆหรอ? หมอนั่นเคยบอกไว้ว่าเขาเป็นของหมอนั่นเมื่อวันนั้นในตรอกเล็กๆนั่นแต่...

     

    เขาควรจะตอบยังไงนะ...ถ้าตอบว่าใช่ล่ะ? หมอนี่จะมาตามรังควานแบบที่ลอว์เคยบอกจริงๆหรือเปล่า...ไม่สิ เขาไม่ใช่ของลอว์ ลอว์น่ะ..ลอว์น่ะนะ..มีเจ้าของ..ที่คู่ควรกับเขาอยู่แล้วนี่นา อีกอย่างหมอนี่ก็ไม่เห็นจะเลวร้ายเท่าไหร่เลย ถ้าเขาตอบไปว่าไม่ลอว์ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรสักหน่อย


    ยังไงหมอนั่นก็ไม่สนใจเขาอยู่แล้วนี่..แค่เดินมาส่งที่ห้องน้ำยังไม่ทำเลย เรื่องคู่หมั้นก็ไม่บอก เขาหายไปนานขนาดนี้ยังไม่คิดจะมาตามด้วยซ้ำ...เจ็บชะมัด


                 ลูฟี่เม้มริมฝีปากแน่นด้วยความเจ็บปวดก่อนจะหลุบตาลง...ดวงตาสัมผัสได้ถึงความชื้นอุ่นๆอีกครั้ง แต่...ความจริงก็ยังคงเป็นความจริง ยังไงก็ไม่มีทางหนีพ้นหรอก...

     

                 “ไม่ใช่..ฉันน่ะ ไม่ใช่ของโทราโอะสักหน่อย”


    - to be continue -


                   สวัสดีค่ะTvT กลับมาอัพแล้วค่ะ คิดถึงกันไหมมมมม#ผิดมหันต์ เอาเป็นว่ามีเรื่องอยากจะชี้แจงอยู่นิดๆหน่อยๆค่ะTwT คือที่เอาคู่หมั้นของคุณหมอเป็นเบบี้ไฟว์นี่นิสัยอาจจะไม่ได้เหมือนกับของจริงนะคะแค่ลุคนางได้เฉยๆ(?)เลยจับมาเป็นคู่หมั้นซะเลย #ผิดมาก สองค่ะคุณเม่นด้วยเช่นกันค่ะ อาจจะหลุดคาแรคเตอร์ไปนิดๆ(มั้ง?)แต่อยากให้อารมณ์ประมาณแบดบอยกลายเป็นคนอบอุ่นเพราะมาหลงรักนางเอก(?)ของเราอะไรแบบนี้ค่ะ แลดูอบอุ่น ถถถถ#หลบเท้า สามค่ะ ตอนนี้อาจจะสั้นไปนิดดด แต่ช่างมัน ฟฟฟฟว์#ผิด

                   ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ มีข้อผิดพลาดประการใดก็บอกกันได้เสมอเนอะ รักรีดเดอร์ทุกคนนะคะ <3 อ่านกันแล้วก็อย่าลืมคอมเม้น กดติดตาม หรือกดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ จุ้บๆ <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×