คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 15
- Chapter 15 -
ภายในห้องนอนสีเหลี่ยมที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบๆ แสงแดดสีทองเทเฉียงสาดทะลุผ้าม่านผืนบางเข้ามา ไม่มีเสียงใดเกิดขึ้นมีเพียงเสียงลมหายใจของเด็กหนุ่มผมดำขลับร่างเล็กที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงเท่านั้นที่ดำเนินอยู่
ดวงตากลมโตสีดำสนิทคู่สวยจ้องมองไปยังตุ๊กตาหมีสีขาวตัวโตที่ตั้งอยู่ตรงหัวเตียงสลับกับจี้รูปหัวใจในมือไปมา
คิ้วบางๆก็ยังคงขมวดมุ่นไม่ได้คลายลงเลยตั้งแต่เมื่อเช้า นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของลูฟี่เลยก็ว่าได้ที่เขาขมวดคิ้วได้นานขนาดนี้...
วันนี้เป็นวันเสาร์
อากาศดูแจ่มใสปกติดีและเขาไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องไปโรงเรียนเหมือนพี่ชายทั้งสองที่ต้องไปช่วยอาจารย์เก็บกวาดซากอารยธรรมต่างๆที่รุ่นน้องมัธยมต้นเหลือไว้จากงานกิจกรรมเชื่อมไมตรีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ลูฟี่ได้แต่นั่งทำหน้ามุ่ยมองตุ๊กตาหมีตัวโตที่กำลังจ้องเขากลับด้วยดวงตากลมโตสีดำสนิทแวววาวราวหยดน้ำค้างสีดำคู่สวย ในใจก็นึกโกรธคนคนนั้นอยู่ไม่น้อยแต่ทำไงได้ล่ะ...ก็มันเป็นความผิดของเขาเองนี่นา...
ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นยังคงฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวเขาอย่างไม่หยุด
พอนึกถึงเรื่องวันนั้นทีไรพวงแก้มทั้งสองข้างของเขาก็พลันร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้แถมหัวใจก็ยังเต้นรัวผิดจังหวะอีกต่างหาก
ลูฟี่สะบัดหัวไล่ความคิดทั้งหมดออกก่อนจะวางจี้ไว้บนโต๊ะหัวเตียงแล้วทิ้งตัวลงบนตุ๊กตาหมีสีขาวตัวโตอย่างหมั่นเขี้ยว
เพราะเจ้าบ้านั่นแท้ๆ...ทำให้เขาต้องกลายเป็นแบบนี้
แต่ถ้าไม่มีหมอนั่น...เขาก็คงไม่ได้ตุ๊กตาหมีนี่มาล่ะนะ
'♫~'
สมาร์ทโฟนที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงแผดเสียงร้องเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีคนโทรเข้า
ลูฟี่รีบลุกขึ้นจากตุ๊กตาหมีแล้วยื่นมือไปหยิบ
แต่เมื่อเห็นชื่อคนโทรเข้าที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอเขาก็วางมันลงที่เดิมอีกครั้งพลางทำหน้ามุ่ยใส่สมาร์ทโฟนของตน
ไม่นานเสียงสมาร์ทโฟนของเขาก็เงียบไปเมื่อไม่มีคนกดรับสาย แต่แล้วมันก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
ลูฟี่กอดตุ๊กตาหมีมองดูสมาร์ทโฟนที่กำลังแผดเสียงของตัวเองอย่างไม่ลังเลว่าเขาจะไม่รับสายเด็ดขาด คิ้วของเขากลับมาขมวดเข้าหากันอีกครั้ง นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาเลยที่วันหนึ่งเขาจะขมวดคิ้วได้ติดต่อกันหลายครั้งขนาดนี้...
เมื่อไม่มีคนรับสาย สมาร์ทโฟนของเขาก็เงียบลงไปอีกครั้ง แต่ไม่นานมันก็ต้องแผดเสียงอีกเมื่อคนโทรเข้ายังคงโทรมาหาเขาอย่างไม่มีใครยอมใคร
แต่มีหรือที่จะมีคนเอาชนะความเอาแต่ใจของลูฟี่ได้น่ะ...
แน่นอนสมาร์ทโฟนของลูฟี่เงียบลงอีกครั้ง...ไม่มีวี่แววการโทรมาของอีกฝ่าย
เงียบกริบ...สมาร์ทโฟนของเขานอนตายอย่างสงบอยู่บนโต๊ะหัวเตียงเช่นเดียวกับจี้รูปหัวใจเส้นนั้น
คิ้วบางของลูฟี่คลายปมออกก่อนเขาจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทว่า...ริมฝีปากอวบอิ่มของเขากลับไม่ได้ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเลยแม้แต่น้อย..
“หมวกฟาง-ยะ! ออกมาเดี๋ยวนี้!”
แล้วลูฟี่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงตะโกนที่คุ้นเคยดังขึ้น
เขารีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วตรงปรี่ไปยังระเบียงห้องอย่างทุลักทุเล
ลูฟี่กระชากผ้าม่านบางๆออกแล้วเปิดประตูกระจก วินาทีนั้นลมวูบใหญ่พัดมากระทบกับใบหน้าหวานของเขา
ผมสีดำสนิทปลิวลู่ไปตามทิศทางของลม ดวงตากลมโตคู่สวยเบิกกว้างเมื่อพบกับร่างสูงที่คุ้นเคยยืนอยู่ด้านล่าง...ตรงหน้าประตูรั้ว...
“โทราโอะ...”
ลอว์ในเสื้อยืดคอกว้างแขนยาวกับกางเกงยีนส์สีฟ้าตัวเดิมยืนแนบสมาร์ทโฟนสีขาวกับหู ในมืออีกข้างถือหมวกกันน๊อคเต็มใบโดยมีบิ๊กไบค์สีดำจอดอยู่ข้างๆ คิ้วหนาของเขาขมวดเข้าหากันมุ่น นัยน์ตาสีเทาหินโมราคู่สวยจ้องมองมายังใบหน้าหวานของลูฟี่ที่ยืนอยู่บนระเบียงชั้นสองเขม็งราวกับจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัว
ลูฟี่ได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างหวั่นๆแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป ลอว์ลดมือลงช้าๆทว่ายังคงกำสมาร์ทโฟนสีขาวของเขาเอาไว้แน่น
“ลงมา!”
เพียงคำเดียวสั้นๆที่เปล่งออกมาจากปากของลอว์ทำเอาคิ้วบางทั้งสองของลูฟี่ขมวดเข้าหากันอีกครั้ง
เขายกนิ้วขึ้นดึงเปลือกตาล่างลงแล้วแลบลิ้นใส่อีกฝ่ายอย่างจงใจเยาะเย้ย
“จ้างให้ก็ไม่ลง!”
“จะลงหรือไม่ลง!”
ไม่ใช่ประโยคคำถาม...แต่เป็นประโยคคำสั่ง
ลูฟี่ไม่ตอบอะไรและยังคงแลบลิ้นปลิ้นตาเย้าหยอกชายตรงหน้าอย่างไม่แยแสในคำพูดของเขาเลยสักนิด ลอว์ยัดสมาร์ทโฟนของตัวเองใส่ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาหาลูฟี่อีกครั้ง
“ถ้าไม่ลง...” ลอว์กล่าวอย่างจงใจเว้นระยะ “ฉันจะขึ้นไปหานาย!”
ลอว์ประกาศกร้าว
ลูฟี่ถึงกับผงะเล็กน้อยแต่ก็ต้องกลับมาทำหน้ามุ่ยอีกครั้ง
แน่ล่ะ...ต่อให้เขาไม่ลงไปยังไงอีกฝ่ายก็ขึ้นมาไม่ได้หรอก ประตูบ้านก็ล๊อค...ประตูรั้วก็ล๊อค จะขึ้นมาได้ยังไงกันล่ะ
“แน่จริงก็ขึ้นมาสิ!”
พูดจบก็แยกเขี้ยวใส่พลางแลบลิ้นปลิ้นตาเยาะเย้ยให้อีกฝ่ายได้หมั่นไส้เล่นแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูและปิดผ้าม่าน
ลูฟี่ทิ้งตัวฝังร่างของตัวเองให้จมลงกับเตียงนุ่มดวงตากลมโตคู่สวยเหม่อมองเพดานที่มีสติ๊กเกอร์เรืองแสงมากมายถูกแปะอยู่ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยใบหน้าหน่ายๆ
แต่แล้วก็ต้องฉีกยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ
หึ...สุดท้ายก็ขึ้นมาไม่ได้...
ลูฟี่ยิ้มออกมาอย่างภูมิอกภูมิใจที่ในชัยชนะของตนแต่ยิ้มได้ไม่นานเขาก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากประตูระเบียง
เขาเด้งตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนจะหันหน้าหาต้นตอของเสียงและดวงตากลมโตคู่สวยก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างสูงที่คุ้นเคยยืนกอดอกพิงประตูระเบียงมองหน้าจน
“น..นาย..ขึ้นมาได้ยั..โอ๊ย!
มันเจ็บนะ!”
ลูฟี่ยังพูดไม่ทันจบมือหนาๆของลอว์ก็ยื่นมาบีบจมูกเล็กๆของเขาอย่างแรงจนลูฟี่ถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บมือเล็กๆก็พยายามปัดมือหนาที่บีบจมูกของตัวเองออกอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อยเลยน่ะสิ...
“ก็ปีนระเบียงขึ้นมาน่ะสิ
คิดว่าฉันไม่กล้าหรอ”
“อื้อ!
ปล่อยๆๆๆๆ!”
ลอว์ถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆก่อนจะตัดสินใจปล่อยจมูกเล็กให้เป็นอิสระในที่สุด
ฝ่ายลูฟี่เมื่อจมูกของตนถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็ยกมือขึ้นลูบจมูกที่ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเจ็บ
ลอว์มองลูฟี่ที่ทำหน้ามุ่ยลูบจมูกตัวเองปอยๆโดยไม่พูดอะไร
ลูบจมูกตัวเองได้ไม่นานก็เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายที่สูงกว่าด้วยใบหน้ายุ่ง
“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย
นายจะปีนขึ้นมาทำไมเล่า!”
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
พูดจบก็นั่งลงบนเตียงของลูฟี่อย่างถือวิสาสะพลางจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง
ฝ่ายลูฟี่ก็ได้แต่ขมวดคิ้วมองหน้าลอว์ด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรออกไป
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบมีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองที่ดังประสานกันเท่านั้นที่ดังอยู่ทำเอาหัวใจของลูฟี่เต้นรัวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
นันย์ตาสีเทาหินโมรากับนัยน์ตาสีดำกลมสบกันด้วยความตึงเครียด เหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวานอย่างห้ามไม่ได้ ทั้งห้องเงียบจนลูฟี่กลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่กำลังเต้นรัวผิดจังหวะอยู่ ในวินาทีนั้นเขาแทบไม่กล้าแม้แต่จะหายใจด้วยซ้ำ
“เรื่องเมื่อวาน...”
ทันทีที่ลอว์เอ่ยประโยคแรกออกมาลูฟี่ก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งสันหลัง
นัยน์ตาสีเทาหินโมราคู่สวยยังคงจ้องมองมายังนัยน์ตาสีรัตติกาลของลูฟี่อย่างไม่วางตา
ลูฟี่เผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่โดยไม่รู้ตัว คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันมุ่น พวงแก้มทั้งสองขึ้นสีแดงระเรื่อ
หัวใจก็พลันเต้นรัวขึ้นกว่าเดิมจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายที่ทำสีหน้าเรียบเฉยจนไม่อาจคาดเดาได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“นาย...”
ลอว์พูดด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบพลางหลุบตาลง
น่าเสียดาย...ที่ครั้งนี้เขาไม่ได้ใส่หมวกขนสัตว์สีขาวใบโปรดจึงไม่สามารถซ่อนดวงตาคู่สวยนั่นไว้ใต้ปีกหมวกได้
ฝ่ายลูฟี่ก็จ้องหน้าลอว์ตาไม่กระพริบ
หัวใจก็ยังคงเต้นรัวราวกับมีคนมาตีกลองอยู่ในอก
ให้ตายสิ...ลุ้นระทึกเสียยิ่งกว่าดูหนังสยองขวัญอีก
ริมฝีปากของลอว์ขยับอีกครั้ง...
“ลูฟี่!!”
ทั้งสองสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากชั้นล่าง
ใช่แล้ว...เสียงของพี่ชายเขาไงล่ะ ซาโบ
เสียงฝีเท้าดังขึ้นใกล้เข้าห้องของลูฟี่มากขึ้นเรื่อยๆ
ลูฟี่มองซ้ายมองขวาสลับกับคนตรงหน้าอย่างลนลาน เขาต้องหาที่ซ่อนให้ลอว์
ไม่อย่างงั้นล่ะก็...หมอนี่ตายแน่ ก็คนที่จูบกับเขาเมื่อวานมานั่งอยู่ในห้องนอนของเขาแบบนี้ขืนซาโบเอาไปบอกเอสหรือเอสมาเห็นเข้าล่ะก็แย่แน่ๆ!
เนื่องจากคิดอะไรไม่ออกแล้วลูฟี่จึงผลักลอว์ลงนอนบนเตียงของตนแล้วรีบดึงผ้าห่มมาคลุมไว้โดยไม่ลืมที่จะเอาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มาวางทับเพื่ออำพรางให้แนบเนียนยิ่งขึ้น ตอนนั้นเองก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ซาโบเปิดประตูเข้ามาอย่างพอดิบพอดี
“บิ๊กไบค์ใครจอดอยู่หน้าบ้านเราน่ะ? เพื่อนนายมาหรอ?”
“อ..อ๋อ เปล่าๆ
ไม่ใช่ สงสัยของคนข้างบ้านมาจอดไว้มั้ง”
ลูฟี่ตอบด้วยข้ออ้างที่ไม่ค่อยจะน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่พร้อมกับฉีกยิ้มแห้งๆให้แต่ซาโบก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อให้มากความเขายักไหล่เบาๆอย่างไม่แยแสก่อนจะพูดต่อ
“ฉันกับเอสเพิ่งเสร็จงานที่โรงเรียนอีกเดี๋ยวจะออกไปหาอะไรกินแล้ว
ไปด้วยกันไหม?”
“ม..ไม่เป็นไร
นายไปเถอะ ฉันเพิ่งกินมาน่ะ”
ลูฟี่ตอบพร้อมกับฉีกยิ้มแห้งให้พี่ชายของเขาอีกครั้ง เมื่อซาโบเห็นอย่างนั้นคิ้วหนาของเขาก็ขมวดเข้าหากันมุ่นด้วยความแปลกใจ ลูฟี่เนี่ยนะ ปฏิเสธของกิน? โลกแตกแน่ๆ...
“โย่ ลูฟี่
ยืมบอลหน่อยสิ เย็นนี้ฉันจะไปเตะบอลที่สนาม”
แต่ไม่ทันที่ซาโบจะได้อ้าปากถามอะไรเอสก็โผล่มาจากข้างหลังของเขาพร้อมกับเดินเข้ามาหยิบลูกฟุตบอลของลูฟี่ที่วางอยู่ข้างโต๊ะเขียนหนังสืออย่างถือวิสาสะ
เอสเอ่ยปากชวนลูฟี่อีกครั้งแต่เมื่อเห็นว่าลูฟี่ปฏิเสธก็ลากคอซาโบออกไปทันทีโดยไม่เอะใจแม้แต่น้อยเพียงเพราะเหตุผลเดียวคือ
เขาหิว...
เมื่อเห็นว่าพี่ชายทั้งสองออกไปแล้วลูฟี่ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วดึงผ้าห่มออก แล้วก็ต้องพบกับใบหน้าบอกบุญไม่รับของอีกฝ่ายที่จ้องเขาเขม็งด้วยความไม่พอใจแต่สิ่งที่ลอว์ได้กลับมาคือรอยยิ้มที่ฉีกกว้างกับเสียงหัวเราะของเจ้าตัวเท่านั้น
เขาลุกขึ้นนั่งพลางมองใบหน้าหวานของอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
ส่วนลูฟี่ก็ได้แต่มองกลับด้วยดวงตาคู่สวยที่แฝงไปด้วยความสงสัย
“เรายังคุยกันไม่จบ”
ลอว์พูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาทำเอาลูฟี่ถึงกับใจหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่ม มือบางของลูฟี่กำผ้าห่มไว้แน่น เหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นมาบนไรผมและหน้าผากไหลอาบแก้มใสให้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เมื่อเห็นใบหน้าลุ้นระทึกของอีกฝ่ายลอว์ก็หลับตาลงก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแล้วในที่สุดก็ตัดสินใจพูดออกไปในที่สุด
“นาย...” ลอว์เม้มริมฝีปากแน่นพลางเบือนหน้าหนี
“นาย..โกรธฉัน...รึเปล่า?”
เมื่อลอว์พูดจบลูฟี่ก็พระพริบตาปริบๆมองอีกฝ่ายอย่างอึ้งๆระคนงงงวยแต่เมื่อสมองประมวลคำพูดของอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้วก็ถึงกับก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากลั้นหายใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง...ลูฟี่คิดว่าฝ่ายที่ควรจะโกรธคือลอว์ต่างหากเพราะคนที่ทำกระดาษตกคือลูฟี่ แต่ฝ่ายนั้นดันคิดว่าเขาโกรธเสียอย่างนั้น...
“ใช่
ฉันโกรธนาย มากด้วย” ..จริงๆไม่ได้โกรธหรอก “เพราะนายนั่นแหละ
มีแต่คนแชร์ภาพนั้นเต็มเฟสบุ๊คเลย ฉันโดนเอสกับซาโบบ่นหูแทบฉีกแถมยังโดนพวกผู้หญิงบางคนมาด่าๆๆ ดีนะที่ปู่การ์ปยังไม่รู้เรื่องน่ะไม่งั้นเรื่องใหญ่กว่านี้แน่ อ๋อ แล้วก็นะ...”
“พอ”
ลูฟี่พูดไม่ทันจบลอว์ก็ตัดบทโดยการเอามือหนาของตัวเองมาปิดปากของลูฟี่ไว้ก่อน
ลูฟี่ได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ในลำคอมือบางทั้งสองก็พยายามแกะมือหนาของอีกฝ่ายออก ฝ่ายลอว์ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆกับการกระทำแบบเด็กๆของลูฟี่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
เมื่อสาแก่ใจแล้วจึงปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ ลูฟี่ที่ถูกปล่อยจากพันธนาการทำหน้ามุ่ยใส่ชายร่างสูงกว่าและเตรียมพร้อมที่จะโวยวายใส่ทุกเมื่อแต่ยังไม่ทันที่เขาจะอ้าปากส่งเสียงร้องสักแอะลอว์ก็เอานิ้วชี้ของเขาเองมาแตะที่ริมฝีปากอวบอิ่มของลูฟี่ไว้เสียก่อน
“ชู่ว...เดี๋ยวพาไปเลี้ยงไอติม แต่งตัวซะ”
พูดจบลูฟี่ก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความงุนงงแต่ลอว์ไม่ปล่อยให้ลูฟี่ถามอะไรต่อเขาเดินตรงไปยังประตูระเบียงและเปิดมันออกก่อนจะปีนออกไปราวกับเจ้าชายปริศนาในเทพนิยายที่โผล่มาและจากไปในยามค่ำคืนโดยไม่มีแม้แต่คำกล่าวลาสักคำ
ลูฟี่ก็ได้แต่มองประตูระเบียงตัวเองอย่างอึ้งๆระคนงุนงงแต่เมื่อตั้งสติได้ก็รีบเด้งตัวออกจากเตียงแล้วเดินไปปิดประตูระเบียงทันทีโดยไม่ลืมที่จะปิดผ้าม่านด้วยเช่นกัน
เขาหันหลังชนประตูและแหงนหน้ามองเพดานห้องพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะยกมือบางๆของตัวเองขึ้นวางบนอกซ้ายของตัวเองเบาๆ อา...หัวใจเต้นรัวอีกแล้วสิ
- to be continue -
สวัสดีค่ะ=w= ตอนนี้อาจจะสั้นไปหน่อยแต่เนื่องจากมีคนเรียกร้องมาเยอะเหลือเกินTwT เลยมาอัพก่อนค่ะ แต่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เค้าก็ลืมไปเกือบหมดแล้วเนื่องจากไม่ได้อัพซะนานTOT(อย่าโกรธกันเลยนะคะ ฮือ) จำได้แต่ตอนจบค่ะ ฮรือออออT_T //ชีวิตเศร้า(?) ส่วนรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็จำไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่พอไปนั่งหาทีละบทๆมันก็ไม่เจออยู่ดีอ่ะค่ะT_T ใครที่สังเกตรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่มันผิดไปก็เตือนกันด้วยนะคะ;w;
ตอนที่นั่งเขียนตอนนี้ก็ลำบากเล็กน้อยเหมือนกันนะคะจะบรรยายห้องนอนของหนูลูฟี่ซะหน่อยแต่ก็จำไม่ได้ว่าตัวเองเคยเขียนไปแล้วรึเปล่า#ผิด เท่าที่จำได้ไม่เคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้นะคะแต่เพลย์เซฟไว้ก่อนค่ะ ถถถว์
ยังไงอ่านจบกันแล้วก็อย่าลืมคอมเม้น กดติดตาม หรือกดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะ^^ และหากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ติได้ตามสบายค่า ไรท์ไม่กัด^__^ ถึงกัดก็ไม่เจ็บ <3
ความคิดเห็น