ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] : (One Piece) Law x Luffy คุณหมอเย็นชากับนายตัวแสบ!!

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 60


    CR.SHL

    - Chapter 10 -

     

                แสงแดดสีทองอ่อนๆยามเช้าเทเฉียงสาดทะลุผ้าม่านสีขาวบางเข้ามาในห้องสีเหลี่ยมที่ถูกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง เฟอร์นิเจอร์เกือบทั้งหมดในห้องเป็นสีขาวและสีเทาไม่มีอะไรโดดเด่น แต่กลับดูโออ่าอย่างน่าประหลาด

                ใบหน้ายุ่งคมเข้มลืมตาขึ้นช้าๆ เผยให้เห็นนัยน์ตาสีเทาหินโมราคู่สวย ใต้ดวงตาทั้งสองถูกประดับด้วยรอยคล้ำจากการไม่ได้นอน เขายกมือหนาขึ้นเสยผมสีดำขลับของตัวเองอย่างลวกๆก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบนาฬิกาปลุกดิจิตอลที่ตั้งอยู่ใกล้ๆแก้วน้ำทรงสี่เหลี่ยมบนโต๊ะข้างเตียงมาดู เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้ววางมันกลับลงบนโต๊ะเหมือนเดิม

                ชายหนุ่มขดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนหนาอีกครั้งพลางพลิกตัวตะแคงอีกข้าง

    ~

    ทันทีที่สมาร์ทโฟนแผดเสียง คนที่ถูกปลุกอีกครั้งก็ขมวดคิ้วหนาเข้าหากันมุ่น ก่อนจะพลิกตัวกลับมาข้างเดิมมือหนาเอื้อมไปหยิบสมาร์ทโฟนเจ้ากรรมของตัวเองแล้วกดรับสายพลางยกขึ้นมาแนบกับหูโดยพูดอะไร

    “เฮ้ยๆ นี่มันเปิดเทอมมาจะอาทิตย์แล้วไม่คิดจะมาเรียบเลยยรึไง แกมีเรียนตอน 9 โมงไม่ใช่หรอ นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ” เสียงทุ้มต่ำดังกรอกหูของเขาอย่างไม่สบอารมณ์ ในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความไม่พอใจอย่างไม่ปกปิด

    “เออๆ รู้แล้ว” เขาตอบกลับไปห้วนๆก่อนจะกดตัดสายทิ้งแล้ววางสมาร์ทโฟนสีขาวของตัวเองลงข้างๆหมอน

    เจ้าของนัยน์ตาสีเทาหินโมราหยิบเอาแล็ปท็อปขึ้นมาเปิดแล้ววางมันในแนวตั้ง นิ้วเรียวยาวกวาดไปตามทัชแพดอย่างหน่ายๆ

    ไม่นานเขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความระอาแล้วพับแล็ปท็อปลงพลางวางมันไว้ที่เดิม มืออีกข้างก็ควานหารีโมทเครื่องปรับอากาศที่อยู่ใกล้ๆกันมาปิด มือหนาคู่แกร่งหยัดตัวเองขึ้นนั่ง ก่อนจะลงจากเตียงตรงไปยังราวแขวนผ้าแล้วคว้าเอาผ้าขนหนูนุ่มสีขาวมาพาดบ่าก่อนจะหมุนปลายเท้าตรงไปยังห้องน้ำ

     

     

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!~~~

     

    เสียงออดบอกเวลาสวรรค์ของเหล่านักเรียนดังขึ้น และแน่นอนหนึ่งในนั้นก็มีผมด้วย

    ผมรีบลุกพรวดจากโต๊ะนักเรียนของตัวเองแล้วกวาดสิ่งของทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะใส่ลงในกระเป๋ารวดเดียว หลังจากจัดการเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปลายเท้าของผมก็รีบหมุนตรงไปยังโรงอาหารกับพวกเพื่อนๆของผมอย่างทันที โดยไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ของตัวเองติดตัวไปด้วย

    วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันที่สองของผม ที่โรงเรียนยังไม่มีอะไรพิเศษมาก งานก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ ซึ่งก็ดีแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นผมจะเอาเวลาที่ไหนไปเล่นเกมตอนเย็นกับอุซปปล่ะ

    ผมรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เพราะร้อยวันพันปีผมไม่เคยติดกระดุมเม็ดบนสุดเลย แต่มีไอบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ดันมาทำคิสมาร์กไว้ตั้งแต่ช่วงคอลงไปถึงหน้าอกเลยต้องปิดไว้น่ะสิ รอยเก่าใกล้จะหายแล้วแท้ๆ! แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ...มันก็ยังปิดไม่ค่อยมิดอยู่ดีแฮะ ในช่วงหน้าอกน่ะมันก็พอจะปิดได้อยู่หรอก แต่ช่วงลำคอนี่สิ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว! เพราะตาบ้านั่นแท้ๆ!

     ผมก้าวเข้าไปในโรงอาหารที่ผู้คนกำลังเดินสวนสนามกันยิ่งกว่าขบวนพาเหรด ถึงแม้คนจะเยอะไปหน่อยแต่โรงอาหารของโรงเรียนนี้ก็ใหญ่พอที่จะจุคนทั้งหมดได้ ที่ต้องสร้างโรงอาหารขนาดมหึมาพอๆกับตึกเรียนแต่ละตึกน่ะก็เพราะผอ.ของโรงเรียนนี้ไม่ชอบแบ่งเวลาพักหลายๆช่วงให้มันวุ่นวายน่ะสิเลยให้ทุกระดับชั้นตั้งแต่มัธยมต้นถึงมัธยมปลายให้พักพร้อมกันทีเดียวเลย แต่ก็ต้องมาลำบากต่อคิวยาวๆนี่แหละ กว่าจะได้กินข้าวจริงๆก็ปาไปเกือบ 20 นาทีแล้ว ดีนะที่ให้เวลาพักเยอะน่ะ ไม่งั้นมีหวังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกันพอดี

    “ลูฟี่ คนอื่นเขาไปที่โต๊ะหมดแล้ว นายยืนเหม่ออะไรของนายเนี่ย” อุซปปพูดพร้อมกับโบกมือไปมาใส่หน้าผม ผมสะบัดหัวเบาๆไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว ก่อนจะพยักหน้าหงึกๆตอบอีกฝ่าย อุซปปถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะที่คนอื่นๆนั่งอยู่

    ผมรีบก้าวเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะเดินตามอุซปปให้ทัน แต่เดินไปได้ไม่นานก็ต้องล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้นอย่างจัง ดูเหมือนผมจะไปชนกับอะไรเข้าสักอย่าง...อะไรที่นิ่มๆ อุ่นๆ เหมือนเนื้อหนังมังสาของมนุษย์นี่แหละ...แต่เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ

    “โอย...” เจ็บ ผมเอามือลูบก้นตัวเองปอยๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้าๆ

    “ตายแล้ว! ขอโทษค่ะพี่ไม่ทันเห็น น้องไม่เป็นอะไรนะคะ”

    ผมเดินชนผู้หญิงคนหนึ่ง ดูจากเครื่องแบบเธอน่าจะอยู่ชั้นมัธยมปลายแล้วสินะ...ใบหน้าของเธอขาวใสอย่างกับลูกซาลาเปาเนียนนุ่มน่ากัดเป็นที่สุด ริมฝีปากของเธอได้รูปแม้จะบางไปหน่อย มันถูกเคลือบด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อน นัยน์ตาของเธอเป็นสีเดียวกันกับของผม สีดำ ทว่ากลับดูสุกใสและมีเสน่ห์น่าค้นหาตรงข้ามกับของผมที่เป็นเพียงนัยน์ตาสีดำว่างเปล่าธรรมดาๆ...

    เธอใช้นิ้วเล็กๆของตัวเองทัดผมสีเข้มไว้หลังหูพร้อมกับเอื้อมมืออีกข้างมาข้างหน้าผม

    “ไม่ใช่ความผิดเธอนี่ ฉันเองก็มัวแต่เหม่อจนไม่ทันมองเห็นเธอเหมือนกัน” ผมหัวเราะพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่าย นุ่มขนาดนี้ ดูก็รู้ว่ามือของเธอคงจะได้รับการดูแลอย่างดี

    ผมสูงแค่ระดับหน้าอกเธอเท่านั้น ก็คงไม่แปลกหรอกที่เธอจะมองไม่เห็นผมน่ะ

    “งั้นฉันไปก่อนนะ บ๊าย บาย~” ผมหัวเราะและโบกมือลาเธอ เธอโบกมือเบาๆพร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้ผม ผมรีบสาวเท้าตรงไปยังโต๊ะที่เพื่อนๆของผมนั่งอยู่ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งข้างๆนามิที่กำลังคีบเบนโตะเข้าปากโดยไม่แม้แต่จะเหลียวมามองผมเลยสักนิด ใจร้ายชะมัด ชอบเมินกันอยู่เรื่อย

    ผมเบ้ปากใส่นามิ ซึ่งเธอก็ยังทำเหมือนไม่แยแส

    “ให้ตายสิ นายเนี่ยมาช้าอยู่เรื่อยเลยนะ” โซโรดุผมพลางใช้ตะเกียบในมือหนีบชิ้นเนื้อคำโตเข้าปาก ผมมุ่ยหน้าใส่โซโรโดยไม่ได้ตอบอะไร ว่าแต่เห็นคนอื่นเขากินกันแล้วผมก็ชักจะหิวขึ้นมาแล้วสิ...

    “หมู่นี้นายดูแปลกไปนะ” ซันจิอมตะเกียบไว้ในปากพลางจ้องมาที่ผมตาไม่กระพริบ “นายติดกระดุมเม็ดบนสุด? ตั้งแต่ประถมฉันไม่เคยเห็นนายติดกระดุมเม็ดบนสุดเลยสักครั้ง แต่รอบนี้ฉันเห็นนายติดตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นายไม่เป็นไรนะ?”

    “คิดมากไปแล้วน่า” แค่ติดกระดุมเม็ดบนสุดมันแปลกขนาดนั้นเลยหรอ แสดงว่าปกติผมดูเป็นคนไม่เรียบร้อยขนาดนั้นเลยใช่ไหม...

    “แล้วคอไปโดนอะไรมาอีกล่ะนั่น” โซโรถามขณะที่ยังเคี้ยวอาหารตุ่ยๆ อย่าทักได้ไหมมมมมม!!! ให้ตาย ผมรู้สึกร้อนขึ้นมาเฉยๆซะงั้น

    “ยะ..ยุงกัด ยุงกัดน่ะ” ผมรีบยกมือขึ้นลูบคอตัวเองโดยอัตโนมัติพลางหัวเราะแห้งๆให้อีกฝ่าย ดูเหมือนผมจะโกหกไม่เนียนเท่าไหร่

    ผมรีบลุกพรวดจากโต๊ะ เตรียมจะไปซื้อข้าวเพราะไม่อยากโดนซักต่อ ไม่งั้นมีหวังถูกจับได้แหงๆ ยิ่งเป็นโกหกคนไม่เก่งด้วย ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อจะหยิบเงินและ...เดี๋ยวนะ? ทำไมถึงมีแต่โทรศัพท์กับกระเป๋าเงินล่ะ จี้..จี้เส้นนั้นหายไปแล้ว

    “มะ..ไม่มี ไม่อยู่แล้ว...” ผมรีบหยิบกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ของตัวเองออกมาวางบนโต๊ะแล้วรีบล้วงมือลงไปควานหาจี้อีกครั้ง ไม่อยู่...ไม่จริงน่า หรือว่าเมื่อเช้าไม่ได้หยิบมา? ก็จำได้ว่าหยิบมาแล้วนี่ หายไปไหนนะ ต้องหล่นที่ไหนสักที่แน่ๆ มันหล่นเมื่อกี้ตอนที่ชนกับรุ่นพี่คนนั้นรึเปล่านะ? หรือว่าหล่นเมื่อเช้าตอนเตะบอล ไม่นะ...

    “เป็นอะไร ทำหน้าอย่างกับโลกแตก เงินหายอีกแล้วรึไง? ไม่สิ กระเป๋าเงินก็อยู่นี่ อะไรหายอีกล่ะ?” อุซปกอดอกพลางขมวดคิ้วมองผมด้วยความสงสัย

    “ไม่ใช่” ผมตอบเสียงแผ่ว ทำเอาทุกคนหันมาจ้องเป็นตาเดียว ให้เดาตอนนี้หน้าผมคงจะหน้าซีดเป็นศพแหงๆ แถมยังรู้สึกได้เลยว่าปากแห้งมากๆ

    “สร้อย...” ผมกระซิบกับตัวเอง “มันหายไป”

    “หา?” ทุกคนร้องขึ้นมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ผมไม่ได้พูดอะไร สัมผัสได้เพียงเม็ดเหงื่อเย็นเฉียบที่ไหลอาบตั้งแต่หน้าผากลงมาถึงคาง

    “นายพกสร้อยด้วยหรอเนี่ย!?” อุซปป

    “ลูฟี่สนใจเรื่องอื่นนอกจากเรื่องอื่นนอกจากเรื่องกินด้วยแฮะ” นามิ

    “เฮ้ยๆ อย่ามาล้อเล่นน่า” โซโร

    “ฝันแน่ๆ” ซันจิ

    ผมไม่สนใจต่อคำพูดของพวกเพื่อนๆ ปลายเท้าของผมหมุนออกมาจากตรงนั้นโดยอัตโนมัติมุ่งตรงไปยังที่ไหนสักแห่ง ผมไม่รู้เลยว่าปลายเท้าของตัวเองกำลังตรงไปที่ไหน ในหัวมีแต่เรื่องจี้ที่โทราโอะฝากไว้เท่านั้น ซาชิบอกว่าเขาไม่เคยถอดมันให้ใคร งั้นก็หมายความว่าจี้เส้นนั้นต้องมีความหมายกับเขาแน่ๆ ไม่นะ..อย่าหายนะ...

     

     

     

    “จดสูตรนี้ไว้ให้ดีๆล่ะ มันออกสอบ แล้วก็หน้าที่ 27 ตั้งแต่ข้อ 3 ถึง ข้อ 7 ต้องใช้สูตรนี้...”

    ผมได้แต่นั่งเอาหน้าแนบกับโต๊ะไม่ไหวติ่งอย่างหมดอาลัยตายอยาก ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อัดกับโต๊ะนักเรียนของตัวเองก่อนจะหันหน้าไปทางหน้าต่าง สีของท้องฟ้าและกลิ่นของฝนช่วยให้ผมสงบลงได้ในยามที่ความคิดตีกันยุ่งเหยิงไม่เป็นท่าในสมอง โชคดีที่โต๊ะของผมอยู่ติดกับริมหน้าต่างและวันนี้อากาศก็สดใสมากด้วย สีของท้องฟ้าไม่เข้มเกินไปไม่จางเกินไป กำลังดีเลย ผมหลับตาลงช้าๆ สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพ่นออกมา

    แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ...ทั้งเที่ยงนี้ผมไม่ได้กินข้าวเลย เอาแต่พลิกแผ่นดินหาไอสร้อยบ้าๆนั่น ไม่ว่าจะหายังไงก็ไม่พบ ถามภารโรงหรือแม่บ้านก็ไม่เจอ ตอนนี้เหลืออยู่ที่เดียวที่ผมยังไม่ได้ไปหาคือสนามฟุตบอล เดี๋ยวเลิกเรียนคงต้องไปหาอีกทีแล้วล่ะ

    “อ่อก!” ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะพลางยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองเบาๆ “มันเจ็บนะ” ผมมุ่ยหน้า

    “แล้วแกนอนทำไมล่ะ! นี่มันห้องเรียนนะ ไม่ใช่ห้องนอน” อาจารย์วัยกลางคนที่สอนอยู่บ่นพลางถอนหายใจออกมาด้วยความระอา เขาเดินไปหยิบชอล์กแท่งใหม่จากกล่องกระดาษเล็กๆที่วางอยู่ตรงโต๊ะทำงาน “ในเมื่อเธอไม่อยากเรียนก็ออกไปยืนนอกห้องไป”

    ผมเบ้ปากใส่พลางทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องอย่างว่าง่าย เดาว่าอาจารย์ก็คงจะแปลกใจไม่น้อยเหมือนกันที่เห็นผมทำตามอย่างว่าง่ายโดยไม่เถียงแม้แต่คำเดียว

    แต่ฝันไปเถอะ...

    ผมออกมายืนสักพัก พอมั่นใจว่าอาจารย์เผลอผมก็รีบใส่เกียร์หมาออกมาจากตรงนั้นทันที ผมอ้าปากหอบถี่ตักตวงเอาอากาศเข้าปากให้ได้มากที่สุด ขาแห้งๆก็ยังคงพาตัวผมวิ่งตรงไปยังสนามฟุตบอลข้างล่างอย่างเอาเป็เอาตายยิ่งกว่าตอนแข่งกีฬาสีอีก

    พอลากสังขารตัวเองลงมาถึงผมก็ก้มตัวลงจับเข่าทั้งสองแล้วหอบให้หายเหนื่อยสักพัก

    ผมรีบถลาตัวลงกับพื้นหญ้า มือก็คลำๆไปตามสนามหาจี้บ้าๆบอๆของโทราโอะอย่างรีบเร่งที่สุด ร้อนชะมัด วันนี้แดดแรงเป็นพิเศษเลยแฮะ ถึงจะใส่หมวกฟางอยู่ก็เถอะ แต่มันก็ช่วยแค่กันแดดไม่ให้เข้าตา ไม่ได้ช่วยกันความร้อนเลยสักนิด

    ทำไมผมถึงต้องมาตามหาจี้บ้าๆนั่นด้วยเนี่ย นึกแล้วก็โมโหตัวเองอยู่เหมือนกันที่ไม่ระวังให้มากกว่านี้และก็โมโหที่ต้องมาทำเรื่องบ้าๆแบบนี้แหละ ทำไมผมต้องมาตามหา...เอ๊ะ

    ผมยกมือขึ้นป้องใบหน้าเมื่อเห็นประกายบางอย่างบนผืนหญ้า มันทำให้ผมแสบตา ดูเหมือนแสงจะสะท้อนเข้ากับอะไรบางอย่าง..หรือว่าจะเป็นจี้เส้นนั้น! ผมรีบลุกขึ้นแล้วตรงไปปรี่ไปยังแสงนั้นอย่างมีความหวังโดยไม่แม้แต่จะปัดเศษหญ้าและเศษดินออกจากกางเกงขายาวสีดำของตัวเอง

    แต่พอวิ่งมาถึงความหวังที่เคยมีก็เหมือนถูกเททิ้งไปในพริบตา หระ..เหรียญร้อยเยน? ใครมันมาทำตกไว้แถวนี้เนี่ย...ผมเก็บเหรียญร้อยเยนเหรียญนั้นขึ้นมาดูสักพักแล้วถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวังสุดๆ

     

     

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงง!!!~~

     

    เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้นอย่างเคย ผมรีบหยิบหมวกฟางที่สะพายไว้ขึ้นมาสวมด้วยความเคยชิน ก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้วกวาด(ยัด)เอาของทุกอย่างเก็บใส่ในกระเป๋าเป้ของตัวเอง ผมกะว่าจะลองไปหาดูอีกที ตอนกลางวันผมอาจจะหาดูยังไม่ละเอียด มันอาจจะหล่นอยู่ตรงบันไดขึ้นตึกก็ได้ นั่นหมายความว่าผมต้องเดินไล่หาตั้งแต่ชั้น 5 จนลงไปถึงชั้นล่างสุด...แต่ก็เอาเถอะ ก็ผมทำหล่นเองนี่นะ

    “ลูฟี่” โซโรเรียกพร้อมกับจับไหล่ของผมเบาๆทำผมสะดุ้งเล็กน้อย “นายดูแปลกๆเหมือนที่ไอคิ้วม้วนบอกเลย นายซึมๆไปนะ ไม่สบายรึเปล่า?”

    “ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า พวกนายคิดมากไปแล้วจริงๆนะเนี่ย” ผมตอบพร้อมกับหัวเราะ เขาจ้องผมอย่างพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

    “แล้วจะรีบไปไหนเนี่ย ไม่ไปร้านเค้กที่เพิ่งเปิดใหม่หลังโรงเรียนด้วยกันหรอ?”

    “คงไปไม่ได้หรอก...พอดี..วันนี้เอสมีธุระนิดหน่อยเลยต้องรีบกลับน่ะ” ผมหัวเราะแห้งๆก่อนจะโบกมือลาโซโรแล้วฉีกยิ้มกว้างให้ “ฉันไปละนะ”

     

    “มันน่าจะอยู่แถวนี้นี่นา...” ผมกระซิบกับตัวเองเบาๆ สายตาก็กวาดไปมาตามขั้นบันได ขาก็ก้าวลงมาทีละขั้นๆ

    ทำไมถึงไม่เจอเลยนะ...หรือจะลองไปหาที่สนามฟุตบอลอีกที เมื่อตอนกลางวันผมยังหาไม่ละเอียดรึเปล่านะ? ไม่แน่มันอาจจะหล่นอยู่ในโรงอาหารแล้วถูกแม่บ้านกวาดไปทิ้งรวมกับเศษขยะแล้วก็ได้ โอ๊ย ไม่นะ ฮือออออออ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆแล้วผมจะไปหาจากไหนล่ะเนี่ย ถังขยะก็ไม่ได้มีแค่ถังเดียวในโลกด้วย พอคิดแบบนั้นก็รู้สึกโกรธตัวเองขึ้นมาจริงๆแล้ว ทำไมไม่ระวังให้มากกว่านี้นะ ทั้งๆที่ก็รู้ว่ามันสำคัญกับโทราโอะแท้ๆ

    “อ๊ะ” ผมร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อไปชนเข้ากับอะไรบางอย่างจนเสียการทรงตัวเล็กน้อย

    ผมยกมือขึ้นลูบจมูกตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง

    “อ้าว น้องที่เจอกันเมื่อกลางวันนี่” เธอฉีกยิ้มบางๆ

    “โทษทีนะ ฉันซุ่มซ่ามอีกแล้ว” ผมฉีกยิ้มพร้อมกับหัวเราะ จริงสิ บางทีเธออาจจะเจอจี้ของโทราโอะก็ได้ “นี่ เธอเห็นจี้ของ..เอ่อ...จี้รูปหัวใจไหม ที่มีเพชรสีแดงตรงกลางน่ะ”

    “หือ?” เธอเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะล้วงมือลงไปในกระเป๋ากระโปรงแล้วค้นๆอยู่สักพัก “ใช่เส้นนี้รึเปล่า?” เธอพูดพลางหยิบจี้ที่ผมตามหาแทบพลิกแผ่นดินขึ้นมาโชว์หราตรงหน้า

    ผมฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ใช่จริงๆด้วย..จี้ของโทราโอะ

    “ใช่ๆ อันนี้แหละ” ผมตอบพลางฉีกยิ้มกว้างกว่าเก่าพลางเอื้อมมือไปหยิบจี้เส้นนั้น แต่ยังไม่ทันจะได้คว้าไว้มาอีกฝ่ายก็ชักมือกลับไปเสียก่อน

    “จี้นี่ของนายหรอ?”


     
    เขาหยิบแล็ปท็อปขึ้นมาเปิดแล้ววางในแนวตั้ง นิ้วเรียวยาวกวาดไปตามทัชแพดอย่างหน่ายๆ
    เครดิตคลิ๊กที่รูปเลยจ้า^^
     

    - to be continue -

                   สวัสดีค่ะพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกท่าน;w; กลับมาอีกแล้วกับการรีไรท์ตอนที่ 10 ตอนนี้มาแปลกแนวหน่อย พอดีอะไรไม่รู้มึนๆ;_; อยู่ๆก็เขียนออกมาอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ พอมารู้ตัวอีกทีก็สายไปเสียแล้ว ถถถถว์#ผิด จริงๆก็แปลกแนวดีนะคะ ถถถว์ ลองบรรยายผ่านความรู้สึกของฟี่น้อย ปต่เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกตัวเองหน่อยนะคะ พอดีใช้ ฉัน กับผู้ชายแล้วมันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รุ้ค่ะ=w=;
                   รีดเดอร์คิดว่ายังไงกันมั่งคะ ? กับการบรรยายแบบนี้(และการที่อยู่ไรท์หน้ามืดเปลี่ยนการบรรยายเฉย ถถถ;w;) ไม่โกรธกันะคะ(._. )
                   ยังไงอ่านกันแล้วก็อย่าลืมให้กำลังใจกันด้วยนะคะ กดติดตาม กดแชร์ หรือคอมเม้นท์กันเยอะๆนะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนค่ะ^^ <3
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×