คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : สูตรเด็ดมัดใจโคแก่ ; step 6 จงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!!!
สูตรเด็ดมัดใจโคแก่
Step 6 จงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!!!
“เฮ้อ...” เป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์แล้วที่จงอินไม่ได้โผล่หน้าไปที่ร้าน Wake up café’ เนื่องด้วยคนผิวเข้มขอลาหยุดยาว 3 สัปดาห์ เพื่อมุ่งทำวิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่ใกล้จะถึงโค้งสุดท้ายเข้ามาทุกที
หรืออีกแง่... ก็เป็นการหลบหน้าพี่ชานยอลของน้องจงอินนี่เอง
“เฮ้ออออออออ” เสียงถอนหายใจยาวเหยียดดังขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน จงอินถอดหูฟังสีขาวออก หมุนปากกาในมือพลางมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง เวลาเกือบสองอาทิตย์ ไม่ทำให้งานส่วนสำคัญๆ ของเขาเดินไปมากเท่าไหร่นัก จะโทษว่าไม่มีอารมณ์ก็คงไม่สมเหตุสมผลนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันคือเรื่องจริง กำลังใจเป็นส่วนสำคัญไม่น้อยในการขับเคลื่อนให้งานเดินไปได้
ซึ่งตอนนี้จิตใจของจงอินเหี่ยวแห้งมากๆ เรียกว่า กำลังใจติดลบ
เขาคิดว่าการให้ความสนใจกับอย่างอื่น โหมทำงานหนัก จะช่วยให้ลืมความกังวล ความเวิ่นเว้อ ไร้สาระของจิตใจตัวเองได้ แต่เขารู้คำตอบแล้วว่า... ไม่
เขาพยายามข่มอารมณ์ สูดหายใจเข้าลึกๆ เสียบหูฟังเข้าอีกครั้ง และกดเพลย์ให้โปรแกรมเล่นเพลงทำหน้าที่ของมันต่อไป เสียงดนตรีที่จงอินนั่งฟังมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยรอบเริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง มันเป็นเพลงอิเล็กทรอนิกส์ที่ขึ้นต้นด้วยจังหวะป๊อป ฟังสบาย ก่อนเสียงเบสจะค่อยๆ หนัก ทุ้มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นจังหวะแบบบีบอย
จงอินปล่อยให้เพลงบรรเลงไปสักพักจนใกล้ท่อนจบ แล้วรีบกดปุ่มพอส แต่เขากดพลาด เพลงจึงไม่หยุดดังใจนึก เสียงที่เขาไม่พึงประสงค์จะได้ยินที่สุดตอนนี้จึงดังขึ้นในโสตประสาท
‘คิมจงอิน ไฟท์ติ้งงง!’
เสียงทุ้มใหญ่เป็นเอกลักษณ์ดังออกมาช่วงท้ายเพลง สำเนียงการพูดนี้ที่จงอินจำได้แม่น ใช่เลย เสียงของพี่ชานยอล จงอินยกมือขึ้นทึ้งผมตัวเองอย่างขัดใจ
แล้วจะเอาระยะที่ไหนไปทำใจ จะไปลืมได้ยังไง ในเมื่ออะไรๆ ก็มีแต่พี่ชานยอลเต็มไปหมด ในห้องก็เต็มไปด้วยโน้ตมากมายที่จงอินเขียนถึงชานยอล เพลงนี้พี่ชานยอลก็เป็นคนแต่ง ในมือถือก็มีรูปพี่ชานยอล ที่มุมหนึ่งของห้องก็มีกองอุปกรณ์ที่ได้มาจากพี่ชานยอลตอนช่วงโปรโมทร้าน กองเดโม่เทปอีกนับสิบที่ชานยอลอัดเพลงแล้วส่งมาให้เพื่อช่วยเขาทำวิทยานิพนธ์ ไหนจะกองชีทที่ซีร็อกซ์มาที่มีแต่ลายมือพี่ชานยอลเต็มไปหมด
ใจไม่แข็งพอ!
คนท่าดีทีเหลว คิมจงอิน! ไหนว่าจะลองห่างไง แล้วนี่อะไร ไอ้ดำเอ๊ย! มีแต่ของที่เกี่ยวกับพี่ชายคนนั้นเต็มไปหมด ตายแล้วฟื้นก็คงจะลืมเขาได้หรอก!!
ตึ่ง ดึง ดึ๊ง ตึ่ง ดึง ดึ๊ง
เสียงโปรแกรมแชทยอดนิยมดังขึ้นเรียกความสนใจจากคนกำลังฟุ้งซ่านอย่างจงอินได้เป็นอย่างดี วีดีโอคอลหรอ ? จงอินกดรับทันที
“ฮาย น้องนีนี่ค่ะ / หนีฮ่าวค่ะน้องไคของเจจจจจจจจจจจ๊” เสียงแหลมเล็กที่มีพลังทำลายล้างหูคนฟังดังระเบิดออกมาจนจงอินลดเสียงลำโพงโน๊ตบุคแทบไม่ทัน กลัวจริงๆ ว่าแก้วหูจะทะลุ หูแตกตายก่อนแก่
“อันนยองครับ พี่จงแด เจ๊เทา” จงอินกระแอมหนักๆ และใช้ลุคนิ่งๆ ให้สาวๆ(?)ที่ปลายสายได้ดึงสติกันหน่อย
“อุ๊ย กำลังเครียดหรอจ้ะ เจ๊ขอโทษจริงๆ เจ๊กับนังเฉิน แค่แบบ มิสยูเบเบ้มั่กๆ เลย อยากจะชวนไปเม้าท์มอยตามประสาสาวๆ” เสียงดัดจริตของเจ๊เทาเบาลงนิดหน่อย แต่ไม่ได้ฟังรื่นหูขึ้นแต่อย่างใด ยิ่งเห็นภาพเจ๊แกจีบปากจีบคอคุย พร้อมตะไบเล็บไปแล้วด้วยไซร้... จงอินอยากล้างตา..
“ใช่เลยค่ะนีนี่ มีคาเฟ่แมวเปิดใหม่ตรงหัวมุม บล็อก 3 ร้านเพื่อนชิงเก่อเอง บรรยากาศดีมาก อยากให้ไปด้วยกันจริงๆ นะคะนีนี่” เสียงงุ้งงิ้งของพี่จงแดเอ่ยสำทับอีกครั้ง พร้อมสายตาวิ้งๆ ที่คาดว่าใช้แอคแทคมัดใจสามีมาหลายครั้ง จงอินสบตาคู่นั้นอย่างไม่มั่นใจนัก พลางคิดสะระตะบวกลบคูณหารในหัววุ่นวาย
“ไม่กัดปากสิคะน้องไค ปากสวยๆ จะช้ำนะลูก สมายล์ค่ะลูกสมายล์” เสียงเจ๊เทาโวยวายทำให้จงอินต้องเลิกกัดปาก เดี๋ยวมิวายจะโดนเจ๊ด่า
คิดตรองแล้วนั่งอยู่ห้องไป งานก็ไม่เดิน เผลอๆ ฟุ้งซ่าน เสียกำลังใจ ลืมไม่ได้หนักหนากว่าเดิม
“ตกลงครับ กี่โมงครับพี่ ขอรายละเอียดสถานที่อีกรอบด้วยครับ”
สุดท้ายก็ตอบตกลงไปแล้ว...
“กรี๊ด วี๊ดว๊าย ไนซ์ค่ะไนซ์ ตายละเจ๊จะต้องรีบไปทำเล็บก่อน! อีนังเฉินไปเอาโรลม้วนผมออกได้แล้ว จะอบไอน้ำ จะอะไรให้มันเร็วๆ นังนี่!”
“ค่ะเจ๊ โอย! เบาหน่อยสิเจ๊ก็ อ้อ เดี๋ยวพี่ส่งแผนที่ไปให้นะนีนี่ บ่ายโมงตรงแล้วกัน ขอเวลาสาวๆ แต่งตัวสวยๆ แป๊บนึงค่ะ”
“อ่า.. ครับ” จงอินมองภาพความวุ่นวายแบบเรียลทามของทางปลายสายที่มีกระเทยควายร่างใหญ่วุ่นวายกับการกวาดหาสีทาเล็บจากกองยาทาเล็บกองเพนิน ที่ตัวของเจ๊เทาพอกโคลนสีประหลาดที่แห้งเกรอะกรัง ดูแล้วลำบากต่อการเคลื่อนไว โดยที่ข้างๆ เจ๊เทามีกระเทยรุ่นเล็กริมฝีปากแมวกำลังกุลีกุจอแกะโรลม้วนผมบนหัวออก ที่หน้าแมวๆ ของพี่จงแดยังคงมีทั้งคราบครีมมาส์ก แตงกวา มะเขือเทศ ผักสลัดบาร์มากมายก่ายอยู่บนใบหน้านั้น
ไม่อยากบอกว่าน่ากลัวชิบหายครับ!
“ซีย่าห์จ้ะนีนี่/ จุ๊บส์ น้องไคคคค” ทั้งภาพและเสียงมหาประลัยดับไปพร้อมกับการสนทนาที่ถูกปิดลง จงอินพรูลมหายใจออกมาช้าๆ บางทีตัวเขาก็คงต้องออกไปหาบรรยากาศใหม่ๆ เพื่อผ่อนคลายซะบ้าง
เขายิ้มกับตัวเองนิดหน่อย แล้วจึงรีบลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ชยอลลล ไคย่าล่ะ ?” แบคฮยอนเอ่ยถามสิ่งที่ตัวเองสงสัยที่สุดกับคนที่ตัวเองคิดว่ารู้ดีที่สุด เขาไม่เห็นจงอินมาอาทิตย์นึงได้แล้ว บาริสต้าที่ร้านตอนนี้มีแค่ไอ้ลู่ฮยองคนหน้าเหี่ยว ชงงงๆ สื่อสารกันเบลอๆ เท่านั้น
“อ่า ลาหยุดน่ะ เห็นว่าจะปั่นวิทยานิพนธ์ โค้งสุดท้ายแล้ว” ชานยอลตอบแล้วเงยหน้าขึ้นจากสมุดบัญชีรายรับรายจ่ายของร้าน ตาโตๆ ของคนตัวสูงกวาดมองไปรอบๆ ร้านอย่างที่ชอบทำ
รู้สึกเหมือนมันขาดอะไรบางอย่างไป
ชานยอลไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองรู้สึกคืออะไร จึงได้แต่ขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนท้องผูก บอกใครไปก็คงไม่มีใครเข้าใจ เพราแม้แต่ตัวของเขาเองก็ยังไม่เข้าใจ
เมื่อสัปดาห์ก่อนจงอินโทรมาหาเขาในช่วงหัวค่ำ เพื่อขอลาหยุดเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ด้วยเหตุผลที่ว่าจะขอไปทำธีสิสปริญญาโทของเจ้าตัว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังวันที่เขาพาคนเป็นน้องไปเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้เจ๊ยูราหน้าเลือด วันนั้นจงอินกลับไปก่อนโดยไม่บอกเขา เงยหน้าขึ้นมาก็ไม่เห็นน้องชายผิวเข้มแล้ว โทรไปก็ไม่รับโทรศัพท์ กระวนกระวายแทบตายว่าอยู่ที่ไหน กลับยังไง เป็นอะไรรึเปล่า เพราะตอนอยู่ที่ร้านพี่ซอนมก็ดูเหม่อๆ เหมือนจะไม่สบาย วันที่จงอินโทรมาลางานชานยอลจึงได้โอกาสถามถึงเหตุการณ์วันนั้น ซึ่งก็ได้คำตอบมาว่า
‘ไม่ได้เป็นอะไรครับ แค่รู้สึกพะอืดพะอม อยากนอนพัก ขอโทษพี่ชานยอลด้วย ที่เสียมารยาทกลับมาก่อน’
เด็กหนอเด็ก จะมามั่วเกรงใจอะไรอีก ทั้งๆ ที่ชานยอลคิดว่าเขากับจงอินสนิทกันมากแท้ๆ แต่หลังจากวันนั้นชานยอลก็ติดต่อจงอินไมได้อีก ซึ่งคนตัวสูงได้แต่เออออไปเองว่าคนน้องคงกำลังตั้งใจทำงาน
แต่อย่างไรเสียคนตัวสูง หูกาง ตาโต ยังคงคิดไม่ตกเรื่องนี้ ใบหน้าหล่อเหลานิ่วลงจนอีกสามชีวิตของพนักงานสัมผัสได้ ทั้งแบคฮยอน คยองซู และลู่หานต่างสงสัยว่าชานยอลเป็นอะไร โดยเฉพาะแบคฮยอนที่ไปสัมมนาต่างจังวัดมาหนึ่งอาทิตย์แล้วกลับมาทำงานที่ร้านแล้วไม่เจอจงอิน จึงได้เอ่ยถามเขาไปเมื่อครู่
“เครียดไรวะ อ่ะ มอคค่าร้อน ที่มึงชอบ” แบคฮยอนวางแก้วมัคใบเตี้ยลงตรงเคาท์เตอร์ด้านหน้าเพื่อนสนิท ชานยอลมองเครื่องดื่มกลิ่นหอมกรุ่นที่ตรงคุ้นเคยครู่หนึ่ง ก่อนจะยกขึ้นดื่มช้าๆ
“เป็นอะไรอีกล่ะ” แบคฮยอนขมวดคิ้วถาม เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักมีสีหน้าย่ำแย่กว่าเดิมหลังจากดื่มกาแฟแก้วดังกล่าวเสร็จ
“ใครเป็นคนชงกาแฟนี่ ?”
“เอ้า มึงจะบ้าหรอ กูชงมั้งไอ้ควาย ลู่ฮยองสิ บาริสต้ามีกี่คน”
เดี๋ยวนะ...
ชานยอลเม้มปากอย่างใช้ความคิด ก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ ตั้งแต่ศึกษาเรื่องกาแฟมา จนเปิดร้านกาแฟเป็นล่ำเป็นสันเขาก็ไม่เคยดื่มกาแฟแบบอื่นอีกนอกจากมอคค่า ต้องเป็นมอคค่าร้อนเสียด้วย โดยคนชงคือคิมจงอิน ใช่แล้ว! กาแฟฝีมือจงอิน
“อ่า งั้นหรอ อย่างงี้นี่เอง” ชานยอลเอ่ยรับคำแบคฮยอนอย่างขอไปที
รสชาติมันไม่เหมือนกัน ชานยอลรู้สึกได้ เขาข่มความสงสัยทั้งหมดไว้ภายในใจแล้วก้มลงทำงานต่อ เปลี่ยนอารมณ์ไวเสียจนบยอนแบคฮยอนเพื่อนยากตามไม่ทัน อยู่ๆ ก็หน้าเครียด อยู่ๆ อยากจะถามก็ถาม แล้วก็ก้มลงไปทำงานต่อไม่พูดอะไรสักคำ
เมนส์มึงมาไม่ตรงรึไงวะไอ้ชยอล - -
มือใหญ่ๆ ยกขึ้นผลักหัวของไอ้เพื่อนที่ไม่ต่างอะไรจากลูกหมาแรงๆ เป็นการหยอกเย้า เพราะได้ยินว่าแบคฮยอนบ่นตนเสียงไม่เบานัก
ครั้งหน้าเราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง คิมจงอิน
จงอินยืนอยู่หน้าร้านคาเฟ่แมวสีหวาน เขาชำเลืองซ้ายแลขวาอย่างไม่มั่นใจ สลับกับก้มลงมองตัวเองหัวจรดเท้า นั่นยิ่งทำให้หมดความมั่นใจที่จะเดินเข้าไปด้านในไปกันใหญ่
สุดท้ายคนขี้อายก็ตัดสินใจหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นโทรหาสาวๆ ที่นัดเขามาที่นี่ รอเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ เสียงวี้ดว้ายดังกระหึ่มลอดเข้ามาในสาย อนึ่งว่าการนัดพบกันวันนี้เป็นปาร์ตี้รวมตัวของแก๊งสาวประเภทสองเรือนแสน... ทั้งที่ความจริงแล้วมีเพียง 2 คน รวมเขาที่เป็นผู้ชายอีก 1 เท่านั้น
“ถึงรึยังค่ะนีนี่ อ้ะ! นั่นไง พวกพี่อยู่ด้านบนค่ะ ชั้นสอง เงยหน้าขึ้นมาซิคนดี นั่นล่ะ” เสียงพี่จงแดที่ว่าดูดี๊ด๊าแล้ว ภาพตรงหน้าคือสาวประเภทสองสองคนที่มองผ่านบานกระจกใสลงมากำลังวี๊ดว๊ายกระตู้วู้กัน โบกไม้โบกมือให้เขาเป็นพัลวัน
“ค.. คือ ผมไม่กล้าเข้าไปน่ะครับ” จงอินยิ้มแหยๆ ให้พี่สองคน ก่อนจะได้ยินเสียงเจ๊เทาแหวลั่น
“น้องคิมไค หนูน่ารักใสใส ขนาดนี้ มั่นใจสิคะ เชิ่ดหน้าไว้สิลูก ชะนีมองใช่ไหม เชิ่ดใส่มันเลยค่ะ!” บางทีจงอินก็อยากจะบอกเจ๊เทาว่าแบบ คือ จงอินไม่ได้ชอบผู้ชาย เขาแค่ชอบพี่ชานยอลเท่านั้น ไม่ได้ตั้งตัวเป็นอีกเพศแบบเจ๊สองคนเสียหน่อย =__=
“หรือว่าจะให้พี่ลงไปรับจ้ะ” เสียงมุ้งมิ้งของพี่จงแดดังขึ้นยิ่งทำเอาจงอินตาแทบถลนออกจากเบ้า อย่าลงมาเลยครับ... ด้วยความเคารพ
สุดท้ายจงอินก็กลั้นใจผลักประตูเข้าไป เดินผ่านกองขนกลมๆ หลายก้อนที่เดินนวยนาดกันเต็มคาเฟ่ คาเฟ่แห่งนี้ตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทลสดใส บรรยากาศให้ความรู้มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งแบบเด็กผู้หญิง แมวหลากหลายพันธุ์ถูกรวบรวมไว้ เขาขยับยิ้มเล็กน้อย ถึงเขาจะไม่ถูกโรคกับแมวนัก เพราะชอบหมามากกว่า แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาเกลียดมันเสียหน่อย เจ้าพวกตัวนิ่ม ขนฟู ขี้อ้อนพวกนี้น่ะ
กว่าจะเดินขึ้นถึงโซนชั้นบนได้ก็กินเวลาไปร่วม 10 นาที เพราะพวกแมวขี้อ้อนได้แต่เดินเคล้าแข้งเคล้าขาออดอ้อนจนจงอินอดไม่ได้ที่ต้องนั่งเล่นด้วยอยู่นานสองนาน เขาส่งยิ้มแห้งให้อาเจ๊ที่รักที่นั่งรออยู่ทั้ง 2 คน ก่อนจะเลือกนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม
“เป็นไงบ้างเนี่ยคิมไค เมื่อวันก่อนเจ๊ไปที่ร้านก็ไม่ยักกะเจอหนู หายหน้าหายตาไปเลย ไม่ติดต่อมาบ้างเลยเจ๊แบบว่าน้อยใจนะจ๊ะ” เสียงที่ถูกดัดจนแหลมเล็กของเจ๊เทาเอ่ยตัดพ้อร้อนถึงจนอินต้องรีบกล่าวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ และได้สายตากระเง้ากระงอดของคนเป็นเทยตอบกลับมาแทน
“แล้วเป็นยังไงบ้างคะนีนี่ เรื่องสูตรมัดใจพ่อโกลเด้นรีทิฟเวอร์ไปถึงไหนแล้ว” เรื่องที่พี่จงแดถามขึ้นมาทำเอาจงอินสะอึก และนิ่งไป
“คือผม... ผมไม่รู้ครับพี่ มัน ..ไม่รู้สิ พี่ชานยอลคงไม่ได้ชอบผม..” และสุดท้ายจงอินก็หลุดระบายความในใจและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เจ๊ทั้งสองฟังแบบเอชดี
‘ปึง’
“นี่น้องไค! เจ๊จะบอกอะไรไว้เลยนะคะ ว่าเราห้ามคิดแบบนี้ มันบั่นทอนตัวเองนะคะลูก! ที่สำคัญหนูก็ใช่ว่าจะไม่มีหวัง เรื่องของหนู มันมีหวังมากกว่าสมัยเจ๊จีบพี่หลิวเต้อหัวอีกค่ะ เจ๊พูดเลย!” เจ๊เทาตบโต๊ะอย่างแรง โชคดีที่ชั้นสองไม่มีใครใช้บริการนอกจากพวกเขา เจ๊เทาเลยใส่ฟีลลิ่งได้เต็มที่
“พี่เห็นด้วยกับเจ๊เทานะนีนี่ หนีมาแบบนี้เห็นไม่สมค่ะ” พี่จงแดส่ายหน้าช้าๆ ดูท่าทางกำลังใช้ความคิด
“นีนี่ได้เอาบันทึกสูตรมัดใจโคมาไหมคะ ขอพี่เฉินเฉินดูหน่อย ว่าหนูทำถึงขั้นตอนไหนแล้ว” จงอินส่งบันทึกเล่มเดิม และเล่มเดียวที่เป็นต้นเหตุของฟิคทั้งหมดให้กับจงแด สองกระเทยเริ่มสุมหัวกันไล่อ่านบันทึกอย่างขะมักเขม้น และสิ้นสุดการอ่านลงที่หน้าสุดท้ายที่จงอินติดโพสต์อิทสีส้มสดใสคั่นไว้
“คิมไค๊!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! นี่หนูเดินทางมาถึงขั้นที่ 6 แล้วนี่ลูกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เสียงสูงทำลายล้าง ทั้งยังดังระดับทำลายเยื่อแก้วหูทารกแรกเกิด แผดดังลั่น จนจงอินกับจงแดต้องเอามือปิดหูไว้ เจ๊เทายิ้มกริ่ม ก่อนจะหันมาส่งสายตาวิบวับให้กับเขา
“อ่านสเต็ปที่ 6 ให้เจ๊ฟังหน่อยสิจ๊ะ คนดี” น้ำเสียงหวานเชื่อมน่ากลัวของกระเทย ทำเอาขนที่คอของจงอินลุกซู่พร้อมเพรียงกัน
สูตรเด็ดมัดใจโคแก่
Step 6 จงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!!!
สเต็ปนี้ไม่มีไรมาก แค่ทำตามคำบอกเป๊ะๆ อดทนใจแข็งหน่อยนะจ้ะ เราสำคัญกับเค้าแค่ไหน แล้วจะได้รู้กัน!!!!! หญ้าอ่อนทั้งหลาย ผลลัพธ์มันคุ้มค่าและหวานหอมมากค่ะ เจ๊เฟิร์ม!
ทริคเบาๆ จากเจ๊เทาคิ้วตี้ ระหว่างที่หายไปนี่ ก็ไปทำสวย เชิ่ดๆ เริ่ดๆ รอไว้ได้เลยค่ะหนู รอราชรถมาเกย รอเจ้าชายถือรองเท้าแก้วให้มาติดกับ ซินเดอเรลล่าก็คือหนูไม่ผิดแน่จ้ะ มาถึงขั้นนี้แล้ว โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“อิหนูเฉินเฉิน... แนะนำน้องหน่อย ว่าไปลูก” เจ๊เทายิ้มพรายและฉีกยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะประหลาด
“ไปทำเล็บรอกันเลยดีกว่าจ้ะหนูนีนี่ พี่คอนเฟิร์มอีกแรง!”
บางทีจงอินก็สงสัย ว่าพวกเจ๊เขาไปเอาความมั่นหน้าใจ มาจากไหนกันนักวะครับ ? =__=
mr.may
กรี๊ดดด จะเอามาลงวันเกิด ไม่ทัน พฮือออ
วันที่ 17 เมษา วันเกิดเมย์เองค่า เลยรีบปั่นฟิคมาเสิร์ฟเลย
แต่ดันได้มาลงวันที่ 18 เดือดแท้ 555
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตาม ที่ยังไม่ลืมนะคะ
ฟิคเรื่องนี้ใกล้จะจบแล้ว เหลืออีกแค่ไม่กี่ข้อ มาดูกันว่านีนี่ของพี่ชานจะทำสำเร็จไหมมม
ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนนะคะ ร่วมสกรีมกันได้นะ แท็กมันขึ้นด้วยอ่ะ เป็นปลื้ม T^T
#ฟิคโคแก่
ปล. ทวิตเมย์ @mrmmay ฟอลกันได้เน้อ
ไม่ค่อยได้เข้าเลย งานยุ่งมว๊ากกกก แต่จะพยายามเข้าไปนะคะ ทักทายกันได้ เลิฟทุกคนจังเลย <3
ความคิดเห็น